ซื้อทั้งชุดต้องใช้งบหนึ่งล้านห้าแสนบาทภาพออกแบบจะถูกส่งไปที่มือถือของเย่มู่มู่ภาพออกแบบบ้านไม่เลว เป็นแบบบ้านพักตากอากาศที่สวยงามที่ดินบ้านพี่ซุน มีเนื้อที่ครึ่งหมู่หรือสามร้อยสามสิบสามตารางเมตร ถ้าสร้างบ้านเดี่ยวสักหลัง พื้นที่ก็เพียงพอแล้วไม่มีที่จอดรถ พอออกจากประตูก็เป็นที่นาของคนอื่นที่ดินที่ติดกับบ้านของพี่ซุนคือบ้านของเพื่อนบ้าน ก็เป็นพื้นที่ครึ่งหมู่ อยากจะให้เธอเช่าเพื่อนบ้านบอกว่าไม่ต้องให้ห้าแสนบาท ให้แค่สองแสนห้าหมื่นบาทก็พอแล้วเย่มู่มู่ตอบพี่ซุนว่า “การออกแบบบ้านไม่เลว สร้างแบบนี้แล้วกัน ที่ดินข้าง ๆ ก็ให้ห้าแสนบาท ให้เพื่อนบ้านมาเซ็นสัญญากับฉัน”พี่ซุนถอนหายใจอย่างมีความสุข“คุณหนูเย่ ทีมก่อสร้างแจ้งว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ตั้งแต่วันนี้ ผมให้คนเริ่มตรวจวัดแล้วครับ”“ดีค่ะ!”เย่มู่มู่ให้เงินสองล้านบาทกับพี่ซุน ให้เขาออกใบเสร็จทุกอย่างที่ซื้อส่งรายการบัญชีให้เธอทางข้อความทุกวัน!หลังจากวางสายแล้ว เย่มู่มู่จึงลงจากชั้นล่าง ห้องอาหารบ้านพักตากอากาศก็ส่งอาหารมาให้แล้วหลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จ ก็ลงจากเขาไปที่โกดังประตูใหญ่โกดังปิดสนิท พี่ซุนและภรรยามองดูรถ
กองทัพแคว้นฉู่ปรับปรุงธนู ธนูแหลมคมยิ่งกว่าเดิม และยิงได้ไกลขึ้นเสื้อเกราะกันกระสุนที่ทหารต้าฉี่สวมนั้นไม่ได้ป้องกันทั้งตัว ยังเผยให้เห็นแขน ขา และส่วนอื่น ๆ...ชุดเกราะเดิมที่พวกเขาสวม ระดับการป้องกันต่ำมาก สามารถถูกธนูที่กองทัพแคว้นฉู่ปรับปรุงขึ้นยิงทะลุได้ในการต่อสู้ครั้งนี้ กองทัพแคว้นฉี่เสียหายอย่างหนักกว่าคราวก่อนคนหลายร้อยคนตายลงในการโจมตีเมืองระลอกแรกคนหลายคนถูกยิงที่ไหล่และแขน ไม่สามารถหยิบธนูขึ้นมาได้อีก สูญเสียแรงต่อสู้ไปถูกชาวบ้านหามลงไปส่งที่หน่วยแพทย์ของกองทัพหน่วยแพทย์ของกองทัพมีคนบาดเจ็บมากเกินไป ยาที่เย่มู่มู่ส่งมาคราวก่อน ก็เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลังแล้วซ่งอวิ๋นฮุยที่อยู่ในกระโจม ดึงธนูออกให้ทหารเด็กรับใช้แพทย์ดูยาในตู้ยา มันเหลือน้อยมากแล้วเด็กหนุ่มกล่าวด้วยความกังวล “ท่านอาจารย์ ท่านหมอหลินบอกว่ายาที่มีเพียงพอให้ใช้ได้เพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น ผู้บาดเจ็บระลอกแรก มีมากกว่าหนึ่งพันคน”“เพิ่งจะเริ่มสู้ไม่นานมานี้เอง จะทำอย่างไร?”ซ่งอวิ๋นฮุยถามว่า “ยาฆ่าเชื้อที่ส่งมาเมื่อวานนี้ ยังเหลืออยู่หรือไม่?”“เหลืออยู่ขอรับ แต่ไม่รู้ว่ามันจะโดนบาดแผลได้หรือไม่
