หลัวซู่ชักดาบออกมา ผ่าร่างทหารที่มาส่งข่าวในดาบเดียว ทหารผู้นั้นเลือดสาดกระจายในทันที ทหารยามทุกนายพากันคุกเข่าลง แนบศีรษะลงกับพื้น ร่างกายสั่นสะท้าน หลัวซู่แหงนหน้าขึ้นฟ้า กู่ร้องออกมาเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยวและอาวรณ์ “จ้านเฉิงอิ้น ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” “อ๊ากกกก…” “ทหาร กลับเมือง ต่อให้ข้าต้องตาย ก็จะขวางทางกลับของจ้านเฉิงอิ้นให้ได้!” เมื่อทหารชาวหมานได้ยินท่านอ๋องพูดว่ากลับเมือง ก็พากันถอนใจยาวด้วยความโล่งอก พวกเขาไม่อยากตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวน ในบรรดาพวกเขา มีผู้ใดกัน ที่บนมือไม่เคยเปื้อนเลือดชาวฮั่น พวกเขาไม่เคยเห็นชาวฮั่นเป็นคนมาก่อน ในสายตาของพวกเขา ชาวฮั่นก็เป็นเพียงเสบียงอาหาร เป็นแกะที่มีสองขาเท่านั้น แต่ยามนี้ กองทัพตระกูลจ้านแห่งด่านเจิ้นกวน ทำให้พวกเขาได้รู้ว่า สิ่งใดคือความโหดร้ายที่แท้จริง! เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ถูกระเบิดจนแขนขาขาดลดไป ก็ถือว่าดีแล้ว เพราะพวกเขาเคยเห็นด้วยตาตนเอง โดยไม่อาจทำสิ่งใดได้ ในยามที่ผู้มีชีวิตอยู่เบื้องหน้า ถูกระเบิดจนกลายเป็นหมอกเลือดในเสี้ยววินาที ร่างเนื
เหล่าแม่ทัพพากันยืนขึ้นด้วยความอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ดวงตาทั้งคู่ของเฉินขุยเบิกกว้าง ถามพลทหารที่มาส่งสารอย่างตื่นเต้นว่า “ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ?” พลทหารมอบม้วนกระดาษที่ดึงออกมาจากขานกอินทรีให้เฉินขุย บนกระดาษขาว มีลายมือที่เขียนด้วยปากกาลูกลื่นว่า “เชื้อพระวงศ์ม่อเป่ยทั้งห้าพันคนได้ถูกสังหารหมดแล้ว อย่าได้เป็นห่วง…” “ข้าจะกลับไปในทันที พวกเจ้าจงเฝ้ารักษาด่านเจิ้นกวนไว้ให้ดี อย่าให้ท่านเทพต้องเป็นกังวล!” เฉินขุยถือแถบกระดาษข้อความไว้ในมือ หัวเราะฮาฮาเสียงดังออกมา “ชนะแล้ว เชื้อพระวงศ์ของพวกม่อเป่ยถูกฆ่าหมดแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…” “การจู่โจมที่รวดเร็วอย่างคาดไม่ถึงดุจสายฟ้าแล่บเช่นนี้ ยังคงต้องอาศัยท่านแม่ทัพจริง ๆ!” “การที่อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ขั้นหนึ่งที่สามารถสืบทอดแก่ลูกหลานได้เขา ตัวข้าเฉินขุยยอมรับอย่างยินยอมพร้อมใจแล้วจริง ๆ” บรรดาแม่ทัพท่านอื่นก็พากันตื่นเต้นยินดีจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ พวกเขาพาส่งต่อกระดาษข้อความที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาต่อ ๆ กันไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อดูกันครบแล้ว ก็กอดกันร้องตะโกนเสียงดังด้วยความยินดีออกมา “ชนะแล้ว ชนะแล้ว ท่านแม่ทัพใหญ
รอบที่สอง เป็นการสู้กันด้วยอาวุธ ดาบเสี้ยวของหลัวซู่ไม่อาจสู้ขวานคู่ของหลิงเซี่ยวเฟิงได้ แพ้แล้ว รอบที่สามยังไม่ทันได้เริ่มสู้ ทหารของทั้งสองฝ่ายก็อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มการปะทะแลกชีวิตกัน ทหารแคว้นฉีพยายามห้ามทัพอย่างเต็มกำลัง… ทว่าสองฝ่ายต่างมีคนนับแสน หลายร้อยคนที่ยืนอยู่แถวหน้าเข้าตะลุมบอนกันแล้ว รั้งอย่างไรก็รั้งไม่อยู่ จนกระทั่ง ทหารของแต่ละฝ่ายเกิดการสูญเสียขึ้นมา เพียงช่วงลมหายใจ ก็ตายไปหลายสิบคน ฉีซวนเหิงจึงทนดูต่อไปไม่ไหว คำรามด้วยความโมโหว่า “หยุดมือให้หมด!” “ยังไม่ทันยึดด่านเจิ้นกวนได้ พวกท่านก็มาต่อสู้กัน ในจุดที่ห่างจากเมืองออกมาเพียงสามลี้เสียแล้ว…” “จะให้ลูกน้องของจ้านเฉิงอิ้นชมเรื่องตลกอย่างไร้เหตุผลหรืออย่างไร?” “พวกท่านจำให้ดีว่า หากยังสู้เช่นนี้ต่อไปอีก ขอเพียงบนฟ้าทิ้งระเบิดลงมา พวกท่านก็ได้แต่ตายเท่านั้น!” ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็แหงนมองไปบนท้องฟ้าทันที บนท้องฟ้ามีอากาศยานไร้คนขับบินอยู่ คอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา เมื่อคืน ก็เป็นเจ้าสิ่งนี้ที่ทิ้งประทัดและระเบิดลงมา ทำให้ม้าในคอกม้าของทั้งสามทัพ เตลิดหนีไปนับห
เมื่อทหารยามที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินว่า คืนนี้จะไปโจมตีทหารแคว้นฉู่ ก้องโห่ร้องขึ้นมาด้วยความดีใจ “ดีเหลือเกิน ในที่สุดก็จะลงมือเสียที!” “ข้าอยากได้ของรางวัล หากไม่สู้รบแล้วจะไปรับรางวัลได้อย่างไร ในที่สุด คืนนี้ก็จะได้สู้อย่างเต็มที่สักรอบเสียที!” “ข้าจะไปลับดาบม่อเตาอีกหน่อย เอาให้คมจนตัดเส้นผมขาด แต่ละดาบเห็นเลือดประเภทนั้น! ” เหล่าแม่ทัพทั้งหลายต่างก็ได้ยินเสียงทหารยามที่อยู่ด้านนอกห้องโถงหารือ พวกเขาล้วนรอที่จะสู้ศึกสักคราไม่ไหวแล้ว สิ่งของที่ท่านเทพส่งมานั้น มีความเย้ายวนต่อเหล่าทหารเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้รับรางวัลแล้ว พวกเขาไม่เกรงกลัวต่อกองทัพฉู่นับแสน เมื่อเหล่าทหารกระตือรือร้นเช่นนี้ เหล่าแม่ทัพทุกนายต่างก็เตรียมตัวอย่างแข็งขันเช่นกัน คืนนี้ จะต้องรบให้หนักสักตั้ง* เย่มู่มู่ที่รออยู่ ไม่ได้รับจดหมายตอบกลับจากจ้านเฉิงอิ้น นี่ก็สองวันแล้ว ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร ถ้าบอกว่าป่วย เธอก็ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไฮเทคที่สุดไปแล้ว เครื่องมือพวกนั้นเกินพอที่จะรับมือกับแผลดาบแผลธนูแล้ว ถ้าจะบอกว่าเขาตายแล้ว เธอก็คงส่งสิ่งของไปทางนั้นไม่ได้ ตอนนี้ เธอจึงเดาว่า
เพื่อให้พ่อค้าย้ายเข้ามาปักหลัก เพราะเธอต้องการแหล่งสินค้าที่ไม่ขาดสาย ที่สามารถซื้อหาจากตลาดสินค้าเกษตรได้โดยตรง จะได้สะดวก และไม่ดึงดูดสายตาผู้คน ตลาดสินค้าเกษตรที่สร้างเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือแผงลอย ก็ล้วนสามารถปล่อยเช่าออกไปได้ เธอไม่ได้โลภเงินค่าเช่าเล็กน้อยพวกนั้น แต่เพื่อให้สะดวกในการอาศัยชื่อตลาดสินค้าเกษตร ไปสั่งซื้อสินค้าโดยไม่ถูกคนสงสัยเท่านั้น เมื่อผู้ใหญ่บ้านได้ยินว่าเธอจะสร้างตลาดสินค้าเกษตร ก็ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ รีบไปที่เทศบาลตำบลทันที เขาต้องการจะทำให้เรื่องนี้เป็นทางการขึ้นมา หลังคาเหล็กอันเก่าของตลาดสินค้าเกษตรถูกรื้อออกแล้ว เพราะทันทีที่ฝนตกลงมา น้ำก็จะไหลซู่ลงมา ทำให้บนพื้นทั้งชื้นทั้งเปียก จึงควรเปลี่ยนใหม่เสียนานแล้ว ภายในวันเดียวกันนั้น หัวหน้าหมู่บ้านก็นำเอกสารกลับมา เขามอบมันให้เย่มู่มู่เซ็นชื่อ ในการก่อสร้างตลาดการเกษตรขึ้นใหม่ และการจัดตั้งสำนักงานบริหารตลาดสินค้าเกษตร มีเธอเป็นผู้รับผิดชอบและผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว* จ้านเฉิงอิ้นและพวกเว่ยกวง คนทั้งกลุ่มต่างเดินทางอ้อมเขตแดนเผ่าของหมาน เลาะผ่านตะเข็บชายแดนเข้าสู่แคว้นฉู่ด้ว
จ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่ง ทหารทุกคนลงจากม้ามีคนหนึ่งพันคนคอยเฝ้าระวัง คนที่เหลือทั้งหมดก็ขุดหลุมแม้แต่ม้าก็ไม่ว่าง กีบเท้าสองข้างกำลังพยายามขุดดินคนจำนวนมาก ฝังระเบิดทั้งหมดเสร็จภายในเวลาหนึ่งชั่วยามสายนำไฟฟ้าลากยาวหลายพันกิโล ห่างจากสถานที่ประจำการกองทัพของแคว้นฉู่และแคว้นฉียี่สิบลี้เมื่อพวกเขาถอยกลับไป จึงต้องถอยให้ห่างจากระยะของระเบิดการระเบิด สามารถทำให้กองทัพศัตรูตายได้จำนวนนับไม่ถ้วนหลังทำทุกอย่างเสร็จแล้ว พวกเขาเคลื่อนตัวไปใกล้ที่ประจำการของกองทัพแคว้นฉีอย่างช้า ๆด้านหน้า...กองทัพแคว้นฉู่และกองทัพตระกูลจ้านกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด!กองทัพของตระกูลจ้านมีอุปกรณ์ครบครัน มีขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยมกองทัพแคว้นฉู่พบข้อบกพร่องของอุปกรณ์กองทัพตระกูลจ้าน สามารถฟันไปที่ต้นขาและแขนได้โดยเฉพาะแต่จ้านเฉิงอิ้นเคยฝึกหน่วยดาบม่อเตา สามคนหันหลังชนกัน กลายเป็นรูปสามเหลี่ยม...กลุ่มสามคนให้ความร่วมมือกันอย่างชำนาญ ไร้ข้อบกพร่องทำให้กองทัพแคว้นฉู่ไม่เหลือที่ให้ลงมือในเวลานี้ กองทัพแคว้นฉู่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ต่อให้มีจำนวนคนมากกว่าหลายเท่า แต่ไม่มีทางพลิกสถานการณ์ได้และในขณะ
ปัง~เสียงดังปังพลันดังขึ้น ดังจนน่าตกใจ ตัดการสนับสนุนของกองทัพแคว้นฉีทหารแคว้นฉีชุดแรกที่รีบเร่งไปยังสนามรบ ก็ตายเพราะถูกระเบิดที่ระเบิดอย่างกะทันหันนี้คนกลุ่มแรกที่มากกว่าหนึ่งพันคนก็ตายไปเช่นนี้!กองทัพแคว้นฉีทั้งหมดพากันหยุดนิ่ง...บางคนหวาดกลัวจนถอยหลังกลับไปลูกธนูหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน พุ่งไปที่หว่างคิ้วของฉีซวนเหิงบางทีฉีซวนเหิงอาจจะยังไม่สมควรตายเมื่อเขาตกใจกลัวเพราะเสียงระเบิด ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง จนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฉับพลันติ๊ง~ ลูกธนูดอกหนึ่งบินผ่านเขาไป ทะลุผ่านมวยผม ตอกเขาไว้ที่บนพนักพิงด้านหลังเขาตกใจพร้อมร้องตะโกนออกมาด้วยความกลัว “ช่วยด้วย เร็วเข้า ช่วยข้าที!”“ทุกคนกลับมา ปกป้องข้า!”ด้านหน้าฉีซวนเหิงถูกรายล้อมด้วยองครักษ์ พวกเขาพยายามปกป้องฮ่องเต้อย่างระมัดระวัง เพื่อลงมาจากหอคอยสูง!ทหารที่เป็นกำลังเสริมถูกเรียกกลับมา พวกเขาล้อมเป็นวงกลม ปกป้องฮ่องเต้ที่อยู่ศูนย์กลางของวงกลมเอาไว้ซ่งตั๋วมองการกระทำของฮ่องเต้แคว้นฉี ก็ตะลึงจนพูดไม่ออก“ขี้ขลาดขนาดนี้ จะมาสนามรบทำไม!”จ้านเฉิงอิ้นถาม “มีระเบิดอีกหรือไม่?”ฉีซวนเหิงอยู่ในขอบเขตหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน
เขานั่งลงบนเก้าอี้ไม้ข้างแจกัน หยิบกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งขึ้นมา ใบหน้าเกร็งแน่น นิ้วมือสั่นเทาเบา ๆ เขาอ่านจดหมายจากท่านเทพอย่างประหม่า“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าขาดการติดต่อไปสิบชั่วโมงแล้วนะ ข้ากังวล...”“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าจงมีชีวิตให้ดี เจ้ารับปากข้าแล้ว จะรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งเดียว เจ้าห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด!”“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? เหตุใดไม่ตอบจดหมายล่ะ?”“จ้านเฉิงอิ้น เกิดเรื่องกับเจ้าหรือเปล่า? บอกข้าสิ ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร?”“จ้านเฉิงอิ้นไม่ต้องกลัว ข้าจะส่งอุปกรณ์รักษาแผลภายนอกต่าง ๆ เตียงผู้ป่วย เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ที่สามารถเอกซเรย์ได้ยังไม่มีสินค้า อีกหนึ่งสัปดาห์จะมาถึง เจ้าต้องทนให้ได้นะ!”“เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า? หรือว่าตายไปแล้ว? ไม่สิ เจ้าจะทำข้าตกใจกลัวแบบนี้ไม่ได้นะ ข้ากังวลมาก!”“จ้านเฉิงอิ้น ถ้าเจ้าตอบจดหมายข้าได้ ข้าจะส่งอัลบั้มรูปภาพให้เจ้า จริง ๆ นะ ข้าไม่โกหกเจ้า”“แม้แต่อัลบั้มรูปภาพก็ยังดึงดูดความสนใจของเจ้าไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องใหญ่กับเจ้าแล้ว!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ สรุปแล้วเจ้าเป็นหรือตายกันแน่! ข้าเป็นห่วงเจ้ามาก!”“จ้าน
