Share

บทที่ 155

Author: โม่เสียวชี่
เต๋อกุ้ยเฟยกุมมือเฉียวเนี่ยนแน่น

แม้เมื่อครู่นางจะด่าทอเฉียวเนี่ยน แต่นางก็รู้ดีว่าเฉียวเนี่ยนไม่มีทางยอมให้หมิงอ๋องเป็นอะไรไปเด็ดขาด

เพราะหมิงอ๋องคือทางออกเดียวของนาง

หลินเย่ว์บอกว่าเวลานัดหมายแลกตัวคือยามจื่อคืนนี้ หลังจากเต๋อกุ้ยเฟยเอ่ยขอบคุณจากใจจริง ก็ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนกลับไปพักผ่อน

เฉียวเนี่ยนคำนับลา แผลไหม้บนบ่ายังคงปวดหนึบ แต่แผ่นหลังของนางยังคงตั้งตรง เดินสาวเท้ายาวออกไป ไม่สนใจสองคนที่ตามติดไม่ห่างเลยสักนิด

จนกระทั่งมาถึงหน้าประตูวังหลวง

เมื่อเห็นรถม้าของจวนโหวที่จอดอยู่หน้าประตู เฉียวเนี่ยนก็ขึ้นไปนั่งอย่างไม่มีลังเล

นางยังไม่ทันนั่งลงบนรถ เซียวเหิงก็เอ่ยตามหลัง "ข้าจะปลอมตัวเป็นบ่าวตามเจ้าไป"

เขาต้องการจะบอกเฉียวเนี่ยนว่า เขาจะตามอยู่ข้างหลัง ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใด

แต่เฉียวเนี่ยนกลับเหลียวมองเขา ก่อนจะถามประชด "แม่ทัพเซียวทำไปเพื่อปกป้องช้า หรือเพื่อปกป้องหมิงอ๋องเจ้าคะ?"

เขาบอกว่าจะตามนางอยู่ข้างหลัง หากอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย เขาจะช่วยหมิงอ๋อง หรือช่วยนาง?

เห็นได้ชัดว่าคำตอบคืออะไร

การที่เขาปลอมเป็นบ่าวรับใช้ ไม่ได้ทำเพื่อนางเลย แต่ทำตามราชโองการของฮ่องเต้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 156

    อันที่จริง เขาเป็นคนทำให้เฉียวเนี่ยนมีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นแต่ว่านางจำแทบไม่ได้แล้วทุกวันนี้นางรู้แค่ว่าเขาเป็นคนออกความเห็นให้หลินเย่ว์พานางขึ้นเตียงของพี่ชาย!ถ้าจะให้พูด ก็ต้องโทษหลินเย่ว์แค่ให้ซื้อยานอนหลับยังไม่ได้เรื่อง เกือบจะเป็นเรื่องใหญ่โต!พอคิดได้เช่นนั้น เซียวเหิงก็อดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่หลินเย่ว์ จากนั้นก็หันหลังขึ้นรถม้าของจวนแม่ทัพหลินเย่ว์รู้สึกแปลกๆ ทว่ารถม้าจวนโหวก็วิ่งออกไปไกลแล้ว เขาเลยได้แต่ขึ้นไปบนรถม้าของเซียวเหิงใครจะรู้ เซียวเหิงจู่ๆ ก็เปิดม่านออกมาและพูดใส่หลินเย่ว์ "ฉันมีธุระส่วนตัวต้องจัดการ พี่หลินคงไปด้วยไม่ได้"พูดจบก็หันไปบอกคนขับรถม้า "ไปเถอะ!"คนขับรถม้ารับคำ บังเหียนม้าสะบัดพร้อมกับรถม้าเคลื่อนออกไปเหลือเพียงหลินเย่ว์ยืนอยู่หน้าประตูวัง เขาทำสีหน้าไม่ถูกเฉียวเนี่ยนพอกลับมาถึงเรือนฟางเหอ หนิงซวงก็เข้ามาต้อนรับและถามอย่างกระตือรือร้น "คณหนู เสี่ยวชุ่ยถูกไล่ออกจากจวนแล้ว คุณหนูรองเองก็ทราบเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้ขวางอะไร ถ้าให้บ่าวเดา คุณหนูรองต้องแอบไปหาเสี่ยวชุ่ยแน่ แต่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ บ่าวให้หวังอู่คอยสะกดรอยตามแล้ว เขาเป็นคนที่ฉลาดสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 157

