แชร์

บทที่ 173

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉียวเนี่ยนไปเคารพศพของหมิงอ๋องที่โถงตั้งพระบรมศพก่อน จากนั้นก็ไปเรือนนอนของเต๋อกุ้ยเฟย

พอเห็นเฉียวเนี่ยน สีหน้าของนางบ่าวก็ดูมีเลศนัยอย่างมาก

เฉียวเนี่ยนทำเป็นมองไม่เห็น

นางบ่าวนำทางเฉียวเนี่ยนมาถึงยังเรือนนอนชั้นนอกของเต๋อกุ้ยเฟย ก่อนจะบอกให้นางเข้าไป

เฉียวเนี่ยนผลักประตูเข้าไป มองผ่านผ้าม่านผืนบางก็จะเห็นเต๋อกุ้ยเฟยนั่งอยู่บนเตียง ข้างๆ มีสาวใช้คนหนึ่งคอยช่วยบีบนวดขมับให้กับเต๋อกุ้ยเฟย

เฉียวเนี่ยนเดินเข้าไปหาและคุกเข่าคำนับ "หม่อมฉันถวายบังคมกุ้ยเฟยเพคะ"

พอสิ้นเสียงกลับไม่มีเสียงใดตอบกลับมา

เฉียวเนี่ยนทราบว่าเต๋อกุ้ยเฟยทรงตื่นจากบรรทมแล้ว อีกทั้งเสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ ก็ยังดังมาเป็นระยะ

หลังจากได้ยินหลายครั้ง ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็พูดอย่างอดไม่ได้ "นายหญิงเพคะ ผู้ล่วงลับจากไปมิอาจหวน..."

พอสิ้นเสียง ทันใดนั้นเต๋อกุ้ยเฟยก็เดินออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว

ผ้าม่านผืนบางเกือบจะหล่นลงมา

เต๋อกุ้ยเฟยเดินมาอยู่ตรงหน้าของเฉียวเนี่ยนและตบหน้าไปฉาดอย่างไม่ใยดี "เพี๊ยะ"

"กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้?" เต๋อกุ้ยเฟยตวาดเสียงดัง เสียงคร่ำครวญแฝงไปด้วยความแค้น "เจ้าสัญญากับข้าแล้วว่าจะพา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 174

    "เพคะ!" บรรดานางบ่าวรับคำและออกไป ประตูห้องปิดลง ภายในห้องเงียบสงบลงในทันทีเฉียวเนี่ยนค่อยๆ เอ่ยพูด "หม่อมฉันตอนพบท่านอ๋อง ท่านอ๋องถูกโจรภูเขาทรมานมาเนิ่นนานจนบาดแผลเต็มตัว เขาคุกเข่าวิงวอนโจรภูเขาพวกนั้นให้ปล่อยเขาไป ข้อร้องอย่างกับหมาตัวหนึ่ง!"เต๋อกุ้ยเฟยอยากรู้ความจริงไม่ใช่รึไง?นี่คือความจริงโอรสหนึ่งเดียวของนาง โอรสสุดที่รัก พออยู่ต่อหน้าพวกโจรภูเขาก็ไร้ซึ่งความสง่าความหยิ่งทระนงในแบบฉบับท่านอ๋องแค่จินตนาการภาพเหตุการณ์นั้น หัวใจของเต๋อกุ้ยเฟยก็ปวดร้าวขึ้นมานางทราบดี การพลีชีพปกป้องอย่างที่เฉียวเนี่ยนกล่าวข้างต้นเทียบกับคำพูดของนางตอนนี้แล้ว น่าเชื่อถือยิ่งกว่าเฉียวเนี่ยนปล่อยมือเต๋อกุ้ยเฟยและลุกขึ้นมาส่วนเต๋อกุ้ยเฟยยังคงคุกเข่าอยู่ ราวกับนางสูญเสียเรี่ยวแรงไปทั้งหมดได้แต่ฟังเฉียวเนี่ยนพูดต่อ "กุ้ยเฟยทรงจำได้อยู่รึไม่ว่าในวังเคยมีนางบ่าวชื่อว่าเฉียนเอ๋อร์?"เฉียนเอ๋อร์?ไม่นานในหัวของเต๋อกุ้ยเฟยก็ปรากฎภาพนางบ่าวน่ารักคนหนึ่งยิ้มแย้ม ดวงตาโค้งงอราวกับพระจันทร์เสี้ยวทว่าต่อมานางบ่าวคนนั้นถูกหมิงอ๋องพาตัวไปเฉิงซีนางถึงกับใจหายและรีบหันไปมองเฉียวเนี่ยน "เจ้ารู้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 175

