Share

บทที่ 129

Author: โม่เสียวชี่
วันต่อมา เฉียวเนี่ยนเข้าวังพร้อมกับฮูหยินหลิน

เต๋อกุ้ยเฟยรออยู่ก่อนหน้าแล้ว

เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยน เต๋อกุ้ยเฟยก็รีบเข้ามารับ น้ำตาร้อนผ่าวคลอเบ้า "เนี่ยนเนี่ยนเจ้ามาแล้วหรือ! ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่มาพบข้าอีกแล้วเสียอีก!"

"เป็นเช่นนั้นได้อย่างไรเพคะ" เฉียวเนี่ยนตอบกลับ ราวกับคนสุขสบายดี

เต๋อกุ้ยเฟยดีใจยิ่ง เหลือบตามองฮูหยินหลินอย่างอดไม่ได้

จากนั้นก็ได้ยินเสียงฮูหยินหลินเอ่ย "ข้าบอกท่านแล้ว เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้เก็บเรื่องนั้นมาใส่ใจ ท่านดันไม่เชื่อ"

เมื่อได้ยินดังนั้น เต๋อกุ้ยเฟยก็พยักหน้ารัว "นั่นสิ ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆ... โธ่ เข้ามาข้างในก่อนเถิด!"

เต๋อกุ้ยเฟยพูดพลางจูงเฉียวเนี่ยนเดินเข้าไป

ทว่าครั้นก้าวเข้าประตูมา ฝีเท้าของเฉียวเนี่ยนก็พลันหยุดลง

นั่นเป็นเพราะว่าภายในห้องนั้นมีคนคุกเข่าอยู่

เห็๋นเพียงแค่แผ่นหลังก็รู้ว่านั่นคือหมิงอ๋อง

สีหน้าของเฉียวเนี่ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เต๋อกุ้ยเฟยรีบเอ่ยแก้ต่าง "เจ้าเด็กคนนี้สารเลว วันนี้ข้าจะสั่งสอนเขาต่อหน้าเนี่ยนเนี่ยนเอง ดูซิว่าวันหน้าเขาจะกล้ารังแกเจ้าอีกหรือไม่!"

เต๋อกุ้ยเฟยว่าพลางรับไม้เรียวจากนางบ่าว ก่อนจะฟาดลงบนหลังของหมิงอ๋องอย่างแรง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sopawan Buranasawettham
เนื้อเรื่องสนุกดี แต่บางทีก็รู้สึกเสียดายเงิน เพราะคำผิดเยอะมาก ไม่รู้ผู้เขียนเป็นนักเขียนใหม่รึเปล่า
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 130

    แววตาเมื่อครู่ของหมิงอ๋อง แทบจะอยากเฆี่ยนตีนางให้เป็นแผลจนไม่เหลือชิ้นดีเสียตรงนั้น เอาให้ครึ่งเป็นครึ่งตายถึงจะสาแก่ใจด้วยซ้ำด้วยซ้ำเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนไม่พูด ในหัวเต๋อกุ้ยเฟยก็พลันว่างเปล่านางครุ่นคิดก่อนจะส่งสายให้กับหัวหน้านางบ่าวของตนหัวหน้านางบ่าวพยักหน้าในทันใด เดินนำนางบ่าวและขันทีออกไปนอกห้องภายในห้องเหลือเพียงเต๋อกุ้ยเฟย ฮูหยินหลิน และเฉียวเนี่ยนฮูหยินหลินประหลาดใจ เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ "กุ้ยเฟยจะ..."ทว่ากลับเห็นภาพเต๋อกุ้ยเฟยกุมมือเฉียวเนี่ยน เอ่ยเสียงอ่อน "เจ้ารอสักครู่"ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง ไม่นานก็ออกมาในมือถือโฉนดที่ดินฉบับหนึ่ง"นี่คือกิจการนอกวังของข้า เป็นร้านขายเสื้อผ้า เจ้ารับไว้เสีย"ขณะพูดนั้นนางก็ยัดโฉนดที่ดินใส่มือเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจไม่น้อย อันที่จริงวันนี้นางมาเพื่อหมิงอ๋อง ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับสิ่งใดจากเต๋อกุ้ยเฟยแม้แต่ฮูหยินหลินเองก็ตกตะลึง "นี่คือสินเดิมของท่านนะเพคะ ราคาสูงเกินไป! ไม่ได้เด็ดขาดเพคะ!""ประเดี๋ยวเนี่ยนเนี่ยนก็จะเป็นสะใภ้ของข้าแล้ว เหตุใดจะไม่ได้?" เต๋อกุ้ยเฟยเอ่ย เมื่อเห็นว่าท่าทีว่าเฉียวเนี่ยนจะไม่ยอมร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 131

