Home / แฟนตาซี / พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ / ตอนที่ 1 : เริ่มต้นใหม่..บนเส้นทางสายเก่า

Share

พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ
พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ
Author: บุปผารัญจวน

ตอนที่ 1 : เริ่มต้นใหม่..บนเส้นทางสายเก่า

last update Last Updated: 2025-02-22 17:17:08

อินทุภากำลังปอกมันฝรั่ง หลังจากหั่นหอมหัวใหญ่และมะเขือเทศเสร็จเรียบร้อย เธอเตรียมจะใส่ลงในหม้อที่กำลังเคี่ยวเนื้อวัวติดมันที่หั่นเป็นก้อนๆ กลิ่นหอมฉุยฟุ้งกระจายไปทั่วครัว เธอตั้งใจจะเคี่ยวให้นานหน่อย ตั้งใจทำให้เนื้อเปื่อยนุ่มเหมือนละลายในปาก เพื่อให้ผู้สูงอายุก็สามารถทานได้อย่างสบาย สตูเนื้อนี้เข้ากันได้ดีกับหมั่นโถวเนื้อนุ่ม ที่ญาติพี่น้องกำลังช่วยกันทำอยู่ในครัวด้านในตัวบ้าน  

เธอมาเมืองจีนเป็นครั้งแรกกับพ่อ เพื่อร่วมฉลองวันครบรอบอายุร้อยยี่สิบปีของคุณทวดซุนเหม่ยหลิง ซึ่งเป็นญาติสนิทกับคุณทวดเยว่ไท่อิงทวดของเธอเอง ในงานวันนี้ มีญาติพี่น้องมากมายจากหลายสกุลมาร่วมงาน เพื่อมาร่วมอวยพรกันอย่างคึกคัก

แม่ของคุณทวด เยว่ไท่อิง เดิมมีแซ่ซุน แต่เมื่อแต่งงานกับญาติห่างๆ ที่แซ่เยว่ จึงเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของสามี ทำให้พ่อของอินทุภาถือแซ่เยว่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขากลับใกล้ชิดกับญาติฝั่งตระกูลซุนมากกว่า 

อินทุภาทุ่มเทให้กับงานจนแทบไม่มีเวลาติดต่อกับญาติพี่น้อง เธอทำงานในบริษัทของแม่ในตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายการผลิต ซึ่งรับผิดชอบด้านการผลิตและออกแบบเครื่องประดับ รวมถึงงานโฆษณาทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ในธุรกิจทั้งหมดของมารดา นอกจากนี้ เธอยังทำงานฟรีแลนซ์ ออกแบบเครื่องประดับสตรีให้กับหลายแบรนด์ ทั้งที่มีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียง บางรุ่นติดตลาดจนกลายเป็นเทรนด์สินค้าขายดีบนโซเชียลมีเดียหลายสัปดาห์ แม้ว่าเธอจะเป็นที่รู้จักแค่เพียงในแวดวงนักออกแบบ แต่นั่นก็เป็นความสำเร็จเล็กๆ ที่เธอรู้สึกพอใจแล้ว  

เวลาคิดงานไม่ออก อินทุภามักออกไปหาแรงบันดาลใจในยิมมวย สนามขี่ม้า สนามยิงปืน หรือสนามฝึกซ้อมธนู หากยังไม่ได้ผล เธอก็จะออกเดินทางไปต่างจังหวัด แบกเป้ตั้งแคมป์ในป่าเพื่อพักสมอง มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าเธอมีความสามารถด้านศิลปะป้องกันตัว ล่าสุดเพิ่งสอบได้ยูโดสายดำขั้นที่ห้า และยังถนัดหย่งชุน ซึ่งเหมาะกับสรีระที่เล็กบางของเธอ เพราะช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและว่องไว

คนที่สนใจอยากสานสัมพันธ์กับเธอ มักมองจากภายนอกแล้วคิดไปเองว่าเธอเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน อ่อนโยน และบอบบาง จึงมักมีคนประเภท 'อัศวินผู้พิทักษ์' ที่ชอบเสนอตัวเข้ามาใกล้อยู่เสมอ แต่เมื่อได้รู้จักกันไปสักพัก พวกเขากลับขยาดและถอยห่างเป็นแถว โดยเฉพาะพวกมือปลาหมึกที่พอเจอท่าตัดหนวดของเธอเข้า ก็มักจะหนีหายไปหมด  

อินทุภาสูงร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร รูปร่างโปร่งบาง ผิวพรรณนวลเนียนเปล่งปลั่งเหมือนแม่ที่เป็นคนทางเหนือ ผสมกับความขาวแบบลูกครึ่งไทย-จีนจากพ่อ เธอได้รับใบหน้าคมสันจากบิดา และดวงตากลมโตแววหวานจากมารดามาอย่างครบถ้วน ทำให้เป็นหญิงสาวที่รูปลักษณ์ดูสะดุดตา   

เธอรู้สึกว่าเธอโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น สมาชิกในบ้านเคารพในไลฟ์สไตล์ของกันและกันเสมอ เช่น พ่อที่ชอบเดินทางไปเป็นแพทย์อาสาตามประเทศต่างๆ ส่วนแม่เป็นนักธุรกิจที่มองเห็นโอกาสในทุกสิ่ง หยิบจับอะไรก็เป็นธุรกิจไปหมด ความสนใจของอินทุภาหลายอย่างก็ได้รับอิทธิพลจากมารดาเช่นกัน  

อรรพี แม่ของเธอ เป็นเจ้าของธุรกิจหลายประเภท ตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านเครื่องประดับ ฟิตเนส ไปจนถึงโรงเรียนสอนดนตรี แน่นอนว่าหญิงสาวเองก็ซึมซับความสนใจด้านนี้ไปโดยปริยาย เพียงแต่เธอไม่ได้สนใจเครื่องดนตรีสากลเหมือนแม่ แต่กลับหลงใหลในเครื่องดนตรีจีน โดยเฉพาะผีผา ซอเอ้อหู และขลุ่ยผิว เวลาว่างๆ เธอกับแม่มักเล่นดนตรีร่วมกันเสมอ ส่วนพ่อก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆ บางครั้งก็ร่วมวงโดยรับหน้าที่เป็นมือกลอง เคาะโต๊ะให้จังหวะ  

จิรพงศ์ หรือ เยว่หัว พ่อของอินทุภา เป็นแพทย์อายุรกรรมเฉพาะทางในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง คุณย่า-แม่ของพ่อที่เป็นชาวจีนมาพบรักกับหนุ่มไทย และตัดสินใจลงหลักปักฐานในประเทศไทย แต่ทุกปีพวกเขาจะพาคุณพ่อในสมัยเด็กกลับไปเยี่ยมคุณทวดที่ประเทศจีนเสมอ  

“อาอิง! ..อาอิง! ..เยว่อิง!”

อินทุภาสะดุ้ง เพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ ไม่ได้ยินเสียงเรียกของซุนจ่งซาน ซึ่งเป็นญาติผู้พี่ดังมาแต่ไกล

“อยู่นี่ พี่ซาน!”

