เช้าวันถัดมาหลังจากเฉียวเนี่ยนล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว นางก็นั่งลงเพื่อรับประทานอาหารเช้าหนิงซวงเดินเข้ามาคอยปรนนิบัติ ตั้งแต่ต้นจนจบ รอยยิ้มบนริมฝีปากของนางยังคงสดใสจนทำให้เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะถามว่า "มีอะไรดีใจขนาดนั้นหรือ?""ไม่มีนี่เจ้าคะ!" หนิงซวงปฏิเสธทันที แต่แล้วนางก็มองไปที่กลุ่มสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างนอก ก่อนจะพูดเสียงเบาลง "ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เสี่ยวชุ่ยยังไม่ได้กินอะไรเลยเจ้าค่ะ"เป็นไปตามที่คาดไว้เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขึ้น "แล้วเจ้าไม่ได้ให้อะไรนางกินหรือ?""จะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ! บ่าวเอาของดีๆ ทุกอย่างไปให้แล้วเจ้าค่ะ!"หนิงซวงตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่นางเองก็รู้ดีว่า เพราะของที่นางมอบให้นั้นดีเกินไป ทำให้เสี่ยวชุ่ยไม่กล้ากินมันเลยเฉียวเนี่ยนหัวเราะเย็นชา แล้วไม่ได้ตอบอะไรแต่หนิงซวงกลับทำสีหน้าจริงจังขึ้น และถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณหนูแน่ใจแล้วหรือเจ้าคะ ที่คิดว่าเสี่ยวชุ่ยคือน้องสาวของท่าน?"เรื่องที่คุณหนูรองพูดเมื่อวานนั้น ไม่ว่าจะคิดยังไงหนิงซวงก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดเฉียวเนี่ยนยักไหล่แล้วตอบอย่างไม่สนใจ "ไม่เป
เฉียวเนี่ยนกำแข่นแน่นเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็คือคนที่ส่งนางไปที่กรมซักล้างและสั่งให้นางบ่าวในกรมซักล้างข่มเหงนางเป็นเวลาถึงสามปี!องค์หญิงซูหยวนนั่นเอง!แต่ดูเหมือนว่าองค์หญิงซูหยวนจะจำนางไม่ได้เลยดวงตาคู่นั้นมองเฉียวเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะถามขึ้น "เจ้ากำลังด่าข้าว่าไม่ใช่มนุษย์หรือ?"เฉียวเนี่ยนคิดในใจว่า ถ้านางจำตนไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเหมือนว่าจำนางได้เช่นกัน!ดังนั้นจึงยิ้มบางๆ และตอบกลับไป "คุณหนูอย่าพิโรธเลย ข้าหมายความว่าเราทำการค้าขาย ต้องมีความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐาน"องค์หญิงซูหยวนยังคงมองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความดูถูก ยกคิ้วถามว่า "เจ้าคือใคร?"เฉียวเนี่ยนจึงเดินเข้าไปหาองค์หญิงซูหยวนแล้วหยิบสัญญาที่ดินที่กุ้ยเฟยให้เมื่อวานออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นให้กับผู้ดูแลร้าน "ข้าเพิ่งซื้อร้านนี้เมื่อวาน ดังนั้นถ้าพูดตามตรง ข้าคือเจ้าของร้านนี้"ผู้ดูแลร้านมองไปที่สัญญาที่ดิน ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมสัญญานี้ถึงอยู่ในมือของเฉียวเนี่ยน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนขึ้นมาเป็นเจ้าของ เขาก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งอีก และพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ใช่แล้ว ท่านนี่แหละค
ในดวงตาขององค์หญิงซูหยวนเต็มไปด้วยความชิงชังอย่างชัดเจนแต่เฉียวเนี่ยนกลับไม่แสดงอาการตกใจหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยเฉียวเนี่ยนคุกเข่าลงอย่างมีมารยาทแล้วคำนับกล่าวคำทักทาย "องค์หญิงเสด็จในคราบชาวบ้าน หม่อมฉันจึงไม่กล้าแสดงออกว่าจำองค์หญิงได้เพคะ ก่อนอื่นขอให้องค์หญิงโปรดอภัยในความผิดของหม่อมฉันด้วย"ซึ่งโดยนัยก็คือ เพราะองค์หญิงซูหยวนไม่ได้เปิดเผยตัวตนก่อน ดังนั้นเฉียวเนี่ยนจึงไม่กล้าที่จะเปิดเผยว่าจำนางได้ในทันทีองค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยนอย่างเย็นชา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความดูถูกองค์หญิงซูหยวนไม่ได้สนใจที่เฉียวเนี่ยนทำเหมือนไม่รู้จักนาง แต่กลับรู้สึกไม่พอใจที่ตัวเองถูกใช้ประโยชน์ พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ข้าคิดว่าเจ้าคงเรียนรู้มารยาทจากการที่เข้าไปอยู่ในกรมซักล้างถึงสามปีมาบ้างแล้ว"แทนที่จะเป็นเช่นตอนนี้ ที่เฉียวเนี่ยนไม่เพียงแต่ไม่แสดงความกลัวแม้แต่น้อยเมื่อเผชิญหน้ากับนาง แต่ท่าทางการทำความเคารพของก็ยังแสดงออกถึงไม่อ่อนน้อมอีกด้วยมันทำให้นางอยากจะส่งเฉียวเนี่ยนกลับไปที่กรมซักล้างเพื่อซักเสื้อผ้าอีกสามปีเลยทีเดียว!เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบอะไร นางรู้ว่าองค์หญิงซู
หลินยวนกับหลินเย่ว์ก็ตามเข้ามาด้วยเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนยืนอึ้งอยู่ที่เดิม หลินยวนก็เดินเข้ามาใกล้แล้วพูดว่า "ทั้งหมดนี้ท่านพี่สั่งให้คนจัดเตรียมไว้ ชอบหรือไม่เจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีอาหารจานดีๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น จริงๆ แล้วล้วนแต่เป็นอาหารที่นางชอบถึงขั้นที่บางจาน นางสามารถบอกได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของพ่อครัวจากร้านไหนเพื่อจัดเตรียมอาหารทั้งหมดบนโต๊ะนี้ หลินเย่ว์คงวิ่งไปร้านอาหารและโรงเตี๊ยมไม่ต่ำกว่าสิบแห่งเหมือนกับสิบห้าปีก่อนที่เขาเคยทำเพื่อนางแล้ว หลินเย่ว์มักจะยอมทุ่มเททั้งเวลาและพลังงานมากมายหากเป็นเมื่อก่อน เฉียวเนี่ยนคิดว่า ตอนนี้นางคงจะดีใจและรู้สึกประทับใจมากๆหากว่า... ไม่มีสามปีนั้น...เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนยังคงเงียบอยู่ หลินยวนก็เหมือนจะนึกอะไรได้ แล้วพูดขึ้นว่า "ท่านพี่ยังเตรียมของขวัญให้ท่านด้วยนะ!"พูดเสร็จหลินยวนก็เร่งเร้าให้หลินเย่ว์เอาของขวัญออกมาหลินเย่ว์ดูเหมือนจะรู้สึกเขินและเกร็งเล็กน้อย เขาค่อยๆ นำปิ่นปักผมออกมาจากแขนเสื้อ"นี่... ข้าแกะสลักเองกับมือ เจ้าอย่ารังเกียจมันเลยนะ"หลินเย่ว์พูดเสียงแข็งแล้วยื่นปิ่นปักผมไปให้เฉียว
เฉียวเนี่ยนไม่สนใจนาง แต่กลับเดินตรงมาที่โต๊ะนางเดินวนรอบโต๊ะกลมน้อยๆ ตัวนั้น ไล่เรียงอาหารโปรดของตัวเองที่ตั้งอยู่บนนั้นทีละจาน มุมปากยกยิ้มเย็นยะเยือก "เช่นนั้นแล้ว นี่คือมื้อขอคืนดีอย่างนั้นรึ?"ไม้ผุท่อนหนึ่ง อาหารเต็มโต๊ะ แค่นี้ก็คิดว่าเกลี่ยกล่อมนางได้หรือ?หลินยวนเดินเข้ามาหาเฉียวเนี่ยนอย่างอดไม่ได้ "ท่านพี่ ข้ากับพี่ชายอยากจะ...กับท่านพี่จากใจจริง กรี๊ด!"หลินยวนยังไม่ทันพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ล้มโต๊ะกลมตัวนั้นตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของหลินยวน อาหารรสเลิศบนโต๊ะกลายเป็นซากระเนระนาดเต็มพื้นเมื่อเห็นอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำต้องมีจุดจบเช่นนั้น หลินเย่ว์ก็ทนไม่ไหวในที่สุด ตวาดเสียงดังนั่น "เฉียวเนี่ยน! ข้าไว้หน้าเจ้าแท้ๆ!"ครั้นเห็นหลินเย่ว์เดือดดาล หนิงซวงก็รีบเข้ามาขวางหน้ากันเฉียวเนี่ยนเอสไว้ "ท่านโหวน้อย ที่นี่คือเรือนฟางเหอนะเจ้าคะ"ที่นี่คือเขตแดนของคุณหนูของนาง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านโหวน้อยจะมาทำอุกอาจที่นี่ไม่ได้!แต่ใครจะรู้ว่าหลินเย่ว์กลับตะคอกลั่น "บ่าวชั่วเช่นเจ้ากล้าดีอย่างไรมาต่อปากต่อคำกับข้า? ไสหัวไป!"หนิงซวงไม่ยอมถอยทว่าพอเฉียวเนี่ยนเห็นดวงตาคู่นั้นที่แดงก
เฉียวเนี่ยนนึกว่าตัวเองหูฟาดไป "เจ้าว่าอย่างไรนะ?"ทำเพื่อนางสุดหัวใจอย่างนั้นรึ?หาเรื่องส่งนางไปตายสุดหัวใจมากกว่ากระมัง?หลินเย่ว์คว้ากาเหล้าขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปหาเฉียวเนี่ยน "เรื่องของหมิงอ๋อง ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธเกลียดจวนโหว แต่ต่อให้บอกเรื่องของหมิงอ๋องต่อเจ้าก่อนหน้า เจ้าจะเลือกไม่แต่งกับเขาหรือ? เจ้าใจจดใจจ่อกระหายลาภยศ หมายจะแก้แค้นตระกูลหลิน! เจ้าจะยอมทิ้งอำนาจของหมิงอ๋องหรือ?"ขณะพูดหลินเย่ว์ก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉียวเนี่ยนแล้วเขาสูงกว่านางหนึ่งศีรษะเต็มๆ ต่อให้ตอนนี้ก้มหน้าลง เฉียวเนี่ยนก็ยังคงต้องแหงนหน้ามองเขาสองตาเดือดดาลของนางจ้องมองเขา ไฟโกรธในใจก็ยิ่งโหมกระพือ "ท่านโหวน้อยเข้าใจผิดแล้ว ข้ามิได้ต้องการอำนาจของหมิงอ๋อง แต่เป็นฮูหยินหลินเองต่างหากที่ยื่นมาให้ข้า หากท่านไม่พอใจ ก็ไประบายกับฮูหยินหลินเถิด"ยังไม่ทันพูดจบ หลินเย่ว์ก็พลันเอื้อมมือออกไปคว้าลำคอของเฉียวเนี่ยน"เจ้ามันเจ้าเล่ห์นัก! ข้าอยากจะเลาะฟันเจ้าออกให้หมดปาก อยากจะรู้นักว่าวันหน้าจะปากดีเช่นนี้อีกหรือไม่!"เฉียวเนี่ยนถูกเขาบีบคอจนเริ่มหายใจไม่ออก สองมือบีบแขนของหลินเย่ว์แน่น "ในเมื่อท่านโหวน้อยเ
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เฉียวเนี่ยนก็นอนอยู่บนเตียงที่ไม่คุ้นตากลิ่นไม้กฤษณาอ่อนๆ อบอวลไปทั่วอากาศ หลังจากได้สติ สัญชาตญาณบอกนางว่านี่คือห้องของชายหนุ่ม!แต่ไม่รอให้นางได้ตั้งตัว เสียงเย็นยะเยือกก็ดังขึ้นข้างใบหู "ในเมื่อฟื้นแล้วก็รีบไสหัวออก!"นางตื่นตกใจ เหลียวขวับไปตามต้นเสียงภาพที่เห็นคืนชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนปลายเตียง เครื่องหน้าคมเข้ม หน้าตาคล้ายคลึงกับเซียวเหิงถึงเจ็ดแปดส่วน เรียวคิ้วทรงอำนาจ แต่กลับผอมซูบอย่างผิดคาดผิวขาวซีดยิ่งทำให้รู้ว่าเขาป่วยเฉียวเนี่ยนแทบจะจำเขาได้ในทันที"ท่าน...ท่านพี่เซียว?"นางหวาดกลัวสุดขีด ลนลานพลิกตัวลงจากเตียว แต่คิดไม่ถึงว่าแข้งขาจะแทบไร้เรี่ยวแรง ร่างทั้งรางล้มกระแทกพื้นอย่างแรงแต่โชคดีที่ความเจ็บปวดนั้นทำให้นางได้สติขึ้นมาบ้างส่วนเซียวเหอที่อยู่บนเตียงยังคงมองนางด้วยสายตาเย็นชา ไม่เอ่ยคำใดเฉียวเนี่ยนตื่นตระหนก "ขอโทษเจ้าค่ะท่านพี่เซียว ข้า ข้าไม่รู้ว่าเหตุตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่ได้..."ยังไม่ทันพูดจบ ภาพของหลินเย่ว์และหลินยวนกรอกเหล้าใส่ปากนางก็ผุดขึ้นมาในหัวฝีมือของพวกนั้น!สองพี่น้องตระกลูหลินส่งนางมาที่ห้องของเซียวเหอ!ร
เขาประเคนเฉียวเนี่ยนส่งถึงเตียงเซียวเหอต่อหน้าเซียวเหอแต่ยามนั้นเซียวเหอจะไม่เอ่ยคำใด แต่แววตาพิรุธของอีกฝ่ายนั้นทำให้เขารู้อย่างชัดเจนมิน่าเล่า บนโลกนี้จะมีพี่ชายที่ไหนประเคนน้องสาวตัวเองให้ถึงเตียงชายอื่น?หลินเย่ว์คิดในใจ ใต้ฟ้านี้คงมีเขาแค่คนเดียวแล้วกระมัง?อีกฝากหนึ่ง เซียวเหิงเงยหน้ามองเขา น้ำเสียงเย็นเยือกเอื้อนเอ่ย "หากเจ้าเสียใจ จะกลับลำก็ยังทัน"หลินเย่ว์ถลึงตามองเขาในทันใด "ทันงั้นรึ? ป่านนี้บ่าวคนสนิทของพี่ใหญ่เจ้าคงรู้แล้วกระมัง!"ว่าถึงเพียงเท่านั้น เขาก็พลันรู้สึกว่ามีบางอย่างชอบกล ขมวดคิ้วพลางเอ่ย "อีกอย่าง ข้ามีอะไรต้องเสียใจก่อน? ข้าเป็นคนช่วยชีวิตนางด้วยซ้ำ!"เซียงเหิงยกยิ้ม "นางคงเข้าใจ"ได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ไม่พูดอะไร ในหัวมีแต่ภาพของเฉียวเนี่ยนยามดีดดิ้นทุรนทุรายทั้งยังดวงตาเดือดดาลและเคียดแค้นคู่อันเหลือล้นของนางนางจะเข้าใจหรือหลินเย่ว์คิดว่าไม่แต่ต่อให้นางไม่เข้าใจความทุกข์ของเขา ขอแค่นางมีชีวิตรอดปลอดภัยก็พอ!เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเย่ว์ก็สลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว กระดกเหล้าในจอกจนเกลี้ยงแล้วลุกพรวดขึ้น "ไปกัน ได้เวลาแล้ว"ยามนี้ที่จ
ร่างหลังค่อมซ่อนอยู่ใต้ชุดคลุมตัวโคร่ง เห็นชัดว่าอ่อนแอยิ่งทว่า นางลากร่างผอมชรานี้ สาวเท้าทีละก้าวไปหาเฉียวเนี่ยน ตบหลังเฉียวเนี่ยนอย่างสนิทสนม ก่อนเอ่ยเสียงเบา “วางใจได้ มีย่าอยู่ ไม่มีใครกล้าแตะต้องเจ้าแม้แต่เส้นผมแน่”ครึ่งประโยคสุดท้าย ฮูหยินเฒ่าพูดใส่ท่านโหวหลินเห็นชัดว่ากำลังเตือนท่านโหวหลินแต่ความจริงแล้ว เฉียวเนี่ยนไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อยโทษตระกูลของจวนโหวจะเทียบเท่าแส้ไม้เรียวของกรมซักล้างได้อย่างไร? จะเทียบเท่าคุกมืดของหมิงอ๋องได้อย่างไร?