เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ฉากนี้เข้า หลี่ฉินก็แววตาวูบไหวอยู่สองสามครั้งราวกับเธอเข้าใจอะไรสักอย่างขึ้นมาแล้วผุดรอยยิ้มตรงมุมปาก"เสี่ยวฉิน ป้ามีเรื่องอยากจะถามเธอสักหน่อย แต่ไม่แน่ใจว่าเธอสะดวกที่จะตอบหรือเปล่า"หลี่ฉินถามอย่างค่อนข้างแบ่งรับแบ่งสู้"มีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ?""ป้าหลี่ เชิญถามมาได้เลย"ฉินหมิงยิ้มให้"เธอก็ดูเหมือนจะอายุไม่น้อยแล้ว ป้าอยากรู้ว่าตอนนี้เธอมีแฟนแล้วหรือยัง?"หลี่ฉินถามด้วยท่าทางคร่ำเคร่งและสีหน้าลุ่มลึกแม่กับลูกสาวสื่อใจถึงกันได้ หลังจากได้ยินคำถามของแม่ตนเอง เฉินถิงถิงก็คาดเดาเจตนาของแม่ได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้างดงามกว่าครึ่งของเธอเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เธอก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาแม่ของตัวเอง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องสบตากับฉินหมิงเลย"ยังไม่มีหรอกครับ......"ฉินหมิงส่ายหน้าแล้วหยุดพูดถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีแฟน แต่ก็เพิ่งหย่าร้างมาไม่นานนี้เองทว่าอย่างไรเสียการหย่าร้างก็ไม่ใช่เรื่องสวยงามอะไร ในเมื่อหลี่ฉินไม่ได้ถามถึงเรื่องนั้น เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมาก"ป้าไม่คาดคิดเลยว่าเธอที่ยอดเยี่ยมและนิสัยดีออกขนาดนั้น กลับยังไม่มีแฟนเลย!"หลี่ฉินรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง
นอกประตู มีสาวสวยอายุราว ๆ ยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีเดินเข้ามาพร้อมชายหนุ่มสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอ"ญาติผู้พี่ พี่เขย พวกพี่มาที่นี่กันทำไมเหรอ?"เฉินถิงถิงรู้สึกประหลาดใจหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอคือลูกสาวของน้าชาย หลี่หยวนหยวนญาติผู้พี่ของเธอชายหนุ่มที่ตามหลี่หยวนหยวนมาด้วยคือ อู๋เทาพี่เขยของเธอพ่อของเฉินถิงถิงหนีออกจากบ้านแล้วหายตัวไปตั้งแต่เธอยังเด็ก เป็นแม่ของเธอที่ต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูสองพี่น้องให้เติบโตขึ้นมาตามลำพังระหว่างนี้เอง น้าชายรวมทั้งหลี่หยวนหยวนญาติผู้พี่ของเธอกับญาติบางคนก็ช่วยเหลือครอบครัวของพวกเธอเอาไว้มากนอกเหนือไปจากนั้น เธอกับหลี่หยวนหยวนก็เติบโตขึ้นมาด้วยกันและพวกเธอก็สนิทสนมกันมากด้วยคราวนี้แม่ของเธอป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ดังนั้นเธอจึงขอยืมเงินหลายแสนบาทจากหลี่หยวนหยวนญาติผู้พี่ของตนเองทั้งน้าชายและหลี่หยวนหยวนญาติผู้พี่ของเธอต่างช่วยเหลือครอบครัวของเธอกันอย่างสุดความสามารถ ครอบครัวของพวกเธอรู้สึกซาบซึ้งใจมาโดยตลอด"ถิงถิง ฉันได้ยินว่าคุณป้าออกจากโรงพยาบาลแล้ว พอดีวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ พี่เขยของเธอกับฉันไม่ต้องไปทำงาน พวกเราก็เลยหาเวลามาเย
