“พ่อ ในที่สุดพ่อก็มา!”ใบหน้าหลิวซวินดีใจและรีบเข้าไปต้อนรับผู้เป็นพ่อได้เห็นรอยแดง ๆ บนหน้าลูกชายแล้วดูเหมือนว่าลูกชายตนจะถูกตบ เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “หลิวซวินใครตบแก ใครมันช่างกล้า! ”“นั่นไงพ่อ เขานั่นแหละ!”หลิวซวินชี้ไปทางหยางซู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดหลังจากโดนอัดไป ไม่ง่ายเลยที่หยางซูและคนอื่น ๆ จะกลับมาเป็นปกติ พวกเขาตะกายลุกขึ้นจากพื้นทีละคนด้วยความยากลำบากแต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอกับหลิวฉวนย่าและคนอื่น ๆ “ให้ตายเถอะ มาให้ฉันสั่งสอนซะดี ๆ !”หลิวฉวนย่าตะคอกด้วยความโมโหก่อนโบกมือ ผู้ชายทุกคนรีบวิ่งไปหาหยางซู่และคนอื่น ๆ ราวกับว่าเป็นหมาป่าและเสือโจมตีเหยื่อ“หลิวฉวนย่า ฉันคือหยางซู่!”“ฉันเตือนนายไว้ก่อนเลย บอสของฉันน่ะ… ”หยางซู่ตกใจมาก เขายังไม่ทันจะเอ่ยนามของหัวหน้าเขา ก็มีชายท่าทางแข็งแรงโบกไม้มาอยู่ต่อหน้าเขา“หยางซู่บ้าอะไร ฉันไม่เห็นเคยได้ยิน!”“มาให้ฉันสั่งสอนซะดี ๆ !”หลิวฉวนย่าตะคอกอย่างเย็นชา สีหน้าของเขาดูถูกเหยียดหยามมากหยางซูเป็นแค่นักเลงปลายแถว ชื่อเสียงก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของหลิวฉวนย่ามาก่อน แต่หลิวฉวนย่าไม่รู้ว่
“คุณอา พวกเราไปดูกันดีกว่าค่ะ”หลี่หยวนหยวนหัวเราะพลางพูดหลี่ฉินลังเลเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าตอบ จากนั้นหลายคนรวมทั้งฉินหมิงและเฉินถิงถิงก็ติดตามเขาออกไปพอมาถึงด้านนอกหลิวฉวนย่าสั่งคนของเขาให้โยนหยางซู่และคนอื่น ๆ ลงไปกับพื้นทันใดนั้นก็มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นและรถสีดำหลายสิบคันพุ่งเข้ามาใกล้ พวกเขารีบขับรถไปที่บ้านแถวสุดท้ายของชุมชน ปิดล้อมทางแยกแล้วหยุดรถเมื่อประตูรถเปิด ชายหนุ่มสามสิบสี่สิบคนสวมชุดสูทสีดำ รูปร่างแข็งแรงก็เดินออกมาจากรถพอเห็นฉากนี้แล้ว หลิวฉวนย่า หลี่ฉินและคนอื่น ๆ ต่างพากันตกใจ“ดีจริง ๆ!”“คนของพวกเรามาแล้ว!”หยางซู่ดีใจมาก เมื่อรู้ว่าในที่สุดกำลังเสริมของเขาก็มาถึงแล้ว!“คนพวกนี้เป็นใครกัน!”หลิวฉวนย่ามีสีหน้าตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย“พ่อ พวกมันอาจจะเป็นกำลังเสริมของหยางซู่”หลิวซวินพูดร้อนรน“ยังมีกำลังเสริมอีกเหรอ?““ฉันอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครและเขามีความสามารถขนาดไหน!”หลิวฉวนย่าหัวเราะเยาะ เขาคิดว่าตนมีอิทธิพลอย่างมากในเมืองเก่า แม้ว่าหยางซู่จะเรียกกำลังเสริมเข้ามาก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้!“คนเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ง่ายที่จะจัดการ… ”เมื่
หลิวฉวนย่ารู้ดีถึงความกว้างขวางและอำนาจของเฉียนเป้า ต่อหน้าเฉียนเป้าเขาจะนับเป็นอะไรได้!ถ้าเฉียนเป้าอยากจะบีบเขาให้ตาย กลัวว่าก็ไม่ต่างอะไรจากมดตัวหนึ่ง!“ให้ตายเถอะ แกเป็นบ้าอะไร?”“แกกล้าพูดอย่างนี้กับพ่อฉันเหรอ อยากตายหรือไง!”หลิวซวินโกรธมาก เขากระโดดออกมาและชี้หน้าเฉียนเป้าแล้วตะโกน ต้องการแสดงความยิ่งใหญ่และความสามารถอันทรงพลังของเขาต่อหน้าครอบครัวของเฉินถิงถิง!“บังอาจ!”“ลูกบ้า แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ! ”หลิวฉวนย่าถึงกับหน้าถอดสี ฝ่ามือเขาตบไปที่ใบหน้าหลิวซวินเพียะ!เสียงตบดังสนั่นหลิวซวินตกตะลึง เขาจับแก้มแล้วมองพ่อด้วยความไม่เชื่อ “พ่อ…พ่อตบผมทำไมครับ?”“ฉันตบเรียกสติแกไง!”“แกรู้ไหมว่าท่านนี้เป็นใคร ท่านนี้คือพี่เป้าแห่งเขาอวิ๋นอู้!”หลินฉวนย่าตะโกนบอก“พี่…พี่เป้าอย่างนั้นเหรอ?”หลิวซวินตกตะลึง แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นเฉียนเป้ามาก่อน แต่เขาก็คุ้นเคยกับชื่อของเฉียนเป้าเป็นอย่างดีนอกจากนี้เขายังรู้ด้วยว่าเฉียนเป้าเป็นบอสใหญ่ของหลายที่ใกล้เขาอวิ๋นอู้ แน่นอนว่าพ่อของเขาไม่สามารถสู้ได้!“ไอ้ลูกบ้า แกกล้าพูดหยาบคายกับพี่เป้าได้อย่างไร ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษพี่เป้าอีก
ปรากฏว่าเฉียนเป้าก็เป็นนักเลงใต้ดินที่แท้จริงและเป็นคนโหดเหี้ยมที่รู้จักกันดีบนท้องถนน ไม่รู้ว่ามือเขาผ่านเลือดมากี่ครั้งกี่หนแล้ว ถ้าพวกเขาสองคนกล้ากระตุกหนวดเฉียนเป้า ไม่แน่ว่าเฉียนเป้าอาจคร่าสองชีวิตพ่อลูกถึงตายก็ได้!“ใครก็ได้!”“เอาพวกมันสองคนไป ทำตามกฏของโลกนักเลง แต่ละคนหักขาข้างหนึ่งเป็นการลงโทษ! "เฉียนเป้าหัวเราะอย่างเย็นชาหลังจากได้ยินคำสั่งของเขา คนของเขาหลายคนที่อยู่ข้างหลังก็พุ่งเข้ามาและจับตัวหลิวฉวนย่าและหลิวซวินสองพ่อลูกทันที“พี่เป้า อย่าเลยนะครับพี่…”“โปรดเมตตา ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะนะพี่…”สองพ่อลูกต่างมีสีหน้าซีดเผือด ก้มหัวร้องขอชีวิตไม่หยุดแต่มันก็ไม่มีประโยชน์“เอาตัวมันไป!”สีหน้าเฉียนเป้าเย็นชา ไม่แสดงอารมณ์ใดหากไม่ทำตามกฏก็ถือว่าไม่รักษาความยุติธรรมถึงแม้เขาไม่รู้ว่าระหว่างหยางซู่กับหลิวฉวนย่ามีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่หลิวฉวนย่าในฐานะเป็นคนของลัทธิเต๋าครึ่งหนึ่ง กล้ามาทำร้ายคนของเขาโดยไม่บอกกล่าว!นี่เป็นการท้าทายอำนาจเหมือนตบหน้าเขาอย่างไรอย่างนั้น!เขาแค่ขอให้คนหักขาข้างหนึ่งของหลิวฉวนย่าและลูกชายของเขา การลงโทษพวกเขาเบา ๆ นี่ก็ถือว่าเมตตาแล
ตอนนี้หยางซู่พูดจาไร้มารยาทกับฉินหมิง ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นมาอย่างไร เขาก็ไม่มีวันทนรับได้!“พี่เป้า เมื่อกี้พี่ยังน่าเกรงขามมากอยู่เลย! ”“พี่นี่ทำให้ผมทึ่งจริง ๆ นะ! ”ฉินหมิงหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมแววตาอาฆาตในดวงตาของเขาหัวใจของเฉียนเป้าสั่นไหวและเขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าฉินหมิงเสียงดัง “คุณฉิน ผมไม่รู้ว่าคุณมาด้วย ถ้าผมล่วงเกินคุณไปตรงไหน ขอคุณได้โปรดอภัยให้ด้วย… ”พอได้เห็นฉากนี้หยางซู่และเถียนปั๋วสองคนตกตะลึงหลิวฉวนย่าและหลิวซวินก็ตกตะลึงแม้แต่เฉินถิงถิง หลี่ฉินและคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงเช่นเดียวกันพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฉียนเป้าซึ่งที่เคยเย่อหยิ่งเมื่อกี้ จนกดข่มทุกคนได้แต่ตอนนี้กลับคุกเข่าให้ฉินหมิง!นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้น?หรือว่าตัวตนของฉินหมิงจะเป็นคนใหญ่คนโตมากกว่าเฉียนเป้า!ผู้คนที่ดูต่างตกใจ มองหน้ากันไปกันมา พวกเขาทุกคนเห็นความตกตะลึงในสายตาของกันและกันโดยเฉพาะหลี่หยวนหยวน เธอตกตะลึงที่สุด!เมื่อหนึ่งเดือนก่อนฉินหมิงยังเป็นพนักงานบริษัทต๊อกต๋อยที่บริษัทมาเจีย เพื่อนร่วมงานทุกคนก็ต่างดูถูกเขา!แต่ตอนนี้เพียงแค่เวลาสั้น ๆ หนึ่งเดือนเท่านั้น ฉินหมิงก็ลอกคราบเหมือนเก
เอาตัวมันไป!”เฉียนเป้าพูดอย่างเย็นชา ลูกน้องหลายคนลากหยางซู่และเถียนปั๋วออกไปราวกับสุนัขจากนั้นเฉียนเป้าก็คุกเข่าขอร้องอ้อนวอนฉินหมิงอีกครั้ง “คุณฉิน ผมมีลูกน้องมากมายทั้งดีและไม่ดี ครั้งนี้เป็นผมที่จัดการไม่ดี ทำให้คุณขุ่นเคือง ต้องขอโทษคุณด้วย…”“แต่ว่าผมเอาชีวิตตัวเองเป็นประกันได้เลย ว่าผมเฉียนเป้ามักจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และดำเนินชีวิตตามมโนธรรมของ… ”“ขอร้องเถอะนะครับ ให้โอกาสผมอีกสักครั้ง…”“ที่คุณพูดน่ะ จริงหรือเปล่า?”ฉินหมิงมองเฉียนเป้าด้วยสายตาเย็นชาเฉียนเป้ารู้สึกถึงความกดดัน แต่เขายังคงมองสบตาของฉินหมิงโดยไม่หลบเลี่ยงพอมองตาของเฉียนเป้า สายตาเขาถือว่าจริงใจมากไม่ได้โกหกแต่อย่างใด ความโกรธในใจของฉินหมิงอดไม่ได้ที่จะบรรเทาลงเล็กน้อย “เห็นว่าคุณจริงใจหรอกนะ ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย! "“แต่อย่าให้มีครั้งหน้าล่ะ!”“คุณฉิน ขอบคุณ ขอบคุณมาก… ”“ผมสัญญาต่อหน้าคุณว่าต่อไปนี้ผมจะจัดการดูแลลูกน้องให้ดี กำจัดลูกน้องที่ไม่รักดีไม่ให้มีครั้งต่อไปอีก!”เฉียนเป้าดีใจมากและสัญญาซ้ำแล้วซ้ำอีก“พอเถอะครับ ลุกขึ้นเถอะ!”น้ำเสียงของฉินหมิงอ่อนลงมาก“ได้ ได้… ”ราวกับว่า
