แชร์

บทที่ 130

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
แววตาเมื่อครู่ของหมิงอ๋อง แทบจะอยากเฆี่ยนตีนางให้เป็นแผลจนไม่เหลือชิ้นดีเสียตรงนั้น เอาให้ครึ่งเป็นครึ่งตายถึงจะสาแก่ใจด้วยซ้ำด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนไม่พูด ในหัวเต๋อกุ้ยเฟยก็พลันว่างเปล่า

นางครุ่นคิดก่อนจะส่งสายให้กับหัวหน้านางบ่าวของตน

หัวหน้านางบ่าวพยักหน้าในทันใด เดินนำนางบ่าวและขันทีออกไปนอกห้อง

ภายในห้องเหลือเพียงเต๋อกุ้ยเฟย ฮูหยินหลิน และเฉียวเนี่ยน

ฮูหยินหลินประหลาดใจ เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ "กุ้ยเฟยจะ..."

ทว่ากลับเห็นภาพเต๋อกุ้ยเฟยกุมมือเฉียวเนี่ยน เอ่ยเสียงอ่อน "เจ้ารอสักครู่"

ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง ไม่นานก็ออกมา

ในมือถือโฉนดที่ดินฉบับหนึ่ง

"นี่คือกิจการนอกวังของข้า เป็นร้านขายเสื้อผ้า เจ้ารับไว้เสีย"

ขณะพูดนั้นนางก็ยัดโฉนดที่ดินใส่มือเฉียวเนี่ยน

เฉียวเนี่ยนตกใจไม่น้อย อันที่จริงวันนี้นางมาเพื่อหมิงอ๋อง ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับสิ่งใดจากเต๋อกุ้ยเฟย

แม้แต่ฮูหยินหลินเองก็ตกตะลึง "นี่คือสินเดิมของท่านนะเพคะ ราคาสูงเกินไป! ไม่ได้เด็ดขาดเพคะ!"

"ประเดี๋ยวเนี่ยนเนี่ยนก็จะเป็นสะใภ้ของข้าแล้ว เหตุใดจะไม่ได้?" เต๋อกุ้ยเฟยเอ่ย เมื่อเห็นว่าท่าทีว่าเฉียวเนี่ยนจะไม่ยอมร
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 131

    เมื่อเห็นบนใบหน้าว่าเฉียวเนี่ยนไม่มีท่าทีหวาดกลัวต่อเฉิงซีแม้แต่น้อย หมิงอ๋องก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเฉียวเนี่ยนตั้งใจจะพาเขาไปที่ใดกันแน่ในตอนนั้นเขาก็พยักหน้าเล็กน้อย รอยยิ้มที่มุมปากเต็มไปด้วยความดูแคลนเขาไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะสามารถหนีรอดจากกำมือของเขาได้คนที่พ่อแม่ส่งตัวมาให้เขาเองถึงหน้าประตู จะหลุดมือเขาไปได้อย่างไร?เพียงแต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือ เฉียวเนี่ยนพาเขาไปยังโรงน้ำชาหยวนไหลซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาเคยตกลงนัดพบกันในตอนแรก แต่กลับถูกหลินเย่ว์สับเปลี่ยนจดหมาย ทำให้สุดท้ายทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันโรงน้ำชามีทั้งหมดสองชั้น ชั้นล่างจะมีห้องโถงใหญ่ตรงกลางซึ่งมีเวทีเล็กๆ บนเวทีนั้นจะมีนักร้องหญิงขึ้นร้องเพลงเสมอ และบางครั้งก็จะมีการแสดงการเล่นกลด้วยแต่วันนี้บนเวทีนั้นกลับเป็นนักเล่าเรื่องคนหนึ่งเรื่องราวดูเหมือนจะน่าสนใจมาก ลูกค้าในโรงชาต่างก็ฟังอย่างตั้งใจเฉียวเนี่ยนกับหมิงอ๋องนั่งลงตรงที่ที่เด็กรับใช้ในโรงน้ำชาแนะนำแต่เมื่อเด็กรับ้รินน้ำชาเสร็จ สีหน้าของหมิงอ๋องก็เปลี่ยนไปทันทีเพราะว่านักเล่าเรื่องที่กำลังเล่าไม่ได้เล่าเรื่องของคนอื่น แต่เป็นเรื่องของเขาเอง!ถึ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 132

    หากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันหมดแล้ว อย่าพูดถึงแค่การแต่งงานระหว่างหมิงอ๋องกับจวนโหวเลย แม้แต่การแต่งงานกับตระกูลเสนาบดีที่มีอำนาจในราชสำนักเขาก็ไม่มีสิทธิ์ และเขาก็ไม่มีทางกลับเข้าเมืองหลวงได้อีกตลอดชีวิต!และในตอนนั้น สำหรับหมิงอ๋อง การกลับเข้าเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้วสิ่งที่สำคัญคือศักดิ์ศรีของเขา คือเกียรติของเขาในฐานะบุรุษคนหนึ่ง!ความบกพร่องทางร่างกายของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครรู้เป็นอันขาด!หมิงอ๋องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความโกรธถูกเขาระงับไว้แน่นที่อก ไม่กล้าปล่อยมันออกมาแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังคงสงสัย "เจ้า...รู้ได้อย่างไร?"เรื่องที่เขามีความบกพร่องทางร่างกายมีเพียงไม่กี่คนที่รู้!เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบ แต่หมิงอ๋องก็คิดอะไรบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว "เป็นนางบ่าวจากกรมซักล้างที่ถูกย้ายไปดูแลท่านแม่ของข้าหรือ? ชื่ออะไรนะ หลิ่วเหนียงใช่ไหม?"เขาคิดว่า คงมีแค่คนใกล้ชิดท่านแม่ของเขาเท่านั้นที่อาจจะได้ยินเรื่องราวบางอย่างของเขา!เฉียวเนี่ยนแอบสะดุ้งเล็กน้อยนางไม่สามารถให้หลิ่วเหนียงต้องมาเกี่ยวข้องได้ใบหน้าของนางกลับไม่แสดงอาการใดๆ และพูดว่า "หลิ่วเหนียงเป็นแค่นาง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 133

    คำพูดของหลินยวนไม่เพียงแต่ทำให้เฉียวเนี่ยนตกใจอย่างมาก แต่ยังทำให้ฮูหยินหลินตกใจด้วยเช่นกันนางกังวลว่าเฉียวเนี่ยนอาจจะตอบตกลงไปว่า 'ได้' ถ้าเป็นเช่นนั้น ในอนาคตหลินยวนอาจจะต้องไปที่เฉิงซีจริงๆ หรือ?ดังนั้น ก่อนที่เฉียวเนี่ยนจะได้พูดอะไร ฮูหยินหลินจึงรีบพูดด้วยความตกใจว่า "เนี่ยนเนี่ยน น้องสาวเจ้าก็พูดไปเรื่อย อย่าไปใส่ใจเลย นางก็แค่เป็นห่วงเสี่ยวชุ่ยเท่านั้นเอง"เฉียวเนี่ยนมองฮูหยินหลินที่รีบปกป้องหลินยวนอย่างรวดเร็วในตอนนี้ และนึกถึงท่าทางของนางในวันนี้ที่พาไปพบหมิงอ๋องด้วยตนเอง มันช่างแตกต่างกันอย่างชัดเจนน่าอดสูนักในใจเฉียวเนี่ยนรู้สึกเย็นชามากขึ้น แต่ริมฝีปากกลับยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆ "ข้ารู้ แต่ว่าเสี่ยวชุ่ยกำลังรักษาตัวอยู่ในเรือนฟางเหอ ไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ"ทว่าเมื่อหลินยวนได้ยินเช่นนั้น กลับยิ่งตกใจหนักขึ้น "รักษาตัว? รักษาตัวอะไร? เสี่ยวชุ่ยสบายดีไม่ใช่หรือ ทำไมต้องรักษาตัว? ท่านพี่ ท่านทำร้ายนางใช่ไหม?" พูดไป น้ำตาก็หยดลงมาเป็นเม็ดๆเฉียวเนี่ยนรู้สึกเบื่อหน่ายสุดๆ จึงพูดขึ้นว่า "ถ้าเจ้าห่วงจริง ก็ไปกับดูนางกับข้าสิ!"นางไม่รอคำตอบจากทั้งสอง และเดินตรงไปยังเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 134

