หยางซู่ผงกศีรษะ สีหน้าของเขากลับเคร่งขรึมมากขึ้น"ในเมื่อพวกแกเคยได้ยินชื่อคุณพ่อของฉัน ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!"หลิวซวินแค่นเสียงเย็นชาและแสดงท่าทีน่าเกรงขามออกมา"ญาติผู้พี่ เรื่องนี้..."เทียนปั๋วสีหน้าเขียวคล้ำเพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีเดิมทีคราวนี้เขามีแผนการใหญ่ แต่ไม่นึกฝันเลยว่าหลิวซวินจะโผล่ขึ้นมากลางทางเสียได้ แถมพ่อของอีกฝ่ายก็ค่อนข้างมีความสามารถและใช่ว่าจะล่วงเกินได้ง่าย ๆ อีกต่างหากทว่ายามนี้เขาจะยอมจากไปด้วยความผิดหวังแบบนั้นได้อย่างไรกันเล่า!"พอสักทีเถอะน่า คุณหลิวยังมีอำนาจมากกว่าไอ้ขี้แพ้บางตัวเสียอีก!"เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้เข้า หลี่หยวนหยวนรู้สึกลิงโลดมากเสียจนอดไม่ได้ที่จะชูนิ้วหัวแม่มือให้แก่หลิวซวิน ในขณะเดียวกัน เธอก็มองฉินหมิงด้วยสายตาดูแคลนยิ่งขึ้น"ก็นั่นน่ะสิ ต้องขอบคุณคุณหลิว..."หลี่ฉินกับเฉินถิงถิงเองก็ให้กำลังใจแล้วมองหลิวซวินด้วยสายตาขอบคุณหยางซู่คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอดูบ้าระห่ำและยากจะรับมือได้ยิ่งนัก พวกเธอไม่มีความสามารถที่จะไปจัดการกับเขาได้จึงได้แต่ฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้กับหลิวซวินเท่านั้นแล้วหลังจากได้รับคำชื่นชมพร้อ
"แต่ถ้าแกกล้าก้าวออกมาอีกล่ะก็ ฉันสัญญาว่าจะฆ่าแกก่อนเลย!"หยางซู่มองหลิวซวินด้วยสายตาเย็นชา พร้อมแววตาที่ฝากแฝงไปด้วยเจตนาสังหารอันเยียบเย็น!สีหน้าเช่นนี้แลดูน่าสะพรึงกลัวราวกับอสรพิษที่มีเจตนาร้าย หลิวซวินจึงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้านและจิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนตามท้องถนนและสามารถทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายกลัวเลยสักนิด!"ได้...ดีมาก ฉันจดจำตบครั้งนี้เอาไว้แล้ว เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่!"หลิวซวินรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ หลังจากเอ่ยวาจาเกรี้ยวกราดด้วยสีหน้าเก็บงำอารมณ์ความรู้สึก เขาก็กลอกตาไปข้าง ๆ แล้วยืนอยู่ในสภาพที่น่าอึดอัดใจ เขาไม่กล้าสู้กับอีกฝ่ายสถานการณ์ในยามนี้เปลี่ยนไปรวดเร็วมากเสียจนหลี่ฉิน เฉินถิงถิงและคนอื่น ๆ ราวกับมีน้ำเย็นเฉียบราดรดลงบนศีรษะ อารมณ์ของพวกเธอดิ่งถึงจุดต่ำสุดอย่างรวดเร็วและประกายแสงแห่งความหวังที่เพิ่งจะลุกโชนก็มอดดับไป"นายน้อยหลิว อย่าไปเชียวนะคะ คุณห้ามเมินเฉยเรื่องของคุณป้ากับครอบครัวของญาติผู้น้องเด็ดขาด..."หลี่หยวนหยวนร้อนใจเสียจนคว้าแขนของหลิวซวินเอาไว้"ผมรู้แล้วน่า ผมไม่ได้เมินเฉยสักหน่อย..."หล
