เฉียวเนี่ยนนึกว่าตัวเองหูฟาดไป "เจ้าว่าอย่างไรนะ?"ทำเพื่อนางสุดหัวใจอย่างนั้นรึ?หาเรื่องส่งนางไปตายสุดหัวใจมากกว่ากระมัง?หลินเย่ว์คว้ากาเหล้าขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปหาเฉียวเนี่ยน "เรื่องของหมิงอ๋อง ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธเกลียดจวนโหว แต่ต่อให้บอกเรื่องของหมิงอ๋องต่อเจ้าก่อนหน้า เจ้าจะเลือกไม่แต่งกับเขาหรือ? เจ้าใจจดใจจ่อกระหายลาภยศ หมายจะแก้แค้นตระกูลหลิน! เจ้าจะยอมทิ้งอำนาจของหมิงอ๋องหรือ?"ขณะพูดหลินเย่ว์ก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉียวเนี่ยนแล้วเขาสูงกว่านางหนึ่งศีรษะเต็มๆ ต่อให้ตอนนี้ก้มหน้าลง เฉียวเนี่ยนก็ยังคงต้องแหงนหน้ามองเขาสองตาเดือดดาลของนางจ้องมองเขา ไฟโกรธในใจก็ยิ่งโหมกระพือ "ท่านโหวน้อยเข้าใจผิดแล้ว ข้ามิได้ต้องการอำนาจของหมิงอ๋อง แต่เป็นฮูหยินหลินเองต่างหากที่ยื่นมาให้ข้า หากท่านไม่พอใจ ก็ไประบายกับฮูหยินหลินเถิด"ยังไม่ทันพูดจบ หลินเย่ว์ก็พลันเอื้อมมือออกไปคว้าลำคอของเฉียวเนี่ยน"เจ้ามันเจ้าเล่ห์นัก! ข้าอยากจะเลาะฟันเจ้าออกให้หมดปาก อยากจะรู้นักว่าวันหน้าจะปากดีเช่นนี้อีกหรือไม่!"เฉียวเนี่ยนถูกเขาบีบคอจนเริ่มหายใจไม่ออก สองมือบีบแขนของหลินเย่ว์แน่น "ในเมื่อท่านโหวน้อยเ
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เฉียวเนี่ยนก็นอนอยู่บนเตียงที่ไม่คุ้นตากลิ่นไม้กฤษณาอ่อนๆ อบอวลไปทั่วอากาศ หลังจากได้สติ สัญชาตญาณบอกนางว่านี่คือห้องของชายหนุ่ม!แต่ไม่รอให้นางได้ตั้งตัว เสียงเย็นยะเยือกก็ดังขึ้นข้างใบหู "ในเมื่อฟื้นแล้วก็รีบไสหัวออก!"นางตื่นตกใจ เหลียวขวับไปตามต้นเสียงภาพที่เห็นคืนชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนปลายเตียง เครื่องหน้าคมเข้ม หน้าตาคล้ายคลึงกับเซียวเหิงถึงเจ็ดแปดส่วน เรียวคิ้วทรงอำนาจ แต่กลับผอมซูบอย่างผิดคาดผิวขาวซีดยิ่งทำให้รู้ว่าเขาป่วยเฉียวเนี่ยนแทบจะจำเขาได้ในทันที"ท่าน...ท่านพี่เซียว?"นางหวาดกลัวสุดขีด ลนลานพลิกตัวลงจากเตียว แต่คิดไม่ถึงว่าแข้งขาจะแทบไร้เรี่ยวแรง ร่างทั้งรางล้มกระแทกพื้นอย่างแรงแต่โชคดีที่ความเจ็บปวดนั้นทำให้นางได้สติขึ้นมาบ้างส่วนเซียวเหอที่อยู่บนเตียงยังคงมองนางด้วยสายตาเย็นชา ไม่เอ่ยคำใดเฉียวเนี่ยนตื่นตระหนก "ขอโทษเจ้าค่ะท่านพี่เซียว ข้า ข้าไม่รู้ว่าเหตุตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่ได้..."ยังไม่ทันพูดจบ ภาพของหลินเย่ว์และหลินยวนกรอกเหล้าใส่ปากนางก็ผุดขึ้นมาในหัวฝีมือของพวกนั้น!สองพี่น้องตระกลูหลินส่งนางมาที่ห้องของเซียวเหอ!ร
เขาประเคนเฉียวเนี่ยนส่งถึงเตียงเซียวเหอต่อหน้าเซียวเหอแต่ยามนั้นเซียวเหอจะไม่เอ่ยคำใด แต่แววตาพิรุธของอีกฝ่ายนั้นทำให้เขารู้อย่างชัดเจนมิน่าเล่า บนโลกนี้จะมีพี่ชายที่ไหนประเคนน้องสาวตัวเองให้ถึงเตียงชายอื่น?หลินเย่ว์คิดในใจ ใต้ฟ้านี้คงมีเขาแค่คนเดียวแล้วกระมัง?อีกฝากหนึ่ง เซียวเหิงเงยหน้ามองเขา น้ำเสียงเย็นเยือกเอื้อนเอ่ย "หากเจ้าเสียใจ จะกลับลำก็ยังทัน"หลินเย่ว์ถลึงตามองเขาในทันใด "ทันงั้นรึ? ป่านนี้บ่าวคนสนิทของพี่ใหญ่เจ้าคงรู้แล้วกระมัง!"ว่าถึงเพียงเท่านั้น เขาก็พลันรู้สึกว่ามีบางอย่างชอบกล ขมวดคิ้วพลางเอ่ย "อีกอย่าง ข้ามีอะไรต้องเสียใจก่อน? ข้าเป็นคนช่วยชีวิตนางด้วยซ้ำ!"เซียงเหิงยกยิ้ม "นางคงเข้าใจ"ได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ไม่พูดอะไร ในหัวมีแต่ภาพของเฉียวเนี่ยนยามดีดดิ้นทุรนทุรายทั้งยังดวงตาเดือดดาลและเคียดแค้นคู่อันเหลือล้นของนางนางจะเข้าใจหรือหลินเย่ว์คิดว่าไม่แต่ต่อให้นางไม่เข้าใจความทุกข์ของเขา ขอแค่นางมีชีวิตรอดปลอดภัยก็พอ!เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเย่ว์ก็สลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว กระดกเหล้าในจอกจนเกลี้ยงแล้วลุกพรวดขึ้น "ไปกัน ได้เวลาแล้ว"ยามนี้ที่จ
จิ่งเหยียน?อุ้มไปแล้ว?เฉียวเนี่ยนโดนวางยาปลุกกำหนัด จิ่งเหยียนอุ้มนางออกไปเช่นนั้น คิดจะทำอะไรกันแน่!เซียวเหิงรู้สึกเพียงแค่ว่าเลือดนั้นเดือดพล่านไปทั่วทั้งกาย ก่อนจะหันหลังเดินออกไปก่อนจิ่งเหยียนจะมาอยู่ใต้บัญชสของเขา เคยเป็นหัวหน้าทหารของเซียวเหอมาถึงสองปีหลังจากเซียวเหอพิการติดเตียง จิ่งเหยียนก็มาเยี่ยมเป็นประจำเขากลับลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท!แม้เขาจะไม่เคยเห็นจิ่งเหยียนแตะต้องหญิงใดมาก่อน แต่หากอดยากปากแห้งมานาน ครั้นเจอสาวงามเข้า ก็ยิ่งยากต้านทาน!ยิ่งคิดสีหน้าของเซียวเหิงก็ยิ่งดูไม่ได้เมื่อออกประตูมาได้ก็ควบม้าออกไป ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป เขาก็มาถึงเรือนของจิ่งเหยียนประตูบ้านเปิดอ้า ไม่ใช่วิสัยของจิ่งเหยียน เห็นได้ชัดว่ายามเขาอุ้มเฉียวเนี่ยนกลับมานั้นรีบร้อนเพียงใดเซียวเหิงอดไม่ไหว คิดถึงภาพยามจิ่งเหยียนรีบร้อนจนอดรนทนทันใดนั้นก็พลันเดือดดาลยิ่งกว่าเดิมเขาจ้ำเท้าเข้าไปในเรือน พุ่งตรงเข้าไปยังห้องนอนของจิ่งเหยียนคิดไม่ถึงเลยว่าจิ่งเหยียนจะเปิดประตูออกมาพอดีท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์เมื่อเห็นเซียวเหิง จิ่งเหยียนเองก็ตกใจยิ่งนัก "ท่านแม
จะเรียกว่าคู่หมั้นคู่หมายก็ไม่เกินจริงต่อเขาจะไม่เคยชอบนางเลย ต่อให้เขาจะไม่เคยเห็นนางอยู่ในสายตาแต่ต่อให้เป็นคนแปลกหน้า?ด้วยนิสัยอย่างเซียวเหิง ย่อมไม่มีทางทำเรื่องสกปรกสมโมเช่นนั้นกับหญิงสาวที่ไม่รู้จักแน่นอน!แต่เหตุใดถึงทำกับนางได้ลงคอเหตุใดพวกเขาถึงได้กล้าทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้กับนางได้!เซียวเหิงถูกตบจนหน้าหัน คราบเลือดไหลซืมออกจากมุมปากหลินเย่ว์ตกใจไม่น้อย เซียวเหิงฉลาดเฉลียวตั้งแต่เด็ก ท่านลุงเซียวจึงไม่ค่อยเฆี่ยนตีเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเขากลัวว่าเซียวเหิงจะบันดาลโทสะลงไม้ลงมือ จึงรีบเข้ามาขวางเฉียวเนี่ยนเอาไว้"เนี่ยนเนี่ยนเจ้าอย่าโกรธไปเลย ที่พวกข้าทำลงไปก็เพื่อเจ้าทั้งนั้น...""เพื่อข้างั้นหรือ?" เฉียวเนี่ยนเหลียวไปทางหลินเย่ว์ มุมปากยกขึ้นแสยะยิ้มเมื่อเห็นหลินเย่ว์พยักหน้ารัว นางก็หันกลับมาหาเซียวเหิงอีกครั้ง "แม่ทัพเซียวเองก็คิดเช่นนั้นหรือ? หวังดีกับข้าอย่างนั้นหรือ?"เซียวเหิงหน้านิ่ง ไม่เอ่ยคำใดปลายลิ้นกวาดเลีบมุมปากของตัวเอง อดคิดไม่ได้ว่าแม่เด็กนี่แรงเยอะปานนี้ตั้งแต่เมื่อใดหลินเย่ว์รีบเอ่ยในทันใด "แน่นอนอยู่แล้วสิ? ย่อมต้องหวังดีกล
ทุกคนต่างตกตะลึงเซียวเหิงตั้งสติได้คนแรก ขมวดคิ้วถามเสียงเข้ม "ตั้งแต่เมื่อใดกัน?"หยดน้ำยังเกาะอยู่บนขนตาของฮูหยินหลิน ส่ายหน้าไปมา "ข่าวเพิ่งส่งมาจากวังเมื่อครู่ ได้ยินมาว่าเป็นโจรภูเขาจากอำเภอเหอโจวเจิ้น!"เหอโจวเจิ้น?หลินเย่ว์ถามอย่างตกใจ "ระยะทางจากเหอโจวเจิ้นมายังเมืองหลวงใช้เวลาสิบวันเต็มๆ ยิ่งไปว่านั้นหมิงอ๋องเพิ่งออกเดินทางไปสำนักราชาโอสถเมื่อเช้านี้ น่าจะมุ่งลงใต้ จะบังเอิญเจอโจรภูเขาที่อำเภอเหอโจวเจิ้น หยงเป่ยได้อย่างไร?"นั่นไม่ใช่โจรภูเขาธรรมดาด้วย!เมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็เต้นถี่รัว "หมิงอ๋องไปสำนักราชาโอสถ? ใกล้แต่งงานเต็มที เขาไปสำนักราชาโอสถทำไม?"สำนักราชาโอสถอยู่ใกล้ชายแดน เดินทางจากเมืองหลวงใช้เวลาหนึ่งเดือนกว่า ต่อให้หมิงอ๋องจะควบเร็วสักเพียงใด ไปกลับเที่ยวหนึ่งก็ต้องใช้เวลาสองเดือนเต็มๆทว่าฮ่องเต้ได้กำหนดเวลามาแล้ว ภายในสองเดือนนี้หมิงอ๋องต้องไปยังเมืองกูเฉิง!เมื่อได้ยินเฉียวเนี่ยนถามดังนั้น หลินเย่ว์กลับพูดไม่ออกท่าทีของเขา อย่าว่าแต่เฉียวเนี่ยนเลย แม้แต่ฮูหยินหลินก็รู้ว่ามีพิรุธนางลากตัวหลินเย่ว์มาอีกทาง เอ่ยถามเสียงกระซิบ "เย่ว์
ประโยคสุดท้าย นางจงใจเน้นเสียงหนัก ยิ่งทำให้หลินยวนหวาดหวั่นใจด้วยเหตุนั้นนางจึงกระตุกแขนเสื้อของฮูหยินหลิน "ท่านแม่ ในเมื่อพี่สาวเหนื่อยนัก เช่นนั้นพวกเราก็กลับกันก่อนเถิด! ในพี่สาวได้พักผ่อน"แล้วก็สงบสติอารมณ์ด้วยนางกลัวว่าหากฮูหยินหลินยังอยู่ต่อไป เฉียวเนี่ยนจะเปิดโปงเรื่องที่นางกรอกเหล้าอีกฝ่ายแม้ว่าสักวันฮูหยินหลินก็ต้องรู้เรื่องนี้ แต่จะให้รู้ตอนนี้ไม่ได้อย่างนั้นก็รอให้เป็นตอนที่พี่ชายอยู่ด้วย...แน่นอนว่าฮูหยินหลินไม่มีทางรู้ความในใจของหลินยวน แต่เมื่อเห็นใบหน้าระเรื่อของเฉียวเนี่ยน นางก็คิดว่ากำลังโมโหหลินเย่ว์ในเมื่อโกรธจนเลือดขึ้นหน้าปานนี้ ย่อมไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมแก่การพูด แต่ยิ่งไปกว่านั้นยามนี้นางก็โมโหหลินเย่ว์จนแน่นอกไปหมด ทำได้เพียงพยักหน้าเอ่ย "เช่นนั้น เนี่ยนเนี่ยนก็พักผ่อนให้เต็มที่เถิด วันพรุ่งนี้... อีกสองสามวัน แม่จะเยี่ยมเจ้าใหม่"ว่าจนฮูหยินหลินก็พาหลินยวนเดินออกไปในทันใดทว่าทั้งสองเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงเย็นของเฉียวเนี่ยนไล่หลัง "ไปพาตัวเสี่ยวชุ่ยมา"นางพูดว่าพาตัวมาร่างของหลินยวนแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด หัวใจถูกบีบอย่างรุนแรงอ
"คุณหนู!" หนิงซวงตกใจแทบบ้า รีบพุ่งเข้ามาพยุงร่างของเฉียวเนี่ยน น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว "คุณหนู เป็นอะไรไปเจ้าคะ?"ท่านโหวน้อยทำอะไรลงไป เหตุใดถึงได้ทำร้ายคุณหนูของนางถึงเพียงนี้!ร่างทั้งร่างของเฉียวเนี่ยนสั่นเครือ อาการนี้คุ้นเคยยิ่งนัก หัวใจของนางรู้สึกวูบโหวง"ยาออกฤทธิ์น่ะ" น้ำเสียงของนางเลื่อนลอย อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพตัวเองยามถูกจิ่งเหยียนอุ้มอยู่ในอ้อมอก ยามนั้นนางก็ตัวสั่นงันงกเช่นนี้จากนั้นสติก็พลันแตกกระเจิง จนเกือบจะปลดเชือกกางเกงของจิ่งเหยียน...โชคดีที่จิ่งเหยียนคว้ามือนางไว้ได้ทันเวลา และหลังจากยาสิ้นฤทธิ์ นางก็ได้สติกลับคืนมานางคิดว่าตัวเองรอดจากฤทธิ์ยาแล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะออกฤทธิ์อีกครั้ง!หนิงซวงตื่นกลัว "ทำ...ทำอย่างไรดีเจ้าคะ? ให้ข้าตามหมอประจำจวนหรือไม่?"เฉียวเนี่ยนส่ายหน้าในทันทีจะเรียกหมอประจำจวนมาไม่ได้ภายใต้ฤทธิ์ยา นางไม่อาจควบคุมคำพูดและการกระทำของตัวเองได้ แม้หมอประจำจวนจะมีอายุแล้ว แต่กระนั้นก็ยังเป็นผู้ชายยามนี้ในสายตาของนาง คนที่สามารถนั่งนิ่งโดยไม่หวั่นไหวได้นั้น เกรงว่าจะมีเพียงรองแม่ทัพจิ่งเพียงคนเดียวเท่านั้นเมื่อคิดได้ดังนั้น
เขาไม่อยากหลีกให้ แต่ก็เข้าใจว่า วันนี้ตนไม่สามารถล้วงความลับจากปากของเซียวเหิงได้แน่คิดแล้วคิดอีก ก็ได้แต่ค่อยๆ หลีกทางให้เซียวเหิงจึงพลิกกายขึ้นม้าอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของวังแต่เมื่อเดินผ่านหลินเย่ว์ ก็ได้ยินเขาถามด้วยเสียงต่ำว่า"เจ้าไม่เคยคิดว่าเจ้าทําแบบนี้ จะทําให้เนี่ยนเนี่ยนเกลียดเจ้ามากขึ้นเหรอ?"ร่างกายของเซียวเหิงพลันแข็งทื่อ แต่กลับไม่หยุดฝีเท้าย่อมเคยคิดมาก่อนแต่เขาไม่มีทางเลือกเขาทําไม่ได้ที่จะมองดูนางไปรักคนอื่นแขนซ้ายพันแผลอย่างง่ายๆ แล้วเซียวเหิงก็เข้าราชสํานักไปฮ่องเต้มองปราดเดียวก็มองออกทันที สีหน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก ในประชุมเช้าไม่ได้เอ่ยคําใด เพียงแค่รั้งเขาเอาไว้หลังจากออกจากประชุมเช้าแล้วภายในท้องพระโรง เซียวเหิงคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่หน้าตําหนักฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์มังกร หลุบตามองเขา น้ำเสียงทุ้มต่ำ เปี่ยมไปด้วยความโกรธ "เจ้ากําลังก่อเรื่องอะไรอยู่กันแน่? เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง ยังคิดจะก่อเรื่องวุ่นวายอีกเหรอ?"เซียวเหิงหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ตอบฮ่องเต้ถลึงตาใส่เขา "ทําไม? ต้องเป็นนางเท่านั้นเหรอ?"ครั้งนี้เซียวเหิงกลับเอ่ยปาก"ใช่ กระ
ตกดึกเฉียวเนี่ยนนอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมา อย่างไรก็นอนไม่หลับนางรู้ว่าหนิงซวงอาจไม่สามารถเห็นคําใบ้ของ'นอกเมืองหลวง'ได้ แต่นางสามารถเข้าใจได้อย่างแน่นอนว่าคำว่าต้องรดน้ำมีปัญหานางรู้ว่าถ้าหนิงซวงไม่เข้าใจ นางจะต้องไปหาเซียวเหอแน่นอน และคําใบ้เกี่ยวกับนอกเมืองหลวง เซียวเหอจะต้องดูออกแน่นอนแต่นางก็ไม่รู้ว่านางอยู่นอกเมืองหลวงหรือไม่อย่างไรก็ตามนางถูกขังอยู่ในจวนตลอดเวลาและไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกคนรับใช้ในจวนก็ไม่พูดถึงแน่ ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาของนางเท่านั้นเป็นเพราะนางเดินผ่านกําแพงสูงของจวนหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากด้านนอกเลย จึงคิดว่าตําแหน่งของจวนหลังนี้จะต้องอยู่ห่างไกลจากเมืองแน่นอนบวกกับวันนั้นนางไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ตอนเช้าตรู่กลับได้กลิ่นไอน้ำที่ชัดเจนและเข้มข้นจึงคิดว่าแถวนี้ต้องมีน้ำแน่นอนแม่น้ำก็ดี น้ำพุก็ดี ต้องมีแน่นอนแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าคําเตือนของนางถูกต้องหรือไม่ แต่ก็มีความหวังอยู่หวังว่า... นางสามารถออกจากที่นี่ได้โดยเร็วที่สุดวันรุ่งขึ้นเซียวเหิงออกจากบ้านแต่เช้าแม้ว่าเขาจะย้ายงานทหารมาที่นี่แล้ว แต่เขาก็ยังต้องไปประช
มันเป็นจดหมายที่สั้นมากและไม่มีสํานวนที่งดงามอะไร ในมุมมองของเฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ มันเป็นจดหมายธรรมดาเท่านั้นแต่ทั้งสองยังคงส่งจดหมายให้เซียวเหิงเซียวเหิงรับมาดูแวบหนึ่ง ดวงตาลึกล้ำไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เพียงเอ่ยเรียบๆ ว่า "ส่งไปเถอะ!""เจ้าค่ะ"เฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ร์รับคําแล้วจากไปแต่แววตาคู่นั้นของเซียวเหิงกลับหม่นหมองลงเขารู้ว่าเฉียวเนี่ยนไม่ยินยอมอยู่ที่นี่แต่อาศัยแค่จดหมายฉบับเดียว ก็อยากหาคนมาช่วยนางเหรอ?ทําไมนางยังไม่เข้าใจว่าตอนนี้ไม่มีใครสามารถพรากนางไปจากเขาได้อีกแล้วเมื่อหนิงซวงได้รับจดหมายฉบับนี้ ก็งงไปหมด"นี่เป็นลายมือของคุณหนูจริงๆ!" หนิงซวงตื่นเต้นจนขอบตาแดงก่ำ หลายวันมานี้ น้ำตาของนางเกือบจะแห้งไปหมดแล้วหวังเอ้ออ่านเนื้อหาในจดหมายแล้วพยักหน้า "ข้าจําลายมือคุณหนูไม่ได้ แต่ในเมื่อคุณหนูบอกว่านางไม่เป็นไร ก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"หนิงซวงเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น "นางเขียนแบบนี้เพื่อให้ข้าสบายใจ นางถูกแม่ทัพเซียวพาตัวไป แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่ในใจต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ!"หวังเอ้อพยักหน้าตาม แต่เมื่อเขาอ่านเนื้อหาในจดหมาย เขาก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ
ท้ายที่สุดเซียวเหิงก็จากไป เขาเดินโซซัดโซเซจากไปราวกับพ่ายแพ้สงครามส่วนเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ในห้องคนเดียว มองดูแสงเทียนที่ลุกโชติช่วง จนกระทั่งฟ้าสางก็ยังไม่รู้สึกง่วงเดิมทีคิดว่า หลังจากผ่านการทะเลาะกันเมื่อคืนมาแล้ว อย่างน้อยเซียวเหิงก็พอจะเข้าใจได้ว่านางไม่อยากมีอะไรกับเขาอีกจริงๆ แต่ใครจะรู้ว่าตอนที่เฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์มาปรนนิบัตินาง ก็ยังเรียก ‘ฮูหยิน’ อยู่ดีกระทั่งถึงวันที่ห้า เซียวเหิงก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนี้โดยตรงเมื่อเห็นเหล่าเด็กรับใช้ขนหนังสือกองแล้วกองเล่าเข้าไปในเรือน คิ้วของเฉียวเนี่ยนก็ขมวดแน่นนางเดินตามเด็กรับใช้เข้าไปในห้องหนังสือ ก็เห็นเด็กรับใช้หลายคนกําลังรวบรวมหนังสืออยู่หน้าชั้นวางหนังสือ ส่วนเด็กรับใช้อีกคนหนึ่งกําลังวางหนังสือจํานวนหนึ่งไว้บนโต๊ะเฉียวเนี่ยนมองปราดหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าล้วนเป็นกิจการทหารหัวใจของนางจมดิ่งลง แม้แต่ในกองทัพเขาก็ไม่อยากไปแล้วเหรอ?เมื่อเด็กรับใช้เห็นนางก็ทําความเคารพพร้อมกัน "คารวะฮูหยิน"คําเรียกแบบนี้ทําให้เฉียวเนี่ยนฟังแล้วรู้สึกทรมานมาก แต่นางก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธพวกเขา จึงขมวดคิ้วถามว่า "เซียวเหิงล่ะ?""
"ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ
แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา
"..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด
สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา
แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก