หนึ่งเดือนผ่านไป
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา อนาคินยังคงไปรับไปส่งคริมาที่บ้าน เขาพาหญิงสาวไปทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลง พาไปเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า หรือไม่ก็สวนสาธารณะ อีกสองสัปดาห์จะถึงวันเกิดเขา ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะปิดจบทุกอย่างในวันเกิดของเขา ติ้ง! เสียงข้อความดังขึ้น คริมารีบหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านทันที พี่คิน : ทานข้าวยังครับ ครีม : ทานแล้วค่า พี่คินล่ะคะ พี่คิน : พี่เรียบร้อยแล้วครับ ครีม : พี่คินทำอะไรอยู่คะ พี่คิน : กำลังคิดถึงครีมอยู่ครับ ครีม : ไม่เชื่อหรอกค่ะ พี่คิน : ถ้าครีมไม่เชื่องั้นพี่ไปหาครีมที่บ้านตอนนี้เลยดีมั้ยครับ ครีม : สติ๊กเกอร์ตกใจ ครีม : เชื่อแล้วค่า พี่คิน : เดี๋ยวพี่ไปเที่ยวผับกับเพื่อนก่อนนะครับ ไอ้คี ไอ้ซัน มันไลน์มาตามพี่แล้ว ครีม : ค่า ขับรถดีๆ นะคะ อย่าดื่มจนเมามากนะคะ พี่คิน : เป็นห่วงพี่เหรอ ครีม : สติ๊กเกอร์ยิ้ม ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง “ไงวะ..ไอ้คิน เมื่อไหร่มึงจะจัดการน้องครีมสักที” เสียงของคีตะเอ่ยถามเมื่ออนาคินเดินมานั่งที่โต๊ะประจำในผับที่พวกเขามากันทุกค่ำคืน “วันเกิดกูนี่แหละ..พวกมึงคอยดูรูปได้เลย” “อ้าว! แล้ววันเกิดมึงพวกกูก็ไม่ได้ฉลองด้วยสิ..หรือว่ามึงจะพาน้องเค้ามาที่นี่ด้วย” เสียงของอาทิตย์วราเอ่ยขึ้น “ไม่ กูจะไปฉลองกับน้องครีมสองคนที่ทะเล” “ว้าวๆๆๆ โคตรโรแมนติดเลยว่ะ..พี่คินคะ พี่คินขา” คีตะเอ่ยแซว “เออ..พรุ่งนี้มีเรียนวิชาเดียว มึงพาน้องเค้ามาแนะนำให้พวกกูรู้จักหน่อยสิ” ธาวินทร์กล่าว “พวกมึงจะอยากเจอน้องเค้าไปทำไม?” อนาคินลังเลชั่วครู่ก่อนจะถามกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ “ทำไม? มึงหวงเหรอ?” คีตะเอ่ยถาม “ป่าว!” อนาคินตอบเสียงสูง เขาเนี่ยนะหวงยัยนั่น น่าเบื่อจะตาย วันๆ เขาต้องคอยเอาอกเอาใจ คนอย่าง อนาคินไม่เคยต้องเอาใจผู้หญิงคนไหน มีแต่ผู้หญิงที่ต้องเป็นฝ่ายเอาอกเอาใจเขา อีกไม่นานเกินรอ เรื่องพวกนี้จะจบลง และเขาต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง “วันนี้ครีมเรียนเสร็จกี่โมงครับ?” ชายหนุ่มถามออกไปเมื่อเขาขับรถมาส่งหญิงสาวที่ตึกคณะอักษรศาสตร์ “สิบเอ็ดโมงค่ะ” “พี่จะพาครีมไปเจอเพื่อนๆ ของพี่ ครีมสะดวกมั้ยครับ?” “อ่อ..ได้ค่ะ” “งั้นเดี๋ยวสิบเอ็ดโมงพี่มารับนะครับ” “ค่ะ” จากนั้นคริมาก็ลงจากรถหรูของอนาคินเดินเข้าตึกของคณะ ท่ามกลางสายตาที่บ่งบอกว่าอิจฉา และเสียงซุบซิบนินทา ซึ่งเธอได้ยินจนชินเสียแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยเอามาใส่ใจ เวลาสิบเอ็ดโมง อนาคินมาจอดรถรอหญิงสาวที่หน้าคณะ เมื่อเห็นคริมาเดินมาชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาและจับมือเธอเดินไปขึ้นรถ และพาเธอไปยังร้านอาหารชื่อดังร้านหนึ่งที่พวกเพื่อนๆ เขารออยู่ “ครีมครับ..นี่เพื่อนพี่ ไอ้คี ไอ้วินทร์ ไอ้ซัน” อนาคินแนะนำเพื่อนทีละคนพร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนเพื่อให้เธอรู้ว่าคนไหนชื่ออะไร “สวัสดีค่ะ พี่ๆ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” คริมายกมือไหว้รุ่นพี่ พวกหนุ่มๆ ยิ้มและพยักหน้าให้หญิงสาวเล็กน้อย นี่สินะ..แก๊งหนุ่มหล่อพ่อรวย เธอพึ่งจะเคยเจอตัวจริงก็วันนี้แหละ แต่เอ๊ะ! มีคนหนึ่งที่เธอรู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน ใช่แล้ว! คนที่ชื่อคี เขาเคยมาคุยกับเธอแล้วเธอก็เดินหนีเขา เมื่อนึกขึ้นได้หญิงสาวถึงกับทำหน้าไม่ถูก “น้องครีม เชิญนั่งก่อนครับ” เป็นเสียงของธาวินทร์ “ค่ะ” “น้องครีมจะทานอะไรสั่งได้เลยนะ..พวกพี่สั่งไปแล้ว อ้อ! ไอ้คินกูสั่งเผื่อมึงแล้วนะ” เป็นเสียงของคีตะ “เอาตามที่พวกพี่สั่งก็ได้ค่ะ..ครีมทานได้หมด” เรื่องนี้อนาคินรู้ดีว่าหญิงสาวเป็นคนกินง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมาก ไม่เรียกร้อง ไม่จู้จี้จุกจิก ที่ผ่านมาอนาคินไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้ พวกเธอเหล่านั้นล้วนแต่เรียกร้องอยากได้แต่ของแบรนด์เนม หรือของแพงๆ ส่วนคริมาเวลาที่เขาพาเธอไปเกินห้างสรรพสินค้า เธอไม่เคยอยากได้อะไรเลย เขาตั้งใจซื้อให้เธอก็ไม่ยอมรับ เธอบอกว่ามันสิ้นเปลือง แต่ใครจะรู้? เธออาจจะกำลังแสดงละครต่อหน้าเขาอยู่ก็เป็นได้ ตอนนี้เขารอแค่ให้เธอ ใจง่าย กับเขาเท่านั้น เมื่อวันนั้นมาถึงเกมนี้ก็ต้องจบลง เขาก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตตามประสาคาสโนว่าตัวพ่อสักที “น้องครีมนี่เก่งมากเลยนะ..ที่เอาไอ้คินซะอยู่หมัดเลย” เสียงของคีตะเอ่ยขึ้น “ใช่ๆ ไอ้คินเลิกเจ้าชู้เพราะน้องครีมเลยนะ” อาทิตย์วราเอ่ยสมทบอีกเสียง “หยุดเลย..พวกมึงพูดอะไรกัน เอ่อ..ที่จริงพี่ไม่ได้เจ้าชู้นะครับแค่พี่ยังไม่เจอคนที่ถูกใจแค่นั้นเอง” อนาคินต่อว่าให้เพื่อนก่อนจะหันมาพูดกับหญิงสาวด้วยเสียงนุ่มนวล “อ่อค่ะ..” หญิงสาวยิ้มด้วยความเขินอาย ที่ อนาคินและเพื่อนๆ เขาพูดออกมา หมายความว่า ตอนนี้เขาเจอคนที่ถูกใจแล้ว ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผู้หญิงคนนั้นก็น่าจะคือเธอใช่ไหม หลังจากที่ทั้งหมดรับประทานอาหารและพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่วนมากเป็นการพูดคุยกันของ คริมากับเพื่อนๆ ของเขาที่เปลี่ยนกันถามคำถามใส่เธอจนหญิงสาวตอบไม่ถูก จากนั้นทุกคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน อนาคินพาหญิงสาวมาส่งที่บ้าน ระหว่างทาง เขาเอ่ยถามหญิงสาวขึ้นมา “ครีมครับ..อาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดพี่ ครีมไปฉลองวันเกิดกับพี่ได้มั้ยครับ?” เขาเอ่ยถามหญิงสาว “อ้าว! วันเกิดพี่คินเหรอคะ..แล้วพี่คินจะพาครีมไปที่ไหนคะ?” หญิงสาวถามออกไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “พี่อยากไปทะเล ครีมอยากไปเที่ยวทะเลกับพี่มั้ยครับ?” “ไปเสาร์อาทิตย์ใช่มั้ยคะ?” จำได้ว่าไปเที่ยวทะเลครั้งสุดท้ายเมื่อตอนเธออายุสิบขวบหลังจากที่มารดาเสียเธอก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวทะเลอีกเลย “ครับ” “ครีมไม่รู้จะไปได้หรือเปล่า..ครีมกลัวพ่อไม่ให้ไปค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยความกังวล อีกใจก็อยากไป แต่กลัวบิดาของเธอจะไม่อนุญาต “ครีมก็บอกพ่อว่าไปทัศนศึกษาของมหาลัยสิครับ..รับรองว่าพ่อของครีมต้องอนุญาตแน่นอน” “แต่ครีมไม่เคยโกหกพ่อเลยนะคะ..ครีมกลัว” “นะครับ..นะ ครีมไปกับพี่นะครับ วันเกิดพี่ทั้งที” “ก็ได้ค่ะ..ครีมจะลองขอพ่อดู” “ดีมากครับ” พูดจบชายหนุ่มก็ยื่นมือไปลูบหัวเธอเบาๆ หลังจากที่ไปส่งคริมาเสร็จ ชายหนุ่มก็ไปลั้นลากับเพื่อนๆ ต่อ ทางด้านคริมาได้ขออนุญาตผู้เป็นบิดาว่าจะไปทัศนศึกษาที่หัวหิน คราแรกบิดาของเธอไม่ยอมให้ไป แต่หญิงสาวยกเหตุผลสารพัดขึ้นมาอ้างสุดท้ายบิดาของเธอจึงอนุญาตให้เธอไป คริมาดีใจจนเนื้อเต้นที่จะได้ไปเที่ยวทะเลอีกครั้ง เธอรีบส่งข้อความบอกอนาคินทันที ครีม : พี่คินคะ พ่ออนุญาตให้ครีมไปทัศนศึกษาแล้วนะคะ พี่คิน : จริงเหรอครับ พี่ดีใจที่สุดเลย ครีมน่ารักที่สุด พี่คิน : สติ๊กเกอร์หัวใจ ครีม : สติ๊กเกอร์ยิ้ม พี่คิน : ครีมฝันดีนะครับ อย่าลืมฝันถึงพี่ด้วยนะ ครีม : ค่ะ หลังจากส่งข้อความสุดท้าย อนาคินแสดงความดีอกดีใจจนออกนอกหน้า “มึงเป็นไร?ไอ้คิน กูเห็นมึงจับโทรศัพท์แล้วก็ยิ้มออกมาคนเดียว” คีตะถามออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนนั่งยิ้มให้โทรศัพท์ “ป่าว! ไม่มีไร” อนาคินตอบเสียงเรียบ “ไม่จริงอ่ะ..กูไม่เชื่อ มึงแอบนอกใจน้องครีมเหรอวะ” คีตะยังคงสงสัย “นอกใจเหี้ยอะไร..กูยังไม่ได้เป็นแฟนกับครีมสักหน่อย” เสาร์นี้แหละกูจะขอครีมเป็นแฟนเสร็จแล้วก็จับทำเมียเสียเลย..ชายหนุ่มคิดในใจ “ก็กูเห็นมึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กูนึกว่ามึงคุยกับสาวๆ” “กูคุยกับครีม..