ซื้อทั้งชุดต้องใช้งบหนึ่งล้านห้าแสนบาทภาพออกแบบจะถูกส่งไปที่มือถือของเย่มู่มู่ภาพออกแบบบ้านไม่เลว เป็นแบบบ้านพักตากอากาศที่สวยงามที่ดินบ้านพี่ซุน มีเนื้อที่ครึ่งหมู่หรือสามร้อยสามสิบสามตารางเมตร ถ้าสร้างบ้านเดี่ยวสักหลัง พื้นที่ก็เพียงพอแล้วไม่มีที่จอดรถ พอออกจากประตูก็เป็นที่นาของคนอื่นที่ดินที่ติดกับบ้านของพี่ซุนคือบ้านของเพื่อนบ้าน ก็เป็นพื้นที่ครึ่งหมู่ อยากจะให้เธอเช่าเพื่อนบ้านบอกว่าไม่ต้องให้ห้าแสนบาท ให้แค่สองแสนห้าหมื่นบาทก็พอแล้วเย่มู่มู่ตอบพี่ซุนว่า “การออกแบบบ้านไม่เลว สร้างแบบนี้แล้วกัน ที่ดินข้าง ๆ ก็ให้ห้าแสนบาท ให้เพื่อนบ้านมาเซ็นสัญญากับฉัน”พี่ซุนถอนหายใจอย่างมีความสุข“คุณหนูเย่ ทีมก่อสร้างแจ้งว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ตั้งแต่วันนี้ ผมให้คนเริ่มตรวจวัดแล้วครับ”“ดีค่ะ!”เย่มู่มู่ให้เงินสองล้านบาทกับพี่ซุน ให้เขาออกใบเสร็จทุกอย่างที่ซื้อส่งรายการบัญชีให้เธอทางข้อความทุกวัน!หลังจากวางสายแล้ว เย่มู่มู่จึงลงจากชั้นล่าง ห้องอาหารบ้านพักตากอากาศก็ส่งอาหารมาให้แล้วหลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จ ก็ลงจากเขาไปที่โกดังประตูใหญ่โกดังปิดสนิท พี่ซุนและภรรยามองดูรถ
กองทัพแคว้นฉู่ปรับปรุงธนู ธนูแหลมคมยิ่งกว่าเดิม และยิงได้ไกลขึ้นเสื้อเกราะกันกระสุนที่ทหารต้าฉี่สวมนั้นไม่ได้ป้องกันทั้งตัว ยังเผยให้เห็นแขน ขา และส่วนอื่น ๆ...ชุดเกราะเดิมที่พวกเขาสวม ระดับการป้องกันต่ำมาก สามารถถูกธนูที่กองทัพแคว้นฉู่ปรับปรุงขึ้นยิงทะลุได้ในการต่อสู้ครั้งนี้ กองทัพแคว้นฉี่เสียหายอย่างหนักกว่าคราวก่อนคนหลายร้อยคนตายลงในการโจมตีเมืองระลอกแรกคนหลายคนถูกยิงที่ไหล่และแขน ไม่สามารถหยิบธนูขึ้นมาได้อีก สูญเสียแรงต่อสู้ไปถูกชาวบ้านหามลงไปส่งที่หน่วยแพทย์ของกองทัพหน่วยแพทย์ของกองทัพมีคนบาดเจ็บมากเกินไป ยาที่เย่มู่มู่ส่งมาคราวก่อน ก็เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลังแล้วซ่งอวิ๋นฮุยที่อยู่ในกระโจม ดึงธนูออกให้ทหารเด็กรับใช้แพทย์ดูยาในตู้ยา มันเหลือน้อยมากแล้วเด็กหนุ่มกล่าวด้วยความกังวล “ท่านอาจารย์ ท่านหมอหลินบอกว่ายาที่มีเพียงพอให้ใช้ได้เพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น ผู้บาดเจ็บระลอกแรก มีมากกว่าหนึ่งพันคน”“เพิ่งจะเริ่มสู้ไม่นานมานี้เอง จะทำอย่างไร?”ซ่งอวิ๋นฮุยถามว่า “ยาฆ่าเชื้อที่ส่งมาเมื่อวานนี้ ยังเหลืออยู่หรือไม่?”“เหลืออยู่ขอรับ แต่ไม่รู้ว่ามันจะโดนบาดแผลได้หรือไม่
