ตอนนี้เธอบอกเรื่องนี้ให้หลี่หยวนหยวนได้รู้แล้ว เธอก็ทำได้แค่แบ่งรับแบ่งสู้เท่านั้น เช่นนี้หลี่หยวนหยวนก็จัดการเรื่องนัดบอดให้เฉินถิงถิงไม่ได้และหลีกเลี่ยงความกระอักกระอ่วนของทุกคนได้อีกด้วย"จะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน!""คุณป้าคะ ฉินหมิงคนนี้เป็นขี้แพ้ตัวเอ้ แถมมันยังเป็นผู้ชายที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้วด้วย มันจะคู่ควรกับถิงถิงได้ยังไงกัน!""คุณป้าคงจะถูกมันหลอกเข้าแล้วใช่ไหมคะ?"หลี่หยวนหยวนรู้สึกตื่นตกใจมากเสียจนปากอ้าตาค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ"อะไรนะ?""ขี้แพ้? เธอเคยหย่ามาแล้วงั้นเหรอ?""หยวนหยวน เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"หลี่ฉินผงะอึ้งแล้วมองหลี่หยวนหยวนด้วยสีหน้าสับสน เพราะสงสัยถึงสาเหตุที่ทำให้หลี่หยวนหยวนพูดแบบนี้"หนูไม่ได้เข้าใจผิดหรอกค่ะ!""คุณป้าคะ คุณป้าอาจจะไม่รู้ว่ามันเคยเป็นเขยตระกูลหม่า เมื่อไม่นานมานี้มันถูกหม่าลู่สวมเขาแล้วไล่ออกจากบ้าน..."หลี่หยวนหยวนอธิบายสถานการณ์พอสังเขปเธอยังคงทำงานอยู่ในบริษัทของตระกูลหม่า เธอจึงพอจะทราบเรื่องราวภายในเกี่ยวกับการหย่าร้างของฉินหมิงกับหม่าลู่มาบ้าง อีกทั้งเธอยังรู้ว่าฉินหมิงถูกหม่าลู่ขับไล่อีกด้วย!ไอ้ขี้
"เอาล่ะ เอาล่ะเลิกแก้ตัวได้แล้วน่า!""พวกเราล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายกันทั้งนั้น ฉันยังไม่เข้าใจว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่!""ฉันขอบอกขี้แพ้อย่างแกว่าควรจะเลิกเพ้อฝันเรื่องคางคกริอ่านจะกินเนื้อหงส์ได้แล้ว!""แกมันไม่คู่ควรหรอก!"หลิวซวินยิ้มเยาะเฉินถิงถิงแลดูงามพิสุทธิ์ถึงขนาดนั้น ชายใดก็คงอดไม่ได้ที่จะจิตใจหวั่นไหว เขาไม่เชื่อหรอกว่าฉินหมิงจะไม่มีความคิดชั่วร้ายกับเฉินถิงถิงเขาจะต้องหาทางตัดไฟเสียแต่ต้นลม!"คุณพูดไม่ผิดหรอก ผมเป็นคางคก แต่ผมเกรงว่าคุณเองก็ยังไม่ดีเท่าคางคกเสียด้วยซ้ำไป!"ฉินหมิงสีหน้าหม่นคล้ำ เพราะรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทางโอหังของหลิวซวิน"ไอ้หนู แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงได้มาพูดกับฉันแบบนี้!""แกเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วใช่ไหม?"หลิวซวินโกรธจัดพลางจ้องฉินหมิงตาเขม็งถ้าเขาไม่ติดที่ว่าอยากจะสร้างความประทับใจดี ๆ ให้แก่เฉินถิงถิงล่ะก็ เขาคงพุ่งเข้าไปสั่งสอนฉินหมิงแล้ว!"ฉินหมิง หุบปากไปซะ!""เศษสวะอย่างแกจะมาเทียบกับคุณหลิวได้ยังไงกัน? เขาโดดเด่นกว่าแกทุกด้านเป็นร้อย ๆ เท่า!"หลี่หยวนหยวนตะคอกด้วยความโมโหจัดแล้วรีบบอกกับหลี่ฉินว่า "คุณป้าคะ หนูไม่รู
