รถบรรทุกขนาดใหญ่แปดคันแอบขับเข้าไปในหมู่บ้านพวกเขาไม่กล้าบีบแตร รถทุกคันจะถูกคลุมอย่างแน่นหนา แม้กระทั่งผลไม้ท้ายรถก็ซ่อนให้พ้นสายตาผู้คนเย่มู่มู่เห็นพวกเขายกลังแอปเปิลและลูกพลัมลงมาก่อนจากนั้นก็นำวัตถุระเบิดออกมาอย่างระมัดระวังวัตถุระเบิดห้าร้อยตัน อานุภาพเทียบเท่ากับระเบิดปรมาณู คนขับรถทุกคนระมัดระวังเป็นพิเศษครั้งนี้ ผู้จัดการโรงงานและผู้ถือหุ้นสองท่านก็มาด้วยเซียวหัวเองก็ตามมาด้วยเช่นกัน กำลังช่วยขนย้ายสินค้าอยู่ของถูกวางซ้อนกันอย่างเรียบร้อยในโกดังหลังจากขนย้ายเสร็จแล้วก็สี่ทุ่มพอดีเย่มู่มู่เกลี้ยกล่อมให้พวกเขาไปพัก ไม่ต้องขับรถตอนกลางคืน เพราะพวกเขาเพิ่งจะออกเดินทางมาเมื่อคืนนี้เธอจองอาหารไว้สองโต๊ะในบ้านพักตากอากาศ และห้องสิบห้อง ให้พวกเขาได้ผ่อนคลายสักหน่อย และเที่ยวเล่นสักสองวันก่อนจะเดินทางเถ้าแก่โรงงานพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูเย่ พรุ่งนี้เช้าต้องรีบไปแล้ว ในโรงงานไม่มีสต๊อกของ แถมยังมีคำสั่งซื้ออีกสองรายการด้วย”ผู้ถือหุ้นจับมือของเย่มู่มู่ “ขอบคุณคุณหนูเย่ที่ดูแล พวกเราอยู่นานไม่ได้ ไว้คราวหน้าหวังว่าพวกเราจะได้ร่วมทำธุรกิจด้วยกันอีกนะครับ!”เย่มู่มู่พย
แม่ทัพออกไปแล้ว พวกเขาไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าแม่ทัพจะบุกไปโจมตีรังของราชสำนักเก่าของม่อเป่ยอ๋องความกังวลเดียวของพวกเขาคือระเบิดจะส่งมาไม่ได้แต่ตอนนี้ ในที่สุดก็ไม่ต้องกังวลแล้วท่านเทพส่งกระดาษขาวมาได้ ก็ต้องส่งวัตถุระเบิดมาได้อย่างแน่นอนพวกเขายกแจกันลงมาจากหอสูง ย้ายไปยังพื้นที่รกร้างผืนหนึ่ง มีบ้านดินหลายหลังตั้งอยู่รอให้ท่านเทพส่งวัตถุระเบิดมาให้แต่หลังจากรอไปหนึ่งถ้วยชา ท่านเทพก็ยังไม่ส่งวัตถุระเบิดมาให้ต้องรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่สามกองทัพเผชิญหน้ากัน ทหารกำลังจะมาประชิดใต้กำแพงเมือง!พวกเขาต่างก็เป็นกังวล แต่ก็ทำอะไรไม่ได้จวงเหลียงก็ลองดู เขียนจดหมายตอบกลับเย่มู่มู่ ให้นางสบายใจส่งมาได้เลยแต่ว่าส่งจดหมายไปไม่ได้แจกันไม่รู้จักจวงเหลียงมั่วฝานเองก็ลองดูเช่นกัน แต่มันก็ไร้ประโยชน์ทหารที่เหลือ แต่ละคนต่างก็ลองดูกันคนละรอบ แจกันยังปล่อยให้กระดาษร่วงลงไปเช่นเดิมหลังจากรอจนเวลาครึ่งก้านธูป ทุกคนก็มองจนเซ่อซ่าแล้วไม่มีทางตอบจดหมายกลับให้ท่านเทพได้เลย จึงไม่แน่ใจว่านางจะส่งมาเมื่อไหร่แล้วต้องรอจนถึงเมื่อไหร่?ถ้าเกิดว่านางไม่ส่งมาล่ะ พวกทหารจะทำอย่างไร?*เ
ทุกคนแบ่งกันขนวัตถุระเบิดมุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองแต่ละทิศ!หลังจากเฉินขุยและเฉินอู่วางวัตถุระเบิดเอาไว้อย่างดีแล้ว ก็เตรียมตัวออกจากเมืองไปฝังระเบิดพวกเขานึกว่ากองทัพศัตรูที่อยู่นอกเมืองถอยทัพกลับไปแล้วเฉินขุยเป็นคนแรกที่ออกจากประตูเมืองขณะที่เขาเปิดประตูเมืองคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเหมือนเสียงธนูทะลุอากาศในคืนมืดมิดเขาตื่นตัว รีบถอยหลังไปหนึ่งก้าว!ติ้ง~ ลูกธนูพุ่งเข้าไปที่หน้าอกของเขา กระแทกกับชุดเกราะ แล้วเกิดเป็นประกายไฟลูกธนูตกลงพื้น เกิดเสียงดังชัดเจนเฉินขุยรีบปิดประตูเมืองเสียงดังปังเขาเปิดไฟฉาย ส่องไปที่พื้น มันคือปีกลูกธนูยาวที่หยาบมากหนึ่งดอกเขาหยิบลูกธนูบนพื้นขึ้นมาด้วยความสงสัย ธนูยาวคล้ายกับหน้าไม้ราชวงศ์ฉินหลังจากกองทัพแคว้นฉู่พ่ายแพ้ไป ก็เรียนรู้บทเรียนได้อย่างรวดเร็ว กลับไปปรับแก้ธนูและลูกธนูอย่างต่อเนื่องวันนี้ สิ่งที่ยิงบนกำแพงเมืองล้วนเป็นธนูที่ด้อยกว่าหน้าที่หลักมิใช่การสังหารคน แต่เป็นการวางเพลิง ดังนั้นจึงไม่ปวดใจเมื่อใช้มันลูกธนูที่ยิงเฉินขุยตอนกลางคืน เป็นธนูล่าสุดของพวกเขา หัวลูกศรทำจากเหล็กที่ประณีตและแหลมคม!หากไม่ใช่เพราะเฉินขุยสวมช
ซื้อทั้งชุดต้องใช้งบหนึ่งล้านห้าแสนบาทภาพออกแบบจะถูกส่งไปที่มือถือของเย่มู่มู่ภาพออกแบบบ้านไม่เลว เป็นแบบบ้านพักตากอากาศที่สวยงามที่ดินบ้านพี่ซุน มีเนื้อที่ครึ่งหมู่หรือสามร้อยสามสิบสามตารางเมตร ถ้าสร้างบ้านเดี่ยวสักหลัง พื้นที่ก็เพียงพอแล้วไม่มีที่จอดรถ พอออกจากประตูก็เป็นที่นาของคนอื่นที่ดินที่ติดกับบ้านของพี่ซุนคือบ้านของเพื่อนบ้าน ก็เป็นพื้นที่ครึ่งหมู่ อยากจะให้เธอเช่าเพื่อนบ้านบอกว่าไม่ต้องให้ห้าแสนบาท ให้แค่สองแสนห้าหมื่นบาทก็พอแล้วเย่มู่มู่ตอบพี่ซุนว่า “การออกแบบบ้านไม่เลว สร้างแบบนี้แล้วกัน ที่ดินข้าง ๆ ก็ให้ห้าแสนบาท ให้เพื่อนบ้านมาเซ็นสัญญากับฉัน”พี่ซุนถอนหายใจอย่างมีความสุข“คุณหนูเย่ ทีมก่อสร้างแจ้งว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ตั้งแต่วันนี้ ผมให้คนเริ่มตรวจวัดแล้วครับ”“ดีค่ะ!”เย่มู่มู่ให้เงินสองล้านบาทกับพี่ซุน ให้เขาออกใบเสร็จทุกอย่างที่ซื้อส่งรายการบัญชีให้เธอทางข้อความทุกวัน!หลังจากวางสายแล้ว เย่มู่มู่จึงลงจากชั้นล่าง ห้องอาหารบ้านพักตากอากาศก็ส่งอาหารมาให้แล้วหลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จ ก็ลงจากเขาไปที่โกดังประตูใหญ่โกดังปิดสนิท พี่ซุนและภรรยามองดูรถ
กองทัพแคว้นฉู่ปรับปรุงธนู ธนูแหลมคมยิ่งกว่าเดิม และยิงได้ไกลขึ้นเสื้อเกราะกันกระสุนที่ทหารต้าฉี่สวมนั้นไม่ได้ป้องกันทั้งตัว ยังเผยให้เห็นแขน ขา และส่วนอื่น ๆ...ชุดเกราะเดิมที่พวกเขาสวม ระดับการป้องกันต่ำมาก สามารถถูกธนูที่กองทัพแคว้นฉู่ปรับปรุงขึ้นยิงทะลุได้ในการต่อสู้ครั้งนี้ กองทัพแคว้นฉี่เสียหายอย่างหนักกว่าคราวก่อนคนหลายร้อยคนตายลงในการโจมตีเมืองระลอกแรกคนหลายคนถูกยิงที่ไหล่และแขน ไม่สามารถหยิบธนูขึ้นมาได้อีก สูญเสียแรงต่อสู้ไปถูกชาวบ้านหามลงไปส่งที่หน่วยแพทย์ของกองทัพหน่วยแพทย์ของกองทัพมีคนบาดเจ็บมากเกินไป ยาที่เย่มู่มู่ส่งมาคราวก่อน ก็เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลังแล้วซ่งอวิ๋นฮุยที่อยู่ในกระโจม ดึงธนูออกให้ทหารเด็กรับใช้แพทย์ดูยาในตู้ยา มันเหลือน้อยมากแล้วเด็กหนุ่มกล่าวด้วยความกังวล “ท่านอาจารย์ ท่านหมอหลินบอกว่ายาที่มีเพียงพอให้ใช้ได้เพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น ผู้บาดเจ็บระลอกแรก มีมากกว่าหนึ่งพันคน”“เพิ่งจะเริ่มสู้ไม่นานมานี้เอง จะทำอย่างไร?”ซ่งอวิ๋นฮุยถามว่า “ยาฆ่าเชื้อที่ส่งมาเมื่อวานนี้ ยังเหลืออยู่หรือไม่?”“เหลืออยู่ขอรับ แต่ไม่รู้ว่ามันจะโดนบาดแผลได้หรือไม่
“ต้านไม่ไหวแล้ว ทุกคนจบเห่แล้ว!”ขณะที่ซ่งอวิ๋นฮุยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เฉินอู่ก็ดึงไปข้าง ๆ แล้วถามเขาว่า “ยังขาดยาอีกเท่าไหร่?”“มีคนบาดเจ็บหนึ่งพันห้าร้อยคน ยาทั้งหมดที่มีเพียงพอให้คนห้าร้อยคนใช้เท่านั้น”“ถ้าประหยัดหน่อยล่ะ?”“อย่างมากก็แปดร้อยคน แต่คนเจ็บถูกส่งลงไปเรื่อย ๆ จะประหยัดได้เท่าไหร่?”“ใช้ยาฆ่าเชื้อที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานได้หรือไม่?”“นั่นไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อสำหรับแผล!”“ใช้ได้ก็พอแล้ว ไม่สำคัญว่าจะเป็นยาฆ่าเชื้ออะไร!”“แบบนั้นจะทำได้อย่างไร? ข้าลองดูแล้วเมื่อครู่นี้ ยาฆ่าเชื้อมันแรงเกินไป ทหารเจ็บปวดจนหมดสติไปแล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างหน้าดำหน้าแดง ทหารที่เฉินขุยไว้ใจก็เข้ามารายงาน“รายงาน ท่านแม่ทัพ...”เขามอบจดหมายหนึ่งแผ่นให้เฉินขุยด้วยมือทั้งสองข้างเฉินอู่และซ่งอวิ๋นฮุยเคลื่อนสายตามองไปที่จดหมายฉบับนั้น!มันเขียนไว้ว่า:อีกยี่สิบนาที ท่านเทพจะส่งระเบิดมาอีก ยังเหลืออีกสามพันกว่ากล่อง เตรียมโกดังจัดเก็บให้พร้อม!ท่านเทพซื้อยามาจำนวนมากมีเครื่องมือผ่าตัด เตียงผ่าตัด อุปกรณ์ทางการแพทย์...เครื่องกำเนิดไฟหลายเครื่องยาแก้อักเสบที่สำคัญที่สุด ผ้
แคว้นฉู่และแคว้นฉีจะโจมตีเมืองโดยไม่มีรถกระทุ้งกำแพงเมืองได้อย่างไร?ที่แท้ก็ถูกเผาจนหมดนี่เอง!ทว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น!ลูกเล่นของมั่วฝานเยอะกว่าเฉินอู่แน่นอนในการสู้รบคราวก่อน เฉินอู่ให้คนมัดระเบิดไว้กับลูกธนู จุดไฟแล้วยิงออกไปแต่ครั้งนี้ มั่วฝานสั่งให้คนแขวนระเบิดที่ยังไม่จุดไว้กับอากาศยานไร้คนขับอากาศยานไร้คนขับที่ถูกควบคุมระยะไกลบินไปเหนือหัวทหารเผ่าหมานจำนวนมากอากาศยานไร้คนขับเอนเอียง ระเบิดก็ตกลงไปแล้วระเบิดก็ถูกยิงโดยคนที่ใช้ธนูจุดไฟเล็งอยู่แล้ว...ปัง~เสียงระเบิดกังวาน ดังขึ้นในกองทัพเผ่าหมานในพริบตานั้น บริเวณที่ระเบิดตกใส่ ก็ระเบิดกลายเป็นหลุมทรงกลมขนาดใหญ่มีศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่รอบ ๆ คาดว่ามีอย่างน้อยร้อยคนเห็นจะได้นี่แค่คลื่นลูกแรกเท่านั้น ยังมีคลื่นลูกที่สอง คลื่นลูกที่สาม...ทหารเผ่าหมานชุดนี้ได้เห็นอานุภาพของระเบิดมาแล้ว ในใจจึงเกิดความหวาดกลัวกองทัพเผ่าหมานตายเพราะถูกระเบิดจำนวนมากที่สุด รวมแล้วประมาณแสนคน แม้แต่หลัวเก๋อก็ยังเสียคุณสมบัติในการแย่งชิงตำแหน่งไปเพราะถูกระเบิดเมื่อระเบิดดังขึ้น ทุกคนก็อยู่ในความสับสนวุ่นวายที่ขอบสนา
ตอนนี้ม่อเป่ยอ๋องกำลังซักไซ้เอาความหลัวเก๋อน้องชายของเขาก็ตายเพราะถูกระเบิด ตนไม่สนใจเอง แล้วมาโทษพวกเขา?“พวกท่านปกปิดเรื่องระเบิด หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...”“ท่านโง่เขลาเอง กองทัพเผ่าหมานหลายแสนนายต้องตายเปล่า!”ฉีซวนเหิงโต้กลับอย่างไม่พอใจหลิงเซี่ยวเฟิงมีสีหน้ามืดมน ขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่“อย่าทะเลาะกัน ตอนนี้จะทำอย่างไรกันดี?”พวกเขาเดินทางไกลเพื่อมาโจมตีด่านเจิ้นกวนอาหารที่นำมาด้วยเดิมทีก็ไม่มาก อากาศอบอ้าวแถมยังขาดน้ำเผ่าหมานส่วนหนึ่งอพยพไปอยู่ใกล้ภูเขาหิมะ หิมะที่ขุดจากภูเขาหิมะละลายเป็นน้ำหิมะเดินทางไกลกว่าหนึ่งเดือน กว่าจะถึงค่ายพวกเขาสะสมน้ำหิมะไว้ปีสองปี ถึงได้มีการบุกโจมตีเมืองในครั้งนี้ตอนนี้แหล่งน้ำกำลังจะแห้งขอดม้าศึกไม่ได้กินหญ้า จึงผอมลงทุกวัน ม้าศึกที่ใกล้ตายก็ถูกฆ่าเพื่อทำอาหารให้กองทัพและเช่นเดียวกัน กองทัพแคว้นฉู่แคว้นฉีทั้งสองแคว้นจ่ายราคามหาศาลเพื่อโจมตีด่านเจิ้นกวนเรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมทรัพยากรทั้งหมดของแคว้นเพื่อโจมตีเมืองเลยก็ว่าได้หากการโจมตีล้มเหลวทหารที่สูญเสียไปก็อีกเรื่อง แต่ไม่มีทรัพยากรชุดที่สองโจมตีด่านเจิ้นกวนอีกแล้ววั
“ลำบากท่านแล้ว เอาไปแบ่งกินกับยามที่เฝ้าเวลากลางคืนด้วยนะคะ”พี่ซุนรับถุงอาหารไปด้วยความยินดี “ได้เลย ขอบคุณมากนะครับ!”เย่มู่มู่ขับรถต่อไปจนถึงโกดัง เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้วมั่วฝานและหลูซีก็กระโดดลงจากรถก่อนจากนั้นเย่มู่มู่เปิดประตูรถ หยิบแจกันลงมาจากนั้น เย่มู่มู่เปิดประตูม้วนของโกดังขึ้นภายในโกดัง มีกล่องรองเท้าหลายร้อยกล่องเรียงกันอย่างเป็นระเบียบชุดสำเร็จรูปครึ่งร้านถูกบรรจุลงในกล่องกระดาษขนาดใหญ่ทั้งหมดเย่มู่มู่วางแจกันลง “แจกันนี้ดูเหมือนจะอัพเกรดได้แล้วนะ ข้าสามารถได้ยินเสียงรอบตัวจ้านเฉิงอิ้นได้!”“และยังสามารถเก็บเสบียงได้ ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง หากจ้านเฉิงอิ้นต้องการ ก็สามารถหยิบออกมาใช้ได้ตลอดเวลา” เมื่อมั่วฝานและหลูซีได้ยินดังนั้น ก็ดีใจจนออกนอกหน้ามั่วฝานรีบถามนางทันที“ท่านเทพ ท่านหมายความว่าต่อไปนี้หากท่านแม่ทัพต้องการเสบียง ก็ไม่ต้องขับรถตามหลัง สามารถหยิบออกมาใช้ได้ทันที ใช้เสร็จแล้วก็สามารถเก็บกลับเข้าไปได้อีกหรือ?” “ใช่”เย่มู่มู่วางมือลงบนแจกัน เธอหลับตาลง สัมผัสได้ถึงพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหมอกจาง ๆ แต่ก็กว้างขวางมาก!มั่วฝานดีใจเดินวนรอบแจกัน
“ได้ยินกันหรือเปล่า? เขาไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารให้พวกคุณ รีบไสหัวออกไปซะ ก่อนที่จะไม่ได้ออกจากร้านนี้!”สาวงามเจ็ดแปดคนที่แต่งตัวเย้ายวนพร้อมใจกันเบะปาก ยิ้มเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก“ดูหน้าตาก็ดูดีอยู่หรอก แต่ถ้าไม่มีเงินก็บอกมาตั้งแต่แรกสิ จะได้ไม่เสียเวลาฉัน!” “นั่นสิ อุตส่าห์มาที่ร้านแบบนี้ หวังจะเจอคนรวยหน่อย ๆ ตอนนี้แม้แต่ค่าทิปยังไม่ได้สักบาท!” “ซวยจริง ๆ ดันไปอ่อยคนจนเข้าให้!” พวกเธอพากันบิดเอวเดินจากไปอย่างไม่แยแสเย่มู่มู่กล่าวกับพนักงานร้านด้วยความรู้สึกผิด “ของพวกนี้ไม่เอาแล้วค่ะ เอาเก็บกลับไปได้เลย”จากนั้นเธอก็พามั่วฝานกับหลูซีออกมาจากร้าน และให้พวกเขาขึ้นรถบรรทุกขนาดเล็กระหว่างขับรถ เย่มู่มู่ก็เริ่มอธิบายให้สองคนจากยุคโบราณเข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การเอาตัวรอดในโลกยุคใหม่“สาว ๆ ที่หน้าตาสวยดูดี ไม่ควรไว้ใจ โดยเฉพาะคนที่แต่งตัวเซ็กซี่ โชว์เนื้อหนัง หรือแต่งตัวเย้ายวนเกินไป”“พวกเธอทำงานในร้านแบบนี้ ซึ่งในโลกของพวกเจ้า ก็เหมือนกับสาว ๆ ในหอนางโลมในยุคโบราณนั่นแหละ”ในยุคโบราณ หญิงสาวในหอนางโลมหลายคนถูกบีบคั้นด้วยความยากลำบากในชีวิต ต้องขายตัวเพื่อเอาชีวิ
เย่มู่มู่กับพนักงานยังคิดว่าฟังผิดเดี๋ยวก่อน~โต๊ะข้าง ๆ เป็นการรวมตัวกินข้าวของบริษัท มีตั้งหลายสิบคนและเอาโต๊ะสองสามตัวมาต่อเข้าด้วยกัน“หนุ่มน้อย สั่งมากขนาดนั้นกินหมดเหรอคะ?”พนักงานมองเด็กอายุสิบสี่สิบห้าพร้อมกล่าวด้วยความประหลาดใจ “สั่งเยอะขนาดนี้ กินทิ้งกินขว้างไม่ได้นะ”เย่มู่มู่รู้ว่าเมื่อก่อนเขามีชีวิตที่ยากลำบาก อาหารมากมายเพียงนี้กินไม่หมดแน่แต่เมื่อเขาอยากกินเลยสั่งมาให้ทั้งหมด“เอาแบบเดียวกันทุกอย่างค่ะ ถ้ากินไม่หมดค่อยห่อกลับบ้านค่ะ!”“ค่ะ รบกวนรอสักครู่!”หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที เย่มู่มู่ตกตะลึงตาค้างที่เห็นหลูซีกินหมูหันจนหมดในเวลาเพียงสั้น ๆตอนแรกเขาใช้ตะเกียบคีบทีละแผ่นอย่างสุภาพ จากนั้นเริ่มใช้มือกินขาหมูเพียงไม่กี่นาทีเขากินหมูทั้งตัวจนหมดเกลี้ยงต่อด้วยไข่เยี่ยวม้า ปลาย่าง ห่านย่าง หัวกระต่ายตุ๋น ไก่ผัดหม่าล่า…เพียงเวลาครึ่งชั่วโมงกว่า มีจานชามใบใหญ่สิบกว่าอันวางซ้อนกันตรงหน้าเขาอาหารจานหลักทั้งโต๊ะถูกเขากินจนไม่เหลือและยังสั่งข้าวสวยเพิ่มหนึ่งถัง น้ำชาหนึ่งกา…หลังจากกินหมดแล้ว เขานั่งที่เก้าอี้อย่างสุขสบาย แหงนท้องโตและส่งเสียงเรอคำใหญ่
พี่สาวมีเงินเห็นเย่มู่มู่ช่วยเขาจ่ายค่ารองเท้าจริง ๆ เลยดึงตัวเธอไปข้าง ๆ อย่างไม่ยอมจำนนริมฝีปากสีแดงอันใหญ่ของเธอกล่าว “น้องสาว ฉันให้เธอห้าแสน เธออย่างแย่งฉันเลยนะ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณอ่อนนุ่มของเขาแบบนี้ ฉันไม่ขาดทุนหรอก…”เย่มู่มู่กล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ไม่ได้ค่ะ!”“เธอไม่เชื่ออีกเหรอว่าฉันมีกำลัง?”พี่สาวมีเงินกัดฝันหยิบโทรศัพท์เปิดยอดเงินคงเหลือในธนาคารให้เย่มู่มู่ดูโห~ห้าร้อยกว่าล้าน!มีเงินสดหลักร้อยล้านในเมืองนี้ นับว่าเป็นกลุ่มคนชนชั้นสูงอย่างแท้จริง“น้องสาว เธออย่างแย่งฉันเลยหน่า! ฉันมีเงิน เธอสู้ไม่ไหวหรอก!”เย่มู่มู่มองหน้ามั่วฝานอีกครั้ง ริมฝีปากของเขาเป็นสีแดง ฟันขาว เกล้าผมเป็นมวยประดับกวานทองและมีปอยผมร่วงลงมาสองสามเส้นเขามีใบหน้าสวยละมุน เกิดมาในชาติตระกูลชนชั้นสูง พร้อมด้วยตำแหน่งท่านชายที่สืบทอดบรรดาศักดิ์มาจากบรรพบุรุษและมีสง่าราศีเด่นเป็นล้นพ้น!เมื่อปล่อยเขาอยู่ท่ามกลางผู้คน สามารถเป็นที่น่าจดจำได้จะว่าไปแล้ว เจ้าหนุ่มคนนี้ก็มีหน้าตาหล่อเหลาไม่เบา!ไม่แปลกใจเลยทำไมพี่สาวมีเงินถึงติดกับ“พี่คะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้”“นี่คือกำลังของฉัน ฉ
“แม่ทัพเฉินขุย…เป็นยา ท่านเทพส่งยามาให้!”“ยาเยอะมาก ยาที่เราเก็บบนรถบรรทุกตอนแรกก็เหลือไม่มากแล้ว ทหารบาดเจ็บกำลังประสบสภาวะขาดแคลนยารักษา ไม่คิดเลย ฮ่า ๆ ๆ ท่านเทพส่งมาทันเวลาจริง ๆ !”“ดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมียูกยาเหล่านี้ ทหารที่บาดเจ็บก็จะได้รับการรักษาที่ทันท่วงที”“แม่ทัพล่ะ? ฟื้นหรือยัง?”“ยังเลยขอรับ แต่สัญญาณชีพคงที่แล้ว”เย่มู่มู่พลันนึกได้บางอย่าง เธอหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมาแล้วลงมือเขียน มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับเธอ เธอจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ขอให้พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงหลังจากเธอส่งข้ามไปก็ได้ยินเสียงร้องก้องกังวานของผู้ชาย“จวงเหลียง ดูเร็วเข้า มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับท่านเทพทั้งสองคน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้พวกเขาสุขสบายดีมาก!”“ท่านเทพจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี!”“ตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่ารัฐทายาทกับหลูซีอยู่ที่ไหน ข้าก็วางใจแล้ว! เวลานี้รอเพียงแม่ทัพตื่นขึ้นมา”จวบจนฝั่งนั้นไม่ส่งเสียงใด ๆ มาอีก เย่มู่มู่จึงอุ้มแจกันขึ้นมาวางข้างที่นั่งคนขับ และกลับไปหามั่วฝานกับหลูซีที่ศูนย์การค้าเธอไปร้านที่หลูซีซื้อเสื้อผ้าก่อน แต่พบว่าไม่เห็นหลูซีเธอเข้าไปใกล้ร้านขายรองเท้าที่มั
สุดท้ายเย่มู่มู่เรียกแกร็บคาร์และส่งพวกเขาไปยังที่จอดรถของโรงแรมระดับห้าดาวหลูซีมองตึกสูงที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างรถยนต์ด้วยแววตาที่เป็นประกายแวววับส่วนรัฐทายาทน้อยเป็นคนเข้ากับคนง่ายและเริ่มสนทนาพูดคุยกับคนขับรถ“ผู้อาวุโสท่านนี้ ท่านมีใบขับขี่หรือไม่?”คนขับรถเป็นวัยกลางคน เขาหันมามองมั่วฝานหนึ่งทีรูปร่างหน้าตาก็เหมือนคน แต่เหมือนสมองจะมีปัญหา“เด็กหนุ่มคนนี้ ถามอะไรประหลาดจริง ฉันไม่มีใบขับขี่จะกล้ามาขับแกร็บคาร์เหรอ?!”“อ๋อ เช่นนั้นแล้วใบขับขี่ของท่านได้มาอย่างไรหรือ?”“สอบไงล่ะ หาโรงเรียนสอนขับรถและจ่ายเงิน เริ่มสอบตั้งแต่ทฤษฎีเกี่ยวกับกฎจราจร 1…ง่ายมาก ฉันสอบสองเดือนก็ได้ใบขับขี่มาแล้ว!”ดวงตามั่วฝานพลันลุกวาว เขาหันมามองเย่มู่มู่“ท่านเทพ ข้าอยากสอบใบขับขี่”เย่มู่มู่ “…”*พวกเขาเดินทางมาถึงโรงแรมและขับรถกระบะออกจากที่จอดรถเย่มู่มู่ส่งมั่วฝานกับหลูซีไว้ที่ศูนย์การค้าจำหน่ายสินค้าฟุ่มเฟือยและเสื้อผ้ารองเท้ายอดนิยมโดยเฉพาะก่อน ซึ่งอยู่ข้าง ๆ โรงแรมระดับห้าดาวเธอให้พวกเขาหาซื้อเสื้อผ้าก่อน จากนั้นค่อยพากลับไปชำระล้างตัวและมีเสื้อผ้าสับเปลี่ยนที่คฤหาสน์ขนาดของศูน
หลูซียืนตรงหน้าเย่มู่มู่และพูดกับเธอ “ไม่กี่คนเหล่านั้นเคยผ่านการฝึกต่อสู้!”ผู้อาวุโส่มู่ยิ้มแย้มกล่าว “หนุ่มน้อย สายตาไม่เลวเลยนี่ พวกเขาเคยผ่านการฝึกจริง!”จากนั้น เขาหันมองมวยผมประดับกวานบนศีรษะและจี้หยกมังกรพันประดับทองตรงเอวของมั่วฝาน“เด็กหนุ่มคนนี้ ผมขอดูหยกแขวนของคุณหน่อยได้ไหมครับ…”อ๋อ เย่มู่มู่ยังคิดอยู่ว่าทำไมเขาถึงอยู่รอทั้งที่ท้องฟ้าเริ่มค่ำแล้วที่แท้วัตถุโบราณบนตัวรัฐทายาทน้อยเตะตาเขานั่นเองมั่วฝานเป็นคนฉลาดจึงรู้ว่าภูมิหลังของผู้อาวุโสท่านนี้ไม่ธรรมดาเพราะเขาผู้นี้ที่ทำให้พวกเขาออกจากสถานีตำรวจได้อย่างรวดเร็วเขาดึงหยกแขวนออกจากเอวแล้วโยนสะบัดให้ผู้อาวุโสมู่“ขอบคุณในความช่วยเหลือของท่านเมื่อครู่นี้ หยกแขวนชิ้นนี้ถือเป็นรางวัลแก่ท่าน!”เย่มู่มู่ถึงกับกระทืบเท้าอย่างร้อนใจวัตถุโบราณหยกแขวนอันเป็นมรดกสืบทอดกว่าสองพันปี ยกให้คนอื่นเปล่า ๆ อย่างนี้เลยเหรอเขารู้ไหมว่ามีมูลค่าเท่าไหร่?ช่างลูกที่ล้างผลาญเงินพ่อแม่ผู้อาวูโสมู่รับหยกแขวนไว้อย่างดีใจ ครั้นเดินมาถึงใต้เสาไฟข้างถนนก็มองดูอย่างละเอียด เป็นหยกแขวนประดับทองมีมังกรพันรอบ ปากคาบหยกแขวน หยกแขวนมีการ
“ใช่ เมื่อมีบัตรประชาชน จะไปที่ไหนก็สะดวก สามารถนั่งรถ นั่งเรือ นั่งเครื่องบิน สามารถเดินทางไกลท่องเที่ยวสุดขอบโลก สามารถไปดูทิวทัศน์ที่ต่างประเทศได้…”มั่วฝานตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง “ถ้าลงทะเบียนบ้านแล้ว ข้าก็จะกลายเป็นคนในโลกของท่านเทพ ฮ่า ๆ ๆ …ข้าจะทำ!”ถ้าจ้านเฉิงอิ้นรู้ว่าเขามีบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านที่เป็นของโลกท่านเทพ ต้องจุกอกตายแน่ครั้นนึกถึงตรงนี้ มั่วฝานก็หัวเราะอย่างหนำใจจะทำบัตรประชาชนต้องถ่ายรูป หลังจากพวกเขาถอดชุดเกราะและเผยชุดเกราะกันกระสุนระดับสูงข้างในออกมาภาพตรงหน้านี้ทำให้ตำรวจผู้มาช่วยถ่ายรูปยังมองตาค้างจึงรีบเรียกหัวหน้าเข้ามา…จวบจน เย่มู่มู่เปิดประวัติการซื้อเสื้อเกราะกันกระสุนบนพินซีซีให้ดูจึงยอมรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจว่าสองสามคนนี้อยากเล่นการรบจำลอง จึงได้สวมเสื้อเกราะกันกระสุนเพื่อความสมจริงมากขึ้นบวกกับมีโทรศัพท์จากข้างบนว่าให้รีบส่งคนกลับไปโดยด่วนพวกเขาทำงานอย่างหน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่และลงบันทึกเลขที่การสั่งซื้อของเย่มู่มู่แต่พอถึงเวลาแจ้งอายุ หลูซีกล่าวว่าปีนี้เขาอายุสิบเจ็ดปี แบบอายุลวงก็สิบเจ็ดปีหัวหน้าสถานีเรียกเย่มู่มู่เข้ามาพูดคุย
ทนไว้!คนทั้งกลุ่มถูกตำรวจนำตัวมายังสถานีตำรวจตำรวจยังไม่เชื่อเลยว่าหลูซีอายุน้อย ๆ กลับล้มบอดีการ์ดได้ยี่สิบกว่าคนครั้นกล้องวงจรปิดในห้องพักถูกโอนถ่ายออกมาเพราะปัญหาจากมุมกล้อง กล้องวงจรปิดจึงไม่สามารถจับภาพคนแต่งตัวเลียนแบบต้นฉบับชุดโบราณสองคนนี้เข้ามายังห้องพักชุดรับรองแบบทางการได้อย่างไรพวกเขาปรากฏตัวขึ้นได้อย่างไรแต่ทุกคนล้วนเห็นฝีมืออันฉับไวของหลูซี มันเร็วมากเสียจนกล้องวงจรปิดยังจับความเคลื่อนไหวของเขาไม่ทันมองเห็นเพียงเงาวับวาบทำบอดีการ์ดตัวสูงโปร่งยี่สิบกว่าคนล้มลงพื้นพวกเขาเห็นคนที่มีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้เป็นครั้งแรกคุณหญิงลู่ยังร้องโวยวายต้องการให้จับตัวหลูซีกับเย่มู่มู่ทนายสวีจึงเข้ามาประกันตัวเธอบวกกับเธอเป็นผู้เสียหาย กลับเป็นคุณหญิงลู่กับลู่ฉีหยางที่มีความคิดกักขังหน่วงเหนี่ยวเธออย่างผิดกฎหมายก่อนตามมาด้วยบอดีการ์ดของพวกเขากระทำการลงมือแม้ว่าเด็กหนุ่มสองคนนี้ทำเพื่อปกป้องเย่มู่มู่และลงมือหนักไปบ้างแต่ก็ทำไปเพราะป้องกันตนเองคำพูดต้นฉบับของทนายสวีกล่าวไว้ว่า ใครจะไปรู้ว่าบอดีการ์ดเหล่านี้จะอ่อนแอปวกเปียกและไม่สู้คนถึงเพียงนี้ส่วนลู่ฉีหยางอาจเป็