แม้กระทั่งฝันพวกเขาก็คิดไม่ถึง ว่าฉินหมิงตัวคนเดียวจะสู้อันธพาลแปดเก้าคนได้ อีกทั้งยังไม่มีรอยบาดแผลแม้แต่น้อย!นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !โดยเฉพาะเทียนปั๋ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ แทบไม่กล้าเชื่อในสายตาตัวเองเขารู้ว่าฉินหมิงเป็นเพื่อนร่วมงานของเฉินถิงถิง ไม่เข้าใจว่าฉินหมิงก็เป็นแค่พนักงานออฟฟิศทั่วไป แล้วทำไมวิชากังฟูถึงได้เก่งกาจขนาดนี้ได้!นี่มันทำให้เทียนปั๋วทึ่งในตัวฉินหมิงมากในตอนนี้ สถานการณ์เงียบเป็นเป่าสาก ทุกคนตกอยู่ในความเงียบอันน่าขนลุก“เก่ง…เก่งมาก ๆ เลยค่ะ!”เฉินถิงถิงที่ได้สติกลับมาก่อน ดวงตาที่สวยงามเป็นประกายด้วยสีสันฉินหมิงดูหล่อมากเมื่อเขาแสดงพลังของเขาในตอนนี้ ชายคนนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความศรัทธาชื่นชมในตัวฉินหมิง“นั่นน่ะสิ ฉินหมิงนี่กล้าหาญมากเลย! ”ใบหน้าหลี่ฉินและเฉินฮ่าวเต็มด้วยความประหลาดใจ เขาอดไม่ได้ที่จะเชียร์การต่อสู้ของฉินหมิง“นี่…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”หลี่หยวนหยวนอ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อแต่ก่อนฉินหมิงเป็นแค่คนไร้ค่าในบริษัทมาเจีย มีปากก็เหมือนไม่มีสู้ใครก็ไม่ได้แต่ตอนนี้ฉินหมิงได้เปลี่ยนเป
หยางซู่โกรธและมีสีหน้าถมึงทึง“อ้อ อย่างนั้นเหรอ?”“อย่างนั้นฉันให้เวลานายครึ่งชั่วโมง นายก็เรียกคนของนายมา ฉันก็อยากจะเห็นว่านายมีความสามารถแค่ไหน! ”ฉินหมิงหัวเราะเยาะตอนนี้บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าเขาจะทำร้ายหยางซู่แต่เขาก็คงไม่เล่นหยางซู่ถึงตาย อย่างน้อยก็แค่สั่งสอนฝ่ายตรงข้ามแค่นั้น แต่คนของหยางซู่พวกนี้ล้วนเป็นคนไม่เคารพกฎหมาย หากรู้สึกไม่พอใจเพราะเหตุการณ์นี้ ก็อาจตลบหลังเอาคืนเขาในภายหลังหรือไม่ก็อาจระบายความโกรธกับครอบครัวของเฉินถิงถิงพอถึงตอนนั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินกว่าที่คิด!ด้วยระดับวิชากังฟูชั้นสูงของฉินหมิง แน่นอนว่าเขาไม่กลัวการเอาคืนของหยางซู่ แต่เฉินถิงถิงและครอบครัวเป็นสามัญชนคนธรรมดาจะเอาอะไรไปสู้กับการแก้แค้นของหยางซู่ได้?ทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือปล่อยให้หยางซู่ใช้อำนาจของตน จากนั้นเขาก็พยายามเอาชนะอีกฝ่ายให้ยอมจำนนจนกว่าอีกฝ่ายจะหวาดกลัวและสิ้นหวังไป!ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง!“ได้ นี่แกพูดเองนะ”“อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”หยางซู่ดีใจมากและรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเริ่มโทรหาผู้คนพอเห็นฉากนี้ หลี่ฉิน เ