“ต้านไม่ไหวแล้ว ทุกคนจบเห่แล้ว!”ขณะที่ซ่งอวิ๋นฮุยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เฉินอู่ก็ดึงไปข้าง ๆ แล้วถามเขาว่า “ยังขาดยาอีกเท่าไหร่?”“มีคนบาดเจ็บหนึ่งพันห้าร้อยคน ยาทั้งหมดที่มีเพียงพอให้คนห้าร้อยคนใช้เท่านั้น”“ถ้าประหยัดหน่อยล่ะ?”“อย่างมากก็แปดร้อยคน แต่คนเจ็บถูกส่งลงไปเรื่อย ๆ จะประหยัดได้เท่าไหร่?”“ใช้ยาฆ่าเชื้อที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานได้หรือไม่?”“นั่นไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อสำหรับแผล!”“ใช้ได้ก็พอแล้ว ไม่สำคัญว่าจะเป็นยาฆ่าเชื้ออะไร!”“แบบนั้นจะทำได้อย่างไร? ข้าลองดูแล้วเมื่อครู่นี้ ยาฆ่าเชื้อมันแรงเกินไป ทหารเจ็บปวดจนหมดสติไปแล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างหน้าดำหน้าแดง ทหารที่เฉินขุยไว้ใจก็เข้ามารายงาน“รายงาน ท่านแม่ทัพ...”เขามอบจดหมายหนึ่งแผ่นให้เฉินขุยด้วยมือทั้งสองข้างเฉินอู่และซ่งอวิ๋นฮุยเคลื่อนสายตามองไปที่จดหมายฉบับนั้น!มันเขียนไว้ว่า:อีกยี่สิบนาที ท่านเทพจะส่งระเบิดมาอีก ยังเหลืออีกสามพันกว่ากล่อง เตรียมโกดังจัดเก็บให้พร้อม!ท่านเทพซื้อยามาจำนวนมากมีเครื่องมือผ่าตัด เตียงผ่าตัด อุปกรณ์ทางการแพทย์...เครื่องกำเนิดไฟหลายเครื่องยาแก้อักเสบที่สำคัญที่สุด ผ้
แคว้นฉู่และแคว้นฉีจะโจมตีเมืองโดยไม่มีรถกระทุ้งกำแพงเมืองได้อย่างไร?ที่แท้ก็ถูกเผาจนหมดนี่เอง!ทว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น!ลูกเล่นของมั่วฝานเยอะกว่าเฉินอู่แน่นอนในการสู้รบคราวก่อน เฉินอู่ให้คนมัดระเบิดไว้กับลูกธนู จุดไฟแล้วยิงออกไปแต่ครั้งนี้ มั่วฝานสั่งให้คนแขวนระเบิดที่ยังไม่จุดไว้กับอากาศยานไร้คนขับอากาศยานไร้คนขับที่ถูกควบคุมระยะไกลบินไปเหนือหัวทหารเผ่าหมานจำนวนมากอากาศยานไร้คนขับเอนเอียง ระเบิดก็ตกลงไปแล้วระเบิดก็ถูกยิงโดยคนที่ใช้ธนูจุดไฟเล็งอยู่แล้ว...ปัง~เสียงระเบิดกังวาน ดังขึ้นในกองทัพเผ่าหมานในพริบตานั้น บริเวณที่ระเบิดตกใส่ ก็ระเบิดกลายเป็นหลุมทรงกลมขนาดใหญ่มีศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่รอบ ๆ คาดว่ามีอย่างน้อยร้อยคนเห็นจะได้นี่แค่คลื่นลูกแรกเท่านั้น ยังมีคลื่นลูกที่สอง คลื่นลูกที่สาม...ทหารเผ่าหมานชุดนี้ได้เห็นอานุภาพของระเบิดมาแล้ว ในใจจึงเกิดความหวาดกลัวกองทัพเผ่าหมานตายเพราะถูกระเบิดจำนวนมากที่สุด รวมแล้วประมาณแสนคน แม้แต่หลัวเก๋อก็ยังเสียคุณสมบัติในการแย่งชิงตำแหน่งไปเพราะถูกระเบิดเมื่อระเบิดดังขึ้น ทุกคนก็อยู่ในความสับสนวุ่นวายที่ขอบสนา
