ในเมื่อจะให้รางวัลเหล่าทหาร และยังมีของที่กองทัพต้องใช้อีก เธอเลยซื้อมาให้ครบทั้งหมด ไปสั่งสต๊อกกระติกเก็บความร้อนสุญญากาศสองชั้น จากร้านแบรนด์กระติกน้ำ ทั้งหมดหนึ่งหมื่นใบ ซื้อวิทยุสื่อสารหนึ่งร้อยเครื่องและลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่อีกยี่สิบตัว จากร้านวิทยุขายสื่อสาร และยังสั่งซื้อกล้องวงจรปิดที่สามารถชาร์จแบตจากแสงอาทิตย์ได้ด้วยตัวเองอีกห้าสิบตัว เย่มู่มู่แกะแท็บเล็ตตัวใหม่ออก แล้วดาวน์โหลดคลิปวิธีการใช้สบู่ แชมพู ครีมอาบน้ำ และผงซักฟอกลงไป แม้แต่โฆษณาของสบู่และครีมอาบน้ำ ที่มีนางแบบต่างประเทศหน้าตาดีกำลังกึ่งเปลือยอย่างเย้ายวน ก็ส่งไปด้วย ไม่รู้ว่าเมื่อคนโบราณที่แสนจะอนุรักษนิยมได้เห็นแล้ว จะคิดอย่างไร เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่มู่มู่ก็หัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์แล้ว จากนั้นเธอก็ดาวน์โหลดคลิปอธิบายการปรับคลื่นความถี่ วิธีการใช้ และการชาร์จแบตวิทยุสื่อสารลงไป หลังจากเธอดาวน์โหลดคลิปการติดตั้งของทุกอย่างลงไปแล้ว ก็ส่งแท็บเล็ตไป สุดท้าย เธอก็เขียนรายการสิ่งของยาวเหยียดออกมาใบหนึ่ง สบู่หอม ห้าหมื่นกล่อง แชมพู ครีมอาบน้ำ ผงซักฟอก…อย่างละสี่หมื่นแปดพันขวด โถเคลือบเซ
คราวนี้ ทุกคนต่างพากันมารุมล้อมอยู่รอบกายของมั่วฝาน เพื่อตรวจดูวิธีการใช้สิ่งของต่าง ๆ วิทยุสื่อสาร แม้คนสองคนจะอยู่ไกลก็สามารถพูดคุยกันได้ พวกเขาปากอ้าตาค้าง นี่มิใช่หูพันลี้หรือ? ในตอนที่เห็นลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ ถูกเปิดกระจายเสียงไปทั่ว พวกเขาก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เมื่อมีลำโพงประกาศเสียงไว้กระจายเสียง วันหลังเมื่อจะปลุกให้เหล่าทหารตื่นขึ้นมาฝึกซ้อม ก็ไม่จำเป็นต้องไปไล่ปลุก ฉุด ๆ ลาก ๆ ให้ลุกจากเตียงทีละคนแล้ว ตอนนี้ เมื่อตะโกนผ่านลำโพงประกาศเสียง ทุกคนล้วนก็ต้องตื่นขึ้นมา สุดท้าย เป็นกล้องวงจรปิด หลังจากติดตั้งเสร็จ และเชื่อมต่อสัญญาณ ก็สามารถตรวจสอบภาพเหตุการณ์ด้านล่างของกล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลา นี่มิใช่เทคโนโลยีชั้นสูงเช่นเดียวกับอากาศยานไร้คนขับหรือ? อากาศยานไร้คนขับสามารถบินได้ แต่กล้องวงจรปิดบินไม่ได้ แต่สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งนี้ใช้งานได้ในทางปฏิบัติกว่าอากาศยานไร้คนขับมากนัก สามารถอาศัยแสงอาทิตย์เติมพลังงาน ไม่หวาดเกรงต่อพายุและสายฝน แถมยังสามารถมองเห็นภาพเหตุการณ์เบื้องล่างของกล้องวงจรปิดอีก อากาศยานไร้คนขับสามารถบินได้แค่ครึ่งชั่วยาม แต่กล้
เฉินขุยยืนอยู่บนบันไดกำแพงเมือง ยืดเอวตรง ยกลำโพงประกาศเสียงขึ้นมาตะโกนเสียงดังว่า “ข้าคือแม่ทัพเฉินขุย ผู้ที่ได้ยินจงมาทางนี้ให้หมด!” เหล่าทหารที่กำลังหลบแดดอยู่ใต้กำแพงเมือง ต่างก็พากันล้อมเข้ามาบริเวณด้านล่างของบันได พวกเขามองแตรรูปทรงประหลาดที่อยู่ในมือของท่านแม่ทัพเฉินขุยอย่างสงสัย จากนั้นก็พากันวิพากษ์วิจารณ์กันเบา ๆ เดิมเสียงของเฉินขุยก็ดังกังวานอยู่แล้ว เมื่อผ่านการกระจายเสียงของลำโพงประกาศเสียง พลังการทะลุทะลวงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ยิ่งส่งออกไปได้ไกลขึ้น ยิ่งอยู่ใกล้ ก็ยิ่งดังบาดหู ตึงตึงตึง เฉินอู่ใช้ด้ามดาบ เคาะส่วนล่างของโถเคลือบเซรามิก ทำให้เกิดเสียงออกมา “เร็วเข้า ท่านแม่ทัพจะแจกรางวัลแล้ว!” ทันทีที่ได้ยินคำว่ารางวัล เหล่าทหารที่ได้ยินต่างก็เคลื่อนไหวทันที รวมตัวกันเข้ามาอย่างกระตือรือร้น บรรดาราษฎรต่างก็ยืดคอสอดส่องเข้ามาอย่างอยากรู้อยากเห็น เฉินขุยหยิบสบู่หอมก้อนหนึ่งออกมา เมื่อเปิดห่อบรรจุภัณฑ์ออก สบู่ที่มีสีสันประดุจหยกก็กำจายกลิ่นหอมจาง ๆ ที่ให้ความรู้สึกสงบและสง่างามออกมาทันที “เจ้าสิ่งเล็ก ๆ นี่คือสบู่หอม ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าดูว่าต้องใช้อย่างไร
เหล่าทหารที่ฆ่าไปมากกว่าสี่คน ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจออกมาทันที “ดีเหลือเกิน ข้าฆ่าถึงแล้ว!” “ฮ่าฮ่า ข้าก็ฆ่าครบแล้วเหมือนกัน เอาแชมพูกลับบ้านไปให้เมียได้แล้ว” ผู้ที่ไม่ได้สังหาร หรือสังหารไม่ครบจำนวนคน แต่ละคนต่างก็พากันคอตก ทอดถอนใจ จากนั้น เฉินอู่ก็แนะนำโถเคลือบเซรามิก อ่างใบนี้ เนื้อเป็นเหล็กกล้า หนักหนึ่งชั่ง เนื้อเหล็กที่ใช้หนาอย่างมาก ขอเพียงเด็ดหัวศัตรูได้ถึงแปดคนก็สามารถแลกไปได้ เมื่อทุกคนได้ยินว่าทำจากเหล็กกล้า ต่างก็พากันล้อมเข้าไปทันที ทุกคนลูบไปคนละที ใช้มือลองเคาะ จากนั้นก็มีเสียงโลหะดังออกมา เป็นดั่งที่เฉินอู่กล่าว เนื้อเป็นเหล็กกล้าจริง ๆ ภายนอกเคลือบด้วยภาพสีสันสดใส ทั้งหนาและทนทาน… นี่คือเหล็กกล้าเลยนะ! หลายเดือนก่อน อาวุธของพวกเขายังทำจากทองสัมฤทธิ์เลย ถ้วยชามรามไหในบ้านของราษฎร ส่วนใหญ่ทำจากไม้ เหล่าพ่อค้าจึงจะใช้วัตถุดิบที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ ผู้ที่มีความมั่งคั่งอย่างยิ่งในเมืองหลวงเท่านั้น จึงจะสามารถใช้ของที่ทำจากเหล็กกล้าที่สุดแสนแพงได้ แต่จำนวนก็มีน้อยเหลือแสน ยามนี้ ของเพียงสังหารศัตรูได้แปดคน ก็จะสามารถแลกอ่างที่ทำจากเหล็กกล้าได้แ
สุภาพบุรุษ แก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย! เหยียบอากาศยานไร้คนขับของเขาจนแหลก เขาสามารถจดจำความแค้นนี้ไปได้ตลอดชีวิตเลยล่ะ! รัฐทายาทน้อยจะใช้ลูกไม้เล่นงานคนอีกแล้ว กลางดึก มั่วฝานให้คนเตรียมอากาศยานไร้คนขับไว้อย่างเรียบร้อย อากาศยานไร้คนขับตัวหนึ่งบินโคลงเคลงไปมาออกไป บนตัวมันแขวนประทัดเส้นยาว ตามน้ำหนักสูงสุดที่มันรับได้ไว้หลายสาย อากาศยานไร้คนขับตัวที่สอง แขวนถ่านติดไฟแท่งยาวไว้แท่งหนึ่ง ออกเดินทางตามไป อากาศยานไร้คนขับตัวที่สาม แขวนดาบอันคมกริบไว้เล่มหนึ่ง อากาศยานไร้คนขับตัวที่สี่แขวนลำโพงประกาศเสียงไว้! ในราตรีอันเงียบสงบ ทหารชาวหมานทั้งหมดต่างพากันเข้าสู่นิทราอันหอมหวาน… หลังประทัดที่แขวนไว้บนอากาศยานไร้คนขับถูกถ่านไม้จุดติดไฟขึ้นมา ก็ระเบิดดังปึงปังขึ้นกลางอากาศ เหนือคอกม้ากองทัพชาวหมาน ดาบยาวอันคมกริบตัดประทัดจนขาด ประทัดตกลงกลางคอกม้า เสียงประทัดที่ดังกึกก้องติดต่อกัน ปลุกม้าศึกที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมา แล้ววิ่งเตลิดไปทั่วด้วยความตื่นตระหนก เมื่อทหารชาวหมานได้ยินเสียงดัง ก็คิดว่ามีระเบิดมาอีกแล้ว ตอนนี้ ภายในใจของพวกเขาได้เกิดความหวาดหวั่นต่อระเบิดขึ้นแล้ว เพี
หลัวซู่ชักดาบออกมา ผ่าร่างทหารที่มาส่งข่าวในดาบเดียว ทหารผู้นั้นเลือดสาดกระจายในทันที ทหารยามทุกนายพากันคุกเข่าลง แนบศีรษะลงกับพื้น ร่างกายสั่นสะท้าน หลัวซู่แหงนหน้าขึ้นฟ้า กู่ร้องออกมาเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยวและอาวรณ์ “จ้านเฉิงอิ้น ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” “อ๊ากกกก…” “ทหาร กลับเมือง ต่อให้ข้าต้องตาย ก็จะขวางทางกลับของจ้านเฉิงอิ้นให้ได้!” เมื่อทหารชาวหมานได้ยินท่านอ๋องพูดว่ากลับเมือง ก็พากันถอนใจยาวด้วยความโล่งอก พวกเขาไม่อยากตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวน ในบรรดาพวกเขา มีผู้ใดกัน ที่บนมือไม่เคยเปื้อนเลือดชาวฮั่น พวกเขาไม่เคยเห็นชาวฮั่นเป็นคนมาก่อน ในสายตาของพวกเขา ชาวฮั่นก็เป็นเพียงเสบียงอาหาร เป็นแกะที่มีสองขาเท่านั้น แต่ยามนี้ กองทัพตระกูลจ้านแห่งด่านเจิ้นกวน ทำให้พวกเขาได้รู้ว่า สิ่งใดคือความโหดร้ายที่แท้จริง! เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ถูกระเบิดจนแขนขาขาดลดไป ก็ถือว่าดีแล้ว เพราะพวกเขาเคยเห็นด้วยตาตนเอง โดยไม่อาจทำสิ่งใดได้ ในยามที่ผู้มีชีวิตอยู่เบื้องหน้า ถูกระเบิดจนกลายเป็นหมอกเลือดในเสี้ยววินาที ร่างเนื
เหล่าแม่ทัพพากันยืนขึ้นด้วยความอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ดวงตาทั้งคู่ของเฉินขุยเบิกกว้าง ถามพลทหารที่มาส่งสารอย่างตื่นเต้นว่า “ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ?” พลทหารมอบม้วนกระดาษที่ดึงออกมาจากขานกอินทรีให้เฉินขุย บนกระดาษขาว มีลายมือที่เขียนด้วยปากกาลูกลื่นว่า “เชื้อพระวงศ์ม่อเป่ยทั้งห้าพันคนได้ถูกสังหารหมดแล้ว อย่าได้เป็นห่วง…” “ข้าจะกลับไปในทันที พวกเจ้าจงเฝ้ารักษาด่านเจิ้นกวนไว้ให้ดี อย่าให้ท่านเทพต้องเป็นกังวล!” เฉินขุยถือแถบกระดาษข้อความไว้ในมือ หัวเราะฮาฮาเสียงดังออกมา “ชนะแล้ว เชื้อพระวงศ์ของพวกม่อเป่ยถูกฆ่าหมดแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…” “การจู่โจมที่รวดเร็วอย่างคาดไม่ถึงดุจสายฟ้าแล่บเช่นนี้ ยังคงต้องอาศัยท่านแม่ทัพจริง ๆ!” “การที่อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ขั้นหนึ่งที่สามารถสืบทอดแก่ลูกหลานได้เขา ตัวข้าเฉินขุยยอมรับอย่างยินยอมพร้อมใจแล้วจริง ๆ” บรรดาแม่ทัพท่านอื่นก็พากันตื่นเต้นยินดีจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ พวกเขาพาส่งต่อกระดาษข้อความที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาต่อ ๆ กันไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อดูกันครบแล้ว ก็กอดกันร้องตะโกนเสียงดังด้วยความยินดีออกมา “ชนะแล้ว ชนะแล้ว ท่านแม่ทัพใหญ
รอบที่สอง เป็นการสู้กันด้วยอาวุธ ดาบเสี้ยวของหลัวซู่ไม่อาจสู้ขวานคู่ของหลิงเซี่ยวเฟิงได้ แพ้แล้ว รอบที่สามยังไม่ทันได้เริ่มสู้ ทหารของทั้งสองฝ่ายก็อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มการปะทะแลกชีวิตกัน ทหารแคว้นฉีพยายามห้ามทัพอย่างเต็มกำลัง… ทว่าสองฝ่ายต่างมีคนนับแสน หลายร้อยคนที่ยืนอยู่แถวหน้าเข้าตะลุมบอนกันแล้ว รั้งอย่างไรก็รั้งไม่อยู่ จนกระทั่ง ทหารของแต่ละฝ่ายเกิดการสูญเสียขึ้นมา เพียงช่วงลมหายใจ ก็ตายไปหลายสิบคน ฉีซวนเหิงจึงทนดูต่อไปไม่ไหว คำรามด้วยความโมโหว่า “หยุดมือให้หมด!” “ยังไม่ทันยึดด่านเจิ้นกวนได้ พวกท่านก็มาต่อสู้กัน ในจุดที่ห่างจากเมืองออกมาเพียงสามลี้เสียแล้ว…” “จะให้ลูกน้องของจ้านเฉิงอิ้นชมเรื่องตลกอย่างไร้เหตุผลหรืออย่างไร?” “พวกท่านจำให้ดีว่า หากยังสู้เช่นนี้ต่อไปอีก ขอเพียงบนฟ้าทิ้งระเบิดลงมา พวกท่านก็ได้แต่ตายเท่านั้น!” ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็แหงนมองไปบนท้องฟ้าทันที บนท้องฟ้ามีอากาศยานไร้คนขับบินอยู่ คอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา เมื่อคืน ก็เป็นเจ้าสิ่งนี้ที่ทิ้งประทัดและระเบิดลงมา ทำให้ม้าในคอกม้าของทั้งสามทัพ เตลิดหนีไปนับห
ฝักดาบประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า เมื่อดึงฝักดาบออก แสงสีเงินอันเย็นยะเยือกสะท้อนอยู่บนตัวดาบที่ตกแต่งด้วยไหมสีเงิน…ผู้อาวุโสจางอดรนทนไม่ไหว เมื่อหยิบเล่มนี้ดาบขึ้นมาก็มองเห็นด้านบนเขียนเพียงว่า ‘ดาบจงกั๋วกง ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่ทรงพระราชทาน’ “ดาบเล่มนี้ฮ่องเต้แคว้นฉู่เป็นผู้ทรงพระราชทาน ฮ่องเต้แคว้นฉู่ทรงพระราชทาน!”“ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ เรื่องของคุณผมจะจัดการให้เอง เตรียมเงินเอาไว้ห้าพันล้าน อย่างมากที่สุดครึ่งเดือนผมจะทำให้คุณได้กำไรเป็นเท่าตัว!”เย่มู่มู่ดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึงนี้ “ขอบคุณมากค่ะผู้อาวุโสจาง!”ผู้อาวุโสสวี่มองดูดาบด้วยใจที่คันคะเยอ เขาก็อยากได้เหมือนกันนี่นาของที่ดีขนาดนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยจะมีของล้ำค่าอยู่ก้นหีบ ทั้งยังเอาเสื้อคลุมสองตัวมาปิดเอาไว้อีกหลอกลวงกันนี่นาผู้อาวุโสจางหัวเราะพลางกล่าวว่า “เบื้องหลังของเหล่าสวี่แข็งแกร่งกว่าพวกเรามาก แม้ว่าผมจะมั่งคั่งร่ำรวย ก็เป็นเพียงนักธุรกิจที่ไร้อำนาจเท่านั้น ไม่เหมือนกันกับเขา”“ก่อนที่จะเกษียณ ตอนที่เขาอยู่ที่กองทัพก็เป็นแบบนี้ ลูก ๆ ของเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในแวดวงธุรกิจ การเมืองแล้วก็การทหาร ทั้งยังเชื่
ผู้อาวุโสสวี่กับผู้อาวุโสจางรู้ดีว่าทำไมเย่มู่มู่ถึงได้ต้องการขายของเก่าดูเหมือนว่าเธอจะขาดเงินอย่างหนัก ต้องการเงินเป็นจำนวนมากว่ากันตามเหตุผลแล้ว ของโบราณที่เธอขายในช่วงสามเดือนมานี้ มีมูลค่าห้าหมื่นล้านบาทเข้าไปแล้วสาวน้อยเพียงคนเดียว ถึงจะใช้เงินเก่งแค่ไหน แต่จะใช้เงินหลายหมื่นล้านหมดภายในสามเดือนเชียวเหรอ?แต่ว่าเธอดันใช้จ่ายไปแล้ว!และก็ใช้ไปจนหมดแล้วด้วย!นี่ก็เอาของโบราณมาขายอีกหนึ่งกล่องแล้วเธอทำอะไรกันแน่?ถึงได้ใช้เงินเก่งขนาดนี้!ต่อให้ลงทุนในบริษัทไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกร บริษัทก็มีกำไร และกำไรก็ไม่ได้ต่ำด้วย สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง พวกต่างก็ลงทุนไปแล้ว เงินพวกนี้เพียงพอที่จะครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการเช่าอาคารเธอยังลงทุนในตลาดสินค้าเกษตรของหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ อีกด้วย ไม่กี่ล้านบาทนั่นก็เพียงพอแล้วต่อให้ลงทุนกับหน่วยขนส่ง หน่วยขนส่งใหม่ทั้งหมดบวกกับเงินเดือนและค่าน้ำมัน ห้าสิบกว่าล้านก็นับว่าสูงแล้วเธอทำอะไรกันแน่ชายชราทั้งสามคนต่างก็สงสัยเป็นอย่างมาก!ตอนนี้ เธอเอาของโบราณมาหนึ่งกล่อง บวกกับของขวัญที่ส่งมาเมื่อวานก็ถือว่าได้แสดงความความจริงใจ
และหลูซีจะถูกพวกเขาตราหน้าว่ามีภูมิหลังของครอบครัวในระดับที่ต่ำที่สุดแน่นอนว่าหลูซีไม่ถึงขั้นที่จะเกิดเรื่อง ด้วยฝีมือของเขา เย่มู่มู่เป็นห่วงว่าฝ่ายตรงข้ามจะเกิดเรื่องเสียมากกว่าดังนั้น จึงพยายามที่จะมารับไปส่งเขาเท่าที่จะทำได้และบอกกับนักเรียนคนอื่น ๆ ว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่มี แต่เขาแค่ไม่ยินยอมเท่านั้น!สาวน้อยน่ารักคนนั้นร่ำลาเย่มู่มู่ “พี่สาวลาก่อนค่ะ?”เย่มู่มู่ยิ้มพลางกล่าวว่า “ลาก่อน!”หลังจากที่หลูซีเข้าประตูโรงเรียนไปแล้ว เย่มู่มู่ถึงได้ไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสสวี่เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของผู้อาวุโสสวี่...ว้าว คฤหาสน์ใหญ่มากจริง ๆ !ที่ดินในเมืองทุกตารางนิ้วล้วนมีราคาสูง คฤหาสน์ที่ใหญ่โตหรูหรา และครอบคลุมพื้นที่เกือบสิบไร่เช่นนี้ ไม่อาจวัดมูลค่าได้ภูเขาที่อยู่ด้านหลังของคฤหาสน์ พื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ ล้วนแต่เป็นของผู้อาวุโสสวี่ทันทีที่รถของเย่มู่มู่ขับเข้าประตู ผู้อาวุโสสวี่กับผู้ช่วยพ่อบ้านก็ออกมาตอนรับพร้อมกันเย่มู่มู่รีบลงมาจากรถสวี่หมิงที่อยู่ข้าง ๆ เธอ กำลังถือกล่องไม้กล่องหนึ่งด้วยมือทั้งสองข้างลวดลายแกะสลักสไตล์โบราณบนกล่องไม้ ทำให้ดวงตาของผู้อาวุโสสวี่เป็น
เย่มู่มู่กำลังคิดว่าข่าวของผู้อาวุโสมู่ค่อนข้างเร็วทีเดียววันนี้เธอนำสิ่งของหลายอย่างมาเยี่ยมเยียนท่านผู้เฒ่าทั้งสองจริง ๆ นางต้องการสนับสนุนจ้านเฉิงอิ้นฟื้นฟูดินแดนรกร้าง กักตุนเสบียงอาหาร ยึดครองเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่ และพิชิตใต้หล้าต้องใช้การลงทุนจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง!เงินพวกนี้พึ่งพาการขายของโบราณเพียงอย่างเดียงคงเป็นไปได้ยากเธอต้องหาเงิน!หาเงินให้มากพอที่จะสนับสนุนให้จ้านเฉิงอิ้นรวมชาติได้ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าผู้อาวุโสสวี่กับผู้อาวุโสจางมีเบื้องหลังเช่นไร ทว่าครั้งก่อนที่ร้านขายวัตถุโบราณเปิดกิจการ มีผู้ทรงอิทธิพลมากมายที่ปรากฎอยู่ในภาคการเงินและเศรษฐกิจ มาขอเข้าพบพวกเขาเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนมีเบื้องลึกที่ไม่ธรรมดา!วันนี้เธอจึงตั้งใจเลือกของขวัญมาหนึ่งกล่องชุดน้ำชาทองคำที่ฮ่องเต้ทรงใช้ กาน้ำชาฉลุลายมังกรขดที่ทำมาจากทองคำหนึ่งใบถ้วยชาลายมังกรทองสี่ใบชุดน้ำชาชุดนี้ยังมีถาดทองคำอีกหนึ่งใบด้วยเป็นชุดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ภายนอกเป็นรูปแบบโบราณที่เรียบง่ายและงดงาม ฝีมือประณีตสามารถหลงเหลือชุดน้ำชาในสมัยโบราณที่ประณีตและงดงามขนาดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง
หยางชิงเหอแย้มยิ้มในฉับพลัน “ไปไปไป พวกเราไปเลือกรถกัน ข้าเห็นว่ามีรถบ้านขนาดใหญ่อยู่ด้วย”“สามารถอยู่กับชีเหนียง หยางซี แล้วก็เสี่ยวเถาได้แล้ว...ต่อไปนี้พวกเขาก็ไม่ต้องใช้กระโจม นอนกลางดินกินกลางทรายอีกแล้ว”หยางชิงเหอขี่รถสามล้อไฟฟ้า แล้วเลือกรถบ้านขนาดใหญ่ไปหนึ่งคันรถบ้านขนาดใหญ่มีโครงสร้างสูง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องส่วนตัว และโซฟามีห้องทั้งหมดสองห้องนางอยู่หนึ่งห้อง ชีเหนียง และเสี่ยวเถาอยู่หนึ่งห้องส่วนหยางซีนอนโซฟาชั้นบนสุดของรถนอน ปูด้วยแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ และท้ายรถยังมีรถจักรยานยนต์แขวนไว้หนึ่งคันด้วยไม่ใช่รถไฟฟ้า แต่เป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันแล้วก็มีห้องครัวแบบเปิด กับตู้เย็นตั้งพื้นด้วย!ระบบทำความเย็นมีอยู่อย่างเพียงพอกระทั่งโทรทัศน์ก็ยังใหญ่กว่ารถบ้านทั่ว ๆ ถึงหนึ่งเท่าตอนที่พวกนางทั้งสี่คนย้ายเข้ามา จึงดีใจอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเสี่ยวเถากับชีเหนียง พวกนางสามารถอาบน้ำในห้องน้ำบนรถได้ โดยไม่ต้องไปกางกระโจมกลางดินกลางทรายเวลาลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกก็ต้องระมัดระวังอย่างมากแต่ว่าตอนนี้แก้ไขได้ด้วยห้องน้ำที่อยู่บนรถบ้านแล้วสามาร
จัดสรรบุคลากรเสร็จสมบูรณ์ ลงทะเบียน และเริ่มต้นการฝึกแล้วกองทัพตระกูลจ้านไม่หละหลวมเหมือนกับกองทัพธงเหลือง กฎของกองทัพเด็ดขาด การฝึกเข้มงวด ดังนั้น เพื่อที่จะได้กินเนื้อสัตว์ กินข้าวอิ่ม กองทัพธงเหลืองแต่ละคนต่างก็เพียรพยายามดาบม่อเตานั้นหนักมาก เดิมทีผู้ที่มีรูปร่างเล็กจึงไม่อาจทนไหวแต่เพื่อสังหารศัตรูได้มากขึ้นในสนามรบ และได้รับเสบียงอาหารเป็นรางวัลพวกเขาจึงทุ่มเทอย่างหนัก เพียรพยามอย่างไม่เกรงกลัวความลำบากยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในกองทัพธงเหลือง!หยางชิงเหอไม่เชี่ยวชาญในการฝึกทหาร จึงมอบทหารสองหมื่นนายให้หวังเซิ่งเป็นคนจัดการนางขับรถสามล้อไฟฟ้าไปที่หลุมขนาดใหญ่ที่มู่ฉีซิวถูกระเบิดจนตาย!กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง ที่พื้นยังคงหลงเหลือเศษชิ้นส่วนของแขนขามีผู้ถูกระเบิดตายมากมายเกินไป จนไม่สามารถเอาชิ้นส่วนมารวมกันเป็นรูปเป็นร่างโดยสมบูรณ์ได้นางมองลงไปยังหลุมขนาดใหญ่อย่างเงียบงันนางกับมู่ฉีซิวรู้จักกันมาสองชาติแล้ว ในยุคปัจจุบันรักกันมาห้าปี จนถึงขั้นพูดคุยถึงเรื่องการแต่งงานทว่าจู่ ๆ ก็ข้ามกาลเวลามายุคโบราณ ในตอนแรกนางไม่สามารถปรับตัวได้ในทุก ๆ ด้านตอนนั้นเขายังคงรักนางอยู
“หากใช้ไฟเยอะ รถของเจ้าใช้ไฟไม่ได้ ก็จะขับไม่ได้!”“หากเจ้ารู้สึกร้อน เปิดแอร์ก็สิ้นเรื่องแล้ว!”ในจังหวะนี้เอง หยางชิงเหอก็กดรีโมทเปิดแอร์ลมเย็น ๆ พัดลอยมาทหารผ่านศึกทุกนายต่างตาดงกันหมดแล้วลมเย็นจริง ๆ เย็นเหมือนกับในห้องคนขับของรถยนต์เป๊ะ ๆลมร้อนที่พัดลมพัดออกมา เทียบกับลมเย็นนี้ไม่ได้เลยจริง ๆพวกเขาทุกคนต่างอิจฉาตาร้อนเป็นอย่างมากโอกาสที่ดีอย่างเมื่อวาน ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะจะฆ่าไม่พอ หากนับรวมแล้วจะได้รถบ้านคันแบบนี้ต่อไปไม่ต้องใช้ท้องฟ้าเป็นผ้าห่ม ใช้ดินเป็นเสื่อ และนอนในที่โล่งอยู่บนพื้นในถิ่นทุรกันดารอีกต่อไปแล้วน่าอิจฉามากจริง ๆ!ช่างน่าอิจฉายิ่งนัก!เนื่องจากคุณภาพเมื่อเทียบกับราคาค่อนข้างสูง สะดวกมาก ๆ เทียบเท่ากับบ้านเคลื่อนที่ได้เลยได้รับการต้อนรับในหมู่ทหารผ่านศึกเป็นอย่างมากฉะนั้น ครั้งนี้มีห้าคนที่ได้รับรถบ้านสำเร็จส่วนคนที่เหลือ บ้างฆ่าได้ห้าสิบคน เจ็ดสิบคน ยอมไม่เอาอะไรทั้งสิ้น สะสมกับครั้งต่อไปให้ฆ่าได้หนึ่งร้อยคนและจะได้รับรถบ้านเช่นกันรถบ้านมีจำนวนจำกัด และจำนวนถึงก่อนได้ก่อนผู้ที่ได้เลือกก่อน อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันผู้ที่เ
เชลยศึกจากกองทัพธงเหลืองที่นั่งอยู่บนพื้นเหล่านั้น ถูไถกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนทั้งหมดเมื่อครู่ตอนที่พวกเขาต่อแถวตักโจ๊ก มีคนกึ่งหนึ่งกำลังดิ้นรนกันอยู่!วันนี้ครั้นได้ยินเรื่องรางวัลของกองทัพตระกูลจ้าน พวกเขาก็ไม่อยากเชื่อเมื่อวาน ผู้ที่พุ่งไปอยู่หน้าสุดกองทัพตระกูลจ้านอย่างห้าวหาญ อย่างน้อยก็ฆ่าคนได้นับสิบเช่นนั้นจะได้รางวัลเท่าไร?มีชายหนุ่มร่างบึกบึนผู้หนึ่งก้าวออกมา วางหูขวากระสอบหนึ่งไว้บนโต๊ะจดบันทึกน้ำเสียงของเขาหยาบคายและดัง “ข้านับมาแล้ว หนึ่งร้อยยี่สิบข้าง!”“ข้าไม่เอาเสบียงอาหารแล้ว เยอะจนเก็บไม่พอแล้ว ครอบครัวก็ไม่มีแล้ว ข้าเองก็กินไม่หมด ท่านแม่ทัพเฉินอู่บอกว่า ฆ่าได้หนึ่งร้อยคนจะตบรางวัลเป็นรถบรรทุกหนึ่งคัน ข้าต้องการรถ!!”แปะ ๆมีเสียงปรบมือด้วยความชื่นชมยินดีระเบิดขึ้นในกองทัพตระกูลจ้าน นายทหารกองทัพตระกูลจ้านจำนับไม่ถ้วนโห่ร้องว่ายอดเยี่ยมนายกองพันผู้นี้ เป็นหนึ่งในทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้าน ร่างกายสูงใหญ่ แข็งแกร่งมีพละกำลัง...ทุกครั้งที่ทำศึกเขาจะอยู่หน้าสุด ฆ่าทัพศัตรูได้เยอะที่สุด!คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องการรถในขณะนี้ เฉินอู่เดินม
ดูสิเมื่อวานพวกเขาถูกควบคุมตัวมาที่นี่ ตรงหน้าพวกเขามีโจ๊ก และน้ำสะอาดหลายถังวางเอาไว้...ไม่มีใครทักทายพวกเขา กองทัพตระกูลจ้านเห็นว่าพวกเขาไม่มีตัวตนอยากกินก็กิน ไม่กินก็เก็บกลับไป ยุ่งเป็นอย่างมาก ไม่มีเวลามาสนใจพวกเขาทว่าชาวบ้านและกองทัพธงเหลืองคนอื่น ๆ มาพูดโน้มน้าวมาดูการยืนหยัดของตัวเองในตอนนี้แล้ว ช่างน่าขันจริง ๆฉะนั้น จึงมีคนลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาหน้าถังโจ๊กอย่างเลื่อนลอยเมื่อคืนพวกเขาทนหิวมาตลอดทั้งคืน บวกกับได้รับบาดเจ็บ จึงเดินไม่ค่อยมั่นคงแล้วโจ๊กเย็นหมดแล้วคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ด้านบน และเนื้อบดละเอียด เหนียวติดอยู่ด้วยกันแข็งอย่างมากไม่คล้ายกับน้ำซุปใส ๆ แบบนั้น ทว่าเป็นของกินที่สามารถทำให้อิ่มท้องได้หยิบถ้วยมาจากตะกร้าด้านข้างหนึ่งใบ จากนั้นใช้กระบวยตักโจ๊กมาหนึ่งถ้วยและกินลงไปในวินาทีที่เข้าปากไป กลิ่นหอมกรุ่นนุ่มละมุน แม้จะเย็นแล้ว ทว่าก็ยังอร่อยมากในนั้นไม่ได้มีเพียงเศษเนื้อ ทว่ายังใส่ไข่และผักกาดขาวลงไปด้วยยังมีกลิ่นเกลืออีกด้วยที่จริงในค่ายทหารกองทัพธงเหลืองไม่ขาดเกลือ ทว่าไม่ได้ใช้เกลือที่ดีที่สุด ใช้เป็นเกลือหยาบที่กินแล้วมีรสขมเสบียงอ