Share

บทที่ 132

Author: โม่เสียวชี่
หากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันหมดแล้ว อย่าพูดถึงแค่การแต่งงานระหว่างหมิงอ๋องกับจวนโหวเลย แม้แต่การแต่งงานกับตระกูลเสนาบดีที่มีอำนาจในราชสำนักเขาก็ไม่มีสิทธิ์ และเขาก็ไม่มีทางกลับเข้าเมืองหลวงได้อีกตลอดชีวิต!

และในตอนนั้น สำหรับหมิงอ๋อง การกลับเข้าเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว

สิ่งที่สำคัญคือศักดิ์ศรีของเขา คือเกียรติของเขาในฐานะบุรุษคนหนึ่ง!

ความบกพร่องทางร่างกายของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครรู้เป็นอันขาด!

หมิงอ๋องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความโกรธถูกเขาระงับไว้แน่นที่อก ไม่กล้าปล่อยมันออกมาแม้แต่น้อย

แต่เขาก็ยังคงสงสัย "เจ้า...รู้ได้อย่างไร?"

เรื่องที่เขามีความบกพร่องทางร่างกายมีเพียงไม่กี่คนที่รู้!

เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบ แต่หมิงอ๋องก็คิดอะไรบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว "เป็นนางบ่าวจากกรมซักล้างที่ถูกย้ายไปดูแลท่านแม่ของข้าหรือ? ชื่ออะไรนะ หลิ่วเหนียงใช่ไหม?"

เขาคิดว่า คงมีแค่คนใกล้ชิดท่านแม่ของเขาเท่านั้นที่อาจจะได้ยินเรื่องราวบางอย่างของเขา!

เฉียวเนี่ยนแอบสะดุ้งเล็กน้อย

นางไม่สามารถให้หลิ่วเหนียงต้องมาเกี่ยวข้องได้

ใบหน้าของนางกลับไม่แสดงอาการใดๆ และพูดว่า "หลิ่วเหนียงเป็นแค่นาง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 133

    คำพูดของหลินยวนไม่เพียงแต่ทำให้เฉียวเนี่ยนตกใจอย่างมาก แต่ยังทำให้ฮูหยินหลินตกใจด้วยเช่นกันนางกังวลว่าเฉียวเนี่ยนอาจจะตอบตกลงไปว่า 'ได้' ถ้าเป็นเช่นนั้น ในอนาคตหลินยวนอาจจะต้องไปที่เฉิงซีจริงๆ หรือ?ดังนั้น ก่อนที่เฉียวเนี่ยนจะได้พูดอะไร ฮูหยินหลินจึงรีบพูดด้วยความตกใจว่า "เนี่ยนเนี่ยน น้องสาวเจ้าก็พูดไปเรื่อย อย่าไปใส่ใจเลย นางก็แค่เป็นห่วงเสี่ยวชุ่ยเท่านั้นเอง"เฉียวเนี่ยนมองฮูหยินหลินที่รีบปกป้องหลินยวนอย่างรวดเร็วในตอนนี้ และนึกถึงท่าทางของนางในวันนี้ที่พาไปพบหมิงอ๋องด้วยตนเอง มันช่างแตกต่างกันอย่างชัดเจนน่าอดสูนักในใจเฉียวเนี่ยนรู้สึกเย็นชามากขึ้น แต่ริมฝีปากกลับยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆ "ข้ารู้ แต่ว่าเสี่ยวชุ่ยกำลังรักษาตัวอยู่ในเรือนฟางเหอ ไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ"ทว่าเมื่อหลินยวนได้ยินเช่นนั้น กลับยิ่งตกใจหนักขึ้น "รักษาตัว? รักษาตัวอะไร? เสี่ยวชุ่ยสบายดีไม่ใช่หรือ ทำไมต้องรักษาตัว? ท่านพี่ ท่านทำร้ายนางใช่ไหม?" พูดไป น้ำตาก็หยดลงมาเป็นเม็ดๆเฉียวเนี่ยนรู้สึกเบื่อหน่ายสุดๆ จึงพูดขึ้นว่า "ถ้าเจ้าห่วงจริง ก็ไปกับดูนางกับข้าสิ!"นางไม่รอคำตอบจากทั้งสอง และเดินตรงไปยังเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 134

    ทันทีที่เสียงของฮูหยินหลินดังขึ้น หลินยวนก็ล้มตัวลงคุกเข่ากับพื้นทันที "ไม่เอานะ! ท่านแม่! อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย! นางไม่ได้ตั้งใจ นางไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น!"เฉียวเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกขำไม่น้อย "คำพูดของแม่นางหลินหมายความว่าอย่างไร? หรือจะสื่อว่าข้าเป็นคนสั่งสอนให้นางพูดเช่นนั้นงั้นหรือ?"หลินยวนชะงักไปชั่วครู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยน้ำตา นางส่ายหน้าไปมาอย่างทุกข์ใจแล้วร้องขอฮูหยินหลินด้วยความเจ็บปวด "ไม่ใช่นะเจ้าคะ ข้า...ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่เสี่ยวชุ่ยยังเด็ก ยังไม่ประสีประสาจึงพูดจาไม่สมควรไป ท่านแม่เชื่อใจข้าเถอะ ต่อไปข้าจะอบรบนางให้ดี! ท่านแม่... ขอร้องล่ะ อย่าขับไล่เสี่ยวชุ่ยไปเลย..."แต่ไหนแต่ไรมา ทุกครั้งที่หลินยวนร้องไห้ ฮูหยินหลินมักจะใจอ่อนเสมอแต่วันนี้ บางทีอาจเป็นเพราะเสี่ยวชุ่ยได้ลำเส้นที่ฮูหยินหลินไม่อาจยอมรับได้ ฮูหยินหลินจึงไม่ได้ใจอ่อนเหมือนเช่นเคย กลับมองหลินยวนด้วยสายตาที่เต็มไปความเข้มงวด "แค่เป็นนางบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น ยวนเอ๋อร์ เจ้าต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยหรือ?"ฮูหยินหลินรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า เพื่อเพียงแค่นางบ่าวคนหนึ่ง หลินยวนทำมากเก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 135

    น้องสาวแท้ๆ หรือ?เสี่ยวชุ่ยเนี่ยนะ?ดวงตาคู่สวยของเฉียวเนี่ยนจับจ้องอยู่ที่เสี่ยวชุ่ย ความคิดในหัวนางพลันปั่นป่วนเพราะคำพูดของหลินยวนส่วนฮูหยินหลินองก็ยังคงเงียบงัน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงมีเพียงหนิงซวงที่ไม่เชื่อคำพูดนี้แม้แต่น้อย นางตวาดออกมาเสียงดังลั่นว่า "เป็นไปไม่ได้! เสี่ยวชุ่ยไม่เหมือนคุณหนูของข้าเลยสักนิด! จะเป็นพี่น้องแท้ๆ กันได้อย่างไร?"ดูเหมือนว่าคนภายนอกจะมองเห็นอะไรชัดเจนกว่าผู้เกี่ยวข้องเองเสียอีกเฉียวเนี่ยนเริ่มใช้สายตาสำรวจเสี่ยวชุ่ยหลังจากที่หนิงซวงพูดจบผิวของนางขาวผ่อง แต่เสี่ยวชุ่ยกลับมีผิวที่ดำคล้ำโดยกำเนิดนางมีตากลมโต ในขณะที่เสี่ยวชุ่ยมีหางตาเรียวและคมไม่เพียงแค่ดวงตาเท่านั้นจมูก ปาก หรือแม้แต่ใบหู ทั้งหมดไม่มีส่วนไหนที่คล้ายกันเลยแม้แต่น้อยแต่หลินยวนตอบขึ้นทันที "เพราะเสี่ยวชุ่ยเหมือนพ่อของนาง! เสี่ยวชุ่ยกับพ่อของนางแทบจะเหมือนกันทุกประการ ท่านพี่... ท่านพี่เหมือนแม่ของนางเจ้าค่ะ"แม่งั้นหรือ?เฉียวเนี่ยนมองไปที่หลินยวนด้วยท่าทางเย็นชาเกี่ยวกับแม่ของนาง เฉียวเนี่ยนไม่เคยพบหมอตำแยที่ทำคลอดให้ฮูหยินหลินในอดีตเลยด้วยซ้ำเพียงแต่ได้ยินคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 136

    ฮูหยินหลินรู้สึกคล้ายว่ามีบางอย่างแปลกประหลาดอยู่ในใจของนางหลินยวนร้องไห้พลางตะโกนว่า "ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง! ข้าเป็นคนหลอกลวงพ่อแม่เอง เป็นความผิดของข้า ท่านแม่โปรดลงโทษข้าด้วยเถิด!เมื่อกล่าวจบ นางก็ก้มศีรษะให้ฮูหยินหลินแต่บางทีฮูหยินหลินอาจกำลังสับสนและว้าวุ่น จึงไม่ได้ช่วยพยุงหลินยวนขึ้นเหมือนตลอดมาด้วยเหตุนี้ หลินยวนจึงยังคงอยู่ในท่าศีรษะโขกพื้นและคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฮูหยินหลิน ทั้งร่างของนางสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นดังนั้น เสี่ยวชุ่ยรีบวิ่งไปคุกเข่าข้างหลินยวนทันที "ฮูหยิน คุณหนูทำเช่นนี้เพื่อปกป้องบ่าวเท่านั้น หากฮูหยินจะโกรธหรือกล่าวโทษ ก็ขอให้โทษบ่าวเถิด! ได้โปรดอย่าโกรธคุณหนูเลย!"พูดจบ เสี่ยวชุ่ยก็เริ่มโขกศีรษะ "ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าวเองเจ้าค่ะ! ขอฮูหยินโปรดอภัยให้คุณหนูด้วยเถิดเจ้าค่ะ!"นางกล่าวพลางโขกศีรษะลงกับพื้นพลางไม่นานนัก หน้าผากที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาเห็นภาพนั้น ฮูหยินหลินรู้สึกว่าหัวใจของตนสั่นสะท้านแต่ก็ไม่รู้ทำไม นางกลับค่อยๆ หันมองไปยังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนเข้าใจถึงความไร้ทางออกของฮูหยินหลินใน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 137

    เช้าวันถัดมาหลังจากเฉียวเนี่ยนล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว นางก็นั่งลงเพื่อรับประทานอาหารเช้าหนิงซวงเดินเข้ามาคอยปรนนิบัติ ตั้งแต่ต้นจนจบ รอยยิ้มบนริมฝีปากของนางยังคงสดใสจนทำให้เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะถามว่า "มีอะไรดีใจขนาดนั้นหรือ?""ไม่มีนี่เจ้าคะ!" หนิงซวงปฏิเสธทันที แต่แล้วนางก็มองไปที่กลุ่มสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างนอก ก่อนจะพูดเสียงเบาลง "ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เสี่ยวชุ่ยยังไม่ได้กินอะไรเลยเจ้าค่ะ"เป็นไปตามที่คาดไว้เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขึ้น "แล้วเจ้าไม่ได้ให้อะไรนางกินหรือ?""จะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ! บ่าวเอาของดีๆ ทุกอย่างไปให้แล้วเจ้าค่ะ!"หนิงซวงตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่นางเองก็รู้ดีว่า เพราะของที่นางมอบให้นั้นดีเกินไป ทำให้เสี่ยวชุ่ยไม่กล้ากินมันเลยเฉียวเนี่ยนหัวเราะเย็นชา แล้วไม่ได้ตอบอะไรแต่หนิงซวงกลับทำสีหน้าจริงจังขึ้น และถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณหนูแน่ใจแล้วหรือเจ้าคะ ที่คิดว่าเสี่ยวชุ่ยคือน้องสาวของท่าน?"เรื่องที่คุณหนูรองพูดเมื่อวานนั้น ไม่ว่าจะคิดยังไงหนิงซวงก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดเฉียวเนี่ยนยักไหล่แล้วตอบอย่างไม่สนใจ "ไม่เป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 138

    เฉียวเนี่ยนกำแข่นแน่นเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็คือคนที่ส่งนางไปที่กรมซักล้างและสั่งให้นางบ่าวในกรมซักล้างข่มเหงนางเป็นเวลาถึงสามปี!องค์หญิงซูหยวนนั่นเอง!แต่ดูเหมือนว่าองค์หญิงซูหยวนจะจำนางไม่ได้เลยดวงตาคู่นั้นมองเฉียวเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะถามขึ้น "เจ้ากำลังด่าข้าว่าไม่ใช่มนุษย์หรือ?"เฉียวเนี่ยนคิดในใจว่า ถ้านางจำตนไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเหมือนว่าจำนางได้เช่นกัน!ดังนั้นจึงยิ้มบางๆ และตอบกลับไป "คุณหนูอย่าพิโรธเลย ข้าหมายความว่าเราทำการค้าขาย ต้องมีความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐาน"องค์หญิงซูหยวนยังคงมองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความดูถูก ยกคิ้วถามว่า "เจ้าคือใคร?"เฉียวเนี่ยนจึงเดินเข้าไปหาองค์หญิงซูหยวนแล้วหยิบสัญญาที่ดินที่กุ้ยเฟยให้เมื่อวานออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นให้กับผู้ดูแลร้าน "ข้าเพิ่งซื้อร้านนี้เมื่อวาน ดังนั้นถ้าพูดตามตรง ข้าคือเจ้าของร้านนี้"ผู้ดูแลร้านมองไปที่สัญญาที่ดิน ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมสัญญานี้ถึงอยู่ในมือของเฉียวเนี่ยน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนขึ้นมาเป็นเจ้าของ เขาก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งอีก และพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ใช่แล้ว ท่านนี่แหละค

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 139

    ในดวงตาขององค์หญิงซูหยวนเต็มไปด้วยความชิงชังอย่างชัดเจนแต่เฉียวเนี่ยนกลับไม่แสดงอาการตกใจหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยเฉียวเนี่ยนคุกเข่าลงอย่างมีมารยาทแล้วคำนับกล่าวคำทักทาย "องค์หญิงเสด็จในคราบชาวบ้าน หม่อมฉันจึงไม่กล้าแสดงออกว่าจำองค์หญิงได้เพคะ ก่อนอื่นขอให้องค์หญิงโปรดอภัยในความผิดของหม่อมฉันด้วย"ซึ่งโดยนัยก็คือ เพราะองค์หญิงซูหยวนไม่ได้เปิดเผยตัวตนก่อน ดังนั้นเฉียวเนี่ยนจึงไม่กล้าที่จะเปิดเผยว่าจำนางได้ในทันทีองค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยนอย่างเย็นชา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความดูถูกองค์หญิงซูหยวนไม่ได้สนใจที่เฉียวเนี่ยนทำเหมือนไม่รู้จักนาง แต่กลับรู้สึกไม่พอใจที่ตัวเองถูกใช้ประโยชน์ พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ข้าคิดว่าเจ้าคงเรียนรู้มารยาทจากการที่เข้าไปอยู่ในกรมซักล้างถึงสามปีมาบ้างแล้ว"แทนที่จะเป็นเช่นตอนนี้ ที่เฉียวเนี่ยนไม่เพียงแต่ไม่แสดงความกลัวแม้แต่น้อยเมื่อเผชิญหน้ากับนาง แต่ท่าทางการทำความเคารพของก็ยังแสดงออกถึงไม่อ่อนน้อมอีกด้วยมันทำให้นางอยากจะส่งเฉียวเนี่ยนกลับไปที่กรมซักล้างเพื่อซักเสื้อผ้าอีกสามปีเลยทีเดียว!เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบอะไร นางรู้ว่าองค์หญิงซู

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 140

    หลินยวนกับหลินเย่ว์ก็ตามเข้ามาด้วยเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนยืนอึ้งอยู่ที่เดิม หลินยวนก็เดินเข้ามาใกล้แล้วพูดว่า "ทั้งหมดนี้ท่านพี่สั่งให้คนจัดเตรียมไว้ ชอบหรือไม่เจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีอาหารจานดีๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น จริงๆ แล้วล้วนแต่เป็นอาหารที่นางชอบถึงขั้นที่บางจาน นางสามารถบอกได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของพ่อครัวจากร้านไหนเพื่อจัดเตรียมอาหารทั้งหมดบนโต๊ะนี้ หลินเย่ว์คงวิ่งไปร้านอาหารและโรงเตี๊ยมไม่ต่ำกว่าสิบแห่งเหมือนกับสิบห้าปีก่อนที่เขาเคยทำเพื่อนางแล้ว หลินเย่ว์มักจะยอมทุ่มเททั้งเวลาและพลังงานมากมายหากเป็นเมื่อก่อน เฉียวเนี่ยนคิดว่า ตอนนี้นางคงจะดีใจและรู้สึกประทับใจมากๆหากว่า... ไม่มีสามปีนั้น...เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนยังคงเงียบอยู่ หลินยวนก็เหมือนจะนึกอะไรได้ แล้วพูดขึ้นว่า "ท่านพี่ยังเตรียมของขวัญให้ท่านด้วยนะ!"พูดเสร็จหลินยวนก็เร่งเร้าให้หลินเย่ว์เอาของขวัญออกมาหลินเย่ว์ดูเหมือนจะรู้สึกเขินและเกร็งเล็กน้อย เขาค่อยๆ นำปิ่นปักผมออกมาจากแขนเสื้อ"นี่... ข้าแกะสลักเองกับมือ เจ้าอย่ารังเกียจมันเลยนะ"หลินเย่ว์พูดเสียงแข็งแล้วยื่นปิ่นปักผมไปให้เฉียว

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 491

    หนิงซวงก็เห็นรอยขีดข่วนบนลำต้นไม้เช่นกันนางรีบลุกขึ้นยืน คว้าชายแขนเสื้อของหวังเอ้อไว้แน่น "ต้นเหมยแดงต้นนี้รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนปลูกเอาไว้ คุณหนูไม่มีทางทำร้ายมันเด็ดขาด! หวังเอ้อ ทำยังไงดี! คุณหนูต้องถูกใครจับตัวไปแน่ ๆ !"รอยขีดนี้ ต้องเป็นรอยที่คุณหนูทิ้งไว้ตอนดิ้นรนขัดขืนแน่ ๆ !หวังเอ้อเองก็ร้อนใจเช่นกัน แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว "เจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ตระกูลเซียว ข้าจะไปหาท่านโหวน้อยที่จวนโหว!"แม้ว่าคุณหนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเชื่อว่าท่านโหวน้อยต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ส่วนตระกูลเซียว แม้ว่าคุณหนูของนางจะหย่าขาดกับคุณชายใหญ่ไปแล้ว ทว่าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คิดว่าตระกูลเซียวคงไม่เพิกเฉยแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ลำพังเขากับหนิงซวงแค่สองคน จะไปช่วยคุณหนูได้อย่างไรกัน?เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หนิงซวงก็พยักหน้ารัว ๆ แล้วรีบปาดน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกจากจวนไปอย่างเร่งรีบไม่นานนัก นางก็วิ่งไปถึงตระกูลเซียว พอเห็นพ่อเซียวกับแม่เซียว ก็ทรุดลงคุกเข่าในทันที "นายท่าน ฮูหยิน ได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิด! คุณหนูของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว!"เมื่อได้ยิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 490

    เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้จึงพยักหน้าแรง ๆ หลายครั้ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้ ภายในสามวันเรื่องนี้ต้องแล้วเสร็จแน่นอน จะไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มแย้มอย่างงดงาม "ดี"หวังเอ้อจึงคำนับแล้วถอยออกไปขณะเดียวกันใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันจมดิ่งลงสู่หุบเหวคำพูดของแม่เซียวเมื่อครู่นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหูโดยเฉพาะประโยคนั้นที่ว่า 'ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไร้วิธีแก้ไข' ช่างราวกับมีดเล่มหนึ่งที่คอยเฉือนนางอย่างไม่หยุดยั้งผู้คนที่นางใกล้ชิดที่สุดต่างทยอยจากนางไปทีละคนแต่แม่เซียวกลับบอกนางว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะตัวนางเองเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นริ้ว ๆเฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ต้นเหมยแดงต้นนั้น บัดนี้หาได้เป็นเพียงต้นเปล่าโล้นเช่นก่อนออกเรือนไม่มันแตกหน่อใบเขียวออกมาแล้ว ที่ปลายกิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเจิดจ้าจนถึงเวลานี้ ความเจ็บปวดที่แน่นอัดในอกของเฉียวเนี่ยนจึงคล้ายจะทุเลาลงบ้างนางเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ ลูบไล้ลำต้นอย่างแผ่วเบา ภ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 489

    เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 488

    แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status