แชร์

บทที่ 186  

ผู้เขียน: มู่โร่ว
หลัวซู่ชักดาบออกมา ผ่าร่างทหารที่มาส่งข่าวในดาบเดียว

ทหารผู้นั้นเลือดสาดกระจายในทันที

ทหารยามทุกนายพากันคุกเข่าลง แนบศีรษะลงกับพื้น ร่างกายสั่นสะท้าน

หลัวซู่แหงนหน้าขึ้นฟ้า กู่ร้องออกมาเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยวและอาวรณ์

“จ้านเฉิงอิ้น ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”

“อ๊ากกกก…”

“ทหาร กลับเมือง ต่อให้ข้าต้องตาย ก็จะขวางทางกลับของจ้านเฉิงอิ้นให้ได้!”

เมื่อทหารชาวหมานได้ยินท่านอ๋องพูดว่ากลับเมือง ก็พากันถอนใจยาวด้วยความโล่งอก

พวกเขาไม่อยากตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวน

ในบรรดาพวกเขา มีผู้ใดกัน ที่บนมือไม่เคยเปื้อนเลือดชาวฮั่น

พวกเขาไม่เคยเห็นชาวฮั่นเป็นคนมาก่อน

ในสายตาของพวกเขา ชาวฮั่นก็เป็นเพียงเสบียงอาหาร เป็นแกะที่มีสองขาเท่านั้น

แต่ยามนี้ กองทัพตระกูลจ้านแห่งด่านเจิ้นกวน ทำให้พวกเขาได้รู้ว่า สิ่งใดคือความโหดร้ายที่แท้จริง!

เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ถูกระเบิดจนแขนขาขาดลดไป ก็ถือว่าดีแล้ว

เพราะพวกเขาเคยเห็นด้วยตาตนเอง โดยไม่อาจทำสิ่งใดได้ ในยามที่ผู้มีชีวิตอยู่เบื้องหน้า ถูกระเบิดจนกลายเป็นหมอกเลือดในเสี้ยววินาที

ร่างเนื
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
ปรางลออ อนนตะชัย
ลงให้อ่านน้อยจัง สัก10 ตอนก็ยังดี แต่แอบคิดนะทำไมคนเขียนไม่ได้เขียนให้ตามหาใส้ศึก ซึ่งมันสำคัญมาก
goodnovel comment avatar
Surirat Yui Chompoo Kampi
เย้ๆๆๆๆๆ ในที่สุด! จ้านเฉิงอิ้นและทุกๆคนชนะแล้ว ดีใจแทนเย่มู่มู่เลย ^O^ เหมือนเดิมค่ะ อย่าลืมอัพเดตให้ได้อ่านเรื่อยๆ และอย่าลืมทานข้าวและพักผ่อนด้วยนะคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 187  

    เหล่าแม่ทัพพากันยืนขึ้นด้วยความอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ดวงตาทั้งคู่ของเฉินขุยเบิกกว้าง ถามพลทหารที่มาส่งสารอย่างตื่นเต้นว่า “ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ?” พลทหารมอบม้วนกระดาษที่ดึงออกมาจากขานกอินทรีให้เฉินขุย บนกระดาษขาว มีลายมือที่เขียนด้วยปากกาลูกลื่นว่า “เชื้อพระวงศ์ม่อเป่ยทั้งห้าพันคนได้ถูกสังหารหมดแล้ว อย่าได้เป็นห่วง…” “ข้าจะกลับไปในทันที พวกเจ้าจงเฝ้ารักษาด่านเจิ้นกวนไว้ให้ดี อย่าให้ท่านเทพต้องเป็นกังวล!” เฉินขุยถือแถบกระดาษข้อความไว้ในมือ หัวเราะฮาฮาเสียงดังออกมา “ชนะแล้ว เชื้อพระวงศ์ของพวกม่อเป่ยถูกฆ่าหมดแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…” “การจู่โจมที่รวดเร็วอย่างคาดไม่ถึงดุจสายฟ้าแล่บเช่นนี้ ยังคงต้องอาศัยท่านแม่ทัพจริง ๆ!” “การที่อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ขั้นหนึ่งที่สามารถสืบทอดแก่ลูกหลานได้เขา ตัวข้าเฉินขุยยอมรับอย่างยินยอมพร้อมใจแล้วจริง ๆ” บรรดาแม่ทัพท่านอื่นก็พากันตื่นเต้นยินดีจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ พวกเขาพาส่งต่อกระดาษข้อความที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาต่อ ๆ กันไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อดูกันครบแล้ว ก็กอดกันร้องตะโกนเสียงดังด้วยความยินดีออกมา “ชนะแล้ว ชนะแล้ว ท่านแม่ทัพใหญ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 188  