เมื่อเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น เทียนปั๋วพร้อมชายหนุ่มท่าทางดุดันแกร่งกล้าอีกเจ็ดแปดคนก็เดินเข้ามาจากทางด้านข้างคนที่เดินนำหน้าเป็นชายหนุ่มในวัยสามสิบต้น ๆ ที่มีรอยสักตรงแขนและลำคอ เขามีกลิ่นอายบ้าระห่ำยิ่งนัก เห็นได้ชัดในปราดเดียวเลยว่าเขาเป็นผู้มีอุปนิสัยโหดเหี้ยมที่ใช่ว่าใครจะเข้าไปยุ่งด้วยได้ง่าย ๆเขาคือหยางซู่ญาติผู้พี่ของเทียนปั๋ว"เทียนปั๋ว แกมาทำอะไรที่นี่!"ใบหน้าสวย ๆ ของเฉินถิงถิงเปลี่ยนสีไปบ้างหลี่ฉินกับเฉินฮ่าวแม่ลูกก็หน้าเปลี่ยนสีเช่นกันแม้แต่หลี่หยวนหยวนกับอู๋เทาก็รู้สึกตื่นตกใจกับร่างกายบึกบึนและกลิ่นอายบ้าระห่ำของฝ่ายตรงข้าม"เธอพูดอะไรน่ะ?""แน่นอนว่าฉันย่อมต้องมาแก้แค้นไอ้เด็กฉินหมิงคนนั้นน่ะสิ ไม่งั้นฉันยังจะทำอะไรได้อีกเล่า?"เทียนปั๋วยิ้มเย็นชา"เทียนปั๋ว ยังไงซะพวกเราสองครอบครัวก็เป็นเพื่อนบ้านกันมาหลายปี ธะ...เธอต้องการอะไรกันแน่?"หลี่ฉินเอ่ยเสียงลุ่มลึกพร้อมหน้าตาเหยเก"ป้าหลี่ ในเมื่อป้าแก่แล้ว ผมจะบอกอะไรสักอย่างตามตรงก็แล้วกัน !""คราวนี้ผมถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าฉินหมิงจะเป็นตัวการ แต่ทั้งครอบครัวของป้าก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างไม่อาจห
หยางซู่ผงกศีรษะ สีหน้าของเขากลับเคร่งขรึมมากขึ้น"ในเมื่อพวกแกเคยได้ยินชื่อคุณพ่อของฉัน ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!"หลิวซวินแค่นเสียงเย็นชาและแสดงท่าทีน่าเกรงขามออกมา"ญาติผู้พี่ เรื่องนี้..."เทียนปั๋วสีหน้าเขียวคล้ำเพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีเดิมทีคราวนี้เขามีแผนการใหญ่ แต่ไม่นึกฝันเลยว่าหลิวซวินจะโผล่ขึ้นมากลางทางเสียได้ แถมพ่อของอีกฝ่ายก็ค่อนข้างมีความสามารถและใช่ว่าจะล่วงเกินได้ง่าย ๆ อีกต่างหากทว่ายามนี้เขาจะยอมจากไปด้วยความผิดหวังแบบนั้นได้อย่างไรกันเล่า!"พอสักทีเถอะน่า คุณหลิวยังมีอำนาจมากกว่าไอ้ขี้แพ้บางตัวเสียอีก!"เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้เข้า หลี่หยวนหยวนรู้สึกลิงโลดมากเสียจนอดไม่ได้ที่จะชูนิ้วหัวแม่มือให้แก่หลิวซวิน ในขณะเดียวกัน เธอก็มองฉินหมิงด้วยสายตาดูแคลนยิ่งขึ้น"ก็นั่นน่ะสิ ต้องขอบคุณคุณหลิว..."หลี่ฉินกับเฉินถิงถิงเองก็ให้กำลังใจแล้วมองหลิวซวินด้วยสายตาขอบคุณหยางซู่คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอดูบ้าระห่ำและยากจะรับมือได้ยิ่งนัก พวกเธอไม่มีความสามารถที่จะไปจัดการกับเขาได้จึงได้แต่ฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้กับหลิวซวินเท่านั้นแล้วหลังจากได้รับคำชื่นชมพร้อ
"แต่ถ้าแกกล้าก้าวออกมาอีกล่ะก็ ฉันสัญญาว่าจะฆ่าแกก่อนเลย!"หยางซู่มองหลิวซวินด้วยสายตาเย็นชา พร้อมแววตาที่ฝากแฝงไปด้วยเจตนาสังหารอันเยียบเย็น!สีหน้าเช่นนี้แลดูน่าสะพรึงกลัวราวกับอสรพิษที่มีเจตนาร้าย หลิวซวินจึงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้านและจิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนตามท้องถนนและสามารถทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายกลัวเลยสักนิด!"ได้...ดีมาก ฉันจดจำตบครั้งนี้เอาไว้แล้ว เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่!"หลิวซวินรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ หลังจากเอ่ยวาจาเกรี้ยวกราดด้วยสีหน้าเก็บงำอารมณ์ความรู้สึก เขาก็กลอกตาไปข้าง ๆ แล้วยืนอยู่ในสภาพที่น่าอึดอัดใจ เขาไม่กล้าสู้กับอีกฝ่ายสถานการณ์ในยามนี้เปลี่ยนไปรวดเร็วมากเสียจนหลี่ฉิน เฉินถิงถิงและคนอื่น ๆ ราวกับมีน้ำเย็นเฉียบราดรดลงบนศีรษะ อารมณ์ของพวกเธอดิ่งถึงจุดต่ำสุดอย่างรวดเร็วและประกายแสงแห่งความหวังที่เพิ่งจะลุกโชนก็มอดดับไป"นายน้อยหลิว อย่าไปเชียวนะคะ คุณห้ามเมินเฉยเรื่องของคุณป้ากับครอบครัวของญาติผู้น้องเด็ดขาด..."หลี่หยวนหยวนร้อนใจเสียจนคว้าแขนของหลิวซวินเอาไว้"ผมรู้แล้วน่า ผมไม่ได้เมินเฉยสักหน่อย..."หล
"ฉินหมิง แกมันไอ้เศษสวะ!""คนพวกนี้ล้วนมาเพราะแก แต่แกกลับหวาดกลัวเสียจนเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังแถมยังทำตัวราวกับไอ้คนขี้ขลาดตาขาว แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย!"หลี่หยวนหยวนตำหนิฉินหมิงด้วยความโกรธเธอรู้สึกว่าฉินหมิงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวคุณป้าของเธอต้องมาพลอยรับเคราะห์เพราะเรื่องนี้ เธอเกลียดฉินหมิงมากเสียจนต้องเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ"ผมไม่ได้ขี้ขลาดตาขาว!""เมื่อสักครู่นี้ผมคิดจะลุกขึ้น แต่มีใครบางคนตัดหน้าผมไปเสียก่อนแล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะ?"ฉินหมิงยิ้มด้วยความขมขื่นใจแล้วลุกขึ้นในที่สุดทีแรกเขานึกว่าหลิวซวินจะสามารถจัดการเรื่องราวได้โดยไม่ต้องเลือดตกยางออก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะเข้าไปแย่งชิงผลงานกับหลิวซวินแต่สิ่งที่เขาไม่นึกฝันคือ หลิวซวินจะกลายเป็นท่าดีทีเหลวไร้ประโยชน์ไปเสียได้!และในที่สุดเขากลับถูกหลี่หยวนหยวนเรียกว่าไอ้คนขี้ขลาดตาขาวเขารู้สึกแย่เหลือทน!หลังจากนั้นฉินหมิงก็เก็บความสลดหดหู่เอาไว้ในใจ เขาเบนสายตาไปมองเทียนปั๋วแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เทียนปั๋ว เรื่องนี้ล้วนเป็นเพราะฉัน อย่าทำให้ถิงถิงกับครอบครัวของเธอต้องอึดอัดใจเลย ถ้าแกมีปัญญาล่ะก็
เฉินถิงถิงยังรู้สึกกังวลใจอยู่บ้างอย่างไรเสีย รปภ. ส่วนใหญ่ในบริษัทก็เป็นคนธรรมดาสามัญ ย่อมไม่มีอะไรเทียบได้กับแก๊งอันธพาลชั่วที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอ อีกทั้งพลังของทั้งสองฝ่ายก็ใช่ว่าจะอยู่ระดับเดียวกันตอนที่ฉินหมิงถูก รปภ. ธรรมดา ๆ หลายคนรุมทำร้าย เขาก็ตกอยู่ท่ามกลางอันตรายและถึงกับบาดเจ็บอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าการประจันหน้ากับหยางซู่ผู้บ้ำระห่ำและคนอื่น ๆ จะไม่มีทางเป็นไปได้เลย!"ไม่มีอะไรไม่ดีหรอกน่า!""อย่าห่วงไปเลย ผมไม่เป็นอะไรไปเพียงเพราะพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ พวกนี้หรอก!"ฉินหมิงกล่าวพลางยิ้มทะนงตน"ไอ้หนู แกว่าใครเป็นพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ กันวะ?""รนหาที่ตายใช่ไหม?"หยางซู่และคนอื่น ๆ โกรธจัดพลางจ้องมองฉินหมิงด้วยสายตาเคร่งขรึมเย็นชา"ถ้าฉันบอกว่าพวกแกเป็นพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ แล้วยังไงล่ะ!""ในสายตาของฉัน เศษสวะอย่างพวกแกมันแย่เสียยิ่งกว่าพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ เสียอีก!"ฉินหมิงเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูแคลน"หนอย แกมันรนหาที่ตาย!"หยางซู่โกรธมากเสียจนยกมือตบหน้าฉินหมิงอย่างแรงเพี๊ยะ!เสียงตบดังชัดเจน จากนั้นฉินหมิงก็ใช้หลังมือตบหน้าหยางซู่กลับไปอย่างแรงบ้างหยางซู่หมุนไป
แม้กระทั่งฝันพวกเขาก็คิดไม่ถึง ว่าฉินหมิงตัวคนเดียวจะสู้อันธพาลแปดเก้าคนได้ อีกทั้งยังไม่มีรอยบาดแผลแม้แต่น้อย!นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !โดยเฉพาะเทียนปั๋ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ แทบไม่กล้าเชื่อในสายตาตัวเองเขารู้ว่าฉินหมิงเป็นเพื่อนร่วมงานของเฉินถิงถิง ไม่เข้าใจว่าฉินหมิงก็เป็นแค่พนักงานออฟฟิศทั่วไป แล้วทำไมวิชากังฟูถึงได้เก่งกาจขนาดนี้ได้!นี่มันทำให้เทียนปั๋วทึ่งในตัวฉินหมิงมากในตอนนี้ สถานการณ์เงียบเป็นเป่าสาก ทุกคนตกอยู่ในความเงียบอันน่าขนลุก“เก่ง…เก่งมาก ๆ เลยค่ะ!”เฉินถิงถิงที่ได้สติกลับมาก่อน ดวงตาที่สวยงามเป็นประกายด้วยสีสันฉินหมิงดูหล่อมากเมื่อเขาแสดงพลังของเขาในตอนนี้ ชายคนนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความศรัทธาชื่นชมในตัวฉินหมิง“นั่นน่ะสิ ฉินหมิงนี่กล้าหาญมากเลย! ”ใบหน้าหลี่ฉินและเฉินฮ่าวเต็มด้วยความประหลาดใจ เขาอดไม่ได้ที่จะเชียร์การต่อสู้ของฉินหมิง“นี่…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”หลี่หยวนหยวนอ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อแต่ก่อนฉินหมิงเป็นแค่คนไร้ค่าในบริษัทมาเจีย มีปากก็เหมือนไม่มีสู้ใครก็ไม่ได้แต่ตอนนี้ฉินหมิงได้เปลี่ยนเป