“หากใช้ไฟเยอะ รถของเจ้าใช้ไฟไม่ได้ ก็จะขับไม่ได้!”“หากเจ้ารู้สึกร้อน เปิดแอร์ก็สิ้นเรื่องแล้ว!”ในจังหวะนี้เอง หยางชิงเหอก็กดรีโมทเปิดแอร์ลมเย็น ๆ พัดลอยมาทหารผ่านศึกทุกนายต่างตาดงกันหมดแล้วลมเย็นจริง ๆ เย็นเหมือนกับในห้องคนขับของรถยนต์เป๊ะ ๆลมร้อนที่พัดลมพัดออกมา เทียบกับลมเย็นนี้ไม่ได้เลยจริง ๆพวกเขาทุกคนต่างอิจฉาตาร้อนเป็นอย่างมากโอกาสที่ดีอย่างเมื่อวาน ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะจะฆ่าไม่พอ หากนับรวมแล้วจะได้รถบ้านคันแบบนี้ต่อไปไม่ต้องใช้ท้องฟ้าเป็นผ้าห่ม ใช้ดินเป็นเสื่อ และนอนในที่โล่งอยู่บนพื้นในถิ่นทุรกันดารอีกต่อไปแล้วน่าอิจฉามากจริง ๆ!ช่างน่าอิจฉายิ่งนัก!เนื่องจากคุณภาพเมื่อเทียบกับราคาค่อนข้างสูง สะดวกมาก ๆ เทียบเท่ากับบ้านเคลื่อนที่ได้เลยได้รับการต้อนรับในหมู่ทหารผ่านศึกเป็นอย่างมากฉะนั้น ครั้งนี้มีห้าคนที่ได้รับรถบ้านสำเร็จส่วนคนที่เหลือ บ้างฆ่าได้ห้าสิบคน เจ็ดสิบคน ยอมไม่เอาอะไรทั้งสิ้น สะสมกับครั้งต่อไปให้ฆ่าได้หนึ่งร้อยคนและจะได้รับรถบ้านเช่นกันรถบ้านมีจำนวนจำกัด และจำนวนถึงก่อนได้ก่อนผู้ที่ได้เลือกก่อน อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันผู้ที่เ
เชลยศึกจากกองทัพธงเหลืองที่นั่งอยู่บนพื้นเหล่านั้น ถูไถกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนทั้งหมดเมื่อครู่ตอนที่พวกเขาต่อแถวตักโจ๊ก มีคนกึ่งหนึ่งกำลังดิ้นรนกันอยู่!วันนี้ครั้นได้ยินเรื่องรางวัลของกองทัพตระกูลจ้าน พวกเขาก็ไม่อยากเชื่อเมื่อวาน ผู้ที่พุ่งไปอยู่หน้าสุดกองทัพตระกูลจ้านอย่างห้าวหาญ อย่างน้อยก็ฆ่าคนได้นับสิบเช่นนั้นจะได้รางวัลเท่าไร?มีชายหนุ่มร่างบึกบึนผู้หนึ่งก้าวออกมา วางหูขวากระสอบหนึ่งไว้บนโต๊ะจดบันทึกน้ำเสียงของเขาหยาบคายและดัง “ข้านับมาแล้ว หนึ่งร้อยยี่สิบข้าง!”“ข้าไม่เอาเสบียงอาหารแล้ว เยอะจนเก็บไม่พอแล้ว ครอบครัวก็ไม่มีแล้ว ข้าเองก็กินไม่หมด ท่านแม่ทัพเฉินอู่บอกว่า ฆ่าได้หนึ่งร้อยคนจะตบรางวัลเป็นรถบรรทุกหนึ่งคัน ข้าต้องการรถ!!”แปะ ๆมีเสียงปรบมือด้วยความชื่นชมยินดีระเบิดขึ้นในกองทัพตระกูลจ้าน นายทหารกองทัพตระกูลจ้านจำนับไม่ถ้วนโห่ร้องว่ายอดเยี่ยมนายกองพันผู้นี้ เป็นหนึ่งในทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้าน ร่างกายสูงใหญ่ แข็งแกร่งมีพละกำลัง...ทุกครั้งที่ทำศึกเขาจะอยู่หน้าสุด ฆ่าทัพศัตรูได้เยอะที่สุด!คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องการรถในขณะนี้ เฉินอู่เดินม
ดูสิเมื่อวานพวกเขาถูกควบคุมตัวมาที่นี่ ตรงหน้าพวกเขามีโจ๊ก และน้ำสะอาดหลายถังวางเอาไว้...ไม่มีใครทักทายพวกเขา กองทัพตระกูลจ้านเห็นว่าพวกเขาไม่มีตัวตนอยากกินก็กิน ไม่กินก็เก็บกลับไป ยุ่งเป็นอย่างมาก ไม่มีเวลามาสนใจพวกเขาทว่าชาวบ้านและกองทัพธงเหลืองคนอื่น ๆ มาพูดโน้มน้าวมาดูการยืนหยัดของตัวเองในตอนนี้แล้ว ช่างน่าขันจริง ๆฉะนั้น จึงมีคนลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาหน้าถังโจ๊กอย่างเลื่อนลอยเมื่อคืนพวกเขาทนหิวมาตลอดทั้งคืน บวกกับได้รับบาดเจ็บ จึงเดินไม่ค่อยมั่นคงแล้วโจ๊กเย็นหมดแล้วคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ด้านบน และเนื้อบดละเอียด เหนียวติดอยู่ด้วยกันแข็งอย่างมากไม่คล้ายกับน้ำซุปใส ๆ แบบนั้น ทว่าเป็นของกินที่สามารถทำให้อิ่มท้องได้หยิบถ้วยมาจากตะกร้าด้านข้างหนึ่งใบ จากนั้นใช้กระบวยตักโจ๊กมาหนึ่งถ้วยและกินลงไปในวินาทีที่เข้าปากไป กลิ่นหอมกรุ่นนุ่มละมุน แม้จะเย็นแล้ว ทว่าก็ยังอร่อยมากในนั้นไม่ได้มีเพียงเศษเนื้อ ทว่ายังใส่ไข่และผักกาดขาวลงไปด้วยยังมีกลิ่นเกลืออีกด้วยที่จริงในค่ายทหารกองทัพธงเหลืองไม่ขาดเกลือ ทว่าไม่ได้ใช้เกลือที่ดีที่สุด ใช้เป็นเกลือหยาบที่กินแล้วมีรสขมเสบียงอ
ของเหล่านี้ล้วนเป็นเสบียงอาหารทั้งสิ้น!เป็นเสบียงอาหารทั้งหมด!เนื่องจากประตูของตู้คอนเทนเนอร์บางส่วนเปิดอยู่ มีกระสอบที่ไม่แข็งแรงหลายกระสอบ ใส่ของไว้จนแน่น เมล็ดข้าวขาวบริสุทธิ์ ไหลซู่ซ่าออกมาเป็นครั้งคราวทุกคนต่างเห็นกันหมด ภายในตู้คอนเทนเนอร์บรรจุข้าวเอาไว้ทหารกองทัพธงเหลืองนับไม่ถ้วน ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น แล้วเดินเข้าไปทางข้าวด้วยความไม่เป็นตัวเองตุบ ตู้คอนเทนเนอร์ที่ไม่ได้บรรจุกจนเต็มอีกตู้หนึ่งเนื้อแช่แข็งด้านในหล่นตุบ ๆ ลงมาเป็นหมูทั้งตัวตัวหนึ่ง หมูขาวแช่แข็งจนเป็นน้ำแข็ง หัวหลายหัวร่วงลงมาจากตู้คอนเทนเนอร์ตุบ ๆเนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์กองเอาไว้ครั้นหล่นลงมา ก็ตกลงพื้นดังตุบ ๆครั้งนี้ ไม่เพียงกองทัพธงเหลืองเท่านั้น กระทั่งพวกชาวบ้านต่างล้อมเข้าไปดูมีเด็กคนหนึ่งตะโกนเสียงดังว่า “ท่านแม่ ๆ เป็นเนื้อหมู เนื้อหมูขาวชิ้นใหญ่ ๆ”“ข้าไม่ได้เห็นเนื้อมานานมากแล้ว ฮือ ตกลงมาใช่หรือไม่ เราจะมีเนื้อกินแล้ว”สตรีผู้นั้นอุ้มเด็กไป แล้วขอโทษกับทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้าน ก่อนจะรีบออกไปเสียงตะโกนนี้ ทำให้เชลยศึกจากกองทัพธงเหลืองสามหมื่นนายที่ประท้วงอดอาหารอยู่ ล
ส่วนกองทัพธงเหลืองที่กำลังประท้วงอดข้าว ครั้นเห็นพวกหยางชิงเหอและหวังเซิ่ง ก็ถุยออกมาคำหนึ่ง ก่อนจะก่นด่าว่าเป็นคนทรยศครั้นหวังเซิ่งเห็นเช่นนั้น ก็คิดจะอัดคนที่ถุยน้ำลายสักยกทว่าถูกหยางชิงเหอห้ามเอาไว้นางส่ายศีรษะ “อย่าไป หวังว่าหลังจากนี้พวกเขาจะยังแข็งแกร่งเช่นนี้อยู่!”หยางชิงเหอมายังหน้ากระโจมของจ้านเฉิงอิ้นหลังเขากับเย่มู่มู่พูดคุยกัน ก็เตรียมปักหลักที่ฐานที่มั่นนี้ในระยะยาว บุกเบิกพื้นที่นา เพาะปลูกข้าวนาน้ำตอนนี้ในที่ว่างเปล่าของแจกัน นอกจากมีตู้คอนเทนเนอร์เสบียงอาหารและประเภทเนื้อแล้ว ยังมีผักอีกมากมายยังมีรถบรรทุกมือสองอีกมากกว่าร้อยคัน บอกกับรถใหม่ในก่อนหน้านี้อีก เขามีรถบรรทุกทั้งหมดสามร้อยคันทุ่นกระบอกของรถบรรทุกน้ำมัน มีสามสิบกว่าคันรถบ้านห้าสิบกว่าคันรถบรรทุกขนาดกลางรถบรรทุกดินมือสอง ยี่สิบกว่าคันจักรยานไฟฟ้าสามล้อ ลากของได้ มีสิบกว่าคันทั้งหมดเป็นรถที่เย่มู่มู่ซื้อมาจากร้านขายรถมือสองรอบ ๆ เมืองหลวงในหลายวันมานี้นางบอกว่า ที่มหาวิทยาลัยให้หยุดสามวัน เตรียมซื้ออุปกรณ์การเกษตร เมล็ดพันธุ์และปุ๋ยให้ครบเมื่อของมาถึงก็ขนย้ายเข้าไปในที่ว่างเปล่าของแจ
