ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่ขมวดคิ้วมองดูทั้งสองคนทะเลาะกันอย่างเย็นชาเขาเอ่ยถามเสียงดังเหมือนระฆัง“ดาบม่อเตาอะไร? ชุดเกราะป้องกันได้ถึงขั้นไหน? เหตุใดคนคนหนึ่งถึงฟันคนได้หลายสิบคน!”“พวกเจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?”เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับกุนซือว่า “ไปเอาดาบม่อเตากับชุดเกราะของทหารแคว้นฉี่มาให้ข้า ข้าอยากลองด้วยตัวเอง”*สนามฝึกซ้อมที่สามกองทัพประจำการอยู่ทหารหน้าตามอมแมมยืนอยู่ขอบด้านนอกสุด แววตาจับจ้องไปที่ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่เขาถือดาบม่อเตาหนึ่งเล่ม ยาวประมาณหนึ่งจุดสองหมี่ ตัวดาบประกายแสงเย็นเยียบออกมาเมื่อโบกไปมาอย่างไม่ใส่ใจนัก ก็จะได้ยินเสียงหวีดหวิวในอากาศดาบม่อเตาเล่มนี้คือหนึ่งในดาบไม่กี่เล่มที่ทหารแคว้นฉู่และแคว้นฉีได้มาตอนการโจมตีเมืองล้มเหลวคราวก่อนหลัวซู่รูปร่างสูงตระหง่าน สูงกว่าทหารชาวฮั่นหนึ่งคืบเขาถือดาบม่อเตาที่ส่องแสงสีเงินและคมดาบแหลมคม ฟันไปที่อาวุธของแคว้นฉู่อย่างรุนแรงชิ้ง~อาวุธของกองทำแคว้นฉู่ถึงกับถูกเขาฟันขาดบริเวณที่ถูกฟันเรียบเนียน ช่องโหว่บนดาบม่อเตาก็ไม่มีหลัวซู่ตะลึงอ้าปากค้าง เขาไม่เคยคิดเลยว่าอุปกรณ์ทั้งสองฝ่ายจะต่างกันถึงขนาดนี้และยิ่
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ขนาดใหญ่อีกมากมายตัวอย่างเช่น เตียงผู้ป่วยเลื่อนได้ที่ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลจำนวนสามสิบเตียงเครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องกระตุ้นการแข็งตัว มีดไฟฟ้า กล้องเอนโดสโคปนับร้อยกล่อง...เครื่องมือผ่าตัดต่าง ๆ คีมห้ามเลือด กรรไกรตัดชิ้นเนื้อ มีดผ่าตัด กรรไกรกระดูก...ที่มากที่สุดก็คือผ้าพันแผล ผงยาห้ามเลือด ยาปฏิชีวนะ ยาบาดทะยัก...เวลานี้ ยาใช้หมดเกลี้ยงแล้ว ซ่งอวิ๋นฮุยทรมานจนจะเป็นบ้าเพราะเสียงคร่ำครวญเจ็บปวดของทหารเขาพาหมอหลิน หมอประจำกองทัพสวี และหมอประจำกองทัพซุนที่ผมขาวโพลน...คนกลุ่มใหญ่รีบวิ่งเข้าไปในกระโจมทันทีเมื่อพวกเขาเห็นเครื่องมือที่ล้ำหน้า อุปกรณ์ที่จำเป็นในการผ่าตัดกระดูกและข้อ และเครื่องมือผ่าตัด...แม้กระทั่งเตียงผ่าตัดก็เตรียมพร้อมแล้วอารมณ์ของหมอหลายสิบคนก็พังทลายในพริบตา นั่งลงบนพื้นพร้อมร้องไห้ออกมาร้องไห้อยู่ก็หัวเราะออกมาเสียงดังทุกคนเหมือนกับเป็นบ้าไปแล้ว!บางคนกระโจนเข้าไปอย่างตื่นเต้น กอดยาผงขาวยุนนานแล้วร้องไห้ริมฝีปากและฟันสั่นเทาพร้อมร้องว่า “รอดแล้ว สามพันกว่าชีวิต ในที่สุดก็รอดแล้ว”