วันนี้ ต่อให้วันนี้ท่านโหวหลินสั่งคนโบยนางจนแหลก ปล่อยนางหายใจรวยรินไป นางก็ไม่มีทางยอมอ่อนข้อให้ถ้ามีปัญญา ก็ตีนางให้ตายไปเลยละกัน!ทว่าแค่คำพูดเดียวของฮูหยินเฒ่า กลับทำให้ดวงตาเฉียวเนี่ยนเอ่อล้นด้วยน้ำตา“ท่านย่าสุขภาพไม่ดี ไฉนถึงออกมาเล่าเจ้าคะ?” เฉียวเนี่ยนพยายามกดเสียงต่ำ กลัวว่าเสียงตนจะเผยอารมณ์ความรู้สึกของตนไปทว่าต่อให้เสียงนางเบาเพียงใด หลินเย่ว์ที่อยู่ข้างๆก็ยังได้ยินหัวใจเขา หดบีบฉับพลันรู้สึกแค่ว่าในเสียงแผ่วเบาของเฉียวเนี่ยนนั้น แฝงเร้นไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจมหาศาลแต่น้อยเนื้อต่ำใจเรื่องอันใดกัน?เรื่อ
เมื่อได้ยินดังว่า เฉียวเนี่ยนกลับแค่นหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ถ้านี่ถือเป็นความผิด เช่นนั้นสามปีก่อน พวกท่านแต่ละคนก็ทำผิดหมดมิใช่หรือ?”ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทุกคนในห้องโถงพลันชะงักค้างทันใดราวกับฮูหยินหลินโดนกระตุ้นบางอย่างเข้า ยืนขึ้นซวนเซ ถอยหลังไปสองก้าว “เจ้า เจ้า......”เฉียวเนี่ยนปราดตามองนาง เงียบงันไร้เสียงทว่าฮูหยินหลินปาดน้ำตาออก “ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้ายังโทษพวกเราอยู่! แต่ว่านะเนี่ยนเนี่ยน นี่มันไม่เหมือนกัน! เรื่องนั้นกระทันหันมาก มันเป็นอุบัติเหตุ! ทว่าวันนี้ เจ้าจงใจวางแผนทำร้ายยวนเอ๋อร์! สองเรื่องนี้ จะมาพูดปนกันได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนหัวเราะเสียงต่ำ “จงใจ วางแผนทำร้าย......สองคำนี้ ใช้ได้ดีนี่!”"แล้วไม่ใช่หรือไร?" หลินเย่ว์เข้ามาถาม “เจ้ากล้าพูดไหม ว่าเจ้าไม่ได้ทำตามคำสั่งองค์หญิง จงใจยุยงให้ยวนเอ๋อร์เข้าวัง?”“ข้าทำตามคำสั่งองค์หญิง ให้พานางเข้าวังจริง” เฉียวเนี่ยนตอบรับอย่างสง่า เสียงดังก้อง ไร้ซึ่งท่าทีหวาดผวาสายตานางมองตรง ไม่มองใครในห้องโถงสักคน เพียงบอกสาธยายความจริงด้วยความสงบนิ่งเท่านั้น “แต่ ชุดที่หลินยวนสวมนั้น เซียวเหิงเอามาให้ข้าจริงๆ”ได้ยินดัง
เมื่อได้ยิน เซียวชิงหน่วนยกมือถูน้ำตาที่เกือบไหลเต็มที อดถามขึ้นอีกไม่ได้ “ตอนนั้นเฉียวเนี่ยนคิดใส่ร้ายหลินยวนจริงหรือ?”เซียวเหิงพยักหน้าตอนนั้นยามเขาเร่งไปถึง ถ้วยแก้วก็แตกไปแล้วเฉียวเนี่ยนกำลังคุกเข่าบนพื้น ชี้นิ้วใส่หลินยวนพูดทั้งน้ำตาว่าหลินยวนเป็นคนทำถ้วยแก้วแตกทว่าตอนนั้น สายตาเหง้าตระกูลหลินอยู่ตรงนั้นมากมาย ไหนเลยจะปล่อยให้นางถูกใส่ความได้!เพราะนางคิดทำร้ายผู้อื่นก่อน ได้รับโทษไปก็สมควรแล้วแต่เขาไม่คาดคิดว่า สามปีจะเนิ่นนานขนาดนี้......เซียวชิงหน่วนสูดจมูก “วันนี้นางก็เป็นคนทำร้ายหลินยวนก่อน” พูดไปเซียวชิงหน่วนก็อดกล่าวโทษเซียวเหิงไปทีเสียไม่ได้ “แต่ พี่ใหญ่ก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย ท่านเอาชุดมอบให้นางไป? อย่าลืมสิ ว่าตอนนี้ท่านเป็นคู่หมั้นของหลินยวน!”เซียวเหิงไม่เคยโดนเซียวชิงหน่วนสั่งสอนมาก่อน เลิกคิ้วทันควัน มองเซียวเหิงด้วยสายตาคุกคามทรงอำนาจ “ต้องให้เจ้าเตือนด้วยหรือ?”เซียวชิงหน่วนเผลลอถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่ปากยังเอ่ยต่อ “ข้ากลัวท่านสับสน ในเมื่อรู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นคนแบบนั้น เช่นนั้นก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับนางมาก ใครจะรู้ว่าต่อไปนางจะทำร้ายใครอี
เซียวชิงหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองความขมขื่นบนหน้าเฉียวเนี่ยน หัวใจพลันเกิดความรู้สึกไม่สบายแต่เมื่อนึกได้ว่าทุกอย่างที่หลินยวนประสบในวันนี้ล้วนเป็นฝีมือเฉียวเนี่ยนแล้ว นางก็อดเอ่ยเสียงเข้มขึ้นอีกครั้งเสียไม่ได้ “แม้เจ้ากับข้าจะทะเลาะกันมาแต่เด็ก ขวางหูขวางตากันมาตลอด แต่ข้ารู้ว่านิสัยแท้จริงเจ้ามิใช่คนเลวร้าย ไม่ว่าอย่างไร เรื่องตอนนั้น หลินยวนมิได้ทำผิด เจ้าทำร้ายนางเช่นนี้ ระวังท้ายสุดจะย้อนมาทำร้ายตัวเจ้าเองล่ะ”พูดประโยคนี้จบ เซียวชิงหน่วนก็เดินไปด้านข้าง พูดคุยกับเหล่าคุณหนูที่คุ้นเคยหากแต่ สายตาของนางยังคงมองไปยังเฉียวเนี่ยนอยู่เสมอนางเห็นเฉียวเนี่ยนเดินไปยังมุมลับสายตาด้วยสีหน้าเหงาซึม เชยชมดอกไม้ที่ไม่สวยงามนักดอกหนึ่ง ทว่าสายตากลับหม่นหมองไร้แสงงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูปีนี้ เป็นเพราะองค์หญิงไม่พึงใจทั้งยังจากไป งานจึงเลิกราเร็วยิ่งยามเซียวชิงหน่วนกลับถึงจวนเซียว ฟ้าก็มืดไม่เห็นแสงแล้วเซียวเหิงกลับมาถึงจวนนานแล้ว ตอนเซียวชิงหน่วนตามเขาเจอ เขาก็ฝึกดาบในลานเรือนของตนแล้วด้วยเหตุนี้ เซียวชิงหน่วนจึงยืนมองอยู่ข้างๆ มิได้เข้าไปรบกวน คอยกระทั่งเซียวเหิงเก็บพลังแล้ว นางถึงรับ
คำพูดเอ่ยเพียงเท่านี้ เซียวเหิงก็เข้าใจแล้ว วันนี้องค์หญิงซูหยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแน่ยิ่งไปกว่านั้น ขันทีน้อยข้างๆยังคลานเบื้องหน้าองค์หญิง ร้องไห้รายงานเรื่องราว “องค์หญิง นางทับดอกถานฮวาของท่านเสียหายแล้วพะยะค่ะ!”องค์หญิงซูหยวนมองตามปลายนิ้วขันทีน้อย ก่อนตะโกนกร้าวด้วยความกริ้วโกรธทันใด “บังอาจ! ริอ่านทำลายดอกถามฮวาที่ข้ารักที่สุดลง! หลินยวน! เจ้าคงรู้สินะว่าดอกถานฮวาพวกนี้ล้ำค่าขนาดไหน!”หลินยวนโดนองค์หญิงซูหยวนตะคอกใส่ รีบหลับในอ้อมอกเซียวเหิงตัวสั่นรุนแรงทว่าไม่ทันให้นางได้เอ่ยปาก หลินเย่ว์กุมมือคารวะเอ่ย “ทูลฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ ยวนเอ๋อร์มิได้ตั้งใจทำลายของรักขององค์หญิง ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ขอองค์หญิงโปรดมองให้กระจ่างแจ้ง”“บังอาจ!” นางกำนัลหลวงข้างกายองค์หญิงต่างทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป “ในเมื่อทำลายของรักขององค์หญิง ถือเป็นโทษทั้งสิ้น! ท่านโหวน้อยเอ่ยอ้างเช่นนี้ จะบอกว่าองค์หญิงไม่แยกแยะถูกผิดอย่างนั้นหรือ?”“กระหม่อมมมิบังอาจ!” หลินเย่ว์รีบคำนับ “หากแต่ยวนเอ๋อร์เกิดอุบัติเหตุล้มใส่จริงพะยะค่ะ เรื่องนี้ทุกคนล้วนเป็นพยานได้”เมื่อได้ยินดังนั้น องค์หญิงซูหย