    แม้เฉียวเนี่ยนเคยร่ำเรียนวรยุทธมาบ้าง การรับมือกับพวกลูกกระจ๊อกถึงจะไม่ใช่ปัญหา แต่หากต้องประมือกับยอดฝีมือจริงๆ คงจะสู้ไม่ได้อีกอย่างกลุ่มโจรภูเขาหยงเป่ยแต่ละคนล้วนผ่านการขัดเกลาฝึกฝนยังดีที่หลายปีมานี้นางผ่านการฝึกฝนวรยุทธในสนามรบจากเซียวเหิงมาบ้าง พอจะสามารถเอาชีวิตรอดแม้ว่าจะมีเวลาสั้นๆ อีกไม่กี่ชั่วยามก่อนจะถึงยามจึ แต่ต่อให้สามารถใช้ได้หนึ่งหรือสองกระบวนท่า ไม่แน่ก็อาจไว้ใช้เอาตัวรอดยามขับขันได้ (ยามจึ หมายถึง ช่วงเวลา 23:00-01:00)ดังนั้นเฉียวเนี่ยนจึงพยักหน้า "งั้นคงต้องรบกวนแม่ทัพเซียวแล้ว"ทว่านางกลับไม่ได้ยื่นมืออกไปรับมีดสั้นแววตาของเซียวเหิงหนักอึ้งเขาจำได้ว่านายเคยชอบมีดสั้นเล่มนี้"นี่คือ..."เขาคิดว่า นางลืมไปแล้วแต่ว่าเฉียวเนี่ยนก็ขัดจังหวะเซียวเหิงเสียก่อน นางดึงปิ่นปักผมบนศีรษะออก "มีดสั้นสะดุดตาเกินไป ไม่แน่พวกโจรภูเขาอาจค้นตัว ดังนั้นข้าคิดว่าปิ่นปักผมเหมาะที่สุด"ส่วนมีดสั้นเล่มนั้น...จริงๆ ก็เป็นของที่นางอยากได้ แต่ตอนนี้นางไม่อยากได้แล้วเซียวเหิงกำมีดสั้นในมือแน่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเก็บมีดสั้นเล่มนั้น น้ำเสียงกลับดูห่างเหินขึ้นมา "เจ้าพูดถูก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 158

    ท่านโหวหลินรู้สึกว่าเป็นลางร้ายเลยอดตวาดไม่ได้ "จะร้องไห้หาอะไร? การแบ่งเบาภาระราชสำนักนับว่าเป็นเกียรติของจวนโหว! เป็นเกียรติของเนี่ยนเนี่ยน!"ขณะพูด ท่านโหวหลินก็หันมองเฉียวเนี่ยนและพูดด้วยเสียงทุ้ม "จำไว้ให้ดี ไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น หมิงอ๋องสำคัญที่สุด หากท่านหมิงอ๋องไม่ได้กลับมา เจ้าเองก็...""ท่านโหว!" ฮูหยินหลินตวาดใส่ ขัดจังหวะพูดของท่านโหวหลินท่านโหวหุบปากเงียบอย่างหงุดหงิด ทว่าเฉียวเนี่ยนรู้ว่าท่านโหวหลินจะพูดอะไรเขาอยากพูดว่าหากท่านหมิงอ๋องไม่ได้กลับมา นางเองก็จะไม่ได้กลับมาเช่นกัน!ซึ่งก็จริง นางออกมาจากกรมซักล้างได้ก็เพราะจวนโหวต้องการให้แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับหมิงอ๋องหากหมิงอ๋องตาย นางก็จะไม่มีประโยชน์กับจวนโหวอีกเฮอะ!เมื่อก่อนปากก็เอาแต่พูดว่าเห็นนางเป็นเหมือนลูกแท้ๆ ของท่านโหวหลิน สุดท้ายก็พูดความในใจออกมาจนได้!รู้สึกเศร้าขึ้นมาในใจนางหันมองท่านโหวหลิน นึกถึงสมัยเด็กที่ตนเองขี่คอเขาชมดาวบนท้องฟ้า ความเจ็บปวดขมขื่นใจยิ่งรู้สึกชัดขึ้นมาไม่อยากจะอยู่ร่วมชายคากับพวกเขาแล้วเฉียวเนี่ยนลุกขึ้นมา "ข้าขอออกไปสูดอากาศหน่อย"พูดจบก็เดินออกไปข้างนอกตอนเด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 159

    หลินยวนลงมือได้รวดเร็ว เฉียวเนี่ยนเกือบจะถูกลากลงไปในสระบัวทว่าเฉียวเนี่ยนกลับใช้เท้าขวายันราวสะพานหินทันอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด นางออกแรงโน้มตัวไปด้านหลัง แขนก็ถูกดึงไปด้านหลังด้วยเช่นกันส่วนหลินยวนซึ่งหลังได้แตะกับผิวน้ำแล้ว ก็ถูกเฉียวเนี่ยนดึงกลับขึ้นมาทั้งอย่างนั้นทว่าขาสองข้างของหลินยวนกลับอ่อนยวบ ทันใดนั้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าเฉียวเนี่ยน น้ำตาไหลพรากอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่เฉียวเนี่ยนสะบัดมือของหลินยวนออกและถอยห่างออกไปสองก้าวอย่างรังเกียจแผลที่ถูกเต๋อกุ้ยเฟยลวกตรงไหล่ขวาก็ปวดขึ้นมามองหลินยวนร้องไห้จนควบคุมตัวเองไม่ได้ นางปวดแผลจนอดไม่ได้ที่จะตวาดใส่ "ชาติก่อนฉันไปทำกรรมอะไรไว้ ชาตินี้เจ้าถึงได้ตามจองล้างจองผลาญข้า! ข้าขอบอกเจ้าเอาไว้หลินยวน ข้ากับเจ้าไม่ได้สนิทกัน ถ้าเจ้าอยากตายนักก็ไปตายให้พ้นๆ ข้า!"คนในเรือนพอได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็กรูกันออกมาหลังจากเห็นเหตุการณ์บนสะพานหิน ฮูหยินหลินก็สะดุ้งตกใจจนรีบวิ่งเข้ามา "เป็นอะไร? เกิดอะไรขึ้น? ยวนเอ๋อร์...""หยุดอยู่ตรงนั้น!" เฉียวเนี่ยนตวาด หันไปมองฮูหยินหลินด้วยแววตาลุกโฉนฮูหยินหลินไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนโมโหขนาดนี้ นางตกตะลึง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 160

    เพียงเสี้ยววินาที เฉียวเนี่ยนจู่ๆ ก็คว้าคอเสื้อของนางไว้ กระชากนางให้ลุกขึ้นมาไม่รอให้นางได้ทันตั้งตัวก็ผลักนางลงไปในบ่อบัวอย่างแรง"กรี๊ด!"เสียงกรีดร้อง พร้อมกับเสียงวัตถุบางอย่างตกน้ำดังขึ้น หลินยวนถูกเฉียวเนี่ยนผลักลงบ่อบัวภายใต้สายตาของทุกคนทุกคนตกตะลึง ใครต่างก็คาดไม่ถึงว่าเฉียวเนี่ยนจู่ๆ จะทำแบบนี้แต่ละคนยืนอยู่ขอบสระบัวมองหลินยวนหลินยวนตะเกียกตะกายในบ่อบัวเห็นเพียงเฉียวเนี่ยนค่อยๆ หันไปมองเซียวเหิงเขายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับแม้แต่ก้าว ไม่มีท่าทีจะเข้าไปช่วยเลยในดวงตาสีดำของเขาสะท้อนให้เห็นเพียงแต่เงาของเฉียวเนี่ยนชิ ไม่เข้ามาช่วยงั้นหรอ?เฉียวเนี่ยนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็เผยอยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา จากนั้นก็เหลือบหันมองหลินยวนที่กำลังทุรนทุรายก่อนจะหันหน้าไปทางริมฝั่งขณะเดินผ่านฮูหยินหลิน เฉียวเนี่ยนก็พูดอย่างเรียบเฉย "บ่อน้ำถึงแม้จะตื้น แต่ก็จมน้ำตายได้"ฮูหยินหลินราวกับได้สติกลับมา รีบตะโกนเรียกคนให้ช่วยหลินยวนส่วนเฉียวเนี่ยนมองตรงเดินกลับไปที่ห้อง ไม่แม้แต่จะแลท่านโหวหลินที่ยืนอยู่นอกห้องหนิงซวงเอาชาร้อนมาให้ เฉียวเนี่ยนรับถ้วยชามาและนั่งลง พอสัมผัสได

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 161

    อันที่จริงเฉียวเนี่ยนไม่อยากจะรื้อฟื้นความหลัง ในสายตาของหลินยวน เฉียวเนี่ยนถูกเลี้ยงเอ็นดูเอาใจใส่มา 15 ปีแต่สำหรับเฉียวเนี่ยน ช่วงเวลาความสุขตลอด 15 ปีนั้น ตอนนี้เป็นเพียงแค่คมดาบ ขอแค่นึกถึง มันก็จะเฉือนอย่างแรงบนหัวใจของนางนางบาดเจ็บไปทั้งตัว นางไม่อยากให้หัวใจต้องบอบช้ำตามทว่าตอนนี้ประตูแห่งความทรงจำได้เปิดออก ภาพแห่งความสุขในอดีตทะลักเข้ามาเหมือนสายน้ำดวงตาเฉียวเนี่ยนแดงระเรื่อขึ้นมาทันที จมูกรู้สึกระคายเคืองอย่างมากแต่นางก็ไม่อยากให้ท่านโหวหลินได้เห็นสภาพของนางนางเลยก้มหน้า ราวกับกำลังพิเคราะห์ถ้วยชาในมือ ทำเหมือนไม่มีอะไรทว่านางก็อดไม่ได้ที่จะถามกลับ "หากหลินยวนไม่เคยมีตัวตน หากข้ายังคงเป็นบุตรสาวของจวนโหว ท่านโหวหลินยังคงจะแลกเปลี่ยนตัวข้ากับท่านหมิงอ๋องอยู่ไหม?"สิ้นเสียงอันแผ่วเบา กลับเป็นความเงียบชั่วอึดใจอันที่จริงเฉียวเนี่ยนรู้สึกเสียใจหลังจากถามนางรู้สึกว่าตัวเองน่าขำทำไมนางต้องตามหาคำตอบกับเรื่องสมมุติด้วย?หลินยวนมีตัวตน นางเองก็ไม่ใช่บุตรสาวจวนโหวอีกต่อไป แน่นอนท่านโหวหลินไม่ได้เสียดายชีวิตของนางเพื่อเอาไปแลกกับเกียรติยศของจวนโหว!ขณะครุ่นคิด มุ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 162

    ผู้ดูแลราชธานีชะงัก "เขาปู้โจวห่างออกไปไกลเป็นสิบลี้ ถ้าแลกเปลี่ยนตัวประกันตอนยามจึ เกรงว่าคงจะไม่ทันการ!""ออกเดินทางตอนนี้ รีบเร่งเดินทางก็คงจะยังทัน" เฉียวเนี่ยนกล่าวเสียงทุ้มต่ำแต่ว่าในวังยังไม่ทราบข่าวหนิงซวงก้าวออกมาอย่างอดไม่ได้ "คุณหนู บ่าวจะไปกับท่านด้วย! บ่าวแข็งแรง อย่างน้อยก็ปกป้องคุณหนูยามขับขันได้!"จะให้คุณหนูไปคนเดียวได้ยังไง!เฉียวเนี่ยนรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา ยื่นมือออกไปลูบใบหน้าของหนิงซวง "โจรภูเขาพวกนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต เจ้าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว หากตกไปอยู่เงื้อมมือพวกมัน ผลที่ตามมาคงยากจะจินตนาการ เชื่อข้า เจ้าอยู่ที่จวน""แต่...คุณหนูเองก็เป็นผู้หญิง!" หนิงซวงร้องห่มร้องไห้ ท่านโหวหลินรู้สึกราวกับฆ้อนหนักๆ ทุบลงมากระแทกหัวใจใช่ เนี่ยนเนี่ยนเองก็เป็นผู้หญิง!หากผู้หญิงตกไปอยู่ในเงื้อมมือพวกมันจะลงเอยเยี่ยงไร?สำหรับคำถามนี้ ใช่ว่าท่านโหวหลินไม่เคยคิดมาก่อนเพียงแต่...หมิงอ๋องต้องห้ามเป็นอะไรไปเป็นอันขาด!ในตอนนั้นคนจากวังก็มาถึงเป็นขันทีทั้งหมดห้าคน รูปร่างแต่ละคนผอมบาง มีสองคนดูผอมกว่าเฉียวเนี่ยนอีกขนาดเฉียวเนี่ยนยังสงสัย พวกเขาจะคุ้มกันหมิงอ๋องได

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 163

    เฉียวเนี่ยนเดิมก็กลัวอยู่แล้วยิ่งสติหลุดเข้าไปใหญ่ตอนมาถึงตีนเข้า เสี่ยวลู่จึยังตามหลังนางมาอยู่เลย รอบด้านเงียบสงัด แต่ทำไมน่ากลัวขนาดนี้ นางไม่ได้ยินอะไรสักนิดเลย เสี่ยวลู่จึจู่ๆ ทำไมก็หายไปแล้ว?ทันใดนั้นก็มีเสียงเคลื่อนไหวดังมาจากในป่าตามมาด้วยเงาของคน พริบตาก็ห้อมล้อมเฉียวเนี่ยนเอาไว้ทั้งหมดสามคนล้วนปิดบังใบหน้าเป็นโจรภูเขาที่ลักพาตัวหมิงอ๋อง!พวกโจรภูเขาจ้องมองเฉียวเนี่ยน หนึ่งในนั้นเหลือบมองม้าด้านหลังของเฉียวเนี่ยน อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วสงสัย "อีกคนล่ะ?"เฉียวเนี่ยนแม้จะตื่นตระหนก แต่นางยังคงหัวไว รีบแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและถามกลับไป "อีกคนอะไร?""นังตัวดี! ตีหน้าซื่องั้นหรอ!" โจรภูเขาอีกคนโมโหขึ้นมา "เจ้าคนเดียวจะขี่ม้าสองตัวได้ยังไง?"เฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะพูด "ข้าขี่ม้าสองตัวไม่ได้อยู่แล้ว แต่ม้าตัวนั้นสำหรับท่านอ๋อง"พอพวกโจรภูเขาได้ยินก็มองตากัน จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา"เจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะได้กลับไปงั้นหรอ?""พี่สาม นังนี่กล้ามาคนเดียว ไม่เห็นพวกเราในสายตาเลยรึยังไง?"ชายที่ถูกเรียกว่าพี่สามหัวเราะเยาะ "จะมาเพิ่มอีกสักกี่คนแล้วย

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 491

    หนิงซวงก็เห็นรอยขีดข่วนบนลำต้นไม้เช่นกันนางรีบลุกขึ้นยืน คว้าชายแขนเสื้อของหวังเอ้อไว้แน่น "ต้นเหมยแดงต้นนี้รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนปลูกเอาไว้ คุณหนูไม่มีทางทำร้ายมันเด็ดขาด! หวังเอ้อ ทำยังไงดี! คุณหนูต้องถูกใครจับตัวไปแน่ ๆ !"รอยขีดนี้ ต้องเป็นรอยที่คุณหนูทิ้งไว้ตอนดิ้นรนขัดขืนแน่ ๆ !หวังเอ้อเองก็ร้อนใจเช่นกัน แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว "เจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ตระกูลเซียว ข้าจะไปหาท่านโหวน้อยที่จวนโหว!"แม้ว่าคุณหนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเชื่อว่าท่านโหวน้อยต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ส่วนตระกูลเซียว แม้ว่าคุณหนูของนางจะหย่าขาดกับคุณชายใหญ่ไปแล้ว ทว่าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คิดว่าตระกูลเซียวคงไม่เพิกเฉยแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ลำพังเขากับหนิงซวงแค่สองคน จะไปช่วยคุณหนูได้อย่างไรกัน?เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หนิงซวงก็พยักหน้ารัว ๆ แล้วรีบปาดน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกจากจวนไปอย่างเร่งรีบไม่นานนัก นางก็วิ่งไปถึงตระกูลเซียว พอเห็นพ่อเซียวกับแม่เซียว ก็ทรุดลงคุกเข่าในทันที "นายท่าน ฮูหยิน ได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิด! คุณหนูของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว!"เมื่อได้ยิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 490

    เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้จึงพยักหน้าแรง ๆ หลายครั้ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้ ภายในสามวันเรื่องนี้ต้องแล้วเสร็จแน่นอน จะไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มแย้มอย่างงดงาม "ดี"หวังเอ้อจึงคำนับแล้วถอยออกไปขณะเดียวกันใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันจมดิ่งลงสู่หุบเหวคำพูดของแม่เซียวเมื่อครู่นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหูโดยเฉพาะประโยคนั้นที่ว่า 'ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไร้วิธีแก้ไข' ช่างราวกับมีดเล่มหนึ่งที่คอยเฉือนนางอย่างไม่หยุดยั้งผู้คนที่นางใกล้ชิดที่สุดต่างทยอยจากนางไปทีละคนแต่แม่เซียวกลับบอกนางว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะตัวนางเองเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นริ้ว ๆเฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ต้นเหมยแดงต้นนั้น บัดนี้หาได้เป็นเพียงต้นเปล่าโล้นเช่นก่อนออกเรือนไม่มันแตกหน่อใบเขียวออกมาแล้ว ที่ปลายกิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเจิดจ้าจนถึงเวลานี้ ความเจ็บปวดที่แน่นอัดในอกของเฉียวเนี่ยนจึงคล้ายจะทุเลาลงบ้างนางเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ ลูบไล้ลำต้นอย่างแผ่วเบา ภ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 489

    เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 488

    แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status