ขอบคุณ ขอบคุณคุณมาก… ”สองพ่อลูกรอดชีวิตได้ พวกเขาดีใจมากและอดไม่ได้ที่จะขอบคุณฉินหมิงถ้าครั้งนี้ไม่ได้ฉินหมิงช่วยไว้ พวกเขาสองพ่อลูกคงโดนหักขาโยนทิ้งเหมือนหมาข้างถนนไปแล้วแต่ฉินหมิงก็ช่วยเขาไว้จากนั้นสองพ่อลูกและเฉียนเป้านั้นก็ได้บอกลาทุกคน ทั้งหมดต่างก็รีบออกไปพร้อมกับคนของตนเมื่อเห็นเฉียนเป้าและคนอื่น ๆ แยกย้ายกันไป ในที่สุดเฉินถิงถิงและหลี่หยวนหยวนก็ฟื้นจากอาการตกใจ“ฉินหมิง นี่นาย…นาย ตกลงแล้วนายเป็นใครกันแน่เนี่ย?”หลี่หยวนหยวนมองฉินหมิงด้วยความตกใจ ราวกับมองคนแปลกหน้า“ผมก็เป็นผมสิครับ จะเป็นใครได้อีก”ฉินหมิงยักไหล่พูด“แต่ว่า…แค่เวลาเดือนเดียวสั้น ๆ ที่ไม่ได้เจอกัน ทำไมนายถึงได้เปลี่ยนได้ขนาดนี้! ”ใบหน้าหลี่หยวนหยวนเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“หนังสือบอกไว้ว่าหลังจากกันไปเพียงสามวันยังเปลี่ยนแปลงได้ นับประสาอะไรกับคนที่ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนใช่ไหมล่ะ?ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มบาง ๆ หลี่หยวนหยวนหน้าแดงเล็กน้อย ไม่นานเธอก็นึกขึ้นได้ว่าตนเคยตั้งแง่กับฉินหมิงมาก่อน เธอกัดริมฝีปากและพูดอย่างจริงใจ “ฉินหมิง ฉันขอโทษ เมื่อกี้ที่พูดไร้มารยาทไปฉันต้องขอโทษนายด้วย หวังว่านายจะไม
หานซีกล่าวเสียงเรียบ“ได้ครับ”ฉินหมิงพยักหน้า เก็บข้าวของและเดินออกไปกับหานซีเมื่อเห็นคนทั้งสองเดินออกไป เพื่อนร่วมงานทุกคนในสำนักงานผู้จัดการทั่วไปก็มองหน้ากันด้วยความประหลาดใจพวกเขารู้ดีว่าฉินหมิงคือเลขาประธาน ตามเหตุผลแล้วจากนี้ไปฉินหมิงควรอยู่และทำงานในสำนักงานผู้จัดการทั่วไปเช่นอู๋จิงและเฉินถิงถิงแต่ตอนนี้หานซีกลับให้ฉินหมิงไปที่สำนักงานผู้จัดการทั่วไปคนเดียว ชายหญิงสองต่อสอง มันดูแปลก ๆ ไปหรือเปล่า?แต่ว่าหลังจากคิดถึงข่าวลือล่าสุดในบริษัทที่ว่าฉินหมิงและหานซีเป็นแฟนกัน ทุกคนก็ได้สติอย่างรวดเร็ว แต่ละคนอุทานโดยปริยายว่าฉินหมิงโชคดีมาก!...สำนักงานผู้อำนวยการฝ่ายขายไม่นานตู้เซียวก็ได้ยินข่าวที่หานซีให้ฉินหมิงย้ายมาทำงานด้วยกัน สีหน้าเขาดูไม่ดีมาก“น่าเกลียดจริง ๆ!”“ไหนบอกกับปากตัวเองว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหมอนั่นไง!”“แล้วตอนนี้ที่พวกเขาทั้งสองย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างโจ่งแจ้งเพื่อแสดงความรัก ยังจะบอกว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกเหรอ!?” “เห็นว่าฉันเป็นคนโง่หรือไง!?”ตู้เซียวโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาคว้าถ้วยชาบนโต๊ะโยนลงพื้นจนถ้วยชาแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีเมื่อ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