“ฉันคือฉู่เฉิน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”ฉู่เฉินเดินมาที่มุมทางเดิน พูดขึ้นใส่จงอาหู่ที่อยู่ปลายสาย“คุณฉู่ พวกเพื่อนของผมต้องการซื้อยาบำรุงปราณบางส่วน ไม่มีคำอนุญาตจากคุณ ผมจะกล้าตัดสินใจได้อย่างไรครับ? คุณว่าขายได้ไหมครับ?”ปลายสาย จงอาหู่พูดด้วยน้ำเสียงเคารพฉู่เฉินพยักหน้าพร้อมพูดว่า “ได้ แต่ต้องควบคุมให้ขายแค่สิบเม็ดนะ ส่วนเรื่องราคานายก็ลองพิจารณาเองแล้วกัน”พูดจบฉู่เฉินก็วางสายลง เดินกลับไปยังห้องเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินกลับมาแล้ว ซูซูลูบไหล่ของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “คุณฉู่คะ ทักษะการแพทย์ของคุณดีขนาดนั้น ช่วยสอนฉันนวดหน่อยได้ไหมคะ”“พวกเราที่ทำงานเป็นพิธีกรเป็นโรคกระดูกสันหลังหนักมาก เพียงแค่นั่งนานหน่อย คอและไหล่ก็ปวดไปหมดเลยค่ะ”ฉู่เฉินได้ยินดังนั้นจึงยิ้มอย่างเรียบนิ่งแล้วพูดว่า “ง่ายนิดเดียวครับ เขยิบมาครับ เดี๋ยวผมจะสอนคุณ”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซูซูก็ยิ้มออกมา คลานเข่าไปข้างๆ ฉู่เฉิน แผ่นหลังหยกเนียนทั้งหมดปรากฏต่อหน้าของฉู่เฉิน “ขอบคุณค่ะคุณฉู่”ฉู่เฉินนำพลังวิญญาณโคจรไว้ในมือ กดเข้าไปที่คอหยกอ่อนนุ่มของซูซูด้วยแรงกดและการถูที่ปลายนิ้วของฉู่เฉิน ในเวลาแค่แพล็
“อ๊ะ? ขอโทษค่ะผู้จัดการ ฉัน.. ฉันกำลังจะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ...”เสียวเสวี่ยพนักงานหญิงคนนั้นกลืนน้ำลายลงคออย่างแรง มือข้างหนึ่งกุมใบหน้าที่เขินอายไว้ รีบเดินไปยังอีกห้องหนึ่ง......อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องของภัตตาคารพาราเมาท์ การแย่งชิงยาบำรุงปราณก็เข้าสู่ขั้นที่ดุเดือดหลี่ฮุยเหลือบมองไปที่สวี่เทียนหลาย เมื่อเห็นว่าชายขี้เหนียวแบบเขา ยังเสนอราคาหนึ่งเม็ดสองล้านห้า นี่ก็แสดงให้เห็นปัญหา!เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลี่ฮุยก็หัวเราะออกมา พูดกับสวี่เทียนหลายว่า “คุณชายสวี่ คุณกินไปแล้วหนึ่งเม็ด ก็ไม่ต้องมาแย่งกับคนอื่นแล้ว ให้พวกเขาได้ลิ้มลองอย่างทั่วถึงเถอะ”พูดจบ ก็หันหน้าไปหาจงอาหู่พูดขึ้นมาว่า “อาหู่ นายสบายใจเถอะ พวกเราไม่มีทางทำให้นายขาดทุนหรอก คุณชายสวี่เสนอสองล้านห้า ฉันให้สามล้านเป็นไง?”“ฉันให้สามล้านห้า!”“สามล้านเจ็ดแสนห้าหมื่น!”“สี่ล้าน!”ฉิบหาย!เมื่อหลี่ฮุยพูดจบ คนอื่นๆ อีกสามคนก็รีบเพิ่มราคาอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาหลี่ฮุยถึงกับช็อกไปเลยนี่แม่งเป็นการโก่งราคามาใช่เหรอ?“ห้าล้าน!”สวี่เทียนหลายตบโต๊ะด้วยความรุนแรง ถลึงตาโตที่เหมือนกระดิ่งทองแดง ตะคอกออกมาเสียงดัง“สิบล้าน!
ยาบำรุงปราณเป็นยาที่ถูกบันทึกในวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ เป็นแค่ยาลูกกลอนระดับต้นชนิดหนึ่งเท่านั้นเมื่อระดับพลังของฉู่เฉินยกระดับขึ้น ตอนนี้เขาสามารถหลอมยาฟื้นฟูวิญญาณระดับที่สูงยิ่งกว่าได้แล้วอีกหน่อยถ้าเขาจะเผยแพร่ยาฟื้นฟูวิญญาณ ก็คงจะขาดกำลังของสำนักเฟิ่งไปไม่ได้ ดังนั้นส่วนแบ่งยาบำรุงปราณให้เยอะหน่อยนั่นก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลโจวเทียนเฟิ่งเอาแต่คิดว่าเธอแก่กว่าฉู่เฉินหลายปีแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะเกินกว่าคำว่ามิตรภาพไปแล้ว แต่อย่างมากเธอก็เป็นได้แค่หนึ่งในคนรักที่มากมายของฉู่เฉินอีกทั้งยังเป็นแบบคนรักที่เขาไม่ให้ความสำคัญที่สุดอีกด้วยกลับคาดไม่ถึงว่าตัวเธอจะมีความสำคัญในใจฉู่เฉินเช่นนี้เหมือนที่โบราณเขาบอกไว้ว่า ในโลกของผู้ใหญ่ หากนำเวลาและเงินทองมอบให้ผู้อื่น แสดงว่านั่นคือรักที่แท้จริงฉู่เฉินถึงขั้นแบ่งปันความมั่งคั่งนี้ให้เธอ นั่นก็แสดงว่าตำแหน่งของเธอในใจของฉู่เฉินดูจะสูงกว่าที่เธอจินตนาการไว้ซะอีกเมื่อคิดได้ดังนั้น บนหน้าของโจวเทียนเฟิ่งก็ปรากฏให้เห็นรอยยิ้มที่น่าปีติหลังจากนำเงินหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าล้านโอนเข้าบัญชีฉู่เฉินแล้ว โจวเทียนเฟิ่งก็แบ่งให้จง
“บอกมา ยาลูกกลอนนี่แกซื้อมาจากที่ไหน!”สีหน้าของสวี่หมิงเทาเคร่งขรึม จ้องมองสวี่เทียนหลายด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ผม... ผมซื้อมาจากจงอาหู่ครับ”สวี่เทียนหลายไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นท่าทีของพ่อเขาที่เหมือนจะใช้กฎครอบครัวลงโทษเขา ทำเอาเขากลัวจนหัวหด รีบก้มหัวลงไป“จงอาหู่เหรอ? ไร้สาระน่า!”สวี่หมิงเทาตบโต๊ะดังปัง พูดขึ้นมาด้วยความโมโหว่า “มันเป็นแค่คนขับรถ จะเอายาลูกกลอนมาจากไหนกัน! หากยังไม่พูดความจริงอีกละก็ ลองดูว่าฉันจะตบแกให้ตายยังไง!”“พ่อครับ ที่ผมพูดคือความจริงทั้งหมด จงอาหู่บอกว่าเป็นโจวเทียนเฟิ่งที่เชิญแพทย์แผนจีนอาวุโสมอบยานี้ให้เขา ผม... ผมถามแล้วว่าแพทย์แผนจีนอาวุโสนั่นเป็นใคร แต่เขาไม่ยอมบอกครับ”“ยา... ยาพวกนี้ ผมแย่งมาด้วยราคาสูง... ถึงจะแย่งมาได้ครับ”สวี่เทียนหลายพูดด้วยท่าทางกล้ำกลืนหา?แพทย์แผนจีนอาวุโสงั้นเหรอ?ดวงตาของสวี่หมิงเทากลอกไปมาหลายที ส่ายหัวเล็กน้อยแม้ว่าจะเป็นแพทย์แผนจีนที่เก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถหลอมยาลูกกลอนที่ผลลัพธ์ดีขนาดนี้ได้ ไม่แน่คนที่เธอเชิญมาจะเป็น...นักหลอมยาเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ จู่ๆ สวี่หมิงเท
