"ส่วนอีกสี่คนที่อยู่บนเขา พวกมันเป็นเพียงแค่ขยะสังคม พวกเราห้ามปล่อยพวกมันไปง่าย ๆ เด็ดขาด!"ฉินหมิงแบ่งแยกบุญคุณความแค้นชัดเจนเสมอมา ถึงแม้ว่าเฉียนเป้าจะทำร้ายเขา แต่เฉียนเป้าก็รู้จักผิดชอบชั่วดีมากกว่าทั้งสองฝ่ายเพียงแค่มีฐานะต่างกัน เขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสังหารเฉียนเป้าในทางตรงกันข้าม ชายสวมต่างหูทั้งสี่คนกลับไม่มีหลักการและไม่เห็นแก่ส่วนรวมเลยสักนิด วันข้างหน้าคนแบบนั้นย่อมต้องเป็นตัวหายนะแน่ ๆ จึงต้องลงโทษให้หนัก!"เอาล่ะ ฉันจะเชื่อฟังนายก็แล้วกัน..."หลินหว่านชิงพยักหน้า เพราะเชื่อมั่นในตัวฉินหมิง"ขอบคุณครับ คุณฉิน ผมเฉียนเป้าย่อมจดจำบุญคุณของคุณในวันนี้เอาไว้อย่างแน่นอน""วันหน้าขอเพียงคุณมีคำสั่งอะไรก็ช่าง ต่อให้ต้องบุกเขาดาบทะเลเพลิง ผมเฉียนเป้าก็จะไม่ลังเล!"เฉียนเป้าตื่นเต้นเสียจนหลั่งน้ำตาออกมาพลางคุกเข่าโขกศีรษะให้ฉินหมิงด้วยความเคารพนบนอบคราวนี้เขาแทงฉินหมิง แต่ฉินหมิงกลับไม่สนใจความแค้นที่ผ่านมา มิหนำซ้ำกลับเป็นฝ่ายขอร้องแทนเขาอีกต่างหากความใจกว้างและเอื้ออารีที่ฉินหมิงแสดงออกมาทำให้เขารู้สึกประทับใจอย่างลึกล้ำ ทั้งยังรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยกว่าอีกฝ่
แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือหลังจากฉินหมิงบาดเจ็บได้ไม่นาน บาดแผลก็ตกสะเก็ดและดูเหมือนว่าจะดีขึ้นมาก"ฉินหมิง แผลบนแผ่นหลังของนายตกสะเก็ดหมดแล้ว ความรวดเร็วในการฟื้นตัวของนายไวเกินไปแล้ว!"หลินหว่านชิงรู้สึกประหลาดใจมากเธอจำได้ชัดว่าตอนแรกฉินหมิงบาดเจ็บตรงหน้าอกระหว่างที่พยายามจะช่วยชีวิตเธอ ผ่านไปเพียงแค่วันเดียว บาดแผลก็สมานจนตกสะเก็ดโดยแทบจะไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เอาไว้เลยไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้ได้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ!"บางทีอาจเป็นเพราะสมรรถภาพทางกายของผมดีขึ้นก็ได้ เลยทำให้ผมฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนอื่น..."ฉินหมิงพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ไม่นานเขาก็ตระหนักได้ว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะพลังภายในก็เป็นได้"อืม ก็เป็นไปได้นะ"หลินหว่านชิงพยักหน้าแล้วไม่เก็บมาใส่ใจอีกจากนั้นเธอก็ยื่นมืออันประณีตบอบบางดุจหยกออกมา แล้วค่อย ๆ ขยับไปมาแล้วรีบทายารักษาแผลลงบนแผ่นหลังของฉินหมิงสิ่งนี้จะช่วยให้ฉินหมิงฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้มากกว่า…เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากได้นอนพักผ่อนสักคืนหนึ่ง อาการบาดเจ็บตรงแผ่นหลังของฉินหมิงก็เกือบจะหายสนิทแล้วอาการบาดเจ็บที่เท้าของหลินหว
เสื้อผ้าชุดนี้ล้ำสมัยมากทีเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เสื้อผ้าแบรนด์หรูราคาแพงระยับ แต่ก็เหมาะกับท่าทางมีเสน่ห์ของเธอมาก ทั้งยังทำให้เธอดูทั้งชาญฉลาดและน่าหลงใหลอีกต่างหากนี่เป็นครั้งแรกที่ฉินหมิงได้เห็นความงามที่แท้จริงของเฉินถิงถิงในแง่มุมของเรือนร่าง เฉินถิงถิงอาจจะไม่มีเสน่ห์ร้อนแรงเท่ากับหลินหว่านชิงกับหานซีแต่ในแง่มุมของรูปลักษณ์ภายนอกและความงาม เธอเกือบจะเทียบได้กับหานซี ดังนั้นเธอย่อมเป็นยอดสาวงามอย่างแน่นอน!"ฉินหมิง คะ...คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?"เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาเร่าร้อนของฉินหมิง เฉินถิงถิงก็หน้าแดงใจเต้นรัวแล้วก้มหน้าไม่กล้าสบตาของฉินหมิงอีกนับตั้งแต่ฉินหมิงช่วยเธอไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอก็เริ่มชอบพอฉินหมิงที่ทั้งสูงใหญ่และหล่อเหลาเข้าโดยไม่ทันรู้ตัววันนี้นับเป็นโอกาสอันหาได้ยากที่ฉินหมิงจะมาเยือนในฐานะแขก ดังนั้นเธอจึงตั้งใจแต่งตัวเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อทิ้งความประทับใจดี ๆ ให้แก่ฉินหมิงจากท่าทีตอบสนองของฉินหมิง เธอก็รู้แล้วว่าความคิดของตนเองไม่สูญเปล่าและรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก"เปล่าหรอก......"เมื่อฉินหมิงได้สติก็ยิ้มกระอักกระอ่วนแล้วรีบถอนสายตาหยาบโลนอ
เมื่อเห็นเฉินถิงถิงกับฉินหมิงค่อย ๆ ลับตาไป เทียนปั๋วก็กำหมัดแน่นพร้อมแววตาเกลียดชัง"ไอ้หนู สวรรค์มีทางกลับไม่ไป นรกไร้ทางกลับบุกเข้ามา!""ในเมื่อแกมารนหาที่ตายถึงที่นี่เอง งั้นฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้ก็แล้วกัน!"เทียนปั๋วสีหน้าถมึงทึงพลางควักโทรศัพท์มือถือออกมาโทร…ตรงระเบียงทางเดินเฉินถิงถิงกับฉินหมิงเดินเคียงกันไป"ฉินหมิง เทียนปั๋วเป็นคนจิตใจคับแคบที่จ้องจะหาทางแก้แค้นอยู่ตลอดเวลา""ฉันเคยได้ยินมาว่ามันมีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลในสังคมด้วย""ตอนนี้มันมีความแค้นกับคุณแล้ว วันหน้าเมื่อคุณเจอมันเข้าก็ระวังตัวด้วยนะ"เฉินถิงถิงเตือนด้วยสีหน้าเป็นกังวลครอบครัวของเธอกับครอบครัวของเทียนปั๋วเป็นเพื่อนบ้านเก่าแก่ ทั้งสองครอบครัวเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เธอจึงพอล่วงรู้สถานการณ์ในครอบครัวของเทียนปั๋วอยู่บ้างแต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ครอบครัวของเทียนปั๋วมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาจึงซื้อบ้านสองหลังเอาไว้ในตัวเมืองและแทบจะไม่ได้กลับมาที่บ้านเก่าเลยเธอไม่คาดคิดเลยว่าวันนี้จะมาเจอเทียนปั๋วเข้าโดยกะทันหัน"เอาล่ะ ผมเข้าใจแล้ว"ฉินหมิงตอบตกลงไปเรื่อยเปื่อยโด
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ฉากนี้เข้า หลี่ฉินก็แววตาวูบไหวอยู่สองสามครั้งราวกับเธอเข้าใจอะไรสักอย่างขึ้นมาแล้วผุดรอยยิ้มตรงมุมปาก"เสี่ยวฉิน ป้ามีเรื่องอยากจะถามเธอสักหน่อย แต่ไม่แน่ใจว่าเธอสะดวกที่จะตอบหรือเปล่า"หลี่ฉินถามอย่างค่อนข้างแบ่งรับแบ่งสู้"มีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ?""ป้าหลี่ เชิญถามมาได้เลย"ฉินหมิงยิ้มให้"เธอก็ดูเหมือนจะอายุไม่น้อยแล้ว ป้าอยากรู้ว่าตอนนี้เธอมีแฟนแล้วหรือยัง?"หลี่ฉินถามด้วยท่าทางคร่ำเคร่งและสีหน้าลุ่มลึกแม่กับลูกสาวสื่อใจถึงกันได้ หลังจากได้ยินคำถามของแม่ตนเอง เฉินถิงถิงก็คาดเดาเจตนาของแม่ได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้างดงามกว่าครึ่งของเธอเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เธอก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาแม่ของตัวเอง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องสบตากับฉินหมิงเลย"ยังไม่มีหรอกครับ......"ฉินหมิงส่ายหน้าแล้วหยุดพูดถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีแฟน แต่ก็เพิ่งหย่าร้างมาไม่นานนี้เองทว่าอย่างไรเสียการหย่าร้างก็ไม่ใช่เรื่องสวยงามอะไร ในเมื่อหลี่ฉินไม่ได้ถามถึงเรื่องนั้น เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมาก"ป้าไม่คาดคิดเลยว่าเธอที่ยอดเยี่ยมและนิสัยดีออกขนาดนั้น กลับยังไม่มีแฟนเลย!"หลี่ฉินรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง
นอกประตู มีสาวสวยอายุราว ๆ ยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีเดินเข้ามาพร้อมชายหนุ่มสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอ"ญาติผู้พี่ พี่เขย พวกพี่มาที่นี่กันทำไมเหรอ?"เฉินถิงถิงรู้สึกประหลาดใจหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอคือลูกสาวของน้าชาย หลี่หยวนหยวนญาติผู้พี่ของเธอชายหนุ่มที่ตามหลี่หยวนหยวนมาด้วยคือ อู๋เทาพี่เขยของเธอพ่อของเฉินถิงถิงหนีออกจากบ้านแล้วหายตัวไปตั้งแต่เธอยังเด็ก เป็นแม่ของเธอที่ต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูสองพี่น้องให้เติบโตขึ้นมาตามลำพังระหว่างนี้เอง น้าชายรวมทั้งหลี่หยวนหยวนญาติผู้พี่ของเธอกับญาติบางคนก็ช่วยเหลือครอบครัวของพวกเธอเอาไว้มากนอกเหนือไปจากนั้น เธอกับหลี่หยวนหยวนก็เติบโตขึ้นมาด้วยกันและพวกเธอก็สนิทสนมกันมากด้วยคราวนี้แม่ของเธอป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ดังนั้นเธอจึงขอยืมเงินหลายแสนบาทจากหลี่หยวนหยวนญาติผู้พี่ของตนเองทั้งน้าชายและหลี่หยวนหยวนญาติผู้พี่ของเธอต่างช่วยเหลือครอบครัวของเธอกันอย่างสุดความสามารถ ครอบครัวของพวกเธอรู้สึกซาบซึ้งใจมาโดยตลอด"ถิงถิง ฉันได้ยินว่าคุณป้าออกจากโรงพยาบาลแล้ว พอดีวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ พี่เขยของเธอกับฉันไม่ต้องไปทำงาน พวกเราก็เลยหาเวลามาเย
เฉินถิงถิงหน้าตาสวยจัดแถมตอนนี้ยังตั้งใจแต่งเนื้อแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ประกอบกับท่าทางบริสุทธิ์ไร้ราคีทำให้เธองดงามเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนงามพิสุทธิ์เช่นนั้นมาก่อนเลยนับตั้งแต่ชั่ววินาทีแรกที่เขาได้เห็นเฉินถิงถิง เขาก็รู้สึกตกตะลึงและพึงพอใจที่เฉินถิงถิงเป็นดั่งที่เขาต้องการ"คุณหลิว คุณชมเกินไปแล้วค่ะ..."เฉินถิงถิงยิ้มอ่อนโยนและดูขัดเขินอยู่บ้างเธอเพิ่งจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัย เธอจึงคิดว่าตัวเองยังเด็กมากและไม่จำเป็นต้องไปนัดบอดในตอนนี้แต่อย่างไรเสียหลี่หยวนหยวนก็มีเจตนาดี ถ้าเป็นยามปกติเธอก็คงจะไว้หน้าญาติผู้พี่ของตัวเองและเสแสร้งแกล้งทำอยู่บ้างแต่สถานการณ์ในวันนี้ออกจะพิเศษอยู่สักหน่อย ครอบครัวของพวกเธอกำลังจัดงานเลี้ยงให้แก่ฉินหมิง เพราะอยากจะขอบคุณในน้ำใจของฉินหมิงตอนนี้จู่ ๆ ญาติผู้พี่ของเธอก็เข้ามาเจ้ากี้เจ้าการนัดบอด เธอคงไม่สามารถทิ้งฉินหมิงไปนัดบอดกับคนอื่นได้หรอกมั้ง?ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็มีใจให้ฉินหมิงและไม่อยากนัดบอดต่อหน้าฉินหมิงด้วย"หยวนหยวน อู๋เทา พวกเธอนี่เอง!""พวกเธอกินข้าวมาหรือยังล่ะ? อยากเข้ามากินอะไรด้วยกันหน่อยไหม?"
ตอนนี้เธอบอกเรื่องนี้ให้หลี่หยวนหยวนได้รู้แล้ว เธอก็ทำได้แค่แบ่งรับแบ่งสู้เท่านั้น เช่นนี้หลี่หยวนหยวนก็จัดการเรื่องนัดบอดให้เฉินถิงถิงไม่ได้และหลีกเลี่ยงความกระอักกระอ่วนของทุกคนได้อีกด้วย"จะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน!""คุณป้าคะ ฉินหมิงคนนี้เป็นขี้แพ้ตัวเอ้ แถมมันยังเป็นผู้ชายที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้วด้วย มันจะคู่ควรกับถิงถิงได้ยังไงกัน!""คุณป้าคงจะถูกมันหลอกเข้าแล้วใช่ไหมคะ?"หลี่หยวนหยวนรู้สึกตื่นตกใจมากเสียจนปากอ้าตาค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ"อะไรนะ?""ขี้แพ้? เธอเคยหย่ามาแล้วงั้นเหรอ?""หยวนหยวน เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"หลี่ฉินผงะอึ้งแล้วมองหลี่หยวนหยวนด้วยสีหน้าสับสน เพราะสงสัยถึงสาเหตุที่ทำให้หลี่หยวนหยวนพูดแบบนี้"หนูไม่ได้เข้าใจผิดหรอกค่ะ!""คุณป้าคะ คุณป้าอาจจะไม่รู้ว่ามันเคยเป็นเขยตระกูลหม่า เมื่อไม่นานมานี้มันถูกหม่าลู่สวมเขาแล้วไล่ออกจากบ้าน..."หลี่หยวนหยวนอธิบายสถานการณ์พอสังเขปเธอยังคงทำงานอยู่ในบริษัทของตระกูลหม่า เธอจึงพอจะทราบเรื่องราวภายในเกี่ยวกับการหย่าร้างของฉินหมิงกับหม่าลู่มาบ้าง อีกทั้งเธอยังรู้ว่าฉินหมิงถูกหม่าลู่ขับไล่อีกด้วย!ไอ้ขี้
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