Share

บทที่ 130

Author: โม่เสียวชี่
แววตาเมื่อครู่ของหมิงอ๋อง แทบจะอยากเฆี่ยนตีนางให้เป็นแผลจนไม่เหลือชิ้นดีเสียตรงนั้น เอาให้ครึ่งเป็นครึ่งตายถึงจะสาแก่ใจด้วยซ้ำด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนไม่พูด ในหัวเต๋อกุ้ยเฟยก็พลันว่างเปล่า

นางครุ่นคิดก่อนจะส่งสายให้กับหัวหน้านางบ่าวของตน

หัวหน้านางบ่าวพยักหน้าในทันใด เดินนำนางบ่าวและขันทีออกไปนอกห้อง

ภายในห้องเหลือเพียงเต๋อกุ้ยเฟย ฮูหยินหลิน และเฉียวเนี่ยน

ฮูหยินหลินประหลาดใจ เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ "กุ้ยเฟยจะ..."

ทว่ากลับเห็นภาพเต๋อกุ้ยเฟยกุมมือเฉียวเนี่ยน เอ่ยเสียงอ่อน "เจ้ารอสักครู่"

ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง ไม่นานก็ออกมา

ในมือถือโฉนดที่ดินฉบับหนึ่ง

"นี่คือกิจการนอกวังของข้า เป็นร้านขายเสื้อผ้า เจ้ารับไว้เสีย"

ขณะพูดนั้นนางก็ยัดโฉนดที่ดินใส่มือเฉียวเนี่ยน

เฉียวเนี่ยนตกใจไม่น้อย อันที่จริงวันนี้นางมาเพื่อหมิงอ๋อง ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับสิ่งใดจากเต๋อกุ้ยเฟย

แม้แต่ฮูหยินหลินเองก็ตกตะลึง "นี่คือสินเดิมของท่านนะเพคะ ราคาสูงเกินไป! ไม่ได้เด็ดขาดเพคะ!"

"ประเดี๋ยวเนี่ยนเนี่ยนก็จะเป็นสะใภ้ของข้าแล้ว เหตุใดจะไม่ได้?" เต๋อกุ้ยเฟยเอ่ย เมื่อเห็นว่าท่าทีว่าเฉียวเนี่ยนจะไม่ยอมร
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 131

    เมื่อเห็นบนใบหน้าว่าเฉียวเนี่ยนไม่มีท่าทีหวาดกลัวต่อเฉิงซีแม้แต่น้อย หมิงอ๋องก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเฉียวเนี่ยนตั้งใจจะพาเขาไปที่ใดกันแน่ในตอนนั้นเขาก็พยักหน้าเล็กน้อย รอยยิ้มที่มุมปากเต็มไปด้วยความดูแคลนเขาไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะสามารถหนีรอดจากกำมือของเขาได้คนที่พ่อแม่ส่งตัวมาให้เขาเองถึงหน้าประตู จะหลุดมือเขาไปได้อย่างไร?เพียงแต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือ เฉียวเนี่ยนพาเขาไปยังโรงน้ำชาหยวนไหลซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาเคยตกลงนัดพบกันในตอนแรก แต่กลับถูกหลินเย่ว์สับเปลี่ยนจดหมาย ทำให้สุดท้ายทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันโรงน้ำชามีทั้งหมดสองชั้น ชั้นล่างจะมีห้องโถงใหญ่ตรงกลางซึ่งมีเวทีเล็กๆ บนเวทีนั้นจะมีนักร้องหญิงขึ้นร้องเพลงเสมอ และบางครั้งก็จะมีการแสดงการเล่นกลด้วยแต่วันนี้บนเวทีนั้นกลับเป็นนักเล่าเรื่องคนหนึ่งเรื่องราวดูเหมือนจะน่าสนใจมาก ลูกค้าในโรงชาต่างก็ฟังอย่างตั้งใจเฉียวเนี่ยนกับหมิงอ๋องนั่งลงตรงที่ที่เด็กรับใช้ในโรงน้ำชาแนะนำแต่เมื่อเด็กรับ้รินน้ำชาเสร็จ สีหน้าของหมิงอ๋องก็เปลี่ยนไปทันทีเพราะว่านักเล่าเรื่องที่กำลังเล่าไม่ได้เล่าเรื่องของคนอื่น แต่เป็นเรื่องของเขาเอง!ถึ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 132

    หากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันหมดแล้ว อย่าพูดถึงแค่การแต่งงานระหว่างหมิงอ๋องกับจวนโหวเลย แม้แต่การแต่งงานกับตระกูลเสนาบดีที่มีอำนาจในราชสำนักเขาก็ไม่มีสิทธิ์ และเขาก็ไม่มีทางกลับเข้าเมืองหลวงได้อีกตลอดชีวิต!และในตอนนั้น สำหรับหมิงอ๋อง การกลับเข้าเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้วสิ่งที่สำคัญคือศักดิ์ศรีของเขา คือเกียรติของเขาในฐานะบุรุษคนหนึ่ง!ความบกพร่องทางร่างกายของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครรู้เป็นอันขาด!หมิงอ๋องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความโกรธถูกเขาระงับไว้แน่นที่อก ไม่กล้าปล่อยมันออกมาแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังคงสงสัย "เจ้า...รู้ได้อย่างไร?"เรื่องที่เขามีความบกพร่องทางร่างกายมีเพียงไม่กี่คนที่รู้!เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบ แต่หมิงอ๋องก็คิดอะไรบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว "เป็นนางบ่าวจากกรมซักล้างที่ถูกย้ายไปดูแลท่านแม่ของข้าหรือ? ชื่ออะไรนะ หลิ่วเหนียงใช่ไหม?"เขาคิดว่า คงมีแค่คนใกล้ชิดท่านแม่ของเขาเท่านั้นที่อาจจะได้ยินเรื่องราวบางอย่างของเขา!เฉียวเนี่ยนแอบสะดุ้งเล็กน้อยนางไม่สามารถให้หลิ่วเหนียงต้องมาเกี่ยวข้องได้ใบหน้าของนางกลับไม่แสดงอาการใดๆ และพูดว่า "หลิ่วเหนียงเป็นแค่นาง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 133

    คำพูดของหลินยวนไม่เพียงแต่ทำให้เฉียวเนี่ยนตกใจอย่างมาก แต่ยังทำให้ฮูหยินหลินตกใจด้วยเช่นกันนางกังวลว่าเฉียวเนี่ยนอาจจะตอบตกลงไปว่า 'ได้' ถ้าเป็นเช่นนั้น ในอนาคตหลินยวนอาจจะต้องไปที่เฉิงซีจริงๆ หรือ?ดังนั้น ก่อนที่เฉียวเนี่ยนจะได้พูดอะไร ฮูหยินหลินจึงรีบพูดด้วยความตกใจว่า "เนี่ยนเนี่ยน น้องสาวเจ้าก็พูดไปเรื่อย อย่าไปใส่ใจเลย นางก็แค่เป็นห่วงเสี่ยวชุ่ยเท่านั้นเอง"เฉียวเนี่ยนมองฮูหยินหลินที่รีบปกป้องหลินยวนอย่างรวดเร็วในตอนนี้ และนึกถึงท่าทางของนางในวันนี้ที่พาไปพบหมิงอ๋องด้วยตนเอง มันช่างแตกต่างกันอย่างชัดเจนน่าอดสูนักในใจเฉียวเนี่ยนรู้สึกเย็นชามากขึ้น แต่ริมฝีปากกลับยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆ "ข้ารู้ แต่ว่าเสี่ยวชุ่ยกำลังรักษาตัวอยู่ในเรือนฟางเหอ ไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ"ทว่าเมื่อหลินยวนได้ยินเช่นนั้น กลับยิ่งตกใจหนักขึ้น "รักษาตัว? รักษาตัวอะไร? เสี่ยวชุ่ยสบายดีไม่ใช่หรือ ทำไมต้องรักษาตัว? ท่านพี่ ท่านทำร้ายนางใช่ไหม?" พูดไป น้ำตาก็หยดลงมาเป็นเม็ดๆเฉียวเนี่ยนรู้สึกเบื่อหน่ายสุดๆ จึงพูดขึ้นว่า "ถ้าเจ้าห่วงจริง ก็ไปกับดูนางกับข้าสิ!"นางไม่รอคำตอบจากทั้งสอง และเดินตรงไปยังเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 134

    ทันทีที่เสียงของฮูหยินหลินดังขึ้น หลินยวนก็ล้มตัวลงคุกเข่ากับพื้นทันที "ไม่เอานะ! ท่านแม่! อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย! นางไม่ได้ตั้งใจ นางไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น!"เฉียวเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกขำไม่น้อย "คำพูดของแม่นางหลินหมายความว่าอย่างไร? หรือจะสื่อว่าข้าเป็นคนสั่งสอนให้นางพูดเช่นนั้นงั้นหรือ?"หลินยวนชะงักไปชั่วครู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยน้ำตา นางส่ายหน้าไปมาอย่างทุกข์ใจแล้วร้องขอฮูหยินหลินด้วยความเจ็บปวด "ไม่ใช่นะเจ้าคะ ข้า...ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่เสี่ยวชุ่ยยังเด็ก ยังไม่ประสีประสาจึงพูดจาไม่สมควรไป ท่านแม่เชื่อใจข้าเถอะ ต่อไปข้าจะอบรบนางให้ดี! ท่านแม่... ขอร้องล่ะ อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย..."แต่ไหนแต่ไรมา ทุกครั้งที่หลินยวนร้องไห้ ฮูหยินหลินมักจะใจอ่อนเสมอแต่วันนี้ บางทีอาจเป็นเพราะเสี่ยวชุ่ยได้ลำเส้นที่ฮูหยินหลินไม่อาจยอมรับได้ ฮูหยินหลินจึงไม่ได้ใจอ่อนเหมือนเช่นเคย กลับมองหลินยวนด้วยสายตาที่เต็มไปความเข้มงวด "แค่เป็นนางบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น ยวนเอ๋อร์ เจ้าต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยหรือ?"ฮูหยินหลินรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า เพื่อเพียงแค่นางบ่าวคนหนึ่ง หลินยวนทำมากเก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 135

    น้องสาวแท้ๆ หรือ?เสี่ยวชุ่ยเนี่ยนะ?ดวงตาคู่สวยของเฉียวเนี่ยนจับจ้องอยู่ที่เสี่ยวชุ่ย ความคิดในหัวนางพลันปั่นป่วนเพราะคำพูดของหลินยวนส่วนฮูหยินหลินองก็ยังคงเงียบงัน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงมีเพียงหนิงซวงที่ไม่เชื่อคำพูดนี้แม้แต่น้อย นางตวาดออกมาเสียงดังลั่นว่า "เป็นไปไม่ได้! เสี่ยวชุ่ยไม่เหมือนคุณหนูของข้าเลยสักนิด! จะเป็นพี่น้องแท้ๆ กันได้อย่างไร?"ดูเหมือนว่าคนภายนอกจะมองเห็นอะไรชัดเจนกว่าผู้เกี่ยวข้องเองเสียอีกเฉียวเนี่ยนเริ่มใช้สายตาสำรวจเสี่ยวชุ่ยหลังจากที่หนิงซวงพูดจบผิวของนางขาวผ่อง แต่เสี่ยวชุ่ยกลับมีผิวที่ดำคล้ำโดยกำเนิดนางมีตากลมโต ในขณะที่เสี่ยวชุ่ยมีหางตาเรียวและคมไม่เพียงแค่ดวงตาเท่านั้นจมูก ปาก หรือแม้แต่ใบหู ทั้งหมดไม่มีส่วนไหนที่คล้ายกันเลยแม้แต่น้อยแต่หลินยวนตอบขึ้นทันที "เพราะเสี่ยวชุ่ยเหมือนพ่อของนาง! เสี่ยวชุ่ยกับพ่อของนางแทบจะเหมือนกันทุกประการ ท่านพี่... ท่านพี่เหมือนแม่ของนางเจ้าค่ะ"แม่งั้นหรือ?เฉียวเนี่ยนมองไปที่หลินยวนด้วยท่าทางเย็นชาเกี่ยวกับแม่ของนาง เฉียวเนี่ยนไม่เคยพบหมอตำแยที่ทำคลอดให้ฮูหยินหลินในอดีตเลยด้วยซ้ำเพียงแต่ได้ยินคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 136

    ฮูหยินหลินรู้สึกคล้ายว่ามีบางอย่างแปลกประหลาดอยู่ในใจของนางหลินยวนร้องไห้พลางตะโกนว่า "ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง! ข้าเป็นคนหลอกลวงพ่อแม่เอง เป็นความผิดของข้า ท่านแม่โปรดลงโทษข้าด้วยเถิด!เมื่อกล่าวจบ นางก็ก้มศีรษะให้ฮูหยินหลินแต่บางทีฮูหยินหลินอาจกำลังสับสนและว้าวุ่น จึงไม่ได้ช่วยพยุงหลินยวนขึ้นเหมือนตลอดมาด้วยเหตุนี้ หลินยวนจึงยังคงอยู่ในท่าศีรษะโขกพื้นและคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฮูหยินหลิน ทั้งร่างของนางสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นดังนั้น เสี่ยวชุ่ยรีบวิ่งไปคุกเข่าข้างหลินยวนทันที "ฮูหยิน คุณหนูทำเช่นนี้เพื่อปกป้องบ่าวเท่านั้น หากฮูหยินจะโกรธหรือกล่าวโทษ ก็ขอให้โทษบ่าวเถิด! ได้โปรดอย่าโกรธคุณหนูเลย!"พูดจบ เสี่ยวชุ่ยก็เริ่มโขกศีรษะ "ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าวเองเจ้าค่ะ! ขอฮูหยินโปรดอภัยให้คุณหนูด้วยเถิดเจ้าค่ะ!"นางกล่าวพลางโขกศีรษะลงกับพื้นพลางไม่นานนัก หน้าผากที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาเห็นภาพนั้น ฮูหยินหลินรู้สึกว่าหัวใจของตนสั่นสะท้านแต่ก็ไม่รู้ทำไม นางกลับค่อยๆ หันมองไปยังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนเข้าใจถึงความไร้ทางออกของฮูหยินหลินใน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 137

