หลินยวนกับหลินเย่ว์ก็ตามเข้ามาด้วยเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนยืนอึ้งอยู่ที่เดิม หลินยวนก็เดินเข้ามาใกล้แล้วพูดว่า "ทั้งหมดนี้ท่านพี่สั่งให้คนจัดเตรียมไว้ ชอบหรือไม่เจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีอาหารจานดีๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น จริงๆ แล้วล้วนแต่เป็นอาหารที่นางชอบถึงขั้นที่บางจาน นางสามารถบอกได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของพ่อครัวจากร้านไหนเพื่อจัดเตรียมอาหารทั้งหมดบนโต๊ะนี้ หลินเย่ว์คงวิ่งไปร้านอาหารและโรงเตี๊ยมไม่ต่ำกว่าสิบแห่งเหมือนกับสิบห้าปีก่อนที่เขาเคยทำเพื่อนางแล้ว หลินเย่ว์มักจะยอมทุ่มเททั้งเวลาและพลังงานมากมายหากเป็นเมื่อก่อน เฉียวเนี่ยนคิดว่า ตอนนี้นางคงจะดีใจและรู้สึกประทับใจมากๆหากว่า... ไม่มีสามปีนั้น...เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนยังคงเงียบอยู่ หลินยวนก็เหมือนจะนึกอะไรได้ แล้วพูดขึ้นว่า "ท่านพี่ยังเตรียมของขวัญให้ท่านด้วยนะ!"พูดเสร็จหลินยวนก็เร่งเร้าให้หลินเย่ว์เอาของขวัญออกมาหลินเย่ว์ดูเหมือนจะรู้สึกเขินและเกร็งเล็กน้อย เขาค่อยๆ นำปิ่นปักผมออกมาจากแขนเสื้อ"นี่... ข้าแกะสลักเองกับมือ เจ้าอย่ารังเกียจมันเลยนะ"หลินเย่ว์พูดเสียงแข็งแล้วยื่นปิ่นปักผมไปให้เฉียว
เฉียวเนี่ยนไม่สนใจนาง แต่กลับเดินตรงมาที่โต๊ะนางเดินวนรอบโต๊ะกลมน้อยๆ ตัวนั้น ไล่เรียงอาหารโปรดของตัวเองที่ตั้งอยู่บนนั้นทีละจาน มุมปากยกยิ้มเย็นยะเยือก "เช่นนั้นแล้ว นี่คือมื้อขอคืนดีอย่างนั้นรึ?"ไม้ผุท่อนหนึ่ง อาหารเต็มโต๊ะ แค่นี้ก็คิดว่าเกลี่ยกล่อมนางได้หรือ?หลินยวนเดินเข้ามาหาเฉียวเนี่ยนอย่างอดไม่ได้ "ท่านพี่ ข้ากับพี่ชายอยากจะ...กับท่านพี่จากใจจริง กรี๊ด!"หลินยวนยังไม่ทันพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ล้มโต๊ะกลมตัวนั้นตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของหลินยวน อาหารรสเลิศบนโต๊ะกลายเป็นซากระเนระนาดเต็มพื้นเมื่อเห็นอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำต้องมีจุดจบเช่นนั้น หลินเย่ว์ก็ทนไม่ไหวในที่สุด ตวาดเสียงดังนั่น "เฉียวเนี่ยน! ข้าไว้หน้าเจ้าแท้ๆ!"ครั้นเห็นหลินเย่ว์เดือดดาล หนิงซวงก็รีบเข้ามาขวางหน้ากันเฉียวเนี่ยนเอสไว้ "ท่านโหวน้อย ที่นี่คือเรือนฟางเหอนะเจ้าคะ"ที่นี่คือเขตแดนของคุณหนูของนาง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านโหวน้อยจะมาทำอุกอาจที่นี่ไม่ได้!แต่ใครจะรู้ว่าหลินเย่ว์กลับตะคอกลั่น "บ่าวชั่วเช่นเจ้ากล้าดีอย่างไรมาต่อปากต่อคำกับข้า? ไสหัวไป!"หนิงซวงไม่ยอมถอยทว่าพอเฉียวเนี่ยนเห็นดวงตาคู่นั้นที่แดงก