ในเมื่อจะให้รางวัลเหล่าทหาร และยังมีของที่กองทัพต้องใช้อีก เธอเลยซื้อมาให้ครบทั้งหมด ไปสั่งสต๊อกกระติกเก็บความร้อนสุญญากาศสองชั้น จากร้านแบรนด์กระติกน้ำ ทั้งหมดหนึ่งหมื่นใบ ซื้อวิทยุสื่อสารหนึ่งร้อยเครื่องและลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่อีกยี่สิบตัว จากร้านวิทยุขายสื่อสาร และยังสั่งซื้อกล้องวงจรปิดที่สามารถชาร์จแบตจากแสงอาทิตย์ได้ด้วยตัวเองอีกห้าสิบตัว เย่มู่มู่แกะแท็บเล็ตตัวใหม่ออก แล้วดาวน์โหลดคลิปวิธีการใช้สบู่ แชมพู ครีมอาบน้ำ และผงซักฟอกลงไป แม้แต่โฆษณาของสบู่และครีมอาบน้ำ ที่มีนางแบบต่างประเทศหน้าตาดีกำลังกึ่งเปลือยอย่างเย้ายวน ก็ส่งไปด้วย ไม่รู้ว่าเมื่อคนโบราณที่แสนจะอนุรักษนิยมได้เห็นแล้ว จะคิดอย่างไร เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่มู่มู่ก็หัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์แล้ว จากนั้นเธอก็ดาวน์โหลดคลิปอธิบายการปรับคลื่นความถี่ วิธีการใช้ และการชาร์จแบตวิทยุสื่อสารลงไป หลังจากเธอดาวน์โหลดคลิปการติดตั้งของทุกอย่างลงไปแล้ว ก็ส่งแท็บเล็ตไป สุดท้าย เธอก็เขียนรายการสิ่งของยาวเหยียดออกมาใบหนึ่ง สบู่หอม ห้าหมื่นกล่อง แชมพู ครีมอาบน้ำ ผงซักฟอก…อย่างละสี่หมื่นแปดพันขวด โถเคลือบเซ
คราวนี้ ทุกคนต่างพากันมารุมล้อมอยู่รอบกายของมั่วฝาน เพื่อตรวจดูวิธีการใช้สิ่งของต่าง ๆ วิทยุสื่อสาร แม้คนสองคนจะอยู่ไกลก็สามารถพูดคุยกันได้ พวกเขาปากอ้าตาค้าง นี่มิใช่หูพันลี้หรือ? ในตอนที่เห็นลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ ถูกเปิดกระจายเสียงไปทั่ว พวกเขาก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เมื่อมีลำโพงประกาศเสียงไว้กระจายเสียง วันหลังเมื่อจะปลุกให้เหล่าทหารตื่นขึ้นมาฝึกซ้อม ก็ไม่จำเป็นต้องไปไล่ปลุก ฉุด ๆ ลาก ๆ ให้ลุกจากเตียงทีละคนแล้ว ตอนนี้ เมื่อตะโกนผ่านลำโพงประกาศเสียง ทุกคนล้วนก็ต้องตื่นขึ้นมา สุดท้าย เป็นกล้องวงจรปิด หลังจากติดตั้งเสร็จ และเชื่อมต่อสัญญาณ ก็สามารถตรวจสอบภาพเหตุการณ์ด้านล่างของกล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลา นี่มิใช่เทคโนโลยีชั้นสูงเช่นเดียวกับอากาศยานไร้คนขับหรือ? อากาศยานไร้คนขับสามารถบินได้ แต่กล้องวงจรปิดบินไม่ได้ แต่สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งนี้ใช้งานได้ในทางปฏิบัติกว่าอากาศยานไร้คนขับมากนัก สามารถอาศัยแสงอาทิตย์เติมพลังงาน ไม่หวาดเกรงต่อพายุและสายฝน แถมยังสามารถมองเห็นภาพเหตุการณ์เบื้องล่างของกล้องวงจรปิดอีก อากาศยานไร้คนขับสามารถบินได้แค่ครึ่งชั่วยาม แต่กล้
เฉินขุยยืนอยู่บนบันไดกำแพงเมือง ยืดเอวตรง ยกลำโพงประกาศเสียงขึ้นมาตะโกนเสียงดังว่า “ข้าคือแม่ทัพเฉินขุย ผู้ที่ได้ยินจงมาทางนี้ให้หมด!” เหล่าทหารที่กำลังหลบแดดอยู่ใต้กำแพงเมือง ต่างก็พากันล้อมเข้ามาบริเวณด้านล่างของบันได พวกเขามองแตรรูปทรงประหลาดที่อยู่ในมือของท่านแม่ทัพเฉินขุยอย่างสงสัย จากนั้นก็พากันวิพากษ์วิจารณ์กันเบา ๆ เดิมเสียงของเฉินขุยก็ดังกังวานอยู่แล้ว เมื่อผ่านการกระจายเสียงของลำโพงประกาศเสียง พลังการทะลุทะลวงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ยิ่งส่งออกไปได้ไกลขึ้น ยิ่งอยู่ใกล้ ก็ยิ่งดังบาดหู ตึงตึงตึง เฉินอู่ใช้ด้ามดาบ เคาะส่วนล่างของโถเคลือบเซรามิก ทำให้เกิดเสียงออกมา “เร็วเข้า ท่านแม่ทัพจะแจกรางวัลแล้ว!” ทันทีที่ได้ยินคำว่ารางวัล เหล่าทหารที่ได้ยินต่างก็เคลื่อนไหวทันที รวมตัวกันเข้ามาอย่างกระตือรือร้น บรรดาราษฎรต่างก็ยืดคอสอดส่องเข้ามาอย่างอยากรู้อยากเห็น เฉินขุยหยิบสบู่หอมก้อนหนึ่งออกมา เมื่อเปิดห่อบรรจุภัณฑ์ออก สบู่ที่มีสีสันประดุจหยกก็กำจายกลิ่นหอมจาง ๆ ที่ให้ความรู้สึกสงบและสง่างามออกมาทันที “เจ้าสิ่งเล็ก ๆ นี่คือสบู่หอม ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าดูว่าต้องใช้อย่างไร
เหล่าทหารที่ฆ่าไปมากกว่าสี่คน ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจออกมาทันที “ดีเหลือเกิน ข้าฆ่าถึงแล้ว!” “ฮ่าฮ่า ข้าก็ฆ่าครบแล้วเหมือนกัน เอาแชมพูกลับบ้านไปให้เมียได้แล้ว” ผู้ที่ไม่ได้สังหาร หรือสังหารไม่ครบจำนวนคน แต่ละคนต่างก็พากันคอตก ทอดถอนใจ จากนั้น เฉินอู่ก็แนะนำโถเคลือบเซรามิก อ่างใบนี้ เนื้อเป็นเหล็กกล้า หนักหนึ่งชั่ง เนื้อเหล็กที่ใช้หนาอย่างมาก ขอเพียงเด็ดหัวศัตรูได้ถึงแปดคนก็สามารถแลกไปได้ เมื่อทุกคนได้ยินว่าทำจากเหล็กกล้า ต่างก็พากันล้อมเข้าไปทันที ทุกคนลูบไปคนละที ใช้มือลองเคาะ จากนั้นก็มีเสียงโลหะดังออกมา เป็นดั่งที่เฉินอู่กล่าว เนื้อเป็นเหล็กกล้าจริง ๆ ภายนอกเคลือบด้วยภาพสีสันสดใส ทั้งหนาและทนทาน… นี่คือเหล็กกล้าเลยนะ! หลายเดือนก่อน อาวุธของพวกเขายังทำจากทองสัมฤทธิ์เลย ถ้วยชามรามไหในบ้านของราษฎร ส่วนใหญ่ทำจากไม้ เหล่าพ่อค้าจึงจะใช้วัตถุดิบที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ ผู้ที่มีความมั่งคั่งอย่างยิ่งในเมืองหลวงเท่านั้น จึงจะสามารถใช้ของที่ทำจากเหล็กกล้าที่สุดแสนแพงได้ แต่จำนวนก็มีน้อยเหลือแสน ยามนี้ ของเพียงสังหารศัตรูได้แปดคน ก็จะสามารถแลกอ่างที่ทำจากเหล็กกล้าได้แ
สุภาพบุรุษ แก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย! เหยียบอากาศยานไร้คนขับของเขาจนแหลก เขาสามารถจดจำความแค้นนี้ไปได้ตลอดชีวิตเลยล่ะ! รัฐทายาทน้อยจะใช้ลูกไม้เล่นงานคนอีกแล้ว กลางดึก มั่วฝานให้คนเตรียมอากาศยานไร้คนขับไว้อย่างเรียบร้อย อากาศยานไร้คนขับตัวหนึ่งบินโคลงเคลงไปมาออกไป บนตัวมันแขวนประทัดเส้นยาว ตามน้ำหนักสูงสุดที่มันรับได้ไว้หลายสาย อากาศยานไร้คนขับตัวที่สอง แขวนถ่านติดไฟแท่งยาวไว้แท่งหนึ่ง ออกเดินทางตามไป อากาศยานไร้คนขับตัวที่สาม แขวนดาบอันคมกริบไว้เล่มหนึ่ง อากาศยานไร้คนขับตัวที่สี่แขวนลำโพงประกาศเสียงไว้! ในราตรีอันเงียบสงบ ทหารชาวหมานทั้งหมดต่างพากันเข้าสู่นิทราอันหอมหวาน… หลังประทัดที่แขวนไว้บนอากาศยานไร้คนขับถูกถ่านไม้จุดติดไฟขึ้นมา ก็ระเบิดดังปึงปังขึ้นกลางอากาศ เหนือคอกม้ากองทัพชาวหมาน ดาบยาวอันคมกริบตัดประทัดจนขาด ประทัดตกลงกลางคอกม้า เสียงประทัดที่ดังกึกก้องติดต่อกัน ปลุกม้าศึกที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมา แล้ววิ่งเตลิดไปทั่วด้วยความตื่นตระหนก เมื่อทหารชาวหมานได้ยินเสียงดัง ก็คิดว่ามีระเบิดมาอีกแล้ว ตอนนี้ ภายในใจของพวกเขาได้เกิดความหวาดหวั่นต่อระเบิดขึ้นแล้ว เพี
หลัวซู่ชักดาบออกมา ผ่าร่างทหารที่มาส่งข่าวในดาบเดียว ทหารผู้นั้นเลือดสาดกระจายในทันที ทหารยามทุกนายพากันคุกเข่าลง แนบศีรษะลงกับพื้น ร่างกายสั่นสะท้าน หลัวซู่แหงนหน้าขึ้นฟ้า กู่ร้องออกมาเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยวและอาวรณ์ “จ้านเฉิงอิ้น ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” “อ๊ากกกก…” “ทหาร กลับเมือง ต่อให้ข้าต้องตาย ก็จะขวางทางกลับของจ้านเฉิงอิ้นให้ได้!” เมื่อทหารชาวหมานได้ยินท่านอ๋องพูดว่ากลับเมือง ก็พากันถอนใจยาวด้วยความโล่งอก พวกเขาไม่อยากตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวน ในบรรดาพวกเขา มีผู้ใดกัน ที่บนมือไม่เคยเปื้อนเลือดชาวฮั่น พวกเขาไม่เคยเห็นชาวฮั่นเป็นคนมาก่อน ในสายตาของพวกเขา ชาวฮั่นก็เป็นเพียงเสบียงอาหาร เป็นแกะที่มีสองขาเท่านั้น แต่ยามนี้ กองทัพตระกูลจ้านแห่งด่านเจิ้นกวน ทำให้พวกเขาได้รู้ว่า สิ่งใดคือความโหดร้ายที่แท้จริง! เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ถูกระเบิดจนแขนขาขาดลดไป ก็ถือว่าดีแล้ว เพราะพวกเขาเคยเห็นด้วยตาตนเอง โดยไม่อาจทำสิ่งใดได้ ในยามที่ผู้มีชีวิตอยู่เบื้องหน้า ถูกระเบิดจนกลายเป็นหมอกเลือดในเสี้ยววินาที ร่างเนื
“คุณหนูเย่ นอนไม่หลับ? มาสนุกไหมคะ?”“ไม่ละ พี่เวินลี่ มีทนายที่พึ่งพาได้แนะนำบ้างไหม?”เมื่อพูดถึงทนาย เวินลี่ก็ไปหาที่เงียบ ๆ พูดคุยรายละเอียดกับเธอ“เกิดอะไรขึ้นเหรอค? หูลูหมิงออกมาจากสถานีตำรวจแล้วไม่ใช่เหรอ? หรือว่าอีกฝ่ายฟ้อง?”“ฮึ เรื่องที่คุณนายใหญ่ลู่จ้างวานฆ่าคน แพร่ออกไปจนคนรู้กันทั่ว พวกเขายังคิดอะไรแผลง ๆ อีก!”“เรื่องนี้เธอถูกสับจนเละแล้ว พลิกคดีไม่ได้!”“หากทนายของอีกฝ่ายตามตอแยคุณ ให้คุณเซ็นหนังสือยอมความ จำเอาไว้นะคะ อย่าเซ็นเป็นอันขาด!”“โอเคค่ะ พี่เวินลี่ เป็นเรื่องอื่น ฟู่ลี่กรุ๊ปที่พ่อฉันทิ้งเอาไว้ให้ เกือบจะหนึ่งปีแล้วยังไม่แบ่งเงินปันผลให้ฉันเลย ฉันรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากล เมื่อกี้โทรหาทนายทนายคนที่รับผิดชอบเรื่องกฎหมายของฟู่ลี่กรุ๊ป เขาแนะนำให้ฉันขายหุ้นทิ้ง!”“แต่ว่า บริษัทเป็นสิ่งที่พ่อฉันทุ่มเท!!”เวินลี่ได้ยินดังนั้นก็เดือดดาลจนโพล่งขำ“แม้ฟู่ลี่กรุ๊ปจะไม่ใช่บริษัทเมืองหลวง แต่ลูกค้าประจำที่อยู่ในบอร์ดหุ้น เนื่องจากบริษัทลูกที่ทำเรื่องพลังงานใหม่ ทะลุลิมิตติดต่อกันเจ็ดบอร์ดแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะไม่แบ่งเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นใหญ่?”“ฮ่า หนำซ้ำยังคิดเตะ
เย่มู่มู่ทำงานทั้งคืนจนถึงตีสองหาบริษัทเพาะพันธุ์ขนาดใหญ่สี่แห่ง บริษัทเพาะพันธุ์ในพื้นที่ มั่นใจว่าไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรมของเมล็ดพันธุ์ และสั่งออเดอร์ สั่งซื้อปริมาณล็อตใหญ่ติดต่อโรงงานอุปกรณ์การเกษตรขนาดใหญ่สามแห่ง โรงงานอุปกรณ์การเกษตรทางเหนือสายพันธุ์เยอะ ใช้สะดวกเป็นอย่างมากรถแทร็กเตอร์ เครื่องไถนาและเครื่องหว่านเมล็ดพันธุ์...มีครบทุกอย่างต่อให้เป็นอุปกรณ์เพาะปลูกเหล็กขนาดเล็กแบบบังคับมือ ก็มีครบทุกอย่างเย่มู่มู่กวาดสินค้าทั้งหมดจนเรียบ กระทั่งถามในสต็อก กวาดสต็อกที่ค้างของทั้งสามแห่งจนเรียบเช่นเดิมยังมีโรงงานปุ๋ย เธอสั่งกับโรงงานปุ๋ยโรงงานใหญ่สองแห่งหนึ่งในนั้นกิจการไปได้ไม่ค่อยสวย ในสต็อกค้างสินค้าไว้เยอะมาก สินค้าที่ขายออกไป ไม่ได้รับการชำระเงินชักหน้าไม่ถึงหลังแล้วเย่มู่มู่ไม่เพียงเหมาสต็อกจนเกลี้ยง ทว่ายังสั่งออเดอร์หนึ่งพันห้าร้อยล้านขอให้โรงงานส่งสินค้าตลอดทั้งปี ทำให้โรงงานแห่งนี้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งเถ้าแก่รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณอย่างสุดซึ้ง จะเลี้ยงข้าวเย่มู่มู่ให้ได้ ทว่าถูกเธอปฏิเสธกลับไป เธอบอกเถ้าแก่ไปว่า คุณภาพของปุ๋ยไม่มีปัญหา จะเพิ่มปริมาณการ
เย่มู่มู่เพิ่งกลับถึงบ้าน เมื่อเธอกลับมาก็ให้คนใช้และบอดี้การ์ดช่วยกันย้ายขนมปัง และขนมปังแข็งที่ซื้อมาวันนี้กลับโกดังทุกครั้งที่เธอซื้อของข้างนอก มักจะเหลือไว้บนรถหนึ่งถึงสองลังเสมอ ให้คนย้ายกลับโกดังมาเรียนที่เมืองหลวง เพิ่งจะแค่สิบกว่าวัน โกดังก็มีของกองเต็มไปหมดแล้วเหล่าคนรับใช้ไม่เข้าใจระดับความบ้าคลั่งในการตุนของเย่มู่มู่เป็นอย่างมาก ทำเป็นว่าคุณหนูเย่เสพติดการช็อปปิงเธอได้ยินเสียงแหบแห้งของจ้านเฉิงอิ้น พร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้น กล่าวว่า : ท่านเทพ ขอบคุณนะขอรับ!เธอก็ฉีกยิ้มออกมา“จ้านเฉิงอิ้น ข้าดีใจมาก! มู่ฉีซิวตายแล้ว แปลว่าเราเปลี่ยนประวัติศาสตร์แล้ว?”“เขาซี้แหงแก๋แล้ว ถูกระเบิดจนสลายหายไปเป็นเถ้าถ่าน ฉะนั้น...เจ้าคงไม่ตายแล้ว ใช่หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นฉีกยิ้มในสายตามีความอาลัยอาวรณ์ เขากล่าวขึ้นว่า “ใช่ขอรับ ข้าจะไม่ตาย!”“เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่? เจ้าประสบความสำเร็จไม่น้อยไปกว่ากว้านจวินโหวเลย เจ้ารวมให้เป็นหนึ่งได้ล่วงหน้าก่อนจริง ๆ จะต้องกลายเป็นจิ๋นซีฮ่องเต้! จะถูกพิมพ์ด้วยตัวหนาและตัวใหญ่ในหนังสือประวัติศาสตร์ แม้จะผ่านไปหนึ่งพันปี สองพันปี หนึ่
ทหารหลายพันนายรีบขึ้นรถทันที พวกเขาง้างธนู ยิงปืนไรเฟิลใส่ทหารเผ่าหมานที่เข้ามาที่รถ...แม้ทหารเผ่าหมานจะขี่ม้า ทว่า เมื่อรถบรรทุกเร่งความเร็ว ม้าก็ยังตามไม่ทันอยู่ดียิ่งตามยิ่งห่างไกลไม่พูดถึง พวกเขายิงปืนในห้อง ทำให้ทหารม้าของเผ่าหมานล้มลงไม่น้อยทว่าที่ล้มลงเยอะกว่าคือม้าศึกตามออกมาครั้งหนึ่ง มีม้าศึกตายนับพันตัว กับอีกหลายร้อยคนทว่ากองทัพตระกูลจ้านกลับไม่ถูกฆ่าเลยแม้แต่คนเดียวแม้พวกเขาอยู่บนหลังม้าก็ยังยิงธนูได้ ทว่าระยะของการยิงธนู ไกลไม่สู้หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...ในตอนที่พวกเขากลับมารายงานอย่างทุลักทุเล แล้วหลัวซู่ได้ยินว่าฆ่าไม่ตายเลยแม้แต่คนเดียว ก็เดือดดาลจนฟันทิ้งเสียตรงนั้นเลย พร้อมกับนำทหารไล่ล่าแม่ทัพของกองทัพตระกูลจ้าน!นี่ต่างจากบทที่เขาจัดวางเอาไว้!ทำไมกัน?ทำไมกองทัพตระกูลจ้านถึงมีอาวุธที่ล้ำหน้ามากมายขนาดนั้นทำไมถึงได้มีกรงขนาดใหญ่ที่วิ่งเร็วเสียยิ่งกว่าม้า!ไม่ง่ายเลยกว่าพวกเขาจะหาวัตถุระเบิดมาได้!สุดท้าย กองทัพตระกูลจ้านก็เปลี่ยนอาวุธที่ร้ายกาจกว่า และมีประสิทธิภาพสูงกว่าออกมาไม่ เขาบุกมาจนถึงบริเวณใกล้กับเมืองหลวงของต้าฉี่แล้ว เห็นได้ว่าจะสำเร็จอ
เหล่าทหารยังไม่ทันได้เปล่งเสียงร้อง ก็ร่วงลงมาจากหอคอยสูงและเสียชีวิตในทันทีหน้าผากของเขาถูกแรงระเบิดฉีกจนแหลกเละเหล่าทหารเผ่าหมานจำนวนมากพากันกรูเข้าไปดูเมื่อได้เห็นสภาพศพ ทุกคนล้วนเผยสีหน้าตื่นตระหนกนี่คืออาวุธลับอาวุธลับชั้นยอดที่มีระยะยิงไกลพวกเขาแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระสุนถูกยิงมาจากทิศไหน และเป้าหมายที่แท้จริงคือใครผู้คนล้มตายไปโดยไม่ทันได้รู้ตัวแม้แต่น้อยจะสู้อย่างไร?นี่มันน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!หลัวซู่เห็นเหล่าทหารพากันล้อมเข้ามา เขาตะโกนลั่น เสียงนั้นดุดันจนฝูงชนรีบแตกกระเจิงออกจากกันเขาก้าวไปหาศพของทหารที่เสียชีวิตเมื่อเห็นหน้าผากที่ถูกระเบิดเปิดเป็นโพรงดำสนิท เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุดเขาชักดาบออกมา ก่อนจะฟันลงไปตรงกะโหลกในสมองของทหารคนนั้น มีหัวกระสุนขนาดใหญ่ที่ระเบิดอยู่ภายในทุกคนที่ถูกยิง โดนเข้าทีเดียวก็ตายคาที่!สีหน้าหลัวซู่ซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้างจนแทบฉีกขาด เขาจ้องมองกระสุนลูกซองแน่นิ่ง“นี่มัน...”นี่มันอะไรกันแน่?ทำไมมันถึงสามารถฆ่าทหารยามของเขาได้จากระยะไกล?เดิมที ศึกครั้งนี้เขามั่นใจเต็มสิบส่วนว่าจะสังหารจ้านเฉิงอิ้นได้ เพื่อแก้แ
จ้านเฉิงอิ้นเหลือบมองหลัวซู่ที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พบว่าอากาศยานไร้คนขับกำลังบินอยู่แต่เขาไม่ได้ยิงมันตก เขาเฉยเมย ราวกับจงใจปล่อยให้มันบันทึกภาพเหตุการณ์อันโหดร้ายนี้เอาไว้แสดงว่าเขากำลัง วางกับดักล่อเสือออกจากถ้ำอย่างนั้นหรือ?ต้องการให้กองทัพตระกูลจ้านโกรธจนขาดสติ ลุกขึ้นมาโจมตีเผ่าหมานด้วยไฟแค้นเต็มอกทำไมกัน?เป็นเพราะพวกนั้นเพิ่งผ่านศึกหนักกับกองทัพธงเหลืองมา จำนวนทหารจึงอ่อนแอลงแล้วอย่างนั้นหรือเมื่อตรวจสอบจำนวนพลเมื่อครู่ พบว่ามีผู้เสียชีวิตกว่าพันคน และบาดเจ็บอีกสามพันตอนนี้ กำลังพลที่ยังสามารถสู้รบได้ เหลือเพียงสองหมื่นหกพันนายกองทัพย่อมอ่อนแอลงไปบ้างแต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างให้เผ่าหมานท้าทายได้!พวกมันกล้าท้าทายเช่นนี้ แสดงว่าต้องมีอะไรให้มั่นใจ ถึงได้ทำให้กล้าบุ่มบ่ามขนาดนี้อะไรคือความมั่นใจของหลัวซู่กันแน่ ถึงได้กล้ากระตุ้นโทสะเช่นนี้?ซ่งตั๋ว เฉินอู่ และมั่วฝานต่างจ้องมองจ้านเฉิงอิ้น เฝ้ารอให้เขาออกคำสั่งเคลื่อนทัพแต่จ้านเฉิงอิ้นกลับกล่าวว่า “เราใช้ยุทธวิธีแบบกองโจรไม่ได้ และห้ามบุกจู่โจมโดยตรง!”เฉินอู่เอ่ยขึ้นทันที “ถ้าอย่างนั้นจะ
“กองทัพตระกูลจ้านก็จะอยู่รอดต่อไปได้ รัฐทายาทก็จะไม่ต้องมาด่วนจากไปก่อนวัยอันควร!”หลูซียังกล่าวเสริมด้วยความยินดีว่า “ไม่เพียงแต่จะไม่ด่วนจากไปก่อนวัยอันควร เขายังสามารถสร้างชื่อเสียงเกียรติยศได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งบารมีบรรพบุรุษ!”เย่มู่มู่เห็นพี่น้องทั้งสองดีใจขนาดนี้ “เอาล่ะ วันนี้พวกเราไปโรงงานผลิตอาหารที่ชานเมืองกัน ไปดูว่ามีสินค้าในคลังเป็นยังไงบ้าง”ถ้ามีสินค้าในคลังมาก ก็จะซื้อทั้งหมดเก็บไว้ในที่ว่างเปล่าของแจกันเย่มู่มู่ตรวจสอบแล้ว บริเวณชานเมืองมีนิคมอุตสาหกรรมอาหาร ทำขนมปัง เค้ก บิสกิตอัดแท่ง...แบรนด์ดังในประเทศ โรงงานล้วนตั้งอยู่ที่ชานเมืองสะดวกต่อเธอในการจัดซื้ออย่างยิ่ง!พวกเขามุ่งหน้าไปยังชานเมืองทันทีฮ่าวอี้ขับรถตามหลังมาอย่างลับ ๆ พร้อมกับหงเหว่ยไม่กล้าเข้าใกล้มากเกินไป เพราะหลูซีกับหลูหมิงมีความระแวดระวังตัวสูงมากหงเหว่ยเห็นเขาขับรถตาม ก็กินข้าวกล่องไปด้วย พูดไปด้วยว่า “พี่ ไม่ต้องห่วง มีพวกเขาสองคนอยู่ คุณหนูเย่ไม่มีทางเป็นอะไรหรอก!”แค่หลูซีคนเดียวพวกเขาก็สู้ไม่ได้แล้ว นี่ยังมีหลูหมิงอีกคน นอกจากจะใช้อาวุธ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีทางชนะได้ฮ่าว
คุณนายใหญ่ลู่ผู้ร่ำรวย กำลังช็อปปิงในห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แย่งกระเป๋ากับคุณนายที่เธอไม่ชอบหน้ามาโดยตลอด...ทั้งคู่ทะเลาะกันเพราะกระเป๋าแอร์เมสเบอร์กิ้นหนังสัตว์หายาก ทำให้คุณนายคนอื่น ๆ สนใจเข้ามาดูเหตุการณ์ ในขณะนั้นเอง ตำรวจก็ปรากฏตัวขึ้นและใส่กุญแจมือเธอเธอร้องโวยวาย กล่าวหาว่าพวกเขาจับผิดคนแต่ตำรวจกล่าวว่า “คุณจ้างวานฆ่าคน เราไม่ได้จับผิดตัว!”การจ้างวานฆ่าคนถูกเปิดเผยออกไปโดยคุณนายที่มีปากเสียงกับเธอตอนนี้ คนในแวดวงสังคมชั้นสูงของเมืองหลวง ต่างก็รู้ว่าเธอจ้างวานฆ่าคนภาพถ่ายของเธอที่ถูกสวมกุญแจมือ และถูกนำตัวออกไป ถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกวงสังคมทันทีที่เธอก้าวขึ้นรถตำรวจ หุ้นของกลุ่มบริษัทตระกูลลู่ก็เริ่มดิ่งลงเงินทุนหลายพันล้านไหลออกเมื่อเธอถูกนำตัวมาถึงหน้าสถานีตำรวจ ราคาหุ้นก็ร่วงลงต่ำสุดขีดขณะที่เธอถูกพาตัวมาถึงหน้าสถานีตำรวจ เธอก็ยังคงอาละวาด ไม่ยอมเข้าไปข้างใน บอกว่าจะโทรศัพท์หาทนายความ และสามีไม่สนใจภาพลักษณ์ของตนเองแม้แต่น้อย ด้านหลังยังมีนักข่าวตามถ่ายภาพฮ่าวอี้มองดูคุณหญิงลู่ มุมปากยกยิ้ม “ถึงคราวซวยแล้วแท้ ๆ ยังจะสร้างเรื่องอีก!”หงเหว
“ฉันจะไปส่งของขวัญเอง นายวางเอาไว้เถอะ เดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”*ประมาณสิบกว่านาทีต่อมา เย่มู่มู่เปลี่ยนเป็นชุดกีฬาสีดำ สวมฮู้ดคลุมศีรษะ อุ้มแจกันขึ้นรถเมย์บัค แล้วออกเดินทางเธอโทรหาทนายก่อน จากนั้นดำเนินการเรื่องเอกสารให้เสร็จ ถูกตำหนิและอบรมเป็นพิเศษ ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกมาแน่นอนว่า มีบอดี้การ์ดหงเหว่ยที่คอยดูแลจัดการเรื่องทั้งหมดเขาเฝ้าอยู่ที่สถานีตำรวจตลอดเมื่อเห็นรถของเย่มู่มู่ขับเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นทันที“คุณหนูเย่ เขาไม่เป็นไร อารมณ์ค่อนข้างคงที่ ทางตำรวจที่นี่ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจอะไรมาก แค่ตำหนิและอบรมไปหน่อย ยังให้ดูระเบียบข้อบังคับด้านความปลอดภัย แล้วสั่งให้ท่องจำด้วย!”“ตำรวจบอกว่า เขาใช้กำลังมากเกินไป คนประเภทนี้ หากไม่ถูกอบรมให้ดี แล้วปล่อยตัวไป อาจเป็นภัยต่อสังคมได้!”เย่มู่มู่ถามเสียงเรียบ “ตอนนี้ออกมาแล้วหรือยัง?”“กำลังเซ็นเอกสารขั้นสุดท้ายอยู่ครับ”เย่มู่มู่ยื่นซองอั่งเปาให้เขา “คุณไปหาอะไรดี ๆ กินเถอะ ฉันจะรอเขาออกมาเอง”หงเหว่ยเกาหัว เห็นรถของหัวหน้าจอดอยู่หน้าโรงพักเขารู้สึกแปลกใจ หัวหน้าตามมาด้วยเหรอ? แต่ทำไมถึงไม่มาพร้อมกับคุณหนูเย่ล่ะ