“เรียบร้อยหรือยัง? จะตั้งโต๊ะกินข้าวกันแล้วนะ”

“เสร็จพอดี จะยกไปเดี๋ยวนี้แหละจ้ะ”

ซุนจ่งซานเดินเข้ามาในครัวแยกด้านนอกตัวบ้าน มือเท้าสะเอว กวาดตามองไปที่ถ้วยซุปที่วางเรียงรายอยู่ในถาดโดยรอบ

“จะต้องเดินกี่รอบกันล่ะนี่!?!” เขาบ่น คิ้วขมวดมุ่นจนญาติผู้น้องต้องหัวเราะ

“เรายกไปคนละถาดก่อน แล้วค่อยให้น้องๆ ข้างในมาช่วยยกถาดที่เหลือก็ได้” หญิงสาวพูดพร้อมวางถ้วยซุปร้อนๆ ถ้วยสุดท้ายลงในถาดอย่างเรียบร้อยครบตามจำนวนคน  

ซุนจ่งซานเข้ามาหยิบไปถาดหนึ่ง ยืนรอจนหญิงสาวยกอีกถาดขึ้น จากนั้นจึงเดินนำออกไปก่อน  

เขามองญาติผู้น้องตัวเล็กเชื้อสายไทยคนนี้ ด้วยความเอ็นดู อายุยี่สิบห้า แต่ใบหน้ากลับดูอ่อนกว่าวัย ราวกับเด็กสาวอายุสิบแปด ดูยังไงก็เหมือนสาวน้อย มากกว่าคนที่เข้าสู่วัยเบญจเพส ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ที่ทำให้เขารู้สึกถูกชะตา ยังมีนิสัยร่าเริง เป็นมิตรกับสิ่งรอบตัว และรอยยิ้มสดใสนั่นด้วย ที่เขารู้สึกชื่นชอบ 

“หลังกินข้าว พี่จะออกไปตรวจคนไข้ตามหมู่บ้านที่ค้างจากเมื่อวาน วันนี้จะไปด้วยกันอีกไหม? หรือเหนื่อยแล้ว?” ซุนจ่งซานถามขณะเดินเข้าตัวบ้าน  

“เมื่อวานได้ยินพี่บอกว่าจะเข้าเมือง หนูยังคิดอยู่เลยว่าจะติดรถตามไปด้วย”  

“เสร็จจากตรวจคนไข้ก่อน แล้วค่อยเข้าไปในเมือง พี่ว่าจะเอาสมุนไพรไปเพิ่มที่ร้าน”  

“พี่ซานอยู่เฝ้าร้านก็ได้นะ หนูไปเดินดูรอบๆ คนเดียวก็ได้” 

“โอเค แต่ยังไงก็ต้องระวังตัวด้วยนะ เรามาต่างถิ่น คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ”  

“เยส เซอร์!” อินทุภารับคำ ก่อนทำท่าตบเท้าแบบทหาร  

ซุนจ่งซานหันมายิ้มอย่างเอ็นดูจนตาหยีเป็นเส้นเดียว  

เมื่ออินทุภาก้าวเข้ามาในบ้าน สายตาก็ปะทะเข้ากับคุณทวด ผู้เป็นแขกสำคัญของงานเลี้ยง ซึ่งนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ในตำแหน่งประธาน ท่านรูปร่างผอมบาง แม้จะอยู่บนรถเข็น แต่ยังดูสง่างามและเปี่ยมอำนาจ  ใบหน้าของท่าน  ดูอ่อนกว่าอายุจริง   เส้นผมสีดอกเลา เกล้ามวยไว้ข้างหลัง เสียบปิ่นหยกสีขาวราวกับหิมะ ไว้อย่างประณีต  

อินทุภาสังเกตว่า ตั้งแต่พบกันครั้งแรกจนถึงตอนนี้ คุณทวดมักจะมองเธอนิ่งๆ อย่างพิจารณาแทบทุกครั้ง ที่สบตากันผ่านกรอบแว่นตาสีทอง เธอสัมผัสได้ถึงความครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง ที่ไม่ใช่แววรังเกียจหรือเดียดฉันท์ คล้ายกับว่า ในดวงตาคู่นั้น กลับเต็มไปด้วยคำถาม ที่รอคอยการค้นหาคำตอบมากกว่า

“อาอิงมานั่งใกล้ๆ ทวดนี่” คุณทวดกวักมือเรียก พร้อมแตะพนักเก้าอี้ข้างๆ ตัว

“ไม่ได้ออกไปไหนใช่ไหมวันนี้ กินข้าวเสร็จแล้ว อยู่คุยกับทวดหน่อยได้ไหม”

“ไปในเมืองกับผมครับย่า” ซุนจ่งซานตอบแทน

“อ้อ” คุณทวดแตะหลังมืออินทุภา ที่วางประสานมืออยู่บนตัก

“งั้นแวะไปหาทวดที่ห้องก่อนนะ ทวดมีอะไรจะให้ดู”

“ได้ค่ะ” อินทุภารับคำ ยิ้มกว้างจนดูสว่างสดใสไปทั้งใบหน้า ทำให้คุณทวดชะงักนิดหนึ่ง

“เหมือนกันจริงๆ” คุณทวดรำพึงออกมาเบาๆ

“อะไรนะคะ คุณทวด?” อินทุภาถามอีกครั้งเพราะได้ยินไม่ถนัด คุณทวดได้สติ กะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะก้มหน้าน้อยๆ แล้วพูดตัดบท

“กินข้าวก่อน แล้วค่อยไปหาที่ห้อง”

………………………………….

อินทุภาหยุดยืนหน้าประตูห้องคุณทวด สายตาสอดส่องไปเห็นป้าลี่ก้มๆ เงยๆ ค้นหาบางสิ่งในลังไม้ใบใหญ่ของคุณทวด จนกระทั่งได้ยินเสียงอุทานอย่างดีใจ เมื่อพบสิ่งที่ตามหา  

“อันนี้ใช่ไหมเจ้าคะคุณท่าน! ลักษณะเหมือนที่คุณท่านบอกเป๊ะเลย” ป้าลี่เดินเข้ามาใกล้ ยื่นของในมือให้คุณทวดดูชัดๆ  

“อืม ใช่แล้ว! เออนะ..หามาตั้งนาน หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ เหมือนมีใครเอาไปซ่อน! แล้วดูวันนี้สิ กลับหาเจอได้ง่ายๆ อย่างกับรู้ว่า..เจ้าของเขามาแล้ว” คุณทวดพูดพลางจ้องมองของสิ่งนั้นนิ่งนาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้น และเห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตู  

"อ้าว! อาอิงมาแล้วหรือ มานี่ มานั่งใกล้ๆ" คุณทวดเอ่ยเรียก เมื่อเห็นอินทุภายืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าห้อง  

"เอ้า..เอาไปดูสิว่า สวยไหม?"  

อินทุภายื่นมือออกไปรับแหวนจากคุณทวด แหวนวงนั้นมีขนาดพอดี ไม่หนาหรือใหญ่จนเกินไป เป็นแหวนที่ทำจากหยก มีสีเหลืองเจือส้มแกมแดง ดูคล้ายสีของเปลวเพลิง มันวาวราวกับเคลือบขี้ผึ้ง ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเหมือนปุยนุ่น  

สีสันของหยกสอดประสานกันเป็นลวดลายงดงาม ราวกับถูกแกะสลักขึ้นจากเนื้อหยกโดยธรรมชาติ พื้นผิวด้านนอกเรียบลื่นเป็นมัน เส้นสีแดงเข้มพาดซิกแซกตัดผ่านลวดลายอย่างลงตัว ส่วนที่เป็นสีขาวนั้นบริสุทธิ์ราวกับหิมะ เนื้อหยกละเอียดโปร่งใส ถือเป็นหยกคุณภาพสูง ไร้รอยตำหนิหรือรอยแตกร้าว ไม่มีมลทินภายนอก และปราศจากมลทินภายใน ที่มักพบเป็นแร่สีดำ หรือน้ำตาลเข้มกระจายเป็นหย่อมๆ

เธอเพ่งพินิจใกล้ๆ และแน่ใจว่าเป็นชนิดเดียวกันกับ ไวท์ เจไดต์ ที่เป็นหยกหาได้ยากมีราคาสูง และได้รับความนิยมรองจากหยกสีเขียวจักรพรรดิ ถ้าไม่เป็นแหวนสำหรับนิ้วก้อยของผู้ชาย ก็คงเป็นขนาดนิ้วกลางของผู้หญิง

“สวยค่ะคุณทวด สีสันในเนื้อหยก สอดผสานกันเป็นลวดลายดูสวยแปลกตามากๆ หนูเคยเห็นหยกมามากมายหลายชนิด แต่ไม่เคยเห็นหยกที่มีสี และลวดลายแบบนี้มาก่อนเลย”

"เก็บเอาไว้ให้ดี นี่เป็นของเก่าสมัยราชวงศ์ เป็นหยกประจำตระกูล ท่านฝากไว้ให้เป็นของแทนใจ ก่อนหนูจะมา หาแหวนเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ คิดไว้ว่า..ถ้าหาไม่เจอจริงๆ คงต้องให้ดูภาพวาดแทนไปก่อน"  คุณทวดกล่าวเสียงเรียบ พลางหันไปหยิบของที่วางอยู่บนโต๊ะ

"หนูรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ! ของเก่าแบบนี้มีมูลค่าสูงมาก" อินทุภารีบยื่นแหวนคืนให้ แต่คุณทวดกลับไม่รับ  

"ดูนี่ก่อน" คุณทวดพูดตัดบท ก่อนยื่นม้วนภาพเขียนให้แทน  

หญิงสาวกำแหวนไว้มือหนึ่ง รับภาพมาแล้วค่อยๆ คลายม้วนออก ดวงตากลมหวานเบิกกว้างขึ้น เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าเต็มตา  

"ผู้หญิงคนนี้เป็นใครหรือคะ?" อินทุภาพึมพำเบาๆ สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของหญิงสาวในภาพ "งดงามมาก... น่ารักเหมือนตุ๊กตาจีน"  

ภาพวาดนั้นละเอียดอ่อนจนแทบไม่น่าเชื่อว่าถูกวาดขึ้นด้วยมือ เส้นสายของแสงและเงาที่เก็บรายละเอียดไว้อย่างประณีต ทำให้ภาพแลดูสมจริงดูมีชีวิตชีวา ราวกับถูกถ่ายจากกล้องสมัยปัจจุบัน  

เธอเพ่งมองใบหน้าของหญิงสาวในภาพอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย 

"แปลกจัง... ใบหน้าคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่นึกไม่ออก" อินทุภายืดภาพออกจนสุดแขน หวังจะมองรายละเอียดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น… 

เอ๋...!?!

เธอมองหน้าคุณทวด เห็นท่านกำลังยิ้มน้อยๆ มองอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะเอ่ยปากถาม

“เหมือนใช่ไหม? เห็นใช่ไหมว่าเหมือนใคร?” 

ยังไม่ทันที่เธอจะตอบอะไร ก็เห็นคุณทวดหันหน้าไปทางเสียงที่กำลังจะเดินเข้ามาในห้อง จึงมองตาม

“อาอิง! คงต้องเลื่อนนัดแล้วล่ะ พี่ต้องไปดูลุงหมิ่น แกป่วยตั้งแต่เมื่อวาน เมียแกเพิ่งจะมาตามให้พี่ไปดูวันนี้ บ้านแกอยู่ไกลคงเสียเวลาทั้งวัน”

“ไม่เป็นไรพี่ หนูกำลังอยากอยู่คุยกับคุณทวดพอดี” เธอกำลังอยากรู้ ในสิ่งที่คุณทวดกำลังจะบอก

“งั้นพรุ่งนี้ค่อยเข้าเมือง ออกเช้าหน่อย ตื่นไหวไหม?”

“ไม่มีปัญหา!”

“ตามนั้น เออ! เตรียมคิดเมนูเย็นนี้ไว้ได้เลย ขากลับคงจะมีเนื้อหมูติดมือมาฝาก” ซุนจ่งซานพูด แล้วยิ้มอย่างนึกขัน

“แถวนั้นมีตลาดด้วยหรือคะ?” อินทุภาอดแปลกใจไม่ได้ เพราะแต่ละบ้านมีพื้นที่อยู่ห่างกันมาก มองไม่เห็นว่าตรงไหนจะเป็นตลาด

“หมูลุงหมิ่นน่ะแหละ แกเลี้ยงไว้ขาย แกจ่ายค่ารักษาให้พี่เป็นเนื้อหมูแทน”

“เขาก็อยากให้เป็นเงินไม่ใช่หรือเล่า แต่แกต่างหากที่ไม่เอา เขาก็ต้องตอบแทนเป็นอย่างอื่น นี่ถ้ามีเป็ด มีไก่ มีวัวก็คงยัดเยียดให้แบกมาด้วยจนได้น่ะแหละ” คุณทวดพูด พลางส่งสายตาค้อนหลานชายไปด้วย

“ก็ลุงเขาต้องส่งเงินให้ลูกชายไว้เรียนหนังสือ เหลือไว้ใช้ไม่เท่าไหร่ แล้วผมก็ไม่ได้เสียเงินซื้อสมุนไพรมาจากไหน ผมหาเอาจากในป่าทั้งนั้น” ซุนจ่งซานพูด พลางยกมือลูบท้ายทอย หัวเราะแก้เก้อไปด้วย

ซุนจ่งซาน เป็นแพทย์แผนจีนโบราณ อายุสามสิบปลายๆ ผิวขาว นัยน์ตาดำยาวรีคมสวย ขนตางอนยาว เครื่องหน้าโดยรวม ทำให้ใบหน้าดูหวานกว่าผู้ชายทั่วไป ผมดำดกหนาอยู่เหนือหน้าผากกว้าง บอกลักษณะเป็นคนฉลาดเฉลียว เขาเป็นคนสูงมาก อาจจะถึงร้อยแปดสิบห้า รูปล่างล่ำสันก็จริงแต่ดูเพรียว มีกล้ามเล็กน้อย แต่คล้ายกล้ามของนักเทนนิส มากกว่ากล้ามของนักยกน้ำหนัก

เขาเป็นแพทย์มีปริญญา เลือกที่จะศึกษาศาสตร์ด้านสมุนไพรจีน เขาเปิดคลินิกรักษาโรคด้วยสมุนไพรในตัวเมือง และไม่ค่อยจะร่ำรวยเหมือนแพทย์ปริญญาคนอื่นๆ

คนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านในละแวกชุมชน และมีเงินน้อย บางครั้งก็รักษาฟรี แล้วก็ได้ค่ารักษาเป็นผัก เป็นเนื้อ ติดมือกลับมาอยู่บ่อยๆ แต่ซุนจ่งซานก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร

เขาบอกว่า ก็ไม่ต่างอะไรกับพ่อของเธอ ที่ไปเป็นแพทย์อาสา ตัวเขาไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ที่เรียนหมอก็เพื่อตอบแทนบุญคุณท่านหมอคนหนึ่ง ที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ในวัยเด็ก จากที่ป่วยหนักจนเกือบจะหมดลมหายใจอยู่รอมร่อ กลับฟื้นคืนชีวิตราวกับปาฏิหาริย์ เขาเคยเป็นผู้ได้รับมาก่อน ชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่ ก็สมควรแล้วที่จะเป็นผู้ให้บ้าง

“พี่ไปนะอิงอิน ผมไปแล้วครับย่า”

ซุนจ่งซานเดินไปกอดคุณทวดไว้หลวมๆ แล้วหันมายิ้มให้ญาติผู้น้องนิดหนึ่งก่อนจะเดินออกไป

อินทุภาอมยิ้มตามหลัง เขาชอบล้อเธอว่ามีเชื้อจีนอยู่เพียงเสี้ยวเดียว แต่ก็ยังอุตส่าห์มีชื่อจีนกับเขาด้วย จึงเรียกชื่อไทย-จีนของเธอผสมกันแบบนี้ คงจะเป็นเรื่องสนุกของเขา 

อินทุภามีชื่อจีนว่า ‘เยว่อิง’ ซึ่งแปลว่า จันทร์กระจ่าง พ่อได้ไอเดียมาจากนางเอกเรื่องสามก๊ก และตรงกับคำแปลชื่อไทยที่แม่ตั้งให้อินทุภาที่แปลว่า ‘แสงจันทร์’ พอดี

อินทุภากับคุณทวด คุยกันจนลืมเวลา จนป้าลี่เดินถือถ้วยชาเข้ามาแล้วอุทาน

“อั๊ยหยา! คุณท่าน! วันนี้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนเจ้าคะ ไม่เหนื่อย ไม่เพลียเลย” นางพูด พลางอมยิ้มขำๆ ไปด้วย

“ตายจริง! หนูลืมเวลานอนกลางวันของคุณทวด” อินทุภาขอโทษคุณทวด รู้สึกแย่ ที่ไม่ได้ใส่ใจคุณทวดเท่าที่ควร ไม่สมกับที่พ่อไว้วางใจให้ดูแล ซึ่งกำชับแล้วกำชับอีก ก่อนออกเดินทางไปแอฟริกา

“ไม่เป็นไร ย่าไม่ได้เพลียอะไร มีความรู้สึกว่าต้องรีบพูดรีบบอก ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้ได้พูดอีกแล้ว”

“หนูยังอยู่อีกหลายวันนะคะคุณทวด ต้องรอพ่อกลับจากแพทย์อาสาก่อน”

“ทวดมีชีวิตอยู่..  เพื่อรักษาคำมั่นสัญญา   ที่เคยให้ไว้กับ..ท่านทวดเยว่ฮวา เพื่อมอบของสองสิ่งนี้ให้ถึงมือของเจ้าของให้ได้ เมื่อหมดพันธะแล้ว จิตวิญญาณก็คงจะได้เป็นอิสระเสียที”

คุณทวดพูด พลางถอนใจยาว จับมือข้างที่อินทุภากำแหวนไว้ในมือมาบีบเบาๆ แล้วมองเธอนิ่งนาน

“จำคำทวดไว้นะ.. เมื่อพระจันทร์ดวงเดียวเด่นเต็มดวง แสงแห่งจันทร์โชติช่วงอีกดวงจะกลับมา”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 2 : คน..หรือวิญญาณ!!

    อินทุภาออกมานั่งสูดอากาศยามค่ำคืนใต้ต้นอวี้หลัน เธอเงยหน้ามองพระจันทร์ที่ใกล้จะเต็มดวง หลับตารับรู้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยมาตามลมคนจีนส่วนใหญ่จะชอบดอกอวี้หลันมาก หากพอมีที่ดินหรือลานบ้าน มักจะต้องปลูกต้นอวี้หลันสักต้น และจะออกดอกเพียงปีละครั้ง มีข้อเสียอย่างเดียวตรงที่ จะเบ่งบานได้แค่เพียงสิบวัน แต่ดอกอวี้หลันของที่นี่ มีมากมายหลายสิบพันธุ์ และมีหลากสีสัน ช่วงเวลาที่ทยอยกันบานจึงนานนับเดือน อวี้หลันทนความหนาวเย็น ลบยี่สิบองศาได้ดี และสู้ความร้อนที่มากกว่าสี่สิบองศาได้อีกด้วย ไม่ต้องให้ปุ๋ยหรือให้การดูแลที่ดีก็โตได้อินทุภาถอนใจ เพราะทุกครั้งที่ยืนอยู่ใต้ต้นอวี้หลันต้นนี้ ก็รู้สึกว่า..ถึงแม้จะผลิดอกขาวทั้งต้น และทั้งๆ ที่สวยงามแต่กลับให้ความรู้สึกว่าเหงามาก ใบร่วงหล่นโกร๋นไปทั้งต้น ก่อนดอกตูมจะผลิออกมา ซึ่งใบกับดอกไม่เคยพบกัน ทั้งที่พวกมันก็อยู่ใกล้กันเพียงแค่นี้ เหมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งการพลัดพราก และรอคอยอินทุภาคิดไปพลาง คลำแหวนหยกที่คออย่างเผลอๆ เธอได้นำแหวนที่ได้จากคุณทวด มาร้อยใส่สร้อยห้อยคอไว้ เพราะของที่มีมูลค่าสูงแบบนี้ ใส่ไว้ในมืออาจเกิดแตกหักสูญหาย คงจะน่าเสียดายไม่น้อยเธอหวนน

    Last Updated : 2025-02-22
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 3 : กลับมาพบกันอีกครั้ง(nc นิดๆ)

    เวลานี้ยังไม่ดึกมากนัก อินทุภาเดินหลีกญาติๆ ที่กำลังนั่งล้อมวงดื่มเหล้ากันอยู่ ออกมาทางสวนหลังบ้าน เธออดขำไม่ได้ เมื่อคิดว่าพวกเขาคุยกันรู้เรื่องได้อย่างไร ต่างคนต่างพูด ต่างคนต่างเล่าเรื่อง จนแทบจะจับใจความไม่ได้ คงเพราะไม่ได้เจอหน้ากันมานาน ทำให้เสียงตะโกนคุย ดังโหวกเหวกกระหึ่มไปทั่วทั้งห้องโถงอินทุภามีปัญหาด้านการนอน ต้องอยู่ในที่เงียบสงบจริงๆ ถึงจะหลับได้ หากมีเสียงอื้ออึงแบบนี้ตลอดทั้งคืน คงหลับตาไม่ลงแน่ๆ เธอกินยาแก้ปวดหัวแล้วเดินลัดเลาะออกมา กะว่าจะนั่งพักสายตารับลมใต้ต้นอวี้หลันนี้สักครู่ รอให้ยาออกฤทธิ์ก่อน แล้วค่อยกลับไปลองพยายามนอนใหม่อีกครั้งแกร่บ! แกร่บ! แกร่บ!เสียงฝีเท้าย่ำลงบนใบไม้แห้งดังกรอบแกรบ ทำลายความเงียบสงบที่ปกคลุมอยู่ อินทุภาลืมตาขึ้นมอง ก่อนจะเห็นชายวัยกลางคนผู้เป็นญาติห่างๆ ซึ่งหากนับลำดับเครือญาติกันดีๆ แล้ว เขากลับมีศักดิ์เป็นรุ่นหลาน แต่ดันมีอายุมากกว่าเธอเกือบสองรอบ พอเดินเข้ามาใกล้ ก็นั่งลงข้างตัวเธออย่างเงียบเชียบ“ทำไมมานั่งคนเดียวล่ะ?” ขณะที่เขาเปิดปากพูด กลิ่นเหล้าก็ลอยคละคลุ้งวนเวียนอยู่ในอากาศรอบๆ ตัว อินทุภาขยับจะลุก แต่เขากลับคว้าหมับเข้าที่

    Last Updated : 2025-02-22
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 4 : เคยเกิดขึ้นมาก่อน..แต่ทำไมหม่อมฉันเพิ่งเคยเจอ!?!

    “เอ่อ.. อะแฮ่ม.. คือว่า..เรา..มานั่งคุยกันดีกว่าไหมคะ ถ้าคุณยังไม่ได้หายไปไหน” เธอพยายามทำเสียงให้ปกติ แต่ก็ยังดูอึดอัดขัดเขินอินทุภาหันตัวเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ไผ่ยาวแบบมีพนักพิงใต้ต้นอวี้หลัน โดยเลือกนั่งชิดติดมุมด้านหนึ่ง สักพักเขาเดินมานั่งข้างๆ ห่างกันแค่ฝ่ามือเดียว เห็นเขายังนั่งนิ่งเธอก็เลยชวยคุย เพื่อทำลายบรรยากาศที่ชวนอึดอัด“ฉันเป็นคนไทย มีญาติอยู่ที่นี่ แล้วคุณล่ะ? ชื่ออะไร? มาจากที่ไหน? เล่าเรื่องของคุณให้ฉันฟังบ้างสิคะ” อินทุภาเริ่มประเด็นที่อยากรู้ชายหนุ่มมองหน้าอินทุภานิดหนึ่งแล้วเอนตัวพิงพนัก ไถลตัวลงเล็กน้อย ขายาวทอดไปข้างหน้า เพื่อให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้น ต้นขาของเขาแข็งแรง แต่ละข้างใหญ่กว่าเอวของเธออีกนัยน์ตาของเขายาวรีและดำสนิท เครื่องหน้าแต่ละชิ้นคมสันเหมือนรูปสลัก มือของเขาได้รูปสวย เรียวและแข็งแรง เสื้อผ้าที่สวมใส่ตัดเย็บอย่างประณีตทีเดียว สังเกตจากเนื้อผ้าค่อนข้างจะโบราณไปหน่อย แต่ก็หรูหราเกินฐานะคนธรรมดาทั่วไปจะสวมใส่ได้ เธอลอบสำรวจเขาเงียบๆ ระหว่างที่อยู่ในสภาวะเดดแอร์ด้วยกันอย่างนี้ อะไรอย่างหนึ่งบอกอินทุภาว่า ผู้ชายคนนี้เป็นคนจริง เมื่อเขาต้องการอะไร เข

    Last Updated : 2025-02-22
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 5 : สิ่งที่พาข้ามมิติคือ..!?!

    “พี่ซาน!” อินทุภาเคาะประตูเรียก“เข้ามาเลย ไม่ได้ล็อก” ยังไม่ทันจะแตะลูกบิด ซุนจ่งซานก็เปิดประตูออกมาเสียเอง“โอ้โฮ ทำไรคะนี่!?!” อินทุภาชะโงกหน้ามาดูในห้องจากช่องประตู ซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือที่กางเอาไว้บนโต๊ะ ส่วนข้างๆ ก็มีกระจาดสมุนไพรวางเรียงไว้เป็นแถว“กำลังทดลองสูตรปรุงยาสมุนไพร ตามตำราโบราณน่ะ คิดค้นโดยท่านหมอซุนผู้นั้น มีทั้งยารักษา และยาพิษ” จงซานดึงแว่นขึ้นไปไว้บนศีรษะ มือก็เลือกหยิบสมุนไพรบางชนิดใส่กล่องเล็ก“พี่ซานสอนหนูบ้างสิคะ อยากรู้ทั้งหมดเลยพวกยารักษา ยาพิษอะไรพวกนั้นน่ะ” อินทุภายิ้มประจบ“ทำไมถึงอยากรู้ล่ะ?” จงซานถามยิ้มๆ โดยไม่มองหน้า“ก็หนูอยากเก่งแบบพี่บ้าง อีกอย่างศึกษาเอาไว้เป็นความรู้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างได้ โดยไม่ต้องพึ่งหมอ แล้วก็อยากรู้ว่ามีวิธีการรักษาพิษยังไง? อะไรประมาณนี้ค่ะ” จงซานเหลือบตาขึ้นมอง แล้วอมยิ้ม ก่อนจะหลุบตาทำงานต่อ“เยอะ! จะจำหมดไหมล่ะ”“สบายมาก ถึงหนูจะไม่ฉลาดทำอะไรก็ซุ่มซ่าม แต่ความจำหนูเริ่ด! ” อินทุภาตอบแบบหน้าเชิด ยืดอกตบเบาๆ ภูมิใจในนิสัยถาวรของตัวเองสุดๆ ทำให้ซุนจ่งซานหัวเราะเสียงดัง ตาหยีเป็นเส้นเดียว“มันใช่เรื่องเดียวกันไหมยัยตัวเล็

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 6 : วันแรกในโลกใหม่

    “ท่านเยว่! .. ท่านเยว่!” อินทุภาเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก เห็นเด็กหนุ่มอายุราวสิบเจ็ดปี โยนตะกร้าสานในมือทิ้ง ฉีกยิ้มกว้างวิ่งตรงมาหาเธอด้วยความดีใจ “ท่านเยว่! .. ท่านเยว่! จริงๆ ด้วย จำข้าได้ไหมขอรับ? ข้าเอง..เสี่ยวเถา!” อินทุภายิ้มแหยๆ หันไปมองหยางหมิงอวี้เพื่อขอความช่วยเหลือ “เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย ทำให้ความทรงจำหายไป คงอีกสักพักกว่าจะกลับมา” หยางหมิงอวี้กล่าวแทนด้วยน้ำเสียงขบขัน “อย่างนี้นี่เอง! อยู่ๆ ท่านเยว่ก็หายตัวไป พวกเราทุกคนคิดถึงท่านมาก โดยเฉพาะฝ่าบาท ตั้งแต่ท่านไม่อยู่ ฝ่าบาทดูหน้าไม่เป็นหน้าเลยขอรับ” “อ้อ! งั้นที่เจ้าเรียกฝ่าบาท! ฝ่าบาท! เพราะเห็นว่าหน้าข้ามันคล้ายกันใช่หรือไม่?” หยางหมิงอวี้แกล้งถาม อินทุภาปล่อยเสียงหัวเราะออกมาพรืดหนึ่ง แล้วกลั้นขำเอาไว้“ธ่อ! กระหม่อมไม่ได้หมายความอย่างนั้นเสียหน่อย!” เสี่ยวเถาทำหน้าเสีย ยิ้มแหยๆ “เสี่ยวเถาเป็นนักเรียนคนแรกของโรงเรียน ที่เจ้าก่อตั้งขึ้นเมื่อสิบปีก่อน” หยางหมิงอวี้อธิบาย “อ้าวเหรอ..งั้นเรามาทำความรู้จักกันใหม่แล้วกันนะ สวัสดีอย่างเป็นทางการนะจ๊ะ..เสี่ยวเถา ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ” อินทุภายิ้ม แล้วยื่นมือ

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 7 : ชุมชนพัฒนา

    เสียงหัวเราะดังก้องในห้อง หยางหมิงอวี้ยืนอยู่หน้าประตู มุมปากเขาเผยรอยยิ้มเล็กน้อย เมื่อนึกถึงภาพสาวน้อยที่ตัวสั่นเทาเมื่อคืน แตกต่างจากตอนนี้ ที่สามารถหัวเราะเสียงใสราวกับไร้ความกังวล เขาชอบที่เธอมีความเป็นตัวของตัวเอง รู้ว่าต้องการอะไรและไม่ต้องการอะไร กล้าพูดกล้าทำ ไม่มีการปิดบังเสแสร้ง ซึ่งแตกต่างจากคนในยุคของเขาเป็นอย่างมาก “อรุณสวัสดิ์เพคะ” อินทุภาทักทายเมื่อเห็นหยางหมิงอวี้ยืนอยู่หน้าประตูห้อง จับกระโปรงถอนสายบัวอย่างนุ่มนวล สาวใช้ยิ้มแล้วรีบถอยออกไป หยางหมิงอวี้เดินเข้าใกล้ พลางยิ้มกับท่าทางขี้เล่นของเธอ “ชุดนี้พอดีไหม? ดูเหมือนจะคับไปหน่อยตรงนี้หรือเปล่า?” เขาใช้ข้อนิ้วไล้เบาๆ ไปตามแนวโค้งละมุนของอกสาว จากเนินเนื้อช่วงบน พาดผ่านยอดอกลงไปฐานล่าง“ฝ่าบาท!!”อินทุภาอุทาน หน้าแดงก่ำ จับมือซุกซนดึงออกไม่ให้เลื่อนต่อตายล่ะ! ทำไมแค่สัมผัสเบาๆ ถึงกับทำให้ขนลุกไปทั้งตัว!!หยางหมิงอวี้ถอนใจ พลิกข้อมือตัวเองจับมือบางจูงออกจากห้อง เขาเกือบลืมตัวอีกแล้วพับผ่าสิ! เวลาอยู่ใกล้กันทีไร นึกอะไรอื่นไม่ออกเลย จะอดทนได้นานแค่ไหนก็ยังไม่รู้!!“เราจะไปไหนกันเพคะ?” เธอถามหลังจากปล่อยให้เขา

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 8 : เหตุการณ์ระทึกใจ(18+)