ตอนนี้ม่อเป่ยอ๋องกำลังซักไซ้เอาความหลัวเก๋อน้องชายของเขาก็ตายเพราะถูกระเบิด ตนไม่สนใจเอง แล้วมาโทษพวกเขา?“พวกท่านปกปิดเรื่องระเบิด หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...”“ท่านโง่เขลาเอง กองทัพเผ่าหมานหลายแสนนายต้องตายเปล่า!”ฉีซวนเหิงโต้กลับอย่างไม่พอใจหลิงเซี่ยวเฟิงมีสีหน้ามืดมน ขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่“อย่าทะเลาะกัน ตอนนี้จะทำอย่างไรกันดี?”พวกเขาเดินทางไกลเพื่อมาโจมตีด่านเจิ้นกวนอาหารที่นำมาด้วยเดิมทีก็ไม่มาก อากาศอบอ้าวแถมยังขาดน้ำเผ่าหมานส่วนหนึ่งอพยพไปอยู่ใกล้ภูเขาหิมะ หิมะที่ขุดจากภูเขาหิมะละลายเป็นน้ำหิมะเดินทางไกลกว่าหนึ่งเดือน กว่าจะถึงค่ายพวกเขาสะสมน้ำหิมะไว้ปีสองปี ถึงได้มีการบุกโจมตีเมืองในครั้งนี้ตอนนี้แหล่งน้ำกำลังจะแห้งขอดม้าศึกไม่ได้กินหญ้า จึงผอมลงทุกวัน ม้าศึกที่ใกล้ตายก็ถูกฆ่าเพื่อทำอาหารให้กองทัพและเช่นเดียวกัน กองทัพแคว้นฉู่แคว้นฉีทั้งสองแคว้นจ่ายราคามหาศาลเพื่อโจมตีด่านเจิ้นกวนเรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมทรัพยากรทั้งหมดของแคว้นเพื่อโจมตีเมืองเลยก็ว่าได้หากการโจมตีล้มเหลวทหารที่สูญเสียไปก็อีกเรื่อง แต่ไม่มีทรัพยากรชุดที่สองโจมตีด่านเจิ้นกวนอีกแล้ววั
ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่ขมวดคิ้วมองดูทั้งสองคนทะเลาะกันอย่างเย็นชาเขาเอ่ยถามเสียงดังเหมือนระฆัง“ดาบม่อเตาอะไร? ชุดเกราะป้องกันได้ถึงขั้นไหน? เหตุใดคนคนหนึ่งถึงฟันคนได้หลายสิบคน!”“พวกเจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?”เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับกุนซือว่า “ไปเอาดาบม่อเตากับชุดเกราะของทหารแคว้นฉี่มาให้ข้า ข้าอยากลองด้วยตัวเอง”*สนามฝึกซ้อมที่สามกองทัพประจำการอยู่ทหารหน้าตามอมแมมยืนอยู่ขอบด้านนอกสุด แววตาจับจ้องไปที่ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่เขาถือดาบม่อเตาหนึ่งเล่ม ยาวประมาณหนึ่งจุดสองหมี่ ตัวดาบประกายแสงเย็นเยียบออกมาเมื่อโบกไปมาอย่างไม่ใส่ใจนัก ก็จะได้ยินเสียงหวีดหวิวในอากาศดาบม่อเตาเล่มนี้คือหนึ่งในดาบไม่กี่เล่มที่ทหารแคว้นฉู่และแคว้นฉีได้มาตอนการโจมตีเมืองล้มเหลวคราวก่อนหลัวซู่รูปร่างสูงตระหง่าน สูงกว่าทหารชาวฮั่นหนึ่งคืบเขาถือดาบม่อเตาที่ส่องแสงสีเงินและคมดาบแหลมคม ฟันไปที่อาวุธของแคว้นฉู่อย่างรุนแรงชิ้ง~อาวุธของกองทำแคว้นฉู่ถึงกับถูกเขาฟันขาดบริเวณที่ถูกฟันเรียบเนียน ช่องโหว่บนดาบม่อเตาก็ไม่มีหลัวซู่ตะลึงอ้าปากค้าง เขาไม่เคยคิดเลยว่าอุปกรณ์ทั้งสองฝ่ายจะต่างกันถึงขนาดนี้และยิ่
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ขนาดใหญ่อีกมากมายตัวอย่างเช่น เตียงผู้ป่วยเลื่อนได้ที่ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลจำนวนสามสิบเตียงเครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องกระตุ้นการแข็งตัว มีดไฟฟ้า กล้องเอนโดสโคปนับร้อยกล่อง...เครื่องมือผ่าตัดต่าง ๆ คีมห้ามเลือด กรรไกรตัดชิ้นเนื้อ มีดผ่าตัด กรรไกรกระดูก...ที่มากที่สุดก็คือผ้าพันแผล ผงยาห้ามเลือด ยาปฏิชีวนะ ยาบาดทะยัก...เวลานี้ ยาใช้หมดเกลี้ยงแล้ว ซ่งอวิ๋นฮุยทรมานจนจะเป็นบ้าเพราะเสียงคร่ำครวญเจ็บปวดของทหารเขาพาหมอหลิน หมอประจำกองทัพสวี และหมอประจำกองทัพซุนที่ผมขาวโพลน...คนกลุ่มใหญ่รีบวิ่งเข้าไปในกระโจมทันทีเมื่อพวกเขาเห็นเครื่องมือที่ล้ำหน้า อุปกรณ์ที่จำเป็นในการผ่าตัดกระดูกและข้อ และเครื่องมือผ่าตัด...แม้กระทั่งเตียงผ่าตัดก็เตรียมพร้อมแล้วอารมณ์ของหมอหลายสิบคนก็พังทลายในพริบตา นั่งลงบนพื้นพร้อมร้องไห้ออกมาร้องไห้อยู่ก็หัวเราะออกมาเสียงดังทุกคนเหมือนกับเป็นบ้าไปแล้ว!บางคนกระโจนเข้าไปอย่างตื่นเต้น กอดยาผงขาวยุนนานแล้วร้องไห้ริมฝีปากและฟันสั่นเทาพร้อมร้องว่า “รอดแล้ว สามพันกว่าชีวิต ในที่สุดก็รอดแล้ว”
ในเมื่อจะให้รางวัลเหล่าทหาร และยังมีของที่กองทัพต้องใช้อีก เธอเลยซื้อมาให้ครบทั้งหมด ไปสั่งสต๊อกกระติกเก็บความร้อนสุญญากาศสองชั้น จากร้านแบรนด์กระติกน้ำ ทั้งหมดหนึ่งหมื่นใบ ซื้อวิทยุสื่อสารหนึ่งร้อยเครื่องและลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่อีกยี่สิบตัว จากร้านวิทยุขายสื่อสาร และยังสั่งซื้อกล้องวงจรปิดที่สามารถชาร์จแบตจากแสงอาทิตย์ได้ด้วยตัวเองอีกห้าสิบตัว เย่มู่มู่แกะแท็บเล็ตตัวใหม่ออก แล้วดาวน์โหลดคลิปวิธีการใช้สบู่ แชมพู ครีมอาบน้ำ และผงซักฟอกลงไป แม้แต่โฆษณาของสบู่และครีมอาบน้ำ ที่มีนางแบบต่างประเทศหน้าตาดีกำลังกึ่งเปลือยอย่างเย้ายวน ก็ส่งไปด้วย ไม่รู้ว่าเมื่อคนโบราณที่แสนจะอนุรักษนิยมได้เห็นแล้ว จะคิดอย่างไร เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่มู่มู่ก็หัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์แล้ว จากนั้นเธอก็ดาวน์โหลดคลิปอธิบายการปรับคลื่นความถี่ วิธีการใช้ และการชาร์จแบตวิทยุสื่อสารลงไป หลังจากเธอดาวน์โหลดคลิปการติดตั้งของทุกอย่างลงไปแล้ว ก็ส่งแท็บเล็ตไป สุดท้าย เธอก็เขียนรายการสิ่งของยาวเหยียดออกมาใบหนึ่ง สบู่หอม ห้าหมื่นกล่อง แชมพู ครีมอาบน้ำ ผงซักฟอก…อย่างละสี่หมื่นแปดพันขวด โถเคลือบเซ
ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล
หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล
แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา
ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ
หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ
“พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท
เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง