เมื่อเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น เทียนปั๋วพร้อมชายหนุ่มท่าทางดุดันแกร่งกล้าอีกเจ็ดแปดคนก็เดินเข้ามาจากทางด้านข้างคนที่เดินนำหน้าเป็นชายหนุ่มในวัยสามสิบต้น ๆ ที่มีรอยสักตรงแขนและลำคอ เขามีกลิ่นอายบ้าระห่ำยิ่งนัก เห็นได้ชัดในปราดเดียวเลยว่าเขาเป็นผู้มีอุปนิสัยโหดเหี้ยมที่ใช่ว่าใครจะเข้าไปยุ่งด้วยได้ง่าย ๆเขาคือหยางซู่ญาติผู้พี่ของเทียนปั๋ว"เทียนปั๋ว แกมาทำอะไรที่นี่!"ใบหน้าสวย ๆ ของเฉินถิงถิงเปลี่ยนสีไปบ้างหลี่ฉินกับเฉินฮ่าวแม่ลูกก็หน้าเปลี่ยนสีเช่นกันแม้แต่หลี่หยวนหยวนกับอู๋เทาก็รู้สึกตื่นตกใจกับร่างกายบึกบึนและกลิ่นอายบ้าระห่ำของฝ่ายตรงข้าม"เธอพูดอะไรน่ะ?""แน่นอนว่าฉันย่อมต้องมาแก้แค้นไอ้เด็กฉินหมิงคนนั้นน่ะสิ ไม่งั้นฉันยังจะทำอะไรได้อีกเล่า?"เทียนปั๋วยิ้มเย็นชา"เทียนปั๋ว ยังไงซะพวกเราสองครอบครัวก็เป็นเพื่อนบ้านกันมาหลายปี ธะ...เธอต้องการอะไรกันแน่?"หลี่ฉินเอ่ยเสียงลุ่มลึกพร้อมหน้าตาเหยเก"ป้าหลี่ ในเมื่อป้าแก่แล้ว ผมจะบอกอะไรสักอย่างตามตรงก็แล้วกัน !""คราวนี้ผมถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าฉินหมิงจะเป็นตัวการ แต่ทั้งครอบครัวของป้าก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างไม่อาจห
หยางซู่ผงกศีรษะ สีหน้าของเขากลับเคร่งขรึมมากขึ้น"ในเมื่อพวกแกเคยได้ยินชื่อคุณพ่อของฉัน ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!"หลิวซวินแค่นเสียงเย็นชาและแสดงท่าทีน่าเกรงขามออกมา"ญาติผู้พี่ เรื่องนี้..."เทียนปั๋วสีหน้าเขียวคล้ำเพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีเดิมทีคราวนี้เขามีแผนการใหญ่ แต่ไม่นึกฝันเลยว่าหลิวซวินจะโผล่ขึ้นมากลางทางเสียได้ แถมพ่อของอีกฝ่ายก็ค่อนข้างมีความสามารถและใช่ว่าจะล่วงเกินได้ง่าย ๆ อีกต่างหากทว่ายามนี้เขาจะยอมจากไปด้วยความผิดหวังแบบนั้นได้อย่างไรกันเล่า!"พอสักทีเถอะน่า คุณหลิวยังมีอำนาจมากกว่าไอ้ขี้แพ้บางตัวเสียอีก!"เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้เข้า หลี่หยวนหยวนรู้สึกลิงโลดมากเสียจนอดไม่ได้ที่จะชูนิ้วหัวแม่มือให้แก่หลิวซวิน ในขณะเดียวกัน เธอก็มองฉินหมิงด้วยสายตาดูแคลนยิ่งขึ้น"ก็นั่นน่ะสิ ต้องขอบคุณคุณหลิว..."หลี่ฉินกับเฉินถิงถิงเองก็ให้กำลังใจแล้วมองหลิวซวินด้วยสายตาขอบคุณหยางซู่คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอดูบ้าระห่ำและยากจะรับมือได้ยิ่งนัก พวกเธอไม่มีความสามารถที่จะไปจัดการกับเขาได้จึงได้แต่ฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้กับหลิวซวินเท่านั้นแล้วหลังจากได้รับคำชื่นชมพร้อ