    รอบที่สอง เป็นการสู้กันด้วยอาวุธ ดาบเสี้ยวของหลัวซู่ไม่อาจสู้ขวานคู่ของหลิงเซี่ยวเฟิงได้ แพ้แล้ว รอบที่สามยังไม่ทันได้เริ่มสู้ ทหารของทั้งสองฝ่ายก็อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มการปะทะแลกชีวิตกัน ทหารแคว้นฉีพยายามห้ามทัพอย่างเต็มกำลัง… ทว่าสองฝ่ายต่างมีคนนับแสน หลายร้อยคนที่ยืนอยู่แถวหน้าเข้าตะลุมบอนกันแล้ว รั้งอย่างไรก็รั้งไม่อยู่ จนกระทั่ง ทหารของแต่ละฝ่ายเกิดการสูญเสียขึ้นมา เพียงช่วงลมหายใจ ก็ตายไปหลายสิบคน ฉีซวนเหิงจึงทนดูต่อไปไม่ไหว คำรามด้วยความโมโหว่า “หยุดมือให้หมด!” “ยังไม่ทันยึดด่านเจิ้นกวนได้ พวกท่านก็มาต่อสู้กัน ในจุดที่ห่างจากเมืองออกมาเพียงสามลี้เสียแล้ว…” “จะให้ลูกน้องของจ้านเฉิงอิ้นชมเรื่องตลกอย่างไร้เหตุผลหรืออย่างไร?” “พวกท่านจำให้ดีว่า หากยังสู้เช่นนี้ต่อไปอีก ขอเพียงบนฟ้าทิ้งระเบิดลงมา พวกท่านก็ได้แต่ตายเท่านั้น!” ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็แหงนมองไปบนท้องฟ้าทันที บนท้องฟ้ามีอากาศยานไร้คนขับบินอยู่ คอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา เมื่อคืน ก็เป็นเจ้าสิ่งนี้ที่ทิ้งประทัดและระเบิดลงมา ทำให้ม้าในคอกม้าของทั้งสามทัพ เตลิดหนีไปนับห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 189  

    เมื่อทหารยามที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินว่า คืนนี้จะไปโจมตีทหารแคว้นฉู่ ก้องโห่ร้องขึ้นมาด้วยความดีใจ “ดีเหลือเกิน ในที่สุดก็จะลงมือเสียที!” “ข้าอยากได้ของรางวัล หากไม่สู้รบแล้วจะไปรับรางวัลได้อย่างไร ในที่สุด คืนนี้ก็จะได้สู้อย่างเต็มที่สักรอบเสียที!” “ข้าจะไปลับดาบม่อเตาอีกหน่อย เอาให้คมจนตัดเส้นผมขาด แต่ละดาบเห็นเลือดประเภทนั้น! ” เหล่าแม่ทัพทั้งหลายต่างก็ได้ยินเสียงทหารยามที่อยู่ด้านนอกห้องโถงหารือ พวกเขาล้วนรอที่จะสู้ศึกสักคราไม่ไหวแล้ว สิ่งของที่ท่านเทพส่งมานั้น มีความเย้ายวนต่อเหล่าทหารเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้รับรางวัลแล้ว พวกเขาไม่เกรงกลัวต่อกองทัพฉู่นับแสน เมื่อเหล่าทหารกระตือรือร้นเช่นนี้ เหล่าแม่ทัพทุกนายต่างก็เตรียมตัวอย่างแข็งขันเช่นกัน คืนนี้ จะต้องรบให้หนักสักตั้ง* เย่มู่มู่ที่รออยู่ ไม่ได้รับจดหมายตอบกลับจากจ้านเฉิงอิ้น นี่ก็สองวันแล้ว ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร ถ้าบอกว่าป่วย เธอก็ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไฮเทคที่สุดไปแล้ว เครื่องมือพวกนั้นเกินพอที่จะรับมือกับแผลดาบแผลธนูแล้ว ถ้าจะบอกว่าเขาตายแล้ว เธอก็คงส่งสิ่งของไปทางนั้นไม่ได้ ตอนนี้ เธอจึงเดาว่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 190  

    เพื่อให้พ่อค้าย้ายเข้ามาปักหลัก เพราะเธอต้องการแหล่งสินค้าที่ไม่ขาดสาย ที่สามารถซื้อหาจากตลาดสินค้าเกษตรได้โดยตรง จะได้สะดวก และไม่ดึงดูดสายตาผู้คน ตลาดสินค้าเกษตรที่สร้างเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือแผงลอย ก็ล้วนสามารถปล่อยเช่าออกไปได้ เธอไม่ได้โลภเงินค่าเช่าเล็กน้อยพวกนั้น แต่เพื่อให้สะดวกในการอาศัยชื่อตลาดสินค้าเกษตร ไปสั่งซื้อสินค้าโดยไม่ถูกคนสงสัยเท่านั้น เมื่อผู้ใหญ่บ้านได้ยินว่าเธอจะสร้างตลาดสินค้าเกษตร ก็ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ รีบไปที่เทศบาลตำบลทันที เขาต้องการจะทำให้เรื่องนี้เป็นทางการขึ้นมา หลังคาเหล็กอันเก่าของตลาดสินค้าเกษตรถูกรื้อออกแล้ว เพราะทันทีที่ฝนตกลงมา น้ำก็จะไหลซู่ลงมา ทำให้บนพื้นทั้งชื้นทั้งเปียก จึงควรเปลี่ยนใหม่เสียนานแล้ว ภายในวันเดียวกันนั้น หัวหน้าหมู่บ้านก็นำเอกสารกลับมา เขามอบมันให้เย่มู่มู่เซ็นชื่อ ในการก่อสร้างตลาดการเกษตรขึ้นใหม่ และการจัดตั้งสำนักงานบริหารตลาดสินค้าเกษตร มีเธอเป็นผู้รับผิดชอบและผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว* จ้านเฉิงอิ้นและพวกเว่ยกวง คนทั้งกลุ่มต่างเดินทางอ้อมเขตแดนเผ่าของหมาน เลาะผ่านตะเข็บชายแดนเข้าสู่แคว้นฉู่ด้ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 191

    จ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่ง ทหารทุกคนลงจากม้ามีคนหนึ่งพันคนคอยเฝ้าระวัง คนที่เหลือทั้งหมดก็ขุดหลุมแม้แต่ม้าก็ไม่ว่าง กีบเท้าสองข้างกำลังพยายามขุดดินคนจำนวนมาก ฝังระเบิดทั้งหมดเสร็จภายในเวลาหนึ่งชั่วยามสายนำไฟฟ้าลากยาวหลายพันกิโล ห่างจากสถานที่ประจำการกองทัพของแคว้นฉู่และแคว้นฉียี่สิบลี้เมื่อพวกเขาถอยกลับไป จึงต้องถอยให้ห่างจากระยะของระเบิดการระเบิด สามารถทำให้กองทัพศัตรูตายได้จำนวนนับไม่ถ้วนหลังทำทุกอย่างเสร็จแล้ว พวกเขาเคลื่อนตัวไปใกล้ที่ประจำการของกองทัพแคว้นฉีอย่างช้า ๆด้านหน้า...กองทัพแคว้นฉู่และกองทัพตระกูลจ้านกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด!กองทัพของตระกูลจ้านมีอุปกรณ์ครบครัน มีขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยมกองทัพแคว้นฉู่พบข้อบกพร่องของอุปกรณ์กองทัพตระกูลจ้าน สามารถฟันไปที่ต้นขาและแขนได้โดยเฉพาะแต่จ้านเฉิงอิ้นเคยฝึกหน่วยดาบม่อเตา สามคนหันหลังชนกัน กลายเป็นรูปสามเหลี่ยม...กลุ่มสามคนให้ความร่วมมือกันอย่างชำนาญ ไร้ข้อบกพร่องทำให้กองทัพแคว้นฉู่ไม่เหลือที่ให้ลงมือในเวลานี้ กองทัพแคว้นฉู่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ต่อให้มีจำนวนคนมากกว่าหลายเท่า แต่ไม่มีทางพลิกสถานการณ์ได้และในขณะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 192

    ปัง~เสียงดังปังพลันดังขึ้น ดังจนน่าตกใจ ตัดการสนับสนุนของกองทัพแคว้นฉีทหารแคว้นฉีชุดแรกที่รีบเร่งไปยังสนามรบ ก็ตายเพราะถูกระเบิดที่ระเบิดอย่างกะทันหันนี้คนกลุ่มแรกที่มากกว่าหนึ่งพันคนก็ตายไปเช่นนี้!กองทัพแคว้นฉีทั้งหมดพากันหยุดนิ่ง...บางคนหวาดกลัวจนถอยหลังกลับไปลูกธนูหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน พุ่งไปที่หว่างคิ้วของฉีซวนเหิงบางทีฉีซวนเหิงอาจจะยังไม่สมควรตายเมื่อเขาตกใจกลัวเพราะเสียงระเบิด ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง จนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฉับพลันติ๊ง~ ลูกธนูดอกหนึ่งบินผ่านเขาไป ทะลุผ่านมวยผม ตอกเขาไว้ที่บนพนักพิงด้านหลังเขาตกใจพร้อมร้องตะโกนออกมาด้วยความกลัว “ช่วยด้วย เร็วเข้า ช่วยข้าที!”“ทุกคนกลับมา ปกป้องข้า!”ด้านหน้าฉีซวนเหิงถูกรายล้อมด้วยองครักษ์ พวกเขาพยายามปกป้องฮ่องเต้อย่างระมัดระวัง เพื่อลงมาจากหอคอยสูง!ทหารที่เป็นกำลังเสริมถูกเรียกกลับมา พวกเขาล้อมเป็นวงกลม ปกป้องฮ่องเต้ที่อยู่ศูนย์กลางของวงกลมเอาไว้ซ่งตั๋วมองการกระทำของฮ่องเต้แคว้นฉี ก็ตะลึงจนพูดไม่ออก“ขี้ขลาดขนาดนี้ จะมาสนามรบทำไม!”จ้านเฉิงอิ้นถาม “มีระเบิดอีกหรือไม่?”ฉีซวนเหิงอยู่ในขอบเขตหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 193

    เขานั่งลงบนเก้าอี้ไม้ข้างแจกัน หยิบกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งขึ้นมา ใบหน้าเกร็งแน่น นิ้วมือสั่นเทาเบา ๆ เขาอ่านจดหมายจากท่านเทพอย่างประหม่า“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าขาดการติดต่อไปสิบชั่วโมงแล้วนะ ข้ากังวล...”“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าจงมีชีวิตให้ดี เจ้ารับปากข้าแล้ว จะรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งเดียว เจ้าห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด!”“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? เหตุใดไม่ตอบจดหมายล่ะ?”“จ้านเฉิงอิ้น เกิดเรื่องกับเจ้าหรือเปล่า? บอกข้าสิ ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร?”“จ้านเฉิงอิ้นไม่ต้องกลัว ข้าจะส่งอุปกรณ์รักษาแผลภายนอกต่าง ๆ เตียงผู้ป่วย เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ที่สามารถเอกซเรย์ได้ยังไม่มีสินค้า อีกหนึ่งสัปดาห์จะมาถึง เจ้าต้องทนให้ได้นะ!”“เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า? หรือว่าตายไปแล้ว? ไม่สิ เจ้าจะทำข้าตกใจกลัวแบบนี้ไม่ได้นะ ข้ากังวลมาก!”“จ้านเฉิงอิ้น ถ้าเจ้าตอบจดหมายข้าได้ ข้าจะส่งอัลบั้มรูปภาพให้เจ้า จริง ๆ นะ ข้าไม่โกหกเจ้า”“แม้แต่อัลบั้มรูปภาพก็ยังดึงดูดความสนใจของเจ้าไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องใหญ่กับเจ้าแล้ว!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ สรุปแล้วเจ้าเป็นหรือตายกันแน่! ข้าเป็นห่วงเจ้ามาก!”“จ้าน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 194

    นี่คือข้าวสารสามร้อยชั่งเชียวนะหากครอบครัวยากจนมีข้าวสารสามร้อยชั่ง ก็อยู่ได้เกินครึ่งปีเห็นได้ชัดเลยว่า สิ่งของเหล่านี้มีค่ามากแค่ไหนมีคนร่ำรวยในเมืองนี้นำทอง เงิน และเครื่องประดับออกมาแลกแชมพูและครีมอาบน้ำกับพวกทหารทองคำหนึ่งกล่องสามารถแลกแชมพูได้หนึ่งขวดก่อนเกิดความอดอยาก ทองคำหนึ่งกล่องเพียงพอให้ครอบครัวหนึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องของกินของใช้ไปตลอดชีวิตได้ทหารชั้นผู้น้อยถึงได้ให้ความสำคัญขนาดนี้จ้านเฉิงอิ้นมองแชมพูกลิ่นกล้วยไม้ท่านเทพชอบกล้วยไม้หรือ?น่าเสียดายที่หัวเซี่ยแห้งแล้ง ยากที่จะหาดอกกล้วยไม้พบเมื่ออุณหภูมิดีขึ้น เขาจะมอบกล้วยไม้ให้ท่านเทพอย่างแน่นอนจ้านเฉิงอิ้นเดินลงจากกำแพงเมืองเห็นคนต่อแถวยาวเพื่อแลกรางวัลแต่คนที่นำข้าวสารและแป้งสาลีมาที่โกดัง กลับมีน้อยมากดูเหมือนว่า ทุกคนไม่ขาดแคลนเสบียงแล้ว*เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดไป เป็นเวลาสิบโมงแล้วเธอไปดูแจกันก่อนอันดับแรกกระดาษขาวหลายแผ่นอยู่ด้านล่างแจกันเธอรีบลงจากเตียง แล้วหยิบกระดาษสีขาวที่อยู่บนพื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็วเห็นบนกระดาษขาวเขียนว่า “ท่านเทพ ข้ากลับมาแล้ว!”ที่แท้ในสองวันที่จ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 420

    หลังจากกลุ่มคนจากไป จวงเหลียงก็หยิบพระราชโองการลับของไทเฮาออกมาไทเฮาทรงเขียนถึงมั่วฝาน เพียงแต่เขาไม่อยู่ จวงเหลียงจึงเปิดพระราชโองการออกด้านบนเขียนไว้ว่า แคว้นฉู่ แคว้นฉี แคว้นเยี่ยน เผ่าหมาน... ล้วนส่งสาส์นตราแผ่นดินมายังฮ่องเต้แคว้นต้าฉี่พวกเขามีเจตนาที่จะผูกมิตรไมตรีกับแคว้นต้าฉี่ยินดีลงนามในข้อตกลงหยุดสงครามเป็นเวลาห้าสิบปีพวกเขายินดีที่จะยกเมืองบางเมืองให้ เผ่าหมานส่งวัวและแกะมาถวาย...ข้อเรียกร้องเพียงข้อเดียวของข้อตกลงหยุดสงคราม เนื่องมาจากจ้านเฉิงอิ้นสังหารทหารของพวกเขาไปมากมายในเมื่อลงนามในข้อตกลงหยุดสงครามแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็ไร้ประโยชน์พวกเขาเรียกร้องให้ฮ่องเต้น้อยสังหารจ้านเฉิงอิ้นแล้วค่อยลงนามในข้อตกลงจ้านเฉิงอิ้นเห็นจดหมายลับฉบับนี้ โทสะก็ลุกโชน เส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนเขาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อแคว้นต้าฉี่กองทัพตระกูลจ้านสองแสนนายของเขา บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน เหลือไม่ถึงสองหมื่นนายฮ่องเต้น้อยไม่เพียงแต่ไม่เลื่อนบรรดาศักดิ์ให้เขาผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงแต่ยังแสดงเจตนาสังหารอย่างชัดเจน!ในจดหมายลับ ไทเฮากล่าวถึงฮ่องเต้น้อยทรงสนพระทัยการเจรจาสันติภ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 419

    ซุนหลินก็เข้ามาในกระโจมด้วย รีบคุกเข่าลงข้าง ๆ ซุนเฮ่อ“ท่านแม่ทัพ ท่านลุงสามรู้สถานที่ตั้งของเหมืองแร่เหล็กจริง ๆ ขอท่านให้โอกาสเขา เขาเพียงแค่ถูกกองทัพธงเหลืองล้างสมอง ถึงได้บังอาจซ่อนระเบิดเพื่อระเบิดท่าน!”จ้านเฉิงอิ้นพูดกับซุนเฮ่อ “ลุกขึ้นก่อน!”“ขอบคุณท่านแม่ทัพ”พวกเขาสี่ร้อยคนถูกทิ้งไว้ในกองทัพตระกูลจ้าน มีหน้าที่ต้มโจ๊กให้ทหารโดยเฉพาะได้เห็นว่าทรัพยากรของกองทัพตระกูลจ้านนั้นอุดมสมบูรณ์เพียงใดได้รู้ว่าน้ำของกองทัพตระกูลจ้าน บรรจุด้วยรถคันใหญ่ มีไม่จำกัด ดื่มได้ไม่อั้นทุกวัน!แค่สองวันนี้ พวกเขาอ้วนขึ้นแล้วแก้มที่ตอบก็มีเนื้อขึ้นมาและตอนต้มโจ๊ก อ้างว่าชิมรสชาติ ใช้ชามเล็กแอบกิน ถูกคนในโรงครัวเห็น ก็ไม่มีใครว่าพวกเขาพวกเขาล้วนอยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากกลับไปยังเมืองที่กองทัพธงเหลืองยึดครองอีกแล้วซุนเฮ่อเตรียมตัวมาอย่างดี หยิบแผนที่ที่ซ่อนไว้ออกมาเป็นแผนที่ที่วาดบนหนังวัวที่ตั้งอยู่ในภูเขาลึกทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหยงโจวท่านเทพส่งเหมืองแร่เหล็กให้เขา หนังสือเหมืองถ่านหินก็ถูกระบุไว้เช่นกันท่านเทพระบุไว้ว่า เหมืองแร่เหล็กหมู่บ้านฮั่นจงโกว...จ้านเฉิงอิ้นหยิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 418

    ในสายตาของนักปราชญ์อย่างจวงเหลียง การแต่งกายเช่นนี้ถือว่าผิดจริยธรรมมันยิ่งกว่าการแต่งตัวของขอทานที่...ขาดรุ่งริ่งเสียอีกทายาทตระกูลมั่วผู้สง่างาม หลานชายแท้ ๆ ของไทเฮา เหตุใดจึงตกต่ำถึงเพียงนี้“ท่านแม่ทัพ ให้รัฐทายาทน้อยกลับมาเถิด!”แต่จ้านเฉิงอิ้นกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องดี อย่างน้อยในโลกของท่านเทพ มั่วฝานก็สามารถหางานทำเลี้ยงตัวเองได้อย่างน้อยก็ไม่ต้องให้ท่านเทพเลี้ยงดู และเพิ่มภาระให้ท่านเทพ!“ไม่ต้องหรอก ตอนนี้เขาทำงานได้ ก็ดีแล้ว!”“แต่...”“มั่วฝานสมัครใจเอง หากเขาไม่ต้องการทำงาน ท่านเทพก็คงบังคับเขาไม่ได้”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่จวงเหลียงมองดูแล้วก็อดปวดใจไม่ได้เขาอยู่ที่นี่ใช้ชีวิตอย่างไร ทุกวันนั่งอยู่ในรถ เปิดแอร์เย็น ดื่มเครื่องดื่มเย็นกินข้าวสวย มีคนจากจวนรัฐทายาทคอยปรุงอาหารวันละสามมื้อให้เขากินเขาเคยลำบากแบบนี้เมื่อไหร่กันจ้านเฉิงอิ้นเห็นเขายังคงเหม่อลอย จึงถามว่า “เป็นอะไร?”เขาส่งจดหมายลับในมือให้ด้วยมือทั้งสอง“หวังเซิ่งจากกองทัพธงเหลืองส่งข่าวมา พวกเขาเพิ่มกำลังการผลิตระเบิด สถานที่ผลิตระเบิดอยู่ในภูเขาของอวิ๋นโจว ห่างจากเมืองทั้งห้ามาก อยู่ห่างจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 417

    เย่มู่มู่ยังโยนแท็บเล็ตเข้าไปในแจกันด้วยตุ้บ แท็บเล็ตหล่นลงมาจ้านเฉิงอิ้นหยิบขึ้นมา เปิดอัลบั้มรูปในแท็บเล็ตเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยสองคนสวมเสื้อยืดแขนสั้นรูปแบบทันสมัย ร่างกายสกปรกมีจุดปูนซีเมนต์ติดอยู่พวกเขากำลังขนอิฐในพื้นที่ก่อสร้างใหม่โดยเฉพาะมั่วฝาน ที่มองไม่ออกเลยว่าเคยเป็นรัฐทายาทเมืองหลวงเจ้าสำราญมาก่อนมีภาพถ่ายหลายภาพที่แสดงให้เห็นว่า มีคนงานคนหนึ่งส่งบุหรี่ให้มั่วฝาน แต่เขากลับโบกมือปฏิเสธ และยังโค้งคำนับเพื่อขอบคุณอีกด้วยสองหนุ่มน้อยทั้งสุภาพและนอบน้อม อีกทั้งยังหน้าตาดี ทำให้พวกเขาได้รับความชื่นชอบจากเพื่อนร่วมงานในพื้นที่ก่อสร้างเป็นอย่างมากเย่มู่มู่เคาะแจกันเบา ๆ แล้วพูดว่า “เห็นหรือเปล่า?”จ้านเฉิงอิ้นมองมั่วฝานที่ใบหน้าเลอะเทอะไปด้วยคราบสกปรก และอดถามไม่ได้ “นี่มั่วฝานจริง ๆ หรือ?”“ของแท้แน่นอน ไม่ใช่ของปลอม!”“ดีมาก ปล่อยให้เขาอยู่ทางนั้น หาเงินสร้างบ้านต่อไปเถอะ หากเขาอยู่สบายเกินไปเมื่อไร ก็ค่อยส่งเขากลับมา!”เย่มู่มู่ “…”นางรู้สึกเหมือนจะได้ยินน้ำเสียงของจ้านเฉิงอิ้นแฝงความอิจฉาเล็กน้อยนี่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่ไหม?การแบกอิฐในพื้นที่ก่อสร้างม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 416

    “จริงแท้แน่นอน ข้าน้อยไม่กล้าปิดบัง!”“เจ้าเห็นด้วยตาตัวเองหรือ?”“ขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่เพียงสัมผัสแจกัน จากนั้นแจกันก็พ่นกล่องอาหารออกมา และ...และยัง...”“และอะไร?”“ซ่งอวิ๋นฮุยหมอประจำกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ได้แปลกใจ รีบหยิบกล่องอาหารขึ้นมาให้ข้าน้อยสามกล่อง และยังแบ่งอีกยี่สิบกว่ากล่องไปให้แม่ทัพคนอื่นได้ร่วมรับประทานด้วย!”“ท่านแม่ทัพ ตำนานกระถางวิเศษเป็นเรื่องจริง แจกันนี้สามารถพ่นสิ่งของที่ต้องการออกมาได้ตามใจ!”เมื่อทหารผ่านศึกพูดจบ บรรยากาศในกระโจมก็ตกอยู่ในความเงียบงันอย่างประหลาด“แบบนี้ก็หมายความว่า รถและสิ่งของทั้งหมดอาจถูกท่านแม่ทัพเก็บไว้ในกระถางวิเศษ”“ใช่ รถคันใหญ่ขนาดนั้น ในพื้นที่รกร้างแบบนี้ไม่มีทางซ่อนได้แน่!”“แล้วอาหารพวกนี้กินได้หรือเปล่า? ข้าหิวมากแล้ว”ข้าวสิบกล่องพอดีสำหรับแบ่งกันคนละกล่องพอดีเซี่ยเวยเลือกที่จะประหยัดเสบียง โดยหยิบอาหารออกมาเพียงห้ากล่อง และให้ทุกคนเอาชามสเตนเลสของตัวเองออกมาข้าวแต่ละคนได้แบ่งเพียงครึ่งกล่องกับข้าวก็แบ่งกันคนละครึ่งกล่องเช่นกันจ้าวเฉียนเป็นคนแรกที่เริ่มกิน เขาหยิบน่องไก่ชิ้นใหญ่ขึ้นมา และกัดไปหนึ่งคำ รสชาติหอมกรุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 415

    จ้านเฉิงอิ้นรู้ดีว่า ความลับที่แจกันสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ คงปิดบังต่อไปไม่ได้อีกแล้วการหายตัวไปของมั่วฝานและหน่วยกล้าตายน้อย!แม่ทัพเซี่ยเวย จ้าวเฉียน และสวีจื่อหลิง...รวมถึงพวกแม่ทัพกองทัพเยี่ยนล้วนได้เห็นกับตาซ่งอวิ๋นฮุยรีบพาหมอกองทัพสองคนมาด้วยความเร่งรีบ และช่วยกันพาจ้านเฉิงอิ้นกลับไปยังกระโจมเพื่อทำการตรวจบาดแผลให้เขา...เขาทำงานไม่หยุดมือจนดึกดื่นเกือบถึงเที่ยงคืนเป็นทหารผ่านศึกที่ป้อนยาและช่วยพันแผลให้จ้านเฉิงอิ้น โดยมีซ่งอวิ๋นฮุยอยู่เป็นเพื่อนเฝ้ายามในคืนนั้นต่อมา ทหารผ่านศึกคนนั้นก็ค้นพบความลับของแจกันวิเศษปากแจกันปล่อยข้าวสวยร้อน ๆ ที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลออกมาสมองของทหารผ่านศึกถึงกับหยุดทำงานชั่วขณะซ่งอวิ๋นฮุยที่โดนเสียงดังปลุกตื่นขึ้นมา เห็นกล่องอาหารหล่นลงมาเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เขาเคยชินแล้วเขาหยิบกล่องขึ้นมา ยื่นให้ทหารผ่านศึก มีทั้งกุ้งตุ๋น หมูอบซอสน้ำแดง และข้าวสวยร้อน ๆ หนึ่งกล่องใหญ่“เอาไปกินเถอะ!”ทหารผ่านศึกอุ้มกล่องอาหารสามกล่องไว้ในอ้อมแขน ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยกินอะไรที่ดีขนาดนี้มาก่อนซ่งอวิ๋นฮุยเห็นเขายืนนิ่ง ก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วเก็บ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 414

    หลูซีมองห้องอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง “ท่านเทพ ห้องแบบนี้ข้าอยู่ได้จริง ๆ หรือ?”“แน่นอน ห้องนี้เป็นของเจ้า จากนี้ไปก็นอนที่นี่ได้เลย!”หลูซีถึงกับทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเย่มู่มู่ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาเพราะตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยได้อยู่ในห้องที่ดีขนาดนี้มาก่อนเลยห้องนี้ใหญ่กว่าห้องในจวนของรัฐทายาทเสียอีกแถมยังมีโคมไฟ ชั้นหนังสือ โต๊ะหนังสือ...และยังมีของชิ้นใหญ่ที่ดูเหมือนแท็บเล็ต ซึ่งเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรเย่มู่มู่พยุงหลูซีให้ลุกขึ้น และสังเกตว่าเขากำลังจ้องมองทีวีด้วยความสนใจเธอหยิบรีโมตทีวีขึ้นมาแล้วกดเปิด...สองคนจากยุคโบราณเหมือนได้เห็นโลกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน~ ทั้งคู่ย่อตัวลงนั่ง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จอทีวีด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่พวกเขาไม่กล้าแตะต้อง เพราะกลัวจะทำให้ทีวีเสียหาย! “ใหญ่กว่าแท็บเล็ตเสียอีก แถมยังคมชัดกว่ามาก นี่มันคืออะไร?” “ถ้านำสิ่งนี้ไปถวายให้ไทเฮา ไทเฮาคงจะดีใจมากแน่ ๆ!” เย่มู่มู่อธิบายว่า “นี่คือทีวี มันต้องใช้ไฟฟ้า ถ้าจะย้ายไปในยุคโบราณ แค่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไม่พอหรอก พวกเจ้าต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นช่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 413

    เย่มู่มู่ตอบอย่างใจเย็นว่า “ใช่แล้ว!”“ข้าอยากลอง...”เย่มู่มู่พูดขัดจังหวะอย่างหมดอารมณ์ “แต่เจ้าไม่มีใบขับขี่!"เดิมทีมั่วฝานที่กำลังจะเปิดประตูรถก็ต้องชะงักไปทันทีเมื่อเห็นท่าทางหงอยเหงาของชายหนุ่ม เธอก็พูดอีกว่า “แต่ขับในบริเวณคฤหาสน์ได้ รอจนสว่างแล้ว ค่อยขับวนรอบหมู่บ้าน แต่ห้ามขึ้นถนนใหญ่”“ถ้าตำรวจจราจรจับได้ เสียค่าปรับเป็นเรื่องเล็ก แต่รถจะถูกยึด...”“รถคันนี้แพงมาก!”เมื่อมั่วฝานได้ยิน ก็พยักหน้าอย่างดีใจครั้งแล้วครั้งเล่า“ท่านเป็นใคร พรุ่งนี้ข้าสามารถขับรถในหมู่บ้านได้หรือ?”“ใช่!”“ตราบใดที่ไม่ขึ้นถนนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา?”“ใช่ ถนนใหญ่มีตำรวจจราจรคอยกั้นรถตรวจสอบใบขับขี่!”“ดีมาก ข้าจะลองขับแค่สองสามรอบ จะไม่ขับรถของท่านพังแน่นอน”เย่มู่มู่หยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าแล้วโยนให้เขาเขารับกุญแจรถอย่างกระตือรือร้น แล้วเข้าไปนั่งในห้องคนขับมองดูการตกแต่งภายในที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างตื่นเต้นเขาค่อย ๆ สตาร์ทรถ และรถก็สตาร์ทติดจริง ๆฮ่า ฮ่า...เขาหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ ถอยรถออกจากโรงรถ แล้วค่อย ๆ ขับวนรอบสวนของคฤหาสน์ หลังจากขับครบสองรอบจริง ๆ แล้ว ก็ถอยรถกลั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 412

    “ลำบากท่านแล้ว เอาไปแบ่งกินกับยามที่เฝ้าเวลากลางคืนด้วยนะคะ”พี่ซุนรับถุงอาหารไปด้วยความยินดี “ได้เลย ขอบคุณมากนะครับ!”เย่มู่มู่ขับรถต่อไปจนถึงโกดัง เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้วมั่วฝานและหลูซีก็กระโดดลงจากรถก่อนจากนั้นเย่มู่มู่เปิดประตูรถ หยิบแจกันลงมาจากนั้น เย่มู่มู่เปิดประตูม้วนของโกดังขึ้นภายในโกดัง มีกล่องรองเท้าหลายร้อยกล่องเรียงกันอย่างเป็นระเบียบชุดสำเร็จรูปครึ่งร้านถูกบรรจุลงในกล่องกระดาษขนาดใหญ่ทั้งหมดเย่มู่มู่วางแจกันลง “แจกันนี้ดูเหมือนจะอัพเกรดได้แล้วนะ ข้าสามารถได้ยินเสียงรอบตัวจ้านเฉิงอิ้นได้!”“และยังสามารถเก็บเสบียงได้ ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง หากจ้านเฉิงอิ้นต้องการ ก็สามารถหยิบออกมาใช้ได้ตลอดเวลา” เมื่อมั่วฝานและหลูซีได้ยินดังนั้น ก็ดีใจจนออกนอกหน้ามั่วฝานรีบถามนางทันที“ท่านเทพ ท่านหมายความว่าต่อไปนี้หากท่านแม่ทัพต้องการเสบียง ก็ไม่ต้องขับรถตามหลัง สามารถหยิบออกมาใช้ได้ทันที ใช้เสร็จแล้วก็สามารถเก็บกลับเข้าไปได้อีกหรือ?” “ใช่”เย่มู่มู่วางมือลงบนแจกัน เธอหลับตาลง สัมผัสได้ถึงพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหมอกจาง ๆ แต่ก็กว้างขวางมาก!มั่วฝานดีใจเดินวนรอบแจกัน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status