แต่น่าเสียดาย กว่าจะคิดได้มันก็สายเกินไปเสียแล้วผู้เป็นหัวหน้าเดินมาอย่างสง่าผ่าเผย มองตรงไปที่ฉินหมิง "นี่พ่อหนุ่ม นายมาจากที่ไหนกัน? กล้าทำร้ายคนของฉันในเขตของฉัน กล้ามากนะ!"ฉืนหมิงวางหลินหว่านชิงลง มองหน้าเขาตรง ๆ ไม่เกรงกลัว “นายเป็นใคร?”“ช่างประสบการ์ณน้อยซะจริง! ”“นี่ ฉันจะบอกแกให้นะ นี่คือพี่เสือดาว หัวหน้าของเขตของเราใกล้กับภูเขาอวิ๋นอู้!ชายใส่ต่างหูพูดอย่างเย่อหยิ่งในเวลานี้ความเคลื่อนไหวที่นี่ได้สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาแล้ว พวกขี้กลัวบางคนรีบจากไป ในขณะที่ผู้กล้าบางคนยังเฝ้าดูกเหตุการณ์จากระยะไกล ๆ หลังจากฟังที่ชายใส่ต่างหูพูดชื่อเสียงของผู้นำชายคนนั้นเสร็จ ผู้คนที่ดูอยู่ต่างตกใจ เกิดความโกลาหลขึ้นทันที“พี่เป้างั้นเหรอ?เป็นเขานี่เอง!”“มีข่าวลือว่าเฉียนเป้าถือมีดใหญ่อยู่บนถนนเมื่อกว่าสิบปีก่อน เขาฟันศัตรูสิบเจ็ดสิบแปดคนตัวคนเดียวและไล่ตามพวกเขาไปตามถนนสามสาย!”“จากนั้นมาเขาก็มีชื่อเสียงในด้านต่อสู้ และค่อย ๆ เข้าควบคุมกองกำลังใต้ดินในพื้นที่ใกล้ภูเขาอวิ๋นอู้ เขากลายเป็นราชาและมีอำนาจ ผู้คนบนท้องถนนต่างเรียกเขาด้วยความเคารพว่าพี่เป้า!“หมอ
หากฉินหมิงโดนโจมตีหลบไม่ได้สักสองสามครั้ง ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ!อีกอย่างเงินห้าสิบล้านสำหรับเธอก็ถือว่าไม่ได้มากมาย ถ้าเงินนี้ซื้อความปลอดภัยของเธอและเขาได้ เธอก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าแก่การที่จะเสีย“นี่เธอพูดจริงเหรอ?”เฉียนเป้าตกใจมากจนอ้าปากค้างเขาคิดไม่ถึงมาก่อนว่าหลินหว่านชิงจะตอบรับข้อเสนอของเขา!เงินจำนวนห้าสิบล้านมันไม่ใช่เงินน้อย ๆ เป็นเงินที่ครึ่งชีวิตกว่าเขาจะหามาได้ ใจเขาถึงกับเต้นรัวถ้าหลินหว่านชิงยอมจ่ายค่าหมอห้าสิบล้านล่ะก็ ความคับข้องใจระหว่างทั้งสองฝ่ายได้ถูกขจัดออกไปแล้ว ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย“พี่เฉียน พี่อย่าฟังเธอพูดนะ!”“ตอนที่เธอกับหมอนั่นมาก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ซอมซ่อมา ไม่ต้องพูดถึงห้าสิบล้าน แค่ห้าแสนก็ไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่า! ”ชายใส่ต่างหูหัวเราะอย่างเย็นชา“ให้ตายเถอะ นี่เธอหลอกฉันเหรอ!”เฉียนเป้าโมโหจัด“ฉันไม่ได้หลอกนาย ฉันพูดเรื่องจริง ”“ถ้านายไม่เชื่อล่ะก็ ตอนนี้ฉันเขียนเช็กให้นายก็ได้”หลินหว่านชิงดูสงบและหยิบเช็กออกจากกระเป๋าของเธอ“เช็กจะมีประโยชน์อะไร ใครจะไปรู้ที่เธอออกมามันจะไม่ใช่เช็กเปล่า!”“ฉันต้องการเงินส
