แชร์

บทที่ 181  

ผู้เขียน: มู่โร่ว
ในเมื่อจะให้รางวัลเหล่าทหาร และยังมีของที่กองทัพต้องใช้อีก เธอเลยซื้อมาให้ครบทั้งหมด

ไปสั่งสต๊อกกระติกเก็บความร้อนสุญญากาศสองชั้น จากร้านแบรนด์กระติกน้ำ

ทั้งหมดหนึ่งหมื่นใบ

ซื้อวิทยุสื่อสารหนึ่งร้อยเครื่องและลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่อีกยี่สิบตัว จากร้านวิทยุขายสื่อสาร

และยังสั่งซื้อกล้องวงจรปิดที่สามารถชาร์จแบตจากแสงอาทิตย์ได้ด้วยตัวเองอีกห้าสิบตัว

เย่มู่มู่แกะแท็บเล็ตตัวใหม่ออก

แล้วดาวน์โหลดคลิปวิธีการใช้สบู่ แชมพู ครีมอาบน้ำ และผงซักฟอกลงไป

แม้แต่โฆษณาของสบู่และครีมอาบน้ำ ที่มีนางแบบต่างประเทศหน้าตาดีกำลังกึ่งเปลือยอย่างเย้ายวน ก็ส่งไปด้วย

ไม่รู้ว่าเมื่อคนโบราณที่แสนจะอนุรักษนิยมได้เห็นแล้ว จะคิดอย่างไร

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่มู่มู่ก็หัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์แล้ว

จากนั้นเธอก็ดาวน์โหลดคลิปอธิบายการปรับคลื่นความถี่ วิธีการใช้ และการชาร์จแบตวิทยุสื่อสารลงไป

หลังจากเธอดาวน์โหลดคลิปการติดตั้งของทุกอย่างลงไปแล้ว ก็ส่งแท็บเล็ตไป

สุดท้าย เธอก็เขียนรายการสิ่งของยาวเหยียดออกมาใบหนึ่ง

สบู่หอม ห้าหมื่นกล่อง

แชมพู ครีมอาบน้ำ ผงซักฟอก…อย่างละสี่หมื่นแปดพันขวด

โถเคลือบเซ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 182

    คราวนี้ ทุกคนต่างพากันมารุมล้อมอยู่รอบกายของมั่วฝาน เพื่อตรวจดูวิธีการใช้สิ่งของต่าง ๆ วิทยุสื่อสาร แม้คนสองคนจะอยู่ไกลก็สามารถพูดคุยกันได้ พวกเขาปากอ้าตาค้าง นี่มิใช่หูพันลี้หรือ? ในตอนที่เห็นลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ ถูกเปิดกระจายเสียงไปทั่ว พวกเขาก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เมื่อมีลำโพงประกาศเสียงไว้กระจายเสียง วันหลังเมื่อจะปลุกให้เหล่าทหารตื่นขึ้นมาฝึกซ้อม ก็ไม่จำเป็นต้องไปไล่ปลุก ฉุด ๆ ลาก ๆ ให้ลุกจากเตียงทีละคนแล้ว ตอนนี้ เมื่อตะโกนผ่านลำโพงประกาศเสียง ทุกคนล้วนก็ต้องตื่นขึ้นมา สุดท้าย เป็นกล้องวงจรปิด หลังจากติดตั้งเสร็จ และเชื่อมต่อสัญญาณ ก็สามารถตรวจสอบภาพเหตุการณ์ด้านล่างของกล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลา นี่มิใช่เทคโนโลยีชั้นสูงเช่นเดียวกับอากาศยานไร้คนขับหรือ? อากาศยานไร้คนขับสามารถบินได้ แต่กล้องวงจรปิดบินไม่ได้ แต่สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งนี้ใช้งานได้ในทางปฏิบัติกว่าอากาศยานไร้คนขับมากนัก สามารถอาศัยแสงอาทิตย์เติมพลังงาน ไม่หวาดเกรงต่อพายุและสายฝน แถมยังสามารถมองเห็นภาพเหตุการณ์เบื้องล่างของกล้องวงจรปิดอีก อากาศยานไร้คนขับสามารถบินได้แค่ครึ่งชั่วยาม แต่กล้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 183  