พ่อของครีมยอมให้ครีมไป ทัศนศึกษาวันเสาร์อาทิตย์นี้แล้วโว้ย” “ทัศนศึกษากับมึงสองคนอ่ะนะ” ครานี้เป็นเสียงของอาทิตย์วรา “เออ” อนาคินตอบแบบไม่เต็มใจหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป / วันเสาร์ในที่สุด วันที่อนาคินรอคอยก็มาถึง ชายหนุ่มไปรับหญิงสาวที่บ้านก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังหัวหิน ระหว่างทาง อนาคินจับมือของหญิงสาวไว้ตลอดเวลา ส่วนภายในใจนั้น คืนนี้แหละเขาจะเผด็จศึกหญิงสาว เขาเฝ้ารอเวลานี้มาเกือบสามเดือน เขาไม่มีทางปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปอย่างแน่นอนอนาคินใช้เวลาห้าชั่วโมงกว่าในการขับรถมาถึงหัวหิน เพราะชายหนุ่มพาหญิงสาวแวะถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตลอดทาง ชายหนุ่มพาหญิงสาวไปที่ห้องพักสุดหรูริมทะเล เป็นห้องพักส่วนตัวมีกำแพงต้นไม้ล้อมรอบ บรรยากาศดี สดชื่น สถานที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ต่างๆ อย่างสวยงาม“พี่คินจองห้องเดียวเหรอคะ?” หญิงสาวถามออกไปด้วยความสงสัย“พอดีพี่จองช้าเพราะไม่รู้ว่าครีมจะมาได้มั้ย ห้องพักก็เลยเต็มครับ เดี๋ยวครีมนอนบนเตียง ส่วนพี่จะไปนอนที่โซฟาเอง ครีมไม่ต้องกลัวนะครับ” ชายหนุ่มอธิบายให้หญิงสาวฟัง“อ่อ..ครีมไม่ได้ว่าอะไรค่ะ แค่ถามเฉยๆ”“พี่ว่าเราไปเดินเล่นกันดีกว่านะ”“ค่ะ”ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็น เกลียวคลื่นพัดเข้าสู่ชายฝั่ง สายลมพัดโชยเอากลิ่นน้ำเค็มจากท้องทะเลขึ้นมา สองหนุ่มสาวเดินเรื่อยๆ ไปตามชายหาด ในขณะที่ดวงอาทิตย
อ้อมแขนแข็งแรงของชายหนุ่มช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด เขาพาเธอไปยังห้องนอนก่อนจะค่อยๆ วางร่างบางบนที่นอนนุ่ม ทันทีที่หลังของเธอสัมผัสกับที่นอน ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ก่อนจะขยับหนีตามสัญชาตญาณ แต่เขาไม่ปล่อยให้เธอได้ทำเช่นนั้น เขาโน้มตัวลงมาทาบทับร่างบางเอาไว้จนเธอรู้สึกหายใจไม่ออกดวงตาสวยคู่นั้นมองมาที่ริมฝีปากเคลื่อนเข้ามาใกล้ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ ลิ้นอุ่นเซาะซอนไปตามแนวฟัน แรงกระตุ้นดังกล่าวทำให้ร่างกายเกร็งเขม็งขึ้นมาทันตา จูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ยิ่งเขาเพิ่มน้ำหนักในรสจูบ เธอก็ยิ่งกำแขนเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นมือข้างหนึ่งของเขาล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วลูบไล้ตามผิวเนียนอย่างช้าๆ เขาถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย ก่อนจะค่อยๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างบาง ลมหายใจของเขาติดขัดเมื่อเห็นร่างงามตรงหน้า ภายนอกเธอดูรูปร่างบาง แต่ภายในนั้น อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกผายกลมกลึง หุ่นของเธอเรียกได้ว่าซ่อนรูปจริงๆ เขากลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก“ครีม..สวยมากเลยรู้ตัวมั้ย?”มือของเขาลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ผม ไหล่ แขน ท้อง ต้น
คำกล่าวที่ว่า..ผู้ชายรักผู้หญิงจากร้อยไปศูนย์ และ ผู้หญิงรักผู้ชายจากศูนย์ไปร้อย คงจะจริงสินะ..คริมารู้สึกได้ว่าตั้งแต่ที่กลับมาจากไปเที่ยวทะเล อนาคินดูเปลี่ยนไป เขาไม่ค่อยโทรหา หรือส่งข้อความมา และไม่มารับส่งเธอเหมือนแต่ก่อน มีแต่เธอที่เป็นฝ่ายโทรหาเขา ส่งข้อความไปบางทีเขาก็ไม่อ่าน หรืออ่านแล้วก็ตอบแบบขอไปที ร้ายกว่านั้นคืออ่านแล้วไม่ตอบ ความกังวลและความหวาดกลัวทั้งหมดพลันถาโถมเข้ามาในพริบตาครีม : พี่คินคะ ทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยังคะครีม : ทำไมเดี๋ยวนี้พี่คินไม่โทรมาหาครีมเลยล่ะคะครีม : ครีมทำอะไรให้พี่คินโกรธหรือเปล่าคะครีม : พี่คินตอบครีมหน่อยสิคะ อย่าเงียบไปแบบนี้พี่คิน : พี่ไม่ค่อยว่าง พอดีช่วงนี้พี่ต้องทำทีสิส อีกไม่กี่เดือนพี่ก็จะเรียนจบแล้ว ครีมอย่าโกรธพี่นะที่พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้ครีมครีม : ไม่เป็นไรค่ะ ครีมเข้าใจ ขอแค่พี่คินอย่าหายไปก็พอค่ะครีม : ครีมรักพี่คินนะคะพี่คิน : สติ๊กเกอร์ยิ้มคริมาถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้คิดไปเอง เขาแค่ไม่ว่างเพราะช่วงนี้ต้องทำทีสิสสำหรับคนที่กำลังเรียนอยู่ปีสี่ ปีสุดท้ายของช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย“นี่แก ฉันได้ข่าวว่ายัย
