"คุณหนู!" หนิงซวงตกใจแทบบ้า รีบพุ่งเข้ามาพยุงร่างของเฉียวเนี่ยน น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว "คุณหนู เป็นอะไรไปเจ้าคะ?"ท่านโหวน้อยทำอะไรลงไป เหตุใดถึงได้ทำร้ายคุณหนูของนางถึงเพียงนี้!ร่างทั้งร่างของเฉียวเนี่ยนสั่นเครือ อาการนี้คุ้นเคยยิ่งนัก หัวใจของนางรู้สึกวูบโหวง"ยาออกฤทธิ์น่ะ" น้ำเสียงของนางเลื่อนลอย อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพตัวเองยามถูกจิ่งเหยียนอุ้มอยู่ในอ้อมอก ยามนั้นนางก็ตัวสั่นงันงกเช่นนี้จากนั้นสติก็พลันแตกกระเจิง จนเกือบจะปลดเชือกกางเกงของจิ่งเหยียน...โชคดีที่จิ่งเหยียนคว้ามือนางไว้ได้ทันเวลา และหลังจากยาสิ้นฤทธิ์ นางก็ได้สติกลับคืนมานางคิดว่าตัวเองรอดจากฤทธิ์ยาแล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะออกฤทธิ์อีกครั้ง!หนิงซวงตื่นกลัว "ทำ...ทำอย่างไรดีเจ้าคะ? ให้ข้าตามหมอประจำจวนหรือไม่?"เฉียวเนี่ยนส่ายหน้าในทันทีจะเรียกหมอประจำจวนมาไม่ได้ภายใต้ฤทธิ์ยา นางไม่อาจควบคุมคำพูดและการกระทำของตัวเองได้ แม้หมอประจำจวนจะมีอายุแล้ว แต่กระนั้นก็ยังเป็นผู้ชายยามนี้ในสายตาของนาง คนที่สามารถนั่งนิ่งโดยไม่หวั่นไหวได้นั้น เกรงว่าจะมีเพียงรองแม่ทัพจิ่งเพียงคนเดียวเท่านั้นเมื่อคิดได้ดังนั้น
ก่อนหน้านางเพิ่งจับจุดชีพจรของหมิงอ๋อง เพื่อมิให้เขาทำร้ายนางอีกในวันหน้า คิดไม่ถึงเลยว่า...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาโจมตีหรือย่างไร หัวสมองของเฉียวเนี่ยนก็พลันหนักอึ้ง สุดท้ายก็ฝืนทนไม่ไหว เป็นลมหมดสติไปยามตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นวันถัดมาแล้วนางนอนอยู่บนเตียว เสื้อผ้าบนกายถูกเปลี่ยนเป็นผืนใหม่แล้ว"คุณหนูฟื้นแล้ว!" หนิงซวงที่อยู่ริมเตียวเห็นแล้วก็ดีใจ ขอบตาอันดำคล้ำของอีกฝ่ายบอกนางว่าเด็กสาวคนนี้อยู่เฝ้านางตลอดทั้งคืน!เฉียวเนี่ยนลุกขึ้นนั่ง รู้สึกเพียงแค่ว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรงหนิงซวงพยุงเฉียวเนี่ยนลงจากเตียง สวมเสื้อผ้าให้เฉียวเนี่ยน ก่อนจะเอ่ยต่อ "คุณหนูเจ้าคะ ข้าแอบถามหมอประจำจวนแล้ว เขาบอกว่าต้องตามหาตัวคนวางยาถึงจะปรุงยาถอนได้ ไม่เช่นนั้น เกรงว่าจะยิ่งส่งผลร้ายยิ่งกว่า"เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว "ท่านโหวน้อยกลับมาแล้วหรือ?"หนิงซวงส่ายหน้า "ยังเจ้าค่ะ เมื่อคืนหลังจากเข้าวังแล้วก็ยังไม่กลับมาที่จวนเลยเจ้าค่ะ"หลินเย่ว์เป็นคนซื้อยา แต่เขาดันไม่ยอมกลับมาที่จวน แล้วจะให้นางไปหายาถอนมาจากไหน?หากไม่มียาถอน ยาจะออกฤทธิ์อีกหรือไม่ เฉียวเนี่ยนเองก็ไม่แน่ใจแต่คาดไม่ถึงว่าจะมีเสี