    เมื่อเห็นบนใบหน้าว่าเฉียวเนี่ยนไม่มีท่าทีหวาดกลัวต่อเฉิงซีแม้แต่น้อย หมิงอ๋องก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเฉียวเนี่ยนตั้งใจจะพาเขาไปที่ใดกันแน่ในตอนนั้นเขาก็พยักหน้าเล็กน้อย รอยยิ้มที่มุมปากเต็มไปด้วยความดูแคลนเขาไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะสามารถหนีรอดจากกำมือของเขาได้คนที่พ่อแม่ส่งตัวมาให้เขาเองถึงหน้าประตู จะหลุดมือเขาไปได้อย่างไร?เพียงแต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือ เฉียวเนี่ยนพาเขาไปยังโรงน้ำชาหยวนไหลซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาเคยตกลงนัดพบกันในตอนแรก แต่กลับถูกหลินเย่ว์สับเปลี่ยนจดหมาย ทำให้สุดท้ายทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันโรงน้ำชามีทั้งหมดสองชั้น ชั้นล่างจะมีห้องโถงใหญ่ตรงกลางซึ่งมีเวทีเล็กๆ บนเวทีนั้นจะมีนักร้องหญิงขึ้นร้องเพลงเสมอ และบางครั้งก็จะมีการแสดงการเล่นกลด้วยแต่วันนี้บนเวทีนั้นกลับเป็นนักเล่าเรื่องคนหนึ่งเรื่องราวดูเหมือนจะน่าสนใจมาก ลูกค้าในโรงชาต่างก็ฟังอย่างตั้งใจเฉียวเนี่ยนกับหมิงอ๋องนั่งลงตรงที่ที่เด็กรับใช้ในโรงน้ำชาแนะนำแต่เมื่อเด็กรับ้รินน้ำชาเสร็จ สีหน้าของหมิงอ๋องก็เปลี่ยนไปทันทีเพราะว่านักเล่าเรื่องที่กำลังเล่าไม่ได้เล่าเรื่องของคนอื่น แต่เป็นเรื่องของเขาเอง!ถึ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 132

    หากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันหมดแล้ว อย่าพูดถึงแค่การแต่งงานระหว่างหมิงอ๋องกับจวนโหวเลย แม้แต่การแต่งงานกับตระกูลเสนาบดีที่มีอำนาจในราชสำนักเขาก็ไม่มีสิทธิ์ และเขาก็ไม่มีทางกลับเข้าเมืองหลวงได้อีกตลอดชีวิต!และในตอนนั้น สำหรับหมิงอ๋อง การกลับเข้าเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้วสิ่งที่สำคัญคือศักดิ์ศรีของเขา คือเกียรติของเขาในฐานะบุรุษคนหนึ่ง!ความบกพร่องทางร่างกายของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครรู้เป็นอันขาด!หมิงอ๋องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความโกรธถูกเขาระงับไว้แน่นที่อก ไม่กล้าปล่อยมันออกมาแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังคงสงสัย "เจ้า...รู้ได้อย่างไร?"เรื่องที่เขามีความบกพร่องทางร่างกายมีเพียงไม่กี่คนที่รู้!เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบ แต่หมิงอ๋องก็คิดอะไรบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว "เป็นนางบ่าวจากกรมซักล้างที่ถูกย้ายไปดูแลท่านแม่ของข้าหรือ? ชื่ออะไรนะ หลิ่วเหนียงใช่ไหม?"เขาคิดว่า คงมีแค่คนใกล้ชิดท่านแม่ของเขาเท่านั้นที่อาจจะได้ยินเรื่องราวบางอย่างของเขา!เฉียวเนี่ยนแอบสะดุ้งเล็กน้อยนางไม่สามารถให้หลิ่วเหนียงต้องมาเกี่ยวข้องได้ใบหน้าของนางกลับไม่แสดงอาการใดๆ และพูดว่า "หลิ่วเหนียงเป็นแค่นาง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 133

    คำพูดของหลินยวนไม่เพียงแต่ทำให้เฉียวเนี่ยนตกใจอย่างมาก แต่ยังทำให้ฮูหยินหลินตกใจด้วยเช่นกันนางกังวลว่าเฉียวเนี่ยนอาจจะตอบตกลงไปว่า 'ได้' ถ้าเป็นเช่นนั้น ในอนาคตหลินยวนอาจจะต้องไปที่เฉิงซีจริงๆ หรือ?ดังนั้น ก่อนที่เฉียวเนี่ยนจะได้พูดอะไร ฮูหยินหลินจึงรีบพูดด้วยความตกใจว่า "เนี่ยนเนี่ยน น้องสาวเจ้าก็พูดไปเรื่อย อย่าไปใส่ใจเลย นางก็แค่เป็นห่วงเสี่ยวชุ่ยเท่านั้นเอง"เฉียวเนี่ยนมองฮูหยินหลินที่รีบปกป้องหลินยวนอย่างรวดเร็วในตอนนี้ และนึกถึงท่าทางของนางในวันนี้ที่พาไปพบหมิงอ๋องด้วยตนเอง มันช่างแตกต่างกันอย่างชัดเจนน่าอดสูนักในใจเฉียวเนี่ยนรู้สึกเย็นชามากขึ้น แต่ริมฝีปากกลับยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆ "ข้ารู้ แต่ว่าเสี่ยวชุ่ยกำลังรักษาตัวอยู่ในเรือนฟางเหอ ไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ"ทว่าเมื่อหลินยวนได้ยินเช่นนั้น กลับยิ่งตกใจหนักขึ้น "รักษาตัว? รักษาตัวอะไร? เสี่ยวชุ่ยสบายดีไม่ใช่หรือ ทำไมต้องรักษาตัว? ท่านพี่ ท่านทำร้ายนางใช่ไหม?" พูดไป น้ำตาก็หยดลงมาเป็นเม็ดๆเฉียวเนี่ยนรู้สึกเบื่อหน่ายสุดๆ จึงพูดขึ้นว่า "ถ้าเจ้าห่วงจริง ก็ไปกับดูนางกับข้าสิ!"นางไม่รอคำตอบจากทั้งสอง และเดินตรงไปยังเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 134

    ทันทีที่เสียงของฮูหยินหลินดังขึ้น หลินยวนก็ล้มตัวลงคุกเข่ากับพื้นทันที "ไม่เอานะ! ท่านแม่! อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย! นางไม่ได้ตั้งใจ นางไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น!"เฉียวเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกขำไม่น้อย "คำพูดของแม่นางหลินหมายความว่าอย่างไร? หรือจะสื่อว่าข้าเป็นคนสั่งสอนให้นางพูดเช่นนั้นงั้นหรือ?"หลินยวนชะงักไปชั่วครู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยน้ำตา นางส่ายหน้าไปมาอย่างทุกข์ใจแล้วร้องขอฮูหยินหลินด้วยความเจ็บปวด "ไม่ใช่นะเจ้าคะ ข้า...ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่เสี่ยวชุ่ยยังเด็ก ยังไม่ประสีประสาจึงพูดจาไม่สมควรไป ท่านแม่เชื่อใจข้าเถอะ ต่อไปข้าจะอบรบนางให้ดี! ท่านแม่... ขอร้องล่ะ อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย..."แต่ไหนแต่ไรมา ทุกครั้งที่หลินยวนร้องไห้ ฮูหยินหลินมักจะใจอ่อนเสมอแต่วันนี้ บางทีอาจเป็นเพราะเสี่ยวชุ่ยได้ลำเส้นที่ฮูหยินหลินไม่อาจยอมรับได้ ฮูหยินหลินจึงไม่ได้ใจอ่อนเหมือนเช่นเคย กลับมองหลินยวนด้วยสายตาที่เต็มไปความเข้มงวด "แค่เป็นนางบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น ยวนเอ๋อร์ เจ้าต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยหรือ?"ฮูหยินหลินรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า เพื่อเพียงแค่นางบ่าวคนหนึ่ง หลินยวนทำมากเก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 135

    น้องสาวแท้ๆ หรือ?เสี่ยวชุ่ยเนี่ยนะ?ดวงตาคู่สวยของเฉียวเนี่ยนจับจ้องอยู่ที่เสี่ยวชุ่ย ความคิดในหัวนางพลันปั่นป่วนเพราะคำพูดของหลินยวนส่วนฮูหยินหลินองก็ยังคงเงียบงัน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงมีเพียงหนิงซวงที่ไม่เชื่อคำพูดนี้แม้แต่น้อย นางตวาดออกมาเสียงดังลั่นว่า "เป็นไปไม่ได้! เสี่ยวชุ่ยไม่เหมือนคุณหนูของข้าเลยสักนิด! จะเป็นพี่น้องแท้ๆ กันได้อย่างไร?"ดูเหมือนว่าคนภายนอกจะมองเห็นอะไรชัดเจนกว่าผู้เกี่ยวข้องเองเสียอีกเฉียวเนี่ยนเริ่มใช้สายตาสำรวจเสี่ยวชุ่ยหลังจากที่หนิงซวงพูดจบผิวของนางขาวผ่อง แต่เสี่ยวชุ่ยกลับมีผิวที่ดำคล้ำโดยกำเนิดนางมีตากลมโต ในขณะที่เสี่ยวชุ่ยมีหางตาเรียวและคมไม่เพียงแค่ดวงตาเท่านั้นจมูก ปาก หรือแม้แต่ใบหู ทั้งหมดไม่มีส่วนไหนที่คล้ายกันเลยแม้แต่น้อยแต่หลินยวนตอบขึ้นทันที "เพราะเสี่ยวชุ่ยเหมือนพ่อของนาง! เสี่ยวชุ่ยกับพ่อของนางแทบจะเหมือนกันทุกประการ ท่านพี่... ท่านพี่เหมือนแม่ของนางเจ้าค่ะ"แม่งั้นหรือ?เฉียวเนี่ยนมองไปที่หลินยวนด้วยท่าทางเย็นชาเกี่ยวกับแม่ของนาง เฉียวเนี่ยนไม่เคยพบหมอตำแยที่ทำคลอดให้ฮูหยินหลินในอดีตเลยด้วยซ้ำเพียงแต่ได้ยินคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 136

    ฮูหยินหลินรู้สึกคล้ายว่ามีบางอย่างแปลกประหลาดอยู่ในใจของนางหลินยวนร้องไห้พลางตะโกนว่า "ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง! ข้าเป็นคนหลอกลวงพ่อแม่เอง เป็นความผิดของข้า ท่านแม่โปรดลงโทษข้าด้วยเถิด!เมื่อกล่าวจบ นางก็ก้มศีรษะให้ฮูหยินหลินแต่บางทีฮูหยินหลินอาจกำลังสับสนและว้าวุ่น จึงไม่ได้ช่วยพยุงหลินยวนขึ้นเหมือนตลอดมาด้วยเหตุนี้ หลินยวนจึงยังคงอยู่ในท่าศีรษะโขกพื้นและคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฮูหยินหลิน ทั้งร่างของนางสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นดังนั้น เสี่ยวชุ่ยรีบวิ่งไปคุกเข่าข้างหลินยวนทันที "ฮูหยิน คุณหนูทำเช่นนี้เพื่อปกป้องบ่าวเท่านั้น หากฮูหยินจะโกรธหรือกล่าวโทษ ก็ขอให้โทษบ่าวเถิด! ได้โปรดอย่าโกรธคุณหนูเลย!"พูดจบ เสี่ยวชุ่ยก็เริ่มโขกศีรษะ "ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าวเองเจ้าค่ะ! ขอฮูหยินโปรดอภัยให้คุณหนูด้วยเถิดเจ้าค่ะ!"นางกล่าวพลางโขกศีรษะลงกับพื้นพลางไม่นานนัก หน้าผากที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาเห็นภาพนั้น ฮูหยินหลินรู้สึกว่าหัวใจของตนสั่นสะท้านแต่ก็ไม่รู้ทำไม นางกลับค่อยๆ หันมองไปยังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนเข้าใจถึงความไร้ทางออกของฮูหยินหลินใน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 137

    เช้าวันถัดมาหลังจากเฉียวเนี่ยนล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว นางก็นั่งลงเพื่อรับประทานอาหารเช้าหนิงซวงเดินเข้ามาคอยปรนนิบัติ ตั้งแต่ต้นจนจบ รอยยิ้มบนริมฝีปากของนางยังคงสดใสจนทำให้เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะถามว่า "มีอะไรดีใจขนาดนั้นหรือ?""ไม่มีนี่เจ้าคะ!" หนิงซวงปฏิเสธทันที แต่แล้วนางก็มองไปที่กลุ่มสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างนอก ก่อนจะพูดเสียงเบาลง "ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เสี่ยวชุ่ยยังไม่ได้กินอะไรเลยเจ้าค่ะ"เป็นไปตามที่คาดไว้เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขึ้น "แล้วเจ้าไม่ได้ให้อะไรนางกินหรือ?""จะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ! บ่าวเอาของดีๆ ทุกอย่างไปให้แล้วเจ้าค่ะ!"หนิงซวงตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่นางเองก็รู้ดีว่า เพราะของที่นางมอบให้นั้นดีเกินไป ทำให้เสี่ยวชุ่ยไม่กล้ากินมันเลยเฉียวเนี่ยนหัวเราะเย็นชา แล้วไม่ได้ตอบอะไรแต่หนิงซวงกลับทำสีหน้าจริงจังขึ้น และถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณหนูแน่ใจแล้วหรือเจ้าคะ ที่คิดว่าเสี่ยวชุ่ยคือน้องสาวของท่าน?"เรื่องที่คุณหนูรองพูดเมื่อวานนั้น ไม่ว่าจะคิดยังไงหนิงซวงก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดเฉียวเนี่ยนยักไหล่แล้วตอบอย่างไม่สนใจ "ไม่เป

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 512

    แต่รอยยิ้มในตอนนี้กลับดูเหมือนเป็นการฝืนยิ้มเมื่อเห็นว่าไม่สามารถปิดบังเฉียวเนี่ยนได้ เซียวเหิงจึงยอมปริปาก "หน่วนหน่วนหายตัวไป""อะไรนะ?!" เฉียวเนี่ยนตกตะลึง ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงเข้ามาครอบงำนาง"หน่วนหน่วนหายตัวไปหรือ? ตั้งแต่เมื่อใดกัน?""ครึ่งชั่วยามก่อน""เช่นนั้นท่านยังไม่ไปออกตามหาหน่วนหน่วนอีกรึ เหตุใดถึงยังอยู่ที่นี่!" เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะโวยวายออกมาด้วยความตื่นตระหนก "หากนางตกไปอยู่ในเงื้อมือของพวกโจรภูเขาจะทำอย่างไร!"ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเซียวเหิงก็เคร่งเครียดขึ้นเขามองไปยังนาง ดวงตาฉายแววเย็นชา "เจ้ารู้ได้อย่างไร ว่าเป็นพวกโจรภูเขา?""คราวก่อนท่านพูดเองนี่ ว่าพวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ยปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวง" เฉียวเนี่ยนพูด จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึก "อีกอย่าง ตอนนี้เรื่องที่ว่าข้ารู้ได้อย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ท่านต้องใส่ใจหรือ? หากว่าหน่วนหน่วนตกไปอยู่ในเงื้อมือของโจรภูเขาจริง ๆ ต้องจบไม่สวยแน่! ท่านรีบไปตามหานางเถอะ!"เซียวเหิงรู้สึกสั่นไหวในใจหน่วนหน่วนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขา เขาจะไม่เป็นห่วงนางได้อย่างไร?เพื่อปล้นสะดมทรัพย์สินแล้ว พวกโจรภูเขาเหล

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 511

    ก็แค่ข่าวนั้น เซียวเหอก็ยังให้จี้เยว่หาคนไปปิดเอาไว้ก่อนไม่ว่าจะอย่างไร ในใจของเขา ความปลอดภัยของเนี่ยนเนี่ยนก็ยังคงมาเป็นอันดับแรกเสมอเขาไม่มีวันจะยอมเอาเนี่ยนเนี่ยนไปเสี่ยงอันตราย เพียงเพราะต้องการสร้างผลงานชื่อเสียงแต่พอจี้เยว่เพิ่งจะปิดข่าวลงได้ ซุนเซี่ยนก็กลับส่งคนออกไปแพร่ข่าวไปทั่วอีก จนในที่สุด ข่าวลือในเมืองหลวงก็ยิ่งลุกลามใหญ่โตจี้เยว่รู้สึกขุ่นเคือง "คุณชายใหญ่ ซุนเซี่ยนนี่มันไม่ได้เห็นค่าชีวิตของนายหญิงน้อยใหญ่ของพวกเราเลยสักนิด!"พวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ยนั้นล้วนแต่เป็นพวกโหดเหี้ยมอำมหิต หัวหน้าของพวกมันตายไปแล้วยังกล้าลงมาหาเรื่องตระกูลเซียวถึงเมืองหลวง ดูจากแค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่พวกที่จะไปยุ่งด้วยง่าย ๆหากนายหญิงน้อยใหญ่ตกอยู่ในมือของพวกมัน ใครจะรู้ว่านางจะต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนเซียวเหอสีหน้าหม่นลงเล็กน้อยตั้งแต่ซุนเซี่ยนมาหาเขา เขาก็รู้แล้วว่าซุนเซี่ยนกำลังคิดแผนการอะไรอยู่ ในตอนนั้นเขาก็เอ่ยถามขึ้นว่า "แล้วทางเหิงเอ๋อร์ล่ะ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?""คุณชายรองไม่ได้ไปที่ค่ายทหารเลยตั้งแต่เมื่อวาน อยู่แต่ในเรือนฝั่งอื่นตลอดวัน คงจะเดาได้แล้วว่าพวกโจรภูเขาจะม

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 510

    ข่าวลืองั้นหรือ?เซียวเหอคิดในใจว่าเป็นไปได้สูง ที่จะเป็นเรื่องที่เขาสั่งให้จี้เยว่ทำเมื่อคืนเขาขมวดคิ้วและถามกลับ "ใต้เท้าซุน นี่คือเหตุผลที่ท่านมาวันนี้หรือ?"แต่แล้วก็ได้ยินซุนเซี่ยนลดเสียงลงเอ่ยว่า "ท่านรู้หรือไม่ว่า พวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ย ปรากฏตัวอยู่ในเมืองหลวงเมื่อไม่นานมานี้?"พวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ยหรือ?เซียวเหอตะลึง "นี่เป็นข้อมูลของเมื่อไหร่กัน?""ไม่กี่วันก่อนหน้านี้น่ะสิ! แม่ทัพเซียวก็รู้ ไม่เช่นนั้นบาทก็ไม่มีทางให้ข้าใช้ข้ออ้างนั้นหรอก!"เพียงแต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ราษฎรแตกตื่น เรื่องนี้จึงยังไม่ได้แพร่ออกไป อย่าว่าแต่เซียวเหอเลย ต่อให้เป็นเหล่าขุนนางในราชสำนัก ก็ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้คำพูดของซุนเซี่ยน เปรียบเสมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจของเซียวเหอในที่สุดเขาก็เข้าใจ ว่าเหตุใดเฉียวเนี่ยนถึงให้คนส่งข่าว แพร่เรื่องที่นางถูกเซียวเหิงกักขังออกไปนางไม่ได้ต้องการให้ฮ่องเต้ช่วยนางด้วยซ้ำ ข่าวคราวเหล่านั้น นางจงใจแพร่ไปให้พวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ยได้ยิน!ก่อนหน้านี้ เซียวเหิงเคยนำทัพปราบปรามพวกโจรภูเขาจนรังโจรภูเขาของพวกมันพินาศย่อยยับ บัดนี้พวกมันปรากฏตัวในเมืองหลวง ยากนักท

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 509

    อีกด้านหนึ่ง เซียวเหอก็ได้รับข่าวคราวมาแล้วแต่จี้เยว่กลับไม่เข้าใจ "เหตุใดนายหญิงน้อยใหญ่ถึงต้องการให้พวกเราแพร่ข่าวคราวของนางออกไป? ต่อให้คนทั้งเมืองหลวงรู้เรื่องแล้วอย่างไร? มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณชายรองคงไม่สนใจคำพูดคนรอบข้างแล้วมิใช่หรือขอรับ?"เซียวเหอเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันหรือเนี่ยนเนี่ยนต้องการให้คำพูดของพวกชาวบ้านทำให้เรื่องนี้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ฮ่องเต้ทรงบีบบังคับเซียวเหิง ให้ปล่อยตัวนางออกมา?อย่างไรเสีย การแย่งชิงสะใภ้ใหญ่ ย่อมไม่เป็นที่ยอมรับของโลกภายนอกอยู่แล้วหากเหล่าขุนนางร่วมมือกันเล่นงานเซียวเหิง ย่อมถึงขั้นที่แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้แต่ว่า...ความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จนั้น เรียกได้ว่าเล็กน้อยจนแทบจะเป็นศูนย์ยังไม่ต้องพูดถึงว่า ตอนที่พวกเขาแพร่ข่าวจนทั่วทั้งเมืองนั้น เซียวเหิงก็ต้องใช้อำนาจของตนเองในการปิดเรื่องนี้ให้เงียบลงแม้จะเล็ดรอดไปถึงหูฮ่องเต้ แต่ด้วยนิสัยของเซียวเหิง เพียงคำว่า 'กระหม่อมไม่ทราบเรื่อง' ประโยคเดียว ต่อให้ฮ่องเต้สั่งลงโทษหนัก ใช้ไม้ตีทหารฟาดจนเลือดเนื้อเละเทะ เขาก็อาจไม่ยอมปริปากเลยก็ได้!เมื่อเห็นเซียวเหอไม่กล่าวอันใด จ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 508

    ห้องครัวไม่ได้กว้างนัก ตะกร้าใบใหญ่สองใบของพวกชาวสวนก็แทบจะกินพื้นที่ไปไม่น้อย บวกกับบรรดาพ่อครัวและเด็กรับใช้ที่กำลังยุ่งอยู่ภายในครัว ก็ยิ่งทำให้ดูแออัดยิ่งนักเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์จึงยืนรออยู่ด้านนอกของครัวเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้อย่างไรเสีย คนทั้งจวนล้วนเป็นคนที่เซียวเหิงคัดเลือกมาด้วยตนเอง ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะพูดคุยกับเฉียวเนี่ยนแม้แต่คำเดียวเฉียวเนี่ยนก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรมากนักในวันนี้ หากแต่ไม่คาดคิดว่า ชาวสวนคนใหม่กลับเดินเข้ามา "ฮูหยิน ท่านดูสิ ผักนี่สดมากเลยขอรับ!"นอกห้องครัว เฉียวเอ๋อร์เห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี ก็ขมวดคิ้วทันทีนางจ้องริมฝีปากของชาวสวนเขม็ง นางอ่านปากได้ แม้มิได้อยู่ข้างกายเฉียวเนี่ยน ก็ยังรู้ว่าชาวสวนพูดว่าอะไรเฉียวเนี่ยนก็ชะงักไปเล็กน้อย มองชาวสวนด้วยความแปลกใจ แต่ก็เห็นเพียงสีหน้าใสซื่อจริงใจของอีกฝ่าย หาได้มีพิรุธอันใดไม่แต่เมื่อนางก้มตามอง ก็เห็นบนใบของผักกาดขาวนั้น กลับถูกสลักไว้ด้วยเล็บเป็นตัวอักษรว่า 'เหอ'ชาวสวนคนนี้ เป็นคนของเซียวเหอ!เฉียวเนี่ยนเห็นดังนั้น จึงรับผักกาดขาวใบนั้นมา แล้วก็ปัดใบที่มีตัวอักษรสลักอยู่ออกอย่างแน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 507

    ตกดึกซุนเซี่ยนเพิ่งกลับถึงจวน กำลังจะเข้าไปล้างหน้าล้างตาเตรียมพักผ่อน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเย็นเยียบดังมาจากด้านนอกเรือน "ข้าเซียวเหอ ขอพบใต้เท้าซุน"คิ้วของซุนเซี่ยนขมวดเป็นปมขึ้นมาในทันที เขารีบเปิดประตูออกไป ก็พบว่าใต้ชายคาหน้าประตู มีเพียงเซียวเหอยืนอยู่เพียงผู้เดียวส่วนเด็กรับใช้ที่ควรจะเฝ้าอยู่หน้าจวน กลับนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไปหมดแล้วใบหน้าของซุนเซี่ยนพลันแข็งตึง สายตาที่มองเซียวเหอฉายแววไม่พอใจขึ้นทันตา "คุณชายใหญ่ตระกูลเซียว นี่มันหมายความว่าอย่างไร?"กลางดึกย่องเข้าจวนเขา แถมยังเล่นงานเด็กรับใช้ของเขาให้สลบไปหมด เห็นชัดว่าไม่คิดมาดีแน่บนใบหน้าของเซียวเหอนั้น แม้จะปรากฏความเย็นชา ทว่าท่าทีของเขากลับสุภาพอ่อนน้อมอย่างยิ่งเขายกมือคำนับซุนเซี่ยนแล้วกล่าวว่า "ข้าได้ยินมาว่าวันนี้ใต้เท้าซุนรับพระบัญชาออกค้นหาโจรภูเขา จึงอยากเรียนถาม ไม่ทราบว่าพบเจอเบาะแสใดหรือไม่"ดวงตาของซุนเซี่ยนหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ "ว่าข้าจะได้อะไรหรือไม่ พรุ่งนี้ข้าจะทูลฮ่องเต้ด้วยตนเอง ยังไม่ถึงคราวที่คุณชายใหญ่ตระกูลเซียวจะเข้ามาก้าวก่าย"เมื่อได้ยินดังนั้น บรรยากาศรอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 506

    ต้องเป็นเซียวเหอที่ไปทูลขอฮ่องเต้ ฮ่องเต้ถึงได้ส่งองครักษ์มาที่นี่!หัวใจของนางเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาจากอกได้ทุกเมื่อร่างของเฉียวเนี่ยนสั่นไหวเล็กน้อย พลันก็อยากจะวิ่งไปหาซุนเซี่ยนโดยไม่รู้ตัวทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด เท้าทั้งสองกลับหนักอึ้งราวกับถูกถ่วงด้วยตะกั่ว ไม่อาจขยับแม้แต่ก้าวเดียวความหวาดกลัวอันไม่ทราบที่มาแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เฉียวเนี่ยนได้แต่ยืนตัวแข็งอยู่ที่เดิม มองดูเซียวเหิงกับซุนเซี่ยนประสานมือคำนับให้กันอย่างไร้ทางเลือก"ข้าก็คิดอยู่ว่าผู้ใดกันถึงกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นใต้เท้าซุนนี่เอง" เซียวเหิงกล่าวพลางยกมือชี้ไปยังอาหารบนโต๊ะ แล้วเอ่ยต่อว่า "ใต้เท้าซุนจะอยู่ร่วมโต๊ะสักหน่อยหรือไม่?"ซุนเซี่ยนเหลือบมองอาหารบนโต๊ะแล้วเอ่ยเสียงเย็น "ข้ายังมีราชกิจสำคัญที่ต้องทำ เกรงว่าจะไม่สะดวก"พูดจบก็ยกมือขึ้นส่งสัญญาณทันทีองครักษ์ที่ยืนอยู่เบื้องหลังก็แยกย้ายกันออกไปทันทีและเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เฉียวเนี่ยนก็รู้ได้ในทันทีว่าวันนี้นางไปไม่ได้แล้วแล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่นานนัก เหล่าองครักษ์ที่แยกย้ายกันออกไปก็ทยอยกลับมาทีละคน คุกเข่ารายงานต่อซุนเซี่ยนว่า "ขอรายงา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 505

    ยิ่งไปกว่านั้น เฉียวเนี่ยนรู้ดีว่า ตนต้องตอบตามความจริงเท่านั้น จึงจะไม่ทำให้เซียวเหิงเกิดความสงสัยหากนางตอบตกลงทันทีว่าเป็นอาหารที่ตั้งใจทำให้เขา เกรงว่าเขาคงจะออกคำสั่งไม่ให้นางเข้าใกล้ห้องครัวอีกแม้แต่ก้าวเดียว!ส่วนเซียวเหิงเมื่อได้ฟังคำพูดของนาง ก็มิได้คิดมากอย่างที่คาดไว้ เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารเข้าปาก "อืม อร่อยดี"เขาหัวเราะเบา ๆ พลางกินอย่างอารมณ์ดีเฉียวเนี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง สายตาหยุดอยู่ที่แขนซ้ายของเขาจริง ๆ แล้วนางเห็นตั้งแต่แรกว่าเขาบาดเจ็บ และก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดเขาจึงได้รับบาดเจ็บทว่านางกลับไม่คิดจะถามนางไม่อยากให้เซียวเหิงเข้าใจผิดว่านางยังชอบเขายิ่งไปกว่านั้น ยิ่งเขาเป็นทุกข์ ก็จะยิ่งหงุดหงิดเขายิ่งหงุดหงิด นางก็ยิ่งมีโอกาสที่จะหาทางหลบหนีได้มากขึ้นคิดได้เช่นนั้น เฉียวเนี่ยนก็ไม่เอ่ยอะไรอีก เพียงหยิบตะเกียบขึ้นมา ลองคีบอาหารเข้าปากคำหนึ่งทว่าไม่ทันไร พออาหารเข้าปากก็ต้องคายออกมาทันทีหรือคนขายเกลือจะถูกนางตีตายไปแล้วกันแน่?!มันเค็มจนขมปากเลยทีเดียว!เห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของเฉียวเนี่ยนยู่ย่นเพราะฝืนกิน เซียวเหิงกลับยิ่งยิ้มสดใส กินอย่างมีความ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 504

    หากจะกล่าวว่ามีผู้ใดกล้าต่อกรกับเซียวเหิง อย่างน้อยก็คงมีเพียงซุนเซี่ยนผู้นี้เท่านั้นเพียงแค่...เบื้องหลังซุนเซี่ยน ยังมีทั้งตระกูลซุนอยู่ตระกูลซุนจะกล้างัดข้อกับเซียวเหิงหรือไม่นั้น… ก็ยังไม่แน่ชัดเห็นเซียวเหอยังไม่ลุกขึ้นในทันที ซูกงกงจึงรีบยื่นมือเข้ามาพยุงขาทั้งสองข้างของเซียวเหอเพิ่งหายดีได้ไม่นาน แม้ก่อนหน้านี้จะได้กินยาที่เซียวเหิงมอบให้ ซึ่งช่วยให้อาการดีขึ้นมากแล้วก็ตาม แต่เมื่อต้องคุกเข่าอยู่เกือบสองชั่วยาม ก็ย่อมไม่อาจฝืนได้หัวเข่าทั้งสองข้างชาราวกับไร้ความรู้สึกเมื่อเห็นดังนั้น ซูกงกงก็รีบหยิบขวดยาดองออกมา แล้วเอ่ยว่า "คุณชายใหญ่เซียว นี่คือของประทานจากฮ่องเต้ ท่านย่อมเข้าใจดีว่าฮ่องเต้ทรงเอ็นดูท่านเพียงใด เพียงแต่ฮ่องเต้เองก็มีเหตุจำเป็นของพระองค์ หวังว่าคุณชายใหญ่เซียวจะเข้าใจ"ดวงตาของเซียวเหอพลันหม่นลง เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่านี่คือคำเตือนของฮ่องเต้?เรื่องของตระกูลเซียว… อย่าได้ทำให้ฮ่องเต้ปวดหัวอีกได้ยินเช่นนั้น สองมือของเขาก็รับขวดยาดองไว้ และกล่าวว่า "ขอบพระทัยฝ่าบาท"จากนั้นก็หันหลังและค่อย ๆ เดินจากไปเขาเข้าใจดีเมื่อภารกิจสำเร็จแล้ว ผู้ที

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status