    เฉียวเนี่ยนใจหายไปที่ตาตุ่ม ยังไม่ทันที่นางจะรู้สึกตัว ทันใดนั้นเต๋อกุ้ยเฟยก็คว้าจับข้อมือของนางใบหน้าเปื้อนเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ตอนนี้กลับประดับด้วยรอยยิ้มของปีศาจ "เมื่อวานข้าให้นางออกวังไปซื้อของเคารพศพ วันนี้เจ้าเข้าวังมาทูลกล่าวกับข้า ทำไม กลัวข้าจะให้เจ้าแต่งงานผีตายไปพร้อมกับเจ๋อเอ๋อร์รึไง?"เฉียวเนี่ยนถอนหายใจยาว ยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาบนใบหน้าเต๋อกุ้ยเฟย "ใช่เพคะ แม้ชีวิตหม่อมฉันจะต้อยต่ำ แต่หม่อมฉันก็กลัวตาย"บนนิ้วของเฉียวเนี่ยนด้านจนเป้นตาปลาและลูบไล้บนใบหน้าเนียนนุ่มของเต๋อกุ้ยเฟย ทำเอาเต๋อกุ้ยเฟยขนลุกขนพองนางไม่เคยคิดว่ามือของผู้หญิงคนหนึ่งจะหยาบกร้านได้เพียงนี้ต่อให้เป็นบรรดานางบ่าวปรนนิบัติข้างกายก็ยังไม่หยาบกร้านเท่ากับมือของเฉียวเนี่ยนเพียงแต่เฉียวเนี่ยนไม่รู้ตัว อีกทั้งยังยิ้มอ่อนโยนให้กับเต๋อกุ้ยเฟย "คนตายไม่อยู่แล้ว ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องพยายามดิ้นรนมีชีวิต กุ้ยเฟยเข้าใจที่ข้าจะสื่อใช่ไหมเพคะ"หมิงอ๋องเป็นโอรสคนเดียวของเต๋อกุ้ยเฟย และเป็นที่พึ่งพาเดียวของนางตอนนี้หมิงอ๋องได้จากไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เต๋อกุ้ยเฟยต้องทำก็คือหาแหล่งพึ่งพาใหม่ หาทางทำให้ตัวนางเองอยู

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 176

    ในเมื่อเต๋อกุ้ยเฟยบอกว่าให้นางไปส่งหมิงอ๋องเป็นครั้งสุดท้าย เช่นนั้นคงไม่ได้หมายความว่าให้นางทําความเคารพแล้วก็จากไปหรอกดังนั้นหลังจากเฉียวเนี่ยนทําความเคารพเสร็จก็เดินไปเผากระดาษเงินกระดาษทองให้หมิงอ๋องขันทีน้อยสองคนที่อยู่นอกห้องโถงไว้ทุกข์เห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกัน“แม่นางเฉียวผู้นั้นดูเหมือนจะมีความรักต่อหมิงอ๋องอย่างลึกซึ้งนะ เพิ่งมาเมื่อเช้านี้เอง ตอนนี้มาอีกแล้ว"“ใช่สิ เจ้าไม่เห็นหรือว่าพอนางเห็นโลงศพของหมิงอ๋องก็ตาแดงแล้ว น่าสงสารยิ่งนัก”“เฮ้อ... ลากันแบบตายจากย่อมทุกข์ทรมานที่สุด...อ๊ะ! บ่าว บ่าวคารวะใต้เท้าเซียวขอรับ!”ใบหน้าของเซียวเหิงเย็นชาราวกับถูกน้ำแข็งแช่แข็งมาก่อน ดวงตาทั้งคู่กวาดมองขันทีสองคนนั้น น้ําเสียงราวกับเต็มไปด้วยไอสังหาร “กฎในวังสอนให้พวกเจ้าพูดนินทาถึงเจ้านายหรือ?”ขันทีน้อยทั้งสองนิ่งอึ้งไป รู้สึกเพียงว่าแม่นางเฉียวผู้นี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเจ้านายกระมัง?แต่เมื่อเห็นท่าทีเย็นชาของเซียวเหิง ในใจก็ว้าวุ่นไม่หยุด จึงรีบโขกหัว “บ่าวไม่กล้าขอรับ ขอใต้เท้าเซียวโปรดอภัยด้วย!"วันนี้อารมณ์ของใต้เท้าเซียวดูเหมือนไม่ค่อยดีนัก เขาแค่นเสียงในลํา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 177