เฉียวเนี่ยนนึกว่าตัวเองหูฟาดไป "เจ้าว่าอย่างไรนะ?"ทำเพื่อนางสุดหัวใจอย่างนั้นรึ?หาเรื่องส่งนางไปตายสุดหัวใจมากกว่ากระมัง?หลินเย่ว์คว้ากาเหล้าขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปหาเฉียวเนี่ยน "เรื่องของหมิงอ๋อง ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธเกลียดจวนโหว แต่ต่อให้บอกเรื่องของหมิงอ๋องต่อเจ้าก่อนหน้า เจ้าจะเลือกไม่แต่งกับเขาหรือ? เจ้าใจจดใจจ่อกระหายลาภยศ หมายจะแก้แค้นตระกูลหลิน! เจ้าจะยอมทิ้งอำนาจของหมิงอ๋องหรือ?"ขณะพูดหลินเย่ว์ก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉียวเนี่ยนแล้วเขาสูงกว่านางหนึ่งศีรษะเต็มๆ ต่อให้ตอนนี้ก้มหน้าลง เฉียวเนี่ยนก็ยังคงต้องแหงนหน้ามองเขาสองตาเดือดดาลของนางจ้องมองเขา ไฟโกรธในใจก็ยิ่งโหมกระพือ "ท่านโหวน้อยเข้าใจผิดแล้ว ข้ามิได้ต้องการอำนาจของหมิงอ๋อง แต่เป็นฮูหยินหลินเองต่างหากที่ยื่นมาให้ข้า หากท่านไม่พอใจ ก็ไประบายกับฮูหยินหลินเถิด"ยังไม่ทันพูดจบ หลินเย่ว์ก็พลันเอื้อมมือออกไปคว้าลำคอของเฉียวเนี่ยน"เจ้ามันเจ้าเล่ห์นัก! ข้าอยากจะเลาะฟันเจ้าออกให้หมดปาก อยากจะรู้นักว่าวันหน้าจะปากดีเช่นนี้อีกหรือไม่!"เฉียวเนี่ยนถูกเขาบีบคอจนเริ่มหายใจไม่ออก สองมือบีบแขนของหลินเย่ว์แน่น "ในเมื่อท่านโหวน้อยเ
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เฉียวเนี่ยนก็นอนอยู่บนเตียงที่ไม่คุ้นตากลิ่นไม้กฤษณาอ่อนๆ อบอวลไปทั่วอากาศ หลังจากได้สติ สัญชาตญาณบอกนางว่านี่คือห้องของชายหนุ่ม!แต่ไม่รอให้นางได้ตั้งตัว เสียงเย็นยะเยือกก็ดังขึ้นข้างใบหู "ในเมื่อฟื้นแล้วก็รีบไสหัวออก!"นางตื่นตกใจ เหลียวขวับไปตามต้นเสียงภาพที่เห็นคืนชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนปลายเตียง เครื่องหน้าคมเข้ม หน้าตาคล้ายคลึงกับเซียวเหิงถึงเจ็ดแปดส่วน เรียวคิ้วทรงอำนาจ แต่กลับผอมซูบอย่างผิดคาดผิวขาวซีดยิ่งทำให้รู้ว่าเขาป่วยเฉียวเนี่ยนแทบจะจำเขาได้ในทันที"ท่าน...ท่านพี่เซียว?"นางหวาดกลัวสุดขีด ลนลานพลิกตัวลงจากเตียว แต่คิดไม่ถึงว่าแข้งขาจะแทบไร้เรี่ยวแรง ร่างทั้งรางล้มกระแทกพื้นอย่างแรงแต่โชคดีที่ความเจ็บปวดนั้นทำให้นางได้สติขึ้นมาบ้างส่วนเซียวเหอที่อยู่บนเตียงยังคงมองนางด้วยสายตาเย็นชา ไม่เอ่ยคำใดเฉียวเนี่ยนตื่นตระหนก "ขอโทษเจ้าค่ะท่านพี่เซียว ข้า ข้าไม่รู้ว่าเหตุตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่ได้..."ยังไม่ทันพูดจบ ภาพของหลินเย่ว์และหลินยวนกรอกเหล้าใส่ปากนางก็ผุดขึ้นมาในหัวฝีมือของพวกนั้น!สองพี่น้องตระกลูหลินส่งนางมาที่ห้องของเซียวเหอ!ร