    อินทุภาลืมตาตื่น ไม่แน่ใจว่าตื่นเพราะอะไร ฟ้าก็ยังไม่สว่าง เธอลืมตาแบบสะลึมสะลือ พยายามโฟกัสให้ชัดขึ้น พลันเห็นคนที่หลับอยู่ข้างๆ ก็หน้าร้อนวาบ เพราะนอนหันหน้าเข้าหากันกระชั้นชิดมากเธอตกใจขยับตัวถอยออกห่าง แล้วหันไปมองคนที่ยังหลับอยู่อีกครั้ง ขนตาของเขาตกลงมาทาบผิวแก้ม สั้นแต่ดกหนา เวลาหลับอย่างนี้เครื่องหน้าเขาดูละมุน หน้าอ่อนคล้ายๆ เด็กน้อยหยางหมิงอวี้ขยับนอนหงาย ตัวเลยออกไปนอกผ้าห่ม เพราะตอนที่อินทุภาถอยหลังออกห่าง ผ้าห่มเลยรั้งตามมาด้วย เธอเห็นเขายังหลับอยู่ เลยมองลงไปเรื่อยๆ ตามประสาคนอยากรู้ ซึ่งไม่เคยคุ้นกับสรีระของผู้ชายเสื้อตัวในของเขารัดกระชับตัว ทำให้เห็นลอนกล้ามของอกกว้างและช่วงแขนที่มีกล้ามนูนสวย ถ้าแต่งตัวปกติจะดูสูงเพรียว ไม่เห็นชัดเหมือนตอนนี้อินทุภาคิดว่า เขามีมาดพระเอกอยู่ในตัว ถ้าเขาไปอยู่ในโลกปัจจุบันของเธอ คงเป็นพระเอกซีรี่ย์ได้สบายๆหุ่นพระเอกแท้ๆ ไม่มีผู้ร้ายปนสักนิดเธอมองระเรื่อยไปตามแผงอก เอว และหน้าท้องตึงเรียบ ไหนๆ มองลงมาถึงเพียงนี้แล้ว เธอก็มองเลยลงไปอีกหน่อย จับตานิ่งอยู่เป็นครู่ บอกตัวเองว่า ตอนนี้ดูไม่น่าตกใจเหมือนตอนที่กอดรัดกระชับชิดตอนนั้น ซึ่งน

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 9 : หายเมาหรือยัง? เลิกแกล้งได้แล้ว(nc นิดๆ)

    “มากันแล้วๆ ขอต้อนรับท่านอ๋องด้วยความยินดีพ่ะย่ะค่ะ”ชายวัยประมาณหกสิบปี มีหนวดเรียวเล็กบนริมฝีปาก ไว้เคราเล็กแหลมที่ปลายคาง แต่งกายภูมิฐาน ยืนรอต้อนรับ มีชายฉกรรจ์ประมาณเจ็ดถึงแปดคน พกดาบไว้ที่เอว ยืนเรียงสองแถวอยู่ด้านหลัง“อิงอิงนี่คือท่านหงส์จิ่ว หัวหน้าหมู่บ้าน เคยเป็นครูสอนหนังสือมาก่อนจะมาอยู่ที่นี่ .. ท่านหงส์ นี่เยว่อิง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องประดับและอัญมณี”“คารวะท่านหงส์” อินทุภากำมือคำนับ น้อมศีรษะให้ความเคารพผู้สูงวัยกว่า“ไม่ต้องเกรงใจๆ .. เชิญเสด็จท่านอ๋อง พวกเราเตรียมงานเลี้ยงเล็กๆ รอต้อนรับด้วยกระหม่อม”หยางหมิงอวี้และอินทุภาเดินตามหัวหน้าหมู่บ้าน ไปยังศาลาทรงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งจัดเตรียมไว้อย่างอลังการณ์เพื่อต้อนรับโดยเฉพาะอินทุภากวาดตามองสถานที่ไปโดยรอบ มีโต๊ะเตี้ยและเบาะนั่งกับพื้น เป็นแนวสามชั้นวางเรียงตามระยะของพื้นที่ทรงกลม แต่ละโต๊ะมีสาวงามผิวขาวผ่อง อยู่ในชุดเกาะอกปาดครึ่งเต้า คลุมไหล่ด้วยผ้าซีทรูเนื้อบาง ตัวกระโปรงผ่าข้างจนถึงขาอ่อน บางคนเดินเห็นเรียวขาขาวรำไรอย่างน่าดู บางคนนั่งประจำอยู่ที่โต๊ะคอยบริการรินเหล้าและตักอาหารอื้อหือ..อลังการงานสร้าง!! “เชิญเสด

    Last Updated : 2025-03-14

Latest chapter

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 60 : กองทะลวงฟัน-ดาบสองมือ (2)

    “ท่านอ๋อง! ท่านเยว่! มีสาส์นด่วนจากวังหลวงขอรับ!” อินทุภาหยิบมาให้หยางหมิงอวี้ แล้วพยักหน้าให้ทหารส่งสาส์นออกไปได้“ฝ่าบาทมีคำสั่ง ให้นำทัพฉิวซีหนึ่งแสน ไปช่วยแคว้นฉินต้านกองทัพเชี่ย!” หยางหมิงอวี้อ่านสาร์นให้ฟัง“โอ้ว มาย!! อุบายตีใกล้แสร้งไกลสินะ!” มุมปากอินทุภาเชิดเล็กน้อย‘กลยุทธ์ตีใกล้แสร้งไกล’ คือ การทำให้ศัตรูเข้าใจผิดว่าเป้าหมายของเราคือที่ไกล แต่แท้จริงแล้วเป้าหมายที่แท้จริงคือมุ่งโจมตีจุดที่อยู่ใกล้ โดยใช้กลลวงหรือเบี่ยงเบนความสนใจ เพื่อให้ศัตรูตัดสินใจผิดพลาด และเปิดช่องโหว่ให้เราจู่โจมได้สำเร็จ“ใช่! ทำลวงประชิดแคว้นซ่ง แต่ตั้งใจโจมตีแคว้นฉิน! ด้วยทหารหนึ่งแสนห้าหมื่น แต่ดูจากข้อมูลล่าสุด แคว้นเชี่ยมีทหารประมาณสี่แสนกว่า แต่แบ่งกำลังไปเพียงแสนห้า เกรงว่าจะมีแผนซ้อนแผนแน่แล้ว!”"เหมือนกับกลยุทธ์ล้อมเวยช่วยจ้าวใช่ไหมเพคะ?"“คิดเหมือนกัน! เขาวางแผนยิงธนูดอกเดียวได้เหยี่ยวสองตัว ลวงว่าจะตีแคว้นฉินแต่จริงๆ แล้วจะอ้อมหลังบุกต้าฉิวซี และเพื่อให้ฉิวซีส่งกำลังไปช่วย ซึ่งแน่นอนว่าข้าต้องเป็นผู้บัญชาการทัพ หยางซื่อก็จะร้างผู้นำ พอเหมาะพอดีสำหรับทัพอีกสองแสนที่เหลือจะบุกโจมตี!”‘ล้อมเ