ไม่เพียงแค่ตระกูลสวี่ที่สถานการณ์เป็นแบบนี้ ตระกูลอื่นสถานการณ์ก็ไม่แตกต่างกันบ่ายวันนั้น สวี่เทียนหลาย หลี่ฮุยและคนอื่นๆ โทรหาจงอาหู่ติดต่อกันสองสามครั้งหากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน จงอาหู่อาจจะนัดประชุมเพื่อบอกความจริงกับคนอื่นๆ ตามความเป็นจริงว่าฉู่เฉินให้ยาบำรุงปราณเขามามากกว่าหนึ่งพันเม็ดแต่เมื่อหวนนึกถึงภาพในห้องนั้น จงอาหู่เปลี่ยนความคิดทันทีสีหน้ากล้ำกลืนพูดขึ้นมาว่า “โอ๊ย ยาบำรุงปราณในมือผมก็ไม่เยอะนะ ตอนกลางวันที่ทานข้าวก็ได้แบ่งให้ทุกคนไปหมดแล้ว หากต้องการสั่งเพิ่มอีก อย่างนั้นต้องไปขอร้องแพทย์แผนจีนอาวุโสคนนั้นแล้วล่ะครับ”“เรื่องที่จะขอร้องคนอื่นน่ะ...”สวี่เทียนหลายเมื่อได้ยินดังนั้นก็เข้าใจได้เลยทันที จึงโอนเงินเข้าบัญชีให้จงอาหู่ห้าร้อยล้าน“พี่หู่ ผมเชื่อใจพี่ที่สุด ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรต้องให้ผมห้าสิบเม็ดขึ้นไปนะครับ”สวี่เทียนหลายคำนวณเงินที่เหลืออยู่ในบัญชี คำนวณไว้ที่สามล้านชิ้น หากซื้อห้าสิบชิ้น ราคาเพียงเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน และยังสามารถทำกำไรมหาศาลได้ถึงสองร้อยห้าสิบล้านเมื่อมองย้อนกลับไปที่ยาบำรุงปราณที่เหลืออีกยี่สิบเม็ด เขาเก็บไว้สองสามเม็ดเพื่อตัวเอง แ
ที่จริงแล้วฉู่เฉินให้จงอาหู่ทำแบบนี้ตอนนี้ยาบำรุงปราณได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และก็ถึงเวลาที่จะใช้ไพ่เด็ดแล้วอีกทั้งความต้องการที่มหาศาลเช่นนี้ ก็ไม่อาจจะพึ่งแค่จงอาหู่คนเดียวได้ ต้องหาองค์กรที่เชื่อถือได้มาร่วมมือกันส่วนจงอาหู่แค่ต้องรับผิดชอบจัดจ่ายสินค้าให้องค์กรพวกนั้นก็พอเมื่อได้ยินดังนี้ ประธานเฉินที่อยู่อีกด้านหนึ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวางสายโทรศัพท์พร้อมกับถอนหายใจ......ในตอนนั้นเอง คฤหาสน์ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำในมือของหลี่ฮุยได้ถือยาบำรุงปราณไว้เม็ดหนึ่ง ยิ้มมุมปากเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาหลิ่วหรูเยียนเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่มาจีบหลิ่วหรูเยียนเช่นกันเพียงแต่ว่าหลี่ฮุยขึ้นชื่อเรื่องงามแต่รูป ในแวดวงชั้นสูงของเจียงจงมีใครไม่รู้บ้างว่าเขาเป็นคนสำส่อนบ้าง?ดังนั้นแม้ว่าเขาจะตามจีบหลิ่วหรูเยียนมาหนึ่งปีเต็มๆ แม้แต่รอยยิ้มหลิ่วหรูเยียนก็ยังไม่เคยมอบให้เขาแต่ครั้งนี้เขามีความมั่นใจว่าหลิ่วหรูเยียนจะยอมพลีกายให้เขาอย่างแน่นอนเพราะว่าอย่างไรสองแม่ลูกตระกูลหลิ่วก็มีฉู่ซื่อกรุ๊ป บริษัทนี้ก็ทำเกี่ยวกับธุรกิจวงการแพทย์เช่นกันช่วงนี้ยาบำรุงปราณเป็นที่นิยมไ
เมื่อได้ยินที่หลี่ฮุยพูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็ประหลาดใจเป็นอย่างมากหากผลลัพธ์ของยาบำรุงปราณอะไรนี่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น อย่างนั้นก็น่าจะโด่งดังไปทั่วประเทศแล้วไม่ใช่เหรอ?ในวงการแพทย์ใครที่จะไม่อยากคิดค้นยาที่ทั้งสามารถรักษาคนได้ ทั้งสามารถรักษาความอ่อนวัยไว้ได้บ้าง?แต่ปัญหาคือไม่ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถทำให้ความต้องการที่ซับซ้อนเช่นนี้สำเร็จได้ แม้แต่การรักษาโรคและการช่วยชีวิตก็ยากพอ ๆ กับการปีนขึ้นไปบนฟ้า“คุณชายหลี่ คุณคงไม่ได้หลอกฉันใช่ไหมคะ ก็อีแค่ยาบำรุงปราณเม็ดเล็กๆ นี่ จะมีผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ได้ยังไงคะ?”หลิ่วหรูเยียนจงใจพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแสหลี่ฮุยจะฟังไม่ได้ออกได้อย่างไร ก็ในเมื่อเห็นได้ชัดว่าหลิ่วหรูเยียนกำลังใช้วิธีการยั่วยุเขาอยู่?“หรูเยียน คุณไม่จำเป็นต้องมาใช้วิธียั่วยุกับผมหรอก ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณสามารถใช้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์แสดงมันออกมา และผมตั้งใจก็ลงทุนสิบห้าล้านเพื่อซื้อยานี้ ดังนั้นผมจะส่งให้คุณทางไปรษณีย์นะครับ”“เมื่อถึงตอนนั้นคุณก็ลองดูเองแล้วกันว่าจริงหรือปลอม”เมื่อได้ยินประโยคนั้น หลิ่วหรูเยียนก็ซึ้งใจกับหลี่ฮุยไม่น้อย
“แช่ออนเซ็นเหรอ? ถุย! แค่คิดก็น่าสะอิดสะเอียนแล้ว!”หลังจากที่เพิ่งวางสายไป หลิ่วหรูเยียนก็ก่นด่าที่โทรศัพท์อย่างหนัก หลังจากนั้นก็ขยับตัวลงจากเตียง ล้างหน้าล้างตาและแต่งตัวอย่างง่ายๆในตอนนี้เอง ก็มีเสียงออดดังเข้ามาหลิ่วหรูเยียนรีบเดินลงไปข้างล่าง เปิดประตูห้อง รับกล่องที่ห่อมาอย่างมิดชิดมาจากมือของพนักงานส่งของเปิดด้านนอกของพัสดุออก หยิบยาเม็ดเล็กๆ สีดำที่ใหญ่กว่าเม็ดถั่วเหลืองสามเท่าออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยม“นี่คือยาบำรุงปราณเหรอ?”หลิ่วหรูเยียนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง นำยาลูกกลอนเข้ามาใกล้จมูกแล้วดม ตามที่คาดไว้ กลิ่นหอมของยาหอมฟุ้งและสดชื่นเพียงแต่ว่ายาเม็ดเล็กๆ เม็ดเดียวแบบนี้ จะมีผลลัพธ์ที่น่าทึ่งขนาดนั้นเลยเหรอ?“หรูเยียน ในมือลูกถืออะไรไว้อยู่?”หลิ่วชิงเหอเพิ่งกลับมาจากบริษัท เมื่อเห็นว่าในมือของหลิ่วหรูเยียนถือยาเม็ดสีดำไว้ในมือเม็ดหนึ่ง ถึงถามขึ้นมาด้วยความไม่สบายใจ“ยาบำรุงปราณค่ะ”หลิ่วหรูเยียนพูดเรื่องที่หลี่ฮุยกล่าวมาให้ฟังตามความจริงอีกครั้ง พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วนำรูปของหลี่เฟิ่งหรูยื่นให้หลิ่วชิงเหอ“ยาบำรุงปราณนี่ยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยเหรอ? รู้ไ
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