รอยแผลเป็นขวางเป็นทางบนแขนทำให้พวกโจรภูเขาตกใจเห็นได้ชัดว่าพวกเขาคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนเดียว อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่ดูสูงศักดิ์จะมีแผลบนตัวมากมายขนาดนี้ทันใดนั้นสายตาที่มองเฉียวเนี่ยนก็ดูเวทนาขึ้นมาส่วนหมิงอ๋องยังคงรู้สึกตื่นเต้น "พวกเจ้าดูสิ นางมันทนมือทนเท้า! พวกเจ้าพานางไปหาหัวหน้าพวกเจ้าเถอะ เขาจะต้องพอใจ! ปล่อยข้าซะ ขอร้องปล่อยข้าไปเถอะ..."แต่ใครจะรู้ มีดสั้นเล่มนั้นถูกโยนมาไว้ตรงหน้าของเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกตะลึงเงยหน้ามองพี่สาม เห็นเพียงพี่สามมองนางอย่างเย็นชา "จับตัวไอลูกหมานี่ได้มาโดยบังเอิญ เดิมก็อยากจะหยั่งเชิงความคิดของฝ่าบาท แต่เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาทไม่ได้สนใจบุตรชายของเขาคนนี้เลย เจ้าอยู่กับมันไปก็ไม่มีอะไรดี ฆ่ามันซะ แล้วไปกับพวกเรา"หมิงอ๋องคาดไม่ถึงว่าโจรภูเขาจะตัดสินใจเช่นนี้ เขากระเสือกกระสนถอนไปข้างหลังอย่างหวาดกลัว "พวก พวกเจ้าตกลงกับข้าว่าถ้าข้ายกนางให้พวกเจ้า พวกเจ้าจะปล่อยข้าไป!"โจรภูเขาข้างๆ คนหนึ่งหัวเราะเยาะขึ้นมา "หาสัจจะในหมู่โจรหรอ? ท่านอ๋องคนนี้คงจะสมองไม่ค่อยดี"หลังจากได้ยิน หมิงอ๋องก็เผยสีหน้าหมดหวังเขาหันมามองเฉียวเนี่ยนเห็นเฉียวเนี่ย
ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน เกินความคาดหมายเกินไปฝ่าบาทส่งเสี่ยวลู่จึให้มาช่วย ทำไมเขาถึงเอามีดสั้นแทงหมิงอ๋อง?เห็นได้ชัดว่าหมิงอ๋องก็ไม่เข้าใจเขาจับมือของเสี่ยวลู่จึเอาไว้ พยายามไม่ให้เสี่ยวลู่จึกระชากมีดสั้นออกมาจากตัวเขา ดวงตาจ้องเสี่ยวลู่จึเขม็ง เลือดสดๆ กระอักออกจากปาก "ทะ ทำไม?""นางบ่าวเฉียนเอ๋อร์ถูกท่านอ๋องทรมานจนตายที่เฉิงซีเมื่อสามปีก่อน ท่านจำได้ไหม?" เสี่ยวลู่จึจ้องหมิงอ๋องเขม็ง มุมปากเผยรอยยิ้มขึ้นมา "ข้ามาล้างแค้นให้กับนาง!"แต่ในแววตาของหมิงอ๋องมีแต่ความสับสนเห็นได้ชัดว่าเขาจำนางบ่าวเฉียนเอ๋อร์ไม่ได้ท่าทางสับสนนั้นช่างบาดตาเสี่ยวลู่จึเขาลืมไปได้อย่างไร?เขาฆ่าคนสำคัญที่สุดของเขาภายในห้องเล็กๆ ที่มืดสนิท เขาลืมไปได้ยังไง!ทันใดนั้นก็กระชากมีดสั้นออกมาโดยไม่ได้สนหมิงอ๋องที่กำลังขัดขืน จากนั้นก็แทงซ้ำอีกครั้งแทงเข้าไปสี่ห้าแผลราวกับระบายความโกรธพอเห็นว่าเสี่ยวลู่จึจะแทงต่อ เฉียวเนี่ยนก็ได้สติขึ้นมาและผลักเสี่ยวลู่จึออกไปหมิงอ๋องหมดแรงล้มกับพื้น เลือดไหลนองท่วมตัวไม่หยุดเฉียวเนี่ยนรีบเข้าไปหาและกดบาดแผลของหมิงอ๋อง แววตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก "ไม่เ
ผืนป่ายังคงเงียบงันทว่าในใจเฉียวเนี่ยนกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวอีกแล้ว นางค่อยๆ เดินไปตามป่า ในหัวเอาแต่คิดฟุ้งซ่านนางบีบบังคับหมิงอ๋องไว้ได้แล้วจนเขาไม่กล้าจะลงไม้ลงมือกับนางอีก!ใกล้ถึงวันอภิเษกแล้วแท้ๆ นางใกล้จะได้เป็นพระชายาหมิงอ๋อง!อีกก้าวเดียวก็จะหลุดพ้นออกจากจวนโหว!แต่หมิงอ๋องกลับมาตายเสียก่อนแล้วนางจะทำเยี่ยงไร?ไม่มีพระชายาหมิงอ๋องอีกต่อไป แล้วนางจะหลุดพ้นจากจวนโหวเช่นไร?เพื่อเกียรติยศของจวนโหว ท่านโหวหลินกับฮูหยินหลินจะคิดอุบายอะไรขึ้นมาอีก จะผลักนางลงไปในกองเพลิงไหนอีก?ครืนๆๆ...จู่ๆ ฟ้าก็ร้องตามมาด้วยฝนตกจากฟากฟ้า ไหลผ่านกิ่งไม้และแมกไม้หนาทึบตกกระทบเฉียวเนี่ยนไม่นานเสื้อผ้าก็เปียกปอน ฝนต้นฤดูใบไม้ผลิทำให้หนาวสั่นไปทั้งตัวนางค่อยๆ เงยหน้ามองผืนฟ้าอันมืดสนิท ทันใดนั้นก็สบถออกมา "ทำไมถึงทำกับข้าแบบนี้? ทำไม! เล่นตลกกับข้าอยู่หรือไง? เห็นข้าได้ดีไม่ได้ใช่ไหม!"นางเป็นบุตรสาวของจวนโหวอยู่ดีๆ พระเจ้าจู่ๆ ก็ส่งหลินยวนมาให้ตอนนี้ทางหลุดพ้นจากความมืดมิดอยู่ตรงหน้านาง พระเจ้ากลับทำให้หมิงอ๋องตาย!นางเป็นคนไม่ชอบน้ำเย็น พระเจ้ากลับสั่งฝนต้นฤดูใบไม้ผลิให้ตกลงมา!
ฝนตกกระหน่ำทั้งคืนเฉียวเนี่ยนตอนมาถึงวัง ขอบฟ้าก็เริ่มส่องแสงอรุณณ ท้องพระโรง ข้าราชการทหารและพลเรือนยืนประจำที่แบ่งเป็นสองฝั่ง ส่วนฝ่าบาทประทับอยู่ ณ บัลลังก์มังกร แววพระเนตรเต็มไปด้วยความพิโรธ ทรงจ้องเฉียวเนี่ยนเขม็งเมื่อคืนวาน นางต้องเปลี่ยนตัวกับหมิงอ๋องให้เขาออกมาในฐานะตัวประกัน ตามแผนการ คนที่ควรรอดกลับมาควรเป็นหมิงอ๋อง ไม่ใช่นาง!เฉียวเนี่ยนใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆผู้ที่ประทับอยู่บนบัลลังก์เป็นชายที่สามารถตัดสินเป็นตายนางได้แค่ประโยคเดียว นางจะไม่กลัวได้ยังไง?นางพยายามรักษาสีหน้าให้สงบนิ่ง เดินไปยังกลางท้องพระโรง คุกเข่าก้มหัวคำนับ "หม่อมฉันเฉียวเนี่ยน ถวายบังคมฝ่าบาท"สิ้นเสียงก็เป็นความเงียบชั่วอึดใจเฉียวเนี่ยนยังคงทำท่าก้มหัว ไม่กล้าจะขยับเหล่าข้าราชการทหารและพลเรือนในท้องพระโรงไม่มีใครกล้าพูดสักคำ ขนาดเสียงหายใจก็แทบจะไม่มีทุกคนกำลังรอถ้อยคำตัดสินเฉียวเนี่ยนจากฝ่าบาทเสียงของผู้ที่ประทับบนบัลลังก์มังกรกลับราบเรียบอย่างคาดไม่ถึง "เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?"เสียงทุ้มต่ำราวกับทรงถามเรื่องทั่วไปเฉียวเนี่ยนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองร่างในฉลองพระองค์สีทองนางมองเห็นถึงความ
ฝ่าบาทก็ทรงทราบว่าความจริงคงจะทำให้เขาต้องเสื่อมเสียเกียรติ ดังนั้นพระองค์เลยสูดหายใจเข้าลึกและตรัส "จำเอาไว้ หมิงอ๋องพลีชีพเพื่อปกป้องเจ้า"เฉียวเนี่ยนรับคำในทันที "หม่อมฉันจะจำไว้เพคะ"พูดนางจบ ฝ่าบาทก็ทรงเงียบพระองค์พิเคราะห์มองเฉียวเนี่ยนผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็เปียกโชก สีหน้าก็ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคืนฝนตก หญิงสาวคนนี้คงฝ่ามรสุมมาไม่น้อยดังนั้นพระองค์เลยโบกพระหัตถ์ "เอาล่ะ เจ้ากลับไปเถอะ!""