Share

บทที่ 133

Penulis: โม่เสียวชี่
คำพูดของหลินยวนไม่เพียงแต่ทำให้เฉียวเนี่ยนตกใจอย่างมาก แต่ยังทำให้ฮูหยินหลินตกใจด้วยเช่นกัน

นางกังวลว่าเฉียวเนี่ยนอาจจะตอบตกลงไปว่า 'ได้' ถ้าเป็นเช่นนั้น ในอนาคตหลินยวนอาจจะต้องไปที่เฉิงซีจริงๆ หรือ?

ดังนั้น ก่อนที่เฉียวเนี่ยนจะได้พูดอะไร ฮูหยินหลินจึงรีบพูดด้วยความตกใจว่า "เนี่ยนเนี่ยน น้องสาวเจ้าก็พูดไปเรื่อย อย่าไปใส่ใจเลย นางก็แค่เป็นห่วงเสี่ยวชุ่ยเท่านั้นเอง"

เฉียวเนี่ยนมองฮูหยินหลินที่รีบปกป้องหลินยวนอย่างรวดเร็วในตอนนี้ และนึกถึงท่าทางของนางในวันนี้ที่พาไปพบหมิงอ๋องด้วยตนเอง มันช่างแตกต่างกันอย่างชัดเจน

น่าอดสูนัก

ในใจเฉียวเนี่ยนรู้สึกเย็นชามากขึ้น แต่ริมฝีปากกลับยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆ "ข้ารู้ แต่ว่าเสี่ยวชุ่ยกำลังรักษาตัวอยู่ในเรือนฟางเหอ ไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ"

ทว่าเมื่อหลินยวนได้ยินเช่นนั้น กลับยิ่งตกใจหนักขึ้น "รักษาตัว? รักษาตัวอะไร? เสี่ยวชุ่ยสบายดีไม่ใช่หรือ ทำไมต้องรักษาตัว? ท่านพี่ ท่านทำร้ายนางใช่ไหม?" พูดไป น้ำตาก็หยดลงมาเป็นเม็ดๆ

เฉียวเนี่ยนรู้สึกเบื่อหน่ายสุดๆ จึงพูดขึ้นว่า "ถ้าเจ้าห่วงจริง ก็ไปกับดูนางกับข้าสิ!"

นางไม่รอคำตอบจากทั้งสอง และเดินตรงไปยังเ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 134

    ทันทีที่เสียงของฮูหยินหลินดังขึ้น หลินยวนก็ล้มตัวลงคุกเข่ากับพื้นทันที "ไม่เอานะ! ท่านแม่! อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย! นางไม่ได้ตั้งใจ นางไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น!"เฉียวเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกขำไม่น้อย "คำพูดของแม่นางหลินหมายความว่าอย่างไร? หรือจะสื่อว่าข้าเป็นคนสั่งสอนให้นางพูดเช่นนั้นงั้นหรือ?"หลินยวนชะงักไปชั่วครู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยน้ำตา นางส่ายหน้าไปมาอย่างทุกข์ใจแล้วร้องขอฮูหยินหลินด้วยความเจ็บปวด "ไม่ใช่นะเจ้าคะ ข้า...ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่เสี่ยวชุ่ยยังเด็ก ยังไม่ประสีประสาจึงพูดจาไม่สมควรไป ท่านแม่เชื่อใจข้าเถอะ ต่อไปข้าจะอบรบนางให้ดี! ท่านแม่... ขอร้องล่ะ อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย..."แต่ไหนแต่ไรมา ทุกครั้งที่หลินยวนร้องไห้ ฮูหยินหลินมักจะใจอ่อนเสมอแต่วันนี้ บางทีอาจเป็นเพราะเสี่ยวชุ่ยได้ลำเส้นที่ฮูหยินหลินไม่อาจยอมรับได้ ฮูหยินหลินจึงไม่ได้ใจอ่อนเหมือนเช่นเคย กลับมองหลินยวนด้วยสายตาที่เต็มไปความเข้มงวด "แค่เป็นนางบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น ยวนเอ๋อร์ เจ้าต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยหรือ?"ฮูหยินหลินรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า เพื่อเพียงแค่นางบ่าวคนหนึ่ง หลินยวนทำมากเก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 135

    น้องสาวแท้ๆ หรือ?เสี่ยวชุ่ยเนี่ยนะ?ดวงตาคู่สวยของเฉียวเนี่ยนจับจ้องอยู่ที่เสี่ยวชุ่ย ความคิดในหัวนางพลันปั่นป่วนเพราะคำพูดของหลินยวนส่วนฮูหยินหลินองก็ยังคงเงียบงัน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงมีเพียงหนิงซวงที่ไม่เชื่อคำพูดนี้แม้แต่น้อย นางตวาดออกมาเสียงดังลั่นว่า "เป็นไปไม่ได้! เสี่ยวชุ่ยไม่เหมือนคุณหนูของข้าเลยสักนิด! จะเป็นพี่น้องแท้ๆ กันได้อย่างไร?"ดูเหมือนว่าคนภายนอกจะมองเห็นอะไรชัดเจนกว่าผู้เกี่ยวข้องเองเสียอีกเฉียวเนี่ยนเริ่มใช้สายตาสำรวจเสี่ยวชุ่ยหลังจากที่หนิงซวงพูดจบผิวของนางขาวผ่อง แต่เสี่ยวชุ่ยกลับมีผิวที่ดำคล้ำโดยกำเนิดนางมีตากลมโต ในขณะที่เสี่ยวชุ่ยมีหางตาเรียวและคมไม่เพียงแค่ดวงตาเท่านั้นจมูก ปาก หรือแม้แต่ใบหู ทั้งหมดไม่มีส่วนไหนที่คล้ายกันเลยแม้แต่น้อยแต่หลินยวนตอบขึ้นทันที "เพราะเสี่ยวชุ่ยเหมือนพ่อของนาง! เสี่ยวชุ่ยกับพ่อของนางแทบจะเหมือนกันทุกประการ ท่านพี่... ท่านพี่เหมือนแม่ของนางเจ้าค่ะ"แม่งั้นหรือ?เฉียวเนี่ยนมองไปที่หลินยวนด้วยท่าทางเย็นชาเกี่ยวกับแม่ของนาง เฉียวเนี่ยนไม่เคยพบหมอตำแยที่ทำคลอดให้ฮูหยินหลินในอดีตเลยด้วยซ้ำเพียงแต่ได้ยินคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 136

    ฮูหยินหลินรู้สึกคล้ายว่ามีบางอย่างแปลกประหลาดอยู่ในใจของนางหลินยวนร้องไห้พลางตะโกนว่า "ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง! ข้าเป็นคนหลอกลวงพ่อแม่เอง เป็นความผิดของข้า ท่านแม่โปรดลงโทษข้าด้วยเถิด!เมื่อกล่าวจบ นางก็ก้มศีรษะให้ฮูหยินหลินแต่บางทีฮูหยินหลินอาจกำลังสับสนและว้าวุ่น จึงไม่ได้ช่วยพยุงหลินยวนขึ้นเหมือนตลอดมาด้วยเหตุนี้ หลินยวนจึงยังคงอยู่ในท่าศีรษะโขกพื้นและคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฮูหยินหลิน ทั้งร่างของนางสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นดังนั้น เสี่ยวชุ่ยรีบวิ่งไปคุกเข่าข้างหลินยวนทันที "ฮูหยิน คุณหนูทำเช่นนี้เพื่อปกป้องบ่าวเท่านั้น หากฮูหยินจะโกรธหรือกล่าวโทษ ก็ขอให้โทษบ่าวเถิด! ได้โปรดอย่าโกรธคุณหนูเลย!"พูดจบ เสี่ยวชุ่ยก็เริ่มโขกศีรษะ "ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าวเองเจ้าค่ะ! ขอฮูหยินโปรดอภัยให้คุณหนูด้วยเถิดเจ้าค่ะ!"นางกล่าวพลางโขกศีรษะลงกับพื้นพลางไม่นานนัก หน้าผากที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาเห็นภาพนั้น ฮูหยินหลินรู้สึกว่าหัวใจของตนสั่นสะท้านแต่ก็ไม่รู้ทำไม นางกลับค่อยๆ หันมองไปยังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนเข้าใจถึงความไร้ทางออกของฮูหยินหลินใน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 137

    เช้าวันถัดมาหลังจากเฉียวเนี่ยนล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว นางก็นั่งลงเพื่อรับประทานอาหารเช้าหนิงซวงเดินเข้ามาคอยปรนนิบัติ ตั้งแต่ต้นจนจบ รอยยิ้มบนริมฝีปากของนางยังคงสดใสจนทำให้เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะถามว่า "มีอะไรดีใจขนาดนั้นหรือ?""ไม่มีนี่เจ้าคะ!" หนิงซวงปฏิเสธทันที แต่แล้วนางก็มองไปที่กลุ่มสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างนอก ก่อนจะพูดเสียงเบาลง "ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เสี่ยวชุ่ยยังไม่ได้กินอะไรเลยเจ้าค่ะ"เป็นไปตามที่คาดไว้เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขึ้น "แล้วเจ้าไม่ได้ให้อะไรนางกินหรือ?""จะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ! บ่าวเอาของดีๆ ทุกอย่างไปให้แล้วเจ้าค่ะ!"หนิงซวงตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่นางเองก็รู้ดีว่า เพราะของที่นางมอบให้นั้นดีเกินไป ทำให้เสี่ยวชุ่ยไม่กล้ากินมันเลยเฉียวเนี่ยนหัวเราะเย็นชา แล้วไม่ได้ตอบอะไรแต่หนิงซวงกลับทำสีหน้าจริงจังขึ้น และถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณหนูแน่ใจแล้วหรือเจ้าคะ ที่คิดว่าเสี่ยวชุ่ยคือน้องสาวของท่าน?"เรื่องที่คุณหนูรองพูดเมื่อวานนั้น ไม่ว่าจะคิดยังไงหนิงซวงก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดเฉียวเนี่ยนยักไหล่แล้วตอบอย่างไม่สนใจ "ไม่เป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 138

    เฉียวเนี่ยนกำแข่นแน่นเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็คือคนที่ส่งนางไปที่กรมซักล้างและสั่งให้นางบ่าวในกรมซักล้างข่มเหงนางเป็นเวลาถึงสามปี!องค์หญิงซูหยวนนั่นเอง!แต่ดูเหมือนว่าองค์หญิงซูหยวนจะจำนางไม่ได้เลยดวงตาคู่นั้นมองเฉียวเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะถามขึ้น "เจ้ากำลังด่าข้าว่าไม่ใช่มนุษย์หรือ?"เฉียวเนี่ยนคิดในใจว่า ถ้านางจำตนไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเหมือนว่าจำนางได้เช่นกัน!ดังนั้นจึงยิ้มบางๆ และตอบกลับไป "คุณหนูอย่าพิโรธเลย ข้าหมายความว่าเราทำการค้าขาย ต้องมีความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐาน"องค์หญิงซูหยวนยังคงมองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความดูถูก ยกคิ้วถามว่า "เจ้าคือใคร?"เฉียวเนี่ยนจึงเดินเข้าไปหาองค์หญิงซูหยวนแล้วหยิบสัญญาที่ดินที่กุ้ยเฟยให้เมื่อวานออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นให้กับผู้ดูแลร้าน "ข้าเพิ่งซื้อร้านนี้เมื่อวาน ดังนั้นถ้าพูดตามตรง ข้าคือเจ้าของร้านนี้"ผู้ดูแลร้านมองไปที่สัญญาที่ดิน ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมสัญญานี้ถึงอยู่ในมือของเฉียวเนี่ยน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนขึ้นมาเป็นเจ้าของ เขาก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งอีก และพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ใช่แล้ว ท่านนี่แหละค

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 139

    ในดวงตาขององค์หญิงซูหยวนเต็มไปด้วยความชิงชังอย่างชัดเจนแต่เฉียวเนี่ยนกลับไม่แสดงอาการตกใจหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยเฉียวเนี่ยนคุกเข่าลงอย่างมีมารยาทแล้วคำนับกล่าวคำทักทาย "องค์หญิงเสด็จในคราบชาวบ้าน หม่อมฉันจึงไม่กล้าแสดงออกว่าจำองค์หญิงได้เพคะ ก่อนอื่นขอให้องค์หญิงโปรดอภัยในความผิดของหม่อมฉันด้วย"ซึ่งโดยนัยก็คือ เพราะองค์หญิงซูหยวนไม่ได้เปิดเผยตัวตนก่อน ดังนั้นเฉียวเนี่ยนจึงไม่กล้าที่จะเปิดเผยว่าจำนางได้ในทันทีองค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยนอย่างเย็นชา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความดูถูกองค์หญิงซูหยวนไม่ได้สนใจที่เฉียวเนี่ยนทำเหมือนไม่รู้จักนาง แต่กลับรู้สึกไม่พอใจที่ตัวเองถูกใช้ประโยชน์ พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ข้าคิดว่าเจ้าคงเรียนรู้มารยาทจากการที่เข้าไปอยู่ในกรมซักล้างถึงสามปีมาบ้างแล้ว"แทนที่จะเป็นเช่นตอนนี้ ที่เฉียวเนี่ยนไม่เพียงแต่ไม่แสดงความกลัวแม้แต่น้อยเมื่อเผชิญหน้ากับนาง แต่ท่าทางการทำความเคารพของก็ยังแสดงออกถึงไม่อ่อนน้อมอีกด้วยมันทำให้นางอยากจะส่งเฉียวเนี่ยนกลับไปที่กรมซักล้างเพื่อซักเสื้อผ้าอีกสามปีเลยทีเดียว!เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบอะไร นางรู้ว่าองค์หญิงซู

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 140

    หลินยวนกับหลินเย่ว์ก็ตามเข้ามาด้วยเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนยืนอึ้งอยู่ที่เดิม หลินยวนก็เดินเข้ามาใกล้แล้วพูดว่า "ทั้งหมดนี้ท่านพี่สั่งให้คนจัดเตรียมไว้ ชอบหรือไม่เจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีอาหารจานดีๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น จริงๆ แล้วล้วนแต่เป็นอาหารที่นางชอบถึงขั้นที่บางจาน นางสามารถบอกได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของพ่อครัวจากร้านไหนเพื่อจัดเตรียมอาหารทั้งหมดบนโต๊ะนี้ หลินเย่ว์คงวิ่งไปร้านอาหารและโรงเตี๊ยมไม่ต่ำกว่าสิบแห่งเหมือนกับสิบห้าปีก่อนที่เขาเคยทำเพื่อนางแล้ว หลินเย่ว์มักจะยอมทุ่มเททั้งเวลาและพลังงานมากมายหากเป็นเมื่อก่อน เฉียวเนี่ยนคิดว่า ตอนนี้นางคงจะดีใจและรู้สึกประทับใจมากๆหากว่า... ไม่มีสามปีนั้น...เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนยังคงเงียบอยู่ หลินยวนก็เหมือนจะนึกอะไรได้ แล้วพูดขึ้นว่า "ท่านพี่ยังเตรียมของขวัญให้ท่านด้วยนะ!"พูดเสร็จหลินยวนก็เร่งเร้าให้หลินเย่ว์เอาของขวัญออกมาหลินเย่ว์ดูเหมือนจะรู้สึกเขินและเกร็งเล็กน้อย เขาค่อยๆ นำปิ่นปักผมออกมาจากแขนเสื้อ"นี่... ข้าแกะสลักเองกับมือ เจ้าอย่ารังเกียจมันเลยนะ"หลินเย่ว์พูดเสียงแข็งแล้วยื่นปิ่นปักผมไปให้เฉียว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 141

    เฉียวเนี่ยนไม่สนใจนาง แต่กลับเดินตรงมาที่โต๊ะนางเดินวนรอบโต๊ะกลมน้อยๆ ตัวนั้น ไล่เรียงอาหารโปรดของตัวเองที่ตั้งอยู่บนนั้นทีละจาน มุมปากยกยิ้มเย็นยะเยือก "เช่นนั้นแล้ว นี่คือมื้อขอคืนดีอย่างนั้นรึ?"ไม้ผุท่อนหนึ่ง อาหารเต็มโต๊ะ แค่นี้ก็คิดว่าเกลี่ยกล่อมนางได้หรือ?หลินยวนเดินเข้ามาหาเฉียวเนี่ยนอย่างอดไม่ได้ "ท่านพี่ ข้ากับพี่ชายอยากจะ...กับท่านพี่จากใจจริง กรี๊ด!"หลินยวนยังไม่ทันพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ล้มโต๊ะกลมตัวนั้นตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของหลินยวน อาหารรสเลิศบนโต๊ะกลายเป็นซากระเนระนาดเต็มพื้นเมื่อเห็นอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำต้องมีจุดจบเช่นนั้น หลินเย่ว์ก็ทนไม่ไหวในที่สุด ตวาดเสียงดังนั่น "เฉียวเนี่ยน! ข้าไว้หน้าเจ้าแท้ๆ!"ครั้นเห็นหลินเย่ว์เดือดดาล หนิงซวงก็รีบเข้ามาขวางหน้ากันเฉียวเนี่ยนเอสไว้ "ท่านโหวน้อย ที่นี่คือเรือนฟางเหอนะเจ้าคะ"ที่นี่คือเขตแดนของคุณหนูของนาง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านโหวน้อยจะมาทำอุกอาจที่นี่ไม่ได้!แต่ใครจะรู้ว่าหลินเย่ว์กลับตะคอกลั่น "บ่าวชั่วเช่นเจ้ากล้าดีอย่างไรมาต่อปากต่อคำกับข้า? ไสหัวไป!"หนิงซวงไม่ยอมถอยทว่าพอเฉียวเนี่ยนเห็นดวงตาคู่นั้นที่แดงก

Bab terbaru

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 491

    หนิงซวงก็เห็นรอยขีดข่วนบนลำต้นไม้เช่นกันนางรีบลุกขึ้นยืน คว้าชายแขนเสื้อของหวังเอ้อไว้แน่น "ต้นเหมยแดงต้นนี้รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนปลูกเอาไว้ คุณหนูไม่มีทางทำร้ายมันเด็ดขาด! หวังเอ้อ ทำยังไงดี! คุณหนูต้องถูกใครจับตัวไปแน่ ๆ !"รอยขีดนี้ ต้องเป็นรอยที่คุณหนูทิ้งไว้ตอนดิ้นรนขัดขืนแน่ ๆ !หวังเอ้อเองก็ร้อนใจเช่นกัน แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว "เจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ตระกูลเซียว ข้าจะไปหาท่านโหวน้อยที่จวนโหว!"แม้ว่าคุณหนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเชื่อว่าท่านโหวน้อยต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ส่วนตระกูลเซียว แม้ว่าคุณหนูของนางจะหย่าขาดกับคุณชายใหญ่ไปแล้ว ทว่าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คิดว่าตระกูลเซียวคงไม่เพิกเฉยแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ลำพังเขากับหนิงซวงแค่สองคน จะไปช่วยคุณหนูได้อย่างไรกัน?เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หนิงซวงก็พยักหน้ารัว ๆ แล้วรีบปาดน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกจากจวนไปอย่างเร่งรีบไม่นานนัก นางก็วิ่งไปถึงตระกูลเซียว พอเห็นพ่อเซียวกับแม่เซียว ก็ทรุดลงคุกเข่าในทันที "นายท่าน ฮูหยิน ได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิด! คุณหนูของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว!"เมื่อได้ยิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 490

    เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้จึงพยักหน้าแรง ๆ หลายครั้ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้ ภายในสามวันเรื่องนี้ต้องแล้วเสร็จแน่นอน จะไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มแย้มอย่างงดงาม "ดี"หวังเอ้อจึงคำนับแล้วถอยออกไปขณะเดียวกันใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันจมดิ่งลงสู่หุบเหวคำพูดของแม่เซียวเมื่อครู่นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหูโดยเฉพาะประโยคนั้นที่ว่า 'ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไร้วิธีแก้ไข' ช่างราวกับมีดเล่มหนึ่งที่คอยเฉือนนางอย่างไม่หยุดยั้งผู้คนที่นางใกล้ชิดที่สุดต่างทยอยจากนางไปทีละคนแต่แม่เซียวกลับบอกนางว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะตัวนางเองเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นริ้ว ๆเฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ต้นเหมยแดงต้นนั้น บัดนี้หาได้เป็นเพียงต้นเปล่าโล้นเช่นก่อนออกเรือนไม่มันแตกหน่อใบเขียวออกมาแล้ว ที่ปลายกิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเจิดจ้าจนถึงเวลานี้ ความเจ็บปวดที่แน่นอัดในอกของเฉียวเนี่ยนจึงคล้ายจะทุเลาลงบ้างนางเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ ลูบไล้ลำต้นอย่างแผ่วเบา ภ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 489

    เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 488

    แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status