คล้อยหลังเสียงกรีดร้อง ขันทีน้อยอายุราวสิบที่คอยเฝ้ามองรีบปรี่เข้ามาข้างกายหลินยวน ก่อนดึงให้หลินยวนลุกขึ้นทว่า สายเกินไปแล้วแปลงดอกไม้ถูกหลินยวนทับใส่ไม่เหลือชิ้นดี ดอกไม้น่าสงสารหลายต้นโดนทับจนจมดิน ไม่เหลือซึ่งความงดงามดังเดิมขันทีเห็นภาพตรงหน้า พลันทรุดตัวนั่งทันใด “แย่แล้ว จบสิ้นหมดแล้ว......”พูดไป ทันใดนั้นขันทีน้อยนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงคว้าหมับเข้าชายกระโปรงหลินยวน “เป็นเพราะเจ้า! นี่เป็นสิ่งที่องค์หญิงรับสั่งให้ไปรับจากชมพูทวีปมาด้วยราคาสูง! ข้ากับอาจารย์ทุ่มเทความพยายามยิ่งกว่าจะปลูกสองดอกนี้ได้ อีกไม่กี่เดือนก็ผลิดอกบานแล้ว แต่ตอนนี้ถูกเจ้าทับเละแล้ว! เจ้าต้องชดใช้!”ขันทีน้อยพูดไปพลางร้องไห้ดังลั่น ดึงดูดให้ฝูงชนล้อมวงเข้ามาชุดของหลินยวนเปรอะเปื้อนดินไม่น้อยเพราะล้มใส่แปลงดอก มองตัวเองกลายเป็นตัวตลกที่ฝูงชนหัวเราะเยาะอีกครั้ง จิตใจร้อนรนทนไม่ไหว จึงรีบดึงชุดตนเองกลับมา “เจ้า รีบปล่อยมือ!”“ข้าไม่ปล่อย! เจ้าต้องชดใช้ดอกถามฮวาให้ข้า!” ขันทีน้อยตัดสินใจแล้วว่าวันนี้ต้องทำให้หลินยวนพูดแถลงให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อยเมื่อเห็นเหตุการณ์ หลินเย่ว์รีบเข้ามาพูดโน้ม
นางเงยหน้ามองเซียวเหิงอย่างประหลาดใจ ริ้วแดงยังไม่จางหาย หากแต่ดวงตากลับแดงก่ำ "นี่ นี่ไม่ใช่ท่านพี่เหิงส่งมาให้หรอกหรือ?"เขาส่งให้?สีหน้าเซียวเหิงคร่ำเคร่งลง ก่อนหันมองเฉียวเนี่ยนทันใดสายตาเย็นเยียบคู่นั้นกวาดมองฝูงชน ก่อนหยุดสายตาตรงกวงหน้าเฉียวเนี่ยนอย่างแม่นยำเฉียวเนี่ยนตะลึงงัน จากนั้นรีบหลบสายตาไปนางไม่อยากข้องเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาแต่ไม่คาดคิดว่าพวกหัวไวบางคน จะเห็นถึงความผิดปกติได้ในแวบเดียว “เอ๋ คนข้างกายแม่นางเซียว คือคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวใช่หรือไม่?”ครั้นคนผู้นั้นเอ่ย สายตาเหล่าธารกำนัลที่เหลือก็ปราดมองมายังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนไม่ชอบความรู้สึกเป็นเป้าสายตาคนมากมายเช่นนี้ คิ้วขมวดมุ่นทันควันทว่ากลับมีเสียงคนเอ่ยเบาๆ “ที่แม่ทัพเซียวเอ่ยเมื่อครู่ คงมิใช่ว่าชุดนี้เป็นของคุณหนูผู้นั้นใช่ไหม?”“เมื่อครู่ข้าเองก็รู้สึกประหลาดใจ ชุดสวยๆเช่นนี้ ไฉนถึงได้ทำแขนเสื้อมายาวนัก อย่างกับชุดเล่นงิ้ว!”เฉียวเนี่ยนสูงกว่าหลินยวนอยู่บ้าง แขนย่อมยาวกว่า ประกอบกับตอนสั่งตัดเซียวเหิงกำชับเป็นพิเศษว่าแขนเสื้อต้องยาวอีกหน่อย เพื่อปกปิดรอยแผลเป็นบนข้อมือเฉียวเนี่ยนดังนั้น แขน