ขอบพระทัยฝ่าบาท" เฉียวเนี่ยนถวายบังคมอีกครั้ง ลุกขึ้นและออกจากท้องพระโรงไปไม่นานนัก เงาร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านหลังท้องพระโรง ถวายบังคมแก่ฝ่าบาท "ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณพะยะค่ะ"ฝ่าบาททรงเหลือบไปมอง "เดิมไม่ใช่ความผิดนาง แต่ว่าเซียวเหิง เจ้าทำไปเพราะหวังดีกับนาง ทำไมถึงตั้งใจปกปิดนาง?"เมื่อคืนเซียวเหิงฝ่าฝนเข้ามาในวัง บอกว่าต้องการทูลข่าวการจากไปของหมิงอ๋อง ทว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นการขอความเห็นใจให้เฉียวเนี่ยนไม่งั้น เขาซึ่งเป็นถึงเจ้าแผ่นดิน จำเป็นต้องแสดงละครตบตากับเฉียวเนี่ยนให้ข้าราชบริพารดูด้วย?ตอนนี้ทุกคนทราบว่าหมิงอ๋องเป็นคนสละชีวิตปกป้องเฉียวเนี่ยนไว
ทางด้านจวนโหวเฉียวเนี่ยนเพิ่งลงมาจากรถม้า ฮูหยินหลินรีบเข้ามาหา "เนี่ยนเนี่ยน!"ฮูหยินหลินคว้าแขนทั้งสองข้างของเฉียวเนี่ยนไว้แน่น มองเฉียวเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า "ให้แม่ดูหน่อย บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?"เสื้อผ้าของเฉียวเนี่ยนยังไม่แห้ง นางสะดุดล้มในป่าหลายครั้ง ชายกระโปรงสกปรกเปื้อนไม่น้อย สภาพดูน่าเวทนาเฉียวเนี่ยนจงใจเข้าไปในวังโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า ยิ่งนางดูน่าเวทนาน่าสงสาร ฝ่าบาทก็จะทรงยิ่งเห็นใจแม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ก็ทำให้นางรอดชีวิตมาได้นางไม่ได้ทำเพื่อฮูหยินหลินพอเห็นหยาดน้ำตาไหลอาบลงมาอย่างกระทันหันของฮูหยินหลิน เฉียวเนี่ยนก็ปัดมือฮูหยินหลินออกอย่างแข็งขืนพร้อมกับกล่าว "ข้าไม่เป็นไร"พูดจบนางก็เดินเข้าไปในจวนนางจงใจไม่หันไปมองหลินยวนและหลินเย่ว์ที่อยู่ข้างๆถึงอย่างไรนางก็ทรมานทรกรรมมาทั้งคืน เหนื่อยมาก ไม่มีกะจิตกะใจพูดคุยกับพวกเขายิ่งไปกว่านั้น นางอยากรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่า!ระฆังพิธีพระบรมศพในวังใกล้จะดังแล้ว ข่าวการจากไปของหมิงอ๋องไม่อาจปิดฮูหยินเฒ่าได้ นางควรอยู่ข้างกายฮูหยินเฒ่า ปลอบประโลมฮูหยินเฒ่า นางจะได้ไม่ร้อนอกร้อนใจจนอาการก
เฉียวเนี่ยนเลยหันไปมองหลินเย่ว์ "แน่นอนท่านโหวน้อยไม่กล้าวางแผนทำร้ายท่านอ๋อง อย่างมากก็แค่ทำร้ายข้า!"คำพูดของเฉียวเนี่ยนแทงใจดำทว่าตอนนี้ หลินเย่ว์กลับตกใจจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวได้แต่ฟังเฉียวเนี่ยนพูดต่อ "แต่ข้าหวังว่าท่านโหวน้อยจะเข้าใจ กระต่ายเวลามันจนตรอกก็กัดคนได้ หากเจ้ากล้าหาเรื่องข้าอีก ข้าก็ไม่รังเกียจจะถูกลากตัวไปตัดหัวที่อู่เหมินพร้อมกับพวกเจ้า!"ก็แค่ประหารทั้งชั่วโคตร!นางคนเดียวแลกกับทั้งตระกูลหลิน ถือว่ากำไรไม่ใช่หรอ?ตอนนี้หลินเย่ว์ถึงกับพูดไม่ออก อีกทั้งยังตกใจกับคำพูดของเฉียวเนี่ยนจนขาอ่อนแม้เซียวเหิงเป็นคนเสนอความเห็นให้หมิงอ๋องไปสำนักราชาโอสถ แต่คนที่ดำเนินแผนการก็คือเขา!เขาไม่เหมือนเซียวเหิงที่มีวีรกรรมสงครามโดดเด่น ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทหากฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้ ฝ่าบาทคงลงมือจัดการเขาเป็นอย่างแรก ส่วนจวนโหวก็จะต้องพบเจอโศกนาฏกรรมฆ่าล้างโคตร!พอเห็นหลินเย่ว์กลัวจนหน้าซีดเผือด หลินยวนก็ทนมองต่อไปไม่ไหว รีบพูดขึ้นมา "ท่านพี่ ทุกคนล้วนเป็นห่วงเจ้า พี่ชายก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ทำไมเจ้าถึง...""เมื่อคืนจมอยู่ในน้ำยังไม่พอรึ?" เฉียวเนี่ยนพูดขัดหลินย
ลายมือตัวหนังสือหวัดเล็กน้อย ขนาดคำว่า 'ผี' ก็ยังเขียนผิด 'ผ' ดันเขียนเป็น 'ฝ'เฉียวเนี่ยนขยำกระดาษแผ่นนั้นจนเป็นก้อนไว้ในกำมือ ในหัวปรากฎภาพของหลิ่วเหนียงกระดาษแผ่นนี้เป็นไปได้มากว่าหลิ่วเหนียงเป็นคนเขียนดังนั้นคนที่คิดอยากให้นางกับหมิงอ๋องแต่งงานผีจะต้องเป็นเต๋อกุ้ยเฟย!หมิงอ๋องเป็นโอรสเพียงคนเดียวของเต๋อกุ้ยเฟย ตอนนี้หมิงอ๋องจากไปแล้ว เต๋อกุ้ยเฟยคงตัดสินใจทำแบบนี้เพราะความเศร้าเสียใจเฉียวเนี่ยนถอนใจยาว นางกล่าวขอบคุณกับพ่อบ้าน จากนั้นก็เดินไปยังเรือนของฮูหยินเฒ่าหนิงซวงเดินตามหลังนางด้วยความกังวลใจเล็กน้อย "คุณหนูเจ้าคะ กระดาษแผ่นนั้น..."นางอยากถามเฉียวเนี่ยนว่าต่อจากนี้จะทำอย่างไร?หากมีพระราชโองการจากในวังให้เฉียวเนี่ยนแต่งงานผีกับหมิงอ๋อง แบบนั้นก็หมายความว่าต้องตายไปพร้อมกับหมิงอ๋องไม่ใช่หรอ?เฉียวเนี่ยนพูดขัดหนิงซวง "ไม่ว่าลมคลื่นจะพัดเซให้เอียงแค่ไหนพอถึงเวลาจอดที่ท่า เรือมันก็จอดตรงของมันเอง"ตอนนี้รีบไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่าก่อนดีกว่าตอนเฉียวเนี่ยนมาถึง ฮูหยินเฒ่าก็ตื่นแล้วระฆังพิธีพระบรมศพดังไปแล้ว ดังนั้นฮูหยินเฒ่าจึงทราบข่าวการตายของหมิงอ๋องพอได้เห็นเฉียวเน
ร่างหลังค่อมซ่อนอยู่ใต้ชุดคลุมตัวโคร่ง เห็นชัดว่าอ่อนแอยิ่งทว่า นางลากร่างผอมชรานี้ สาวเท้าทีละก้าวไปหาเฉียวเนี่ยน ตบหลังเฉียวเนี่ยนอย่างสนิทสนม ก่อนเอ่ยเสียงเบา “วางใจได้ มีย่าอยู่ ไม่มีใครกล้าแตะต้องเจ้าแม้แต่เส้นผมแน่”ครึ่งประโยคสุดท้าย ฮูหยินเฒ่าพูดใส่ท่านโหวหลินเห็นชัดว่ากำลังเตือนท่านโหวหลินแต่ความจริงแล้ว เฉียวเนี่ยนไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อยโทษตระกูลของจวนโหวจะเทียบเท่าแส้ไม้เรียวของกรมซักล้างได้อย่างไร? จะเทียบเท่าคุกมืดของหมิงอ๋องได้อย่างไร?วันนี้ ต่อให้วันนี้ท่านโหวหลินสั่งคนโบยนางจนแหลก ปล่อยนางหายใจรวยรินไป นางก็ไม่มีทางยอมอ่อนข้อให้ถ้ามีปัญญา ก็ตีนางให้ตายไปเลยละกัน!ทว่าแค่คำพูดเดียวของฮูหยินเฒ่า กลับทำให้ดวงตาเฉียวเนี่ยนเอ่อล้นด้วยน้ำตา“ท่านย่าสุขภาพไม่ดี ไฉนถึงออกมาเล่าเจ้าคะ?” เฉียวเนี่ยนพยายามกดเสียงต่ำ กลัวว่าเสียงตนจะเผยอารมณ์ความรู้สึกของตนไปทว่าต่อให้เสียงนางเบาเพียงใด หลินเย่ว์ที่อยู่ข้างๆก็ยังได้ยินหัวใจเขา หดบีบฉับพลันรู้สึกแค่ว่าในเสียงแผ่วเบาของเฉียวเนี่ยนนั้น แฝงเร้นไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจมหาศาลแต่น้อยเนื้อต่ำใจเรื่องอันใดกัน?เรื่อ
เมื่อได้ยินดังว่า เฉียวเนี่ยนกลับแค่นหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ถ้านี่ถือเป็นความผิด เช่นนั้นสามปีก่อน พวกท่านแต่ละคนก็ทำผิดหมดมิใช่หรือ?”ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทุกคนในห้องโถงพลันชะงักค้างทันใดราวกับฮูหยินหลินโดนกระตุ้นบางอย่างเข้า ยืนขึ้นซวนเซ ถอยหลังไปสองก้าว “เจ้า เจ้า......”เฉียวเนี่ยนปราดตามองนาง เงียบงันไร้เสียงทว่าฮูหยินหลินปาดน้ำตาออก “ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้ายังโทษพวกเราอยู่! แต่ว่านะเนี่ยนเนี่ยน นี่มันไม่เหมือนกัน! เรื่องนั้นกระทันหันมาก มันเป็นอุบัติเหตุ! ทว่าวันนี้ เจ้าจงใจวางแผนทำร้ายยวนเอ๋อร์! สองเรื่องนี้ จะมาพูดปนกันได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนหัวเราะเสียงต่ำ “จงใจ วางแผนทำร้าย......สองคำนี้ ใช้ได้ดีนี่!”"แล้วไม่ใช่หรือไร?" หลินเย่ว์เข้ามาถาม “เจ้ากล้าพูดไหม ว่าเจ้าไม่ได้ทำตามคำสั่งองค์หญิง จงใจยุยงให้ยวนเอ๋อร์เข้าวัง?”“ข้าทำตามคำสั่งองค์หญิง ให้พานางเข้าวังจริง” เฉียวเนี่ยนตอบรับอย่างสง่า เสียงดังก้อง ไร้ซึ่งท่าทีหวาดผวาสายตานางมองตรง ไม่มองใครในห้องโถงสักคน เพียงบอกสาธยายความจริงด้วยความสงบนิ่งเท่านั้น “แต่ ชุดที่หลินยวนสวมนั้น เซียวเหิงเอามาให้ข้าจริงๆ”ได้ยินดัง
เมื่อได้ยิน เซียวชิงหน่วนยกมือถูน้ำตาที่เกือบไหลเต็มที อดถามขึ้นอีกไม่ได้ “ตอนนั้นเฉียวเนี่ยนคิดใส่ร้ายหลินยวนจริงหรือ?”เซียวเหิงพยักหน้าตอนนั้นยามเขาเร่งไปถึง ถ้วยแก้วก็แตกไปแล้วเฉียวเนี่ยนกำลังคุกเข่าบนพื้น ชี้นิ้วใส่หลินยวนพูดทั้งน้ำตาว่าหลินยวนเป็นคนทำถ้วยแก้วแตกทว่าตอนนั้น สายตาเหง้าตระกูลหลินอยู่ตรงนั้นมากมาย ไหนเลยจะปล่อยให้นางถูกใส่ความได้!เพราะนางคิดทำร้ายผู้อื่นก่อน ได้รับโทษไปก็สมควรแล้วแต่เขาไม่คาดคิดว่า สามปีจะเนิ่นนานขนาดนี้......เซียวชิงหน่วนสูดจมูก “วันนี้นางก็เป็นคนทำร้ายหลินยวนก่อน” พูดไปเซียวชิงหน่วนก็อดกล่าวโทษเซียวเหิงไปทีเสียไม่ได้ “แต่ พี่ใหญ่ก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย ท่านเอาชุดมอบให้นางไป? อย่าลืมสิ ว่าตอนนี้ท่านเป็นคู่หมั้นของหลินยวน!”เซียวเหิงไม่เคยโดนเซียวชิงหน่วนสั่งสอนมาก่อน เลิกคิ้วทันควัน มองเซียวเหิงด้วยสายตาคุกคามทรงอำนาจ “ต้องให้เจ้าเตือนด้วยหรือ?”เซียวชิงหน่วนเผลลอถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่ปากยังเอ่ยต่อ “ข้ากลัวท่านสับสน ในเมื่อรู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นคนแบบนั้น เช่นนั้นก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับนางมาก ใครจะรู้ว่าต่อไปนางจะทำร้ายใครอี
เซียวชิงหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองความขมขื่นบนหน้าเฉียวเนี่ยน หัวใจพลันเกิดความรู้สึกไม่สบายแต่เมื่อนึกได้ว่าทุกอย่างที่หลินยวนประสบในวันนี้ล้วนเป็นฝีมือเฉียวเนี่ยนแล้ว นางก็อดเอ่ยเสียงเข้มขึ้นอีกครั้งเสียไม่ได้ “แม้เจ้ากับข้าจะทะเลาะกันมาแต่เด็ก ขวางหูขวางตากันมาตลอด แต่ข้ารู้ว่านิสัยแท้จริงเจ้ามิใช่คนเลวร้าย ไม่ว่าอย่างไร เรื่องตอนนั้น หลินยวนมิได้ทำผิด เจ้าทำร้ายนางเช่นนี้ ระวังท้ายสุดจะย้อนมาทำร้ายตัวเจ้าเองล่ะ”พูดประโยคนี้จบ เซียวชิงหน่วนก็เดินไปด้านข้าง พูดคุยกับเหล่าคุณหนูที่คุ้นเคยหากแต่ สายตาของนางยังคงมองไปยังเฉียวเนี่ยนอยู่เสมอนางเห็นเฉียวเนี่ยนเดินไปยังมุมลับสายตาด้วยสีหน้าเหงาซึม เชยชมดอกไม้ที่ไม่สวยงามนักดอกหนึ่ง ทว่าสายตากลับหม่นหมองไร้แสงงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูปีนี้ เป็นเพราะองค์หญิงไม่พึงใจทั้งยังจากไป งานจึงเลิกราเร็วยิ่งยามเซียวชิงหน่วนกลับถึงจวนเซียว ฟ้าก็มืดไม่เห็นแสงแล้วเซียวเหิงกลับมาถึงจวนนานแล้ว ตอนเซียวชิงหน่วนตามเขาเจอ เขาก็ฝึกดาบในลานเรือนของตนแล้วด้วยเหตุนี้ เซียวชิงหน่วนจึงยืนมองอยู่ข้างๆ มิได้เข้าไปรบกวน คอยกระทั่งเซียวเหิงเก็บพลังแล้ว นางถึงรับ
คำพูดเอ่ยเพียงเท่านี้ เซียวเหิงก็เข้าใจแล้ว วันนี้องค์หญิงซูหยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแน่ยิ่งไปกว่านั้น ขันทีน้อยข้างๆยังคลานเบื้องหน้าองค์หญิง ร้องไห้รายงานเรื่องราว “องค์หญิง นางทับดอกถานฮวาของท่านเสียหายแล้วพะยะค่ะ!”องค์หญิงซูหยวนมองตามปลายนิ้วขันทีน้อย ก่อนตะโกนกร้าวด้วยความกริ้วโกรธทันใด “บังอาจ! ริอ่านทำลายดอกถามฮวาที่ข้ารักที่สุดลง! หลินยวน! เจ้าคงรู้สินะว่าดอกถานฮวาพวกนี้ล้ำค่าขนาดไหน!”หลินยวนโดนองค์หญิงซูหยวนตะคอกใส่ รีบหลับในอ้อมอกเซียวเหิงตัวสั่นรุนแรงทว่าไม่ทันให้นางได้เอ่ยปาก หลินเย่ว์กุมมือคารวะเอ่ย “ทูลฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ ยวนเอ๋อร์มิได้ตั้งใจทำลายของรักขององค์หญิง ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ขอองค์หญิงโปรดมองให้กระจ่างแจ้ง”“บังอาจ!” นางกำนัลหลวงข้างกายองค์หญิงต่างทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป “ในเมื่อทำลายของรักขององค์หญิง ถือเป็นโทษทั้งสิ้น! ท่านโหวน้อยเอ่ยอ้างเช่นนี้ จะบอกว่าองค์หญิงไม่แยกแยะถูกผิดอย่างนั้นหรือ?”“กระหม่อมมมิบังอาจ!” หลินเย่ว์รีบคำนับ “หากแต่ยวนเอ๋อร์เกิดอุบัติเหตุล้มใส่จริงพะยะค่ะ เรื่องนี้ทุกคนล้วนเป็นพยานได้”เมื่อได้ยินดังนั้น องค์หญิงซูหย
คล้อยหลังเสียงกรีดร้อง ขันทีน้อยอายุราวสิบที่คอยเฝ้ามองรีบปรี่เข้ามาข้างกายหลินยวน ก่อนดึงให้หลินยวนลุกขึ้นทว่า สายเกินไปแล้วแปลงดอกไม้ถูกหลินยวนทับใส่ไม่เหลือชิ้นดี ดอกไม้น่าสงสารหลายต้นโดนทับจนจมดิน ไม่เหลือซึ่งความงดงามดังเดิมขันทีเห็นภาพตรงหน้า พลันทรุดตัวนั่งทันใด “แย่แล้ว จบสิ้นหมดแล้ว......”พูดไป ทันใดนั้นขันทีน้อยนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงคว้าหมับเข้าชายกระโปรงหลินยวน “เป็นเพราะเจ้า! นี่เป็นสิ่งที่องค์หญิงรับสั่งให้ไปรับจากชมพูทวีปมาด้วยราคาสูง! ข้ากับอาจารย์ทุ่มเทความพยายามยิ่งกว่าจะปลูกสองดอกนี้ได้ อีกไม่กี่เดือนก็ผลิดอกบานแล้ว แต่ตอนนี้ถูกเจ้าทับเละแล้ว! เจ้าต้องชดใช้!”ขันทีน้อยพูดไปพลางร้องไห้ดังลั่น ดึงดูดให้ฝูงชนล้อมวงเข้ามาชุดของหลินยวนเปรอะเปื้อนดินไม่น้อยเพราะล้มใส่แปลงดอก มองตัวเองกลายเป็นตัวตลกที่ฝูงชนหัวเราะเยาะอีกครั้ง จิตใจร้อนรนทนไม่ไหว จึงรีบดึงชุดตนเองกลับมา “เจ้า รีบปล่อยมือ!”“ข้าไม่ปล่อย! เจ้าต้องชดใช้ดอกถามฮวาให้ข้า!” ขันทีน้อยตัดสินใจแล้วว่าวันนี้ต้องทำให้หลินยวนพูดแถลงให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อยเมื่อเห็นเหตุการณ์ หลินเย่ว์รีบเข้ามาพูดโน้ม
นางเงยหน้ามองเซียวเหิงอย่างประหลาดใจ ริ้วแดงยังไม่จางหาย หากแต่ดวงตากลับแดงก่ำ "นี่ นี่ไม่ใช่ท่านพี่เหิงส่งมาให้หรอกหรือ?"เขาส่งให้?สีหน้าเซียวเหิงคร่ำเคร่งลง ก่อนหันมองเฉียวเนี่ยนทันใดสายตาเย็นเยียบคู่นั้นกวาดมองฝูงชน ก่อนหยุดสายตาตรงกวงหน้าเฉียวเนี่ยนอย่างแม่นยำเฉียวเนี่ยนตะลึงงัน จากนั้นรีบหลบสายตาไปนางไม่อยากข้องเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาแต่ไม่คาดคิดว่าพวกหัวไวบางคน จะเห็นถึงความผิดปกติได้ในแวบเดียว “เอ๋ คนข้างกายแม่นางเซียว คือคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวใช่หรือไม่?”ครั้นคนผู้นั้นเอ่ย สายตาเหล่าธารกำนัลที่เหลือก็ปราดมองมายังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนไม่ชอบความรู้สึกเป็นเป้าสายตาคนมากมายเช่นนี้ คิ้วขมวดมุ่นทันควันทว่ากลับมีเสียงคนเอ่ยเบาๆ “ที่แม่ทัพเซียวเอ่ยเมื่อครู่ คงมิใช่ว่าชุดนี้เป็นของคุณหนูผู้นั้นใช่ไหม?”“เมื่อครู่ข้าเองก็รู้สึกประหลาดใจ ชุดสวยๆเช่นนี้ ไฉนถึงได้ทำแขนเสื้อมายาวนัก อย่างกับชุดเล่นงิ้ว!”เฉียวเนี่ยนสูงกว่าหลินยวนอยู่บ้าง แขนย่อมยาวกว่า ประกอบกับตอนสั่งตัดเซียวเหิงกำชับเป็นพิเศษว่าแขนเสื้อต้องยาวอีกหน่อย เพื่อปกปิดรอยแผลเป็นบนข้อมือเฉียวเนี่ยนดังนั้น แขน
พริบตาเดียว ก็ถึงวันงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูแล้วในอุทยานหลวง หลินยวนสวมชุดผ้าไหมท้องฟ้านั้น และใส่คู่กับเครื่องประดับที่หลินเย่ว์เพิ่งซื้อให้นางเมื่อวาน เมื่อปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาของทุกคนเหล่าคุณหนูที่รู้จักนางรีบเข้าไปต้อนรับทันที และชมการแต่งตัวของนางวันนี้อย่างไม่ขาดปากเมื่อเทียบกันแล้ว เฉียวเนี่ยนได้สวมชุดที่เรียบง่ายกว่ามากอีกทั้งคุณหนูคุณชายในนั้นล้วนรู้แค่ว่าเฉียวเนี่ยนคือลูกเลี้ยงจวนโหว แม้แต่หมิงอ๋องที่เป็นที่พึ่งเดียวของนางก็ยังตายเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นคนที่เข้ามาคุยกับนางย่อมไม่มีแม้แต่คนเดียวเฉียวเนี่ยนก็มีความสุขจนผ่อนคลายอิสระ และเดินไปอยู่ตรงมุมหนึ่งอย่างไม่สนใจใครแต่ไม่คิดเลยว่า ยังมีคนเข้ามาต้อนรับ"เฉียวเนี่ยน"คือเซียวชิงหน่วนเฉียวเนี่ยนไม่คิดเลยว่าเซียวชิงหน่วนจะมาทักทายตนเอง อย่างไรเสีย ต่อให้ครั้งก่อนช่วยเซียวชิงหน่วนเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของหลินยวน พวกนางก็ยังเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่เด็กจนโตดังนั้น นางเลิกคิ้วขึ้น ตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย “มีเรื่องอะไร?”“ชุดนั้น”เซียวชิงหน่วนเหลือบมองหลินยวนที่อยู่ไกลๆ แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “นั่นพี่ใหญ่ซื้อให้เจ้า เหต
“เรื่องอะไร?”เฉียวเนี่ยนถามกลับ “เรื่องที่ให้โจรภูเขาลักพาตัวข้า หรือวางยาปลุกกำหนัดข้า และพาข้าไปนอนบนเตียงผู้ชายคนอื่น?“เฉียวเนี่ยนคิดว่า แค่เรื่องคาดไม่ถึงสองเรื่องนี้ ก็เพียงพอให้หลินเย่ว์หุบปากแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า อกเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง และยังแก้ตัวให้ตัวเองอีก “เรื่องยาปลุกกำหนัดเป็นอุบัติเหตุ ข้าคิดว่ามันเป็นแค่ยาสลบธรรมดา…”“มีอะไรแตกต่างหรือ?” เฉียวเนี่ยนจ้องหลินเย่ว์เขม็ง “ท่านโหวน้อยถึงขั้นทำร้ายคู่หมั้นข้าทางอ้อม ท่านทำเรื่องร้ายแรงขัดต่อฟ้าดินมากมาย บัดนี้กลับมาว่าข้ามีเจตนาร้ายแอบแฝง ท่านรู้สึกว่ามันน่าขันไหม?”เรื่องไม่ดีเหล่านั้น หลินเย่ว์ยอมรับดังนั้นตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจดโต้กลับอย่างไรดี หลังสูดหายใจลึกสองหน สุดท้ายก็เบาเสียงลง“ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า แต่พวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับยวนเอ๋อร์ เจ้าอยากแก้แค้น ก็มาลงแค่ที่ข้า”เฉียวเนี่ยนพ่นเสียงเย็นออกมา “แต่ที่ข้าเดินมาถึงวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะหลินยวนสร้างขึ้นมา”หลินเย่ว์กดเสียงต่ำ เหมือนจะโน้มน้าวด้วยความจริงจัง “นั่นเพราะสาวใช้ของนางไม่รู้ความ ยวนเอ๋อร์นางไม่เคยทำร้ายเจ้า”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าอย่างเห็นด้