เพียงเสี้ยววินาที เฉียวเนี่ยนจู่ๆ ก็คว้าคอเสื้อของนางไว้ กระชากนางให้ลุกขึ้นมาไม่รอให้นางได้ทันตั้งตัวก็ผลักนางลงไปในบ่อบัวอย่างแรง"กรี๊ด!"เสียงกรีดร้อง พร้อมกับเสียงวัตถุบางอย่างตกน้ำดังขึ้น หลินยวนถูกเฉียวเนี่ยนผลักลงบ่อบัวภายใต้สายตาของทุกคนทุกคนตกตะลึง ใครต่างก็คาดไม่ถึงว่าเฉียวเนี่ยนจู่ๆ จะทำแบบนี้แต่ละคนยืนอยู่ขอบสระบัวมองหลินยวนหลินยวนตะเกียกตะกายในบ่อบัวเห็นเพียงเฉียวเนี่ยนค่อยๆ หันไปมองเซียวเหิงเขายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับแม้แต่ก้าว ไม่มีท่าทีจะเข้าไปช่วยเลยในดวงตาสีดำของเขาสะท้อนให้เห็นเพียงแต่เงาของเฉียวเนี่ยนชิ ไม่เข้ามาช่วยงั้นหรอ?เฉียวเนี่ยนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็เผยอยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา จากนั้นก็เหลือบหันมองหลินยวนที่กำลังทุรนทุรายก่อนจะหันหน้าไปทางริมฝั่งขณะเดินผ่านฮูหยินหลิน เฉียวเนี่ยนก็พูดอย่างเรียบเฉย "บ่อน้ำถึงแม้จะตื้น แต่ก็จมน้ำตายได้"ฮูหยินหลินราวกับได้สติกลับมา รีบตะโกนเรียกคนให้ช่วยหลินยวนส่วนเฉียวเนี่ยนมองตรงเดินกลับไปที่ห้อง ไม่แม้แต่จะแลท่านโหวหลินที่ยืนอยู่นอกห้องหนิงซวงเอาชาร้อนมาให้ เฉียวเนี่ยนรับถ้วยชามาและนั่งลง พอสัมผัสได
อันที่จริงเฉียวเนี่ยนไม่อยากจะรื้อฟื้นความหลัง ในสายตาของหลินยวน เฉียวเนี่ยนถูกเลี้ยงเอ็นดูเอาใจใส่มา 15 ปีแต่สำหรับเฉียวเนี่ยน ช่วงเวลาความสุขตลอด 15 ปีนั้น ตอนนี้เป็นเพียงแค่คมดาบ ขอแค่นึกถึง มันก็จะเฉือนอย่างแรงบนหัวใจของนางนางบาดเจ็บไปทั้งตัว นางไม่อยากให้หัวใจต้องบอบช้ำตามทว่าตอนนี้ประตูแห่งความทรงจำได้เปิดออก ภาพแห่งความสุขในอดีตทะลักเข้ามาเหมือนสายน้ำดวงตาเฉียวเนี่ยนแดงระเรื่อขึ้นมาทันที จมูกรู้สึกระคายเคืองอย่างมากแต่นางก็ไม่อยากให้ท่านโหวหลินได้เห็นสภาพของนางนางเลยก้มหน้า ราวกับกำลังพิเคราะห์ถ้วยชาในมือ ทำเหมือนไม่มีอะไรทว่านางก็อดไม่ได้ที่จะถามกลับ "หากหลินยวนไม่เคยมีตัวตน หากข้ายังคงเป็นบุตรสาวของจวนโหว ท่านโหวหลินยังคงจะแลกเปลี่ยนตัวข้ากับท่านหมิงอ๋องอยู่ไหม?"สิ้นเสียงอันแผ่วเบา กลับเป็นความเงียบชั่วอึดใจอันที่จริงเฉียวเนี่ยนรู้สึกเสียใจหลังจากถามนางรู้สึกว่าตัวเองน่าขำทำไมนางต้องตามหาคำตอบกับเรื่องสมมุติด้วย?หลินยวนมีตัวตน นางเองก็ไม่ใช่บุตรสาวจวนโหวอีกต่อไป แน่นอนท่านโหวหลินไม่ได้เสียดายชีวิตของนางเพื่อเอาไปแลกกับเกียรติยศของจวนโหว!ขณะครุ่นคิด มุ