“หรือว่านายคิดว่าวิชากังฟูของนาย จะสู้ทั่วหล้าไร้ผู้ต่อต้านอย่างนั้นเหรอ!”“น่าตลกซะจริง!”หลี่หยวนหยวนตวาดด้วยความโกรธแม้ว่าตอนนี้เธอจะได้เห็นทักษะที่โดดเด่นของฉินหมิงแล้ว แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยอะไรได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหยางซู่โทรหาคนที่มีฝีมือเก่งกว่านี้ หมัดทั้งสองของฉินหมิงนั้นยากที่จะเอาชนะสี่มือและเขาอาจไม่สามารถรับมือกับมันได้แล้วอีกอย่างแม้ว่าฉินหมิงจะสู้ได้แล้วอย่างไรต่อ?ในสังคมยุคใหม่ กังฟูนั้นหมดยุคไปนานแล้ว คนรวยและมีอำนาจเท่านั้นถึงจะเป็นนายได้!หากคนตัวเล็กที่ไม่มีอำนาจเช่นฉินหมิงทำผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจและทำให้คู่ต่อสู้ของเขาพิการในการต่อสู้ เขาอาจจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต!โดยรวมแล้วเธอคิดว่าความคิดของฉินหมิงเป็นจินตนาการเลื่อนเปื้อนล้วน ๆ!“แต่…”เฉินถิงถิงและครอบครัวรู้สึกราวกับว่าน้ำเย็นถูกเทลงมาบนหัวของพวกเขาและหัวใจของพวกเขาก็หนาวเหน็บทันทีพวกเธอรู้ว่าสิ่งที่หลี่หยวนหยวนนั้นก็ถูก เพราะฉินหมิงไร้อำนาจจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยุติเรื่องนี้ถ้าฉินหมิงจัดการไม่ดี ไม่แน่ว่าเขาอาจจะบาดเจ็บ แล้วเขาจะเอาอะไรมาช่วยเธอกับครอบครัวของพวกเธอกันล่ะ?“คุณวางใ
“พ่อ ในที่สุดพ่อก็มา!”ใบหน้าหลิวซวินดีใจและรีบเข้าไปต้อนรับผู้เป็นพ่อได้เห็นรอยแดง ๆ บนหน้าลูกชายแล้วดูเหมือนว่าลูกชายตนจะถูกตบ เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “หลิวซวินใครตบแก ใครมันช่างกล้า! ”“นั่นไงพ่อ เขานั่นแหละ!”หลิวซวินชี้ไปทางหยางซู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดหลังจากโดนอัดไป ไม่ง่ายเลยที่หยางซูและคนอื่น ๆ จะกลับมาเป็นปกติ พวกเขาตะกายลุกขึ้นจากพื้นทีละคนด้วยความยากลำบากแต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอกับหลิวฉวนย่าและคนอื่น ๆ “ให้ตายเถอะ มาให้ฉันสั่งสอนซะดี ๆ !”หลิวฉวนย่าตะคอกด้วยความโมโหก่อนโบกมือ ผู้ชายทุกคนรีบวิ่งไปหาหยางซู่และคนอื่น ๆ ราวกับว่าเป็นหมาป่าและเสือโจมตีเหยื่อ“หลิวฉวนย่า ฉันคือหยางซู่!”“ฉันเตือนนายไว้ก่อนเลย บอสของฉันน่ะ… ”หยางซู่ตกใจมาก เขายังไม่ทันจะเอ่ยนามของหัวหน้าเขา ก็มีชายท่าทางแข็งแรงโบกไม้มาอยู่ต่อหน้าเขา“หยางซู่บ้าอะไร ฉันไม่เห็นเคยได้ยิน!”“มาให้ฉันสั่งสอนซะดี ๆ !”หลิวฉวนย่าตะคอกอย่างเย็นชา สีหน้าของเขาดูถูกเหยียดหยามมากหยางซูเป็นแค่นักเลงปลายแถว ชื่อเสียงก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของหลิวฉวนย่ามาก่อน แต่หลิวฉวนย่าไม่รู้ว่
“คุณอา พวกเราไปดูกันดีกว่าค่ะ”หลี่หยวนหยวนหัวเราะพลางพูดหลี่ฉินลังเลเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าตอบ จากนั้นหลายคนรวมทั้งฉินหมิงและเฉินถิงถิงก็ติดตามเขาออกไปพอมาถึงด้านนอกหลิวฉวนย่าสั่งคนของเขาให้โยนหยางซู่และคนอื่น ๆ ลงไปกับพื้นทันใดนั้นก็มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นและรถสีดำหลายสิบคันพุ่งเข้ามาใกล้ พวกเขารีบขับรถไปที่บ้านแถวสุดท้ายของชุมชน ปิดล้อมทางแยกแล้วหยุดรถเมื่อประตูรถเปิด ชายหนุ่มสามสิบสี่สิบคนสวมชุดสูทสีดำ รูปร่างแข็งแรงก็เดินออกมาจากรถพอเห็นฉากนี้แล้ว หลิวฉวนย่า หลี่ฉินและคนอื่น ๆ ต่างพากันตกใจ“ดีจริง ๆ!”“คนของพวกเรามาแล้ว!”หยางซู่ดีใจมาก เมื่อรู้ว่าในที่สุดกำลังเสริมของเขาก็มาถึงแล้ว!“คนพวกนี้เป็นใครกัน!”หลิวฉวนย่ามีสีหน้าตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย“พ่อ พวกมันอาจจะเป็นกำลังเสริมของหยางซู่”หลิวซวินพูดร้อนรน“ยังมีกำลังเสริมอีกเหรอ?““ฉันอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครและเขามีความสามารถขนาดไหน!”หลิวฉวนย่าหัวเราะเยาะ เขาคิดว่าตนมีอิทธิพลอย่างมากในเมืองเก่า แม้ว่าหยางซู่จะเรียกกำลังเสริมเข้ามาก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้!“คนเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ง่ายที่จะจัดการ… ”เมื่
หลิวฉวนย่ารู้ดีถึงความกว้างขวางและอำนาจของเฉียนเป้า ต่อหน้าเฉียนเป้าเขาจะนับเป็นอะไรได้!ถ้าเฉียนเป้าอยากจะบีบเขาให้ตาย กลัวว่าก็ไม่ต่างอะไรจากมดตัวหนึ่ง!“ให้ตายเถอะ แกเป็นบ้าอะไร?”“แกกล้าพูดอย่างนี้กับพ่อฉันเหรอ อยากตายหรือไง!”หลิวซวินโกรธมาก เขากระโดดออกมาและชี้หน้าเฉียนเป้าแล้วตะโกน ต้องการแสดงความยิ่งใหญ่และความสามารถอันทรงพลังของเขาต่อหน้าครอบครัวของเฉินถิงถิง!“บังอาจ!”“ลูกบ้า แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ! ”หลิวฉวนย่าถึงกับหน้าถอดสี ฝ่ามือเขาตบไปที่ใบหน้าหลิวซวินเพียะ!เสียงตบดังสนั่นหลิวซวินตกตะลึง เขาจับแก้มแล้วมองพ่อด้วยความไม่เชื่อ “พ่อ…พ่อตบผมทำไมครับ?”“ฉันตบเรียกสติแกไง!”“แกรู้ไหมว่าท่านนี้เป็นใคร ท่านนี้คือพี่เป้าแห่งเขาอวิ๋นอู้!”หลินฉวนย่าตะโกนบอก“พี่…พี่เป้าอย่างนั้นเหรอ?”หลิวซวินตกตะลึง แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นเฉียนเป้ามาก่อน แต่เขาก็คุ้นเคยกับชื่อของเฉียนเป้าเป็นอย่างดีนอกจากนี้เขายังรู้ด้วยว่าเฉียนเป้าเป็นบอสใหญ่ของหลายที่ใกล้เขาอวิ๋นอู้ แน่นอนว่าพ่อของเขาไม่สามารถสู้ได้!“ไอ้ลูกบ้า แกกล้าพูดหยาบคายกับพี่เป้าได้อย่างไร ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษพี่เป้าอีก