    ทันทีที่เสียงของฮูหยินหลินดังขึ้น หลินยวนก็ล้มตัวลงคุกเข่ากับพื้นทันที "ไม่เอานะ! ท่านแม่! อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย! นางไม่ได้ตั้งใจ นางไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น!"เฉียวเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกขำไม่น้อย "คำพูดของแม่นางหลินหมายความว่าอย่างไร? หรือจะสื่อว่าข้าเป็นคนสั่งสอนให้นางพูดเช่นนั้นงั้นหรือ?"หลินยวนชะงักไปชั่วครู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยน้ำตา นางส่ายหน้าไปมาอย่างทุกข์ใจแล้วร้องขอฮูหยินหลินด้วยความเจ็บปวด "ไม่ใช่นะเจ้าคะ ข้า...ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่เสี่ยวชุ่ยยังเด็ก ยังไม่ประสีประสาจึงพูดจาไม่สมควรไป ท่านแม่เชื่อใจข้าเถอะ ต่อไปข้าจะอบรบนางให้ดี! ท่านแม่... ขอร้องล่ะ อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย..."แต่ไหนแต่ไรมา ทุกครั้งที่หลินยวนร้องไห้ ฮูหยินหลินมักจะใจอ่อนเสมอแต่วันนี้ บางทีอาจเป็นเพราะเสี่ยวชุ่ยได้ลำเส้นที่ฮูหยินหลินไม่อาจยอมรับได้ ฮูหยินหลินจึงไม่ได้ใจอ่อนเหมือนเช่นเคย กลับมองหลินยวนด้วยสายตาที่เต็มไปความเข้มงวด "แค่เป็นนางบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น ยวนเอ๋อร์ เจ้าต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยหรือ?"ฮูหยินหลินรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า เพื่อเพียงแค่นางบ่าวคนหนึ่ง หลินยวนทำมากเก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 135

    น้องสาวแท้ๆ หรือ?เสี่ยวชุ่ยเนี่ยนะ?ดวงตาคู่สวยของเฉียวเนี่ยนจับจ้องอยู่ที่เสี่ยวชุ่ย ความคิดในหัวนางพลันปั่นป่วนเพราะคำพูดของหลินยวนส่วนฮูหยินหลินองก็ยังคงเงียบงัน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงมีเพียงหนิงซวงที่ไม่เชื่อคำพูดนี้แม้แต่น้อย นางตวาดออกมาเสียงดังลั่นว่า "เป็นไปไม่ได้! เสี่ยวชุ่ยไม่เหมือนคุณหนูของข้าเลยสักนิด! จะเป็นพี่น้องแท้ๆ กันได้อย่างไร?"ดูเหมือนว่าคนภายนอกจะมองเห็นอะไรชัดเจนกว่าผู้เกี่ยวข้องเองเสียอีกเฉียวเนี่ยนเริ่มใช้สายตาสำรวจเสี่ยวชุ่ยหลังจากที่หนิงซวงพูดจบผิวของนางขาวผ่อง แต่เสี่ยวชุ่ยกลับมีผิวที่ดำคล้ำโดยกำเนิดนางมีตากลมโต ในขณะที่เสี่ยวชุ่ยมีหางตาเรียวและคมไม่เพียงแค่ดวงตาเท่านั้นจมูก ปาก หรือแม้แต่ใบหู ทั้งหมดไม่มีส่วนไหนที่คล้ายกันเลยแม้แต่น้อยแต่หลินยวนตอบขึ้นทันที "เพราะเสี่ยวชุ่ยเหมือนพ่อของนาง! เสี่ยวชุ่ยกับพ่อของนางแทบจะเหมือนกันทุกประการ ท่านพี่... ท่านพี่เหมือนแม่ของนางเจ้าค่ะ"แม่งั้นหรือ?เฉียวเนี่ยนมองไปที่หลินยวนด้วยท่าทางเย็นชาเกี่ยวกับแม่ของนาง เฉียวเนี่ยนไม่เคยพบหมอตำแยที่ทำคลอดให้ฮูหยินหลินในอดีตเลยด้วยซ้ำเพียงแต่ได้ยินคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 136

    ฮูหยินหลินรู้สึกคล้ายว่ามีบางอย่างแปลกประหลาดอยู่ในใจของนางหลินยวนร้องไห้พลางตะโกนว่า "ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง! ข้าเป็นคนหลอกลวงพ่อแม่เอง เป็นความผิดของข้า ท่านแม่โปรดลงโทษข้าด้วยเถิด!เมื่อกล่าวจบ นางก็ก้มศีรษะให้ฮูหยินหลินแต่บางทีฮูหยินหลินอาจกำลังสับสนและว้าวุ่น จึงไม่ได้ช่วยพยุงหลินยวนขึ้นเหมือนตลอดมาด้วยเหตุนี้ หลินยวนจึงยังคงอยู่ในท่าศีรษะโขกพื้นและคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฮูหยินหลิน ทั้งร่างของนางสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นดังนั้น เสี่ยวชุ่ยรีบวิ่งไปคุกเข่าข้างหลินยวนทันที "ฮูหยิน คุณหนูทำเช่นนี้เพื่อปกป้องบ่าวเท่านั้น หากฮูหยินจะโกรธหรือกล่าวโทษ ก็ขอให้โทษบ่าวเถิด! ได้โปรดอย่าโกรธคุณหนูเลย!"พูดจบ เสี่ยวชุ่ยก็เริ่มโขกศีรษะ "ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าวเองเจ้าค่ะ! ขอฮูหยินโปรดอภัยให้คุณหนูด้วยเถิดเจ้าค่ะ!"นางกล่าวพลางโขกศีรษะลงกับพื้นพลางไม่นานนัก หน้าผากที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาเห็นภาพนั้น ฮูหยินหลินรู้สึกว่าหัวใจของตนสั่นสะท้านแต่ก็ไม่รู้ทำไม นางกลับค่อยๆ หันมองไปยังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนเข้าใจถึงความไร้ทางออกของฮูหยินหลินใน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 137

    เช้าวันถัดมาหลังจากเฉียวเนี่ยนล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว นางก็นั่งลงเพื่อรับประทานอาหารเช้าหนิงซวงเดินเข้ามาคอยปรนนิบัติ ตั้งแต่ต้นจนจบ รอยยิ้มบนริมฝีปากของนางยังคงสดใสจนทำให้เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะถามว่า "มีอะไรดีใจขนาดนั้นหรือ?""ไม่มีนี่เจ้าคะ!" หนิงซวงปฏิเสธทันที แต่แล้วนางก็มองไปที่กลุ่มสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างนอก ก่อนจะพูดเสียงเบาลง "ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เสี่ยวชุ่ยยังไม่ได้กินอะไรเลยเจ้าค่ะ"เป็นไปตามที่คาดไว้เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขึ้น "แล้วเจ้าไม่ได้ให้อะไรนางกินหรือ?""จะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ! บ่าวเอาของดีๆ ทุกอย่างไปให้แล้วเจ้าค่ะ!"หนิงซวงตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่นางเองก็รู้ดีว่า เพราะของที่นางมอบให้นั้นดีเกินไป ทำให้เสี่ยวชุ่ยไม่กล้ากินมันเลยเฉียวเนี่ยนหัวเราะเย็นชา แล้วไม่ได้ตอบอะไรแต่หนิงซวงกลับทำสีหน้าจริงจังขึ้น และถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณหนูแน่ใจแล้วหรือเจ้าคะ ที่คิดว่าเสี่ยวชุ่ยคือน้องสาวของท่าน?"เรื่องที่คุณหนูรองพูดเมื่อวานนั้น ไม่ว่าจะคิดยังไงหนิงซวงก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดเฉียวเนี่ยนยักไหล่แล้วตอบอย่างไม่สนใจ "ไม่เป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 138

    เฉียวเนี่ยนกำแข่นแน่นเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็คือคนที่ส่งนางไปที่กรมซักล้างและสั่งให้นางบ่าวในกรมซักล้างข่มเหงนางเป็นเวลาถึงสามปี!องค์หญิงซูหยวนนั่นเอง!แต่ดูเหมือนว่าองค์หญิงซูหยวนจะจำนางไม่ได้เลยดวงตาคู่นั้นมองเฉียวเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะถามขึ้น "เจ้ากำลังด่าข้าว่าไม่ใช่มนุษย์หรือ?"เฉียวเนี่ยนคิดในใจว่า ถ้านางจำตนไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเหมือนว่าจำนางได้เช่นกัน!ดังนั้นจึงยิ้มบางๆ และตอบกลับไป "คุณหนูอย่าพิโรธเลย ข้าหมายความว่าเราทำการค้าขาย ต้องมีความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐาน"องค์หญิงซูหยวนยังคงมองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความดูถูก ยกคิ้วถามว่า "เจ้าคือใคร?"เฉียวเนี่ยนจึงเดินเข้าไปหาองค์หญิงซูหยวนแล้วหยิบสัญญาที่ดินที่กุ้ยเฟยให้เมื่อวานออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นให้กับผู้ดูแลร้าน "ข้าเพิ่งซื้อร้านนี้เมื่อวาน ดังนั้นถ้าพูดตามตรง ข้าคือเจ้าของร้านนี้"ผู้ดูแลร้านมองไปที่สัญญาที่ดิน ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมสัญญานี้ถึงอยู่ในมือของเฉียวเนี่ยน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนขึ้นมาเป็นเจ้าของ เขาก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งอีก และพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ใช่แล้ว ท่านนี่แหละค

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 500

    เขาไม่อยากหลีกให้ แต่ก็เข้าใจว่า วันนี้ตนไม่สามารถล้วงความลับจากปากของเซียวเหิงได้แน่คิดแล้วคิดอีก ก็ได้แต่ค่อยๆ หลีกทางให้เซียวเหิงจึงพลิกกายขึ้นม้าอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของวังแต่เมื่อเดินผ่านหลินเย่ว์ ก็ได้ยินเขาถามด้วยเสียงต่ำว่า"เจ้าไม่เคยคิดว่าเจ้าทําแบบนี้ จะทําให้เนี่ยนเนี่ยนเกลียดเจ้ามากขึ้นเหรอ?"ร่างกายของเซียวเหิงพลันแข็งทื่อ แต่กลับไม่หยุดฝีเท้าย่อมเคยคิดมาก่อนแต่เขาไม่มีทางเลือกเขาทําไม่ได้ที่จะมองดูนางไปรักคนอื่นแขนซ้ายพันแผลอย่างง่ายๆ แล้วเซียวเหิงก็เข้าราชสํานักไปฮ่องเต้มองปราดเดียวก็มองออกทันที สีหน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก ในประชุมเช้าไม่ได้เอ่ยคําใด เพียงแค่รั้งเขาเอาไว้หลังจากออกจากประชุมเช้าแล้วภายในท้องพระโรง เซียวเหิงคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่หน้าตําหนักฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์มังกร หลุบตามองเขา น้ำเสียงทุ้มต่ำ เปี่ยมไปด้วยความโกรธ "เจ้ากําลังก่อเรื่องอะไรอยู่กันแน่? เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง ยังคิดจะก่อเรื่องวุ่นวายอีกเหรอ?"เซียวเหิงหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ตอบฮ่องเต้ถลึงตาใส่เขา "ทําไม? ต้องเป็นนางเท่านั้นเหรอ?"ครั้งนี้เซียวเหิงกลับเอ่ยปาก"ใช่ กระ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 499

    ตกดึกเฉียวเนี่ยนนอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมา อย่างไรก็นอนไม่หลับนางรู้ว่าหนิงซวงอาจไม่สามารถเห็นคําใบ้ของ'นอกเมืองหลวง'ได้ แต่นางสามารถเข้าใจได้อย่างแน่นอนว่าคำว่าต้องรดน้ำมีปัญหานางรู้ว่าถ้าหนิงซวงไม่เข้าใจ นางจะต้องไปหาเซียวเหอแน่นอน และคําใบ้เกี่ยวกับนอกเมืองหลวง เซียวเหอจะต้องดูออกแน่นอนแต่นางก็ไม่รู้ว่านางอยู่นอกเมืองหลวงหรือไม่อย่างไรก็ตามนางถูกขังอยู่ในจวนตลอดเวลาและไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกคนรับใช้ในจวนก็ไม่พูดถึงแน่ ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาของนางเท่านั้นเป็นเพราะนางเดินผ่านกําแพงสูงของจวนหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากด้านนอกเลย จึงคิดว่าตําแหน่งของจวนหลังนี้จะต้องอยู่ห่างไกลจากเมืองแน่นอนบวกกับวันนั้นนางไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ตอนเช้าตรู่กลับได้กลิ่นไอน้ำที่ชัดเจนและเข้มข้นจึงคิดว่าแถวนี้ต้องมีน้ำแน่นอนแม่น้ำก็ดี น้ำพุก็ดี ต้องมีแน่นอนแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าคําเตือนของนางถูกต้องหรือไม่ แต่ก็มีความหวังอยู่หวังว่า... นางสามารถออกจากที่นี่ได้โดยเร็วที่สุดวันรุ่งขึ้นเซียวเหิงออกจากบ้านแต่เช้าแม้ว่าเขาจะย้ายงานทหารมาที่นี่แล้ว แต่เขาก็ยังต้องไปประช