เขาประเคนเฉียวเนี่ยนส่งถึงเตียงเซียวเหอต่อหน้าเซียวเหอแต่ยามนั้นเซียวเหอจะไม่เอ่ยคำใด แต่แววตาพิรุธของอีกฝ่ายนั้นทำให้เขารู้อย่างชัดเจนมิน่าเล่า บนโลกนี้จะมีพี่ชายที่ไหนประเคนน้องสาวตัวเองให้ถึงเตียงชายอื่น?หลินเย่ว์คิดในใจ ใต้ฟ้านี้คงมีเขาแค่คนเดียวแล้วกระมัง?อีกฝากหนึ่ง เซียวเหิงเงยหน้ามองเขา น้ำเสียงเย็นเยือกเอื้อนเอ่ย "หากเจ้าเสียใจ จะกลับลำก็ยังทัน"หลินเย่ว์ถลึงตามองเขาในทันใด "ทันงั้นรึ? ป่านนี้บ่าวคนสนิทของพี่ใหญ่เจ้าคงรู้แล้วกระมัง!"ว่าถึงเพียงเท่านั้น เขาก็พลันรู้สึกว่ามีบางอย่างชอบกล ขมวดคิ้วพลางเอ่ย "อีกอย่าง ข้ามีอะไรต้องเสียใจก่อน? ข้าเป็นคนช่วยชีวิตนางด้วยซ้ำ!"เซียงเหิงยกยิ้ม "นางคงเข้าใจ"ได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ไม่พูดอะไร ในหัวมีแต่ภาพของเฉียวเนี่ยนยามดีดดิ้นทุรนทุรายทั้งยังดวงตาเดือดดาลและเคียดแค้นคู่อันเหลือล้นของนางนางจะเข้าใจหรือหลินเย่ว์คิดว่าไม่แต่ต่อให้นางไม่เข้าใจความทุกข์ของเขา ขอแค่นางมีชีวิตรอดปลอดภัยก็พอ!เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเย่ว์ก็สลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว กระดกเหล้าในจอกจนเกลี้ยงแล้วลุกพรวดขึ้น "ไปกัน ได้เวลาแล้ว"ยามนี้ที่จ
จิ่งเหยียน?อุ้มไปแล้ว?เฉียวเนี่ยนโดนวางยาปลุกกำหนัด จิ่งเหยียนอุ้มนางออกไปเช่นนั้น คิดจะทำอะไรกันแน่!เซียวเหิงรู้สึกเพียงแค่ว่าเลือดนั้นเดือดพล่านไปทั่วทั้งกาย ก่อนจะหันหลังเดินออกไปก่อนจิ่งเหยียนจะมาอยู่ใต้บัญชสของเขา เคยเป็นหัวหน้าทหารของเซียวเหอมาถึงสองปีหลังจากเซียวเหอพิการติดเตียง จิ่งเหยียนก็มาเยี่ยมเป็นประจำเขากลับลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท!แม้เขาจะไม่เคยเห็นจิ่งเหยียนแตะต้องหญิงใดมาก่อน แต่หากอดยากปากแห้งมานาน ครั้นเจอสาวงามเข้า ก็ยิ่งยากต้านทาน!ยิ่งคิดสีหน้าของเซียวเหิงก็ยิ่งดูไม่ได้เมื่อออกประตูมาได้ก็ควบม้าออกไป ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป เขาก็มาถึงเรือนของจิ่งเหยียนประตูบ้านเปิดอ้า ไม่ใช่วิสัยของจิ่งเหยียน เห็นได้ชัดว่ายามเขาอุ้มเฉียวเนี่ยนกลับมานั้นรีบร้อนเพียงใดเซียวเหิงอดไม่ไหว คิดถึงภาพยามจิ่งเหยียนรีบร้อนจนอดรนทนทันใดนั้นก็พลันเดือดดาลยิ่งกว่าเดิมเขาจ้ำเท้าเข้าไปในเรือน พุ่งตรงเข้าไปยังห้องนอนของจิ่งเหยียนคิดไม่ถึงเลยว่าจิ่งเหยียนจะเปิดประตูออกมาพอดีท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์เมื่อเห็นเซียวเหิง จิ่งเหยียนเองก็ตกใจยิ่งนัก "ท่านแม