ผู้ดูแลราชธานีชะงัก "เขาปู้โจวห่างออกไปไกลเป็นสิบลี้ ถ้าแลกเปลี่ยนตัวประกันตอนยามจึ เกรงว่าคงจะไม่ทันการ!""ออกเดินทางตอนนี้ รีบเร่งเดินทางก็คงจะยังทัน" เฉียวเนี่ยนกล่าวเสียงทุ้มต่ำแต่ว่าในวังยังไม่ทราบข่าวหนิงซวงก้าวออกมาอย่างอดไม่ได้ "คุณหนู บ่าวจะไปกับท่านด้วย! บ่าวแข็งแรง อย่างน้อยก็ปกป้องคุณหนูยามขับขันได้!"จะให้คุณหนูไปคนเดียวได้ยังไง!เฉียวเนี่ยนรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา ยื่นมือออกไปลูบใบหน้าของหนิงซวง "โจรภูเขาพวกนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต เจ้าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว หากตกไปอยู่เงื้อมมือพวกมัน ผลที่ตามมาคงยากจะจินตนาการ เชื่อข้า เจ้าอยู่ที่จวน""แต่...คุณหนูเองก็เป็นผู้หญิง!" หนิงซวงร้องห่มร้องไห้ ท่านโหวหลินรู้สึกราวกับฆ้อนหนักๆ ทุบลงมากระแทกหัวใจใช่ เนี่ยนเนี่ยนเองก็เป็นผู้หญิง!หากผู้หญิงตกไปอยู่ในเงื้อมมือพวกมันจะลงเอยเยี่ยงไร?สำหรับคำถามนี้ ใช่ว่าท่านโหวหลินไม่เคยคิดมาก่อนเพียงแต่...หมิงอ๋องต้องห้ามเป็นอะไรไปเป็นอันขาด!ในตอนนั้นคนจากวังก็มาถึงเป็นขันทีทั้งหมดห้าคน รูปร่างแต่ละคนผอมบาง มีสองคนดูผอมกว่าเฉียวเนี่ยนอีกขนาดเฉียวเนี่ยนยังสงสัย พวกเขาจะคุ้มกันหมิงอ๋องได
เฉียวเนี่ยนเดิมก็กลัวอยู่แล้วยิ่งสติหลุดเข้าไปใหญ่ตอนมาถึงตีนเข้า เสี่ยวลู่จึยังตามหลังนางมาอยู่เลย รอบด้านเงียบสงัด แต่ทำไมน่ากลัวขนาดนี้ นางไม่ได้ยินอะไรสักนิดเลย เสี่ยวลู่จึจู่ๆ ทำไมก็หายไปแล้ว?ทันใดนั้นก็มีเสียงเคลื่อนไหวดังมาจากในป่าตามมาด้วยเงาของคน พริบตาก็ห้อมล้อมเฉียวเนี่ยนเอาไว้ทั้งหมดสามคนล้วนปิดบังใบหน้าเป็นโจรภูเขาที่ลักพาตัวหมิงอ๋อง!พวกโจรภูเขาจ้องมองเฉียวเนี่ยน หนึ่งในนั้นเหลือบมองม้าด้านหลังของเฉียวเนี่ยน อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วสงสัย "อีกคนล่ะ?"เฉียวเนี่ยนแม้จะตื่นตระหนก แต่นางยังคงหัวไว รีบแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและถามกลับไป "อีกคนอะไร?""นังตัวดี! ตีหน้าซื่องั้นหรอ!" โจรภูเขาอีกคนโมโหขึ้นมา "เจ้าคนเดียวจะขี่ม้าสองตัวได้ยังไง?"เฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะพูด "ข้าขี่ม้าสองตัวไม่ได้อยู่แล้ว แต่ม้าตัวนั้นสำหรับท่านอ๋อง"พอพวกโจรภูเขาได้ยินก็มองตากัน จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา"เจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะได้กลับไปงั้นหรอ?""พี่สาม นังนี่กล้ามาคนเดียว ไม่เห็นพวกเราในสายตาเลยรึยังไง?"ชายที่ถูกเรียกว่าพี่สามหัวเราะเยาะ "จะมาเพิ่มอีกสักกี่คนแล้วย
รอยแผลเป็นขวางเป็นทางบนแขนทำให้พวกโจรภูเขาตกใจเห็นได้ชัดว่าพวกเขาคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนเดียว อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่ดูสูงศักดิ์จะมีแผลบนตัวมากมายขนาดนี้ทันใดนั้นสายตาที่มองเฉียวเนี่ยนก็ดูเวทนาขึ้นมาส่วนหมิงอ๋องยังคงรู้สึกตื่นเต้น "พวกเจ้าดูสิ นางมันทนมือทนเท้า! พวกเจ้าพานางไปหาหัวหน้าพวกเจ้าเถอะ เขาจะต้องพอใจ! ปล่อยข้าซะ ขอร้องปล่อยข้าไปเถอะ..."