เฉินถิงถิงหน้าตาสวยจัดแถมตอนนี้ยังตั้งใจแต่งเนื้อแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ประกอบกับท่าทางบริสุทธิ์ไร้ราคีทำให้เธองดงามเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนงามพิสุทธิ์เช่นนั้นมาก่อนเลยนับตั้งแต่ชั่ววินาทีแรกที่เขาได้เห็นเฉินถิงถิง เขาก็รู้สึกตกตะลึงและพึงพอใจที่เฉินถิงถิงเป็นดั่งที่เขาต้องการ"คุณหลิว คุณชมเกินไปแล้วค่ะ..."เฉินถิงถิงยิ้มอ่อนโยนและดูขัดเขินอยู่บ้างเธอเพิ่งจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัย เธอจึงคิดว่าตัวเองยังเด็กมากและไม่จำเป็นต้องไปนัดบอดในตอนนี้แต่อย่างไรเสียหลี่หยวนหยวนก็มีเจตนาดี ถ้าเป็นยามปกติเธอก็คงจะไว้หน้าญาติผู้พี่ของตัวเองและเสแสร้งแกล้งทำอยู่บ้างแต่สถานการณ์ในวันนี้ออกจะพิเศษอยู่สักหน่อย ครอบครัวของพวกเธอกำลังจัดงานเลี้ยงให้แก่ฉินหมิง เพราะอยากจะขอบคุณในน้ำใจของฉินหมิงตอนนี้จู่ ๆ ญาติผู้พี่ของเธอก็เข้ามาเจ้ากี้เจ้าการนัดบอด เธอคงไม่สามารถทิ้งฉินหมิงไปนัดบอดกับคนอื่นได้หรอกมั้ง?ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็มีใจให้ฉินหมิงและไม่อยากนัดบอดต่อหน้าฉินหมิงด้วย"หยวนหยวน อู๋เทา พวกเธอนี่เอง!""พวกเธอกินข้าวมาหรือยังล่ะ? อยากเข้ามากินอะไรด้วยกันหน่อยไหม?"
ตอนนี้เธอบอกเรื่องนี้ให้หลี่หยวนหยวนได้รู้แล้ว เธอก็ทำได้แค่แบ่งรับแบ่งสู้เท่านั้น เช่นนี้หลี่หยวนหยวนก็จัดการเรื่องนัดบอดให้เฉินถิงถิงไม่ได้และหลีกเลี่ยงความกระอักกระอ่วนของทุกคนได้อีกด้วย"จะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน!""คุณป้าคะ ฉินหมิงคนนี้เป็นขี้แพ้ตัวเอ้ แถมมันยังเป็นผู้ชายที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้วด้วย มันจะคู่ควรกับถิงถิงได้ยังไงกัน!""คุณป้าคงจะถูกมันหลอกเข้าแล้วใช่ไหมคะ?"หลี่หยวนหยวนรู้สึกตื่นตกใจมากเสียจนปากอ้าตาค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ"อะไรนะ?""ขี้แพ้? เธอเคยหย่ามาแล้วงั้นเหรอ?""หยวนหยวน เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"หลี่ฉินผงะอึ้งแล้วมองหลี่หยวนหยวนด้วยสีหน้าสับสน เพราะสงสัยถึงสาเหตุที่ทำให้หลี่หยวนหยวนพูดแบบนี้"หนูไม่ได้เข้าใจผิดหรอกค่ะ!""คุณป้าคะ คุณป้าอาจจะไม่รู้ว่ามันเคยเป็นเขยตระกูลหม่า เมื่อไม่นานมานี้มันถูกหม่าลู่สวมเขาแล้วไล่ออกจากบ้าน..."หลี่หยวนหยวนอธิบายสถานการณ์พอสังเขปเธอยังคงทำงานอยู่ในบริษัทของตระกูลหม่า เธอจึงพอจะทราบเรื่องราวภายในเกี่ยวกับการหย่าร้างของฉินหมิงกับหม่าลู่มาบ้าง อีกทั้งเธอยังรู้ว่าฉินหมิงถูกหม่าลู่ขับไล่อีกด้วย!ไอ้ขี้
"เอาล่ะ เอาล่ะเลิกแก้ตัวได้แล้วน่า!""พวกเราล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายกันทั้งนั้น ฉันยังไม่เข้าใจว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่!""ฉันขอบอกขี้แพ้อย่างแกว่าควรจะเลิกเพ้อฝันเรื่องคางคกริอ่านจะกินเนื้อหงส์ได้แล้ว!""แกมันไม่คู่ควรหรอก!"หลิวซวินยิ้มเยาะเฉินถิงถิงแลดูงามพิสุทธิ์ถึงขนาดนั้น ชายใดก็คงอดไม่ได้ที่จะจิตใจหวั่นไหว เขาไม่เชื่อหรอกว่าฉินหมิงจะไม่มีความคิดชั่วร้ายกับเฉินถิงถิงเขาจะต้องหาทางตัดไฟเสียแต่ต้นลม!"คุณพูดไม่ผิดหรอก ผมเป็นคางคก แต่ผมเกรงว่าคุณเองก็ยังไม่ดีเท่าคางคกเสียด้วยซ้ำไป!"ฉินหมิงสีหน้าหม่นคล้ำ เพราะรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทางโอหังของหลิวซวิน"ไอ้หนู แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงได้มาพูดกับฉันแบบนี้!""แกเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วใช่ไหม?"หลิวซวินโกรธจัดพลางจ้องฉินหมิงตาเขม็งถ้าเขาไม่ติดที่ว่าอยากจะสร้างความประทับใจดี ๆ ให้แก่เฉินถิงถิงล่ะก็ เขาคงพุ่งเข้าไปสั่งสอนฉินหมิงแล้ว!"ฉินหมิง หุบปากไปซะ!""เศษสวะอย่างแกจะมาเทียบกับคุณหลิวได้ยังไงกัน? เขาโดดเด่นกว่าแกทุกด้านเป็นร้อย ๆ เท่า!"หลี่หยวนหยวนตะคอกด้วยความโมโหจัดแล้วรีบบอกกับหลี่ฉินว่า "คุณป้าคะ หนูไม่รู
เมื่อเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น เทียนปั๋วพร้อมชายหนุ่มท่าทางดุดันแกร่งกล้าอีกเจ็ดแปดคนก็เดินเข้ามาจากทางด้านข้างคนที่เดินนำหน้าเป็นชายหนุ่มในวัยสามสิบต้น ๆ ที่มีรอยสักตรงแขนและลำคอ เขามีกลิ่นอายบ้าระห่ำยิ่งนัก เห็นได้ชัดในปราดเดียวเลยว่าเขาเป็นผู้มีอุปนิสัยโหดเหี้ยมที่ใช่ว่าใครจะเข้าไปยุ่งด้วยได้ง่าย ๆเขาคือหยางซู่ญาติผู้พี่ของเทียนปั๋ว"เทียนปั๋ว แกมาทำอะไรที่นี่!"ใบหน้าสวย ๆ ของเฉินถิงถิงเปลี่ยนสีไปบ้างหลี่ฉินกับเฉินฮ่าวแม่ลูกก็หน้าเปลี่ยนสีเช่นกันแม้แต่หลี่หยวนหยวนกับอู๋เทาก็รู้สึกตื่นตกใจกับร่างกายบึกบึนและกลิ่นอายบ้าระห่ำของฝ่ายตรงข้าม"เธอพูดอะไรน่ะ?""แน่นอนว่าฉันย่อมต้องมาแก้แค้นไอ้เด็กฉินหมิงคนนั้นน่ะสิ ไม่งั้นฉันยังจะทำอะไรได้อีกเล่า?"เทียนปั๋วยิ้มเย็นชา"เทียนปั๋ว ยังไงซะพวกเราสองครอบครัวก็เป็นเพื่อนบ้านกันมาหลายปี ธะ...เธอต้องการอะไรกันแน่?"หลี่ฉินเอ่ยเสียงลุ่มลึกพร้อมหน้าตาเหยเก"ป้าหลี่ ในเมื่อป้าแก่แล้ว ผมจะบอกอะไรสักอย่างตามตรงก็แล้วกัน !""คราวนี้ผมถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าฉินหมิงจะเป็นตัวการ แต่ทั้งครอบครัวของป้าก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างไม่อาจห
หยางซู่ผงกศีรษะ สีหน้าของเขากลับเคร่งขรึมมากขึ้น"ในเมื่อพวกแกเคยได้ยินชื่อคุณพ่อของฉัน ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!"หลิวซวินแค่นเสียงเย็นชาและแสดงท่าทีน่าเกรงขามออกมา"ญาติผู้พี่ เรื่องนี้..."เทียนปั๋วสีหน้าเขียวคล้ำเพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีเดิมทีคราวนี้เขามีแผนการใหญ่ แต่ไม่นึกฝันเลยว่าหลิวซวินจะโผล่ขึ้นมากลางทางเสียได้ แถมพ่อของอีกฝ่ายก็ค่อนข้างมีความสามารถและใช่ว่าจะล่วงเกินได้ง่าย ๆ อีกต่างหากทว่ายามนี้เขาจะยอมจากไปด้วยความผิดหวังแบบนั้นได้อย่างไรกันเล่า!"พอสักทีเถอะน่า คุณหลิวยังมีอำนาจมากกว่าไอ้ขี้แพ้บางตัวเสียอีก!"เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้เข้า หลี่หยวนหยวนรู้สึกลิงโลดมากเสียจนอดไม่ได้ที่จะชูนิ้วหัวแม่มือให้แก่หลิวซวิน ในขณะเดียวกัน เธอก็มองฉินหมิงด้วยสายตาดูแคลนยิ่งขึ้น"ก็นั่นน่ะสิ ต้องขอบคุณคุณหลิว..."หลี่ฉินกับเฉินถิงถิงเองก็ให้กำลังใจแล้วมองหลิวซวินด้วยสายตาขอบคุณหยางซู่คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอดูบ้าระห่ำและยากจะรับมือได้ยิ่งนัก พวกเธอไม่มีความสามารถที่จะไปจัดการกับเขาได้จึงได้แต่ฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้กับหลิวซวินเท่านั้นแล้วหลังจากได้รับคำชื่นชมพร้อ
"แต่ถ้าแกกล้าก้าวออกมาอีกล่ะก็ ฉันสัญญาว่าจะฆ่าแกก่อนเลย!"หยางซู่มองหลิวซวินด้วยสายตาเย็นชา พร้อมแววตาที่ฝากแฝงไปด้วยเจตนาสังหารอันเยียบเย็น!สีหน้าเช่นนี้แลดูน่าสะพรึงกลัวราวกับอสรพิษที่มีเจตนาร้าย หลิวซวินจึงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้านและจิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนตามท้องถนนและสามารถทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายกลัวเลยสักนิด!"ได้...ดีมาก ฉันจดจำตบครั้งนี้เอาไว้แล้ว เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่!"หลิวซวินรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ หลังจากเอ่ยวาจาเกรี้ยวกราดด้วยสีหน้าเก็บงำอารมณ์ความรู้สึก เขาก็กลอกตาไปข้าง ๆ แล้วยืนอยู่ในสภาพที่น่าอึดอัดใจ เขาไม่กล้าสู้กับอีกฝ่ายสถานการณ์ในยามนี้เปลี่ยนไปรวดเร็วมากเสียจนหลี่ฉิน เฉินถิงถิงและคนอื่น ๆ ราวกับมีน้ำเย็นเฉียบราดรดลงบนศีรษะ อารมณ์ของพวกเธอดิ่งถึงจุดต่ำสุดอย่างรวดเร็วและประกายแสงแห่งความหวังที่เพิ่งจะลุกโชนก็มอดดับไป"นายน้อยหลิว อย่าไปเชียวนะคะ คุณห้ามเมินเฉยเรื่องของคุณป้ากับครอบครัวของญาติผู้น้องเด็ดขาด..."หลี่หยวนหยวนร้อนใจเสียจนคว้าแขนของหลิวซวินเอาไว้"ผมรู้แล้วน่า ผมไม่ได้เมินเฉยสักหน่อย..."หล