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 498

    มันเป็นจดหมายที่สั้นมากและไม่มีสํานวนที่งดงามอะไร ในมุมมองของเฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ มันเป็นจดหมายธรรมดาเท่านั้นแต่ทั้งสองยังคงส่งจดหมายให้เซียวเหิงเซียวเหิงรับมาดูแวบหนึ่ง ดวงตาลึกล้ำไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เพียงเอ่ยเรียบๆ ว่า "ส่งไปเถอะ!""เจ้าค่ะ"เฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ร์รับคําแล้วจากไปแต่แววตาคู่นั้นของเซียวเหิงกลับหม่นหมองลงเขารู้ว่าเฉียวเนี่ยนไม่ยินยอมอยู่ที่นี่แต่อาศัยแค่จดหมายฉบับเดียว ก็อยากหาคนมาช่วยนางเหรอ?ทําไมนางยังไม่เข้าใจว่าตอนนี้ไม่มีใครสามารถพรากนางไปจากเขาได้อีกแล้วเมื่อหนิงซวงได้รับจดหมายฉบับนี้ ก็งงไปหมด"นี่เป็นลายมือของคุณหนูจริงๆ!" หนิงซวงตื่นเต้นจนขอบตาแดงก่ำ หลายวันมานี้ น้ำตาของนางเกือบจะแห้งไปหมดแล้วหวังเอ้ออ่านเนื้อหาในจดหมายแล้วพยักหน้า "ข้าจําลายมือคุณหนูไม่ได้ แต่ในเมื่อคุณหนูบอกว่านางไม่เป็นไร ก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"หนิงซวงเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น "นางเขียนแบบนี้เพื่อให้ข้าสบายใจ นางถูกแม่ทัพเซียวพาตัวไป แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่ในใจต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ!"หวังเอ้อพยักหน้าตาม แต่เมื่อเขาอ่านเนื้อหาในจดหมาย เขาก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 497

    ท้ายที่สุดเซียวเหิงก็จากไป เขาเดินโซซัดโซเซจากไปราวกับพ่ายแพ้สงครามส่วนเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ในห้องคนเดียว มองดูแสงเทียนที่ลุกโชติช่วง จนกระทั่งฟ้าสางก็ยังไม่รู้สึกง่วงเดิมทีคิดว่า หลังจากผ่านการทะเลาะกันเมื่อคืนมาแล้ว อย่างน้อยเซียวเหิงก็พอจะเข้าใจได้ว่านางไม่อยากมีอะไรกับเขาอีกจริงๆ แต่ใครจะรู้ว่าตอนที่เฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์มาปรนนิบัตินาง ก็ยังเรียก ‘ฮูหยิน’ อยู่ดีกระทั่งถึงวันที่ห้า เซียวเหิงก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนี้โดยตรงเมื่อเห็นเหล่าเด็กรับใช้ขนหนังสือกองแล้วกองเล่าเข้าไปในเรือน คิ้วของเฉียวเนี่ยนก็ขมวดแน่นนางเดินตามเด็กรับใช้เข้าไปในห้องหนังสือ ก็เห็นเด็กรับใช้หลายคนกําลังรวบรวมหนังสืออยู่หน้าชั้นวางหนังสือ ส่วนเด็กรับใช้อีกคนหนึ่งกําลังวางหนังสือจํานวนหนึ่งไว้บนโต๊ะเฉียวเนี่ยนมองปราดหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าล้วนเป็นกิจการทหารหัวใจของนางจมดิ่งลง แม้แต่ในกองทัพเขาก็ไม่อยากไปแล้วเหรอ?เมื่อเด็กรับใช้เห็นนางก็ทําความเคารพพร้อมกัน "คารวะฮูหยิน"คําเรียกแบบนี้ทําให้เฉียวเนี่ยนฟังแล้วรู้สึกทรมานมาก แต่นางก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธพวกเขา จึงขมวดคิ้วถามว่า "เซียวเหิงล่ะ?""

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status