แชร์

บทที่ 141

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
เฉียวเนี่ยนไม่สนใจนาง แต่กลับเดินตรงมาที่โต๊ะ

นางเดินวนรอบโต๊ะกลมน้อยๆ ตัวนั้น ไล่เรียงอาหารโปรดของตัวเองที่ตั้งอยู่บนนั้นทีละจาน มุมปากยกยิ้มเย็นยะเยือก "เช่นนั้นแล้ว นี่คือมื้อขอคืนดีอย่างนั้นรึ?"

ไม้ผุท่อนหนึ่ง อาหารเต็มโต๊ะ แค่นี้ก็คิดว่าเกลี่ยกล่อมนางได้หรือ?

หลินยวนเดินเข้ามาหาเฉียวเนี่ยนอย่างอดไม่ได้ "ท่านพี่ ข้ากับพี่ชายอยากจะ...กับท่านพี่จากใจจริง กรี๊ด!"

หลินยวนยังไม่ทันพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ล้มโต๊ะกลมตัวนั้น

ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของหลินยวน อาหารรสเลิศบนโต๊ะกลายเป็นซากระเนระนาดเต็มพื้น

เมื่อเห็นอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำต้องมีจุดจบเช่นนั้น หลินเย่ว์ก็ทนไม่ไหวในที่สุด ตวาดเสียงดังนั่น "เฉียวเนี่ยน! ข้าไว้หน้าเจ้าแท้ๆ!"

ครั้นเห็นหลินเย่ว์เดือดดาล หนิงซวงก็รีบเข้ามาขวางหน้ากันเฉียวเนี่ยนเอสไว้ "ท่านโหวน้อย ที่นี่คือเรือนฟางเหอนะเจ้าคะ"

ที่นี่คือเขตแดนของคุณหนูของนาง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านโหวน้อยจะมาทำอุกอาจที่นี่ไม่ได้!

แต่ใครจะรู้ว่าหลินเย่ว์กลับตะคอกลั่น "บ่าวชั่วเช่นเจ้ากล้าดีอย่างไรมาต่อปากต่อคำกับข้า? ไสหัวไป!"

หนิงซวงไม่ยอมถอย

ทว่าพอเฉียวเนี่ยนเห็นดวงตาคู่นั้นที่แดงก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 142

    เฉียวเนี่ยนนึกว่าตัวเองหูฟาดไป "เจ้าว่าอย่างไรนะ?"ทำเพื่อนางสุดหัวใจอย่างนั้นรึ?หาเรื่องส่งนางไปตายสุดหัวใจมากกว่ากระมัง?หลินเย่ว์คว้ากาเหล้าขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปหาเฉียวเนี่ยน "เรื่องของหมิงอ๋อง ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธเกลียดจวนโหว แต่ต่อให้บอกเรื่องของหมิงอ๋องต่อเจ้าก่อนหน้า เจ้าจะเลือกไม่แต่งกับเขาหรือ? เจ้าใจจดใจจ่อกระหายลาภยศ หมายจะแก้แค้นตระกูลหลิน! เจ้าจะยอมทิ้งอำนาจของหมิงอ๋องหรือ?"ขณะพูดหลินเย่ว์ก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉียวเนี่ยนแล้วเขาสูงกว่านางหนึ่งศีรษะเต็มๆ ต่อให้ตอนนี้ก้มหน้าลง เฉียวเนี่ยนก็ยังคงต้องแหงนหน้ามองเขาสองตาเดือดดาลของนางจ้องมองเขา ไฟโกรธในใจก็ยิ่งโหมกระพือ "ท่านโหวน้อยเข้าใจผิดแล้ว ข้ามิได้ต้องการอำนาจของหมิงอ๋อง แต่เป็นฮูหยินหลินเองต่างหากที่ยื่นมาให้ข้า หากท่านไม่พอใจ ก็ไประบายกับฮูหยินหลินเถิด"ยังไม่ทันพูดจบ หลินเย่ว์ก็พลันเอื้อมมือออกไปคว้าลำคอของเฉียวเนี่ยน"เจ้ามันเจ้าเล่ห์นัก! ข้าอยากจะเลาะฟันเจ้าออกให้หมดปาก อยากจะรู้นักว่าวันหน้าจะปากดีเช่นนี้อีกหรือไม่!"เฉียวเนี่ยนถูกเขาบีบคอจนเริ่มหายใจไม่ออก สองมือบีบแขนของหลินเย่ว์แน่น "ในเมื่อท่านโหวน้อยเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 143

    เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เฉียวเนี่ยนก็นอนอยู่บนเตียงที่ไม่คุ้นตากลิ่นไม้กฤษณาอ่อนๆ อบอวลไปทั่วอากาศ หลังจากได้สติ สัญชาตญาณบอกนางว่านี่คือห้องของชายหนุ่ม!แต่ไม่รอให้นางได้ตั้งตัว เสียงเย็นยะเยือกก็ดังขึ้นข้างใบหู "ในเมื่อฟื้นแล้วก็รีบไสหัวออก!"นางตื่นตกใจ เหลียวขวับไปตามต้นเสียงภาพที่เห็นคืนชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนปลายเตียง เครื่องหน้าคมเข้ม หน้าตาคล้ายคลึงกับเซียวเหิงถึงเจ็ดแปดส่วน เรียวคิ้วทรงอำนาจ แต่กลับผอมซูบอย่างผิดคาดผิวขาวซีดยิ่งทำให้รู้ว่าเขาป่วยเฉียวเนี่ยนแทบจะจำเขาได้ในทันที"ท่าน...ท่านพี่เซียว?"นางหวาดกลัวสุดขีด ลนลานพลิกตัวลงจากเตียว แต่คิดไม่ถึงว่าแข้งขาจะแทบไร้เรี่ยวแรง ร่างทั้งรางล้มกระแทกพื้นอย่างแรงแต่โชคดีที่ความเจ็บปวดนั้นทำให้นางได้สติขึ้นมาบ้างส่วนเซียวเหอที่อยู่บนเตียงยังคงมองนางด้วยสายตาเย็นชา ไม่เอ่ยคำใดเฉียวเนี่ยนตื่นตระหนก "ขอโทษเจ้าค่ะท่านพี่เซียว ข้า ข้าไม่รู้ว่าเหตุตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่ได้..."ยังไม่ทันพูดจบ ภาพของหลินเย่ว์และหลินยวนกรอกเหล้าใส่ปากนางก็ผุดขึ้นมาในหัวฝีมือของพวกนั้น!สองพี่น้องตระกลูหลินส่งนางมาที่ห้องของเซียวเหอ!ร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 144

    เขาประเคนเฉียวเนี่ยนส่งถึงเตียงเซียวเหอต่อหน้าเซียวเหอแต่ยามนั้นเซียวเหอจะไม่เอ่ยคำใด แต่แววตาพิรุธของอีกฝ่ายนั้นทำให้เขารู้อย่างชัดเจนมิน่าเล่า บนโลกนี้จะมีพี่ชายที่ไหนประเคนน้องสาวตัวเองให้ถึงเตียงชายอื่น?หลินเย่ว์คิดในใจ ใต้ฟ้านี้คงมีเขาแค่คนเดียวแล้วกระมัง?อีกฝากหนึ่ง เซียวเหิงเงยหน้ามองเขา น้ำเสียงเย็นเยือกเอื้อนเอ่ย "หากเจ้าเสียใจ จะกลับลำก็ยังทัน"หลินเย่ว์ถลึงตามองเขาในทันใด "ทันงั้นรึ? ป่านนี้บ่าวคนสนิทของพี่ใหญ่เจ้าคงรู้แล้วกระมัง!"ว่าถึงเพียงเท่านั้น เขาก็พลันรู้สึกว่ามีบางอย่างชอบกล ขมวดคิ้วพลางเอ่ย "อีกอย่าง ข้ามีอะไรต้องเสียใจก่อน? ข้าเป็นคนช่วยชีวิตนางด้วยซ้ำ!"เซียงเหิงยกยิ้ม "นางคงเข้าใจ"ได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ไม่พูดอะไร ในหัวมีแต่ภาพของเฉียวเนี่ยนยามดีดดิ้นทุรนทุรายทั้งยังดวงตาเดือดดาลและเคียดแค้นคู่อันเหลือล้นของนางนางจะเข้าใจหรือหลินเย่ว์คิดว่าไม่แต่ต่อให้นางไม่เข้าใจความทุกข์ของเขา ขอแค่นางมีชีวิตรอดปลอดภัยก็พอ!เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเย่ว์ก็สลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว กระดกเหล้าในจอกจนเกลี้ยงแล้วลุกพรวดขึ้น "ไปกัน ได้เวลาแล้ว"ยามนี้ที่จ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 145