“ต้านไม่ไหวแล้ว ทุกคนจบเห่แล้ว!”ขณะที่ซ่งอวิ๋นฮุยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เฉินอู่ก็ดึงไปข้าง ๆ แล้วถามเขาว่า “ยังขาดยาอีกเท่าไหร่?”“มีคนบาดเจ็บหนึ่งพันห้าร้อยคน ยาทั้งหมดที่มีเพียงพอให้คนห้าร้อยคนใช้เท่านั้น”“ถ้าประหยัดหน่อยล่ะ?”“อย่างมากก็แปดร้อยคน แต่คนเจ็บถูกส่งลงไปเรื่อย ๆ จะประหยัดได้เท่าไหร่?”“ใช้ยาฆ่าเชื้อที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานได้หรือไม่?”“นั่นไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อสำหรับแผล!”“ใช้ได้ก็พอแล้ว ไม่สำคัญว่าจะเป็นยาฆ่าเชื้ออะไร!”“แบบนั้นจะทำได้อย่างไร? ข้าลองดูแล้วเมื่อครู่นี้ ยาฆ่าเชื้อมันแรงเกินไป ทหารเจ็บปวดจนหมดสติไปแล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างหน้าดำหน้าแดง ทหารที่เฉินขุยไว้ใจก็เข้ามารายงาน“รายงาน ท่านแม่ทัพ...”เขามอบจดหมายหนึ่งแผ่นให้เฉินขุยด้วยมือทั้งสองข้างเฉินอู่และซ่งอวิ๋นฮุยเคลื่อนสายตามองไปที่จดหมายฉบับนั้น!มันเขียนไว้ว่า:อีกยี่สิบนาที ท่านเทพจะส่งระเบิดมาอีก ยังเหลืออีกสามพันกว่ากล่อง เตรียมโกดังจัดเก็บให้พร้อม!ท่านเทพซื้อยามาจำนวนมากมีเครื่องมือผ่าตัด เตียงผ่าตัด อุปกรณ์ทางการแพทย์...เครื่องกำเนิดไฟหลายเครื่องยาแก้อักเสบที่สำคัญที่สุด ผ้
แคว้นฉู่และแคว้นฉีจะโจมตีเมืองโดยไม่มีรถกระทุ้งกำแพงเมืองได้อย่างไร?ที่แท้ก็ถูกเผาจนหมดนี่เอง!ทว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น!ลูกเล่นของมั่วฝานเยอะกว่าเฉินอู่แน่นอนในการสู้รบคราวก่อน เฉินอู่ให้คนมัดระเบิดไว้กับลูกธนู จุดไฟแล้วยิงออกไปแต่ครั้งนี้ มั่วฝานสั่งให้คนแขวนระเบิดที่ยังไม่จุดไว้กับอากาศยานไร้คนขับอากาศยานไร้คนขับที่ถูกควบคุมระยะไกลบินไปเหนือหัวทหารเผ่าหมานจำนวนมากอากาศยานไร้คนขับเอนเอียง ระเบิดก็ตกลงไปแล้วระเบิดก็ถูกยิงโดยคนที่ใช้ธนูจุดไฟเล็งอยู่แล้ว...ปัง~เสียงระเบิดกังวาน ดังขึ้นในกองทัพเผ่าหมานในพริบตานั้น บริเวณที่ระเบิดตกใส่ ก็ระเบิดกลายเป็นหลุมทรงกลมขนาดใหญ่มีศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่รอบ ๆ คาดว่ามีอย่างน้อยร้อยคนเห็นจะได้นี่แค่คลื่นลูกแรกเท่านั้น ยังมีคลื่นลูกที่สอง คลื่นลูกที่สาม...ทหารเผ่าหมานชุดนี้ได้เห็นอานุภาพของระเบิดมาแล้ว ในใจจึงเกิดความหวาดกลัวกองทัพเผ่าหมานตายเพราะถูกระเบิดจำนวนมากที่สุด รวมแล้วประมาณแสนคน แม้แต่หลัวเก๋อก็ยังเสียคุณสมบัติในการแย่งชิงตำแหน่งไปเพราะถูกระเบิดเมื่อระเบิดดังขึ้น ทุกคนก็อยู่ในความสับสนวุ่นวายที่ขอบสนา
ตอนนี้ม่อเป่ยอ๋องกำลังซักไซ้เอาความหลัวเก๋อน้องชายของเขาก็ตายเพราะถูกระเบิด ตนไม่สนใจเอง แล้วมาโทษพวกเขา?“พวกท่านปกปิดเรื่องระเบิด หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...”“ท่านโง่เขลาเอง กองทัพเผ่าหมานหลายแสนนายต้องตายเปล่า!”ฉีซวนเหิงโต้กลับอย่างไม่พอใจหลิงเซี่ยวเฟิงมีสีหน้ามืดมน ขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่“อย่าทะเลาะกัน ตอนนี้จะทำอย่างไรกันดี?”พวกเขาเดินทางไกลเพื่อมาโจมตีด่านเจิ้นกวนอาหารที่นำมาด้วยเดิมทีก็ไม่มาก อากาศอบอ้าวแถมยังขาดน้ำเผ่าหมานส่วนหนึ่งอพยพไปอยู่ใกล้ภูเขาหิมะ หิมะที่ขุดจากภูเขาหิมะละลายเป็นน้ำหิมะเดินทางไกลกว่าหนึ่งเดือน กว่าจะถึงค่ายพวกเขาสะสมน้ำหิมะไว้ปีสองปี ถึงได้มีการบุกโจมตีเมืองในครั้งนี้ตอนนี้แหล่งน้ำกำลังจะแห้งขอดม้าศึกไม่ได้กินหญ้า จึงผอมลงทุกวัน ม้าศึกที่ใกล้ตายก็ถูกฆ่าเพื่อทำอาหารให้กองทัพและเช่นเดียวกัน กองทัพแคว้นฉู่แคว้นฉีทั้งสองแคว้นจ่ายราคามหาศาลเพื่อโจมตีด่านเจิ้นกวนเรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมทรัพยากรทั้งหมดของแคว้นเพื่อโจมตีเมืองเลยก็ว่าได้หากการโจมตีล้มเหลวทหารที่สูญเสียไปก็อีกเรื่อง แต่ไม่มีทรัพยากรชุดที่สองโจมตีด่านเจิ้นกวนอีกแล้ววั
ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่ขมวดคิ้วมองดูทั้งสองคนทะเลาะกันอย่างเย็นชาเขาเอ่ยถามเสียงดังเหมือนระฆัง“ดาบม่อเตาอะไร? ชุดเกราะป้องกันได้ถึงขั้นไหน? เหตุใดคนคนหนึ่งถึงฟันคนได้หลายสิบคน!”“พวกเจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?”เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับกุนซือว่า “ไปเอาดาบม่อเตากับชุดเกราะของทหารแคว้นฉี่มาให้ข้า ข้าอยากลองด้วยตัวเอง”*สนามฝึกซ้อมที่สามกองทัพประจำการอยู่ทหารหน้าตามอมแมมยืนอยู่ขอบด้านนอกสุด แววตาจับจ้องไปที่ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่เขาถือดาบม่อเตาหนึ่งเล่ม ยาวประมาณหนึ่งจุดสองหมี่ ตัวดาบประกายแสงเย็นเยียบออกมาเมื่อโบกไปมาอย่างไม่ใส่ใจนัก ก็จะได้ยินเสียงหวีดหวิวในอากาศดาบม่อเตาเล่มนี้คือหนึ่งในดาบไม่กี่เล่มที่ทหารแคว้นฉู่และแคว้นฉีได้มาตอนการโจมตีเมืองล้มเหลวคราวก่อนหลัวซู่รูปร่างสูงตระหง่าน สูงกว่าทหารชาวฮั่นหนึ่งคืบเขาถือดาบม่อเตาที่ส่องแสงสีเงินและคมดาบแหลมคม ฟันไปที่อาวุธของแคว้นฉู่อย่างรุนแรงชิ้ง~อาวุธของกองทำแคว้นฉู่ถึงกับถูกเขาฟันขาดบริเวณที่ถูกฟันเรียบเนียน ช่องโหว่บนดาบม่อเตาก็ไม่มีหลัวซู่ตะลึงอ้าปากค้าง เขาไม่เคยคิดเลยว่าอุปกรณ์ทั้งสองฝ่ายจะต่างกันถึงขนาดนี้และยิ่
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ขนาดใหญ่อีกมากมายตัวอย่างเช่น เตียงผู้ป่วยเลื่อนได้ที่ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลจำนวนสามสิบเตียงเครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องกระตุ้นการแข็งตัว มีดไฟฟ้า กล้องเอนโดสโคปนับร้อยกล่อง...เครื่องมือผ่าตัดต่าง ๆ คีมห้ามเลือด กรรไกรตัดชิ้นเนื้อ มีดผ่าตัด กรรไกรกระดูก...ที่มากที่สุดก็คือผ้าพันแผล ผงยาห้ามเลือด ยาปฏิชีวนะ ยาบาดทะยัก...เวลานี้ ยาใช้หมดเกลี้ยงแล้ว ซ่งอวิ๋นฮุยทรมานจนจะเป็นบ้าเพราะเสียงคร่ำครวญเจ็บปวดของทหารเขาพาหมอหลิน หมอประจำกองทัพสวี และหมอประจำกองทัพซุนที่ผมขาวโพลน...คนกลุ่มใหญ่รีบวิ่งเข้าไปในกระโจมทันทีเมื่อพวกเขาเห็นเครื่องมือที่ล้ำหน้า อุปกรณ์ที่จำเป็นในการผ่าตัดกระดูกและข้อ และเครื่องมือผ่าตัด...แม้กระทั่งเตียงผ่าตัดก็เตรียมพร้อมแล้วอารมณ์ของหมอหลายสิบคนก็พังทลายในพริบตา นั่งลงบนพื้นพร้อมร้องไห้ออกมาร้องไห้อยู่ก็หัวเราะออกมาเสียงดังทุกคนเหมือนกับเป็นบ้าไปแล้ว!บางคนกระโจนเข้าไปอย่างตื่นเต้น กอดยาผงขาวยุนนานแล้วร้องไห้ริมฝีปากและฟันสั่นเทาพร้อมร้องว่า “รอดแล้ว สามพันกว่าชีวิต ในที่สุดก็รอดแล้ว”
ในเมื่อจะให้รางวัลเหล่าทหาร และยังมีของที่กองทัพต้องใช้อีก เธอเลยซื้อมาให้ครบทั้งหมด ไปสั่งสต๊อกกระติกเก็บความร้อนสุญญากาศสองชั้น จากร้านแบรนด์กระติกน้ำ ทั้งหมดหนึ่งหมื่นใบ ซื้อวิทยุสื่อสารหนึ่งร้อยเครื่องและลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่อีกยี่สิบตัว จากร้านวิทยุขายสื่อสาร และยังสั่งซื้อกล้องวงจรปิดที่สามารถชาร์จแบตจากแสงอาทิตย์ได้ด้วยตัวเองอีกห้าสิบตัว เย่มู่มู่แกะแท็บเล็ตตัวใหม่ออก แล้วดาวน์โหลดคลิปวิธีการใช้สบู่ แชมพู ครีมอาบน้ำ และผงซักฟอกลงไป แม้แต่โฆษณาของสบู่และครีมอาบน้ำ ที่มีนางแบบต่างประเทศหน้าตาดีกำลังกึ่งเปลือยอย่างเย้ายวน ก็ส่งไปด้วย ไม่รู้ว่าเมื่อคนโบราณที่แสนจะอนุรักษนิยมได้เห็นแล้ว จะคิดอย่างไร เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่มู่มู่ก็หัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์แล้ว จากนั้นเธอก็ดาวน์โหลดคลิปอธิบายการปรับคลื่นความถี่ วิธีการใช้ และการชาร์จแบตวิทยุสื่อสารลงไป หลังจากเธอดาวน์โหลดคลิปการติดตั้งของทุกอย่างลงไปแล้ว ก็ส่งแท็บเล็ตไป สุดท้าย เธอก็เขียนรายการสิ่งของยาวเหยียดออกมาใบหนึ่ง สบู่หอม ห้าหมื่นกล่อง แชมพู ครีมอาบน้ำ ผงซักฟอก…อย่างละสี่หมื่นแปดพันขวด โถเคลือบเซ
“ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ
จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็
*หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข
*จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม
จ้านเฉิงอิ้นกล่าวหยุดเฉินขุย“เจ้าออกไปทางลับ ถ้ามีคนยอมติดตามกองทัพตระกูลจ้าน นำตัวกลับเข้ากองทัพ!”“ขอรับ แม่ทัพ!”“สำหรับสวีหวย ข้าไม่ลงมือฆ่าเขาด้วยตนเอง ถือว่าให้ความเมตตาที่สุดแล้ว!”“พระราชโองการนั่นที่เขากล่าวถึง ข้าออกรบชนะศึก ฮ่องเต้จะยกให้คนอื่นมารับช่วงด่านเจิ้นกวนต่อได้อย่างไร ต้องเป็นของปลอมแน่!”เฉินขุยเฉินอู่พยักหน้าซ้ำ ๆ เห็นด้วย“ใช่ เป็นของปลอม สวีหวยประกาศพระราชโองการปลอม ความผิดของเขาต้องฆ่าทิ้งทันที!”“เพื่อเพิ่มความปรีดาให้แก่ท่าน ข้าน้อยจะไปกวาดล้างคนเลวข้างกายฮ่องเต้ ตัดหัวสวีหวยผู้ประกาศพระราชโองการปลอมเดี๋ยวนี้!”สองพี่น้องนำคนและม้าออกจากเมืองไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรจ้านเฉิงอิ้นจึงนั่งลงอีกครั้ง เห็นมั่วฝานทอดมองแผ่นหลังที่กำลังจากไปของสองพี่น้องพร้อมกับขมวดคิ้วเขาจึงถามมั่วฝาน “เป็นอะไรไป?”“ตอนนี้ยังฆ่าสวีหวยไม่ได้!”“เพราะเหตุใด?”มั่วฝานนำสารลับที่ได้รับวันนี้จากไทเฮา ยื่นให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดสารลับอ่าน คิ้วยาวดุจดาบพลางขมวดเล็กน้อยมั่วฝานกล่าวต่อ “บุตรสาวของสวีหวยได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างมากในพระราชวังถูกแต่งตั้งให้เป็นกุ้
อำนาจทางการทหารของกองทัพตระกูลจ้านจะถูกส่งต่อให้กับคนอื่นกองทัพตระกูลจ้านไม่เป็นที่พอใจในสายตาของฮ่องเต้ตั้งแต่ต้นวันนี้พวกเขามีเสบียงมีน้ำ มีอุปกรณ์ติดตัวที่ยอดเยี่ยม…สมาชิกราชวงศ์ต้าฉี่ประพฤติตนไร้สาระ เสนาบดีซูขูดรีดพลเมืองสภาพการณ์ของชาวเมือง ไม่ต่างจากด่านเจิ้นกวนในเวลานั้นภายในแคว้นต้าฉี่มีอิทธิพลหลายกลุ่มเริ่มผนึกตัว เพียงแต่ถูกกำลังทหารสองแสนคนขวางไว้ถ้าชาวเมืองมีชีวิตต่อไปได้ ใครจะรวมพลก่อกบฏอีกเล่าทุกคนล้วนอยู่ภายใต้หนทางตัน สุดท้ายจึงจำใจเลือกเส้นทางนี้จ้านเฉิงอิ้นทำลายกองทัพพันธมิตรของแคว้นฉู่กับแคว้นฉีอย่างแสนสาหัส ทำให้กองทัพเผ่าหมานต้องถอยทัพด้วยความปราชัย ชื่อเสียงของเขาในหมู่พลเมือง อยู่เหนือกว่าสมาชิกราชวงศ์ไปมากฮ่องเต้ไม่อาจยอมรับเขาได้ถอดชุดเกราะเป็นเพียงก้าวแรก ยึดอำนาจทางการทหารของแม่ทัพแล้วยังไม่สบายใจต้องประหารชีวิตแม่ทัพอย่างแน่นอน!พวกเขามีมิตรภาพที่ผ่านความตายมาด้วยกันทั้งนั้น เผชิญความอดอยากด้วยกันในด่านเจิ้นกวน ฆ่าศัตรูในสนามรบไปด้วยกันยิ่งไปกว่านั้น แม่ทัพสามารถติดต่อกับท่านเทพเช่นนั้นแม่ทัพจะกลับเข้าเมืองหลวงไม่ได้ในเวลานี้ ทุ
ลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมืองราวกับเสียงประหลาดที่ดังก้องหู มันเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทหารใต้บังคับบัญชาของสวีหวยล้วนรู้สึกสนใจ!ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ สำหรับข่าวคราวที่ว่าด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีเสบียงอาหาร บางทียังยึดมั่นในความสงสัยวันนี้เมื่อเห็นบนกำแพงมีทหารชั้นผู้น้อยเฝ้าประตูเมือง กินข้าวโดยใช้กะละมังและดื่มน้ำอย่างตามใจโดยไม่รู้สึกสิ้นเปลือง!ชีวิตดี ๆ ที่พวกเขามี เทียบได้กับช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยไม่ ดีกว่าช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยเสียอีกชีวิตของทหารในด่านเจิ้นกวน เทียบเท่ากับตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหลวง ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างนับไม่ถ้วนล้วนเกิดแรงปรารถนาพวกเขาอยากเข้าไปในเมือง อยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน อยากมีข้าวสวยกินทุกวัน อยากมีน้ำที่ดื่มไม่หมดทุกคน!สวีหวยโมโหและดุด่า “ไปเรียกจ้านเฉิงอิ้นออกมา ข้ามารับช่วงด่านเจิ้นกวนพร้อมด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้!”ครั้งนี้ คนที่อยู่ใกล้กำแพงเมืองไม่กี่คน มองสวีหวยคราหนึ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ใดในสายตานั้น ไร้ซึ่งความเคารพและความกลัวของทหารที่พึงมีต่อแม่ทัพอย่างสิ้นเชิงใช้แววตาเรียบนิ่งมองสวีหวย กระทั่งแฝงความรังเกียจ
นายทหารหนึ่งในนั้นกลับยกกาน้ำแล้วเริ่มดื่มน้ำเนื่องจากดื่มเร็วและรีบเกินไป น้ำจึงไหลตามมุมปากลงมาที่ลำคอและทำให้คอเสื้อเปียกเขาไม่ประหยัดน้ำแม้แต่น้อย!จวบจนวินาทีนี้ ทุกคนจึงมั่นใจว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ มีเสบียง…นายทหารข้างล่างกำแพงเมือง เผยดวงตาอันแดงก่ำพวกเขาแทบอดไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วแย่งน้ำมาดื่มเองแย่งข้าวสารของพวกเขาแล้วกินเข้าไปเอง!พวกเขาอยากดื่มน้ำ อยากกินเนื้อมากจริง ๆที่ทำเกินไปยิ่งกว่านั้น โต๊ะที่ห่างจากกำแพงเมืองโต๊ะนั้น มีทหารหนึ่งคนถือกะละมังเคลือบเซรามิกไว้อันหนึ่ง ข้างในมีข้าวหุงสุกข้าวหุงสุกเป็นเม็ด ๆ ชัดเจน พวกเขาใช้กะละมังเคลือบเซรามิกที่ใหญ่กว่าหม้อมาใส่ข้าว และราดเต็มไปด้วยเนื้อกับผักเขานั่งยองบนกำแพงเมือง ใช้ตะเกียบหนึ่งคู่ปัดเข้าปากอย่างเต็มกำลังเขากินอย่างรวดเร็วและรีบเร่ง…จนนายทหารข้างล่างที่ทอดมองมา พากันกลืนน้ำลายไม่หยุดถ้าสามารถบินได้ พวกเขาจะบินขึ้นบนกำแพงเมืองและแย่งข้าวหุงสุกกะละมังนั้นมาจากเขาให้จงได้ทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าเมืองคนนี้ เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก อันเนื่องจากจ้านเฉิงอิ้นเดินทางไปกลับเมื่อคืนเขาเหนื่อ