ตงโจวหยางชิงเหอและเฉินขุย จวงเหลียงมาถึงยังฐานที่มั่น ฟ้าก็มืดแล้วขณะพวกเขามาถึง กองทัพธงเหลืองส่วนน้อย ๆ นั่งอยู่บนพื้นไม่กินไม่ดื่ม นั่งอยู่ทั้งคืนพวกเขาไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าสวามิภักดิ์ก่อน ทว่าถูกตีจนพ่าย ถูกจับตัวเป็นเชลยศึกฉะนั้น กำลังอารมณ์ขุ่นมัวอยู่อีกด้านหนึ่ง กองทัพธงเหลืองส่วนใหญ่ที่ถูกจับเป็นเชลยศึก คุกเข่าอยู่บนพื้นกำลังช่วยก่อไฟต้มโจ๊ก!เมื่อวานประชาชนของตงโจได้กินโจ๊กที่ค่ายพักกองทัพตระกูลจ้านต้มแล้ว บวกกับทัพใหญ่สองแสนนายที่ถูกเผ่าหมานล้อมเอาไว้ในเมืองพวกเขาคิดตกแล้วเนื่องจากคนส่วนนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นสตรี คนชราและเด็ก หากเป็นบุรุษที่ยังหนุ่มยังแน่นจากไปได้ ก็ล้วนคิดหาวิธีเข้าไปในเมืองหลวงทั้งสิ้น ทิ้งลูกเมียและมารดาที่เป็นม่ายเอาไว้เมื่อวานพวกนางได้กินโจ๊กข้าวของกองทัพตระกูลจ้าน เส้นบะหมี่ร้อนแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นฝ่ายยินยอมอยู่ต่อเองทั้งสิ้นหนำซ้ำยังมีแหล่งน้ำไม่จำกัดให้ใช้ฉะนั้น จึงสมัครใจแบกรับการทำงานเล็กน้อย เพื่อแลกกับอาหารที่ไม่ต้องเสียเงินเช้าตรู่ พวกนางตื่นเช้ากว่าพ่อครัว เก็บฟืน ก่อเตาไฟ เตรียมต้มโจ๊กให้ทุกคนบวกกับอาหารของห้าหมื่นคน ฉะนั้นท
“คุณหนูเย่ นอนไม่หลับ? มาสนุกไหมคะ?”“ไม่ละ พี่เวินลี่ มีทนายที่พึ่งพาได้แนะนำบ้างไหม?”เมื่อพูดถึงทนาย เวินลี่ก็ไปหาที่เงียบ ๆ พูดคุยรายละเอียดกับเธอ“เกิดอะไรขึ้นเหรอค? หูลูหมิงออกมาจากสถานีตำรวจแล้วไม่ใช่เหรอ? หรือว่าอีกฝ่ายฟ้อง?”“ฮึ เรื่องที่คุณนายใหญ่ลู่จ้างวานฆ่าคน แพร่ออกไปจนคนรู้กันทั่ว พวกเขายังคิดอะไรแผลง ๆ อีก!”“เรื่องนี้เธอถูกสับจนเละแล้ว พลิกคดีไม่ได้!”“หากทนายของอีกฝ่ายตามตอแยคุณ ให้คุณเซ็นหนังสือยอมความ จำเอาไว้นะคะ อย่าเซ็นเป็นอันขาด!”“โอเคค่ะ พี่เวินลี่ เป็นเรื่องอื่น ฟู่ลี่กรุ๊ปที่พ่อฉันทิ้งเอาไว้ให้ เกือบจะหนึ่งปีแล้วยังไม่แบ่งเงินปันผลให้ฉันเลย ฉันรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากล เมื่อกี้โทรหาทนายทนายคนที่รับผิดชอบเรื่องกฎหมายของฟู่ลี่กรุ๊ป เขาแนะนำให้ฉันขายหุ้นทิ้ง!”“แต่ว่า บริษัทเป็นสิ่งที่พ่อฉันทุ่มเท!!”เวินลี่ได้ยินดังนั้นก็เดือดดาลจนโพล่งขำ“แม้ฟู่ลี่กรุ๊ปจะไม่ใช่บริษัทเมืองหลวง แต่ลูกค้าประจำที่อยู่ในบอร์ดหุ้น เนื่องจากบริษัทลูกที่ทำเรื่องพลังงานใหม่ ทะลุลิมิตติดต่อกันเจ็ดบอร์ดแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะไม่แบ่งเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นใหญ่?”“ฮ่า หนำซ้ำยังคิดเตะ