    คําว่า'ความปรารถนาสุดท้ายของเสด็จพี่'ทําให้ฮ่องเต้ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นฮ่องเต้กําลังพิจารณาความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ เฉียวเนี่ยนก็ตื่นตระหนก แต่ไม่รอให้นางเอ่ยปาก เซียวเหิงก็ออกตัวก่อน “ไม่ได้เด็ดขาด แม่นางเฉียวแค่มีสัญญาหมั้นหมายกับหมิงอ๋องเท่านั้น หากมาส่งในฐานะแม่หม้าย เกรงว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้พ่ะย่ะค่ะ”สิ่งที่สําคัญที่สุดคือถ้าเฉียวเนี่ยนออกไปส่งในฐานะแม่หม้าย ตามประเพณีของแคว้นจิ้ง นางจะไม่สามารถแต่งงานได้อีกเป็นเวลาสามปีได้ยินคําพูดของเซียวเหิง ฮ่องเต้จึงพยักหน้า “คําพูดมีเหตุผล ซูหยวน อย่าทำตัวเหลวไหล หากถูกวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา จะทําให้ราชสํานักเสียหน้าเอาได้”ได้ยินดังนั้น ซูหยวนก็แลบลิ้นออกมา พิงไหล่ฮ่องเต้อย่างออดอ้อน “ซูหยวนก็แค่พูดไปอย่างนั้นเองเพคะ”ฮ่องเต้มีองค์หญิงซูหยวนเพียงลูกสาวคนเดียว ย่อมไม่กล่าวโทษอยู่แล้ว ตรงกันข้ามกลับตบหลังมือของซูหยวนอย่างเอ็นดูแต่กลับไม่เคยเห็นแววตาที่องค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยนเต็มไปด้วยความเกลียดชังได้ยินเพียงเสียงเย็นชาของนาง “แต่ว่า... ต่อให้ไม่สามารถส่งในฐานะแม่หม้าย แต่ชีวิตของแม่นางเฉียวก็ได้รับการช่วยเหลือจาก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 178

    เฉียวเนี่ยนยอมรับ นางอยากให้องค์หญิงซูหยวนจัดการหลินยวนจริงๆ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องยืมมือฆ๋าคนหรอกอีกอย่าง เสื้อผ้าชุดนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนาง !เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วแน่นและเอ่ย "ร้านตัดเย็บเสื้อผ้าร้านนั้น หม่อมฉันก็ได้คืนให้กับเต๋อกุ้ยเฟยแล้ว""แต่กระโปรงตัวนั้นเป็นของเจ้า! " องค์หญิงซูหยวนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ "วันที่สองข้าก็ได้สั่งให้คนไปสืบมาอย่างชัดเจนแล้ว! เสื้อผ้าชุดนั้น เป็นเซียวเหิงที่สั่งทำตามขนาดตัวของเจ้า! "เฉียวเนี่ยนตกตะลึงนิ่งนั่นเป็นถึงเสื้อผ้าของผ้าไหมท้องฟ้า ที่สามถึงห้าปีก็ยังไม่แน่ว่าจะได้ชุดมา...เซียวเหิง ส่งให้นางเหรอ?ดูท่าทางตกตะลึงของเฉียวเนี่ยน องค์หญิงซูหยวนก็รู้สึกเพียงแค่โมโหเป็นอย่างมากจึงตะโกนด่าออกมาในทันที "เจ้าแสร้งทำเป็นซืออยู่ตรงนี้ให้มันน้อยหน่อย ! เฉียวเนี่ยนในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าเซียวเหิงคือคนที่ข้าชอบ ก็ควรที่จะตระหนักได้แล้วออกไปให้ไกลๆ หน่อย ! "เมื่อได้ยิน เฉียวเนี่ยนก็คำนับองค์หญิงซูหยวนในทันที่ "องค์หญิงโปรดระงับโทสะเพคะ หากกระโปรงตัวนั้นเป็นแม่ทัพเซียวส่งให้หม่อมฉันจริง นั่นก็มีความเป็นไปได้เพียงแค่ประการเดียวคือขอโทษเพค

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 179

    ตอนที่เฉียวเนี่ยนกลับมาถึงเรือนฟางเหอก็เป็นยามบ่ายแล้วหลังจากที่นางเข้าไปด้านในห้องนางก็นอนลงไปบนเตียงตั่งอ่อนนุ่มด้านข้างอย่างไร้เรี่ยวแรง ภายในสมองก็มีแต่คำพูดที่องค์หญิงซูหยวนเอ่ยกับนางในตอนสุดท้ายนางถึงได้รู้ว่า ที่แท้สามปีมานี้หลินยวนถูกจวนโหวปกป้องเอาไว้ดีแบบนี้ที่แท้ในตอนที่นางถูกนางบ่าวกรมซักล้างรังแก แม้แต่ประตูใหญ่ของพระราชวังตระกูลหลินก็ไม่อยากไม่ให้หลินยวนก้าวเข้ามา !ก็เหมือนกับว่าเรื่องที่นางถูกลงโทษให้เข้าไปอยู่ที่กรมซักล้างจะกลายเป็นสัญญาณการระวังตัวของจวนโหว พวกเขากลัวว่าคนในพระราชวังหรือเรื่องราวจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลินยวนดังนั้นพวกเขาถึงได้ไม่สนใจนางเลยตลอดสามปี...ที่น่าตลกก็คือ นางถูกรับกลับไปที่จวนโหวเพียงไม่กี่วันฮูหยินหลินก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วพานางไปที่นั่น สามปีมานี้ล้วนแต่ถูกพวกเขามองเป็นภัยพิบัติของวังหลวง...คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เฉียวเนี่ยนอดหัวเราะออกมาเสียงต่ำไม่ได้ เสียงหัวเราะทั้งเศร้าทั้งขมที่จริงนางทนได้ หลังจากที่ประสบกับความไม่ถูกแยแสเมื่อสามปีก่อน นางก็ประจักษ์ชัดถึงสถานะของตนเองในจวนโหวมาตั้งนานแล้วเพียงแต่สิ่งเดียวทำให้รู้สึกทุกข์ก็