    เช้าวันถัดมาหลังจากเฉียวเนี่ยนล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว นางก็นั่งลงเพื่อรับประทานอาหารเช้าหนิงซวงเดินเข้ามาคอยปรนนิบัติ ตั้งแต่ต้นจนจบ รอยยิ้มบนริมฝีปากของนางยังคงสดใสจนทำให้เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะถามว่า "มีอะไรดีใจขนาดนั้นหรือ?""ไม่มีนี่เจ้าคะ!" หนิงซวงปฏิเสธทันที แต่แล้วนางก็มองไปที่กลุ่มสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างนอก ก่อนจะพูดเสียงเบาลง "ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เสี่ยวชุ่ยยังไม่ได้กินอะไรเลยเจ้าค่ะ"เป็นไปตามที่คาดไว้เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขึ้น "แล้วเจ้าไม่ได้ให้อะไรนางกินหรือ?""จะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ! บ่าวเอาของดีๆ ทุกอย่างไปให้แล้วเจ้าค่ะ!"หนิงซวงตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่นางเองก็รู้ดีว่า เพราะของที่นางมอบให้นั้นดีเกินไป ทำให้เสี่ยวชุ่ยไม่กล้ากินมันเลยเฉียวเนี่ยนหัวเราะเย็นชา แล้วไม่ได้ตอบอะไรแต่หนิงซวงกลับทำสีหน้าจริงจังขึ้น และถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณหนูแน่ใจแล้วหรือเจ้าคะ ที่คิดว่าเสี่ยวชุ่ยคือน้องสาวของท่าน?"เรื่องที่คุณหนูรองพูดเมื่อวานนั้น ไม่ว่าจะคิดยังไงหนิงซวงก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดเฉียวเนี่ยนยักไหล่แล้วตอบอย่างไม่สนใจ "ไม่เป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 138

    เฉียวเนี่ยนกำแข่นแน่นเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็คือคนที่ส่งนางไปที่กรมซักล้างและสั่งให้นางบ่าวในกรมซักล้างข่มเหงนางเป็นเวลาถึงสามปี!องค์หญิงซูหยวนนั่นเอง!แต่ดูเหมือนว่าองค์หญิงซูหยวนจะจำนางไม่ได้เลยดวงตาคู่นั้นมองเฉียวเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะถามขึ้น "เจ้ากำลังด่าข้าว่าไม่ใช่มนุษย์หรือ?"เฉียวเนี่ยนคิดในใจว่า ถ้านางจำตนไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเหมือนว่าจำนางได้เช่นกัน!ดังนั้นจึงยิ้มบางๆ และตอบกลับไป "คุณหนูอย่าพิโรธเลย ข้าหมายความว่าเราทำการค้าขาย ต้องมีความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐาน"องค์หญิงซูหยวนยังคงมองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความดูถูก ยกคิ้วถามว่า "เจ้าคือใคร?"เฉียวเนี่ยนจึงเดินเข้าไปหาองค์หญิงซูหยวนแล้วหยิบสัญญาที่ดินที่กุ้ยเฟยให้เมื่อวานออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นให้กับผู้ดูแลร้าน "ข้าเพิ่งซื้อร้านนี้เมื่อวาน ดังนั้นถ้าพูดตามตรง ข้าคือเจ้าของร้านนี้"ผู้ดูแลร้านมองไปที่สัญญาที่ดิน ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมสัญญานี้ถึงอยู่ในมือของเฉียวเนี่ยน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนขึ้นมาเป็นเจ้าของ เขาก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งอีก และพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ใช่แล้ว ท่านนี่แหละค