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   บทนำ : ลิขิตแห่งดวงดารา

    ท่ามกลางม่านอวกาศอันมืดมิด ดวงดาวสุกสกาวแข่งกันส่องแสง สลับกับความว่างเปล่าของจักรวาล เบื้องหลังเสียงสะท้อนของกาลเวลา แสงสีดำหม่นค่อยๆ คืบคลานกลืนกินทุกสรรพสิ่ง ราชาดาวนิลได้ลงมือแล้วตูมมมมมม!!!เสียงระเบิดดังสนั่นจากท้ายยาน คลื่นพลังมหาศาลซัดกระแทกยาน จนสะเทือนรุนแรง แทบจะฉีกทุกสิ่งออกเป็นเสี่ยงๆ ควันและเปลวเพลิงพวยพุ่งผ่านกระจกห้องควบคุม ภายในห้อง ทุกอย่างอยู่ในสภาพเละเทะ ไฟลุกไหม้ตามแผงควบคุม ตัวเลขสีแดงกะพริบแจ้งเตือนระดับพลังงานที่ลดฮวบ “เรากำลังจะตกแล้ว!” เอกิลตะโกนลั่น พยายามกดแป้นควบคุม เพื่อรักษาสมดุลของยาน แต่มันไม่ตอบสนอง “ถ้ายานชนพื้นโลกในสภาพนี้ พวกเราคงไม่มีใครรอดแน่ๆ!” มูลาหันไปมองลูน่า ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ลูน่ากัดฟันแน่น ขณะเอื้อมมือที่สั่นระริก กดปุ่มปลดล็อกกลไกฉุกเฉิน กริ๊ก!แคปซูลหลบหนีสี่ลูกค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาจากพื้น ม่านพลังสีทองเริ่มก่อตัวรอบแคปซูล เรกิที่แม้จะบาดเจ็บ แต่ก็ยังพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นมา“ลูน่า! อย่าคิดจะทำแบบนี้นะ!” เรกิรู้ดีว่า ลูน่ากำลังตัดสินใจจะทำอะไร “มีคนหนึ่งต้องอยู่คุมยาน” ลูน่ากล่าวเสียงแข็ง “ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเราต้องตายไปพร้อม

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 58 : วันมงคลสมรส (2) 

    จือซาลืมตาตื่นก็เห็นร่างของบุรุษนอนอยู่เคียงกัน เธอขยับตัวไม่ได้เพราะถูกแขนของเขาพาดทับตัวไว้ หญิงสาวรีบสำรวจตนเอง แล้วก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอกที่ยังอยู่ในสภาพเสื้อผ้าปกปิดมิดชิด จึงค่อยๆ ยกแขนเขาขึ้นแล้วขยับตัวออก พยายามดึงชายกระโปรงออกจากร่างของเขา ที่นอนทับอยู่แต่ไม่สำเร็จ เขายังนอนนิ่งไม่ไหวติง ราวกับอดหลับอดนอนมาหลายวันเอ.. หรือที่หนิวกงกงเล่าจะเป็นเรื่องจริง!หนิวกงกงบอกว่าตั้งแต่ฮองเฮาสิ้นพระชนม์ ฝ่าบาทก็เป็นโรคนอนไม่หลับ เคยบรรทมนานสุดแค่สองชั่วยามต่อวันเท่านั้นแต่ดูตอนนี้สิ!..นัยน์ตาแววหวานอ่อนโยนลง เธอขยับตัวเล็กน้อย เพื่อให้นอนมองหน้าอีกคนได้ชัดเจนขึ้น พร้อมอมยิ้มบางๆ กับท่าทางการนอนหลับปุ๋ยเหมือนเด็กน้อยของเขา มือเรียวบางลูบกลุ่มผมเด็กน้อยตรงหน้าเบาๆ พลางสงสัยว่าเขานอนคว่ำแบบนี้จะหลับสบายหรือเปล่า"ฝ่าบาท!" หนิวกงกงเรียกตรงหน้าประตูด้านในจือซารีบหันไปมองที่ประตูห้อง ส่งสายตาดุไปให้หนิวกงกง พร้อมทำท่านิ้วชี้ปิดปากเป็นสัญญาณว่าห้ามส่งเสียงดัง หนิวกงกงพยักหน้าว่าเข้าใจ ค่อยๆ ละจากหน้าประตูมาหยุดอยู่ใกล้ที่บรรทม "แม่นางจือซา! ได้เวลาเสวยพระกระยาหารเย็นแล้ว ไม่ทราบว่าจะปล

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 57 : วันมงคลสมรส (1) (18+)

    อินทุภาก้าวเข้าสู่ห้องคุมขังอย่างสง่างาม ใบหน้าเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยอำนาจ ชุดสีเงินปักลายนกหลวนเฟิ่งสีน้ำเงินสะท้อนแสงไฟอ่อนๆ คล้ายหงส์ฟีนิกซ์ที่แผ่รัศมีเหนือผู้อื่น สนมเซียวที่นั่งอยู่ภายในมุมมืดเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและแววอริที่ไม่คิดปิดบังอีกต่อไป "มาทำไม? จะมาเยาะเย้ยข้ารึ?" นางแค่นเสียงถามด้วยความชิงชัง อินทุภาเพียงแค่ยิ้มบางเบา "ได้ข่าวว่าท่านตั้งครรภ์" สนมเซียวแค่นหัวเราะ มุมปากยกขึ้นในลักษณะเยาะเย้ย "เรื่องของข้าไม่เกี่ยวกับเจ้า!!" เสียงของนางแหลมขึ้น พยายามใช้ตำแหน่งเหนือกว่ากดอีกฝ่ายให้ต่ำลง แต่ท่วงท่ายืนของอินทุภายังคงสง่างาม มือแตะกันไว้ที่ระดับเอว แผ่นหลังตรงราวกับไม่มีสิ่งใดมากดทับ ดวงตาเรียบนิ่ง รัศมีนางพญาแผ่ซ่านโดยธรรมชาติ "แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่อยากข้องเกี่ยวกับท่านนัก แต่ข้ารับพระบัญชาจากฝ่าบาทให้มาพูดกับท่าน จึงเห็นว่าลองเจรจากันดีๆ สักครั้งก็คงจะดีกว่า" สนมเซียวกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำด้วยความเคียดแค้น "ผู้ชนะย่อมได้ทุกสิ่ง! ตอนนี้เจ้าคงสุขใจมากสินะ? ไม่ต้องมาทำเสแสร้งต่อหน้าข้า! ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะซ้ำเติมให้สาสม!" "นั่นเป็นสิ่ง

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 56 :  เป็นฮองเฮาไหม?

    "เยว่อิง!..มาแล้วรึ หมิงอวี้เล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟัง ลำบากเจ้าแล้วจริงๆ!” ฮ่องเต้ถอนพระทัย"ความลำบากนี้ เทียบกันไม่ได้เลย กับสิ่งที่ฝ่าบาทออกหน้าเพื่อปกป้องหม่อมฉัน มิหนำซ้ำยังเสียสละองค์เอง เป็นเหยื่อล่อคนที่คิดร้ายต่อบ้านเมือง ทำให้ชาวประชาพ้นภัย พวกเราซึ้งในพระมหากรุณายิ่งนัก ต่อให้ต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องฝ่าบาท หม่อมฉันก็ยินดีเพคะ""ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตา!" หยางหมิงอวี้ประสานมือคำนับ ฮ่องเต้ยิ้มอย่างอ่อนโยน“ข้าอาจไม่ใช่ฮ่องเต้ที่แข็งแกร่ง แต่จะพยายามเป็นฮ่องเต้ที่ดี! เอาล่ะ!..หยางหมิงอ๋อง..หยางเยว่อิงรับราชโองการ!” ฮ่องเต้หยางอี้ยิ้มนิดหนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวต่อ "แม่ทัพหยางอารักขาข้า รบอย่างกล้าหาญ ทำให้กองทัพแคว้นฉิวซียิ่งใหญ่ วันนี้เรามีราชโองการแต่งตั้งให้หยางหมิงอ๋องเป็นผู้สำเร็จราชการแทน พระราชทานป้ายทองเว้นโทษตาย!”ฮ่องเต้หันมองมาทางอินทุภา“หยางเยว่อิง! ปราชเปรื่องกล้าหาญ เป็นนักวางกลยุทธ์ที่เยี่ยมยอด เปี่ยมด้วยเมตตา สนับสนุนหยางหมิงอ๋องให้ได้ชัยชนะ บัดนี้ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นพระชายา และรั้งตำแหน่งเป็นไท่เว่ย (ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดดูแลราชการฝ่ายทหาร เทียบเท่าส

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 55 : ขอทานเปิดหมวก!!

    "ก่อนอื่นเราต้องหาอุปกรณ์ทำมาหากินเสียก่อน!" หญิงสาวเชิดยิ้มมุมปากข้างหนึ่งเล็กน้อย ยืนกอดอกเก็กท่าเป็นกูรู อยู่หน้าร้านขายเครื่องดนตรี"กะลา?" ขอทานน้อยสงสัย"เฮ่ย! นั่นมันอุปกรณ์เก็บเงินตะหากเล่า! วันนี้เราจะเป็นขอทานเปิดหมวกกัน ตามข้ามา!!" หญิงสาวกอดคอขอทานน้อย พาเดินเข้าไปในร้านขายเครื่องดนตรีอย่างมั่นใจ แต่ยังไม่ทันที่เท้าจะเหยียบผ่านธรณีประตู ก็ถูกเถ้าแก่ไล่เสียแล้ว"ไป! ไป! ออกไป! ไปขอทานที่อื่น! ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าจะมาเดินเข้าออกได้อย่างสบายใจได้นะ!!""เถ้าแก่! ข้าไม่ได้มาเดินเล่น ข้ามาซื้อของ!""น้ำหน้าอย่างพวกเจ้า! จะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาซื้อ เก็บไม่กี่อีแปะเอาไว้กินข้าวเถอะ!! ไปๆ! ออกไป!" หน้าตาท่าทางเกรี้ยวกราด ดุดัน แบบไม่มีทีท่าว่าจะประนีประนอมเฮอะ!! ขอทานก็มีต่อมดนตรีนะลุง!!อินทุภาหันหลังเดินออก แต่พอก้าวออกมาได้เพียงสามก้าว สายตาก็ปะทะเข้ากับร้านขลุ่ยแผงลอยฟากตรงข้าม หญิงสาวดีใจวิ่งตรงดิ่งไปทันที แล้วหยิบขลุ่ยขึ้นมาเลือกรูปแบบ เลือกความถนัดมือ และกำลังจะยกขลุ่ยขึ้นแตะขอบปาก เพื่อจะทดสอบเสียง พลันนึกขึ้นได้ จึงหันไปมองลุงพ่อค้าที่มองมายิ้มๆ อย่างใจดี"ท่านลุง!

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 54 : พิธีแต่งงานที่แคว้นเชี่ย (2)

    เสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูดังขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวหันไปมอง แล้วก็เบิกตาโตกว้างอย่างประหลาดใจ เพราะคนที่เดินเข้ามาคือองค์หญิงหยางหราน "หึ! ใครๆ เขาก็ว่าเจ้าฉลาดนักฉลาดหนา แล้วทำไมถึงได้โง่ให้เขาจับมาได้ซะล่ะ!" นางเปิดฉากถากถาง"แคว้นฉินเกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ! ราชเลขาก่อกบฏ ฝ่าบาทเกิดประชวรกะทันหัน ประชาชนถูกสังหาร หม่อมฉันกำลังต่อสู้กับกองโจรที่ดักซุ่มโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส! แล้วก็ถูกเขาพาตัวมาที่นี่!" องค์หญิงหยางหรานชะงัก"แล้วฮ่องเต้เป็นอย่างไรบ้าง?" องค์หญิงถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก เบื้องหลังความหยิ่งพยองเย็นชา คือสายใยของความเป็นพี่น้อง และรักในเกียรติภูมิของชาวแคว้นฉิน"หม่อมฉันไม่ทราบ! จำได้แต่เพียงว่า พอสังหารศัตรูสิ้นหม่อมฉันก็หมดแรง คงเพราะสลบไป จึงได้มาอยู่ที่นี่ แล้วฝ่าบาทมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเพคะ?" "เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องรู้!" เธอถอนใจ นั่งลงปลายเตียง "อีกสามวันเขาจะแต่งงานกับเจ้า ประกาศงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ไปทั่วทั้งแคว้น เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?""เขาวางยาในอาหารให้หม่อมฉันอ่อนแรง แต่ถึงจะมีแรง หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปได้อย่างไร ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 53 : พิธีแต่งงานที่แคว้นเชี่ย (1)

    "ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง?" หยางหมิงอวี้เอ่ยถามเสียงเครียด ขณะก้าวเข้ามาในห้องบรรทม จือซาเงยหน้าขึ้นจากตำรับยา ก่อนประสานมือคารวะแล้วตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง "พระวรกายของฝ่าบาทอ่อนแออยู่แล้ว เมื่อธาตุเย็นแทรกซึม จึงทำให้ปอดติดเชื้อ ยังนับว่าโชคดีที่สามารถรักษาได้ทันท่วงที ตอนนี้หม่อมฉันกำลังฝังเข็มล้างเลือดในอวัยวะตันทั้งห้า และขจัดพิษออกจากอวัยวะกลวงทั้งหก เพื่อถอนพิษของยาหยินหยางออกมา" "แต่เจ้าก็เคยบอกมิใช่หรือว่า... หากจะถอนพิษของยานี้ ร่างกายฝ่าบาทต้องทนทรมานอย่างแสนสาหัส?" หยางหมิงอวี้ขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งเครียดยิ่งขึ้น จือซาพยักหน้า"เพคะ แต่ขณะนี้ฝ่าบาททรงพระประชวร ไม่ค่อยได้สติ นับเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการรักษา หากไร้สิ่งรบกวน หม่อมฉันน่าจะสามารถล้างพิษได้ถึงเจ็ดหรือแปดส่วน เมื่อพระอาการทุเลา เสวยยาตามตำรับที่หม่อมฉันจัดเตรียมไว้ให้เป็นประจำ พระองค์ก็จะทรงฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ มิหนำซ้ำยังแข็งแรงขึ้นกว่าที่เคยเป็นเสียอีก!" ถ้อยคำของนางมั่นคงฉะฉาน สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งการแพทย์โดยแท้"ขอบใจเจ้ามาก""ไม่เป็นไรเพคะ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของหม่อมฉันอยู่แล้ว!""รายงาน!! ท

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 52 : ความวุ่นวายทั่วบ้านทั่วเมือง!

    ขณะที่หยางหมิงอวี้ กำลังปรึกษาแผนการกับแม่ทัพอยู่นั้น ทหารก็เข้ามารายงานว่า มีกลุ่มทหารของฉิวซีมุ่งหน้ามาที่ค่าย เขาจึงรีบออกไปนอกกระโจมทันที เห็นเหลียงอินชงกำลังกระโดดลงจากหลังม้า"เหลียงอินชง! คารวะท่านแม่ทัพ!"หยางหมิงอี้มองอย่างไม่เชื่อตา จับแขนให้เหลียงอินชงที่คุกเข่าทำความเคารพให้ลุกขึ้น แล้วมองอีกคน"หยางเยว่อิง! คารวะท่านแม่ทัพ!" หญิงสาวคุกเข่าคำนับแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มหวาน เขาเข้ามากอดไว้หลวมๆ"พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่! เกิดอะไรขึ้น?" เขาถามอย่างสงสัย"พอพระองค์ออกเดินทาง..เรือนป่าสนก็โดนลอบโจมตี พวกเราได้ข่าวว่าพระองค์ได้รับบาดเจ็บและสูญหาย เลยรวบรวมกำลังพลจะมาช่วย แต่เจอองครักษ์เงาเสียก่อน จึงได้รู้ว่าทั้งหมดเป็นอุบายลวงของฝ่าบาทกับฮ่องเต้มาตั้งแต่ต้น พวกเราจึงตามมาที่นี่พ่ะย่ะค่ะ!" หยางหมิงอวี้พยักหน้าเข้าใจ อินทุภารีบสั่งการเหลียงอินชงทันที"อินชง! ทนเหนื่อยอีกหน่อยเถอะ! ท่านรีบเร่งกลับไปคุ้มครองบ้านตระกูลหวาง ไปรับจือซาด้วย ข้าเชื่อว่าเร็วๆ นี้ เมืองหลวงต้องวุ่นวายแน่ๆ!" อินทุภาวิเคราะห์สถานการณ์"ขอรับ!" เหลียงอินชงรับคำสั่ง แล้วขึ้นม้าควบออกไป"หมอซุนมาเปิดเผยตัวตนกับข้าแล้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status