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 180

    นางสวมใส่ชุดสีม่วงทั้งตัวตามอยู่ด้านหลังสุดของขบวนเคลื่อนศพ ตลอดทางทำให้ชาวบ้านตำหนิอยู่ไม่น้อยแค่ส่งขบวนก็ถูกตำหนิแบบนี้แล้ว ถ้าเกิดว่าใส่ชุดไว้ทุกข์แล้วยังแบกโลงศพ...เฉียวเนี่ยนไม่กล้าคิดอย่างละเอียดจริงๆจนกระทั่งส่งขบวนเคลื่อนศพออกจากเมืองหลวง เฉียวเนี่ยนถึงได้หมุนตัวเดินกลับไปชาวบ้านที่อยู่ข้างทางยังคงเหลือบมองนางอยู่แต่โชคดีที่อารมณ์ของเฉียวเนี่ยนไม่ได้รับผลกระทบนี้แม้กระทั่งมีความโล่งใจเล็กน้อยอย่างน้อยในเรื่องของหมิงอ๋องนางก็สามารถโล่งใจไปได้หนึ่งเปราะเมื่อกำลังคิดก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น "แม่นางเฉียว"เฉียวเนี่ยนมองไปตามเสียงกลับเป็นจิ่งเหยียนขณะนั้นจึงได้ยิ้มตอบ แล้วคารวะต่อจิ่งเหยียนที่กำลังเดินเข้ามาหานาง "คารวะรองแม่ทัพจิ่งเจ้าค่ะ"จิ่งเหยียนรีบยกมือสองข้างขึ้นมาประสานตอบกลับ "แม่นางเฉียวไม่ต้องเกรงใจมากถึงขนาดนี้ก็ได้"พอยกมือขึ้นมาประสานก็ทำให้เฉียวเนี่ยนเห็นขนมที่เขาหิ้วเอาไว้ในมือ "นี่คือ ให้ข้าเหรอเจ้าคะ ? "จิ่งเหยียนยิ้ม แต่กลับมีความเขินอายอยู่หลายส่วนมือทั้งสองข้างส่งขนมไปที่เบื้องหน้าของเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนยื่นมือไปรับ แต่กลับเอ่ย "ขอบคุณเจ้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 181

    เวลาผันผ่าน ไม่นานผ่านไปครึ่งเดือนอีกแล้วครึ่งเดือนมานี้ จวนโหวเงียบสงบ จวบจนเทียบเชิญงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูส่งมาที่จวนงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูเป็นงานเลี้ยงที่ฮองเฮาทรงจัดตั้งขึ้น ทว่าองค์หญิงกลับเป็นผู้รับผิดชอบ ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิของทุกปี องค์หญิงจะให้โหรหลวงเลือกวันที่อบอุ่นที่สุด เชิญคุณชายคุณหนูแต่ละตระกูลเข้าวังมาชมดอกไม้ร่ำสุรา ท่องบทกวีแต่งกลอนเฉียวเนี่ยนเล่นเทียบเชิญที่ถืออยู่ในมือ หนิงซวงเห็น เลยอดถามไม่ได้ "คุณหนูจะไปหรือไม่เจ้าคะ?"ในน้ำเสียงดูกังวลอยู่หลายส่วนเฉียวเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้น "เหตุใดจะไม่ไปเล่า?"หนิงซวงขมวดคิ้วเดินไปข้างหน้า "บ่าวก็ไม่รู้ เพียงแต่ทุกปีที่เทียบเชิญงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูส่งมา นายท่านกับฮูหยินจะโกหกว่าคุณหนูรองป่วย ไม่ให้คุณหนูรองไป บ่าวคิดว่า งานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูนี้ น่าจะไม่ใช่สถานที่ที่ควรไปเท่าไหร่เจ้าคะ!"เฉียวเนี่ยนหยักยิ้มริมฝีปาก หัวเราะเสียงต่ำก็หาใช่สถานที่ที่ควรไปจริงๆ ตอนนั้นนางถูกลงโทษให้ไปกรมซักล้างในงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูเพียงแต่ นางไม่คิดเลยว่าท่านโหวหลินกับฮูหยินหลินจะรักหลินยวนชัดปานนี้ ชัดถึงขั้นแม้แต่สาวใช้ในจวนยังดู