"แต่ถ้าแกกล้าก้าวออกมาอีกล่ะก็ ฉันสัญญาว่าจะฆ่าแกก่อนเลย!"หยางซู่มองหลิวซวินด้วยสายตาเย็นชา พร้อมแววตาที่ฝากแฝงไปด้วยเจตนาสังหารอันเยียบเย็น!สีหน้าเช่นนี้แลดูน่าสะพรึงกลัวราวกับอสรพิษที่มีเจตนาร้าย หลิวซวินจึงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้านและจิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนตามท้องถนนและสามารถทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายกลัวเลยสักนิด!"ได้...ดีมาก ฉันจดจำตบครั้งนี้เอาไว้แล้ว เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่!"หลิวซวินรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ หลังจากเอ่ยวาจาเกรี้ยวกราดด้วยสีหน้าเก็บงำอารมณ์ความรู้สึก เขาก็กลอกตาไปข้าง ๆ แล้วยืนอยู่ในสภาพที่น่าอึดอัดใจ เขาไม่กล้าสู้กับอีกฝ่ายสถานการณ์ในยามนี้เปลี่ยนไปรวดเร็วมากเสียจนหลี่ฉิน เฉินถิงถิงและคนอื่น ๆ ราวกับมีน้ำเย็นเฉียบราดรดลงบนศีรษะ อารมณ์ของพวกเธอดิ่งถึงจุดต่ำสุดอย่างรวดเร็วและประกายแสงแห่งความหวังที่เพิ่งจะลุกโชนก็มอดดับไป"นายน้อยหลิว อย่าไปเชียวนะคะ คุณห้ามเมินเฉยเรื่องของคุณป้ากับครอบครัวของญาติผู้น้องเด็ดขาด..."หลี่หยวนหยวนร้อนใจเสียจนคว้าแขนของหลิวซวินเอาไว้"ผมรู้แล้วน่า ผมไม่ได้เมินเฉยสักหน่อย..."หล
"ฉินหมิง แกมันไอ้เศษสวะ!""คนพวกนี้ล้วนมาเพราะแก แต่แกกลับหวาดกลัวเสียจนเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังแถมยังทำตัวราวกับไอ้คนขี้ขลาดตาขาว แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย!"หลี่หยวนหยวนตำหนิฉินหมิงด้วยความโกรธเธอรู้สึกว่าฉินหมิงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวคุณป้าของเธอต้องมาพลอยรับเคราะห์เพราะเรื่องนี้ เธอเกลียดฉินหมิงมากเสียจนต้องเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ"ผมไม่ได้ขี้ขลาดตาขาว!""เมื่อสักครู่นี้ผมคิดจะลุกขึ้น แต่มีใครบางคนตัดหน้าผมไปเสียก่อนแล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะ?"ฉินหมิงยิ้มด้วยความขมขื่นใจแล้วลุกขึ้นในที่สุดทีแรกเขานึกว่าหลิวซวินจะสามารถจัดการเรื่องราวได้โดยไม่ต้องเลือดตกยางออก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะเข้าไปแย่งชิงผลงานกับหลิวซวินแต่สิ่งที่เขาไม่นึกฝันคือ หลิวซวินจะกลายเป็นท่าดีทีเหลวไร้ประโยชน์ไปเสียได้!และในที่สุดเขากลับถูกหลี่หยวนหยวนเรียกว่าไอ้คนขี้ขลาดตาขาวเขารู้สึกแย่เหลือทน!หลังจากนั้นฉินหมิงก็เก็บความสลดหดหู่เอาไว้ในใจ เขาเบนสายตาไปมองเทียนปั๋วแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เทียนปั๋ว เรื่องนี้ล้วนเป็นเพราะฉัน อย่าทำให้ถิงถิงกับครอบครัวของเธอต้องอึดอัดใจเลย ถ้าแกมีปัญญาล่ะก็
เฉินถิงถิงยังรู้สึกกังวลใจอยู่บ้างอย่างไรเสีย รปภ. ส่วนใหญ่ในบริษัทก็เป็นคนธรรมดาสามัญ ย่อมไม่มีอะไรเทียบได้กับแก๊งอันธพาลชั่วที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอ อีกทั้งพลังของทั้งสองฝ่ายก็ใช่ว่าจะอยู่ระดับเดียวกันตอนที่ฉินหมิงถูก รปภ. ธรรมดา ๆ หลายคนรุมทำร้าย เขาก็ตกอยู่ท่ามกลางอันตรายและถึงกับบาดเจ็บอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าการประจันหน้ากับหยางซู่ผู้บ้ำระห่ำและคนอื่น ๆ จะไม่มีทางเป็นไปได้เลย!"ไม่มีอะไรไม่ดีหรอกน่า!""อย่าห่วงไปเลย ผมไม่เป็นอะไรไปเพียงเพราะพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ พวกนี้หรอก!"ฉินหมิงกล่าวพลางยิ้มทะนงตน"ไอ้หนู แกว่าใครเป็นพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ กันวะ?""รนหาที่ตายใช่ไหม?"หยางซู่และคนอื่น ๆ โกรธจัดพลางจ้องมองฉินหมิงด้วยสายตาเคร่งขรึมเย็นชา"ถ้าฉันบอกว่าพวกแกเป็นพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ แล้วยังไงล่ะ!""ในสายตาของฉัน เศษสวะอย่างพวกแกมันแย่เสียยิ่งกว่าพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ เสียอีก!"ฉินหมิงเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูแคลน"หนอย แกมันรนหาที่ตาย!"หยางซู่โกรธมากเสียจนยกมือตบหน้าฉินหมิงอย่างแรงเพี๊ยะ!เสียงตบดังชัดเจน จากนั้นฉินหมิงก็ใช้หลังมือตบหน้าหยางซู่กลับไปอย่างแรงบ้างหยางซู่หมุนไป
แม้กระทั่งฝันพวกเขาก็คิดไม่ถึง ว่าฉินหมิงตัวคนเดียวจะสู้อันธพาลแปดเก้าคนได้ อีกทั้งยังไม่มีรอยบาดแผลแม้แต่น้อย!นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !โดยเฉพาะเทียนปั๋ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ แทบไม่กล้าเชื่อในสายตาตัวเองเขารู้ว่าฉินหมิงเป็นเพื่อนร่วมงานของเฉินถิงถิง ไม่เข้าใจว่าฉินหมิงก็เป็นแค่พนักงานออฟฟิศทั่วไป แล้วทำไมวิชากังฟูถึงได้เก่งกาจขนาดนี้ได้!นี่มันทำให้เทียนปั๋วทึ่งในตัวฉินหมิงมากในตอนนี้ สถานการณ์เงียบเป็นเป่าสาก ทุกคนตกอยู่ในความเงียบอันน่าขนลุก“เก่ง…เก่งมาก ๆ เลยค่ะ!”เฉินถิงถิงที่ได้สติกลับมาก่อน ดวงตาที่สวยงามเป็นประกายด้วยสีสันฉินหมิงดูหล่อมากเมื่อเขาแสดงพลังของเขาในตอนนี้ ชายคนนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความศรัทธาชื่นชมในตัวฉินหมิง“นั่นน่ะสิ ฉินหมิงนี่กล้าหาญมากเลย! ”ใบหน้าหลี่ฉินและเฉินฮ่าวเต็มด้วยความประหลาดใจ เขาอดไม่ได้ที่จะเชียร์การต่อสู้ของฉินหมิง“นี่…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”หลี่หยวนหยวนอ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อแต่ก่อนฉินหมิงเป็นแค่คนไร้ค่าในบริษัทมาเจีย มีปากก็เหมือนไม่มีสู้ใครก็ไม่ได้แต่ตอนนี้ฉินหมิงได้เปลี่ยนเป
หยางซู่โกรธและมีสีหน้าถมึงทึง“อ้อ อย่างนั้นเหรอ?”“อย่างนั้นฉันให้เวลานายครึ่งชั่วโมง นายก็เรียกคนของนายมา ฉันก็อยากจะเห็นว่านายมีความสามารถแค่ไหน! ”ฉินหมิงหัวเราะเยาะตอนนี้บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าเขาจะทำร้ายหยางซู่แต่เขาก็คงไม่เล่นหยางซู่ถึงตาย อย่างน้อยก็แค่สั่งสอนฝ่ายตรงข้ามแค่นั้น แต่คนของหยางซู่พวกนี้ล้วนเป็นคนไม่เคารพกฎหมาย หากรู้สึกไม่พอใจเพราะเหตุการณ์นี้ ก็อาจตลบหลังเอาคืนเขาในภายหลังหรือไม่ก็อาจระบายความโกรธกับครอบครัวของเฉินถิงถิงพอถึงตอนนั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินกว่าที่คิด!ด้วยระดับวิชากังฟูชั้นสูงของฉินหมิง แน่นอนว่าเขาไม่กลัวการเอาคืนของหยางซู่ แต่เฉินถิงถิงและครอบครัวเป็นสามัญชนคนธรรมดาจะเอาอะไรไปสู้กับการแก้แค้นของหยางซู่ได้?ทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือปล่อยให้หยางซู่ใช้อำนาจของตน จากนั้นเขาก็พยายามเอาชนะอีกฝ่ายให้ยอมจำนนจนกว่าอีกฝ่ายจะหวาดกลัวและสิ้นหวังไป!ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง!“ได้ นี่แกพูดเองนะ”“อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”หยางซู่ดีใจมากและรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเริ่มโทรหาผู้คนพอเห็นฉากนี้ หลี่ฉิน เ
“หรือว่านายคิดว่าวิชากังฟูของนาย จะสู้ทั่วหล้าไร้ผู้ต่อต้านอย่างนั้นเหรอ!”“น่าตลกซะจริง!”หลี่หยวนหยวนตวาดด้วยความโกรธแม้ว่าตอนนี้เธอจะได้เห็นทักษะที่โดดเด่นของฉินหมิงแล้ว แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยอะไรได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหยางซู่โทรหาคนที่มีฝีมือเก่งกว่านี้ หมัดทั้งสองของฉินหมิงนั้นยากที่จะเอาชนะสี่มือและเขาอาจไม่สามารถรับมือกับมันได้แล้วอีกอย่างแม้ว่าฉินหมิงจะสู้ได้แล้วอย่างไรต่อ?ในสังคมยุคใหม่ กังฟูนั้นหมดยุคไปนานแล้ว คนรวยและมีอำนาจเท่านั้นถึงจะเป็นนายได้!หากคนตัวเล็กที่ไม่มีอำนาจเช่นฉินหมิงทำผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจและทำให้คู่ต่อสู้ของเขาพิการในการต่อสู้ เขาอาจจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต!โดยรวมแล้วเธอคิดว่าความคิดของฉินหมิงเป็นจินตนาการเลื่อนเปื้อนล้วน ๆ!“แต่…”เฉินถิงถิงและครอบครัวรู้สึกราวกับว่าน้ำเย็นถูกเทลงมาบนหัวของพวกเขาและหัวใจของพวกเขาก็หนาวเหน็บทันทีพวกเธอรู้ว่าสิ่งที่หลี่หยวนหยวนนั้นก็ถูก เพราะฉินหมิงไร้อำนาจจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยุติเรื่องนี้ถ้าฉินหมิงจัดการไม่ดี ไม่แน่ว่าเขาอาจจะบาดเจ็บ แล้วเขาจะเอาอะไรมาช่วยเธอกับครอบครัวของพวกเธอกันล่ะ?“คุณวางใ