เย่มู่มู่ทำงานทั้งคืนจนถึงตีสองหาบริษัทเพาะพันธุ์ขนาดใหญ่สี่แห่ง บริษัทเพาะพันธุ์ในพื้นที่ มั่นใจว่าไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรมของเมล็ดพันธุ์ และสั่งออเดอร์ สั่งซื้อปริมาณล็อตใหญ่ติดต่อโรงงานอุปกรณ์การเกษตรขนาดใหญ่สามแห่ง โรงงานอุปกรณ์การเกษตรทางเหนือสายพันธุ์เยอะ ใช้สะดวกเป็นอย่างมากรถแทร็กเตอร์ เครื่องไถนาและเครื่องหว่านเมล็ดพันธุ์...มีครบทุกอย่างต่อให้เป็นอุปกรณ์เพาะปลูกเหล็กขนาดเล็กแบบบังคับมือ ก็มีครบทุกอย่างเย่มู่มู่กวาดสินค้าทั้งหมดจนเรียบ กระทั่งถามในสต็อก กวาดสต็อกที่ค้างของทั้งสามแห่งจนเรียบเช่นเดิมยังมีโรงงานปุ๋ย เธอสั่งกับโรงงานปุ๋ยโรงงานใหญ่สองแห่งหนึ่งในนั้นกิจการไปได้ไม่ค่อยสวย ในสต็อกค้างสินค้าไว้เยอะมาก สินค้าที่ขายออกไป ไม่ได้รับการชำระเงินชักหน้าไม่ถึงหลังแล้วเย่มู่มู่ไม่เพียงเหมาสต็อกจนเกลี้ยง ทว่ายังสั่งออเดอร์หนึ่งพันห้าร้อยล้านขอให้โรงงานส่งสินค้าตลอดทั้งปี ทำให้โรงงานแห่งนี้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งเถ้าแก่รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณอย่างสุดซึ้ง จะเลี้ยงข้าวเย่มู่มู่ให้ได้ ทว่าถูกเธอปฏิเสธกลับไป เธอบอกเถ้าแก่ไปว่า คุณภาพของปุ๋ยไม่มีปัญหา จะเพิ่มปริมาณการ
เย่มู่มู่เพิ่งกลับถึงบ้าน เมื่อเธอกลับมาก็ให้คนใช้และบอดี้การ์ดช่วยกันย้ายขนมปัง และขนมปังแข็งที่ซื้อมาวันนี้กลับโกดังทุกครั้งที่เธอซื้อของข้างนอก มักจะเหลือไว้บนรถหนึ่งถึงสองลังเสมอ ให้คนย้ายกลับโกดังมาเรียนที่เมืองหลวง เพิ่งจะแค่สิบกว่าวัน โกดังก็มีของกองเต็มไปหมดแล้วเหล่าคนรับใช้ไม่เข้าใจระดับความบ้าคลั่งในการตุนของเย่มู่มู่เป็นอย่างมาก ทำเป็นว่าคุณหนูเย่เสพติดการช็อปปิงเธอได้ยินเสียงแหบแห้งของจ้านเฉิงอิ้น พร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้น กล่าวว่า : ท่านเทพ ขอบคุณนะขอรับ!เธอก็ฉีกยิ้มออกมา“จ้านเฉิงอิ้น ข้าดีใจมาก! มู่ฉีซิวตายแล้ว แปลว่าเราเปลี่ยนประวัติศาสตร์แล้ว?”“เขาซี้แหงแก๋แล้ว ถูกระเบิดจนสลายหายไปเป็นเถ้าถ่าน ฉะนั้น...เจ้าคงไม่ตายแล้ว ใช่หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นฉีกยิ้มในสายตามีความอาลัยอาวรณ์ เขากล่าวขึ้นว่า “ใช่ขอรับ ข้าจะไม่ตาย!”“เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่? เจ้าประสบความสำเร็จไม่น้อยไปกว่ากว้านจวินโหวเลย เจ้ารวมให้เป็นหนึ่งได้ล่วงหน้าก่อนจริง ๆ จะต้องกลายเป็นจิ๋นซีฮ่องเต้! จะถูกพิมพ์ด้วยตัวหนาและตัวใหญ่ในหนังสือประวัติศาสตร์ แม้จะผ่านไปหนึ่งพันปี สองพันปี หนึ่