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 320

    เขาตกใจจนถอยหลังไปสองก้าวทหารอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามาดูฉากนี้ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เอ่ยว่า "ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว งู แมลง หนูและมดเหล่านี้ก็จะออกมาหาอาหารแล้ว ไม่ใช่เรื่องสําคัญอะไร"เมื่อได้ยินคํานี้ ทุกคนจึงพยักหน้าหงึกๆ แล้วเก็บดาบกลับไปเฉียวเนี่ยนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกสายตามองไปยังหัวงูนั้นภายใต้แสงจันทร์ หัวงูเล็กๆ นั้นหักอยู่ข้างถนนและยังคงดิ้นรนและบิดอยู่นางรู้สึกอย่างบอกไม่ถูกว่า นี่เหมือนกําลังบ่งบอกอะไรบางอย่าง ในใจอดรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาไม่ได้ดีที่ว่าอีกสองวันต่อมา ทุกอย่างล้วนราบรื่นดีเหล่าทหารเคยชินกับการเดินทัพและเร่งเดินทาง ทุกวันจะนอนเพียงสองชั่วยามเท่านั้น ตลอดทางก็ดูแลเฉียวเนี่ยนเป็นอย่างดีแต่ความไม่สบายใจในคืนนั้นยังคงอยู่ในหัวใจของเฉียวเนี่ยน เหมือนกับหัวงูที่ถูกตัดออก บางครั้งก็ดิ้นไปมาราวกับเป็นการยืนยันความไม่สบายใจของนาง ในคืนที่สอง ถนนก็ถูกขวางไว้แล้วเฉียวเนี่ยนมองก้อนหินใหญ่หลายก้อนที่อยู่บนถนนข้างหน้า ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวได้ยินแต่คนข้างๆ ถามว่า"หินใหญ่ขนาดนี้ ทําไมถึงอยู่กลางถนนได้?"ทหารบางคนมองไปที่ยอดเขาที่ริมถนน"บางทีหินอาจลื

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 319

    หนึ่งชั่วยามต่อมาเซียวเหิงนั่งอยู่หน้าโต๊ะ แสงเทียนที่สลัวอยู่แล้วดวงนั้นเผาจนถึงขั้นสุดท้ายแล้ว แสงไฟลุกโหมอย่างรุนแรงนอกประตูมีรายงานเสียงต่ำ"ท่านแม่ทัพ แม่นางเฉียวออกเดินทางแล้วขอรับ"นางรอไม่ได้แม้แต่นาทีเดียวเลยจริงๆ"เข้าใจแล้ว" เซียวเหิงตอบรับเสียงเรียบ แสงเทียนส่องกระทบใบหน้าด้านข้างที่เย็นชาของเขา กลับปรากฏความหนาวเหน็บออกมาในสมองเต็มไปด้วยท่าทางของนางที่ก้าวยาวๆ จากข้างกายเขาเมื่อครู่นี้ความเด็ดขาดนั้นไร้ความอาลัยอาวรณ์เลยแม้แต่น้อยตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นางไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อเขาเลย?เซียวเหิงคิ้วเข้ม ราวกับคิดไม่ออกทั้งๆ ที่นางชอบตามตื๊อเขามากที่สุด...สายตาของเขาตกลงบนนิ้วชี้ขวาของเขาโดยไม่ตั้งใจที่นั่นมีรอยแผลเป็นยาวคืบคลานอยู่ ถูกเผ่าทูเจี๋ยฟันด้วยดาบใหญ่เมื่อสองปีก่อนในสนามรบถ้าไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วของเขา ฝ่ามือทั้งหมดของเขาคงถูกตัดออกในครั้งนั้น...เรื่องเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้พอเขาคิดมา กลับรู้สึกว่าผ่านไปนานแล้วแล้วนางเล่า?เรื่องที่นางชอบเขาและตามตื๊อเขาก็ผ่านมานานมากแล้วใช่ไหม?ความตื่นตระหนกเกิดขึ้นที่หัวใจอย่างอธิบายไม

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 318

    เฉียวเนี่ยนถึงยกกะละมังที่เต็มไปด้วยเลือดเดินออกมาจากห้องเก็บศพนางถือกะละมังเดินไปลานหลัง เทเลือดกะละมังนั้นลงในดินของแปลงดอกไม้ แล้วถึงหันหลังเดินไปข้างบ่อน้ำที่อยู่ไม่ไกล หยิบถังน้ำขึ้นมาล้างกะละมังตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่เคยมองย้อนกลับไปเพราะนางรู้ว่าเซียวเหิงเดินตามหลังนางเซียวเหิงเองก็รู้ว่าเฉียวเนี่ยนต้องสังเกตเห็นเขาแน่ๆ ไม่อย่างนั้น นางคงไม่ทําแม้แต่เอียงคอหลบหน้าเขาไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนรออยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆรอให้นางล้างกะละมังให้สะอาด แล้วล้างผ้าเช็ดหน้าในมือให้สะอาด จากนั้นหันหลังเดินกลับไปเขาคิดอยู่ รอให้นางหันหลังกลับไป คงไม่สามารถทําเป็นมองไม่เห็นเขาได้แล้วมั้ง?แต่ไม่คิดเลยว่านางจงใจมองข้ามเขาจริงๆต่อให้สายตาจะกวาดผ่านเขาไป นางก็ไม่ได้หยุดมองเลยราวกับว่าเขาเป็นแค่อากาศในที่สุด เมื่อเฉียวเนี่ยนเดินผ่านเขาไป เขาก็ทนไม่ไหวและเอื้อมมือไปจับข้อมือของนาง"ปล่อย"สิ่งที่แลกมาคือน้ำเสียงเย็นชาของนางเซียวเหิงขมวดคิ้ว มองใบหน้าด้านข้างที่เย็นชาของนาง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ "เจ้าโทษข้าเหรอ?"โทษที่เขาไม่ได้ช่วยจิ่งเหยียนกลับมา?แต่นางรู้ดีว่าเขาทํา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 317

    ในห้องเก็บศพของที่ว่าการอำเภอ มีศพสิบกว่าศพวางเรียงรายอยู่ตอนที่เซียวเหิงมา เฉียวเนี่ยนกําลังเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าให้จิ่งเหยียนคนที่มารายงานบอกว่านางกําลังสร้างปัญหาแต่เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้สร้างปัญหาเลย แต่นางยังเงียบมากอีกต่างหากนางเพียงยกอ่างน้ำมาวางไว้ด้านข้าง จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าเปียกมาเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของจิ่งเหยียนทีละนิดไม่นาน ใบหน้าของจิ่งเหยียนก็ถูกเช็ดจนสะอาดเฉียวเนี่ยนจึงล้างผ้าเช็ดหน้าให้สะอาดและเช็ดมือให้จิ่งเหยียน"ข้าไม่สามารถให้พ่อแม่ของเขาเห็นเขาในสภาพนี้ได้"นางพูดด้วยเสียงเบาๆแต่เซียวเหิงรู้ว่านางกําลังพูดให้เขาฟังทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย "นี่ไม่ใช่การกระทําที่ฉลาด"รู้เพียงว่าต้องสู้ตายในสนามรบ ไฉนคำนึงถึงนำศพกลับไปอีก?เมื่อสวมชุดเกราะนั้น พวกเขาก็ย่อมคาดว่ามีวันนี้อยู่แล้วจิ่งเหยียนต้องสามารถเข้าใจได้ว่าพวกเขาไม่สามารถพาเขากลับไปได้ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเพียงฤดูใบไม้ผลิ แต่อากาศก็อบอุ่นแล้วพวกเขาห้อตะบึงมาตลอดทาง ล้วนใช้เวลาถึงห้าวันเต็ม นางส่งเขากลับไปเช่นนี้ ต่อให้ไม่หลับไม่นอน เกรงว่าต้องใช้เว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 316

    "จิ่งเหยียน..."นางเรียกด้วยเสียงเบาๆ นุ่มๆ ราวกับกลัวว่าจะทําให้เขาตื่นแต่เห็นได้ชัดว่านางต้องการปลุกเขา!ดังนั้นเสียงของนางจึงดังขึ้นอีก"จิ่งเหยียน เป็นข้าเอง ข้ามาหาเจ้าแล้ว"คนบนหลังม้าไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยนางส่งเสียงดังขึ้นอีกเล็กน้อย กระทั่งเริ่มเขย่าร่างกายของจิ่งเหยียน "จิ่งเหยียน เจ้าตื่นเถอะ อย่าทําให้ข้าตกใจเลย!"แต่จิ่งเหยียนจะไม่ตื่นแล้วไม่มีวันตื่นแล้ว...เมื่อเห็นจิ่งเหยียนกําลังจะถูกเขย่าลงจากหลังม้าในช่วงเวลาที่สําคัญ มีเงาคนปรากฏขึ้นข้างหลังเฉียวเนี่ยน ดึงนางเข้ามาในอ้อมแขนของเขา"เขาตายแล้ว!"เฉียวเนี่ยนไม่เชื่อ ดิ้นรน นางจะไปเรียกจิ่งเหยียนให้ลุกขึ้น!แต่คนข้างหลังกลับลากนางไปข้างหลังตลอด "เขาตายแล้ว! จิ่งเหยียนตายแล้ว!"ตายแล้ว...ร่างกายของเฉียวเนี่ยนพลันแข็งทื่อ นางเห็นร่างของจิ่งเหยียนเกือบจะตกจากหลังม้า ทหารที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคองเขาตั้งแต่ต้นจนจบ ร่างที่หมอบอยู่บนหลังม้าไม่ได้แสดงความมีชีวิตชีวาออกมาแม้แต่น้อยตายแล้วเหรอ?เหมือนท่านย่าของนาง ไม่ต้องการนางแล้วเหรอ?น้ำตาไหลไม่หยุด เฉียวเนี่ยนจ้องมองดวงตาที่ปิดสนิทของจิ่งเหยียนอย่างเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 315

    จริงๆ แล้วเฉียวเนี่ยนเห็นขบวนทัพที่เคลื่อนมาอย่างเชื่องช้าตั้งนานแล้วนางขี่ม้ามาหลายวันแล้ว ตลอดทางไม่กล้าหยุดพักเลย หลังจากรู้ว่าเซียวเหิงนําทหารขึ้นเขาไปช่วยจิ่งเหยียนเมื่อคืน นางก็รีบมาทันที!แต่... เมื่อขบวนทัพนั้นปรากฏในสายตาของนางจริงๆ นางกลับไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าอีกกลัวว่าถ้าอยู่ใกล้ๆ จะได้เห็นภาพที่ถูกปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนในสมองของตัวเอง แต่ยังคงปรากฏออกมาอย่างไม่มีเหตุผลนางทําได้แค่ยืนอยู่ที่เดิม รอขบวนทัพนั้นเข้ามาใกล้นางคิดว่าจิ่งเหยียนต้องจํานางได้แน่ แล้ววิ่งตรงมาหานางแต่คาดไม่ถึงว่าขบวนทัพก็หยุดลงเช่นกันนางอึ้งไปชั่วขณะ อดไม่ได้ที่จะมองไปทางด้านหน้าสุดของขบวนทัพ ก็เห็นเงาร่างนั้นกําลังแบกแสงแดดอยู่ สีเลือดทั้งตัวถูกสะท้อนจนแสบตาเป็นพิเศษนั่นคือ... เซียวเหิง?เฉียวเนี่ยนไม่กล้ายอมรับเท่าไรนักในภาพสะท้อนของนาง เซียวเหิงมีจิตใจฮึกเหิมมาโดยตลอด ไม่เคยมีท่าทางซึมเซาเช่นนี้มาก่อนดังนั้น แพ้แล้วหรือ?แม้แต่เซียวเหิงก็สู้โจรภูเขาภูเขากลุ่มนั้นไม่ได้หรือ?แล้วจิ่งเหยียนล่ะ?สายตาของเฉียวเนี่ยนมองไปยังขบวนทัพที่อยู่ด้านหลังเซียวเหิงคนในขบวนทัพต่างก็เหมือน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 314

    เมื่อลงเขา ฟ้าก็สว่างแล้วแสงสีทองที่สาดส่องลงมา ทําให้เขาลืมตาไม่ค่อยขึ้นเซียวเหิงมองไปตามแสงนั้นโดยไม่รู้ตัว กลับรู้สึกแสบตาขึ้นมาทันที จําเป็นต้องหันหน้าหนีคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ทําให้กลิ่นอายที่เย็นชาของเขามืดมนยิ่งขึ้นลูกน้องของเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออก ได้แต่ส่งม้าและชุดเกราะที่ซ่อนอยู่ในป่ามาให้เขาอย่างเงียบๆเขาถึงพลิกตัวขึ้นม้า ดึงสายบังเหียน มุ่งหน้าไปยังเหอโจวเจิ้นทางตะวันตกม้าเดินช้าๆ เซียวเหิงนั่งอยู่บนหลังม้า มองดูเงาของตัวเองที่ถูกยืดยาวแกว่งไกวอย่างรุนแรงเขาไม่เคยแกว่งไกวแรงขนาดนี้มาก่อนเมื่อกลับมาจากการชนะสงคราม เงาของเขาเป็นคนที่ตั้งตรงและตรงที่สุดเสมอกลับเป็นวางเล่อ คนสมกับชื่อ นั่งอยู่บนหลังม้าก็กระสับกระส่าย มักจะทะเลาะกับหลัวซ่าง เงาของพวกเขาสองคนจึงพัวพันกันตามบางครั้งเขาสูญเสียความยับยั้งชั่งใจและแม้กระทั่งชนม้าของเขา ทําให้เงาของคนหลายคนสับสนไปหมดเมื่อเทียบกันแล้ว จิ่งเหยียนเป็นคนที่มั่นคงที่สุดในบรรดาพวกเขาสามคน ท้ายที่สุดแล้ว จิ่งเหยียนก็เป็นคนที่เข้าร่วมกองทัพนานที่สุดและอายุมากที่สุดร่างเงาของเขาเองก็มักจะตั้งตรงและสง่างามเสมอมีอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 313