จะเรียกว่าคู่หมั้นคู่หมายก็ไม่เกินจริงต่อเขาจะไม่เคยชอบนางเลย ต่อให้เขาจะไม่เคยเห็นนางอยู่ในสายตาแต่ต่อให้เป็นคนแปลกหน้า?ด้วยนิสัยอย่างเซียวเหิง ย่อมไม่มีทางทำเรื่องสกปรกสมโมเช่นนั้นกับหญิงสาวที่ไม่รู้จักแน่นอน!แต่เหตุใดถึงทำกับนางได้ลงคอเหตุใดพวกเขาถึงได้กล้าทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้กับนางได้!เซียวเหิงถูกตบจนหน้าหัน คราบเลือดไหลซืมออกจากมุมปากหลินเย่ว์ตกใจไม่น้อย เซียวเหิงฉลาดเฉลียวตั้งแต่เด็ก ท่านลุงเซียวจึงไม่ค่อยเฆี่ยนตีเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเขากลัวว่าเซียวเหิงจะบันดาลโทสะลงไม้ลงมือ จึงรีบเข้ามาขวางเฉียวเนี่ยนเอาไว้"เนี่ยนเนี่ยนเจ้าอย่าโกรธไปเลย ที่พวกข้าทำลงไปก็เพื่อเจ้าทั้งนั้น...""เพื่อข้างั้นหรือ?" เฉียวเนี่ยนเหลียวไปทางหลินเย่ว์ มุมปากยกขึ้นแสยะยิ้มเมื่อเห็นหลินเย่ว์พยักหน้ารัว นางก็หันกลับมาหาเซียวเหิงอีกครั้ง "แม่ทัพเซียวเองก็คิดเช่นนั้นหรือ? หวังดีกับข้าอย่างนั้นหรือ?"เซียวเหิงหน้านิ่ง ไม่เอ่ยคำใดปลายลิ้นกวาดเลีบมุมปากของตัวเอง อดคิดไม่ได้ว่าแม่เด็กนี่แรงเยอะปานนี้ตั้งแต่เมื่อใดหลินเย่ว์รีบเอ่ยในทันใด "แน่นอนอยู่แล้วสิ? ย่อมต้องหวังดีกล
ทุกคนต่างตกตะลึงเซียวเหิงตั้งสติได้คนแรก ขมวดคิ้วถามเสียงเข้ม "ตั้งแต่เมื่อใดกัน?"หยดน้ำยังเกาะอยู่บนขนตาของฮูหยินหลิน ส่ายหน้าไปมา "ข่าวเพิ่งส่งมาจากวังเมื่อครู่ ได้ยินมาว่าเป็นโจรภูเขาจากอำเภอเหอโจวเจิ้น!"เหอโจวเจิ้น?หลินเย่ว์ถามอย่างตกใจ "ระยะทางจากเหอโจวเจิ้นมายังเมืองหลวงใช้เวลาสิบวันเต็มๆ ยิ่งไปว่านั้นหมิงอ๋องเพิ่งออกเดินทางไปสำนักราชาโอสถเมื่อเช้านี้ น่าจะมุ่งลงใต้ จะบังเอิญเจอโจรภูเขาที่อำเภอเหอโจวเจิ้น หยงเป่ยได้อย่างไร?"นั่นไม่ใช่โจรภูเขาธรรมดาด้วย!เมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็เต้นถี่รัว "หมิงอ๋องไปสำนักราชาโอสถ? ใกล้แต่งงานเต็มที เขาไปสำนักราชาโอสถทำไม?"สำนักราชาโอสถอยู่ใกล้ชายแดน เดินทางจากเมืองหลวงใช้เวลาหนึ่งเดือนกว่า ต่อให้หมิงอ๋องจะควบเร็วสักเพียงใด ไปกลับเที่ยวหนึ่งก็ต้องใช้เวลาสองเดือนเต็มๆทว่าฮ่องเต้ได้กำหนดเวลามาแล้ว ภายในสองเดือนนี้หมิงอ๋องต้องไปยังเมืองกูเฉิง!เมื่อได้ยินเฉียวเนี่ยนถามดังนั้น หลินเย่ว์กลับพูดไม่ออกท่าทีของเขา อย่าว่าแต่เฉียวเนี่ยนเลย แม้แต่ฮูหยินหลินก็รู้ว่ามีพิรุธนางลากตัวหลินเย่ว์มาอีกทาง เอ่ยถามเสียงกระซิบ "เย่ว์
"ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ
แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา
"..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด
สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา
แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก
หนิงซวงก็เห็นรอยขีดข่วนบนลำต้นไม้เช่นกันนางรีบลุกขึ้นยืน คว้าชายแขนเสื้อของหวังเอ้อไว้แน่น "ต้นเหมยแดงต้นนี้รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนปลูกเอาไว้ คุณหนูไม่มีทางทำร้ายมันเด็ดขาด! หวังเอ้อ ทำยังไงดี! คุณหนูต้องถูกใครจับตัวไปแน่ ๆ !"รอยขีดนี้ ต้องเป็นรอยที่คุณหนูทิ้งไว้ตอนดิ้นรนขัดขืนแน่ ๆ !หวังเอ้อเองก็ร้อนใจเช่นกัน แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว "เจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ตระกูลเซียว ข้าจะไปหาท่านโหวน้อยที่จวนโหว!"แม้ว่าคุณหนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเชื่อว่าท่านโหวน้อยต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ส่วนตระกูลเซียว แม้ว่าคุณหนูของนางจะหย่าขาดกับคุณชายใหญ่ไปแล้ว ทว่าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คิดว่าตระกูลเซียวคงไม่เพิกเฉยแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ลำพังเขากับหนิงซวงแค่สองคน จะไปช่วยคุณหนูได้อย่างไรกัน?เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หนิงซวงก็พยักหน้ารัว ๆ แล้วรีบปาดน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกจากจวนไปอย่างเร่งรีบไม่นานนัก นางก็วิ่งไปถึงตระกูลเซียว พอเห็นพ่อเซียวกับแม่เซียว ก็ทรุดลงคุกเข่าในทันที "นายท่าน ฮูหยิน ได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิด! คุณหนูของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว!"เมื่อได้ยิ
เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้จึงพยักหน้าแรง ๆ หลายครั้ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้ ภายในสามวันเรื่องนี้ต้องแล้วเสร็จแน่นอน จะไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มแย้มอย่างงดงาม "ดี"หวังเอ้อจึงคำนับแล้วถอยออกไปขณะเดียวกันใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันจมดิ่งลงสู่หุบเหวคำพูดของแม่เซียวเมื่อครู่นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหูโดยเฉพาะประโยคนั้นที่ว่า 'ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไร้วิธีแก้ไข' ช่างราวกับมีดเล่มหนึ่งที่คอยเฉือนนางอย่างไม่หยุดยั้งผู้คนที่นางใกล้ชิดที่สุดต่างทยอยจากนางไปทีละคนแต่แม่เซียวกลับบอกนางว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะตัวนางเองเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นริ้ว ๆเฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ต้นเหมยแดงต้นนั้น บัดนี้หาได้เป็นเพียงต้นเปล่าโล้นเช่นก่อนออกเรือนไม่มันแตกหน่อใบเขียวออกมาแล้ว ที่ปลายกิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเจิดจ้าจนถึงเวลานี้ ความเจ็บปวดที่แน่นอัดในอกของเฉียวเนี่ยนจึงคล้ายจะทุเลาลงบ้างนางเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ ลูบไล้ลำต้นอย่างแผ่วเบา ภ
เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร
แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน