เตชินอุ้มพิมขึ้นมา แล้วเดินออกจากห้องไป ป๊อบจึงเดินตามเขาไป แล้วเอ่ยถาม
" คุณเตชินจะพาพิมไปโรงพยาบาลใช่มั้ย " เตชินหยุด เดินแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา โดยไม่หันมามองป๊อบ " เธอเป็นภรรยาของผม ผมรู้ว่าควรจะดูแลเธอยังไง ขอบคุณเรื่องวันนี้ เรื่องอื่นคุณไม่ต้องเข้ามายุ่ง " ด้วยความที่หวงและห่วงพิมมาก ป๊อบจึงเอ่ยอย่างหนักแน่น ไม่มีทีท่าว่าจะยอม คำพูดแฝงการขู่เล็กน้อย " ก็เพราะเธอเป็นภรรยาคุณ ผมกลัวคุณจะใช้วิธีรักษาแบบคนพวกนี้ ทางที่ดี คุณควรพาเธอไปหาหมอ จะได้รู้ว่าเธอถูกวางยาชนิดไหน ไม่อย่างงั้น ต่อให้เธอเป็นภรรยาคุณ ผมก็ไม่เกรงใจคุณแล้ว " เตชินมองพิมที่ไม่มีเรี่ยวแรงในอ้อมอก ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำเสียงแผ่วเบา เขาคิดว่าคำพูดของป๊อบก็มีเหตุผลพอ ที่เขาสามารถรับฟังได้ เขาจึงเดินออกจากห้องไป โดยไม่เอ่ยอะไร ป๊อบเดินตามไม่ห่างเพราะเป็นห่วงพิม ผู้จัดการร้านตามเตชินมา แล้วเอ่ยถามความเห็นขอคำสั่งอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะเขาเห็นเตชินโกรธจัดจนอัดคน กระทืบจนน่วม จนผู้ถูกกระทำหมดสติไป เพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว มีแผลเต็มหน้าเต็มตัว " เอ่อ คุณเตชินครับ แล้ว แล้วคนพวกนั้นจะให้ทำยังไงต่อครับ " เตชิ้นอุ้มพิมในอ้อมอก แล้วเดินไปที่ลานจอดรถเรื่อยๆ โดยไม่หันมามองผู้จัดการร้านหรือหยุดเดินเลย แต่กลับเอ่ยเสียงเย็น ด้วยสีหน้าเคร่งครึมดุดัน " ส่งพวกมันทุกคนเข้าคุกด้วยวิธีไหนก็ได้ แล้วแต่คุณ แต่ต้องลากตัวหญิงชั่วช้าคนนั้นมาให้ได้ก่อน แล้วรอให้ไอ้สองตัวนั้นฟื้น ค่อยส่งหญิงชั่วเข้าไปให้ไอ้สองตัวนั้น ให้มันชดใช้ในสิ่งที่ทำกับพิม มันจะได้รู้ว่าบาปกรรมมันมีจริง ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า แล้วค่อยส่งพวกมันเข้าไปอยู่ในคุกพร้อมกัน " แล้วเอ่ยตบท้ายอย่างเยือกเย็นคล้ายประโยคขอร้อง แต่แท้จริงแล้วมันคือประโยคคำสั่งที่ทำให้คนฟังหนาวสั่น " อย่าทำให้ผมผิดหวัง " ผู้จัดการร้านก้มหน้าแล้วเอ่ยตอบ " ครับ ผมจะไปจัดการ ตามที่คุณเตชินสั่งเดี๋ยวนี้ครับ " คำพูดของเตชินเลือดเย็นอย่างไม่ปราณีใคร งานบางงานไม่สามารถผิดพลาดได้แม้แต่นิดเดียว เขารู้กฎหมายดี แต่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายในการสั่งสอนคนพวกนี้ มันจะเป็นการเมตตามากเกินไป เขาไม่ถนัด เขาถนัดสอนให้คนจำ ผลของการกระทำมากกว่า ให้คนได้รับผลกรรม จากการกระทำของตนเอง ซึ่งการทำแบบนี้ มันผิดกฎหมายเขารู้ดี ดังนั้นลูกน้อง จะทำให้เขาผิดหวังไม่ได้ หากผิดหวังในตัวลูกน้อง เขาจะไม่เก็บคนที่ทำให้เขาผิดหวังเลย และผับ G แห่งนี้ ก็เป็นของเขา ที่ให้ลูกน้องดูแล พอถึงรถ ป๊อบเปิดประตูรถให้เตชินพาพิมเข้าไปนั่งในรถ เตชินวางพิมลงข้างๆคนขับ คาดเบลท์ให้เธอแน่น แล้วมาเอ่ยกับป๊อบด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชาเพียงสั้นๆว่า " ขอบคุณ " จากนั้นเขาก็เดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับ เข้าไปนั่งข้างใน แล้วสตาร์ทรถขับออกไปทันที ป๊อบรีบไปที่รถของตัวเองแล้วขับตามเตชินออกไป ระหว่างทาง พิมนั่งในรถร้องเรียกเสียงแผ่วเบ " เตชิน คุณเตชิน " เตชินหันไปมองเธอแวบๆสลับกับมองทางข้างหน้าแล้วเอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยน " อดทนไว้ก่อนนะพิม เดี๋ยวก็จะถึงโรงพยาบาลแล้ว อดทนอีกนิดนะคนดี " เขายื่นมือออกไปจับมือเธอเบาๆแล้วรีบขับไปที่โรงพยาบาล พอไปถึงโรงพยาบาล เขาก็อุ้มพิมลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในโรงพยาบาล หมอและเจ้าหน้าพยาบาลรีบออกมารับตัวพิม เพราะป๊อบได้โทรแจ้งไว้กับทางโรงพยาบาล ในระหว่างที่ขับรถมา ในขณะที่เข็นผู้ป่วยไปหมอก็ถามเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยไปด้วย เตชินไม่พูดมากเอ่ยเพียงสั้นๆว่า " เธอถูกวางยากระตุ้นอารมณ์ " หมอและพยาบาลก็เข้าใจทันที รีบลากรถเข็นไปห้องฉุกเฉิน เมื่อพิมถูกพาเข้าห้องฉุกเฉินแล้ว เตชินกับป๊อบก็นั่งรอหน้าห้องอย่างเงียบๆ ด้วยความเป็นห่วง ผ่านไปนานหมอและพยาบาลก็เปิดประตูออกมา ป๊อบกับเตชินลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยถามขึ้นพร้อมกัน " เธอเป็นยังไงบ้างครับ? " หมอมองหนุ่มหล่อหน้าใสทั้งสอง ที่ดูร้อนใจ แถมยังเอ่ยถามอาการของผู้ป่วยอย่างพร้อมเพรียงกันอีก หมอยังไม่ตอบแต่กลับเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย " พวกคุณสองคนเป็นอะไรกับคนไข้ " ได้ยินหมอถามดังนั้น เตชินเอ่ยตอบอย่างมั่นใจ พูดออกมาเต็มปากเต็มคำว่า " ผมเป็นสามีของเธอครับ " หมอก็ทำท่าพอเข้าใจแล้วมองไปที่ป๊อบอย่างรอคำตอบ ป๊อบเหล่มองเตชินด้วยหางตาอย่างโกรธแค้นในใจ แล้วหันมาเอ่ยตอบหมอด้วยสีหน้าสุขุมเย็นชา " ผม...ผมเป็นเพื่อนสนิทเธอครับ " ได้คำตอบแล้ว หมอจึงเอ่ยต่อว่า " อืม เป็นคุณใช่มั้ยที่โทรแจ้งกับทางโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ " " ครับ " ป๊อบเอ่ยตอบ แล้วหมอก็เอ่ยต่อด้วยท่าทางเหนื่อยใจกับทั้งสองคน ว่า " ตอนนี้ผู้ป่วยสงบลงแล้ว เหลือแต่รอให้ผู้ป่วยฟื้น ส่วนยาที่ผู้ป่วยได้รับเป็นยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ที่มีชื่อว่า Maroc ยานี้ มีลักษณะเป็นยาน้ำใสๆ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น หากได้รับยาเข้าไป จะมีอาการไวต่อความรู้สึก จะรู้สึกเคลิบเคลิ้มเมื่อถูกสัมผัสตัว และเกิดอารมณ์ทางเพศ การที่พวกคุณไปเที่ยวสถานบันเทิงน่ะไม่ผิด แต่ต่อไป ถ้าพาเพื่อนผู้หญิงหรือภรรยาไป ก็ดูแลกันดีๆ ส่วนวิธีป้องกันมีเพียง ให้ระมัดระวังเครื่องดื่มของพวกคุณ จะให้ดีไม่ควรรับเครื่องดื่มจากคนอื่น เข้าใจมั้ย " สองหนุ่มหน้าใสเอ่ยตอบพร้อมกันเพียงสั้นๆว่า " ครับ " หมออวุโสเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วงจากใจ เกี่ยวกับยาพวกนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ยากและเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบ่อยจนเขาอดเป็นห่วงคนหนุ่มสาวในวัยคึกคะนองไม่ได้ เอ่ยจบหมอก็เดินออกไป พยาบาลสาวจึงเอ่ยขึ้น " เชิญสามีผู้ป่วยไปให้ข้อมูลและประวัติของผู้ป่วยกับทางโรงพยาบาลทางนี้ค่ะ " พยาบาลสาวผายมือทำท่าเชิญอย่างให้เกียรติ เตชินชะงักไป เขาเพิ่งรู้ตัวก็วันนี้ ว่าเขานั้นไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับพิมเลย นอกจากรู้ว่าเป็นสามีเธอกับรู้ชื่อเล่นเธอที่เรียกประจำ อย่างอื่นที่เกี่ยวกับเธอเขาไม่รู้และไม่เคยสนใจเลย ป๊อบยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปากแล้วเอ่ยประชด " คุณเป็นสามีที่ดีจริงๆเลย " เขารู้ว่าเตชินไม่รู้จักพิม ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพิมเลย จากนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างผู้ชนะที่เหนือกว่า ยิ้มในหน้าอย่างเย้ยหยัน พร้อมกับเอ่ยให้เตชินรู้สึกเจ็บใจ " ผมเป็นคนที่รู้จักเธอดีที่สุดครับ ดีกว่าบางคน ผมจะไปให้ข้อมูล เกี่ยวกับประวัติของเธอ แทนสามีที่ดีของเธอเองครับ " พยาบาลยิ้มอย่างลำบากใจเล็กน้อยแล้วเอ่ยอย่างเกรงใจเตชิน " งั้นเชิญทั้งสองท่านไปด้วยกันเลยค่ะ " ไปถึงห้องพักผู้ป่วย ป๊อบก็เริ่มให้ข้อมูลเกี่ยวกับพิม ไม่ว่าจะชื่อจริงนามสกุลหรือแม้กระทั่งส่วนสูงน้ำหนักและกรุ๊ปเลือด เขารู้หมด เตชินได้แต่นั่งฟังอย่างเงียบๆด้วยความไม่พอใจ และเจ็บใจที่ต้องยอมให้ป๊อบข้ามหน้าข้ามตา พูดจาไม่ให้เกียรติเขาต่อหน้าคนอื่น โมโหผู้ช่วยคังที่ไม่เคยเอาข้อมูลของพิมมาให้เขาเลย เมื่อได้ข้อมูลและประวัติของผู้ป่วยครบแล้ว พยบาลสาวก็ลุกขึ้นแล้วเอ่ย " เรียบร้อยแล้วค่ะ สักครู่ผู้ช่วยพยาบาลจะเข็นผู้ป่วยเข้ามานะคะ " " ครับ " ป๊อบเอ่ยตอบ แล้วพยาบาลสาวก็เดินออกจากห้องไป สักพักบุรุษพยาบาลก็เข็นพิมที่นอนนิ่ง หมดสติอยู่บนเตียงเข้ามาในห้อง เตชินลุกขึ้นไปนั่งข้างๆพิม ป๊อบเองก็เช่นกันทั้งสองนั่งกันคนละข้างของเตียง ป๊อบมองเตชินด้วยความโกรธแค้น หากไปช้ากว่านี้ เขาไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับพิมแค่ไหน เขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาด้วยน้ำเสียงเบา แววตาแข็งกร้าวมองไปทางเตชิน " คุณเตชินเรามีเรื่องต้องคุยกัน " เอ่ยจบเขาก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป เตชินก็ลุกตามเขาออกไป ทั้งสองขึ้นไปคุยกันบนดาดฟ้า ที่จัดทำเป็นสวนไว้สำหรับพักผ่อนชมวิว เมื่อเตชินตามขึ้นมาถึง ก็เปิดประตูเข้ามา เดินมาหาป๊อบที่ยืนหันหลังรอเขา ป๊อบหันหน้ามาแล้วต่อยไปที่หน้าของเตชินด้วยความโกรธแค้นแล้วเอ่ยตะคอกเสียงดัง " เป็นเพราะคุณ พิมถึงได้เป็นแบบนี้ " เตชินไม่โต้ตอบ ยืนนิ่งยอมรับผิดด้วยความรู้สึกผิดต่อพิม เขาเองก็ไม่อยากคิดถ้าไปช้ากว่านี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับพิมบ้าง พิมคงจะเกลียดเขาไปชั่วชีวิต ป๊อบเข้าไปกระชากคอเสื้อเตชินแล้วเอ่ยต่อ " ถ้าคุณไม่ทิ้งเธอไว้ในที่แบบนั้นคนเดียว เธอจะถูกกระทำแบบนี้มั้ย ห๊ะ! ถ้าเราไปช้ากว่านี้มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คุณบอกว่าคุณเป็นสามีเธอ นี่น่ะเหรอคือสิ่งที่สามีทำกับภรรยา คุณรู้บ้างมั้ยว่าพิมกลัวความมืด คุณทิ้งเธอไว้ในที่แบบนั้น ในเวลานั้น คุณเคยคิดมั้ยว่าเธอจะรู้สึกกลัวแค่ไหน เธอไม่เคยดื่ม ไม่เคยเที่ยว เหมือนผู้หญิงคนอื่น คุณรู้บ้างมั้ย " เอ่ยจบเขาก็ผลักเตชินออกไปด้วยความโมโห เขาโกรธเตชินจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ไหวแล้ว เมื่อนึกสภาพพิมที่ต้องอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืด ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย นึกภาพที่เธออยู่อย่างหวาดกลัว เขาอยากจะซัดเตชินให้น่วมเหมือนสองคนนั้นเลย เขายืนหันหน้าออกไป สายตาทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาบนดาดฟ้า ยืนสูดลมหายใจเข้าแล้วหายใจออกเบาๆเพื่อสงบสติอารมณ์ เมื่อเริ่มควบคุมอารมณ์ได้ เขาจึงหันมามองเตชินแล้วเอ่ย " ในเมื่อคุณไม่รู้จักเธอเลย แล้วยังดูแลเธอไม่ได้อีก คุณก็หย่ากับเธอซะ ปล่อยให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้เธอได้โบยบินอย่างอิสระ " เอ่ยจบเขาก็เดินชนไหล่เตชินออกไป เตชินยกมุมปากขึ้น แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น " หึ! ไม่มีทาง ผมจะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด " ป๊อบได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงัก กำมือแน่นด้วยความไม่พอใจ แล้วค่อยๆหันมามองเตชินแล้วเอ่ยถามด้วยแววตาคมกริบ " ทำไมคุณถึงไม่ยอมปล่อยเธอ เพราะอะไร! " เตชินยิ้มมุมปาก นัยน์ตาดำขลับดูสุขุมเคร่งขรึมเย็นชา เอ่ยขึ้น " เพราะผมรักเธอ และจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งเธอไปเด็ดขาด " คิ้วป๊อบกระตุกเล็กน้อย เมื่อเตชินประกาศชัด ว่าเป็นศัตรูหัวใจกับเขา เขาจึงเอ่ยว่า " แต่เธอไม่ได้รักคุณ " เตชินไม่เถียง เขารู้ว่าพิมยังไม่รักเขา ใจเธอไม่เคยหวั่นไหวกับเขา เขาจึงเอ่ยตอบไปว่า " ตอนนี้อาจะไม่ได้รัก แต่ต่อไปมันก็ไม่แน่ และผมจะทำให้เธอหันมารักผมให้ได้ " ป๊อบก็ยกยิ้มขึ้นแล้วเอ่ยอย่างท้าทาย " ถ้าคุณมั่นใจขนาดนั้นก็ลองดู หากทำให้เธอรักคุณได้ ผมจะยอมปล่อยเธอไป " เอ่ยจบเขาก็เดินออกไปด้วยหัวใจที่สั่นไหว เพราะกลัวพิมจะชอบเตชินเข้าจริงๆ สองหนุ่มคุยกันแบบแมนๆบนสวนดาดฟ้าท่ามกลางสายลมที่คอยพัดผ่านตลอดเวลาพิมฟื้นขึ้นมา แล้วกวาดสาตามองไปรอบๆห้อง ก็รู้ทันทีว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาลเธอนั่งนิ่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น นึกถึงสภาพที่ตัวเองวิ่งตามรถของเตชินด้วยความหวาดกลัวก็รู้สึกโกรธเตชินจนไม่อยากให้อภัยแล้วแล้วภาพที่ผู้ชายลูบไล้บนตัวเธอ มองเธอด้วยสายตาหื่นกาม ริมฝีปากน่าขยะแขยงสัมผัสลงบนตัวเธอ ก็ลอยเข้ามาในหัวเธอรู้สึกรังเกียจ ขยะแขยงจนถอดสายน้ำเกลือทิ้งแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อารมณ์อยากจะฆ่าคนอีกใจหนึ่งเธอรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตัวเองเกือบจะถูกข่มขืนเธอเปิดน้ำแล้วถูร่องรอยพวกนั้นออกแรงๆ ตามมือ ตามแขน ซอกคอ ที่ถูกสัมผัส เธอรู้สึกเหมือนมันติดอยู่บนตัวเธอ เธอขยะแขยงจนน้ำตาไหลอาบแก้มร้องให้ด้วยความรังเกียจ เธอถูจนผิวบวมแดง เธอรู้สึกว่าถูเท่าไหร่ก็ถูไม่ออก เธอใช้มือตีตัวเองแล้วกรี๊ดขึ้นเสียงดัง" กรี๊ด!!! "ป๊อบกับเตชินเดินเข้ามาได้ยินพอดี ก็รีบวิ่งเข้ามาดูตามเสียงกรี๊ดที่ดังลั่นเห็นพิมนั่งในห้องน้ำทั้งถูทั้งตีตัวเองด้วยความรังเกียจและขยะแขยงใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาพร้อมกับพึมพำด้วยความโกรธแค้น" ฉันจะฆ่ามัน ฉันจะฆ่ามัน กรี๊ด! "จิตใจพิมที่ห
พิมเดินกะเผลกออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นป๊อบแล้ว แม้เธอไม่อยากคุยกับเตชินเลยแต่มันก็ไม่มีคนอื่นที่เธอพอจะพูดคุยหรือถามไถ่ได้ เธอเลยฝืนใจเอ่ยปากถามเตชินว่า" คุณป๊อบไปไหนแล้ว "เตชินไม่ค่อยพอใจที่เธอถามหาป๊อบแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรจึงเอ่ยตอบเธอไปอย่างไม่เต็มใจ" เขากลับไปแล้ว คงมีธุระด่วน "แล้วเขาก็เดินไปหยิบไดร์เป่าผมมาเสียบปลั๊กแล้วเอ่ยขึ้น" คุณมาเป่าผมเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบาย "พิมเดินเข้าไปหาเขาแล้วยื่นมือไปจับไดร์เป่าผมในมือเตชิน แต่เขากลับไม่ยอมให้ เธอจึงเอ่ยด้วยสีหน้าบึ้งตึงแฝงความเย็นชาในน้ำเสียง" เอาไดร์เป่าผมมา "เตชินจึงเอ่ยว่า" คุณนั่งลงเถอะ เดี๋ยวผมจะเป่าให้ "พิมจึงเอ่ยว่า" ไม่ต้อง ผมของฉัน ฉันจะเป่าเอง "แววตาและน้ำเสียงของพิมเย็นชา ท่าทางห่างเหิน ทำให้เตชินไม่ชอบใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เอ่ยอย่างใจเย็น" พิมผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมผิด คุณอย่าทำหน้างอใส่กันแบบนี้อีกเลยได้มั้ย ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนี้อีก "พิมจึงเอ่ยอย่างเย็นชาถ้อยคำเต็มไปด้วยความประชดประชัน" คุณขอโทษฉันทำไม คุณไม่ได้ทำอะไรผิด รถของคุณ คุณจะให้ใครขึ้นหรือทิ้งใครก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ อีกอย่างฉันเป็นแค่ลูกจ้าง