ดั่งกระแสไฟแล่นปราด สองมือของทั้งคู่ชักกลับในทันใดจิ่งเหยียนถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยซ้ำ ใบหน้าสีสำริดนั้นขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัดหนิงซวงที่อยู่ไม่ห่าง ตกใจจนลูกตาแทบถลนออกมาส่วนเฉียวเนี่ยนนั้นนึกถึงของตัวเองที่เสียกิริยาเมื่อวาน ก็เขินอายอย่างห้ามไม่ได้ วินาทีนั้นไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดีบรรยากาศพลันเงียบสงันขึ้นมาอย่างประหลาด ผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจ แต่กลับเนิ่นนานเหมือนชั่วยามอย่างไรอย่างนั้นจิ่งเหยียนเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ "ข้า...ข้าน้อยมีธุระต้องจัดการอีก เช่นนั้นขอตัวก่อนนะขอรับ"ขณะพูดจิ่งเหยียนก็ยกมือประสานคำนับเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนเองก็คำนับกลับ มองส่งจิ่งเหยียนจากไปจนลับตาคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ หนิงซวงจะเขยิบเข้ามาใกล้ ยิ้มกรุ้มกริ่ม "คุณหนู ท่านเห็นใบหูของรองแม่ทัพจิ่งหรือไม่ แดงแจ๋จนแทบสุกอยู่แล้ว!"แค่โดนมือของคุณหนู ไม่นึกเลยว่าจะใสซื่อปานนี้คิดไปคิดมาหนิงซวงก็ลงความเห็นว่า "เขาต้องชอบคุณหนูแน่นอนเลยเจ้าค่ะ!"เดิมทีเฉียวเนี่ยนยังแอบขำที่จิ่งเหยียนหูแดงเหมือนที่หนิงซวงว่า แต่พอได้ยินหนิงซวงพูดประโยคถัดไป สีหน้าก็พลันบึ้งตึงในทันใด "ห้ามพูดเหลวไหลเ
ว่าจบอีกฝ่ามือหนึ่งก็วาดเข้ามาตบจนเฉียวเนี่ยนโซเซนางกุมหน้าเอาไว้ มองเต๋อกุ้ยเฟยที่สติแตก ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจและโกรธเคืองปะทุขึ้นในใจทว่า...เฉียวเนี่ยนกลับหลุบตาลง ค่อยๆ คุกเข่าลงอารมณ์ของเต๋อกุ้ยเฟยไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่นิด นางชี้หน้าด่าเฉียวเนี่ยน "เจ้ามันก็แค่นางแพศยาที่หญิงแพยศาให้กำเนิดออกมา! ตอนแรกข้าเห็นเจ้าน่าสงสารถึงได้ฝืนใจให้เจ้าแต่งงานกับเจ๋อเอ๋อร์ แต่เจ้ากลับรังเกียจเขา! นางไม่ใช่เพราะเจ้า เขาจะออกจากเมืองหลวงไปสำนักราชาโอสถอย่างปุบปับเช่นนี้ได้อย่างไร!"เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วแน่น นางรู้ว่าเต๋อกุ้ยเฟยคงรู้เรื่องที่ตัวเองข่มขู่หมิงอ๋องแล้วแต่ที่นางข่มขู่หมิงอ๋องมิใช่เพราะความรังเกีนจ แต่เพื่อป้องกันตนเองเพียงเท่านั้น เพื่อไม่ให้หมิงอ๋องทารุณนางหรือทารุณหญิงอื่นอย่างเลือดเย็นเช่นนั้นอีกนางไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าหลินเย่ว์จะหลอกหมิงอ๋องว่าสำนักราชาโอสถมีวิธีต่ออวัยวะ ทั้งยังคิดไม่ถึงว่าหมิงอ๋องจะถูกโจรภูเขาหยงเป่ยจับตัวไป!แต่นางก็รู้ว่าคำแก้ตัวนางรังแต่จะราดน้ำมันลงบนกองไฟ จึงคุกเข่าลงบนพื้น หลุบตาลง ไม่พูดไม่จาเมื่อเห็นว่านางไม่ตอบโต้ อารมณ์ของเต๋อกุ้ยเฟยก็ค่อ
ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉียวเนี่ยนไม่เอ่ยแม้สักคำนางรู้ว่าตอนนี้หมิงอ๋องเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่มีผู้ใดรู้ คนเป็นแม่อย่างเต๋อกุ้ยเฟย ย่อมสติแตก พาลโมโหคนอื่นยิ่งไปว่านั้น นางเป็นถึงกุ้ยเฟยผู้สูงศักดิ์คนยศตำแหน่งสูงส่งอย่างพวกนาง เดิมทีก็ไม่เห็นชีวิตของคนทั่วไปอยู่ในสายตาอยู่แล้วในสายตาของพวกเขา ชีวิตนางนั้นไร้ค่าหมิงอ๋องเฆี่ยนตีนางปางตาย ก็ปล่อยให้ตีไป ต่อให้ตายแล้วอย่างไรเล่า?