"ฉินหมิง แกมันไอ้เศษสวะ!""คนพวกนี้ล้วนมาเพราะแก แต่แกกลับหวาดกลัวเสียจนเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังแถมยังทำตัวราวกับไอ้คนขี้ขลาดตาขาว แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย!"หลี่หยวนหยวนตำหนิฉินหมิงด้วยความโกรธเธอรู้สึกว่าฉินหมิงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวคุณป้าของเธอต้องมาพลอยรับเคราะห์เพราะเรื่องนี้ เธอเกลียดฉินหมิงมากเสียจนต้องเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ"ผมไม่ได้ขี้ขลาดตาขาว!""เมื่อสักครู่นี้ผมคิดจะลุกขึ้น แต่มีใครบางคนตัดหน้าผมไปเสียก่อนแล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะ?"ฉินหมิงยิ้มด้วยความขมขื่นใจแล้วลุกขึ้นในที่สุดทีแรกเขานึกว่าหลิวซวินจะสามารถจัดการเรื่องราวได้โดยไม่ต้องเลือดตกยางออก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะเข้าไปแย่งชิงผลงานกับหลิวซวินแต่สิ่งที่เขาไม่นึกฝันคือ หลิวซวินจะกลายเป็นท่าดีทีเหลวไร้ประโยชน์ไปเสียได้!และในที่สุดเขากลับถูกหลี่หยวนหยวนเรียกว่าไอ้คนขี้ขลาดตาขาวเขารู้สึกแย่เหลือทน!หลังจากนั้นฉินหมิงก็เก็บความสลดหดหู่เอาไว้ในใจ เขาเบนสายตาไปมองเทียนปั๋วแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เทียนปั๋ว เรื่องนี้ล้วนเป็นเพราะฉัน อย่าทำให้ถิงถิงกับครอบครัวของเธอต้องอึดอัดใจเลย ถ้าแกมีปัญญาล่ะก็
เฉินถิงถิงยังรู้สึกกังวลใจอยู่บ้างอย่างไรเสีย รปภ. ส่วนใหญ่ในบริษัทก็เป็นคนธรรมดาสามัญ ย่อมไม่มีอะไรเทียบได้กับแก๊งอันธพาลชั่วที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอ อีกทั้งพลังของทั้งสองฝ่ายก็ใช่ว่าจะอยู่ระดับเดียวกันตอนที่ฉินหมิงถูก รปภ. ธรรมดา ๆ หลายคนรุมทำร้าย เขาก็ตกอยู่ท่ามกลางอันตรายและถึงกับบาดเจ็บอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าการประจันหน้ากับหยางซู่ผู้บ้ำระห่ำและคนอื่น ๆ จะไม่มีทางเป็นไปได้เลย!"ไม่มีอะไรไม่ดีหรอกน่า!""อย่าห่วงไปเลย ผมไม่เป็นอะไรไปเพียงเพราะพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ พวกนี้หรอก!"ฉินหมิงกล่าวพลางยิ้มทะนงตน"ไอ้หนู แกว่าใครเป็นพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ กันวะ?""รนหาที่ตายใช่ไหม?"หยางซู่และคนอื่น ๆ โกรธจัดพลางจ้องมองฉินหมิงด้วยสายตาเคร่งขรึมเย็นชา"ถ้าฉันบอกว่าพวกแกเป็นพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ แล้วยังไงล่ะ!""ในสายตาของฉัน เศษสวะอย่างพวกแกมันแย่เสียยิ่งกว่าพวกกุ้งพวกปลาเน่า ๆ เสียอีก!"ฉินหมิงเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูแคลน"หนอย แกมันรนหาที่ตาย!"หยางซู่โกรธมากเสียจนยกมือตบหน้าฉินหมิงอย่างแรงเพี๊ยะ!เสียงตบดังชัดเจน จากนั้นฉินหมิงก็ใช้หลังมือตบหน้าหยางซู่กลับไปอย่างแรงบ้างหยางซู่หมุนไป
แม้กระทั่งฝันพวกเขาก็คิดไม่ถึง ว่าฉินหมิงตัวคนเดียวจะสู้อันธพาลแปดเก้าคนได้ อีกทั้งยังไม่มีรอยบาดแผลแม้แต่น้อย!นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !โดยเฉพาะเทียนปั๋ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ แทบไม่กล้าเชื่อในสายตาตัวเองเขารู้ว่าฉินหมิงเป็นเพื่อนร่วมงานของเฉินถิงถิง ไม่เข้าใจว่าฉินหมิงก็เป็นแค่พนักงานออฟฟิศทั่วไป แล้วทำไมวิชากังฟูถึงได้เก่งกาจขนาดนี้ได้!นี่มันทำให้เทียนปั๋วทึ่งในตัวฉินหมิงมากในตอนนี้ สถานการณ์เงียบเป็นเป่าสาก ทุกคนตกอยู่ในความเงียบอันน่าขนลุก“เก่ง…เก่งมาก ๆ เลยค่ะ!”เฉินถิงถิงที่ได้สติกลับมาก่อน ดวงตาที่สวยงามเป็นประกายด้วยสีสันฉินหมิงดูหล่อมากเมื่อเขาแสดงพลังของเขาในตอนนี้ ชายคนนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความศรัทธาชื่นชมในตัวฉินหมิง“นั่นน่ะสิ ฉินหมิงนี่กล้าหาญมากเลย! ”ใบหน้าหลี่ฉินและเฉินฮ่าวเต็มด้วยความประหลาดใจ เขาอดไม่ได้ที่จะเชียร์การต่อสู้ของฉินหมิง“นี่…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”หลี่หยวนหยวนอ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อแต่ก่อนฉินหมิงเป็นแค่คนไร้ค่าในบริษัทมาเจีย มีปากก็เหมือนไม่มีสู้ใครก็ไม่ได้แต่ตอนนี้ฉินหมิงได้เปลี่ยนเป
หยางซู่โกรธและมีสีหน้าถมึงทึง“อ้อ อย่างนั้นเหรอ?”“อย่างนั้นฉันให้เวลานายครึ่งชั่วโมง นายก็เรียกคนของนายมา ฉันก็อยากจะเห็นว่านายมีความสามารถแค่ไหน! ”ฉินหมิงหัวเราะเยาะตอนนี้บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าเขาจะทำร้ายหยางซู่แต่เขาก็คงไม่เล่นหยางซู่ถึงตาย อย่างน้อยก็แค่สั่งสอนฝ่ายตรงข้ามแค่นั้น แต่คนของหยางซู่พวกนี้ล้วนเป็นคนไม่เคารพกฎหมาย หากรู้สึกไม่พอใจเพราะเหตุการณ์นี้ ก็อาจตลบหลังเอาคืนเขาในภายหลังหรือไม่ก็อาจระบายความโกรธกับครอบครัวของเฉินถิงถิงพอถึงตอนนั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินกว่าที่คิด!ด้วยระดับวิชากังฟูชั้นสูงของฉินหมิง แน่นอนว่าเขาไม่กลัวการเอาคืนของหยางซู่ แต่เฉินถิงถิงและครอบครัวเป็นสามัญชนคนธรรมดาจะเอาอะไรไปสู้กับการแก้แค้นของหยางซู่ได้?ทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือปล่อยให้หยางซู่ใช้อำนาจของตน จากนั้นเขาก็พยายามเอาชนะอีกฝ่ายให้ยอมจำนนจนกว่าอีกฝ่ายจะหวาดกลัวและสิ้นหวังไป!ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง!“ได้ นี่แกพูดเองนะ”“อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”หยางซู่ดีใจมากและรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเริ่มโทรหาผู้คนพอเห็นฉากนี้ หลี่ฉิน เ