ปรากฏว่าเฉียนเป้าก็เป็นนักเลงใต้ดินที่แท้จริงและเป็นคนโหดเหี้ยมที่รู้จักกันดีบนท้องถนน ไม่รู้ว่ามือเขาผ่านเลือดมากี่ครั้งกี่หนแล้ว ถ้าพวกเขาสองคนกล้ากระตุกหนวดเฉียนเป้า ไม่แน่ว่าเฉียนเป้าอาจคร่าสองชีวิตพ่อลูกถึงตายก็ได้!“ใครก็ได้!”“เอาพวกมันสองคนไป ทำตามกฏของโลกนักเลง แต่ละคนหักขาข้างหนึ่งเป็นการลงโทษ! "เฉียนเป้าหัวเราะอย่างเย็นชาหลังจากได้ยินคำสั่งของเขา คนของเขาหลายคนที่อยู่ข้างหลังก็พุ่งเข้ามาและจับตัวหลิวฉวนย่าและหลิวซวินสองพ่อลูกทันที“พี่เป้า อย่าเลยนะครับพี่…”“โปรดเมตตา ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะนะพี่…”สองพ่อลูกต่างมีสีหน้าซีดเผือด ก้มหัวร้องขอชีวิตไม่หยุดแต่มันก็ไม่มีประโยชน์“เอาตัวมันไป!”สีหน้าเฉียนเป้าเย็นชา ไม่แสดงอารมณ์ใดหากไม่ทำตามกฏก็ถือว่าไม่รักษาความยุติธรรมถึงแม้เขาไม่รู้ว่าระหว่างหยางซู่กับหลิวฉวนย่ามีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่หลิวฉวนย่าในฐานะเป็นคนของลัทธิเต๋าครึ่งหนึ่ง กล้ามาทำร้ายคนของเขาโดยไม่บอกกล่าว!นี่เป็นการท้าทายอำนาจเหมือนตบหน้าเขาอย่างไรอย่างนั้น!เขาแค่ขอให้คนหักขาข้างหนึ่งของหลิวฉวนย่าและลูกชายของเขา การลงโทษพวกเขาเบา ๆ นี่ก็ถือว่าเมตตาแล
ตอนนี้หยางซู่พูดจาไร้มารยาทกับฉินหมิง ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นมาอย่างไร เขาก็ไม่มีวันทนรับได้!“พี่เป้า เมื่อกี้พี่ยังน่าเกรงขามมากอยู่เลย! ”“พี่นี่ทำให้ผมทึ่งจริง ๆ นะ! ”ฉินหมิงหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมแววตาอาฆาตในดวงตาของเขาหัวใจของเฉียนเป้าสั่นไหวและเขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าฉินหมิงเสียงดัง “คุณฉิน ผมไม่รู้ว่าคุณมาด้วย ถ้าผมล่วงเกินคุณไปตรงไหน ขอคุณได้โปรดอภัยให้ด้วย… ”พอได้เห็นฉากนี้หยางซู่และเถียนปั๋วสองคนตกตะลึงหลิวฉวนย่าและหลิวซวินก็ตกตะลึงแม้แต่เฉินถิงถิง หลี่ฉินและคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงเช่นเดียวกันพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฉียนเป้าซึ่งที่เคยเย่อหยิ่งเมื่อกี้ จนกดข่มทุกคนได้แต่ตอนนี้กลับคุกเข่าให้ฉินหมิง!นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้น?หรือว่าตัวตนของฉินหมิงจะเป็นคนใหญ่คนโตมากกว่าเฉียนเป้า!ผู้คนที่ดูต่างตกใจ มองหน้ากันไปกันมา พวกเขาทุกคนเห็นความตกตะลึงในสายตาของกันและกันโดยเฉพาะหลี่หยวนหยวน เธอตกตะลึงที่สุด!เมื่อหนึ่งเดือนก่อนฉินหมิงยังเป็นพนักงานบริษัทต๊อกต๋อยที่บริษัทมาเจีย เพื่อนร่วมงานทุกคนก็ต่างดูถูกเขา!แต่ตอนนี้เพียงแค่เวลาสั้น ๆ หนึ่งเดือนเท่านั้น ฉินหมิงก็ลอกคราบเหมือนเก