    จิ่งเหยียน?อุ้มไปแล้ว?เฉียวเนี่ยนโดนวางยาปลุกกำหนัด จิ่งเหยียนอุ้มนางออกไปเช่นนั้น คิดจะทำอะไรกันแน่!เซียวเหิงรู้สึกเพียงแค่ว่าเลือดนั้นเดือดพล่านไปทั่วทั้งกาย ก่อนจะหันหลังเดินออกไปก่อนจิ่งเหยียนจะมาอยู่ใต้บัญชสของเขา เคยเป็นหัวหน้าทหารของเซียวเหอมาถึงสองปีหลังจากเซียวเหอพิการติดเตียง จิ่งเหยียนก็มาเยี่ยมเป็นประจำเขากลับลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท!แม้เขาจะไม่เคยเห็นจิ่งเหยียนแตะต้องหญิงใดมาก่อน แต่หากอดยากปากแห้งมานาน ครั้นเจอสาวงามเข้า ก็ยิ่งยากต้านทาน!ยิ่งคิดสีหน้าของเซียวเหิงก็ยิ่งดูไม่ได้เมื่อออกประตูมาได้ก็ควบม้าออกไป ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป เขาก็มาถึงเรือนของจิ่งเหยียนประตูบ้านเปิดอ้า ไม่ใช่วิสัยของจิ่งเหยียน เห็นได้ชัดว่ายามเขาอุ้มเฉียวเนี่ยนกลับมานั้นรีบร้อนเพียงใดเซียวเหิงอดไม่ไหว คิดถึงภาพยามจิ่งเหยียนรีบร้อนจนอดรนทนทันใดนั้นก็พลันเดือดดาลยิ่งกว่าเดิมเขาจ้ำเท้าเข้าไปในเรือน พุ่งตรงเข้าไปยังห้องนอนของจิ่งเหยียนคิดไม่ถึงเลยว่าจิ่งเหยียนจะเปิดประตูออกมาพอดีท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์เมื่อเห็นเซียวเหิง จิ่งเหยียนเองก็ตกใจยิ่งนัก "ท่านแม

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 146

    จะเรียกว่าคู่หมั้นคู่หมายก็ไม่เกินจริงต่อเขาจะไม่เคยชอบนางเลย ต่อให้เขาจะไม่เคยเห็นนางอยู่ในสายตาแต่ต่อให้เป็นคนแปลกหน้า?ด้วยนิสัยอย่างเซียวเหิง ย่อมไม่มีทางทำเรื่องสกปรกสมโมเช่นนั้นกับหญิงสาวที่ไม่รู้จักแน่นอน!แต่เหตุใดถึงทำกับนางได้ลงคอเหตุใดพวกเขาถึงได้กล้าทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้กับนางได้!เซียวเหิงถูกตบจนหน้าหัน คราบเลือดไหลซืมออกจากมุมปากหลินเย่ว์ตกใจไม่น้อย เซียวเหิงฉลาดเฉลียวตั้งแต่เด็ก ท่านลุงเซียวจึงไม่ค่อยเฆี่ยนตีเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเขากลัวว่าเซียวเหิงจะบันดาลโทสะลงไม้ลงมือ จึงรีบเข้ามาขวางเฉียวเนี่ยนเอาไว้"เนี่ยนเนี่ยนเจ้าอย่าโกรธไปเลย ที่พวกข้าทำลงไปก็เพื่อเจ้าทั้งนั้น...""เพื่อข้างั้นหรือ?" เฉียวเนี่ยนเหลียวไปทางหลินเย่ว์ มุมปากยกขึ้นแสยะยิ้มเมื่อเห็นหลินเย่ว์พยักหน้ารัว นางก็หันกลับมาหาเซียวเหิงอีกครั้ง "แม่ทัพเซียวเองก็คิดเช่นนั้นหรือ? หวังดีกับข้าอย่างนั้นหรือ?"เซียวเหิงหน้านิ่ง ไม่เอ่ยคำใดปลายลิ้นกวาดเลีบมุมปากของตัวเอง อดคิดไม่ได้ว่าแม่เด็กนี่แรงเยอะปานนี้ตั้งแต่เมื่อใดหลินเย่ว์รีบเอ่ยในทันใด "แน่นอนอยู่แล้วสิ? ย่อมต้องหวังดีกล

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 147

    ทุกคนต่างตกตะลึงเซียวเหิงตั้งสติได้คนแรก ขมวดคิ้วถามเสียงเข้ม "ตั้งแต่เมื่อใดกัน?"หยดน้ำยังเกาะอยู่บนขนตาของฮูหยินหลิน ส่ายหน้าไปมา "ข่าวเพิ่งส่งมาจากวังเมื่อครู่ ได้ยินมาว่าเป็นโจรภูเขาจากอำเภอเหอโจวเจิ้น!"เหอโจวเจิ้น?หลินเย่ว์ถามอย่างตกใจ "ระยะทางจากเหอโจวเจิ้นมายังเมืองหลวงใช้เวลาสิบวันเต็มๆ ยิ่งไปว่านั้นหมิงอ๋องเพิ่งออกเดินทางไปสำนักราชาโอสถเมื่อเช้านี้ น่าจะมุ่งลงใต้ จะบังเอิญเจอโจรภูเขาที่อำเภอเหอโจวเจิ้น หยงเป่ยได้อย่างไร?"นั่นไม่ใช่โจรภูเขาธรรมดาด้วย!เมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็เต้นถี่รัว "หมิงอ๋องไปสำนักราชาโอสถ? ใกล้แต่งงานเต็มที เขาไปสำนักราชาโอสถทำไม?"สำนักราชาโอสถอยู่ใกล้ชายแดน เดินทางจากเมืองหลวงใช้เวลาหนึ่งเดือนกว่า ต่อให้หมิงอ๋องจะควบเร็วสักเพียงใด ไปกลับเที่ยวหนึ่งก็ต้องใช้เวลาสองเดือนเต็มๆทว่าฮ่องเต้ได้กำหนดเวลามาแล้ว ภายในสองเดือนนี้หมิงอ๋องต้องไปยังเมืองกูเฉิง!เมื่อได้ยินเฉียวเนี่ยนถามดังนั้น หลินเย่ว์กลับพูดไม่ออกท่าทีของเขา อย่าว่าแต่เฉียวเนี่ยนเลย แม้แต่ฮูหยินหลินก็รู้ว่ามีพิรุธนางลากตัวหลินเย่ว์มาอีกทาง เอ่ยถามเสียงกระซิบ "เย่ว์

