แชร์

บทที่ 168

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
ฝ่าบาทก็ทรงทราบว่าความจริงคงจะทำให้เขาต้องเสื่อมเสียเกียรติ ดังนั้นพระองค์เลยสูดหายใจเข้าลึกและตรัส "จำเอาไว้ หมิงอ๋องพลีชีพเพื่อปกป้องเจ้า"

เฉียวเนี่ยนรับคำในทันที "หม่อมฉันจะจำไว้เพคะ"

พูดนางจบ ฝ่าบาทก็ทรงเงียบ

พระองค์พิเคราะห์มองเฉียวเนี่ยน

ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็เปียกโชก สีหน้าก็ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อคืนฝนตก หญิงสาวคนนี้คงฝ่ามรสุมมาไม่น้อย

ดังนั้นพระองค์เลยโบกพระหัตถ์ "เอาล่ะ เจ้ากลับไปเถอะ!"

"ขอบพระทัยฝ่าบาท" เฉียวเนี่ยนถวายบังคมอีกครั้ง ลุกขึ้นและออกจากท้องพระโรงไป

ไม่นานนัก เงาร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านหลังท้องพระโรง ถวายบังคมแก่ฝ่าบาท "ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณพะยะค่ะ"

ฝ่าบาททรงเหลือบไปมอง "เดิมไม่ใช่ความผิดนาง แต่ว่าเซียวเหิง เจ้าทำไปเพราะหวังดีกับนาง ทำไมถึงตั้งใจปกปิดนาง?"

เมื่อคืนเซียวเหิงฝ่าฝนเข้ามาในวัง บอกว่าต้องการทูลข่าวการจากไปของหมิงอ๋อง ทว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นการขอความเห็นใจให้เฉียวเนี่ยน

ไม่งั้น เขาซึ่งเป็นถึงเจ้าแผ่นดิน จำเป็นต้องแสดงละครตบตากับเฉียวเนี่ยนให้ข้าราชบริพารดูด้วย?

ตอนนี้ทุกคนทราบว่าหมิงอ๋องเป็นคนสละชีวิตปกป้องเฉียวเนี่ยนไว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Tao Supapanapat
เรื่องนี้เขียนให้ นางเอกโง่ซ้ำโง่ซ้อนวนเวียนอยู่นั่น
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 169

    ทางด้านจวนโหวเฉียวเนี่ยนเพิ่งลงมาจากรถม้า ฮูหยินหลินรีบเข้ามาหา "เนี่ยนเนี่ยน!"ฮูหยินหลินคว้าแขนทั้งสองข้างของเฉียวเนี่ยนไว้แน่น มองเฉียวเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า "ให้แม่ดูหน่อย บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?"เสื้อผ้าของเฉียวเนี่ยนยังไม่แห้ง นางสะดุดล้มในป่าหลายครั้ง ชายกระโปรงสกปรกเปื้อนไม่น้อย สภาพดูน่าเวทนาเฉียวเนี่ยนจงใจเข้าไปในวังโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า ยิ่งนางดูน่าเวทนาน่าสงสาร ฝ่าบาทก็จะทรงยิ่งเห็นใจแม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ก็ทำให้นางรอดชีวิตมาได้นางไม่ได้ทำเพื่อฮูหยินหลินพอเห็นหยาดน้ำตาไหลอาบลงมาอย่างกระทันหันของฮูหยินหลิน เฉียวเนี่ยนก็ปัดมือฮูหยินหลินออกอย่างแข็งขืนพร้อมกับกล่าว "ข้าไม่เป็นไร"พูดจบนางก็เดินเข้าไปในจวนนางจงใจไม่หันไปมองหลินยวนและหลินเย่ว์ที่อยู่ข้างๆถึงอย่างไรนางก็ทรมานทรกรรมมาทั้งคืน เหนื่อยมาก ไม่มีกะจิตกะใจพูดคุยกับพวกเขายิ่งไปกว่านั้น นางอยากรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่า!ระฆังพิธีพระบรมศพในวังใกล้จะดังแล้ว ข่าวการจากไปของหมิงอ๋องไม่อาจปิดฮูหยินเฒ่าได้ นางควรอยู่ข้างกายฮูหยินเฒ่า ปลอบประโลมฮูหยินเฒ่า นางจะได้ไม่ร้อนอกร้อนใจจนอาการก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 170

    เฉียวเนี่ยนเลยหันไปมองหลินเย่ว์ "แน่นอนท่านโหวน้อยไม่กล้าวางแผนทำร้ายท่านอ๋อง อย่างมากก็แค่ทำร้ายข้า!"คำพูดของเฉียวเนี่ยนแทงใจดำทว่าตอนนี้ หลินเย่ว์กลับตกใจจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวได้แต่ฟังเฉียวเนี่ยนพูดต่อ "แต่ข้าหวังว่าท่านโหวน้อยจะเข้าใจ กระต่ายเวลามันจนตรอกก็กัดคนได้ หากเจ้ากล้าหาเรื่องข้าอีก ข้าก็ไม่รังเกียจจะถูกลากตัวไปตัดหัวที่อู่เหมินพร้อมกับพวกเจ้า!"ก็แค่ประหารทั้งชั่วโคตร!นางคนเดียวแลกกับทั้งตระกูลหลิน ถือว่ากำไรไม่ใช่หรอ?ตอนนี้หลินเย่ว์ถึงกับพูดไม่ออก อีกทั้งยังตกใจกับคำพูดของเฉียวเนี่ยนจนขาอ่อนแม้เซียวเหิงเป็นคนเสนอความเห็นให้หมิงอ๋องไปสำนักราชาโอสถ แต่คนที่ดำเนินแผนการก็คือเขา!เขาไม่เหมือนเซียวเหิงที่มีวีรกรรมสงครามโดดเด่น ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทหากฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้ ฝ่าบาทคงลงมือจัดการเขาเป็นอย่างแรก ส่วนจวนโหวก็จะต้องพบเจอโศกนาฏกรรมฆ่าล้างโคตร!พอเห็นหลินเย่ว์กลัวจนหน้าซีดเผือด หลินยวนก็ทนมองต่อไปไม่ไหว รีบพูดขึ้นมา "ท่านพี่ ทุกคนล้วนเป็นห่วงเจ้า พี่ชายก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ทำไมเจ้าถึง...""เมื่อคืนจมอยู่ในน้ำยังไม่พอรึ?" เฉียวเนี่ยนพูดขัดหลินย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 171

    ลายมือตัวหนังสือหวัดเล็กน้อย ขนาดคำว่า 'ผี' ก็ยังเขียนผิด 'ผ' ดันเขียนเป็น 'ฝ'เฉียวเนี่ยนขยำกระดาษแผ่นนั้นจนเป็นก้อนไว้ในกำมือ ในหัวปรากฎภาพของหลิ่วเหนียงกระดาษแผ่นนี้เป็นไปได้มากว่าหลิ่วเหนียงเป็นคนเขียนดังนั้นคนที่คิดอยากให้นางกับหมิงอ๋องแต่งงานผีจะต้องเป็นเต๋อกุ้ยเฟย!หมิงอ๋องเป็นโอรสเพียงคนเดียวของเต๋อกุ้ยเฟย ตอนนี้หมิงอ๋องจากไปแล้ว เต๋อกุ้ยเฟยคงตัดสินใจทำแบบนี้เพราะความเศร้าเสียใจเฉียวเนี่ยนถอนใจยาว นางกล่าวขอบคุณกับพ่อบ้าน จากนั้นก็เดินไปยังเรือนของฮูหยินเฒ่าหนิงซวงเดินตามหลังนางด้วยความกังวลใจเล็กน้อย "คุณหนูเจ้าคะ กระดาษแผ่นนั้น..."นางอยากถามเฉียวเนี่ยนว่าต่อจากนี้จะทำอย่างไร?หากมีพระราชโองการจากในวังให้เฉียวเนี่ยนแต่งงานผีกับหมิงอ๋อง แบบนั้นก็หมายความว่าต้องตายไปพร้อมกับหมิงอ๋องไม่ใช่หรอ?เฉียวเนี่ยนพูดขัดหนิงซวง "ไม่ว่าลมคลื่นจะพัดเซให้เอียงแค่ไหนพอถึงเวลาจอดที่ท่า เรือมันก็จอดตรงของมันเอง"ตอนนี้รีบไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่าก่อนดีกว่าตอนเฉียวเนี่ยนมาถึง ฮูหยินเฒ่าก็ตื่นแล้วระฆังพิธีพระบรมศพดังไปแล้ว ดังนั้นฮูหยินเฒ่าจึงทราบข่าวการตายของหมิงอ๋องพอได้เห็นเฉียวเน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 172

    พอถึงตอนนั้น ฮูหยินเฒ่าไม่มีทางทนมองลูกหลานตัวเองรับโทษได้แน่เกรงว่าคงจะออกตัว ใช้ฐานะคุณหญิงตราตั้งปกป้องเกียรติยศของจวนโหวถึงตอนนั้นเฉียวเนี่ยนจะเอาเงินทรัพย์สมบัติของฮูหยินเฒ่าไปมีชีวิตเสวยสุขได้ยังไง?แน่นอนว่าคำตอบคือไม่เห็นฮูหยินเฒ่าหยุดพูด เฉียวเนี่ยนก็ยิ้มให้กับฮูหยินเฒ่า "ท่านย่าไม่ต้องเป็นห่วง เต๋อกุ้ยเฟยดีกับเนี่ยนเนี่ยนมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้เนี่ยนเนี่ยนจะเข้าไปพบกุ้ยเฟยในวัง คอยอยู่เคียงข้างผ่านช่วงที่ลำบากที่สุดของนาง เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป"เห็นได้ชัดว่าฮูหยินเฒ่าไม่เชื่อ "เต๋อกุ้ยเฟยปกติแม้จะอัธยาศัยดี แต่ใจคนยากลึกหยั่งถึง เนี่ยนเนี่ยน สตรีที่สามารถยืนหยัดในวังได้ล้วนไม่ธรรมดา!"แน่นอนเฉียวเนี่ยนทราบดี แต่เพื่อให้ฮูหยินเฒ่าเบาใจ นางเลยได้แต่พูดปลอบต่อไป "ท่านย่าอย่าห่วง เต๋อกุ้ยเฟยดีกับเนี่ยนเนี่ยนมากจริงๆ ก่อนหน้านี้นางยกห้องตัดเสื้อที่มีชื่อเสียงที่สุดให้กับหลานอยู่เลย!"พอได้ยิน ฮูหยินเฒ่าก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย "จริงรึ?""อืม ดังนั้น ขอแค่หลานปรนนิบัติดูแลกุ้ยเฟยให้ดี หลานก็จะไม่เป็นอะไร"เฉียวเนี่ยนยิ้มแก้มปริ ฮูหยินเฒ่าเห็นท่าทางของนางก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจ "เป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 173