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 201

    คำพูดของจิ่งเหยียนทำเอาหลินเย่ว์ชะงักไป ก่อนจะเดือดดาลในทันใด"น้ำหน้าอย่างเจ้า ยังกล้าดีปฎิเสธเนี่ยนเนี่ยนอีกหรือ? คิดว่าเป็นรองแม่ทัพหนุ่มแล้วเก่งนักรึ? ข้าจะบอกอะไรให้นะ อย่างเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะหิ้วรองเท้าให้เนี่ยนเนี่ยนด้วยซ้ำ!"เดิมคิดว่าหลินเย่ว์ถ้อยคำดูถูกดูแคลนเช่นนี้ต้องทำให้จิ่งเหยียนทั้งแค้นเคืองทั้งอับอายเป็นแน่แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น จิ่งเหยียนกลับตอบเสียงแผ่วเบา "ข้ารู้"ดูแววตาเลื่อนลอย น้ำเสียงนิ่งเรียบของเขาสิ แค้นเคืองหรืออับอายเสียที่ไหน?หลินเย่ว์และเซียวเหิงต่างตกตะลึงกลับกันจิ่งเหยียนเริ่มพร่ำพรรณนา สายตาหยุดอยู่ที่พื้น ราวกลับกำลังนึกย้อนอดีตกาล"แต่ก่อน แม่นางเฉียวคือจันทร์แจ่มบนฟากฟ้า พวกเจ้าทนุถนอมนาง ป้องกันนาง ข้ารู้ว่าฐานะของตัวเองแตกต่างจากนางเพียงใด ได้แต่เฝ้าชะเง้อมองนางจากไกลๆ ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกินเลย แต่หลังจากนั้น โชคชะตาพลิกผัน นางตกจากสวรรค์สู่โคลนดิน พวกเจ้าทุกคนทอดทิ้งนาง!"หลินเย่ว์ขมวดคิ้ว ส่งเสียงฮึดฮัด เอ่ยเย้ยหยัน "เช่นนั้นตอนนี้เจ้าจึงกล้าคิดเกินเลยกับนางอย่างนั้นรึ?"คิดไม่ถึงเลยว่าจิ่งเหยียนจะส่ายหน้า "เขาแค่เห็นใจแม่นางเฉียว"

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 200

    จิ่งเหยียนหลุบตาลง ลูบมือขวาที่ปล่อยหมัดเมื่อครู่ของตน เอ่ยเสียงเรียบว่า "เช่นนั้นแม่นางเฉียวอาจแค่ชอบท่านแม่ทัพป้อนอาหารนางเท่านั้น ถ้าชอบขนมอบนั่นจริงๆ จะแบ่งให้คนอื่นได้อย่างไร?"ตอนนั้น เขาก็เคยกินขนมที่เฉียวเนี่ยนแบ่งให้ได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ก็พูดอะไรไม่ออกอดคิดไม่ได้ว่าเมื่อก่อนเฉียวเนี่ยนชอบแบ่งขนมให้คนอื่นกินจริงๆเขาคิดว่านางแค่ชอบแบ่งปันแต่อย่างที่จิ่งเหยียนกล่าวไว้ ถ้าชอบกินจริงๆ แล้วจะแบ่งให้คนอื่นได้อย่างไร?ชั่วขณะหนึ่ง เซียวเหิงรู้สึกไม่รู้จะทําอย่างไรดี แม้แต่แรงที่กดจิ่งเหยียนไว้ก็ผ่อนคลายลงเขาคิดเสมอว่านางชอบกินขนมอบของหลี่จี้เมื่อก่อน ตอนที่เขาส่งขนมหวานให้นาง นางมักจะทําท่าทางประหลาดใจมาก สีหน้าดีใจเล็กๆ นั้น ราวกับว่าได้ของล้ําค่าที่สุดในโลกนี้แล้วแต่ต่อมา ขนมที่เขาตั้งใจวางไว้ในรถม้านางก็ไม่ได้แตะต้อง เป็นขนมที่มอบให้นางเองกับมือ นางก็หันมามอบให้หลินยวนเขาแค่คิดว่านางยังคงเกลียดเขา ดังนั้นแม้แต่ของที่เขาให้มาก็ไม่กินแต่ไม่เคยคิดว่านางไม่ชอบกินเลยเขากับนางเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก เพราะแก่กว่านางสองปี เขาจึงปกป้องนางทุกหนทุกแห่ง อดทนกับนางเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 199

    ตอนที่หลินเย่ว์มาถึงกองทัพ จิ่งเหยียนกําลังรายงานกิจการทหารกับเซียวเหิงอยู่ในห้องหนังสือประตูห้องถูกคนถีบเปิดออก จากนั้นหลินเย่ว์ก็พุ่งเข้ามา ไม่พูดพร่ำทําเพลง ชกหมัดใส่หน้าจิ่งเหยียนอย่างแรงโชคดีที่ปฏิกิริยาของจิ่งเหยียนไม่ช้า เขาเอนตัวไปข้างหลังและหลบได้อย่างหวุดหวิดแต่หลินเย่ว์ไม่ยอมแพ้และเตะออกไทันทีจิ่งเหยียนยังคงหลบอยู่ แต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะโจมตีต่อเมื่อเห็นดังนั้น เซียวเหิงก็ขมวดคิ้ว พลิกตัวจากหลังโต๊ะมาบังกําปั้นของหลินเย่ว์ที่กําลังจะฟาดลงบนใบหน้าของจิ่งเหยียนน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความโกรธที่สังเกตได้ยาก "บ้าไปแล้วหรือ?"หลินเย่ว์สะบัดมือของเซียวเหิงออก ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความโกรธ จ้องจิ่งเหยียนเขม็ง "เจ้าถามเขาสิ ว่าทําเรื่องอะไรมา!"เซียวเหิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปมองจิ่งเหยียนกลับเห็นจิ่งเหยียนทําท่าทางสง่าผ่าเผย "ข้าน้อยฟังความหมายของท่านโหวน้อยไม่ออก"ก็แค่ส่งอาหารจานหนึ่งให้เฉียวเนี่ยน ทําไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย?เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของจิ่งเหยียน หลินเย่ว์ก็แทบอยากจะต่อยเขาอีกครั้ง "เช้านี้เจ้าปีนกําแพงออกมาจากเรือนเนี่ยนเนี่ยน องครักษ์ของจวนข้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 198

    เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความโกรธในใจของหลินเย่ว์ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น "ไม่ว่ายังไง เจ้าเป็นผู้หญิง ก็ควรให้ความสําคัญกับชื่อเสียงของตัวเอง เจ้าและยวนเอ๋อร์ต่างก็รอที่จะแต่งงานอยู่ หากมีข่าวซุบซิบใดๆ ออกมา มันจะไม่ดีต่อเจ้าและยวนเอ๋อร์เลย"ถ้ามีคนรู้ว่าเฉียวเนี่ยนพบผู้ชายตอนกลางคืนในห้องนอนของตัวเอง คนนอกจะคิดอย่างไรกับนาง จะคิดอย่างไรกับหญิงสาวของจวนโหว?เมื่อถึงเวลานั้น แม้แต่ชื่อเสียงของยวนเอ๋อร์ก็ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย!และฟังถึงตรงนี้ ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็เข้าใจนางอดยิ้มเย็นไม่ได้ "ข้าก็ว่าแล้ว ท่านโหวน้อยก็จ้างคนมามัดข้า แถมยังวางยาข้าอีก ทําไมจู่ๆ ถึงสนใจชื่อเสียงของข้าขึ้นมา ที่แท้ ก็เพื่อหลินยวนนี่เอง"หลินเย่ว์นิ่งไป ในที่สุดก็จําเรื่องไร้สาระที่เขาเคยทํามาก่อนได้จึงพูดว่า "วันนี้ข้าไม่ได้มาทะเลาะกับเจ้า สรุปแล้ว ท่านย่าลงโทษเจ้าให้ทบทวนความผิดตัวเอง ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าแอบนัดพบชายอื่นในจวน เจ้าจงดูแลตัวเองให้ดี"คําพูดนี้เท่ากับตัดสินโทษของเฉียวเนี่ยนหลินเย่ว์พูดจบก็เดินออกไปข้างนอกแต่ไม่คิดเลยว่า จานใบหนึ่งจะโจมตีจากด้านหลัง กระแทกใส่ไหล่ซ้ายของเขาอย่างแม่นยําเกิดอาการ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 197

    เฉียวเนี่ยนตกใจจิ่งเหยียนถูกพบแล้ว!หนิงซวงรีบยัดกล่องอาหารที่ยังวางไม่ทันใส่มือของเฉียวเนี่ยน "คุณหนูอย่าใจร้อน บ่าวจะออกไปดูสักหน่อยเจ้าค่ะ"พูดจบก็เดินออกไปอย่างรวดเร็วผ่านไปครู่ใหญ่ หนิงซวงจึงกลับมา "คุณหนู คนที่องค์รักษ์ค้นพบก็คือรองแม่ทัพจิ่ง! แต่ท่านไม่ต้องกังวล รองแม่ทัพจิ่งวิ่งเร็ว ไม่ได้ถูกจับเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินคําพูดนี้ เฉียวเนี่ยนถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกถ้าจิ่งเหยียนเสียชื่อเสียงเพราะนาง แบบนี้นางมิต้องมีบาปติดตัวอย่างหนักเหรอแต่คิดไม่ถึงเลยว่าไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ประตูใหญ่ของเรือนฟางเหอก็ถูกคนเคาะเปิดแล้วเป็นหลินเย่ว์นั่นเองตอนที่เขามา เฉียวเนี่ยนเพิ่งกินอาหารเช้าเสร็จเมื่อเห็นเขา สีหน้าของเฉียวเนี่ยนย่อมไม่ค่อยดีนัก จึงพูดทันทีว่า "ในเมื่อท่านย่าลงโทษให้ข้าอยู่ในเรือนฟางเหอเพื่อคิดทบทวนตนเอง ก็ย่อมไม่อยากให้ผู้อื่นมารบกวน และไม่รู้ว่าท่านโหวน้อยมาหาข้าแต่เช้าตรู่เช่นนี้ มีธุระสําคัญอะไรหรือเจ้าคะ?"คําพูดนางเต็มไปด้วยความไม่ต้อนรับหลินเย่ว์จะฟังไม่ออกได้อย่างไร กลับมองไปที่หนิงซวงที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า "องครักษ์บอกว่า เช้านี้พบชายคนหนึ่งปีนกําแพงออกมา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 196

    ทําสองครั้งแรก มันก็กินยากจริงๆ นั่นแหละดังนั้นเขาจึงจ่ายเงินเรียนซะเลย แต่ไม่คิดว่าไส้ใหญ่หมูแบบนี้นี้ดูเหมือนง่าย แต่การทํามให้อร่อยไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อคืนหลังจากเรียนเสร็จ เขาก็รีบไปซื้อไส้ใหญ่หมูกลับไปอย่างอดใจรอไม่ไหว ไม่ง่ายเลยที่จะทําชามนี้ออกมาได้เขาคิดว่าของแบบนี้เย็นแล้วไม่อร่อย จึงถือโอกาสเอาไปให้เฉียวเนี่ยนตอนร้อนแต่จนกระทั่งเขาเคาะหน้าต่างของเฉียวเนี่ยน เขาถึงได้สติขึ้นมาอย่างกระทันหันฟ้าเพิ่งสว่าง เขาก็มาอย่างอดใจรอไม่ไหวแล้วซ้ำยังปีนกําแพงเข้ามาเพื่อเอาไส้ใหญ่หมูไปให้เฉียวเนี่ยนแค่ไส้ใหญ่หมูจานเดียวเอง!คิดแบบนี้แล้ว ใบหน้าของจิ่งเหยียนก็แดงก่ำจนเลือดแทบจะไหลออกมาแล้วเขารู้สึกว่าตัวเองบุ่มบ่ามเกินไปแล้วแต่ตอนนี้ เขาจากไปก็ไม่ใช่ อยู่ก็ไม่เชิงใบหน้าที่แข็งกระด้างในตอนแรก ตอนนี้เต็มไปด้วยความลําบากใจเฉียวเนี่ยนย่อมคิดไม่ถึงว่าจิ่งเหยียนจะมาส่งไส้ใหญ่หมูเห็นได้ชัดว่าครั้งที่แล้วนางแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ผ่านไปนานขนาดนี้ นางก็ลืมไปแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะส่งมาแล้วเมื่อเห็นใบหน้าดําคล้ําของจิ่งเหยียนเกือบจะแดงจนยืนไม่อยู่ เฉียวเนี่ยนก็อดยิ้มไม่

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 195

    คืนนั้น เฉียวเนี่ยนได้ฝันในความฝัน นางย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน ตอนที่หลินยวนทําถ้วยแก้วแตกเมื่อเผชิญหน้ากับการตําหนิขององค์หญิง เซียวเหิงและหลินเย่ว์ในความฝันก็เข้าไปขวางหน้าองค์หญิงพร้อมกันในขณะที่เฉียวเนี่ยนรู้สึกซาบซึ้งใจกับเรื่องนี้ กลับพบว่าคนที่ถูกพวกเขาปกป้องอยู่ข้างหลังคือหลินยวน ไม่ใช่นางสุดท้าย นางที่อยู่ในความฝันก็ถูกพาไปที่กรมซักล้าง ถูกพวกนางบ่าวร่วมมือกันรังแก ถูกมามาเฆี่ยนตี...ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็ตื่นจากภวังค์ หอบหายใจอย่างหนักหน่วง บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นบางๆ ปกคลุมอยู่ หัวใจเต้นรัวเร็วแน่นอนว่าสําหรับนาง กรมซักล้างนั้นเปรียบได้ดั่งนรกคงเพราะได้ยินเสียงเคลื่อนไหว หนิงซวงจึงเดินเข้ามาจากข้างนอก เห็นเฉียวเนี่ยนกําลังนั่งหอบหายใจอยู่บนเตียง จึงอดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้ "คุณหนูฝันร้ายหรือเจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ ส่ายหน้าเล็กน้อย "เป็นแค่ฝันร้ายเล็กๆ เท่านั้น ไม่เป็นไรหรอก"นางคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกลางวันทําให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงฝันแบบนั้นแต่ว่า แม้แต่ในความฝัน เซียวเหิงและหลินเย่ว์ก็ไม่ได้ปกป้องนางนางยิ้มอย่างขมขื่นและส

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 194

    ขณะที่พูด สายตาของฮูหยินเฒ่าก็กวาดผ่านใบหน้าของทุกคนไปทีละคนๆ สุดท้ายจึงไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของท่านโหวหลิน "เจ้าบอกว่าเพราะแม่ลําเอียง แต่พวกเจ้าล่ะ? หัวใจของพวกเจ้าเอนเอียงตั้งนานแล้ว! หากข้าไม่ปกป้องนางสักหน่อย นางจะยังมีชีวิตอยู่ในจวนโหวแห่งนี้ได้หรือ?"เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินเฒ่าก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก และค่อยๆ เดินออกไปข้างนอก"หัวใจคนนั้นทำมาจากเลือดเนื้อ! ต่อให้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ก็เลี้ยงมาตั้งหลายปี ยังไงก็ต้องมีความรู้สึกบ้างแหละ"ในห้องโถงใหญ่ คนทั้งหลายยืนอยู่ที่เดิม มองแผ่นหลังหลังค่อมของฮูหยินเฒ่าที่ยิ่งเดินยิ่งไกลจนกระทั่งหลังจากหายลับไปจากสายตาของทุกคนแล้ว ท่านโหวหลินจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเสียงเบาว่า "เรื่องในวันนี้ ใครเป็นคนเล่าให้ฮูหยินเฒ่าฟัง?"หลินเย่ว์ทําหน้าบึ้งตึงไม่พูดไม่จา ในสมองยังคงมีแต่ตอนที่เฉียวเนี่ยนเรียกพี่ใหญ่อยู่แน่นอนว่าฮูหยินหลินเองก็ไม่รู้เช่นกันมีเพียงหลินยวนที่มองดูคนอื่นแล้วถึงเอ่ยปาก "บางที อาจเป็นเพราะตอนที่สาวใช้ในเรือนข้าไปเอายามาจากหมอประจําทําให้หลุดปากออกมา"ถึงอย่างไรสาวใช้ในเรือนของฮูหยินเฒ่า ทุกวันต้องไปหาหมอถึงสามครั้ง มีความเป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 193

    สิ้นเสียงของเฉียวเนี่ยน ทั้งห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบนอกจากเสียงสะอึกสะอื้นของหลินยวนที่ดังมาเป็นระยะแล้ว คนอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีฮูหยินเฒ่าจ้องมองศีรษะของเฉียวเนี่ยนอยู่นาน ในที่สุดก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “หลานที่น่าสงสารของข้า... แต่เนี่ยนเนี่ยน เจ้ารู้ว่าองค์หญิงต้องการทําร้ายยวนเอ๋อร์และยังยุยงให้นางไปงานเลี้ยง นี่เป็นความผิดของเจ้า เจ้ายอมรับหรือไม่?”ไม่รอให้เฉียวเนี่ยนเอ่ยปาก ท่านโหวหลินที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่ เด็กคนนี้ดื้อรั้นตั้งแต่เด็ก นางไม่ยอมรับก็ช่างเถอะ ท่านอย่าโกรธนางเด็ดขาด”เขากังวลว่าฮูหยินเฒ่าจะโกรธเฉียวเนี่ยนจนป่วยแต่เฉียวเนี่ยนจะยอมปล่อยให้ฮูหยินเฒ่าโกรธได้อย่างไรนางพยักหน้าทันที "ข้ายอมรับ"ได้ยินดังนั้น ท่านโหวหลินและหลินเย่ว์ที่อยู่ข้างๆ ต่างก็ตกตะลึงเห็นๆ กันอยู่ว่าเมื่อครู่นางหนูยังทําท่าทางยอมตายแต่ไม่ยอมแพ้ ทําไมตอนนี้...กลับได้ยินเสียงชราของฮูหยินเฒ่าค่อยๆ เอ่ยปากว่า “เช่นนั้น ย่าก็จะลงโทษเจ้าให้กักบริเวณเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อสำนึกผิด เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”เมื่อได้ยิน'การลงโทษ'แบบนี้ เฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status