พริบตาเดียว ก็ถึงวันงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูแล้วในอุทยานหลวง หลินยวนสวมชุดผ้าไหมท้องฟ้านั้น และใส่คู่กับเครื่องประดับที่หลินเย่ว์เพิ่งซื้อให้นางเมื่อวาน เมื่อปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาของทุกคนเหล่าคุณหนูที่รู้จักนางรีบเข้าไปต้อนรับทันที และชมการแต่งตัวของนางวันนี้อย่างไม่ขาดปากเมื่อเทียบกันแล้ว เฉียวเนี่ยนได้สวมชุดที่เรียบง่ายกว่ามากอีกทั้งคุณหนูคุณชายในนั้นล้วนรู้แค่ว่าเฉียวเนี่ยนคือลูกเลี้ยงจวนโหว แม้แต่หมิงอ๋องที่เป็นที่พึ่งเดียวของนางก็ยังตายเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นคนที่เข้ามาคุยกับนางย่อมไม่มีแม้แต่คนเดียวเฉียวเนี่ยนก็มีความสุขจนผ่อนคลายอิสระ และเดินไปอยู่ตรงมุมหนึ่งอย่างไม่สนใจใครแต่ไม่คิดเลยว่า ยังมีคนเข้ามาต้อนรับ"เฉียวเนี่ยน"คือเซียวชิงหน่วนเฉียวเนี่ยนไม่คิดเลยว่าเซียวชิงหน่วนจะมาทักทายตนเอง อย่างไรเสีย ต่อให้ครั้งก่อนช่วยเซียวชิงหน่วนเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของหลินยวน พวกนางก็ยังเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่เด็กจนโตดังนั้น นางเลิกคิ้วขึ้น ตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย “มีเรื่องอะไร?”“ชุดนั้น”เซียวชิงหน่วนเหลือบมองหลินยวนที่อยู่ไกลๆ แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “นั่นพี่ใหญ่ซื้อให้เจ้า เหต
“เรื่องอะไร?”เฉียวเนี่ยนถามกลับ “เรื่องที่ให้โจรภูเขาลักพาตัวข้า หรือวางยาปลุกกำหนัดข้า และพาข้าไปนอนบนเตียงผู้ชายคนอื่น?“เฉียวเนี่ยนคิดว่า แค่เรื่องคาดไม่ถึงสองเรื่องนี้ ก็เพียงพอให้หลินเย่ว์หุบปากแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า อกเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง และยังแก้ตัวให้ตัวเองอีก “เรื่องยาปลุกกำหนัดเป็นอุบัติเหตุ ข้าคิดว่ามันเป็นแค่ยาสลบธรรมดา…”“มีอะไรแตกต่างหรือ?” เฉียวเนี่ยนจ้องหลินเย่ว์เขม็ง “ท่านโหวน้อยถึงขั้นทำร้ายคู่หมั้นข้าทางอ้อม ท่านทำเรื่องร้ายแรงขัดต่อฟ้าดินมากมาย บัดนี้กลับมาว่าข้ามีเจตนาร้ายแอบแฝง ท่านรู้สึกว่ามันน่าขันไหม?”เรื่องไม่ดีเหล่านั้น หลินเย่ว์ยอมรับดังนั้นตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจดโต้กลับอย่างไรดี หลังสูดหายใจลึกสองหน สุดท้ายก็เบาเสียงลง“ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า แต่พวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับยวนเอ๋อร์ เจ้าอยากแก้แค้น ก็มาลงแค่ที่ข้า”เฉียวเนี่ยนพ่นเสียงเย็นออกมา “แต่ที่ข้าเดินมาถึงวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะหลินยวนสร้างขึ้นมา”หลินเย่ว์กดเสียงต่ำ เหมือนจะโน้มน้าวด้วยความจริงจัง “นั่นเพราะสาวใช้ของนางไม่รู้ความ ยวนเอ๋อร์นางไม่เคยทำร้ายเจ้า”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าอย่างเห็นด้