ใครใช้ให้นางเกิดมาเป็นลูกของนางแพศยา ชีวิตไร้ค่า!หึ!เฉียวเนี่ยนคุกเข่าอยู่ที่เดิม สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าแววตาที่จ้องมองชายกระโปรงของตัวเองกลับเผยอารมณ์หนึ่งที่ยากจะอธิบายแล้วเหตุใดชีวิตนางถึงไร้ค่า?เหตุใดหญิงสาวที่ถูกหมิงอ๋องทรมานจนตาย กลับตายแล้วก็ปล่อยให้ตายไป?วินาทีนั้น ความเกรี้ยวโกรธของเฉียวเนี่ยนก็พุ่งถึงขีดสุดนางคิดว่าหากโจรภูเขาจับตัวหมิงอ๋องไปผ่าท้องมันเสียเลยคงดียิ่งนัก!แต่เมื่อเสียงสะอื้นของเต๋อกุ้ยเฟยค่อยๆ เบาลง ความเดือดดาลของเฉียวเนี่ยนเองก็เริ่มบรรเทาตามสติสัมปชัญญะบอกนางว่า หมิงอ๋องจะตายไม่ได้หมิงอ๋อง คือหนทางเดียวที่จะทำให้นางหลุดพ้นจากจวนโหวได้เร็วที่สุดเมื่อคิดได้ดังน
นางมีกิจการมากมายภายใต้ชื่อของตนเอง ทั้งสามารถร้องของจากฝั่งแม่ของนางได้อีก ขอเพียงแค่เจ๋อเอ๋อร์กลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ!แต่คำตอบของเซียวเหิง กลับทำให้เต๋อกุ้ยเฟยแทบหมดเรี่ยวแรงน้ำเสียงเรียบเฉยของเซียวเหิงพูดว่า "พวกมันต้องการคำสั่งจากทางการ อนุญาตให้พวกมันตั้งรกรากที่เหอโจว"พวกมันต้องการความยอมรับจากทางการ ยืดครองพื้นที่เป็นราชาแห่งหุบเขา จี้ปล้นคนอย่างถูกต้อง!เพราะความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าของทหารที่ราชสำนักส่งไปปราบโจร ทำให้พวกมันกำเริบเสิบสานแต่จะเป็นไปได้อย่างไรเล่า?คำร้องขอเช่นนี้ ต่างอะไรกับการเหยียบพระพักตร์ฮ่องเต้?ต่อให้โจรภูเขาพวกนั้นเอาชีวิตหมิงอ๋องไป ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางยอมรับคำเรียกร้องฮ่องเต้มีพระโอสรมากมายปานนั้น...เต๋อกุ้ยเฟยทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง โชคดีที่นางบ่าวมือไว รับตัวนางแล้วพยุงตัวไปนั่งเก้าอี้เต๋อกุ้ยเฟยพิงพนักเก้าอี้ น้ำตานองหน้า "ทำเช่นไรดี? ข้าควรทำเช่นไร?"หรือว่าเหลือความตายเพียงหนทางเดียว?แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเย่ว์จะโพล่งขึ้น "กุ้ยเฟยโปรดอย่างเพิ่งร้อนใจ ฮ่องแต่ส่งแม่ทัพเซียวนำทัพไปแล้ว ย่อมต้องช่วยหมิงอ๋องกลับมาได้แน่น
เต๋อกุ้ยเฟยกุมมือเฉียวเนี่ยนแน่นแม้เมื่อครู่นางจะด่าทอเฉียวเนี่ยน แต่นางก็รู้ดีว่าเฉียวเนี่ยนไม่มีทางยอมให้หมิงอ๋องเป็นอะไรไปเด็ดขาดเพราะหมิงอ๋องคือทางออกเดียวของนางหลินเย่ว์บอกว่าเวลานัดหมายแลกตัวคือยามจื่อคืนนี้ หลังจากเต๋อกุ้ยเฟยเอ่ยขอบคุณจากใจจริง ก็ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนกลับไปพักผ่อนเฉียวเนี่ยนคำนับลา แผลไหม้บนบ่ายังคงปวดหนึบ แต่แผ่นหลังของนางยังคงตั้งตรง เดินสาวเท้ายาวออกไป ไม่สนใจสองคนที่ตามติดไม่ห่างเลยสักนิดจนกระทั่งมาถึงหน้าประตูวังหลวงเมื่อเห็นรถม้าของจวนโหวที่จอดอยู่หน้าประตู เฉียวเนี่ยนก็ขึ้นไปนั่งอย่างไม่มีลังเลนางยังไม่ทันนั่งลงบนรถ เซียวเหิงก็เอ่ยตามหลัง "ข้าจะปลอมตัวเป็นบ่าวตามเจ้าไป"เขาต้องการจะบอกเฉียวเนี่ยนว่า เขาจะตามอยู่ข้างหลัง ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใดแต่เฉียวเนี่ยนกลับเหลียวมองเขา ก่อนจะถามประชด "แม่ทัพเซียวทำไปเพื่อปกป้องช้า หรือเพื่อปกป้องหมิงอ๋องเจ้าคะ?"เขาบอกว่าจะตามนางอยู่ข้างหลัง หากอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย เขาจะช่วยหมิงอ๋อง หรือช่วยนาง?เห็นได้ชัดว่าคำตอบคืออะไรการที่เขาปลอมเป็นบ่าวรับใช้ ไม่ได้ทำเพื่อนางเลย แต่ทำตามราชโองการของฮ่องเต้
อันที่จริง เขาเป็นคนทำให้เฉียวเนี่ยนมีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นแต่ว่านางจำแทบไม่ได้แล้วทุกวันนี้นางรู้แค่ว่าเขาเป็นคนออกความเห็นให้หลินเย่ว์พานางขึ้นเตียงของพี่ชาย!ถ้าจะให้พูด ก็ต้องโทษหลินเย่ว์แค่ให้ซื้อยานอนหลับยังไม่ได้เรื่อง เกือบจะเป็นเรื่องใหญ่โต!พอคิดได้เช่นนั้น เซียวเหิงก็อดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่หลินเย่ว์ จากนั้นก็หันหลังขึ้นรถม้าของจวนแม่ทัพหลินเย่ว์รู้สึกแปลกๆ ทว่ารถม้าจวนโหวก็วิ่งออกไปไกลแล้ว เขาเลยได้แต่ขึ้นไปบนรถม้าของเซียวเหิงใครจะรู้ เซียวเหิงจู่ๆ ก็เปิดม่านออกมาและพูดใส่หลินเย่ว์ "ฉันมีธุระส่วนตัวต้องจัดการ พี่หลินคงไปด้วยไม่ได้"พูดจบก็หันไปบอกคนขับรถม้า "ไปเถอะ!"คนขับรถม้ารับคำ บังเหียนม้าสะบัดพร้อมกับรถม้าเคลื่อนออกไปเหลือเพียงหลินเย่ว์ยืนอยู่หน้าประตูวัง เขาทำสีหน้าไม่ถูกเฉียวเนี่ยนพอกลับมาถึงเรือนฟางเหอ หนิงซวงก็เข้ามาต้อนรับและถามอย่างกระตือรือร้น "คณหนู เสี่ยวชุ่ยถูกไล่ออกจากจวนแล้ว คุณหนูรองเองก็ทราบเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้ขวางอะไร ถ้าให้บ่าวเดา คุณหนูรองต้องแอบไปหาเสี่ยวชุ่ยแน่ แต่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ บ่าวให้หวังอู่คอยสะกดรอยตามแล้ว เขาเป็นคนที่ฉลาดสุด
"ยวนเอ๋อร์ พี่รู้ว่าเจ้าเป็นคนจิตใจงดงาม และเชื่อด้วยว่าครั้งนี้เจ้ามีเจตนาดีจริงๆ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าทําเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยทําครั้งหนึ่ง และถูกเนี่ยนเนี่ยนกดลงบนพื้นสั่งสอนไปครั้งหนึ่งแล้ว ทําไมครั้งนี้ถึงยังไม่จําอีก? เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่า ในจวนโหวตอนนี้ ท่านย่าเป็นคนเดียวที่เนี่ยนเนี่ยนใส่ใจ หากเจ้าแตะต้องท่านย่า นางจะต้องสู้ตายกับเจ้าแน่!"หลินยวนก้มหน้า น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มไม่หยุด แต่แววตากลับฉายแววอํามหิตใช่ นางจะไม่รู้ได้ยังไง?ฮูหยินเฒ่านับเป็นจุดอ่อนของเฉียวเนี่ยน ตราบใดที่ฮูหยินเฒ่านี่ยังมีชีวิตอยู่ เฉียวเนี่ยนก็จะไม่มีวันออกจากจวนโหวได้!หนังสือตัดขาดความสัมพันธ์เหรอ?เหอะ! หยุดพูดเล่นได้แล้ว!หากเฉียวเนี่ยนสามารถตัดขาดกับจวนโหวได้จริง หลังจากถูกหมิงอ๋องตีจนปางตายก็คงตัดขาดไปนานแล้ว!ไม่สิ ไม่ถูก!มันควรจะตัดขาดตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว!แต่จนถึงวันนี้ เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว!นางมีสิทธิ์อะไร?ตัวนางเองต่างหากที่เป็นบุตรสาวของภรรยาเอกของจวนโหว!ทําไมนางต้องโดนเฉียวเนี่ยนควบคุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทําไมต้องโดนนางข่มขู่ด้วย?
หลังจากหลินเย่ว์เดินจากไปได้ช่วงหนึ่งก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ทว่าเมื่อครู่ท่านหมอกำชับไว้แล้ว ห้ามขยับตัวมาก ไม่เช่นนั้น เขาต้องซัดจิ่งเหยียนไปสักหมัด เพื่อคลายโทสะเป็นแน่ไม่ง่ายนักที่จะกลับมาถึงจวน หลินเย่ว์จึงมุ่งไปยังเรือนลั่วเหมยหนึ่ง เพื่อดูว่าอาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างสอง เพื่อให้หมอประจำจวนดูบาดแผลเขาสักหน่อยหมอที่อยู่ด้านนอกห้ามเลือดพอได้ ทว่ารักษานั้น อย่างไรก็เชื่อไม่ได้แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่ถึงหน้าประตูเรือนลั่วเหมย ก็ปะทะเข้ากับหมอประจำจวนที่กำลังออกมาครั้นเห็นหลินเย่ว์ หมอประจำจวนกุมมือคำนับ "คารวะท่านโหวน้อย"หลินเย่ว์รีบทอดมองเข้าไปในเรือน ก่อนถาม "อาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนตอบตามความเป็นจริง "อาการบาดเจ็บของคุณหนูรองไม่เป็นไรมากแล้ว ดาบนั้นคุณหนูใหญ่แทงได้แม่นยำมาก ไม่ทำให้ถึงตายขอรับ ส่วนบาดแผลตกหน้าอกก็ไม่ถือว่าลึกมาก ข้าน้อยได้สั่งยาให้สาวใช้เรียบร้อยแล้วขอรับ"ได้ยินดังนี้ หลินเย่ว์ถึงได้ขมวดคิ้วหนัก นึกถึงดาบนั้นเมื่อก่อนเขาเป็นคนสอนเฉียวเนี่ยนเองเพียงแต่ตอนนั้น เขาสอนนางเพื่อให้นางจัดการกับพวกเด็กเหลื
หรือจะเกี่ยวข้องกับเนี่ยนเนี่ยน?เช่นนั้นเนี่ยนเนี่ยนคงไม่เป็นไรใช่ไหม?เดิมทีหลินเย่ว์อารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นจิ่งเหยียนเข้า ก็อดเดือดเป็นฟืนเป็นไฟไม่ได้แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านหมอ เขาก็ไม่กล้าขยับตัวอะไรมาก ได้แค่กล่าวเสียงเย็น "เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"ขณะกล่าว ก็มุ่งตรงไปทางจวนโหวจิ่งเหยียนไม่ยอมแพ้ ตามไปด้วย "เนี่ยนเนี่ยนล่ะ? ทั้งๆ ที่จวนโหวมีหมอประจำจวนอยู่แล้ว ท่านโหวน้อยกลับมาดูหมอข้างนอก หรือหมอประจำจวนกำลังรีบรักษาให้เนี่ยนเนี่ยนอยู่?"เห็นหลินเย่ว์เอาแต่ไม่ตอบ จิ่งเหยียนเลยก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ขวางหลินเย่ว์ไว้ "หลินเย่ว์ เจ้าทำอะไรกับเนี่ยนเนี่ยนกันแน่!"หากไม่ใช่เพราะในมือถือยาสองห่อไว้ หลินเย่ว์ต้องซัดหมัดใส่เป็นแน่!เห็นสีหน้าร้อนรนเจือเต็มหน้าจิ่งเหยียน หลินเย่ว์ยิ่งรู้สึกกราดเกรี้ยวมากขึ้น "เรื่องในจวนโหวข้า รองแม่ทัพตัวเล็กๆ อย่างเจ้าเข้ามาสอดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"จิ่งเหยียนหาได้ยอมแพ้ "ข้าไม่ได้เข้าไปยุ่งจวนโหว เพียงแค่ถามถึงเนี่ยนเนี่ยนเท่านั้น!""เจ้า!" เห็นจิ่งเหยียนไม่คิดแม้แต่จะหลีกทางให้ หลินเย่ว์รู้ หากวันนี้ไม่คุยกับเขาชัดเจน เขาไม
อีกด้านหนึ่ง จิ่งเหยียนไปที่จวนเซียวตอนเขามา เซียวเหิงกำลังอ่านตำราพิชัยสงครามอยู่ในห้องหนังสือครั้งเห็นในมือจิ่งเหยียนถือเหล้ามาสองไห ตำราพิชัยสงครามในมือก็ถูกวางลงตาม นัยน์ตาลุ่มลึดทอดมองออกไป เห็นจิ่งเหยียนหยักยิ้ม "ข้าน้อยมาดื่มกับท่านแม่ทัพ"สิ้นเสียง เหล้าไหหนึ่งก็โยนที่ทางเซียวเหิงเซียวเหิงยกมือขึ้นรับ และดึมลงไปหนึ่งอึกรสแสบร้อนลงสู่ปาก ผ่านคอหอยเซียวเหิงอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ "จิ่วถานฉุนชั้นยอดของหอจุ้ยเซียง" ระหว่างสนทนา มุมปากก็ยกขึ้นยิ้ม "รองแม่ทัพจิ่งได้ลาภลอยมาหรือ?"เหล้าไหนี้ ราคาไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้น จิ่งเหยียนถือมาสองขวดจิ่งเหยียนก้าวเข้ามาย้ายเก้าอี้ และนั่งลงตรงข้ามเซียวเหิง พลางยกไหเหล้าในมือตัวเองขึ้นดื่ม "ไหของข้าน้อยไม่ใช่"ของเขาเป็นแค่เหล้าขาวธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเซียวเหิงมองไปที่จิ่งเหยียนอย่างไม่เข้าใจ และเห็นจิ่งเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าปกติ "วันนี้ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่งนัก"ได้ยินเช่นนี้ เซียวเหิงกลับยิ้มเยาะ "ผู้ที่ไปกู้หน้าให้คือพี่ใหญ่ข้า แต่เจ้ากลับมาขอบคุณข้า?"ขณะว่า ก็แหงนหน้ายกเหล้าขึ้นดื่มจิ่งเหยียนแค่ดื่มไปอึกหนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยรอ
นั่นมันต้องเจ็บขนาดไหนกัน!เนี่ยนเนี่ยนของนางต้องเจ็บขนาดไหนกัน!ฮูหยินเฒ่าแค่คิด ก็รู้สึกปวดใจแทบขาดแล้วย่าอย่างนาง ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!นางเอาแต่อยู่ในจวนนี้ทั้งวันทั้งคืน ไยแม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ยังไม่ได้รับ?หากนางรู้เร็วกว่านี้ว่าหมิงอ๋องคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นางคงไม่มีทางให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าวังหรอกหากนางรู้ว่าหลินเย่ว์ไอ้สารเลวนั่นทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นางคงตีเขาให้ตายแน่!หาก...หากนางจากไปเร็วกว่านี้ เนี่ยนเนี่ยนของนางคงไม่ต้องลำบาก ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม! อยู่ที่จวนโหวมาตลอดขนาดนี้!เป็นนางเองที่ไร้ประโยชน์!เป็นเพราะนางแก่แล้ว ทนได้ไม่ไหวแล้ว ไม่เพียงแต่ปกป้องเนี่ยนเนี่ยนของนางไม่ได้ ยังกลายเป็นภาระของนางด้วย!พวกเขายังให้นางกินน้ำล้างจานด้วย!หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักทะนุทะนอมมาตั้งแต่เด็ก!พวกเขากล้าให้นางกินน้ำล้างจานได้อย่างไรกัน!ฮูหยินเฒ่ายิ่งคิด ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนสุดท้าย ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงโหยหวนและแก่ชราที่ดังเรื่อยๆ นั้น แฝงไปด้วยความเสียใจมากมายและช่วยอะไรไม่ได้นางถึงขนาดที่ไม่รู้แล้วว่า ให้เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง
เฉียวเนี่ยนวิ่งไปด้วย เช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย นางจะให้ท่านย่าเห็นสภาพนางกระอักเลือดไม่ได้!เมื่อมาถึงนอกห้องฮูหยินเฒ่า ก็เห็นซูมามากับหมอประจำจวนรออยู่หน้าประตูห้องก่อนแล้วครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็คำนับเฉียวเนี่ยนรีบไถ่ถาม "เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านย่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนถึงได้ตอบ "คุณหนูใหญ่ ร่างกายของฮูหยินเฒ่าเสียหายอย่างรุนแรง แม้ข้าน้อยจะฝังเข็มรักษาชีพจรหัวใจของฮูหยินเฒ่าไว้มั่นได้ แต่ เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่เกินสิบวัน"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป พลางส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย "ไม่ ไม่จริง ซูมามาบอกว่า วันนี้สภาพท่านย่าไม่เลว แถมยังลุกจากเตียงได้อยู่เลยมิใช่หรือ... "เหตุใดแม้แต่สิบวันก็ทนไม่ไหวแล้วเล่า?ซูมามาปาดน้ำตาไร้สุ้มเสียงแต่หมอประจำจวนกลับถอนหายใจเล็กน้อย กล่าว "หากไม่เคยได้รับการกระตุ้น บางทีฮูหยินเฒ่าอาจทนได้สองสามเดือน เฮ้อ!"ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเฉียวเนี่ยนพลันไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่ลมหายใจก็สับสนไปชั่วขณะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของนางที่ทำร้ายฮูหยินเฒ่า!เมื่อครู่นางควรตวัดดาบจบหลินยวนไปเสีย!ซูมามารีบเข้ามาเช็ดน้ำตาให้นาง และกล่าวโน้
แต่ในเวลานี้เอง ร่างๆหนึ่งปรี่เข้ามาในห้อง ผลักเฉียวเนี่ยนออกและเพราะการกระแทกนี้ ทำให้ดาบยาวทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวตรงหน้าอกหลินยวนหลินเย่ว์ตกใจหน้าถอดสี รีบอุ้มหลินยวนไปข้างนอกทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนไล่ตามออกมาเหมือนกับคนบ้า ถือดาบยาวตวัดฟันลงบนหลังของหลินเย่ว์หลินเย่ว์หลบไม่ทัน หลังรับดาบเฉียวเนี่ยนไปเต็มๆ สองมือไร้เรี่ยวแรงทันที และล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับหลินยวนท่านโหวหลินที่เร่งตามาเห็นภาพนี้ ก็ปรี่เข้ามาจับสองมือของเฉียวเนี่ยนไว้ทันที พลางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”หากไม่ใช่เพราะทหารองครักษ์ที่ถูกแย่งดาบไปรีบมารายงาน เกรงว่าเมื่อพวกเขามาถึง หลินยวนคงตายภายใต้ดาบของนางไปแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนแทบจะตะโกนเดือดดาลอย่างบ้าบิ่น “ใช่ข้าบ้าไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปพูดไร้สาระต่อหน้าท่านย่า ท่านย่าก็คงจะไม่เป็นไร! วันนี้ข้าจะต้องตัดลิ้นนางให้ได้ ข้าจะดูว่าต่อไปเจ้าจะเอาอะไรออกมาทำร้ายท่านย่าอีก!”ท่านโหวหลินเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าจู่ๆ ที่ฮูหยินเฒ่าอาการกำเริบเกิดมาจากหลินยวน จึงมองไปที่หลินยวนด้วยสีหน้าตกตะลึงทันทีเห็นเพียงอีกฝ้ายหมอบอยู่
เรือนลั่วเหมย ประตูใหญ่ปิดสนิทเฉียวเนี่ยนถีบประตูเปิด ย่างสามขุมเข้าไปในเรือนลั่วเหมยคนรับใช้ สาวใช้ภายในเรือน แต่ละคนเตรียมพร้อมรออยู่ ราวกับคาดเดาได้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมาแต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะถือดาบเข้ามาด้วย!กระนั้น แม้พวกเขาจะเคยเห็นความดุร้ายของเฉียวเนี่ยน ทว่ากลับไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนฆ่าคน จึงคิดว่าเฉียวเนี่ยนแค่มาขู่ก็เท่านั้นมีคนรับใช้ใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาพูดโน้มน้าว “คุณหนูใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ รอท่านโหวมา…อ๊าก!”ไม่รอให้คนรับใช้คนนั้นพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ฟัดดาบลงไป คนรับใช้คนนั้นถูกฟันเข้าที่แขนทันที เลือดแดงสดไหลลงมาดวงตาสองข้างของเฉียวเนี่ยนแดงก่ำ ตะโกนเสียงดัง “หลินยวน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้น เหลือบมองกลุ่มคนรับใช้สาวใช้ที่ยังขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตะคอกเสียงเย็น “ใครกล้าขวางข้า!”เหล่าสาวใช้ที่ขี้ขลาดบางส่วนรีบวิ่งหนีเตลิดกันหมด ทว่ายังพอมีใจกล้าอยู่บ้าง ขวางอยู่ข้างหน้าเฉียวเนี่ยน “คุณหนูใหญ่ใจเย็นก่อนๆ หากฆ่าคุณหนูรองจริง ท่านโหวจะปล่อยคุณหนูไปได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจ้องคนรับใช้คนนั้นเขม็ง พลางกดเสียงต่ำ “รนหาที่ตาย!”ดาบยา
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูมามาก็ห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้แล้ว “ฮู ฮูหยินเฒ่ารู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่จะตัดขาดท่านโหว จึงบีบเค้นถามบ่าว บ่าวไม่กล้าพูดมาก ฮูหยินเฒ่าจึงบีบให้นังพวกใจสกปรกเหล่านี้พูด…”“ฮูหยินเฒ่าไม่เพียงรู้เรื่องที่คุณหนูตัดขาดจวนโหว ยังรู้เรื่องก่อนหน้าที่คุณหนูเกือบถูกหมิงอ๋องตีตาย รู้ว่าท่านโหวน้อยรังแกคุณหนูอย่างไร ดังนั้นฮูหยินเฒ่าก็เลย ก็เลย…”พูดมาถึงตอนท้าย ซูมามาร่ำไห้จนพูดออกมาไม่ได้แล้วส่วนเฉียวเนี่ยน เดือดดาลจนสั่นเทาไปทั่วร่างนางมีสีหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินไปทางสาวใช้พวกนั้นพวกสาวใช้แต่ละคนต่างหลุบตาต่ำก้มหน้า จิตใจกระวนกระวาย ไม่กล้าเหลือบมองเฉียวเนี่ยนได้ยินเพียงสุ้มเสียงสั่นเทาของเฉียวเนี่ยนดังออกมา และเจือไปด้วยโทสะ “ข้ากำชับหลายครั้งหลายหนแล้วว่าห้ามเปิดเผยเรื่องของข้าให้ท่านย่าฟัง พวกเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ถึงกล้าเอ่ยถึงข้าในเรือนของท่านย่า!”เหล่าสาวใช้ต่างตกใจพากันร่ำไห้โขกหัว “บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณหนูใหญ่ยกโทษให้ด้วย!”“บ่าวรู้ความผิดแล้ว บ่าวไม่กล้าทำอีกแล้ว!”ทว่าสายตาของเฉียวเนี่ยน กลับถูกสาวใช้หนึ่งในนั้นดึงดูดไปนางขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “เ