“ขอแค่ให้นายออกไปจากตรงนี้ก่อน จากนั้นก็รีบติดต่อพวกเขาซะ ถึงตอนนั้นพวกเขาลงมือฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ… ”นับตั้งแต่หลินหว่านชิงถูกพวกอันธพาลลักพาตัวครั้งที่แล้ว นายท่านหลินก็ได้ส่งกำลังคนพิเศษเพื่อปกป้องความปลอดภัยของเธออย่างลับ ๆ แต่ว่าโดยปกติแล้วเธอไม่ค่อยอยากให้ใครมารบกวนชีวิตเธอ กำลังคนพิเศษเลยอยู่ไกล ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้เธอจนมากเกินไปสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้กะทันหันมากจนเธอสามารถคาดเดาได้โดยไม่ต้องคิดว่ากำลังคนพิเศษที่รับผิดชอบในการปกป้องเธออาจอยู่ไกลเกินไปและไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติในทันทีขอแค่ฉินหมิงหลบหนีและรีบไปรายงานข่าว ปัญหาทั้งหมดก็สามารถแก้ไขได้!“หว่านชิง ผมไม่สนว่ามันจะเป็นแผนการชั่วคราวหรือไม่ แต่สิ่งที่ผมรู้คือผมไม่มีทางปล่อยให้คุณตกอยู่ในอันตรายคนเดียวได้ แม้แต่เฉียดอันตรายก็ไม่ได้! ”ฉินหมิงกล่าวอย่างหนักแน่นในความเป็นจริง เขายังเข้าใจด้วยว่าวิธีการของหลินหว่านชิงนั้นปลอดภัยกว่า แต่การทิ้งหลินหว่านชิงไว้ตามลำพังที่นี่นั้นอันตรายเกินไป และเขาก็ทำไม่ได้!“นี่นาย…อยากให้ฉันโกรธนายหรือไง…”หลินหว่านชิงโกรธมากจนเธอต้องการเปิดกระโหลกของเขา เพื่อดูว่าในหัวสมองเข
“ได้ กล้าดีนี่ นี่แกหาเรื่องใส่ตัวเองนะ!”“นี่พวกแกเริ่มเลย อัดซะแล้วโยนให้หมามันกิน! ”เฉียนเป้าหัวเราะด้วยความโกรธ ก่อนโบกมือแล้วออกคำสั่งให้ลงมือคนเหล่านี้พร้อมที่จะลงมือแล้ว แต่ละคนกวัดแกว่งอาวุธและรีบวิ่งไปหาฉินหมิงอย่างดุร้าย“แน่จริงก็เข้ามา!”ฉินหมิงตะคอกเสียงดัง เพื่อปกป้องหลินหว่านชิง เขาไม่กล้าห่างจากหลินหว่านชิงแม้แต่ก้าวเดียว เขาไม่กล้าแม้แต่จะหลบการโจมตีของศัตรูโดยไม่ตั้งใจ เกรงว่าการโจมตีของคู่ต่อสู้จะพลาดโดนหลินหว่านชิงสู้เว้ย!ฉินหมิงกัดฟันพูด เขารวบรวมพลังวิญญาณไว้บนหลัง ต่อต้านการโจมตีของแท่งเหล็กสามแท่ง และปล่อยเสียงครวญครางอู้อี้จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปในอากาศและเตะศัตรูทั้งสามออกไปด้วยการเตะต่อเนื่องศัตรูสองคนที่ติมีมีดพร้าใช้โอกาสนี้ก็เข้ามาหาฉินหมิงโดยคลุมหัวไว้ฉินหมิงยังคงสงบนิ่งเมื่อเผชิญกับอันตราย เขาเอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือของศัตรู คว้ามีดพร้าจากมือของคู่ต่อสู้ จากนั้นเหวี่ยงหลังมือและโจมตีแขนของอีกฝ่ายก่อนฉึบ!เลือดกระเซ็นไปทั่วทุกแห่ง และศัตรูก็ส่งเสียงกรีดร้องก่อนถูกฉินหมิงเตะลงกับพื้นพอได้เห็นฉากนี้ เฉียนเป้าและทุกคนต่างตกใจใหญ่คนเ
ฉึบ!เฉียนเป้าฟันถูกหลังของฉินหมิงอย่างแรงจนเลือดกระเซ็นไปทุกที่ และเลือดที่สาดออกมาจากหลังของฉินหมิงกระเด็นเข้าใส่ใบหน้าของหลินหว่านชิงพรึบ!หลินหว่านชิงนิ่งงันทำอะไรไม่ถูก หัวสมองขาวโพลน!เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าเลือดของฉินหมิงนั้นอุ่นร้อน แต่หัวใจของเธอกลับรู้สึกเย็นเยียบราวกับว่าโลกกำลังแตกสลายและกำลังจะสิ้นสุดลง ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็ดำมืด ร่างกายของเธอโงนเงนและเธอก็เกือบจะล้มลงกับพื้น“เจ็บจัง…”ใบหน้าของฉินหมิง บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด โชคดีที่เขาได้รวบรวมพลังทางจิตวิญญาณไว้ล่วงหน้าเพื่อรับมือดังนั้นมีดจึงฟันเข้าไม่ลึกมาก ไม่เช่นนั้นถึงไม่ตายเขาก็คงบาดเจ็บสาหัสแน่“นี่แกจะเล่นฉันตายเลยหรือไง!”ฉินหมิงกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดที่หลัง ก่อนหันกลับมาและต่อยออกไปอีกหมัด โจมตีใส่หน้าอกของเฉียนเป้าอย่างรวดเร็วด้วยพลังที่ทรงพลังพอที่จะทำให้อนุสาวรีย์แตกและก้อนหินแหลกได้เฉียนเป้าถึงกับอึ้ง มือที่ว่างอีกข้างก็ยกหมัดขึ้นและป้องกันการโจมตีของฉินหมิงผั๊วะ!หลังจากการปะทะกันอย่างรุนแรง ฉินหมิงอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองก้าวในทางกลับกันเฉียนเป้าก็ถอยหลังไปห้าหรือหกก้าวติดต่อกัน มี
นักสู้ฝึกฝนพลังงานที่แท้จริงและความแข็งแกร่งภายใน และวิธีการโจมตีของพวกเขานั้นซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ พลังของฉินหมิงไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเขามากนัก หากฉินหมิงอาศัยเพียงความเร็วเท่านั้นไม่มีทางที่เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้!ทันทีที่คิดถึงสิ่งนี้ ความกลัวในใจของเฉียนเป้าก็อันตรธานหายไป เขาเหวี่ยงมีดพร้าในมือและโจมตีฉินหมิงอย่างดุเดือดฉินหมิงกระตือรือร้นที่จะต่อสู้อย่างรวดเร็วและไม่ได้หลบ เขาเผชิญหน้ากับการโจมตีของเฉียนเป้าอย่างรวดเร็วด้วยมีดของเขาเปรี๊ยะ!ด้วยการปะทะกันอย่างรุนแรง มีดพร้าทั้งสองปะทะกันทำให้เกิดประกายไฟ“แก ตายซะเถอะ!“เฉียนเป้าแสยะร้ายยิ้ม ระดมพลังในร่างกายเขาอย่างฮึกเหิม และพุ่งไปหาฉินหมิงพร้อมมีดพร้าในมือ พยายามใช้พลังที่แท้จริงของเขาโจมตีฉินหมิงเป็นครั้งที่สองตอนนี้การเคลื่อนไหวของฉินหมิงเริ่มช้าแล้ว หากฉินหมิงไม่ใช่นักสู้ เขาจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีครั้งที่สองของพลังงานที่แท้จริงของเขาได้ พอถึงตอนนั้นฉินหมิงจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!“คนที่ควรลงไปนอนเป็นแกต่างหาก!”ฉินหมิงเยาะเย้ยและระดมพลังจิตวิญญาณของเขาเพื่อโจมตีพลังงานที่แท้จริงของเฉียนเป้าอย่างรว
นี่เขาเป็นคนจริง ๆ เหรอนี่!ย้อนกลับไปในสมัยนั้นเฉียนเป้าเอาชนะศัตรูได้สิบเจ็บสิบแปดคน มีชื่อเสียงในการสู้ครั้งเดียวและวางอำนาจบาตรใหญ่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา!แต่ว่าตอนนี้ฉินหมิงกลับจัดการได้ถึงสามสิบสี่สิบคน อีกทั้งเฉียนเป้ายังเป็นคนที่เก่งที่สุดในย่านนี้!ใคร ๆ ก็สามารถจินตนาการถึงความน่ากลัวของความแข็งแกร่งนี้ได้!ชั่วครู่หนึ่งทุกคนต่างตกตะลึงกับพลังอันมหาศาลและอยู่ยงคงกระพันของฉินหมิง!“ซินเอ๋อร์ นี่มัน…เป็นเรื่องจริงเหรอ?”“ฉัน…ฉัน ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม…”เสียงของแฟนหนุ่มของซินเอ๋อร์สั่นเทาและเขาก็ตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อนึกถึงแผนการก่อนหน้านี้ของเขาที่จะสั่งสอนฉินหมิง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาโง่แค่ไหน!โชคดีที่เขายังไม่ได้หาเรื่องฉินหมิง ไม่อย่างนั้นคนที่นอนกองกับพื้นคงต้องมีเขาอีกคนแน่นอน!“ที่รัก นี่…นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว พวกเราหลบห่างกันหน่อยเถอะ อย่าให้เขาเห็นเราเลย…“ซินเอ๋อร์ตกใจถึงกับหน้าถอดสี และรีบดึงมือแฟนหนุ่มออกให้จากตรงนั้น ในใจลึก ๆ กลัวว่าฉินหมิงจะมาคิดบัญชีกับพวกเธอทีหลังอีกอย่างเธอได้ไลฟ์สดทางโทรศัพท์มือถือของเธอแล้ว และฉากความกล้าหาญและการอยู่ยงคงกระพ
ตอนแรกฉินหมิงคิดว่ามีศัตรูอีกพวกมาโจมตี หัวใจของเขาบีบรัด เขากำลังตั้งท่าแต่ไม่นานก็พบว่าอีกฝ่ายดูคุ้นเคยจากนั้นเขาก็มองอย่างพิจารณาและจำได้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบอดี้การ์ดทั้งหกของหลินหว่านชิง“คุณหนูใหญ่ครับ!“”พวกผมมาช้าเกินไป เชิญคุณหนูลงโทษพวกผมได้เลยครับ… ”บอดี้การ์ดทั้งหกคุกเข่าต่อหน้าหลินหว่านชิงทีละคน ทุกคนมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีเป็นอย่างมากโดยปกติหลินหว่านชิงจะไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าใกล้เกินไป และจุดชมวิวก็เป็นสถานที่สาธารณะที่มีผู้คนหนาแน่น จึงไม่ใช่สถานที่ที่พวกอันธพาลก่อความวุ่นวายเพราะฉะนั้นพวกเขาจึงชะล่าใจไม่ได้ตามใกล้ชิดอย่างที่ควรจะทำจนกระทั่งฉินหมิง เฉียนเป้าและคนอื่น ๆ เริ่มต่อสู้กัน และทั้งสองฝ่ายส่งเสียงดังมากจนพวกเขาเอะใจแต่โชคดีว่าฉินหมิงช่วยปกป้องหลินหว่านขิงแทนพวกเขา มิฉะนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับหลินหว่านชิงพวกเขาอาจถูกตำหนิหรือขั้นลงโทษถึงตายได้!“พวกนายลุกขึ้นเถอะ!”“เป็นเพราะฉันไม่อนุญาตให้พวกนายเข้าใกล้ ฉันไม่ถือโทษพวกนายหรอก”หลินหว่านชิงพูดอย่างเรียบง่าย ไม่ได้ระบายความโกรธกับบอดี้การ์ดบอดี้การ์ดโล่งใจและลุกขึ้นยืน“คุณ…คุณหนูใหญ่