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 148

    ประโยคสุดท้าย นางจงใจเน้นเสียงหนัก ยิ่งทำให้หลินยวนหวาดหวั่นใจด้วยเหตุนั้นนางจึงกระตุกแขนเสื้อของฮูหยินหลิน "ท่านแม่ ในเมื่อพี่สาวเหนื่อยนัก เช่นนั้นพวกเราก็กลับกันก่อนเถิด! ในพี่สาวได้พักผ่อน"แล้วก็สงบสติอารมณ์ด้วยนางกลัวว่าหากฮูหยินหลินยังอยู่ต่อไป เฉียวเนี่ยนจะเปิดโปงเรื่องที่นางกรอกเหล้าอีกฝ่ายแม้ว่าสักวันฮูหยินหลินก็ต้องรู้เรื่องนี้ แต่จะให้รู้ตอนนี้ไม่ได้อย่างนั้นก็รอให้เป็นตอนที่พี่ชายอยู่ด้วย...แน่นอนว่าฮูหยินหลินไม่มีทางรู้ความในใจของหลินยวน แต่เมื่อเห็นใบหน้าระเรื่อของเฉียวเนี่ยน นางก็คิดว่ากำลังโมโหหลินเย่ว์ในเมื่อโกรธจนเลือดขึ้นหน้าปานนี้ ย่อมไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมแก่การพูด แต่ยิ่งไปกว่านั้นยามนี้นางก็โมโหหลินเย่ว์จนแน่นอกไปหมด ทำได้เพียงพยักหน้าเอ่ย "เช่นนั้น เนี่ยนเนี่ยนก็พักผ่อนให้เต็มที่เถิด วันพรุ่งนี้... อีกสองสามวัน แม่จะเยี่ยมเจ้าใหม่"ว่าจนฮูหยินหลินก็พาหลินยวนเดินออกไปในทันใดทว่าทั้งสองเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงเย็นของเฉียวเนี่ยนไล่หลัง "ไปพาตัวเสี่ยวชุ่ยมา"นางพูดว่าพาตัวมาร่างของหลินยวนแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด หัวใจถูกบีบอย่างรุนแรงอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 149

    "คุณหนู!" หนิงซวงตกใจแทบบ้า รีบพุ่งเข้ามาพยุงร่างของเฉียวเนี่ยน น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว "คุณหนู เป็นอะไรไปเจ้าคะ?"ท่านโหวน้อยทำอะไรลงไป เหตุใดถึงได้ทำร้ายคุณหนูของนางถึงเพียงนี้!ร่างทั้งร่างของเฉียวเนี่ยนสั่นเครือ อาการนี้คุ้นเคยยิ่งนัก หัวใจของนางรู้สึกวูบโหวง"ยาออกฤทธิ์น่ะ" น้ำเสียงของนางเลื่อนลอย อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพตัวเองยามถูกจิ่งเหยียนอุ้มอยู่ในอ้อมอก ยามนั้นนางก็ตัวสั่นงันงกเช่นนี้จากนั้นสติก็พลันแตกกระเจิง จนเกือบจะปลดเชือกกางเกงของจิ่งเหยียน...โชคดีที่จิ่งเหยียนคว้ามือนางไว้ได้ทันเวลา และหลังจากยาสิ้นฤทธิ์ นางก็ได้สติกลับคืนมานางคิดว่าตัวเองรอดจากฤทธิ์ยาแล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะออกฤทธิ์อีกครั้ง!หนิงซวงตื่นกลัว "ทำ...ทำอย่างไรดีเจ้าคะ? ให้ข้าตามหมอประจำจวนหรือไม่?"เฉียวเนี่ยนส่ายหน้าในทันทีจะเรียกหมอประจำจวนมาไม่ได้ภายใต้ฤทธิ์ยา นางไม่อาจควบคุมคำพูดและการกระทำของตัวเองได้ แม้หมอประจำจวนจะมีอายุแล้ว แต่กระนั้นก็ยังเป็นผู้ชายยามนี้ในสายตาของนาง คนที่สามารถนั่งนิ่งโดยไม่หวั่นไหวได้นั้น เกรงว่าจะมีเพียงรองแม่ทัพจิ่งเพียงคนเดียวเท่านั้นเมื่อคิดได้ดังนั้น

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 201

    คำพูดของจิ่งเหยียนทำเอาหลินเย่ว์ชะงักไป ก่อนจะเดือดดาลในทันใด"น้ำหน้าอย่างเจ้า ยังกล้าดีปฎิเสธเนี่ยนเนี่ยนอีกหรือ? คิดว่าเป็นรองแม่ทัพหนุ่มแล้วเก่งนักรึ? ข้าจะบอกอะไรให้นะ อย่างเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะหิ้วรองเท้าให้เนี่ยนเนี่ยนด้วยซ้ำ!"เดิมคิดว่าหลินเย่ว์ถ้อยคำดูถูกดูแคลนเช่นนี้ต้องทำให้จิ่งเหยียนทั้งแค้นเคืองทั้งอับอายเป็นแน่แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น จิ่งเหยียนกลับตอบเสียงแผ่วเบา "ข้ารู้"ดูแววตาเลื่อนลอย น้ำเสียงนิ่งเรียบของเขาสิ แค้นเคืองหรืออับอายเสียที่ไหน?หลินเย่ว์และเซียวเหิงต่างตกตะลึงกลับกันจิ่งเหยียนเริ่มพร่ำพรรณนา สายตาหยุดอยู่ที่พื้น ราวกลับกำลังนึกย้อนอดีตกาล"แต่ก่อน แม่นางเฉียวคือจันทร์แจ่มบนฟากฟ้า พวกเจ้าทนุถนอมนาง ป้องกันนาง ข้ารู้ว่าฐานะของตัวเองแตกต่างจากนางเพียงใด ได้แต่เฝ้าชะเง้อมองนางจากไกลๆ ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกินเลย แต่หลังจากนั้น โชคชะตาพลิกผัน นางตกจากสวรรค์สู่โคลนดิน พวกเจ้าทุกคนทอดทิ้งนาง!"หลินเย่ว์ขมวดคิ้ว ส่งเสียงฮึดฮัด เอ่ยเย้ยหยัน "เช่นนั้นตอนนี้เจ้าจึงกล้าคิดเกินเลยกับนางอย่างนั้นรึ?"คิดไม่ถึงเลยว่าจิ่งเหยียนจะส่ายหน้า "เขาแค่เห็นใจแม่นางเฉียว"

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 200

    จิ่งเหยียนหลุบตาลง ลูบมือขวาที่ปล่อยหมัดเมื่อครู่ของตน เอ่ยเสียงเรียบว่า "เช่นนั้นแม่นางเฉียวอาจแค่ชอบท่านแม่ทัพป้อนอาหารนางเท่านั้น ถ้าชอบขนมอบนั่นจริงๆ จะแบ่งให้คนอื่นได้อย่างไร?"ตอนนั้น เขาก็เคยกินขนมที่เฉียวเนี่ยนแบ่งให้ได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ก็พูดอะไรไม่ออกอดคิดไม่ได้ว่าเมื่อก่อนเฉียวเนี่ยนชอบแบ่งขนมให้คนอื่นกินจริงๆเขาคิดว่านางแค่ชอบแบ่งปันแต่อย่างที่จิ่งเหยียนกล่าวไว้ ถ้าชอบกินจริงๆ แล้วจะแบ่งให้คนอื่นได้อย่างไร?ชั่วขณะหนึ่ง เซียวเหิงรู้สึกไม่รู้จะทําอย่างไรดี แม้แต่แรงที่กดจิ่งเหยียนไว้ก็ผ่อนคลายลงเขาคิดเสมอว่านางชอบกินขนมอบของหลี่จี้เมื่อก่อน ตอนที่เขาส่งขนมหวานให้นาง นางมักจะทําท่าทางประหลาดใจมาก สีหน้าดีใจเล็กๆ นั้น ราวกับว่าได้ของล้ําค่าที่สุดในโลกนี้แล้วแต่ต่อมา ขนมที่เขาตั้งใจวางไว้ในรถม้านางก็ไม่ได้แตะต้อง เป็นขนมที่มอบให้นางเองกับมือ นางก็หันมามอบให้หลินยวนเขาแค่คิดว่านางยังคงเกลียดเขา ดังนั้นแม้แต่ของที่เขาให้มาก็ไม่กินแต่ไม่เคยคิดว่านางไม่ชอบกินเลยเขากับนางเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก เพราะแก่กว่านางสองปี เขาจึงปกป้องนางทุกหนทุกแห่ง อดทนกับนางเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 199

    ตอนที่หลินเย่ว์มาถึงกองทัพ จิ่งเหยียนกําลังรายงานกิจการทหารกับเซียวเหิงอยู่ในห้องหนังสือประตูห้องถูกคนถีบเปิดออก จากนั้นหลินเย่ว์ก็พุ่งเข้ามา ไม่พูดพร่ำทําเพลง ชกหมัดใส่หน้าจิ่งเหยียนอย่างแรงโชคดีที่ปฏิกิริยาของจิ่งเหยียนไม่ช้า เขาเอนตัวไปข้างหลังและหลบได้อย่างหวุดหวิดแต่หลินเย่ว์ไม่ยอมแพ้และเตะออกไทันทีจิ่งเหยียนยังคงหลบอยู่ แต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะโจมตีต่อเมื่อเห็นดังนั้น เซียวเหิงก็ขมวดคิ้ว พลิกตัวจากหลังโต๊ะมาบังกําปั้นของหลินเย่ว์ที่กําลังจะฟาดลงบนใบหน้าของจิ่งเหยียนน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความโกรธที่สังเกตได้ยาก "บ้าไปแล้วหรือ?"หลินเย่ว์สะบัดมือของเซียวเหิงออก ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความโกรธ จ้องจิ่งเหยียนเขม็ง "เจ้าถามเขาสิ ว่าทําเรื่องอะไรมา!"เซียวเหิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปมองจิ่งเหยียนกลับเห็นจิ่งเหยียนทําท่าทางสง่าผ่าเผย "ข้าน้อยฟังความหมายของท่านโหวน้อยไม่ออก"ก็แค่ส่งอาหารจานหนึ่งให้เฉียวเนี่ยน ทําไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย?เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของจิ่งเหยียน หลินเย่ว์ก็แทบอยากจะต่อยเขาอีกครั้ง "เช้านี้เจ้าปีนกําแพงออกมาจากเรือนเนี่ยนเนี่ยน องครักษ์ของจวนข้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 198

    เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความโกรธในใจของหลินเย่ว์ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น "ไม่ว่ายังไง เจ้าเป็นผู้หญิง ก็ควรให้ความสําคัญกับชื่อเสียงของตัวเอง เจ้าและยวนเอ๋อร์ต่างก็รอที่จะแต่งงานอยู่ หากมีข่าวซุบซิบใดๆ ออกมา มันจะไม่ดีต่อเจ้าและยวนเอ๋อร์เลย"ถ้ามีคนรู้ว่าเฉียวเนี่ยนพบผู้ชายตอนกลางคืนในห้องนอนของตัวเอง คนนอกจะคิดอย่างไรกับนาง จะคิดอย่างไรกับหญิงสาวของจวนโหว?เมื่อถึงเวลานั้น แม้แต่ชื่อเสียงของยวนเอ๋อร์ก็ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย!และฟังถึงตรงนี้ ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็เข้าใจนางอดยิ้มเย็นไม่ได้ "ข้าก็ว่าแล้ว ท่านโหวน้อยก็จ้างคนมามัดข้า แถมยังวางยาข้าอีก ทําไมจู่ๆ ถึงสนใจชื่อเสียงของข้าขึ้นมา ที่แท้ ก็เพื่อหลินยวนนี่เอง"หลินเย่ว์นิ่งไป ในที่สุดก็จําเรื่องไร้สาระที่เขาเคยทํามาก่อนได้จึงพูดว่า "วันนี้ข้าไม่ได้มาทะเลาะกับเจ้า สรุปแล้ว ท่านย่าลงโทษเจ้าให้ทบทวนความผิดตัวเอง ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าแอบนัดพบชายอื่นในจวน เจ้าจงดูแลตัวเองให้ดี"คําพูดนี้เท่ากับตัดสินโทษของเฉียวเนี่ยนหลินเย่ว์พูดจบก็เดินออกไปข้างนอกแต่ไม่คิดเลยว่า จานใบหนึ่งจะโจมตีจากด้านหลัง กระแทกใส่ไหล่ซ้ายของเขาอย่างแม่นยําเกิดอาการ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 197

    เฉียวเนี่ยนตกใจจิ่งเหยียนถูกพบแล้ว!หนิงซวงรีบยัดกล่องอาหารที่ยังวางไม่ทันใส่มือของเฉียวเนี่ยน "คุณหนูอย่าใจร้อน บ่าวจะออกไปดูสักหน่อยเจ้าค่ะ"พูดจบก็เดินออกไปอย่างรวดเร็วผ่านไปครู่ใหญ่ หนิงซวงจึงกลับมา "คุณหนู คนที่องค์รักษ์ค้นพบก็คือรองแม่ทัพจิ่ง! แต่ท่านไม่ต้องกังวล รองแม่ทัพจิ่งวิ่งเร็ว ไม่ได้ถูกจับเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินคําพูดนี้ เฉียวเนี่ยนถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกถ้าจิ่งเหยียนเสียชื่อเสียงเพราะนาง แบบนี้นางมิต้องมีบาปติดตัวอย่างหนักเหรอแต่คิดไม่ถึงเลยว่าไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ประตูใหญ่ของเรือนฟางเหอก็ถูกคนเคาะเปิดแล้วเป็นหลินเย่ว์นั่นเองตอนที่เขามา เฉียวเนี่ยนเพิ่งกินอาหารเช้าเสร็จเมื่อเห็นเขา สีหน้าของเฉียวเนี่ยนย่อมไม่ค่อยดีนัก จึงพูดทันทีว่า "ในเมื่อท่านย่าลงโทษให้ข้าอยู่ในเรือนฟางเหอเพื่อคิดทบทวนตนเอง ก็ย่อมไม่อยากให้ผู้อื่นมารบกวน และไม่รู้ว่าท่านโหวน้อยมาหาข้าแต่เช้าตรู่เช่นนี้ มีธุระสําคัญอะไรหรือเจ้าคะ?"คําพูดนางเต็มไปด้วยความไม่ต้อนรับหลินเย่ว์จะฟังไม่ออกได้อย่างไร กลับมองไปที่หนิงซวงที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า "องครักษ์บอกว่า เช้านี้พบชายคนหนึ่งปีนกําแพงออกมา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 196

    ทําสองครั้งแรก มันก็กินยากจริงๆ นั่นแหละดังนั้นเขาจึงจ่ายเงินเรียนซะเลย แต่ไม่คิดว่าไส้ใหญ่หมูแบบนี้นี้ดูเหมือนง่าย แต่การทํามให้อร่อยไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อคืนหลังจากเรียนเสร็จ เขาก็รีบไปซื้อไส้ใหญ่หมูกลับไปอย่างอดใจรอไม่ไหว ไม่ง่ายเลยที่จะทําชามนี้ออกมาได้เขาคิดว่าของแบบนี้เย็นแล้วไม่อร่อย จึงถือโอกาสเอาไปให้เฉียวเนี่ยนตอนร้อนแต่จนกระทั่งเขาเคาะหน้าต่างของเฉียวเนี่ยน เขาถึงได้สติขึ้นมาอย่างกระทันหันฟ้าเพิ่งสว่าง เขาก็มาอย่างอดใจรอไม่ไหวแล้วซ้ำยังปีนกําแพงเข้ามาเพื่อเอาไส้ใหญ่หมูไปให้เฉียวเนี่ยนแค่ไส้ใหญ่หมูจานเดียวเอง!คิดแบบนี้แล้ว ใบหน้าของจิ่งเหยียนก็แดงก่ำจนเลือดแทบจะไหลออกมาแล้วเขารู้สึกว่าตัวเองบุ่มบ่ามเกินไปแล้วแต่ตอนนี้ เขาจากไปก็ไม่ใช่ อยู่ก็ไม่เชิงใบหน้าที่แข็งกระด้างในตอนแรก ตอนนี้เต็มไปด้วยความลําบากใจเฉียวเนี่ยนย่อมคิดไม่ถึงว่าจิ่งเหยียนจะมาส่งไส้ใหญ่หมูเห็นได้ชัดว่าครั้งที่แล้วนางแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ผ่านไปนานขนาดนี้ นางก็ลืมไปแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะส่งมาแล้วเมื่อเห็นใบหน้าดําคล้ําของจิ่งเหยียนเกือบจะแดงจนยืนไม่อยู่ เฉียวเนี่ยนก็อดยิ้มไม่

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 195

    คืนนั้น เฉียวเนี่ยนได้ฝันในความฝัน นางย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน ตอนที่หลินยวนทําถ้วยแก้วแตกเมื่อเผชิญหน้ากับการตําหนิขององค์หญิง เซียวเหิงและหลินเย่ว์ในความฝันก็เข้าไปขวางหน้าองค์หญิงพร้อมกันในขณะที่เฉียวเนี่ยนรู้สึกซาบซึ้งใจกับเรื่องนี้ กลับพบว่าคนที่ถูกพวกเขาปกป้องอยู่ข้างหลังคือหลินยวน ไม่ใช่นางสุดท้าย นางที่อยู่ในความฝันก็ถูกพาไปที่กรมซักล้าง ถูกพวกนางบ่าวร่วมมือกันรังแก ถูกมามาเฆี่ยนตี...ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็ตื่นจากภวังค์ หอบหายใจอย่างหนักหน่วง บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นบางๆ ปกคลุมอยู่ หัวใจเต้นรัวเร็วแน่นอนว่าสําหรับนาง กรมซักล้างนั้นเปรียบได้ดั่งนรกคงเพราะได้ยินเสียงเคลื่อนไหว หนิงซวงจึงเดินเข้ามาจากข้างนอก เห็นเฉียวเนี่ยนกําลังนั่งหอบหายใจอยู่บนเตียง จึงอดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้ "คุณหนูฝันร้ายหรือเจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ ส่ายหน้าเล็กน้อย "เป็นแค่ฝันร้ายเล็กๆ เท่านั้น ไม่เป็นไรหรอก"นางคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกลางวันทําให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงฝันแบบนั้นแต่ว่า แม้แต่ในความฝัน เซียวเหิงและหลินเย่ว์ก็ไม่ได้ปกป้องนางนางยิ้มอย่างขมขื่นและส

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 194

    ขณะที่พูด สายตาของฮูหยินเฒ่าก็กวาดผ่านใบหน้าของทุกคนไปทีละคนๆ สุดท้ายจึงไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของท่านโหวหลิน "เจ้าบอกว่าเพราะแม่ลําเอียง แต่พวกเจ้าล่ะ? หัวใจของพวกเจ้าเอนเอียงตั้งนานแล้ว! หากข้าไม่ปกป้องนางสักหน่อย นางจะยังมีชีวิตอยู่ในจวนโหวแห่งนี้ได้หรือ?"เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินเฒ่าก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก และค่อยๆ เดินออกไปข้างนอก"หัวใจคนนั้นทำมาจากเลือดเนื้อ! ต่อให้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ก็เลี้ยงมาตั้งหลายปี ยังไงก็ต้องมีความรู้สึกบ้างแหละ"ในห้องโถงใหญ่ คนทั้งหลายยืนอยู่ที่เดิม มองแผ่นหลังหลังค่อมของฮูหยินเฒ่าที่ยิ่งเดินยิ่งไกลจนกระทั่งหลังจากหายลับไปจากสายตาของทุกคนแล้ว ท่านโหวหลินจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเสียงเบาว่า "เรื่องในวันนี้ ใครเป็นคนเล่าให้ฮูหยินเฒ่าฟัง?"หลินเย่ว์ทําหน้าบึ้งตึงไม่พูดไม่จา ในสมองยังคงมีแต่ตอนที่เฉียวเนี่ยนเรียกพี่ใหญ่อยู่แน่นอนว่าฮูหยินหลินเองก็ไม่รู้เช่นกันมีเพียงหลินยวนที่มองดูคนอื่นแล้วถึงเอ่ยปาก "บางที อาจเป็นเพราะตอนที่สาวใช้ในเรือนข้าไปเอายามาจากหมอประจําทําให้หลุดปากออกมา"ถึงอย่างไรสาวใช้ในเรือนของฮูหยินเฒ่า ทุกวันต้องไปหาหมอถึงสามครั้ง มีความเป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 193

    สิ้นเสียงของเฉียวเนี่ยน ทั้งห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบนอกจากเสียงสะอึกสะอื้นของหลินยวนที่ดังมาเป็นระยะแล้ว คนอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีฮูหยินเฒ่าจ้องมองศีรษะของเฉียวเนี่ยนอยู่นาน ในที่สุดก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “หลานที่น่าสงสารของข้า... แต่เนี่ยนเนี่ยน เจ้ารู้ว่าองค์หญิงต้องการทําร้ายยวนเอ๋อร์และยังยุยงให้นางไปงานเลี้ยง นี่เป็นความผิดของเจ้า เจ้ายอมรับหรือไม่?”ไม่รอให้เฉียวเนี่ยนเอ่ยปาก ท่านโหวหลินที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่ เด็กคนนี้ดื้อรั้นตั้งแต่เด็ก นางไม่ยอมรับก็ช่างเถอะ ท่านอย่าโกรธนางเด็ดขาด”เขากังวลว่าฮูหยินเฒ่าจะโกรธเฉียวเนี่ยนจนป่วยแต่เฉียวเนี่ยนจะยอมปล่อยให้ฮูหยินเฒ่าโกรธได้อย่างไรนางพยักหน้าทันที "ข้ายอมรับ"ได้ยินดังนั้น ท่านโหวหลินและหลินเย่ว์ที่อยู่ข้างๆ ต่างก็ตกตะลึงเห็นๆ กันอยู่ว่าเมื่อครู่นางหนูยังทําท่าทางยอมตายแต่ไม่ยอมแพ้ ทําไมตอนนี้...กลับได้ยินเสียงชราของฮูหยินเฒ่าค่อยๆ เอ่ยปากว่า “เช่นนั้น ย่าก็จะลงโทษเจ้าให้กักบริเวณเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อสำนึกผิด เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”เมื่อได้ยิน'การลงโทษ'แบบนี้ เฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status