    หลังจากตกตะลึงไปชั่วขณะ เซียวเหิงก็ยกดาบขึ้นด้านหน้าและสังหารโจรภูเขาภูเขาคนนั้นเขาหันกลับไปและเห็นจิ่งเหยียนยังคงยืนอยู่ที่นั่น มีรูเลือดขนาดใหญ่บนหน้าอกของเขาและมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อสบสายตาตกตะลึงของเซียวเหิง จิ่งเหยียนกลับฉีกยิ้มที่มุมปาก เหมือนอยากจะปลอบใจเขา แต่พออ้าปากกลับกระอักเลือดออกมาคําใหญ่ออกมา"จิ่งเหยียน!" เซียวเหิงอุทานอย่างตกใจ แล้วรีบวิ่งไปข้างหน้าแต่จิ่งเหยียนแม้กระทั่งยืนยังยืนไม่ไหวแล้ว ร่างทั้งร่างล้มเซไปข้างหลังโชคดีที่เซียวเหิงรีบรับเขาก่อนที่เขาจะล้มลงถึงพื้นแต่ว่า...เลือดบนหน้าอกของจิ่งเหยียนยังคงพ่นออกมาอย่างต่อเนื่องเซียวเหิงตื่นตระหนกจนโยนดาบในมือทิ้ง มือทั้งสองกดลงบนบาดแผลของเขา "ไม่เป็นไรนะ ข้าจะพาเจ้าลงเขาเดี๋ยวนี้แหละ! ใครก็ได้! ใครก็ได้รีบมาเร็ว!"ถนนบนภูเขาขรุขระ เขาคนเดียวไม่สามารถพาจิ่งเหยียนลงเขาไปรักษาได้แต่พวกโจรภูเขาภูเขายังคงต่อต้านอย่างดื้อรั้น คนของเขาไม่สามารถหาโอกาสมาหาเขาได้เลือดไหลออกมาจากซอกนิ้วของเขาอย่างต่อเนื่องมือของเซียวเหิงถือดาบตลอดทั้งปี ฝ่ามือกว้างและหนาใหญ่กว่าผู้ชายทั่วไปแต่ในขณะนี้เขากลับรู

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 312

    โจมตี!ชั่วขณะหนึ่ง เงาคนในที่มืดโหมกระหน่ํา แสงเย็นวาบปรากฏขึ้น พากันโจมตีโจรภูเขาเหล่านั้นพวกโจรภูเขาไหนเลยจะคาดคิดว่าเหล้าที่ดื่มดีๆ นี้จะถูกฆ่าถึงหน้าบ้าน ชั่วขณะนั้นพวกเขาตื่นตระหนกจนทําอะไรไม่ถูกยังไงก็ตาม พวกเขาเคยชินกับความเป็นความตาย พอได้ยินเสียงตะโกนของหัวหน้าโจรภูเขา พวกโจรภูเขาที่ตื่นตระหนกก็สงบลง และหยิบอาวุธออกมาทีละคนสถานการณ์การต่อสู้นั้นรุนแรงมากเซียวเหิงเดินอ้อมมาถึงหน้ากรงอย่างรวดเร็ว กระบี่ยาวในมือฟันโซ่บนกรงจนขาดหัวหน้าโจรภูเขาทางนั้นสังเกตเห็นสถานการณ์ทางนี้ จึงหยิบมีดพร้าที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาฟันใส่เซียวเหิงทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงไอสังหารจากด้านหลัง เซียวเหิงก็รีบเบี่ยงตัวหลบ กระบี่ยาวโบกสะบัด โจมตีไปยังหัวหน้าโจรภูเขาคนนั้นสิ่งที่ทําให้เซียวเหิงคาดไม่ถึงก็คือ วรยุทธของหัวหน้าโจรภูเขาคนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลยชั่วขณะหนึ่ง เขาและหัวหน้าโจรภูเขาต่อสู้กันอย่างแยกไม่ออกหางตาเหลือบเห็นจิ่งเหยียนเพิ่งออกจากกรง ก็มีโจรภูเขาบุกโจมตีเขาโชคดีที่จิ่งเหยียนมีดาบอยู่ในมือและสามารถป้องกันมันได้แต่จิ่งเหยียนถูกขังอยู่ในกรงเจ็ดวัน ยังไม่รู้ว่าได้รับความทรมาน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status