แต่ใครจะรู้ มีดสั้นเล่มนั้นถูกโยนมาไว้ตรงหน้าของเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกตะลึงเงยหน้ามองพี่สาม เห็นเพียงพี่สามมองนางอย่างเย็นชา "จับตัวไอลูกหมานี่ได้มาโดยบังเอิญ เดิมก็อยากจะหยั่งเชิงความคิดของฝ่าบาท แต่เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาทไม่ได้สนใจบุตรชายของเขาคนนี้เลย เจ้าอยู่กับมันไปก็ไม่มีอะไรดี ฆ่ามันซะ แล้วไปกับพวกเรา"หมิงอ๋องคาดไม่ถึงว่าโจรภูเขาจะตัดสินใจเช่นนี้ เขากระเสือกกระสนถอนไปข้างหลังอย่างหวาดกลัว "พวก พวกเจ้าตกลงกับข้าว่าถ้าข้ายกนางให้พวกเจ้า พวกเจ้าจะปล่อยข้าไป!"โจรภูเขาข้างๆ คนหนึ่งหัวเราะเยาะขึ้นมา "หาสัจจะในหมู่โจรหรอ? ท่านอ๋องคนนี้คงจะสมองไม่ค่อยดี"หลังจากได้ยิน หมิงอ๋องก็เผยสีหน้าหมดหวังเขาหันมามองเฉียวเนี่ยนเห็นเฉียวเนี่ย
ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน เกินความคาดหมายเกินไปฝ่าบาทส่งเสี่ยวลู่จึให้มาช่วย ทำไมเขาถึงเอามีดสั้นแทงหมิงอ๋อง?เห็นได้ชัดว่าหมิงอ๋องก็ไม่เข้าใจเขาจับมือของเสี่ยวลู่จึเอาไว้ พยายามไม่ให้เสี่ยวลู่จึกระชากมีดสั้นออกมาจากตัวเขา ดวงตาจ้องเสี่ยวลู่จึเขม็ง เลือดสดๆ กระอักออกจากปาก "ทะ ทำไม?""นางบ่าวเฉียนเอ๋อร์ถูกท่านอ๋องทรมานจนตายที่เฉิงซีเมื่อสามปีก่อน ท่านจำได้ไหม?" เสี่ยวลู่จึจ้องหมิงอ๋องเขม็ง มุมปากเผยรอยยิ้มขึ้นมา "ข้ามาล้างแค้นให้กับนาง!"แต่ในแววตาของหมิงอ๋องมีแต่ความสับสนเห็นได้ชัดว่าเขาจำนางบ่าวเฉียนเอ๋อร์ไม่ได้ท่าทางสับสนนั้นช่างบาดตาเสี่ยวลู่จึเขาลืมไปได้อย่างไร?เขาฆ่าคนสำคัญที่สุดของเขาภายในห้องเล็กๆ ที่มืดสนิท เขาลืมไปได้ยังไง!ทันใดนั้นก็กระชากมีดสั้นออกมาโดยไม่ได้สนหมิงอ๋องที่กำลังขัดขืน จากนั้นก็แทงซ้ำอีกครั้งแทงเข้าไปสี่ห้าแผลราวกับระบายความโกรธพอเห็นว่าเสี่ยวลู่จึจะแทงต่อ เฉียวเนี่ยนก็ได้สติขึ้นมาและผลักเสี่ยวลู่จึออกไปหมิงอ๋องหมดแรงล้มกับพื้น เลือดไหลนองท่วมตัวไม่หยุดเฉียวเนี่ยนรีบเข้าไปหาและกดบาดแผลของหมิงอ๋อง แววตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก "ไม่เ
ผืนป่ายังคงเงียบงันทว่าในใจเฉียวเนี่ยนกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวอีกแล้ว นางค่อยๆ เดินไปตามป่า ในหัวเอาแต่คิดฟุ้งซ่านนางบีบบังคับหมิงอ๋องไว้ได้แล้วจนเขาไม่กล้าจะลงไม้ลงมือกับนางอีก!ใกล้ถึงวันอภิเษกแล้วแท้ๆ นางใกล้จะได้เป็นพระชายาหมิงอ๋อง!อีกก้าวเดียวก็จะหลุดพ้นออกจากจวนโหว!แต่หมิงอ๋องกลับมาตายเสียก่อนแล้วนางจะทำเยี่ยงไร?ไม่มีพระชายาหมิงอ๋องอีกต่อไป แล้วนางจะหลุดพ้นจากจวนโหวเช่นไร?เพื่อเกียรติยศของจวนโหว ท่านโหวหลินกับฮูหยินหลินจะคิดอุบายอะไรขึ้นมาอีก จะผลักนางลงไปในกองเพลิงไหนอีก?ครืนๆๆ...จู่ๆ ฟ้าก็ร้องตามมาด้วยฝนตกจากฟากฟ้า ไหลผ่านกิ่งไม้และแมกไม้หนาทึบตกกระทบเฉียวเนี่ยนไม่นานเสื้อผ้าก็เปียกปอน ฝนต้นฤดูใบไม้ผลิทำให้หนาวสั่นไปทั้งตัวนางค่อยๆ เงยหน้ามองผืนฟ้าอันมืดสนิท ทันใดนั้นก็สบถออกมา "ทำไมถึงทำกับข้าแบบนี้? ทำไม! เล่นตลกกับข้าอยู่หรือไง? เห็นข้าได้ดีไม่ได้ใช่ไหม!"นางเป็นบุตรสาวของจวนโหวอยู่ดีๆ พระเจ้าจู่ๆ ก็ส่งหลินยวนมาให้ตอนนี้ทางหลุดพ้นจากความมืดมิดอยู่ตรงหน้านาง พระเจ้ากลับทำให้หมิงอ๋องตาย!นางเป็นคนไม่ชอบน้ำเย็น พระเจ้ากลับสั่งฝนต้นฤดูใบไม้ผลิให้ตกลงมา!
ฝนตกกระหน่ำทั้งคืนเฉียวเนี่ยนตอนมาถึงวัง ขอบฟ้าก็เริ่มส่องแสงอรุณณ ท้องพระโรง ข้าราชการทหารและพลเรือนยืนประจำที่แบ่งเป็นสองฝั่ง ส่วนฝ่าบาทประทับอยู่ ณ บัลลังก์มังกร แววพระเนตรเต็มไปด้วยความพิโรธ ทรงจ้องเฉียวเนี่ยนเขม็งเมื่อคืนวาน นางต้องเปลี่ยนตัวกับหมิงอ๋องให้เขาออกมาในฐานะตัวประกัน ตามแผนการ คนที่ควรรอดกลับมาควรเป็นหมิงอ๋อง ไม่ใช่นาง!เฉียวเนี่ยนใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆผู้ที่ประทับอยู่บนบัลลังก์เป็นชายที่สามารถตัดสินเป็นตายนางได้แค่ประโยคเดียว นางจะไม่กลัวได้ยังไง?นางพยายามรักษาสีหน้าให้สงบนิ่ง เดินไปยังกลางท้องพระโรง คุกเข่าก้มหัวคำนับ "หม่อมฉันเฉียวเนี่ยน ถวายบังคมฝ่าบาท"สิ้นเสียงก็เป็นความเงียบชั่วอึดใจเฉียวเนี่ยนยังคงทำท่าก้มหัว ไม่กล้าจะขยับเหล่าข้าราชการทหารและพลเรือนในท้องพระโรงไม่มีใครกล้าพูดสักคำ ขนาดเสียงหายใจก็แทบจะไม่มีทุกคนกำลังรอถ้อยคำตัดสินเฉียวเนี่ยนจากฝ่าบาทเสียงของผู้ที่ประทับบนบัลลังก์มังกรกลับราบเรียบอย่างคาดไม่ถึง "เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?"เสียงทุ้มต่ำราวกับทรงถามเรื่องทั่วไปเฉียวเนี่ยนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองร่างในฉลองพระองค์สีทองนางมองเห็นถึงความ
ร่างหลังค่อมซ่อนอยู่ใต้ชุดคลุมตัวโคร่ง เห็นชัดว่าอ่อนแอยิ่งทว่า นางลากร่างผอมชรานี้ สาวเท้าทีละก้าวไปหาเฉียวเนี่ยน ตบหลังเฉียวเนี่ยนอย่างสนิทสนม ก่อนเอ่ยเสียงเบา “วางใจได้ มีย่าอยู่ ไม่มีใครกล้าแตะต้องเจ้าแม้แต่เส้นผมแน่”ครึ่งประโยคสุดท้าย ฮูหยินเฒ่าพูดใส่ท่านโหวหลินเห็นชัดว่ากำลังเตือนท่านโหวหลินแต่ความจริงแล้ว เฉียวเนี่ยนไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อยโทษตระกูลของจวนโหวจะเทียบเท่าแส้ไม้เรียวของกรมซักล้างได้อย่างไร? จะเทียบเท่าคุกมืดของหมิงอ๋องได้อย่างไร?วันนี้ ต่อให้วันนี้ท่านโหวหลินสั่งคนโบยนางจนแหลก ปล่อยนางหายใจรวยรินไป นางก็ไม่มีทางยอมอ่อนข้อให้ถ้ามีปัญญา ก็ตีนางให้ตายไปเลยละกัน!ทว่าแค่คำพูดเดียวของฮูหยินเฒ่า กลับทำให้ดวงตาเฉียวเนี่ยนเอ่อล้นด้วยน้ำตา“ท่านย่าสุขภาพไม่ดี ไฉนถึงออกมาเล่าเจ้าคะ?” เฉียวเนี่ยนพยายามกดเสียงต่ำ กลัวว่าเสียงตนจะเผยอารมณ์ความรู้สึกของตนไปทว่าต่อให้เสียงนางเบาเพียงใด หลินเย่ว์ที่อยู่ข้างๆก็ยังได้ยินหัวใจเขา หดบีบฉับพลันรู้สึกแค่ว่าในเสียงแผ่วเบาของเฉียวเนี่ยนนั้น แฝงเร้นไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจมหาศาลแต่น้อยเนื้อต่ำใจเรื่องอันใดกัน?เรื่อ
เมื่อได้ยินดังว่า เฉียวเนี่ยนกลับแค่นหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ถ้านี่ถือเป็นความผิด เช่นนั้นสามปีก่อน พวกท่านแต่ละคนก็ทำผิดหมดมิใช่หรือ?”ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทุกคนในห้องโถงพลันชะงักค้างทันใดราวกับฮูหยินหลินโดนกระตุ้นบางอย่างเข้า ยืนขึ้นซวนเซ ถอยหลังไปสองก้าว “เจ้า เจ้า......”เฉียวเนี่ยนปราดตามองนาง เงียบงันไร้เสียงทว่าฮูหยินหลินปาดน้ำตาออก “ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้ายังโทษพวกเราอยู่! แต่ว่านะเนี่ยนเนี่ยน นี่มันไม่เหมือนกัน! เรื่องนั้นกระทันหันมาก มันเป็นอุบัติเหตุ! ทว่าวันนี้ เจ้าจงใจวางแผนทำร้ายยวนเอ๋อร์! สองเรื่องนี้ จะมาพูดปนกันได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนหัวเราะเสียงต่ำ “จงใจ วางแผนทำร้าย......สองคำนี้ ใช้ได้ดีนี่!”"แล้วไม่ใช่หรือไร?" หลินเย่ว์เข้ามาถาม “เจ้ากล้าพูดไหม ว่าเจ้าไม่ได้ทำตามคำสั่งองค์หญิง จงใจยุยงให้ยวนเอ๋อร์เข้าวัง?”“ข้าทำตามคำสั่งองค์หญิง ให้พานางเข้าวังจริง” เฉียวเนี่ยนตอบรับอย่างสง่า เสียงดังก้อง ไร้ซึ่งท่าทีหวาดผวาสายตานางมองตรง ไม่มองใครในห้องโถงสักคน เพียงบอกสาธยายความจริงด้วยความสงบนิ่งเท่านั้น “แต่ ชุดที่หลินยวนสวมนั้น เซียวเหิงเอามาให้ข้าจริงๆ”ได้ยินดัง
เมื่อได้ยิน เซียวชิงหน่วนยกมือถูน้ำตาที่เกือบไหลเต็มที อดถามขึ้นอีกไม่ได้ “ตอนนั้นเฉียวเนี่ยนคิดใส่ร้ายหลินยวนจริงหรือ?”เซียวเหิงพยักหน้าตอนนั้นยามเขาเร่งไปถึง ถ้วยแก้วก็แตกไปแล้วเฉียวเนี่ยนกำลังคุกเข่าบนพื้น ชี้นิ้วใส่หลินยวนพูดทั้งน้ำตาว่าหลินยวนเป็นคนทำถ้วยแก้วแตกทว่าตอนนั้น สายตาเหง้าตระกูลหลินอยู่ตรงนั้นมากมาย ไหนเลยจะปล่อยให้นางถูกใส่ความได้!เพราะนางคิดทำร้ายผู้อื่นก่อน ได้รับโทษไปก็สมควรแล้วแต่เขาไม่คาดคิดว่า สามปีจะเนิ่นนานขนาดนี้......เซียวชิงหน่วนสูดจมูก “วันนี้นางก็เป็นคนทำร้ายหลินยวนก่อน” พูดไปเซียวชิงหน่วนก็อดกล่าวโทษเซียวเหิงไปทีเสียไม่ได้ “แต่ พี่ใหญ่ก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย ท่านเอาชุดมอบให้นางไป? อย่าลืมสิ ว่าตอนนี้ท่านเป็นคู่หมั้นของหลินยวน!”เซียวเหิงไม่เคยโดนเซียวชิงหน่วนสั่งสอนมาก่อน เลิกคิ้วทันควัน มองเซียวเหิงด้วยสายตาคุกคามทรงอำนาจ “ต้องให้เจ้าเตือนด้วยหรือ?”เซียวชิงหน่วนเผลลอถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่ปากยังเอ่ยต่อ “ข้ากลัวท่านสับสน ในเมื่อรู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นคนแบบนั้น เช่นนั้นก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับนางมาก ใครจะรู้ว่าต่อไปนางจะทำร้ายใครอี
เซียวชิงหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองความขมขื่นบนหน้าเฉียวเนี่ยน หัวใจพลันเกิดความรู้สึกไม่สบายแต่เมื่อนึกได้ว่าทุกอย่างที่หลินยวนประสบในวันนี้ล้วนเป็นฝีมือเฉียวเนี่ยนแล้ว นางก็อดเอ่ยเสียงเข้มขึ้นอีกครั้งเสียไม่ได้ “แม้เจ้ากับข้าจะทะเลาะกันมาแต่เด็ก ขวางหูขวางตากันมาตลอด แต่ข้ารู้ว่านิสัยแท้จริงเจ้ามิใช่คนเลวร้าย ไม่ว่าอย่างไร เรื่องตอนนั้น หลินยวนมิได้ทำผิด เจ้าทำร้ายนางเช่นนี้ ระวังท้ายสุดจะย้อนมาทำร้ายตัวเจ้าเองล่ะ”พูดประโยคนี้จบ เซียวชิงหน่วนก็เดินไปด้านข้าง พูดคุยกับเหล่าคุณหนูที่คุ้นเคยหากแต่ สายตาของนางยังคงมองไปยังเฉียวเนี่ยนอยู่เสมอนางเห็นเฉียวเนี่ยนเดินไปยังมุมลับสายตาด้วยสีหน้าเหงาซึม เชยชมดอกไม้ที่ไม่สวยงามนักดอกหนึ่ง ทว่าสายตากลับหม่นหมองไร้แสงงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูปีนี้ เป็นเพราะองค์หญิงไม่พึงใจทั้งยังจากไป งานจึงเลิกราเร็วยิ่งยามเซียวชิงหน่วนกลับถึงจวนเซียว ฟ้าก็มืดไม่เห็นแสงแล้วเซียวเหิงกลับมาถึงจวนนานแล้ว ตอนเซียวชิงหน่วนตามเขาเจอ เขาก็ฝึกดาบในลานเรือนของตนแล้วด้วยเหตุนี้ เซียวชิงหน่วนจึงยืนมองอยู่ข้างๆ มิได้เข้าไปรบกวน คอยกระทั่งเซียวเหิงเก็บพลังแล้ว นางถึงรับ
คำพูดเอ่ยเพียงเท่านี้ เซียวเหิงก็เข้าใจแล้ว วันนี้องค์หญิงซูหยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแน่ยิ่งไปกว่านั้น ขันทีน้อยข้างๆยังคลานเบื้องหน้าองค์หญิง ร้องไห้รายงานเรื่องราว “องค์หญิง นางทับดอกถานฮวาของท่านเสียหายแล้วพะยะค่ะ!”องค์หญิงซูหยวนมองตามปลายนิ้วขันทีน้อย ก่อนตะโกนกร้าวด้วยความกริ้วโกรธทันใด “บังอาจ! ริอ่านทำลายดอกถามฮวาที่ข้ารักที่สุดลง! หลินยวน! เจ้าคงรู้สินะว่าดอกถานฮวาพวกนี้ล้ำค่าขนาดไหน!”หลินยวนโดนองค์หญิงซูหยวนตะคอกใส่ รีบหลับในอ้อมอกเซียวเหิงตัวสั่นรุนแรงทว่าไม่ทันให้นางได้เอ่ยปาก หลินเย่ว์กุมมือคารวะเอ่ย “ทูลฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ ยวนเอ๋อร์มิได้ตั้งใจทำลายของรักขององค์หญิง ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ขอองค์หญิงโปรดมองให้กระจ่างแจ้ง”“บังอาจ!” นางกำนัลหลวงข้างกายองค์หญิงต่างทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป “ในเมื่อทำลายของรักขององค์หญิง ถือเป็นโทษทั้งสิ้น! ท่านโหวน้อยเอ่ยอ้างเช่นนี้ จะบอกว่าองค์หญิงไม่แยกแยะถูกผิดอย่างนั้นหรือ?”“กระหม่อมมมิบังอาจ!” หลินเย่ว์รีบคำนับ “หากแต่ยวนเอ๋อร์เกิดอุบัติเหตุล้มใส่จริงพะยะค่ะ เรื่องนี้ทุกคนล้วนเป็นพยานได้”เมื่อได้ยินดังนั้น องค์หญิงซูหย
คล้อยหลังเสียงกรีดร้อง ขันทีน้อยอายุราวสิบที่คอยเฝ้ามองรีบปรี่เข้ามาข้างกายหลินยวน ก่อนดึงให้หลินยวนลุกขึ้นทว่า สายเกินไปแล้วแปลงดอกไม้ถูกหลินยวนทับใส่ไม่เหลือชิ้นดี ดอกไม้น่าสงสารหลายต้นโดนทับจนจมดิน ไม่เหลือซึ่งความงดงามดังเดิมขันทีเห็นภาพตรงหน้า พลันทรุดตัวนั่งทันใด “แย่แล้ว จบสิ้นหมดแล้ว......”พูดไป ทันใดนั้นขันทีน้อยนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงคว้าหมับเข้าชายกระโปรงหลินยวน “เป็นเพราะเจ้า! นี่เป็นสิ่งที่องค์หญิงรับสั่งให้ไปรับจากชมพูทวีปมาด้วยราคาสูง! ข้ากับอาจารย์ทุ่มเทความพยายามยิ่งกว่าจะปลูกสองดอกนี้ได้ อีกไม่กี่เดือนก็ผลิดอกบานแล้ว แต่ตอนนี้ถูกเจ้าทับเละแล้ว! เจ้าต้องชดใช้!”ขันทีน้อยพูดไปพลางร้องไห้ดังลั่น ดึงดูดให้ฝูงชนล้อมวงเข้ามาชุดของหลินยวนเปรอะเปื้อนดินไม่น้อยเพราะล้มใส่แปลงดอก มองตัวเองกลายเป็นตัวตลกที่ฝูงชนหัวเราะเยาะอีกครั้ง จิตใจร้อนรนทนไม่ไหว จึงรีบดึงชุดตนเองกลับมา “เจ้า รีบปล่อยมือ!”“ข้าไม่ปล่อย! เจ้าต้องชดใช้ดอกถามฮวาให้ข้า!” ขันทีน้อยตัดสินใจแล้วว่าวันนี้ต้องทำให้หลินยวนพูดแถลงให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อยเมื่อเห็นเหตุการณ์ หลินเย่ว์รีบเข้ามาพูดโน้ม
นางเงยหน้ามองเซียวเหิงอย่างประหลาดใจ ริ้วแดงยังไม่จางหาย หากแต่ดวงตากลับแดงก่ำ "นี่ นี่ไม่ใช่ท่านพี่เหิงส่งมาให้หรอกหรือ?"เขาส่งให้?สีหน้าเซียวเหิงคร่ำเคร่งลง ก่อนหันมองเฉียวเนี่ยนทันใดสายตาเย็นเยียบคู่นั้นกวาดมองฝูงชน ก่อนหยุดสายตาตรงกวงหน้าเฉียวเนี่ยนอย่างแม่นยำเฉียวเนี่ยนตะลึงงัน จากนั้นรีบหลบสายตาไปนางไม่อยากข้องเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาแต่ไม่คาดคิดว่าพวกหัวไวบางคน จะเห็นถึงความผิดปกติได้ในแวบเดียว “เอ๋ คนข้างกายแม่นางเซียว คือคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวใช่หรือไม่?”ครั้นคนผู้นั้นเอ่ย สายตาเหล่าธารกำนัลที่เหลือก็ปราดมองมายังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนไม่ชอบความรู้สึกเป็นเป้าสายตาคนมากมายเช่นนี้ คิ้วขมวดมุ่นทันควันทว่ากลับมีเสียงคนเอ่ยเบาๆ “ที่แม่ทัพเซียวเอ่ยเมื่อครู่ คงมิใช่ว่าชุดนี้เป็นของคุณหนูผู้นั้นใช่ไหม?”“เมื่อครู่ข้าเองก็รู้สึกประหลาดใจ ชุดสวยๆเช่นนี้ ไฉนถึงได้ทำแขนเสื้อมายาวนัก อย่างกับชุดเล่นงิ้ว!”เฉียวเนี่ยนสูงกว่าหลินยวนอยู่บ้าง แขนย่อมยาวกว่า ประกอบกับตอนสั่งตัดเซียวเหิงกำชับเป็นพิเศษว่าแขนเสื้อต้องยาวอีกหน่อย เพื่อปกปิดรอยแผลเป็นบนข้อมือเฉียวเนี่ยนดังนั้น แขน
พริบตาเดียว ก็ถึงวันงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูแล้วในอุทยานหลวง หลินยวนสวมชุดผ้าไหมท้องฟ้านั้น และใส่คู่กับเครื่องประดับที่หลินเย่ว์เพิ่งซื้อให้นางเมื่อวาน เมื่อปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาของทุกคนเหล่าคุณหนูที่รู้จักนางรีบเข้าไปต้อนรับทันที และชมการแต่งตัวของนางวันนี้อย่างไม่ขาดปากเมื่อเทียบกันแล้ว เฉียวเนี่ยนได้สวมชุดที่เรียบง่ายกว่ามากอีกทั้งคุณหนูคุณชายในนั้นล้วนรู้แค่ว่าเฉียวเนี่ยนคือลูกเลี้ยงจวนโหว แม้แต่หมิงอ๋องที่เป็นที่พึ่งเดียวของนางก็ยังตายเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นคนที่เข้ามาคุยกับนางย่อมไม่มีแม้แต่คนเดียวเฉียวเนี่ยนก็มีความสุขจนผ่อนคลายอิสระ และเดินไปอยู่ตรงมุมหนึ่งอย่างไม่สนใจใครแต่ไม่คิดเลยว่า ยังมีคนเข้ามาต้อนรับ"เฉียวเนี่ยน"คือเซียวชิงหน่วนเฉียวเนี่ยนไม่คิดเลยว่าเซียวชิงหน่วนจะมาทักทายตนเอง อย่างไรเสีย ต่อให้ครั้งก่อนช่วยเซียวชิงหน่วนเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของหลินยวน พวกนางก็ยังเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่เด็กจนโตดังนั้น นางเลิกคิ้วขึ้น ตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย “มีเรื่องอะไร?”“ชุดนั้น”เซียวชิงหน่วนเหลือบมองหลินยวนที่อยู่ไกลๆ แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “นั่นพี่ใหญ่ซื้อให้เจ้า เหต
“เรื่องอะไร?”เฉียวเนี่ยนถามกลับ “เรื่องที่ให้โจรภูเขาลักพาตัวข้า หรือวางยาปลุกกำหนัดข้า และพาข้าไปนอนบนเตียงผู้ชายคนอื่น?“เฉียวเนี่ยนคิดว่า แค่เรื่องคาดไม่ถึงสองเรื่องนี้ ก็เพียงพอให้หลินเย่ว์หุบปากแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า อกเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง และยังแก้ตัวให้ตัวเองอีก “เรื่องยาปลุกกำหนัดเป็นอุบัติเหตุ ข้าคิดว่ามันเป็นแค่ยาสลบธรรมดา…”“มีอะไรแตกต่างหรือ?” เฉียวเนี่ยนจ้องหลินเย่ว์เขม็ง “ท่านโหวน้อยถึงขั้นทำร้ายคู่หมั้นข้าทางอ้อม ท่านทำเรื่องร้ายแรงขัดต่อฟ้าดินมากมาย บัดนี้กลับมาว่าข้ามีเจตนาร้ายแอบแฝง ท่านรู้สึกว่ามันน่าขันไหม?”เรื่องไม่ดีเหล่านั้น หลินเย่ว์ยอมรับดังนั้นตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจดโต้กลับอย่างไรดี หลังสูดหายใจลึกสองหน สุดท้ายก็เบาเสียงลง“ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า แต่พวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับยวนเอ๋อร์ เจ้าอยากแก้แค้น ก็มาลงแค่ที่ข้า”เฉียวเนี่ยนพ่นเสียงเย็นออกมา “แต่ที่ข้าเดินมาถึงวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะหลินยวนสร้างขึ้นมา”หลินเย่ว์กดเสียงต่ำ เหมือนจะโน้มน้าวด้วยความจริงจัง “นั่นเพราะสาวใช้ของนางไม่รู้ความ ยวนเอ๋อร์นางไม่เคยทำร้ายเจ้า”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าอย่างเห็นด้