    เช้าวันรุ่งขึ้น เฉียวเนี่ยนไปเคารพศพของหมิงอ๋องที่โถงตั้งพระบรมศพก่อน จากนั้นก็ไปเรือนนอนของเต๋อกุ้ยเฟยพอเห็นเฉียวเนี่ยน สีหน้าของนางบ่าวก็ดูมีเลศนัยอย่างมากเฉียวเนี่ยนทำเป็นมองไม่เห็นนางบ่าวนำทางเฉียวเนี่ยนมาถึงยังเรือนนอนชั้นนอกของเต๋อกุ้ยเฟย ก่อนจะบอกให้นางเข้าไปเฉียวเนี่ยนผลักประตูเข้าไป มองผ่านผ้าม่านผืนบางก็จะเห็นเต๋อกุ้ยเฟยนั่งอยู่บนเตียง ข้างๆ มีสาวใช้คนหนึ่งคอยช่วยบีบนวดขมับให้กับเต๋อกุ้ยเฟยเฉียวเนี่ยนเดินเข้าไปหาและคุกเข่าคำนับ "หม่อมฉันถวายบังคมกุ้ยเฟยเพคะ"พอสิ้นเสียงกลับไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเฉียวเนี่ยนทราบว่าเต๋อกุ้ยเฟยทรงตื่นจากบรรทมแล้ว อีกทั้งเสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ ก็ยังดังมาเป็นระยะหลังจากได้ยินหลายครั้ง ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็พูดอย่างอดไม่ได้ "นายหญิงเพคะ ผู้ล่วงลับจากไปมิอาจหวน..."พอสิ้นเสียง ทันใดนั้นเต๋อกุ้ยเฟยก็เดินออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวผ้าม่านผืนบางเกือบจะหล่นลงมาเต๋อกุ้ยเฟยเดินมาอยู่ตรงหน้าของเฉียวเนี่ยนและตบหน้าไปฉาดอย่างไม่ใยดี "เพี๊ยะ""กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้?" เต๋อกุ้ยเฟยตวาดเสียงดัง เสียงคร่ำครวญแฝงไปด้วยความแค้น "เจ้าสัญญากับข้าแล้วว่าจะพา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 174

    "เพคะ!" บรรดานางบ่าวรับคำและออกไป ประตูห้องปิดลง ภายในห้องเงียบสงบลงในทันทีเฉียวเนี่ยนค่อยๆ เอ่ยพูด "หม่อมฉันตอนพบท่านอ๋อง ท่านอ๋องถูกโจรภูเขาทรมานมาเนิ่นนานจนบาดแผลเต็มตัว เขาคุกเข่าวิงวอนโจรภูเขาพวกนั้นให้ปล่อยเขาไป ข้อร้องอย่างกับหมาตัวหนึ่ง!"เต๋อกุ้ยเฟยอยากรู้ความจริงไม่ใช่รึไง?นี่คือความจริงโอรสหนึ่งเดียวของนาง โอรสสุดที่รัก พออยู่ต่อหน้าพวกโจรภูเขาก็ไร้ซึ่งความสง่าความหยิ่งทระนงในแบบฉบับท่านอ๋องแค่จินตนาการภาพเหตุการณ์นั้น หัวใจของเต๋อกุ้ยเฟยก็ปวดร้าวขึ้นมานางทราบดี การพลีชีพปกป้องอย่างที่เฉียวเนี่ยนกล่าวข้างต้นเทียบกับคำพูดของนางตอนนี้แล้ว น่าเชื่อถือยิ่งกว่าเฉียวเนี่ยนปล่อยมือเต๋อกุ้ยเฟยและลุกขึ้นมาส่วนเต๋อกุ้ยเฟยยังคงคุกเข่าอยู่ ราวกับนางสูญเสียเรี่ยวแรงไปทั้งหมดได้แต่ฟังเฉียวเนี่ยนพูดต่อ "กุ้ยเฟยทรงจำได้อยู่รึไม่ว่าในวังเคยมีนางบ่าวชื่อว่าเฉียนเอ๋อร์?"เฉียนเอ๋อร์?ไม่นานในหัวของเต๋อกุ้ยเฟยก็ปรากฎภาพนางบ่าวน่ารักคนหนึ่งยิ้มแย้ม ดวงตาโค้งงอราวกับพระจันทร์เสี้ยวทว่าต่อมานางบ่าวคนนั้นถูกหมิงอ๋องพาตัวไปเฉิงซีนางถึงกับใจหายและรีบหันไปมองเฉียวเนี่ยน "เจ้ารู้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 175

    เฉียวเนี่ยนใจหายไปที่ตาตุ่ม ยังไม่ทันที่นางจะรู้สึกตัว ทันใดนั้นเต๋อกุ้ยเฟยก็คว้าจับข้อมือของนางใบหน้าเปื้อนเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ตอนนี้กลับประดับด้วยรอยยิ้มของปีศาจ "เมื่อวานข้าให้นางออกวังไปซื้อของเคารพศพ วันนี้เจ้าเข้าวังมาทูลกล่าวกับข้า ทำไม กลัวข้าจะให้เจ้าแต่งงานผีตายไปพร้อมกับเจ๋อเอ๋อร์รึไง?"เฉียวเนี่ยนถอนหายใจยาว ยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาบนใบหน้าเต๋อกุ้ยเฟย "ใช่เพคะ แม้ชีวิตหม่อมฉันจะต้อยต่ำ แต่หม่อมฉันก็กลัวตาย"บนนิ้วของเฉียวเนี่ยนด้านจนเป้นตาปลาและลูบไล้บนใบหน้าเนียนนุ่มของเต๋อกุ้ยเฟย ทำเอาเต๋อกุ้ยเฟยขนลุกขนพองนางไม่เคยคิดว่ามือของผู้หญิงคนหนึ่งจะหยาบกร้านได้เพียงนี้ต่อให้เป็นบรรดานางบ่าวปรนนิบัติข้างกายก็ยังไม่หยาบกร้านเท่ากับมือของเฉียวเนี่ยนเพียงแต่เฉียวเนี่ยนไม่รู้ตัว อีกทั้งยังยิ้มอ่อนโยนให้กับเต๋อกุ้ยเฟย "คนตายไม่อยู่แล้ว ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องพยายามดิ้นรนมีชีวิต กุ้ยเฟยเข้าใจที่ข้าจะสื่อใช่ไหมเพคะ"หมิงอ๋องเป็นโอรสคนเดียวของเต๋อกุ้ยเฟย และเป็นที่พึ่งพาเดียวของนางตอนนี้หมิงอ๋องได้จากไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เต๋อกุ้ยเฟยต้องทำก็คือหาแหล่งพึ่งพาใหม่ หาทางทำให้ตัวนางเองอยู

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 176

    ในเมื่อเต๋อกุ้ยเฟยบอกว่าให้นางไปส่งหมิงอ๋องเป็นครั้งสุดท้าย เช่นนั้นคงไม่ได้หมายความว่าให้นางทําความเคารพแล้วก็จากไปหรอกดังนั้นหลังจากเฉียวเนี่ยนทําความเคารพเสร็จก็เดินไปเผากระดาษเงินกระดาษทองให้หมิงอ๋องขันทีน้อยสองคนที่อยู่นอกห้องโถงไว้ทุกข์เห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกัน“แม่นางเฉียวผู้นั้นดูเหมือนจะมีความรักต่อหมิงอ๋องอย่างลึกซึ้งนะ เพิ่งมาเมื่อเช้านี้เอง ตอนนี้มาอีกแล้ว"“ใช่สิ เจ้าไม่เห็นหรือว่าพอนางเห็นโลงศพของหมิงอ๋องก็ตาแดงแล้ว น่าสงสารยิ่งนัก”“เฮ้อ... ลากันแบบตายจากย่อมทุกข์ทรมานที่สุด...อ๊ะ! บ่าว บ่าวคารวะใต้เท้าเซียวขอรับ!”ใบหน้าของเซียวเหิงเย็นชาราวกับถูกน้ำแข็งแช่แข็งมาก่อน ดวงตาทั้งคู่กวาดมองขันทีสองคนนั้น น้ําเสียงราวกับเต็มไปด้วยไอสังหาร “กฎในวังสอนให้พวกเจ้าพูดนินทาถึงเจ้านายหรือ?”ขันทีน้อยทั้งสองนิ่งอึ้งไป รู้สึกเพียงว่าแม่นางเฉียวผู้นี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเจ้านายกระมัง?แต่เมื่อเห็นท่าทีเย็นชาของเซียวเหิง ในใจก็ว้าวุ่นไม่หยุด จึงรีบโขกหัว “บ่าวไม่กล้าขอรับ ขอใต้เท้าเซียวโปรดอภัยด้วย!"วันนี้อารมณ์ของใต้เท้าเซียวดูเหมือนไม่ค่อยดีนัก เขาแค่นเสียงในลํา

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 491

    หนิงซวงก็เห็นรอยขีดข่วนบนลำต้นไม้เช่นกันนางรีบลุกขึ้นยืน คว้าชายแขนเสื้อของหวังเอ้อไว้แน่น "ต้นเหมยแดงต้นนี้รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนปลูกเอาไว้ คุณหนูไม่มีทางทำร้ายมันเด็ดขาด! หวังเอ้อ ทำยังไงดี! คุณหนูต้องถูกใครจับตัวไปแน่ ๆ !"รอยขีดนี้ ต้องเป็นรอยที่คุณหนูทิ้งไว้ตอนดิ้นรนขัดขืนแน่ ๆ !หวังเอ้อเองก็ร้อนใจเช่นกัน แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว "เจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ตระกูลเซียว ข้าจะไปหาท่านโหวน้อยที่จวนโหว!"แม้ว่าคุณหนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเชื่อว่าท่านโหวน้อยต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ส่วนตระกูลเซียว แม้ว่าคุณหนูของนางจะหย่าขาดกับคุณชายใหญ่ไปแล้ว ทว่าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คิดว่าตระกูลเซียวคงไม่เพิกเฉยแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ลำพังเขากับหนิงซวงแค่สองคน จะไปช่วยคุณหนูได้อย่างไรกัน?เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หนิงซวงก็พยักหน้ารัว ๆ แล้วรีบปาดน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกจากจวนไปอย่างเร่งรีบไม่นานนัก นางก็วิ่งไปถึงตระกูลเซียว พอเห็นพ่อเซียวกับแม่เซียว ก็ทรุดลงคุกเข่าในทันที "นายท่าน ฮูหยิน ได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิด! คุณหนูของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว!"เมื่อได้ยิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 490

    เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้จึงพยักหน้าแรง ๆ หลายครั้ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้ ภายในสามวันเรื่องนี้ต้องแล้วเสร็จแน่นอน จะไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มแย้มอย่างงดงาม "ดี"หวังเอ้อจึงคำนับแล้วถอยออกไปขณะเดียวกันใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันจมดิ่งลงสู่หุบเหวคำพูดของแม่เซียวเมื่อครู่นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหูโดยเฉพาะประโยคนั้นที่ว่า 'ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไร้วิธีแก้ไข' ช่างราวกับมีดเล่มหนึ่งที่คอยเฉือนนางอย่างไม่หยุดยั้งผู้คนที่นางใกล้ชิดที่สุดต่างทยอยจากนางไปทีละคนแต่แม่เซียวกลับบอกนางว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะตัวนางเองเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นริ้ว ๆเฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ต้นเหมยแดงต้นนั้น บัดนี้หาได้เป็นเพียงต้นเปล่าโล้นเช่นก่อนออกเรือนไม่มันแตกหน่อใบเขียวออกมาแล้ว ที่ปลายกิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเจิดจ้าจนถึงเวลานี้ ความเจ็บปวดที่แน่นอัดในอกของเฉียวเนี่ยนจึงคล้ายจะทุเลาลงบ้างนางเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ ลูบไล้ลำต้นอย่างแผ่วเบา ภ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 489

    เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 488

    แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status