“หรือว่านายคิดว่าวิชากังฟูของนาย จะสู้ทั่วหล้าไร้ผู้ต่อต้านอย่างนั้นเหรอ!”“น่าตลกซะจริง!”หลี่หยวนหยวนตวาดด้วยความโกรธแม้ว่าตอนนี้เธอจะได้เห็นทักษะที่โดดเด่นของฉินหมิงแล้ว แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยอะไรได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหยางซู่โทรหาคนที่มีฝีมือเก่งกว่านี้ หมัดทั้งสองของฉินหมิงนั้นยากที่จะเอาชนะสี่มือและเขาอาจไม่สามารถรับมือกับมันได้แล้วอีกอย่างแม้ว่าฉินหมิงจะสู้ได้แล้วอย่างไรต่อ?ในสังคมยุคใหม่ กังฟูนั้นหมดยุคไปนานแล้ว คนรวยและมีอำนาจเท่านั้นถึงจะเป็นนายได้!หากคนตัวเล็กที่ไม่มีอำนาจเช่นฉินหมิงทำผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจและทำให้คู่ต่อสู้ของเขาพิการในการต่อสู้ เขาอาจจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต!โดยรวมแล้วเธอคิดว่าความคิดของฉินหมิงเป็นจินตนาการเลื่อนเปื้อนล้วน ๆ!“แต่…”เฉินถิงถิงและครอบครัวรู้สึกราวกับว่าน้ำเย็นถูกเทลงมาบนหัวของพวกเขาและหัวใจของพวกเขาก็หนาวเหน็บทันทีพวกเธอรู้ว่าสิ่งที่หลี่หยวนหยวนนั้นก็ถูก เพราะฉินหมิงไร้อำนาจจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยุติเรื่องนี้ถ้าฉินหมิงจัดการไม่ดี ไม่แน่ว่าเขาอาจจะบาดเจ็บ แล้วเขาจะเอาอะไรมาช่วยเธอกับครอบครัวของพวกเธอกันล่ะ?“คุณวางใ
“พ่อ ในที่สุดพ่อก็มา!”ใบหน้าหลิวซวินดีใจและรีบเข้าไปต้อนรับผู้เป็นพ่อได้เห็นรอยแดง ๆ บนหน้าลูกชายแล้วดูเหมือนว่าลูกชายตนจะถูกตบ เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “หลิวซวินใครตบแก ใครมันช่างกล้า! ”“นั่นไงพ่อ เขานั่นแหละ!”หลิวซวินชี้ไปทางหยางซู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดหลังจากโดนอัดไป ไม่ง่ายเลยที่หยางซูและคนอื่น ๆ จะกลับมาเป็นปกติ พวกเขาตะกายลุกขึ้นจากพื้นทีละคนด้วยความยากลำบากแต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอกับหลิวฉวนย่าและคนอื่น ๆ “ให้ตายเถอะ มาให้ฉันสั่งสอนซะดี ๆ !”หลิวฉวนย่าตะคอกด้วยความโมโหก่อนโบกมือ ผู้ชายทุกคนรีบวิ่งไปหาหยางซู่และคนอื่น ๆ ราวกับว่าเป็นหมาป่าและเสือโจมตีเหยื่อ“หลิวฉวนย่า ฉันคือหยางซู่!”“ฉันเตือนนายไว้ก่อนเลย บอสของฉันน่ะ… ”หยางซู่ตกใจมาก เขายังไม่ทันจะเอ่ยนามของหัวหน้าเขา ก็มีชายท่าทางแข็งแรงโบกไม้มาอยู่ต่อหน้าเขา“หยางซู่บ้าอะไร ฉันไม่เห็นเคยได้ยิน!”“มาให้ฉันสั่งสอนซะดี ๆ !”หลิวฉวนย่าตะคอกอย่างเย็นชา สีหน้าของเขาดูถูกเหยียดหยามมากหยางซูเป็นแค่นักเลงปลายแถว ชื่อเสียงก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของหลิวฉวนย่ามาก่อน แต่หลิวฉวนย่าไม่รู้ว่
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