    เฉินขุยยืนอยู่บนบันไดกำแพงเมือง ยืดเอวตรง ยกลำโพงประกาศเสียงขึ้นมาตะโกนเสียงดังว่า “ข้าคือแม่ทัพเฉินขุย ผู้ที่ได้ยินจงมาทางนี้ให้หมด!” เหล่าทหารที่กำลังหลบแดดอยู่ใต้กำแพงเมือง ต่างก็พากันล้อมเข้ามาบริเวณด้านล่างของบันได พวกเขามองแตรรูปทรงประหลาดที่อยู่ในมือของท่านแม่ทัพเฉินขุยอย่างสงสัย จากนั้นก็พากันวิพากษ์วิจารณ์กันเบา ๆ เดิมเสียงของเฉินขุยก็ดังกังวานอยู่แล้ว เมื่อผ่านการกระจายเสียงของลำโพงประกาศเสียง พลังการทะลุทะลวงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ยิ่งส่งออกไปได้ไกลขึ้น ยิ่งอยู่ใกล้ ก็ยิ่งดังบาดหู ตึงตึงตึง เฉินอู่ใช้ด้ามดาบ เคาะส่วนล่างของโถเคลือบเซรามิก ทำให้เกิดเสียงออกมา “เร็วเข้า ท่านแม่ทัพจะแจกรางวัลแล้ว!” ทันทีที่ได้ยินคำว่ารางวัล เหล่าทหารที่ได้ยินต่างก็เคลื่อนไหวทันที รวมตัวกันเข้ามาอย่างกระตือรือร้น บรรดาราษฎรต่างก็ยืดคอสอดส่องเข้ามาอย่างอยากรู้อยากเห็น เฉินขุยหยิบสบู่หอมก้อนหนึ่งออกมา เมื่อเปิดห่อบรรจุภัณฑ์ออก สบู่ที่มีสีสันประดุจหยกก็กำจายกลิ่นหอมจาง ๆ ที่ให้ความรู้สึกสงบและสง่างามออกมาทันที “เจ้าสิ่งเล็ก ๆ นี่คือสบู่หอม ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าดูว่าต้องใช้อย่างไร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 184

    เหล่าทหารที่ฆ่าไปมากกว่าสี่คน ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจออกมาทันที “ดีเหลือเกิน ข้าฆ่าถึงแล้ว!” “ฮ่าฮ่า ข้าก็ฆ่าครบแล้วเหมือนกัน เอาแชมพูกลับบ้านไปให้เมียได้แล้ว” ผู้ที่ไม่ได้สังหาร หรือสังหารไม่ครบจำนวนคน แต่ละคนต่างก็พากันคอตก ทอดถอนใจ จากนั้น เฉินอู่ก็แนะนำโถเคลือบเซรามิก อ่างใบนี้ เนื้อเป็นเหล็กกล้า หนักหนึ่งชั่ง เนื้อเหล็กที่ใช้หนาอย่างมาก ขอเพียงเด็ดหัวศัตรูได้ถึงแปดคนก็สามารถแลกไปได้ เมื่อทุกคนได้ยินว่าทำจากเหล็กกล้า ต่างก็พากันล้อมเข้าไปทันที ทุกคนลูบไปคนละที ใช้มือลองเคาะ จากนั้นก็มีเสียงโลหะดังออกมา เป็นดั่งที่เฉินอู่กล่าว เนื้อเป็นเหล็กกล้าจริง ๆ ภายนอกเคลือบด้วยภาพสีสันสดใส ทั้งหนาและทนทาน… นี่คือเหล็กกล้าเลยนะ! หลายเดือนก่อน อาวุธของพวกเขายังทำจากทองสัมฤทธิ์เลย ถ้วยชามรามไหในบ้านของราษฎร ส่วนใหญ่ทำจากไม้ เหล่าพ่อค้าจึงจะใช้วัตถุดิบที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ ผู้ที่มีความมั่งคั่งอย่างยิ่งในเมืองหลวงเท่านั้น จึงจะสามารถใช้ของที่ทำจากเหล็กกล้าที่สุดแสนแพงได้ แต่จำนวนก็มีน้อยเหลือแสน ยามนี้ ของเพียงสังหารศัตรูได้แปดคน ก็จะสามารถแลกอ่างที่ทำจากเหล็กกล้าได้แ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 185  

    สุภาพบุรุษ แก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย! เหยียบอากาศยานไร้คนขับของเขาจนแหลก เขาสามารถจดจำความแค้นนี้ไปได้ตลอดชีวิตเลยล่ะ! รัฐทายาทน้อยจะใช้ลูกไม้เล่นงานคนอีกแล้ว กลางดึก มั่วฝานให้คนเตรียมอากาศยานไร้คนขับไว้อย่างเรียบร้อย อากาศยานไร้คนขับตัวหนึ่งบินโคลงเคลงไปมาออกไป บนตัวมันแขวนประทัดเส้นยาว ตามน้ำหนักสูงสุดที่มันรับได้ไว้หลายสาย อากาศยานไร้คนขับตัวที่สอง แขวนถ่านติดไฟแท่งยาวไว้แท่งหนึ่ง ออกเดินทางตามไป อากาศยานไร้คนขับตัวที่สาม แขวนดาบอันคมกริบไว้เล่มหนึ่ง อากาศยานไร้คนขับตัวที่สี่แขวนลำโพงประกาศเสียงไว้! ในราตรีอันเงียบสงบ ทหารชาวหมานทั้งหมดต่างพากันเข้าสู่นิทราอันหอมหวาน… หลังประทัดที่แขวนไว้บนอากาศยานไร้คนขับถูกถ่านไม้จุดติดไฟขึ้นมา ก็ระเบิดดังปึงปังขึ้นกลางอากาศ เหนือคอกม้ากองทัพชาวหมาน ดาบยาวอันคมกริบตัดประทัดจนขาด ประทัดตกลงกลางคอกม้า เสียงประทัดที่ดังกึกก้องติดต่อกัน ปลุกม้าศึกที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมา แล้ววิ่งเตลิดไปทั่วด้วยความตื่นตระหนก เมื่อทหารชาวหมานได้ยินเสียงดัง ก็คิดว่ามีระเบิดมาอีกแล้ว ตอนนี้ ภายในใจของพวกเขาได้เกิดความหวาดหวั่นต่อระเบิดขึ้นแล้ว เพี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 186  

    หลัวซู่ชักดาบออกมา ผ่าร่างทหารที่มาส่งข่าวในดาบเดียว ทหารผู้นั้นเลือดสาดกระจายในทันที ทหารยามทุกนายพากันคุกเข่าลง แนบศีรษะลงกับพื้น ร่างกายสั่นสะท้าน หลัวซู่แหงนหน้าขึ้นฟ้า กู่ร้องออกมาเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยวและอาวรณ์ “จ้านเฉิงอิ้น ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” “อ๊ากกกก…” “ทหาร กลับเมือง ต่อให้ข้าต้องตาย ก็จะขวางทางกลับของจ้านเฉิงอิ้นให้ได้!” เมื่อทหารชาวหมานได้ยินท่านอ๋องพูดว่ากลับเมือง ก็พากันถอนใจยาวด้วยความโล่งอก พวกเขาไม่อยากตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวน ในบรรดาพวกเขา มีผู้ใดกัน ที่บนมือไม่เคยเปื้อนเลือดชาวฮั่น พวกเขาไม่เคยเห็นชาวฮั่นเป็นคนมาก่อน ในสายตาของพวกเขา ชาวฮั่นก็เป็นเพียงเสบียงอาหาร เป็นแกะที่มีสองขาเท่านั้น แต่ยามนี้ กองทัพตระกูลจ้านแห่งด่านเจิ้นกวน ทำให้พวกเขาได้รู้ว่า สิ่งใดคือความโหดร้ายที่แท้จริง! เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ถูกระเบิดจนแขนขาขาดลดไป ก็ถือว่าดีแล้ว เพราะพวกเขาเคยเห็นด้วยตาตนเอง โดยไม่อาจทำสิ่งใดได้ ในยามที่ผู้มีชีวิตอยู่เบื้องหน้า ถูกระเบิดจนกลายเป็นหมอกเลือดในเสี้ยววินาที ร่างเนื

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 187  

    เหล่าแม่ทัพพากันยืนขึ้นด้วยความอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ดวงตาทั้งคู่ของเฉินขุยเบิกกว้าง ถามพลทหารที่มาส่งสารอย่างตื่นเต้นว่า “ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ?” พลทหารมอบม้วนกระดาษที่ดึงออกมาจากขานกอินทรีให้เฉินขุย บนกระดาษขาว มีลายมือที่เขียนด้วยปากกาลูกลื่นว่า “เชื้อพระวงศ์ม่อเป่ยทั้งห้าพันคนได้ถูกสังหารหมดแล้ว อย่าได้เป็นห่วง…” “ข้าจะกลับไปในทันที พวกเจ้าจงเฝ้ารักษาด่านเจิ้นกวนไว้ให้ดี อย่าให้ท่านเทพต้องเป็นกังวล!” เฉินขุยถือแถบกระดาษข้อความไว้ในมือ หัวเราะฮาฮาเสียงดังออกมา “ชนะแล้ว เชื้อพระวงศ์ของพวกม่อเป่ยถูกฆ่าหมดแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…” “การจู่โจมที่รวดเร็วอย่างคาดไม่ถึงดุจสายฟ้าแล่บเช่นนี้ ยังคงต้องอาศัยท่านแม่ทัพจริง ๆ!” “การที่อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ขั้นหนึ่งที่สามารถสืบทอดแก่ลูกหลานได้เขา ตัวข้าเฉินขุยยอมรับอย่างยินยอมพร้อมใจแล้วจริง ๆ” บรรดาแม่ทัพท่านอื่นก็พากันตื่นเต้นยินดีจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ พวกเขาพาส่งต่อกระดาษข้อความที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาต่อ ๆ กันไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อดูกันครบแล้ว ก็กอดกันร้องตะโกนเสียงดังด้วยความยินดีออกมา “ชนะแล้ว ชนะแล้ว ท่านแม่ทัพใหญ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 188  

    รอบที่สอง เป็นการสู้กันด้วยอาวุธ ดาบเสี้ยวของหลัวซู่ไม่อาจสู้ขวานคู่ของหลิงเซี่ยวเฟิงได้ แพ้แล้ว รอบที่สามยังไม่ทันได้เริ่มสู้ ทหารของทั้งสองฝ่ายก็อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มการปะทะแลกชีวิตกัน ทหารแคว้นฉีพยายามห้ามทัพอย่างเต็มกำลัง… ทว่าสองฝ่ายต่างมีคนนับแสน หลายร้อยคนที่ยืนอยู่แถวหน้าเข้าตะลุมบอนกันแล้ว รั้งอย่างไรก็รั้งไม่อยู่ จนกระทั่ง ทหารของแต่ละฝ่ายเกิดการสูญเสียขึ้นมา เพียงช่วงลมหายใจ ก็ตายไปหลายสิบคน ฉีซวนเหิงจึงทนดูต่อไปไม่ไหว คำรามด้วยความโมโหว่า “หยุดมือให้หมด!” “ยังไม่ทันยึดด่านเจิ้นกวนได้ พวกท่านก็มาต่อสู้กัน ในจุดที่ห่างจากเมืองออกมาเพียงสามลี้เสียแล้ว…” “จะให้ลูกน้องของจ้านเฉิงอิ้นชมเรื่องตลกอย่างไร้เหตุผลหรืออย่างไร?” “พวกท่านจำให้ดีว่า หากยังสู้เช่นนี้ต่อไปอีก ขอเพียงบนฟ้าทิ้งระเบิดลงมา พวกท่านก็ได้แต่ตายเท่านั้น!” ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็แหงนมองไปบนท้องฟ้าทันที บนท้องฟ้ามีอากาศยานไร้คนขับบินอยู่ คอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา เมื่อคืน ก็เป็นเจ้าสิ่งนี้ที่ทิ้งประทัดและระเบิดลงมา ทำให้ม้าในคอกม้าของทั้งสามทัพ เตลิดหนีไปนับห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 189  

    เมื่อทหารยามที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินว่า คืนนี้จะไปโจมตีทหารแคว้นฉู่ ก้องโห่ร้องขึ้นมาด้วยความดีใจ “ดีเหลือเกิน ในที่สุดก็จะลงมือเสียที!” “ข้าอยากได้ของรางวัล หากไม่สู้รบแล้วจะไปรับรางวัลได้อย่างไร ในที่สุด คืนนี้ก็จะได้สู้อย่างเต็มที่สักรอบเสียที!” “ข้าจะไปลับดาบม่อเตาอีกหน่อย เอาให้คมจนตัดเส้นผมขาด แต่ละดาบเห็นเลือดประเภทนั้น! ” เหล่าแม่ทัพทั้งหลายต่างก็ได้ยินเสียงทหารยามที่อยู่ด้านนอกห้องโถงหารือ พวกเขาล้วนรอที่จะสู้ศึกสักคราไม่ไหวแล้ว สิ่งของที่ท่านเทพส่งมานั้น มีความเย้ายวนต่อเหล่าทหารเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้รับรางวัลแล้ว พวกเขาไม่เกรงกลัวต่อกองทัพฉู่นับแสน เมื่อเหล่าทหารกระตือรือร้นเช่นนี้ เหล่าแม่ทัพทุกนายต่างก็เตรียมตัวอย่างแข็งขันเช่นกัน คืนนี้ จะต้องรบให้หนักสักตั้ง* เย่มู่มู่ที่รออยู่ ไม่ได้รับจดหมายตอบกลับจากจ้านเฉิงอิ้น นี่ก็สองวันแล้ว ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร ถ้าบอกว่าป่วย เธอก็ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไฮเทคที่สุดไปแล้ว เครื่องมือพวกนั้นเกินพอที่จะรับมือกับแผลดาบแผลธนูแล้ว ถ้าจะบอกว่าเขาตายแล้ว เธอก็คงส่งสิ่งของไปทางนั้นไม่ได้ ตอนนี้ เธอจึงเดาว่า

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 416

    “จริงแท้แน่นอน ข้าน้อยไม่กล้าปิดบัง!”“เจ้าเห็นด้วยตาตัวเองหรือ?”“ขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่เพียงสัมผัสแจกัน จากนั้นแจกันก็พ่นกล่องอาหารออกมา และ...และยัง...”“และอะไร?”“ซ่งอวิ๋นฮุยหมอประจำกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ได้แปลกใจ รีบหยิบกล่องอาหารขึ้นมาให้ข้าน้อยสามกล่อง และยังแบ่งอีกยี่สิบกว่ากล่องไปให้แม่ทัพคนอื่นได้ร่วมรับประทานด้วย!”“ท่านแม่ทัพ ตำนานกระถางวิเศษเป็นเรื่องจริง แจกันนี้สามารถพ่นสิ่งของที่ต้องการออกมาได้ตามใจ!”เมื่อทหารผ่านศึกพูดจบ บรรยากาศในกระโจมก็ตกอยู่ในความเงียบงันอย่างประหลาด“แบบนี้ก็หมายความว่า รถและสิ่งของทั้งหมดอาจถูกท่านแม่ทัพเก็บไว้ในกระถางวิเศษ”“ใช่ รถคันใหญ่ขนาดนั้น ในพื้นที่รกร้างแบบนี้ไม่มีทางซ่อนได้แน่!”“แล้วอาหารพวกนี้กินได้หรือเปล่า? ข้าหิวมากแล้ว”ข้าวสิบกล่องพอดีสำหรับแบ่งกันคนละกล่องพอดีเซี่ยเวยเลือกที่จะประหยัดเสบียง โดยหยิบอาหารออกมาเพียงห้ากล่อง และให้ทุกคนเอาชามสเตนเลสของตัวเองออกมาข้าวแต่ละคนได้แบ่งเพียงครึ่งกล่องกับข้าวก็แบ่งกันคนละครึ่งกล่องเช่นกันจ้าวเฉียนเป็นคนแรกที่เริ่มกิน เขาหยิบน่องไก่ชิ้นใหญ่ขึ้นมา และกัดไปหนึ่งคำ รสชาติหอมกรุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 415

    จ้านเฉิงอิ้นรู้ดีว่า ความลับที่แจกันสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ คงปิดบังต่อไปไม่ได้อีกแล้วการหายตัวไปของมั่วฝานและหน่วยกล้าตายน้อย!แม่ทัพเซี่ยเวย จ้าวเฉียน และสวีจื่อหลิง...รวมถึงพวกแม่ทัพกองทัพเยี่ยนล้วนได้เห็นกับตาซ่งอวิ๋นฮุยรีบพาหมอกองทัพสองคนมาด้วยความเร่งรีบ และช่วยกันพาจ้านเฉิงอิ้นกลับไปยังกระโจมเพื่อทำการตรวจบาดแผลให้เขา...เขาทำงานไม่หยุดมือจนดึกดื่นเกือบถึงเที่ยงคืนเป็นทหารผ่านศึกที่ป้อนยาและช่วยพันแผลให้จ้านเฉิงอิ้น โดยมีซ่งอวิ๋นฮุยอยู่เป็นเพื่อนเฝ้ายามในคืนนั้นต่อมา ทหารผ่านศึกคนนั้นก็ค้นพบความลับของแจกันวิเศษปากแจกันปล่อยข้าวสวยร้อน ๆ ที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลออกมาสมองของทหารผ่านศึกถึงกับหยุดทำงานชั่วขณะซ่งอวิ๋นฮุยที่โดนเสียงดังปลุกตื่นขึ้นมา เห็นกล่องอาหารหล่นลงมาเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เขาเคยชินแล้วเขาหยิบกล่องขึ้นมา ยื่นให้ทหารผ่านศึก มีทั้งกุ้งตุ๋น หมูอบซอสน้ำแดง และข้าวสวยร้อน ๆ หนึ่งกล่องใหญ่“เอาไปกินเถอะ!”ทหารผ่านศึกอุ้มกล่องอาหารสามกล่องไว้ในอ้อมแขน ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยกินอะไรที่ดีขนาดนี้มาก่อนซ่งอวิ๋นฮุยเห็นเขายืนนิ่ง ก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วเก็บ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 414

    หลูซีมองห้องอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง “ท่านเทพ ห้องแบบนี้ข้าอยู่ได้จริง ๆ หรือ?”“แน่นอน ห้องนี้เป็นของเจ้า จากนี้ไปก็นอนที่นี่ได้เลย!”หลูซีถึงกับทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเย่มู่มู่ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาเพราะตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยได้อยู่ในห้องที่ดีขนาดนี้มาก่อนเลยห้องนี้ใหญ่กว่าห้องในจวนของรัฐทายาทเสียอีกแถมยังมีโคมไฟ ชั้นหนังสือ โต๊ะหนังสือ...และยังมีของชิ้นใหญ่ที่ดูเหมือนแท็บเล็ต ซึ่งเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรเย่มู่มู่พยุงหลูซีให้ลุกขึ้น และสังเกตว่าเขากำลังจ้องมองทีวีด้วยความสนใจเธอหยิบรีโมตทีวีขึ้นมาแล้วกดเปิด...สองคนจากยุคโบราณเหมือนได้เห็นโลกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน~ ทั้งคู่ย่อตัวลงนั่ง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จอทีวีด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่พวกเขาไม่กล้าแตะต้อง เพราะกลัวจะทำให้ทีวีเสียหาย! “ใหญ่กว่าแท็บเล็ตเสียอีก แถมยังคมชัดกว่ามาก นี่มันคืออะไร?” “ถ้านำสิ่งนี้ไปถวายให้ไทเฮา ไทเฮาคงจะดีใจมากแน่ ๆ!” เย่มู่มู่อธิบายว่า “นี่คือทีวี มันต้องใช้ไฟฟ้า ถ้าจะย้ายไปในยุคโบราณ แค่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไม่พอหรอก พวกเจ้าต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นช่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 413

    เย่มู่มู่ตอบอย่างใจเย็นว่า “ใช่แล้ว!”“ข้าอยากลอง...”เย่มู่มู่พูดขัดจังหวะอย่างหมดอารมณ์ “แต่เจ้าไม่มีใบขับขี่!"เดิมทีมั่วฝานที่กำลังจะเปิดประตูรถก็ต้องชะงักไปทันทีเมื่อเห็นท่าทางหงอยเหงาของชายหนุ่ม เธอก็พูดอีกว่า “แต่ขับในบริเวณคฤหาสน์ได้ รอจนสว่างแล้ว ค่อยขับวนรอบหมู่บ้าน แต่ห้ามขึ้นถนนใหญ่”“ถ้าตำรวจจราจรจับได้ เสียค่าปรับเป็นเรื่องเล็ก แต่รถจะถูกยึด...”“รถคันนี้แพงมาก!”เมื่อมั่วฝานได้ยิน ก็พยักหน้าอย่างดีใจครั้งแล้วครั้งเล่า“ท่านเป็นใคร พรุ่งนี้ข้าสามารถขับรถในหมู่บ้านได้หรือ?”“ใช่!”“ตราบใดที่ไม่ขึ้นถนนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา?”“ใช่ ถนนใหญ่มีตำรวจจราจรคอยกั้นรถตรวจสอบใบขับขี่!”“ดีมาก ข้าจะลองขับแค่สองสามรอบ จะไม่ขับรถของท่านพังแน่นอน”เย่มู่มู่หยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าแล้วโยนให้เขาเขารับกุญแจรถอย่างกระตือรือร้น แล้วเข้าไปนั่งในห้องคนขับมองดูการตกแต่งภายในที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างตื่นเต้นเขาค่อย ๆ สตาร์ทรถ และรถก็สตาร์ทติดจริง ๆฮ่า ฮ่า...เขาหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ ถอยรถออกจากโรงรถ แล้วค่อย ๆ ขับวนรอบสวนของคฤหาสน์ หลังจากขับครบสองรอบจริง ๆ แล้ว ก็ถอยรถกลั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 412

    “ลำบากท่านแล้ว เอาไปแบ่งกินกับยามที่เฝ้าเวลากลางคืนด้วยนะคะ”พี่ซุนรับถุงอาหารไปด้วยความยินดี “ได้เลย ขอบคุณมากนะครับ!”เย่มู่มู่ขับรถต่อไปจนถึงโกดัง เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้วมั่วฝานและหลูซีก็กระโดดลงจากรถก่อนจากนั้นเย่มู่มู่เปิดประตูรถ หยิบแจกันลงมาจากนั้น เย่มู่มู่เปิดประตูม้วนของโกดังขึ้นภายในโกดัง มีกล่องรองเท้าหลายร้อยกล่องเรียงกันอย่างเป็นระเบียบชุดสำเร็จรูปครึ่งร้านถูกบรรจุลงในกล่องกระดาษขนาดใหญ่ทั้งหมดเย่มู่มู่วางแจกันลง “แจกันนี้ดูเหมือนจะอัพเกรดได้แล้วนะ ข้าสามารถได้ยินเสียงรอบตัวจ้านเฉิงอิ้นได้!”“และยังสามารถเก็บเสบียงได้ ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง หากจ้านเฉิงอิ้นต้องการ ก็สามารถหยิบออกมาใช้ได้ตลอดเวลา” เมื่อมั่วฝานและหลูซีได้ยินดังนั้น ก็ดีใจจนออกนอกหน้ามั่วฝานรีบถามนางทันที“ท่านเทพ ท่านหมายความว่าต่อไปนี้หากท่านแม่ทัพต้องการเสบียง ก็ไม่ต้องขับรถตามหลัง สามารถหยิบออกมาใช้ได้ทันที ใช้เสร็จแล้วก็สามารถเก็บกลับเข้าไปได้อีกหรือ?” “ใช่”เย่มู่มู่วางมือลงบนแจกัน เธอหลับตาลง สัมผัสได้ถึงพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหมอกจาง ๆ แต่ก็กว้างขวางมาก!มั่วฝานดีใจเดินวนรอบแจกัน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 411

    “ได้ยินกันหรือเปล่า? เขาไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารให้พวกคุณ รีบไสหัวออกไปซะ ก่อนที่จะไม่ได้ออกจากร้านนี้!”สาวงามเจ็ดแปดคนที่แต่งตัวเย้ายวนพร้อมใจกันเบะปาก ยิ้มเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก“ดูหน้าตาก็ดูดีอยู่หรอก แต่ถ้าไม่มีเงินก็บอกมาตั้งแต่แรกสิ จะได้ไม่เสียเวลาฉัน!” “นั่นสิ อุตส่าห์มาที่ร้านแบบนี้ หวังจะเจอคนรวยหน่อย ๆ ตอนนี้แม้แต่ค่าทิปยังไม่ได้สักบาท!” “ซวยจริง ๆ ดันไปอ่อยคนจนเข้าให้!” พวกเธอพากันบิดเอวเดินจากไปอย่างไม่แยแสเย่มู่มู่กล่าวกับพนักงานร้านด้วยความรู้สึกผิด “ของพวกนี้ไม่เอาแล้วค่ะ เอาเก็บกลับไปได้เลย”จากนั้นเธอก็พามั่วฝานกับหลูซีออกมาจากร้าน และให้พวกเขาขึ้นรถบรรทุกขนาดเล็กระหว่างขับรถ เย่มู่มู่ก็เริ่มอธิบายให้สองคนจากยุคโบราณเข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การเอาตัวรอดในโลกยุคใหม่“สาว ๆ ที่หน้าตาสวยดูดี ไม่ควรไว้ใจ โดยเฉพาะคนที่แต่งตัวเซ็กซี่ โชว์เนื้อหนัง หรือแต่งตัวเย้ายวนเกินไป”“พวกเธอทำงานในร้านแบบนี้ ซึ่งในโลกของพวกเจ้า ก็เหมือนกับสาว ๆ ในหอนางโลมในยุคโบราณนั่นแหละ”ในยุคโบราณ หญิงสาวในหอนางโลมหลายคนถูกบีบคั้นด้วยความยากลำบากในชีวิต ต้องขายตัวเพื่อเอาชีวิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 410

    เย่มู่มู่กับพนักงานยังคิดว่าฟังผิดเดี๋ยวก่อน~โต๊ะข้าง ๆ เป็นการรวมตัวกินข้าวของบริษัท มีตั้งหลายสิบคนและเอาโต๊ะสองสามตัวมาต่อเข้าด้วยกัน“หนุ่มน้อย สั่งมากขนาดนั้นกินหมดเหรอคะ?”พนักงานมองเด็กอายุสิบสี่สิบห้าพร้อมกล่าวด้วยความประหลาดใจ “สั่งเยอะขนาดนี้ กินทิ้งกินขว้างไม่ได้นะ”เย่มู่มู่รู้ว่าเมื่อก่อนเขามีชีวิตที่ยากลำบาก อาหารมากมายเพียงนี้กินไม่หมดแน่แต่เมื่อเขาอยากกินเลยสั่งมาให้ทั้งหมด“เอาแบบเดียวกันทุกอย่างค่ะ ถ้ากินไม่หมดค่อยห่อกลับบ้านค่ะ!”“ค่ะ รบกวนรอสักครู่!”หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที เย่มู่มู่ตกตะลึงตาค้างที่เห็นหลูซีกินหมูหันจนหมดในเวลาเพียงสั้น ๆตอนแรกเขาใช้ตะเกียบคีบทีละแผ่นอย่างสุภาพ จากนั้นเริ่มใช้มือกินขาหมูเพียงไม่กี่นาทีเขากินหมูทั้งตัวจนหมดเกลี้ยงต่อด้วยไข่เยี่ยวม้า ปลาย่าง ห่านย่าง หัวกระต่ายตุ๋น ไก่ผัดหม่าล่า…เพียงเวลาครึ่งชั่วโมงกว่า มีจานชามใบใหญ่สิบกว่าอันวางซ้อนกันตรงหน้าเขาอาหารจานหลักทั้งโต๊ะถูกเขากินจนไม่เหลือและยังสั่งข้าวสวยเพิ่มหนึ่งถัง น้ำชาหนึ่งกา…หลังจากกินหมดแล้ว เขานั่งที่เก้าอี้อย่างสุขสบาย แหงนท้องโตและส่งเสียงเรอคำใหญ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 409

    พี่สาวมีเงินเห็นเย่มู่มู่ช่วยเขาจ่ายค่ารองเท้าจริง ๆ เลยดึงตัวเธอไปข้าง ๆ อย่างไม่ยอมจำนนริมฝีปากสีแดงอันใหญ่ของเธอกล่าว “น้องสาว ฉันให้เธอห้าแสน เธออย่างแย่งฉันเลยนะ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณอ่อนนุ่มของเขาแบบนี้ ฉันไม่ขาดทุนหรอก…”เย่มู่มู่กล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ไม่ได้ค่ะ!”“เธอไม่เชื่ออีกเหรอว่าฉันมีกำลัง?”พี่สาวมีเงินกัดฝันหยิบโทรศัพท์เปิดยอดเงินคงเหลือในธนาคารให้เย่มู่มู่ดูโห~ห้าร้อยกว่าล้าน!มีเงินสดหลักร้อยล้านในเมืองนี้ นับว่าเป็นกลุ่มคนชนชั้นสูงอย่างแท้จริง“น้องสาว เธออย่างแย่งฉันเลยหน่า! ฉันมีเงิน เธอสู้ไม่ไหวหรอก!”เย่มู่มู่มองหน้ามั่วฝานอีกครั้ง ริมฝีปากของเขาเป็นสีแดง ฟันขาว เกล้าผมเป็นมวยประดับกวานทองและมีปอยผมร่วงลงมาสองสามเส้นเขามีใบหน้าสวยละมุน เกิดมาในชาติตระกูลชนชั้นสูง พร้อมด้วยตำแหน่งท่านชายที่สืบทอดบรรดาศักดิ์มาจากบรรพบุรุษและมีสง่าราศีเด่นเป็นล้นพ้น!เมื่อปล่อยเขาอยู่ท่ามกลางผู้คน สามารถเป็นที่น่าจดจำได้จะว่าไปแล้ว เจ้าหนุ่มคนนี้ก็มีหน้าตาหล่อเหลาไม่เบา!ไม่แปลกใจเลยทำไมพี่สาวมีเงินถึงติดกับ“พี่คะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้”“นี่คือกำลังของฉัน ฉ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 408

    “แม่ทัพเฉินขุย…เป็นยา ท่านเทพส่งยามาให้!”“ยาเยอะมาก ยาที่เราเก็บบนรถบรรทุกตอนแรกก็เหลือไม่มากแล้ว ทหารบาดเจ็บกำลังประสบสภาวะขาดแคลนยารักษา ไม่คิดเลย ฮ่า ๆ ๆ ท่านเทพส่งมาทันเวลาจริง ๆ !”“ดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมียูกยาเหล่านี้ ทหารที่บาดเจ็บก็จะได้รับการรักษาที่ทันท่วงที”“แม่ทัพล่ะ? ฟื้นหรือยัง?”“ยังเลยขอรับ แต่สัญญาณชีพคงที่แล้ว”เย่มู่มู่พลันนึกได้บางอย่าง เธอหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมาแล้วลงมือเขียน มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับเธอ เธอจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ขอให้พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงหลังจากเธอส่งข้ามไปก็ได้ยินเสียงร้องก้องกังวานของผู้ชาย“จวงเหลียง ดูเร็วเข้า มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับท่านเทพทั้งสองคน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้พวกเขาสุขสบายดีมาก!”“ท่านเทพจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี!”“ตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่ารัฐทายาทกับหลูซีอยู่ที่ไหน ข้าก็วางใจแล้ว! เวลานี้รอเพียงแม่ทัพตื่นขึ้นมา”จวบจนฝั่งนั้นไม่ส่งเสียงใด ๆ มาอีก เย่มู่มู่จึงอุ้มแจกันขึ้นมาวางข้างที่นั่งคนขับ และกลับไปหามั่วฝานกับหลูซีที่ศูนย์การค้าเธอไปร้านที่หลูซีซื้อเสื้อผ้าก่อน แต่พบว่าไม่เห็นหลูซีเธอเข้าไปใกล้ร้านขายรองเท้าที่มั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status