อุ๊บ! โอ๊กกกก! แหวะเสียงอาเจียนของคริมาดังอยู่ในห้องน้ำชั้นล่างของตัวบ้าน สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการสอบแล้วหลังจากนั้นก็ปิดเทอม จู่ๆ เธอก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาหลังจากที่ตื่นนอนตอนเช้า จากนั้นเริ่มรู้สึกเวียนหัวและอยากจะอาเจียน จนสุดท้ายทนไม่ไหวต้องลุกไปอาเจียนในห้องน้ำสงสัยจะเครียดเรื่องสอบมากไปหน่อย ช่วงนี้เธอเองก็ทานข้าวไม่ค่อยตรงเวลา บวกกับมีเรื่องของอนาคินให้คิดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มห่างหาย ขาดการติดต่อไปโดยปริยาย หลังจากออกมาจากห้องน้ำ เธอหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับอาการที่เธอเป็น ยิ่งอ่านหัวใจของเธอยิ่งสั่นไหว เพราะอาการที่เธอเป็นนั้นบ่งบอกว่าเธออาจจะกำลังตั้งครรภ์ มันก็อาจจะเป็นไปได้ วันนั้นที่ทะเล เธอจำได้ว่าอนาคินไม่ได้สวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกัน และเธอก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิท ไม่รอช้า คริมารีบอาบน้ำแต่งตัวไปสอบที่มหาวิทยาลัย วันนี้เธอมีสอบแค่วิชาเดียวในช่วงเช้า หลังจากสอบเสร็จ หญิงสาวตรงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจว่าเธอป่วยเป็นอะไรกันแน่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ..คนไข้กำลังตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้วค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?” สิ้นเสียงของ
คริมาไม่รู้ว่าเธอพาร่างกายอันบอบช้ำของเธอมาถึงบ้านได้อย่างไร เมื่อมาถึงห้องนอนหญิงสาวก็ปิดประตู ล้มตัวนอนลงบนเตียงแคบ ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวสั่นเทาไปทั้งตัว เธอผล็อยหลับไปทั้งที่น้ำตายังไหลอาบหน้า“วดี” สุชาดาเรียกบุตรสาวคนที่สองที่กำลังนอนกระดิกเท้าบนโซฟาในห้องรับแขกพร้อมกับมือที่ถือโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา“เรียกทำไมแม่” สุชาวดีทำน้ำเสียงหงุดหงิดที่โดนก่อกวนเวลาที่เธอกำลังเล่นเกมอยู่“ไปดูยัยครีมให้แม่ทีสิ..ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรหรือเปล่า มันกลับมาก็หมกตัวอยู่แต่ในห้อง งานบ้านมันยังไม่ได้ทำเลย เดี๋ยวพ่อแกก็จะกลับมาแล้วเนี่ย” สุชาดาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เพราะงานบ้านทุกอย่างคริมาต้องเป็นคนทำให้เสร็จก่อนที่สามีของเธอจะกลับมา และยกความดีความชอบให้กับลูกสาวทั้งสองคนของเธอที่ตัวจริงขี้เกียจตัวเป็นขน“แม่ก็ไปดูมันเองสิ หนูเล่นเกมอยู่ ไม่ว่าง”“แกนั่นแหละไปดู แม่ทำกับข้าวอยู่แกไม่เห็นหรือยังไง”“เออๆ ไปดูให้ก็ได้” จากนั้นสุชาวดีก็เดินไปที่ห้องเก็บของ เธอเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของห้อง สุชาวดีเห็นคริมานอนหลับอยู่บนเตียง กำลังจะปลุกแต่สายตาของเธอเหลือบไปเห็นถุงบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะ ด้ว
หลังจากที่คริมาออกมาจากบ้าน เธอเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง น้ำตาที่ไหลรินตอนนี้เหือดแห้งไปเหลือแต่คราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนอยู่เต็มหน้า ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วเธอนั่งอยู่ป้ายรถเมล์มาร่วมสองชั่วโมง ด้วยไม่รู้ว่าจะขึ้นรถไปลงที่ไหน และตอนนี้รถเมล์ก็หยุดวิ่งไปแล้ว ค่ำคืนนี้เธอคงตอนนอนที่ป้ายรถเมล์ไปก่อนเพราะน่าจะปลอดภัยที่สุดแล้วคฤหาสน์สุดหรูแห่งหนึ่ง“กลับบ้านได้ด้วยเหรอ..คิน” เสียงของคุณหญิงพิมพิกาดังขึ้นเมื่อเห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกลับมาบ้าน ปกติลูกชายจะพักที่คอนโดมิเนียมใกล้กับมหาวิทยาลัย ถ้าไม่บอกให้มาหาลูกชายของเธอก็ไม่ค่อยจะกลับบ้าน“ก็คุณตามานี่ครับแม่ ผมก็ต้องมาหาคุณตาสิครับ” อนาคินตอบมารดาก่อนจะหันไปยกมือไหว้พ่อเลี้ยงพัฒน์ธนา คุณตาของเขาที่มีไร่ผลไม้อยู่ทางภาคเหนือหลายพันไร่ บริษัทผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังของคุณเทวินทร์บิดาของเขาก็ได้วัตถุดิบหลักจากไร่ของพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนานี่แหละที่ใช้ในการผลิตเครื่องดื่มที่เป็นผลไม้“สวัสดีครับคุณตา คินคิดถึงคุณตาที่สุดเลยครับ คุณตาสบายดีนะครับ”“สบายดีลูก..แล้วนี่คินว่างเหรอถึงมาหาตาได้ ไม่ไปเที่ยวกับสาวๆ หรือยังไง?”“โถ่! คุณตาสำคัญกว่าสา
ไร่พรรณิภาพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาพาคริมามาที่ไร่พรรณิภา ชื่อไร่มาจากชื่อของภรรยาที่ล่วงลับของเขานั่นเอง เดิมทีพ่อเลี้ยงเป็นคนกรุงเทพฯ ได้มีโอกาสมาเที่ยวเชียงใหม่และได้มาพบรักกับพรรณิภาสาวเมืองเหนือ ทั้งสองแต่งงานกัน ลงหลักปักฐานอยู่ที่เชียงใหม่ พ่อเลี้ยงซื้อที่เพื่อทำไร่ส้ม จากนั้นก็ขยับขยายพื้นที่ออกไปจนปัจจุบันมีหลายพันไร่ นอกจากส้มแล้วยังมีผลไม้อื่นๆ อีกมากมาย เช่น องุ่น ลำไย ลิ้นจี่ ซึ่งล้วนแต่ให้ผลผลิตที่งดงามตลอดทุกปี และผลไม้จากไร่แห่งนี้กลายเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตน้ำผลไม้แบรนด์ดังซึ่งเป็นบริษัทของเทวินทร์ ลูกเขยของพ่อเลี้ยง พ่อของเทวินทร์เป็นเพื่อนรักกับเขา ซึ่งหลังจากที่เขาย้ายมาอยู่เชียงใหม่ เขาได้พาเพื่อนและครอบครัวมาเที่ยวที่ไร่ นั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของเทวินทร์ ลูกชายของเพื่อนรักและพิมพิกา ลูกสาวของเขา ที่นำมาสู่การแต่งงาน“หนูครีมอยู่ที่นี่ได้ตามสบายเลยนะ..ไม่ต้องเกรงใจ ทำใจให้สบายดูแลตัวเองกับลูกในท้องให้ดี” พ่อเลี้ยงบอกกับหญิงสาวหลังจากที่เขาพาเธอมาที่บ้านไม้สักหลังเล็กกะทัดรัด เขาสร้างบ้านหลังนี้ตอนที่เขาแต่งงานกับพรรณิภา และใช้ชีวิตร่วมกันที่บ้านหลังนี้ แต่ตอ
สามปีต่อมา“น้องเค้ก อย่าวิ่งสิลูก เดี๋ยวจะหกล้มนะคะ” คริมาบอกกับลูกสาวตัวน้อยวัยสามขวบที่กำลังวิ่งไปหาพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนา“น้อนเค้กจะหาคุงตาค่า” เสียงน้อยๆ น่ารักบอกกับผู้เป็นมารดาเด็กหญิงอนาลิน หรือ น้องเค้ก เรียนอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กประจำตำบล ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียนคริมาจะต้องพาเด็กหญิงมาสวัสดีคุณตาก่อนไปเรียน“มาแล้วหลานรักของตา วันนี้มาแต่เช้าเชียว” พ่อเลี้ยงอุ้มเด็กหญิงเค้กขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวา จนเด็กหญิงหัวเราจะคิกคักเพราะจั๊กจี้หนวดของคุณตา“พอรู้ว่าวันนี้เป็นวันศุกร์ได้ไปโรงเรียนอีกวันเดียวน้องเค้กดีใจใหญ่ก็เลยรีบตื่นแต่เช้าค่ะ..พ่อเลี้ยง”“อ๋อ..ที่แท้คนสวยของตาก็ไม่อยากไปโรงเรียนนี่เอง” เสียงคุณตาเอ่ยแซวหลานสาวตัวน้อย“สวัสดีค่ะ..คุณตาก่อนสิลูก เดี๋ยวไปสายนะคะ”“ซาหวัดดีค่า” เด็กหญิงเค้กพนมมือไหว้ด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู“ตั้งใจเรียนนะลูก” พ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาวางเด็กหญิงลงก่อนจะลูบหัวเบาๆ จากนั้นคริมาก็พาเด็กหญิงเค้กซ้อนมอเตอร์ไซค์ขับออกไปเกือบสี่ปีแล้วสินะ..ที่คริมาอาศัยอยู่ที่นี่ เขาคิดไม่ผิดที่ช่วยเหลือหญิงสาวไว้ในตอนนั้น ถ้าเขาไม่พาเธอมาอยู่ที่นี่ก็ไม่รู
สองปีต่อมาคริมาท้องอีกครั้ง เธอตั้งใจว่าหลังจากคลอดลูกคนนี้แล้วเธอจะทำหมัน เพราะมีลูกสามคนก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ แต่อนาคินอยากมีลูกสี่คน ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างชายหนุ่มใช่! เธอท้องลูกแฝดและเป็นฝาแฝดชายหญิงเสียด้วยอนาคินดีอกดีใจจนออกนอกหน้า ส่วนคริมานั้นก็ดีใจ แต่ลึกๆ เธอก็กังวลเล็กน้อย เพราะแค่เลี้ยงลูกน้อยคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว นี่เธอต้องเหนื่อยคูณสอง แต่เธอก็ไม่กลัวเพราะมีอนาคินคอยช่วยเลี้ยง ในเมื่อเขาอยากได้ลูกมากนักเธอก็จะให้เขาเลี้ยงซะให้เข็ด จะได้รู้ว่าเลี้ยงลูกไม่ได้สบายอย่างที่ผู้ชายหลายๆ คนคิดหลังจากที่คริมาคลอดลูกแฝดแล้ว อนาคินก็พาครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่ไร่พรรณิภา เพราะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนานั้นตอนนี้ก็แก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถดูแลไร่ได้เหมือนเดิม เขาจึงตกเป็นผู้สืบทอดกิจการของพ่อเลี้ยงไปโดยปริยาย ส่วนอนามิกา พี่สาวของเขานั้นก็ดูแลในส่วนของบริษัทผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และแน่นอนว่าไวน์ที่อนาคินคิดค้นผลิตขึ้นมานั้นกลายเป็นไวน์แบรนด์ดังที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะรสชาติของไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับไวน์ทั่วๆ ไป ส่งผลให้อ
หนึ่งปีต่อมาวันนี้อนาคินพาคริมาและลูกน้อยทั้งสองคนมาเที่ยวพักผ่อนที่ไร่พรรณิภา คนงานในไร่ต่างพากันดีอกดีใจที่ได้เจอคริมากับลูกของเธออีกครั้ง และโดยเฉพาะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาที่ตอนนี้กลายเป็นคุณปู่ทวดไปแล้ว ชายชราดีใจที่ลูกหลานมาเยี่ยมเยือน พ่อเลี้ยงจึงสั่งให้มีการจัดงานเลี้ยงพิเศษขึ้นในค่ำคืนนี้ และให้คนงานทุกคนมาร่วมดื่มกินสังสรรค์กันให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด“พ่อเลี้ยงไม่บอกก่อน ครีมไม่มีชุดสวยๆ ติดมาเลยค่ะ” คริมายังคงเรียกคุณตาของอนาคินว่าพ่อเลี้ยง เพราะความเคยชิน“ไม่ต้องห่วง..พี่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ทั้งของครีมกับของลูกๆ”“จริงเหรอคะ..พี่คินไปเตรียมตอนไหน ครีมไม่เห็นรู้เลย”“ไม่บอก..แต่พี่รับรองว่าครีมต้องชอบแน่ๆ”“พี่คินคิดจะทำอะไรกันแน่ บอกครีมมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” คริมาหันไปทำเสียงดุใส่สามี“เปล่า..ไม่ได้จะทำอะไร ก็พอดีพี่บอกกับคุณตาว่าพวกเราจะมา คุณตาก็เลยจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเรา เพียงแต่พี่ไม่ได้บอกครีมเท่านั้นเอง”“จริงนะคะ”“จริงที่สุดครับ” อนาคินยิ้มอย่างมีเลศนัยและในค่ำคืนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง อนาคินส่งตัวลูกสาวกับลูกชายให้ป้าสายช่วยจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ และเขาก็บอก
สามวันผ่านไปอนาคินออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่อาการดีขึ้นมากแล้ว เพราะได้พยาบาลส่วนตัวดูแลเป็นอย่างดี รวมไปถึงกำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้เขาแข็งแรงขึ้นในเร็ววัน“ครีมมีนัดตรวจครรภ์อีกเมื่อไหร่” อนาคินเอ่ยถามคนรักในขณะที่เขากำลังนั่งเอามือลูบท้องของเธออยู่“วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ค่ะ..อุ้ย!” คริมาคลี่ยิ้มก่อนจะอุทานออกมาเพราะลูกน้อยในท้องดิ้นแรงเหลือเกิน“ลูกดิ้นเหรอ?” อนาคินถามเพราะเขาก็รู้สึกได้ว่าลูกน้อยกำลังดิ้น“ค่ะ”“เราจะได้รู้แล้วใช่มั้ยว่าจะได้ลูกสาวหรือลูกชาย”“จริงๆ รู้ได้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้วค่ะ แต่ลูกคงจะอายหนีบไว้ไม่ยอมให้เห็น”“พี่ตื่นเต้นจัง..อยากรู้ว่าได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย”“วันอาทิตย์นี้น่าจะรู้นะคะ..ถ้าลูกไม่แอบอีก”“เรานอนกันเถอะครับ..ดึกแล้ว”“ค่ะ..ฝันดีนะคะ”“ฝันดีเหมือนกันครับ” จากนั้นทั้งสองก็นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันจนถึงเช้าวันอาทิตย์วันที่คริมากับอนาคินรอคอยก็มาถึง เมื่อเขาพาเธอมาหาหมอเพื่อตรวจครรภ์ตามนัด อนาคินตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกน้อยบนหน้าจอเป็นครั้งแรก ภาพของลูกน้อยที่ดิ้นอยู่ในครรภ์ทำให้เขาน้ำตาซึมออกมา มันเป็นความรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก เขาพลาดโอ
อนาคินที่แกล้งนอนหลับ อมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อได้ยินคริมาพูดความในใจกับเขา คริมานั่งบนเก้าอี้เธอจับมือข้างหนึ่งของเขามาแนบกับแก้มของเธอ เธอพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลดมือเขา อนาคินอดใจไม่ไหวอยากจะดึงเธอเข้ามากอดปลอบเสียเดี๋ยวนี้เขาพึ่งรู้ว่าการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้มันช่างดีเหลือเกิน เพราะมันทำให้คริมาหายโกรธเขาและให้โอกาสเขาอีกครั้ง เหมือนเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และครั้งนี้เขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเด็ดขาด อนาคินสัญญากับตัวเอง เขาจะดูแลคริมากับลูกให้ดีที่สุด เขาจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในที่สุดอนาคินก็ทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมา“ครีมพูดจริงใช่ไหม?” เขาถามออกไปพร้อมยิ้มอย่างดีใจ“จริงค่ะ ครีมพูดจริงๆ” คริมาตอบก่อนจะตกใจที่ได้ยินเสียงของเขา เธอเงยหน้ามองเขา อนาคินฟื้นเเล้ว แถมยังยิ้มหน้าแป้นใส่เธออีกนี่เธอโดนเขาหลอกอีกแล้วเหรอ..“นี่พี่คินฟื้นแล้วเหรอคะ? แล้วไม่เห็นมีใครบอกครีมเลย” คริมาหันมาถามเพื่อนๆ ของเขาเธอดีใจที่เขาฟื้น..แต่ก็เสียใจที่โดนหลอก“ก็น้องครีมไม่ได้ถามนี่นา..” เป็นเสียงของธาวินทร์เอ่ยออกมาเบาๆ“ต้องโทษไอ้คีเลย มันเป็นคนวางแผนทั้งหมด” อาทิ
หลังจากที่อนาคินขับรถออกมาจากบ้านของคีตะได้สักพัก เขามุ่งหน้าไปยังผับแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขาต้องการตัวช่วยให้ตัวเองหายเครียดอนาคินนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวโดยไม่สนสายตาของใครต่อใครที่มองเข้ามา โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต่างก็อยากจะเข้ามาทักทายเขา แต่หลังจากที่สาวๆ เหล่านั้นเห็นสายตาที่แข็งกร้าวของเขา พวกหล่อนต่างก็พากันล่าถอยไม่ย่างกรายมาใกล้เขาอีกเลยในขณะที่เขานั่งดื่มอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว ใบหน้าเล็กๆ น่ารักเหมือนตุ๊กตาก็ลอยเข้ามาในหัว ใช่! ลูกสาวของเขาเอง ป่านนี้ลูกคงจะรอเขาไปอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนเป็นแน่..ตอนนี้ลูกสาวติดเขามากจนเขาไม่สามารถจะไปไหนได้เลย อนาคินคิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นและก้าวเท้ายาวๆ ออกจากผับไปทันทีสติสัมปชัญญะของเขาตอนนี้อาจจะไม่เต็มร้อยนัก แต่เขารู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เมาถึงขนาดขับรถไม่ได้ เขาแค่รู้สึกมึนๆ นิดหน่อย ในระหว่างทางกลับบ้านซึ่งเป็นถนนสี่เลน เขาเห็นรถสิบล้อคันหนึ่งพุ่งข้ามฝั่งมาทางที่เขากำลังขับรถ อนาคินเห็นท่าไม่ดีรีบหักหลบรถสิบล้อคันนั้น ก่อนที่รถของเขาจะเสียหลักไปพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางโครม!จากแรงกระแทกอย่างแรงของการขับไปชนเสาไฟฟ้าทำให้สติของเขาดับไปใ
คริมาลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นของวันนั้น เธอพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น“เป็นยังไงบ้างครีม” คีตะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคริมาฟื้นแล้ว“ลูก..พี่คี ลูกของครีมล่ะคะ?” คริมาถามออกไปด้วยความกลัว“ลูกของครีมปลอดภัย แต่ครีมต้องนอนอยู่บนเตียงห้ามขยับจนกว่าหมอจะอนุญาต”“ลูกครีมไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่มั้ยคะ?”“จริงสิ..ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพี่เรียกหมอก่อนนะ”จากนั้นหมอและพยาบาลก็เข้ามาตรวจอาการของหญิงสาว เบื้องต้นไม่มีอะไรผิดปกติ คุณหมอบอกให้เธอพักผ่อนให้มากๆ“พี่คีคะ..แล้ว เอ่อ”“ไอ้คินมันไม่อยู่หรอก พอดีน้องเค้กไม่สบาย มันก็เลยต้องรีบกลับไปดูลูก”“ตายจริง! แล้วน้องเค้กเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ?” คริมาอุทานออกมาด้วยความตกใจ“เห็นบอกว่าตัวร้อน แต่ครีมไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไอ้คินมันพาน้องเค้กไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ครีมต้องทำใจให้สบาย อย่าเครียด เดี๋ยวจะส่งผลถึงเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้อง”“ค่ะ”ค่ำคืนนั้นกว่าคริมาจะหลับลงก็กินเวลาไปเกือบเที่ยงคืน เพราะเป็นห่วงลูกสาวเช้าวันต่อมา / โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้อนาคินยังไม่ได้นอน เมื่อวานเขาพาเด็กหญิงเค้กมาหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าติ
“มีความสุขกันจริงๆ เลยนะ..ไอ้คี” สิ้นเสียงของ อนาคิน ทั้งคีตะและคริมาที่กำลังนั่งคุยกันใต้ร่มไม้ต่างก็ตกใจหันไปมองอนาคินที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆ พวกเขา“ไอ้คิน..มึงมาได้ยังไง” คีตะมีสติก่อนจึงถามออกไป“กูก็ตามมึงมาไง..ถ้ากูไม่ตามมึงมากูก็คงไม่รู้สินะว่ากูมันเป็นแค่ไอ้งั่งตัวหนึ่งเท่านั้น”“มึงฟังกูอธิบายก่อนนะ..ไอ้คิน”“ฟังเหรอ? มึงจะให้กูฟังอะไร เพื่อนรักกับเมียกูแอบคบชู้กันอย่างนั้นเหรอ” อนาคินตะโกนเสียงดัง“นี่คุณ..มันจะมากไปแล้วนะ” เสียงของคริมาปรี้ดขึ้นมา“มากเหรอ สำหรับผู้หญิงชั่วๆ อย่างเธอมันไม่มากไปหรอก ทิ้งลูกทิ้งเต้าเพื่อมาอยู่กับชู้ แถมยังมีลูกกับมันอีก เธอทำได้ยังไงครีม เธอทำแบบนี้ได้ยังไง ลูกร้องไห้หาเธอทุกวัน เธอไม่รู้บ้างเลยเหรอ เธอไม่รักลูกเลยใช่มั้ยถึงทำตัวทุเรสแบบนี้ ทำไมฮะ? ที่ฉันเอาเธออยู่ทุกวันมันไม่พอหรือยังไง ถึงต้องมาให้ไอ้คินมันเอาต่อจากฉัน?” เขาระเบิดอารมณ์ใส่เธอไม่ยั้งทันใดนั้นกำปั้นของคีตะก็พุ่งเข้ามาใส่มุมปาก ของอนาคินทันทีผลัวะ! ผลัวะ!เสียงต่อยตีกันเป็นพัลวันระหว่างคีตะกับอนาคิน ไม่รู้ใครเป็นใคร คริมาตกใจกับภาพตรงหน้า เธอพยายามเข้าไปดึงแขนของอนาคินให้หย
ทางด้านคริมา หลังจากที่เธอได้มาอยู่ที่บ้านของ คีตะได้หนึ่งเดือนแล้ว หญิงสาวเริ่มจะปรับตัวได้แล้ว คีตะจ้างแม่บ้านให้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอ เขาพาเธอไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนใกล้ๆ นี้ ตอนนี้อายุครรภ์ของเธอยังอยู่ในไตรมาสแรก หมอจึงนัดเดือนละหนึ่งครั้งและแน่นอนว่าคีตะจะเป็นคนพาเธอไปหาหมอเอง และทุกสัปดาห์เขาจะมาเยี่ยมเธอพร้อมกับซื้อของบำรุงครรภ์มาให้เธอ จนเธอรู้สึกเกรงใจแต่ก็มิอาจห้ามปรามได้ เพราะถึงเธอจะห้ามแต่เขาก็ไม่ฟังอยู่ดี“ครีมอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง? โอเคหรือเปล่า?”“โอเคค่ะ..พี่คี ครีมอยู่ได้สบายมากค่ะ”“ขอบคุณพี่คีมากๆ นะคะ สำหรับทุกๆ อย่าง”“ไม่เป็นไร..พี่เต็มใจ”“พี่คินทานข้าวมาหรือยังคะ..วันนี้ครีมทำกับข้าวหลายอย่างเลยค่ะ”“ยังเลย กำลังหิวพอดีเลย แหะ แหะ” คีตะยกมือเกาหัวเมื่อเสียงท้องร้องดังขึ้นมาอับอายขายหน้าชะมัดเลย..มาร้องอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ คีตะคิดในใจก่อนจะหันไปยิ้มแหยๆ ให้เธอ“งั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ”จากนั้นทั้งสองคนก็รับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย คีตะเติมข้าวถึงสองครั้งด้วยกัน เขาอิ่มจนพุงกาง“ครีมทำอาหารอร่อยนะ..ดูสิ พี่กินซะเยอะเชียว” คีตะเอ่ยชม ฝีมือการทำอาหารขอ
อนาคินหัวเสียเป็นอย่างมาก เมื่อตื่นมาแล้วพบว่าคริมาไปจากที่นี่แล้ว หลังจากที่เขาร่วมรักกับเธอและเธอเองก็ตอบสนองเขาอย่างถึงพริกถึงขิงจนเขาคิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจยอมเป็นนางบำเรอให้เขาต่อ แต่เธอกลับหนีหายไป..ทิ้งลูกให้ร้องไห้หาแม่คริมาเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายมาก.. ไม่สงสารลูกเลยหรือยังไงกัน..ตั้งแต่ที่คริมาจากไป บ้านนี้ก็แทบไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กหญิงเค้กเลย มีแต่เสียงร้องไห้หาแม่ จนผู้เป็นบิดาทนไม่ไหว เขาตัดสินใจตามหาคริมาอนาคินขับรถตระเวนหาหญิงสาวไปทั่วกรุงเทพฯ หวังว่าจะเจอเธอที่ใดที่หนึ่ง เขาใช้เวลาอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาเขาไม่คิดว่าเธอจะกลับไปที่ไร่พรรณิภาอีก แต่เขาก็ไม่มั่นใจ เขาไม่อยากโทรไปถามคุณตา เพราะกลัวว่าคุณตาจะช่วยคริมาปิดบังเขา อนาคินจึงเดินทางไปที่ไร่พรรณิภาด้วยตัวเอง“อ้าวคืน..มาคนเดียวเหรอลูก แล้วหนูครีมกับน้องเค้กไม่ได้มาด้วยเหรอ?” พ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาถามออกไปเมื่อเห็นหน้าหลานชายแต่ไม่เห็นคริมากับเด็กหญิงเค้ก“ครีมไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอครับคุณตา?” อนาคินไม่ตอบหากแต่เป็นฝ่ายถามกลับ“หนูครีมจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร..คินก็ถามแปลกๆ หรือว่าเกิดอะไรขึ้น บอกตา