แล้วเตชินก็หมุนตัวออกไปเปิดประตู เดินออกไป พร้อมกับกดรับโทรศัพท์ทันที" ครับแม่ "เตชินเดินออกไปคุยที่ระเบียงที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินเพ่นพ่าน ผ่านไปผ่านมาคุณหญิงจารวีที่อยู่ปลายสายก็เอ่ยถามขึ้น" ช่วงนี้ลูกกับสาวใช้ของลูกสบายดีมั้ย "" ครับ พวกเราสบายดี "เตชินเอ่ยตอบ จากนั้นผู้เป็นแม่ก็เอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงกังวลใจ" นี่ก็สองเดือนแล้ว ลูกกับหล่อนคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว แม่หมายถึง หล่อนท้องหรือยัง "เตชินจึงเอ่ยตอบผู้เป็นแม่ว่า" เธอยังไม่ท้องครับ คุณแม่ไม่ต้องห่วง คุณแม่จัดการในส่วนของคุณแม่ให้เรียบร้อยเถอะ ส่วนทางผม คุณแม่สบายใจได้ ไม่นานผมจะทำให้เธอท้องลูกของผมให้ได้ครับ "คุณหญิงจารวีได้ยินดังนั้นก็ยิ้มอย่างสบายใจรู้สึกเบาใจขึ้นมาหน่อยแล้วเอ่ยถามลูกชายต่อ" ถ้าหล่อนคลอดลูกแล้ว แล้วหลังจากนั้นล่ะ ลูกจะเอายังไงกับหล่อน "เตชินจึงเอ่ยตอบไปว่า" หลังจากนั้นเหรอ ผมยังไม่ได้คิดครับ ยังไม่ได้วางแผนอะไร คงต้องหย่า ให้เธอกลับไปใช้ชีวิตอิสระของเธอ "คุณหญิงจารวีเอ่ยถามด้วยความสงสัย" แล้วลูกไม่ได้รู้สึกอะไรกับหล่อนเลยเหรอ "เตชินถอนหายใจแล้วตอบไปว่า" ไม่ครับ คุณแม่ก็รู้ว่าผมไม่สามารถให้ความรู้
พิมเดินผ่อนคลายอารมณ์คนเดียวอย่างเงียบๆพร้อมกับพึมพำในใจ[ เกิดเป็นพิมนี่เหนื่อยเหลือเกิน นอกจากเรียนดีเรียนเก่งแล้วอย่างอื่นล้วนไม่ดีสักอย่างต้องกัดปากตีนถีบตั้งแต่เด็ก อดทนกับความยากลำบากมาตลอด จนโตมาถึงตอนนี้ได้ไม่ใช่ง่ายๆเลย ]เธอเดินพึมพำกับตัวเองในใจเดินไปตามทางฟุตบาท ข้างทางร่มรื่นไปด้วยต้นไม่ใหญ่เรียงรายไปตลอดทางแล้วเธอก็เดินไปที่เก่า นั่นก็คือเกาะลอยที่เธอชอบมาปั่นจักรยานน้ำรูปเป็ด เธอไปจ่ายตังค์แล้วเดินลงไปนั่งในเรือหยิบไม้พายขึ้นมาแล้วทอดสายตามองไปยังอีกฝั่งแล้วเอ่ยอย่างฮึดสู้อีกครั้ง" เราจะมาท้อแท้ใจกับเรื่องแค่นี้ไม่ได้เด็ดขาด เมื่อลงไปนั่งในเรือแล้ว เดินเรือเส้นทางนี้แล้ว ต่อให้มีลม มีฝนตกลงมากระหน่ำใส่ ต่อให้เรือชำรุด ต่อให้เหนื่อยหรือเจออะไรที่ยากลำบากแค่ไหนเราก็ต้องพาตัวเองไปให้รอด พายไปให้ถึงฝั่งให้ได้ "จากนั้นเธอก็ยกไม้พายขึ้นแล้วส่งเสียงดังออกมาน้ำเสียงฮึกเหิมราวกับพร้อมที่จะออกรบ" สู้...สู้ !!! "ทำเอาคนที่อยู่รอบๆ ที่อยู่แถวนั้นและคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างหันมามองเธออย่างงงงันบางคนแอบขำให้กับท่าทางของเธอเวลานี้เธอไม่สนใจใครหน้าไหนแล้วไม่แม้แต่จะแคร
เตชินเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย คนที่จะมาเป็นคุณหญิงของเขาในอนาคต ไม่ใช่จะเลือกใครก็ได้ เขาเองก็เลือกคนที่เหมาะสมกับเขาเช่นกัน และเขาอาจจะมีตัวเลือกที่ดีกว่าพิมแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ได้แต่ถึงแม้เตชินจะเก่ง จะฉลาด รอบคอบแค่ไหน แต่บางเรื่องเขาก็มองข้ามไปโดยไม่รู้สึกเอะใจอะไรส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยของพิมเลยไม่เคยนึกสงสัยว่าเธอรู้จักและสนิทสนมกับป๊อบที่มีฐานะร่ำรวยได้ยังไงพิมนอนแช่น้ำในอ่างอย่างสบายใจ ฟองสบู่ลอยเหนือน้ำอุ่นๆส่งกลิ่นหอมอ่อนๆทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเมื่ออาบน้ำเสร็จเธอก็ลุกขึ้นมาจากอ่างแล้วเปิดฝักบัวล้างตัวอีกครั้งจากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดตัวมาปกปิดเรือนร่างแล้วสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินไปนั่งเป่าผม เตชินเห็นว่าเธออาบน้ำเสร็จแล้วเขาจึงจากจากเก้าอี้ เดินออกมาจากห้องน้ำงานแล้วไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำต่อพิมไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบเอายานอนหลับที่เธอซ่อนไว้ในกระเป๋ามายัดใส่ลงในกระเป๋าเสื้อของชุดนอนที่เธอสวมใส่อยู่ จากนั้นก็กลับมานั่งเป่าผมที่เดิมเป่าผมเสร็จเธอก็ออกจากห้องแล้วเดินลงไปชั้นล่างเธอเดินเ
ในเช้าวันใหม่เตชินหลับไม่ยอมตื่นเพราะฤทธิ์ยานอนหลับที่เกินขาด จนพิมเริ่มกระวนกระวายใจ[ ตายละ ทำไมคุณเตชินไม่ตื่นสักที นี่มันจะสิบเอ็ดโมงแล้ว ทำยังไงดีๆ ]เธอกลัวคนอื่นจะสงสัย ตอนนี้เธอร้อนรนกระวนกระวายอยู่ไม่เป็นสุขแล้วผู้ช่วยคังที่มารอรับเตชินหน้าบ้านเขารู้สึกว่ามันผิดวิสัยเกินไป โดยปกติคุณชายของเขาจะเป็นคนตรงเวลามากจริงจังกับเรื่องเวลาเสมอจึงตัดสินใจโทรไปหา แต่ก็ไม่มีคนรับสาย เขาเลยเดินเข้าไปในบ้านแล้วเอ่ยถามกับป้าใจ" ป้าใจ คุณชายกับคุณพิมยังไม่ตื่นเหรอครับ "แม้มันจะเป็นการเสียมารยาทแต่เขาก็จำต้องถามแบบนี้เพราะเป็นห่วงเจ้านายแม้เจ้านายเขาจะเป็นคนฉลาดเป็นกรดแต่เขาก็กลัวพิมจะทำอะไรเจ้านายเขามากกว่าเพราะในความคิดเขา ผู้ชายมักจะพลาดท่าให้กับสาวงามเสมอ และเจ้านายเขาก็คล้ายจะอย่างงั้นป้าใจจึงเอ่ยตอบผู้ช่วยคังว่า" ยังค่ะ แต่แปลกนะคะ ทุกวันคุณชายกับคุณพิมจะตื่นเช้า แม้จะตื่นสายก็ไม่ได้สายขนาดนี้ "เมื่อผู้ช่วยคังรู้ว่าทั้งสองยังไม่ตื่น เขาก็ทำหน้านิ่งเฉย เอ่ยเพียงสั้นๆว่า" สงสัยจะหลับดึก "เอ่ยจบเขาก็ออกไปนั่งรอคุณชายของเขาที่ห้องรับแขก ใจหนึ่งอยากขึ้นไปเคาะประตูดู แต่อีกใจก็ก
เตชินนั่งทำงานในห้องของตัวเองในบริษัท ตอนบ่ายก็เรียกประชุมหัวหน้าของแต่ละแผนกการประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่นจนจบการประชุม เมื่อเดินออกมาจากห้องประชุมผู้ช่วยคังก็รายงานว่า" คุณชายครับที่ดินแถวเชียงใหม่แปลงนั้น ดูเหมือนคุณหานจะกลับคำ ไม่ขายให้เราแล้วครับครับ "ได้ยินดังนั้น เตชินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังน่าเกรงขามแฝงไปด้วยอำนาจบารมีและมีสีหน้าเคร่งขรึม ก้าวเท้าเดินตรงไปที่ห้องของตัวเองอย่างมั่นคงด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย" แล้วยังไง ก่อนหน้านี้เจ้าของที่ดิน ก็ตกลงจะขายให้เรา สัญญามัดจำก็เซ็นแล้ว เขามากลับคำแค่นี้ คุณก็จัดการไม่ได้เหรอ "ผู้ช่วยคังเหงื่อตกแล้วค่อยๆเอ่ยอธิบาย" ครับคุณชาย ก่อนหน้านี้คนที่ตกลงขายที่ดินให้เราคือนายหาน ต่อมาลูกสาวเขาเหมือนจะไม่ยอมให้ขายที่ดินผืนนั้น เขาเลยส่งลูกสาวมาเจรจากับคุณชายครับ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็เอ่ยว่า" หึ! ส่งลูกสาวมาเจรจางั้นเหรอ ได้ นัดมาเลย "ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยว่า" ครับ วันนี้ห้าโมงเย็น เธอจะรอที่ร้านอาหาร Zara food ชั้น B ครับ "" ได้ งั้นเราก็ออกไปตอนนี้เลย "" ครับ "ทั้งสองเดินเข้าไปในลิฟท์ส่วนตัวของประธานบริษัทแล้วลงไปที่ลานจ
เช้าวันต่อมา ผู้ช่วยคังไปรับน้ำหนึ่งให้มาที่บริษัทเพื่อตรวจสอบเอกสารที่ใช้ในการ เซ็นสัญญาซื้อขายและโอนย้ายที่ดินน้ำหนึ่งเดินเข้ามาที่บริษัทโดยมีผู้ช่วยคังเดินนำ พาเธอมาที่ห้องประธานบริษัทเมื่อมาถึงผู้ช่วยคังก็ยกมือเคาะประตู จากนั้นก็พาน้ำหนึ่งเข้าไปในห้องทันทีภายในห้องเตชินนั่งรอเอกสารจากน้ำหนึ่ง พอน้ำหนึ่งเข้ามา เตชินก็เอ่ยพร้อมกับผายมืออย่างให้เกียรติ" เชิญนั่งครับ "" ขอบคุณค่ะ "น้ำหนึ่งเอ่ยขอบคุณพร้อมกับนั่งลงสายตาจิกเหยื่ออย่างเตชินสุดฤทธิ์เตชินรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังอ่อยเขาอยู่ เขายกยิ้มขึ้นที่มุมปาก จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น" คุณน้ำหนึ่งเตรียมเอกสารมามั้ยครับ "น้ำหนึ่งยื่นเอกสารไปให้เขา พร้อมกับโชว์เนินอกอันอวบอึ๋มที่สุดแสนจะยั่วยวนมาล่อตาล่อใจเตชิน พร้อมกับเอ่ยแบบอ่อยๆ" เตรียมมาพร้อมหมดทุกอย่างค่ะ หากคุณเตชินต้องการอะไรเพิ่มเติม น้ำหนึ่งยอมพลีกาย อุ๊บ... ยอมให้ได้ทุกอย่างค่ะ "เตชินยิ้มแล้วหยิบเอกสารขึ้นมาตรวจดู จากนั้นก็เอ่ยว่า" อืม เอกสารครบ วันนี้เราออกเดินทางไปพร้อมกันเลยนะครับ ผมจะให้ผู้ช่วยคังไปส่งคุณกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วเราเจอกันที่สนามบินเลยนะครับ "" ค
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