ไม่เพียงแค่ตระกูลสวี่ที่สถานการณ์เป็นแบบนี้ ตระกูลอื่นสถานการณ์ก็ไม่แตกต่างกันบ่ายวันนั้น สวี่เทียนหลาย หลี่ฮุยและคนอื่นๆ โทรหาจงอาหู่ติดต่อกันสองสามครั้งหากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน จงอาหู่อาจจะนัดประชุมเพื่อบอกความจริงกับคนอื่นๆ ตามความเป็นจริงว่าฉู่เฉินให้ยาบำรุงปราณเขามามากกว่าหนึ่งพันเม็ดแต่เมื่อหวนนึกถึงภาพในห้องนั้น จงอาหู่เปลี่ยนความคิดทันทีสีหน้ากล้ำกลืนพูดขึ้นมาว่า “โอ๊ย ยาบำรุงปราณในมือผมก็ไม่เยอะนะ ตอนกลางวันที่ทานข้าวก็ได้แบ่งให้ทุกคนไปหมดแล้ว หากต้องการสั่งเพิ่มอีก อย่างนั้นต้องไปขอร้องแพทย์แผนจีนอาวุโสคนนั้นแล้วล่ะครับ”“เรื่องที่จะขอร้องคนอื่นน่ะ...”สวี่เทียนหลายเมื่อได้ยินดังนั้นก็เข้าใจได้เลยทันที จึงโอนเงินเข้าบัญชีให้จงอาหู่ห้าร้อยล้าน“พี่หู่ ผมเชื่อใจพี่ที่สุด ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรต้องให้ผมห้าสิบเม็ดขึ้นไปนะครับ”สวี่เทียนหลายคำนวณเงินที่เหลืออยู่ในบัญชี คำนวณไว้ที่สามล้านชิ้น หากซื้อห้าสิบชิ้น ราคาเพียงเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน และยังสามารถทำกำไรมหาศาลได้ถึงสองร้อยห้าสิบล้านเมื่อมองย้อนกลับไปที่ยาบำรุงปราณที่เหลืออีกยี่สิบเม็ด เขาเก็บไว้สองสามเม็ดเพื่อตัวเอง แ
ที่จริงแล้วฉู่เฉินให้จงอาหู่ทำแบบนี้ตอนนี้ยาบำรุงปราณได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และก็ถึงเวลาที่จะใช้ไพ่เด็ดแล้วอีกทั้งความต้องการที่มหาศาลเช่นนี้ ก็ไม่อาจจะพึ่งแค่จงอาหู่คนเดียวได้ ต้องหาองค์กรที่เชื่อถือได้มาร่วมมือกันส่วนจงอาหู่แค่ต้องรับผิดชอบจัดจ่ายสินค้าให้องค์กรพวกนั้นก็พอเมื่อได้ยินดังนี้ ประธานเฉินที่อยู่อีกด้านหนึ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวางสายโทรศัพท์พร้อมกับถอนหายใจ......ในตอนนั้นเอง คฤหาสน์ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำในมือของหลี่ฮุยได้ถือยาบำรุงปราณไว้เม็ดหนึ่ง ยิ้มมุมปากเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาหลิ่วหรูเยียนเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่มาจีบหลิ่วหรูเยียนเช่นกันเพียงแต่ว่าหลี่ฮุยขึ้นชื่อเรื่องงามแต่รูป ในแวดวงชั้นสูงของเจียงจงมีใครไม่รู้บ้างว่าเขาเป็นคนสำส่อนบ้าง?ดังนั้นแม้ว่าเขาจะตามจีบหลิ่วหรูเยียนมาหนึ่งปีเต็มๆ แม้แต่รอยยิ้มหลิ่วหรูเยียนก็ยังไม่เคยมอบให้เขาแต่ครั้งนี้เขามีความมั่นใจว่าหลิ่วหรูเยียนจะยอมพลีกายให้เขาอย่างแน่นอนเพราะว่าอย่างไรสองแม่ลูกตระกูลหลิ่วก็มีฉู่ซื่อกรุ๊ป บริษัทนี้ก็ทำเกี่ยวกับธุรกิจวงการแพทย์เช่นกันช่วงนี้ยาบำรุงปราณเป็นที่นิยมไ
เมื่อได้ยินที่หลี่ฮุยพูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็ประหลาดใจเป็นอย่างมากหากผลลัพธ์ของยาบำรุงปราณอะไรนี่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น อย่างนั้นก็น่าจะโด่งดังไปทั่วประเทศแล้วไม่ใช่เหรอ?ในวงการแพทย์ใครที่จะไม่อยากคิดค้นยาที่ทั้งสามารถรักษาคนได้ ทั้งสามารถรักษาความอ่อนวัยไว้ได้บ้าง?แต่ปัญหาคือไม่ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถทำให้ความต้องการที่ซับซ้อนเช่นนี้สำเร็จได้ แม้แต่การรักษาโรคและการช่วยชีวิตก็ยากพอ ๆ กับการปีนขึ้นไปบนฟ้า“คุณชายหลี่ คุณคงไม่ได้หลอกฉันใช่ไหมคะ ก็อีแค่ยาบำรุงปราณเม็ดเล็กๆ นี่ จะมีผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ได้ยังไงคะ?”หลิ่วหรูเยียนจงใจพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแสหลี่ฮุยจะฟังไม่ได้ออกได้อย่างไร ก็ในเมื่อเห็นได้ชัดว่าหลิ่วหรูเยียนกำลังใช้วิธีการยั่วยุเขาอยู่?“หรูเยียน คุณไม่จำเป็นต้องมาใช้วิธียั่วยุกับผมหรอก ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณสามารถใช้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์แสดงมันออกมา และผมตั้งใจก็ลงทุนสิบห้าล้านเพื่อซื้อยานี้ ดังนั้นผมจะส่งให้คุณทางไปรษณีย์นะครับ”“เมื่อถึงตอนนั้นคุณก็ลองดูเองแล้วกันว่าจริงหรือปลอม”เมื่อได้ยินประโยคนั้น หลิ่วหรูเยียนก็ซึ้งใจกับหลี่ฮุยไม่น้อย
“แช่ออนเซ็นเหรอ? ถุย! แค่คิดก็น่าสะอิดสะเอียนแล้ว!”หลังจากที่เพิ่งวางสายไป หลิ่วหรูเยียนก็ก่นด่าที่โทรศัพท์อย่างหนัก หลังจากนั้นก็ขยับตัวลงจากเตียง ล้างหน้าล้างตาและแต่งตัวอย่างง่ายๆในตอนนี้เอง ก็มีเสียงออดดังเข้ามาหลิ่วหรูเยียนรีบเดินลงไปข้างล่าง เปิดประตูห้อง รับกล่องที่ห่อมาอย่างมิดชิดมาจากมือของพนักงานส่งของเปิดด้านนอกของพัสดุออก หยิบยาเม็ดเล็กๆ สีดำที่ใหญ่กว่าเม็ดถั่วเหลืองสามเท่าออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยม“นี่คือยาบำรุงปราณเหรอ?”หลิ่วหรูเยียนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง นำยาลูกกลอนเข้ามาใกล้จมูกแล้วดม ตามที่คาดไว้ กลิ่นหอมของยาหอมฟุ้งและสดชื่นเพียงแต่ว่ายาเม็ดเล็กๆ เม็ดเดียวแบบนี้ จะมีผลลัพธ์ที่น่าทึ่งขนาดนั้นเลยเหรอ?“หรูเยียน ในมือลูกถืออะไรไว้อยู่?”หลิ่วชิงเหอเพิ่งกลับมาจากบริษัท เมื่อเห็นว่าในมือของหลิ่วหรูเยียนถือยาเม็ดสีดำไว้ในมือเม็ดหนึ่ง ถึงถามขึ้นมาด้วยความไม่สบายใจ“ยาบำรุงปราณค่ะ”หลิ่วหรูเยียนพูดเรื่องที่หลี่ฮุยกล่าวมาให้ฟังตามความจริงอีกครั้ง พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วนำรูปของหลี่เฟิ่งหรูยื่นให้หลิ่วชิงเหอ“ยาบำรุงปราณนี่ยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยเหรอ? รู้ไ
หลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมพูดขึ้นมา “หรูเยียน อย่าลืมนะ จงอาหู่เป็นคนของสำนักเฟิ่ง ทุกเรื่องต้องมีขอบเขต อย่าทำเกินไป เพราะว่าสำนักเฟิ่งไม่ใช่คนที่เราจะไปยุ่งด้วยได้”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า “วางใจเถอะค่ะ หนูรู้ว่าต้องทำอย่างไร”พูดเสร็จ หลิ่วหรูเยียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรหาหลี่ก่านอีกด้านหนึ่ง หลี่ก่านที่กำลังดื่มและพูดคุยอยู่ในห้องเทียนจื่อเบอร์หนึ่งที่หยู่เซียงจวีกับจินเจิ้นหลง และเจ้าใหญ่นายโตในแวดวงอสังหาริมทรัพย์หลี่ก่านรู้สึกค่อนข้างประหลาดใจที่จู่ๆ ก็ได้รับสายจากหลิ่วหรูเยียนพูดตามตรง เขาน้ำลายไหลกับหลิ่วหรูเยียนมานานแล้วน่าเสียดายที่เธอเป็นถึงผู้จัดการคนสวยแห่งฉู่ซื่อกรุ๊ป ฐานะหลายพันล้านแต่หลี่ก่านจะไม่ค่อยมีชื่อเสียง กลับเป็นแค่เจ้าสำนักแห่งสำนักมวยเท่านั้นเอง แม้ว่าใจจะคิดไม่ซื่อ แต่ก็ไม่มีความกล้านั้นมากพอโดยที่ผ่านมาเขาทำได้แค่มองหลิ่วหรูเยียนจากไกลๆ ไม่กล้าแม้แต่จะล้ำเส้นไปแต่กลับคิดไม่ถึงว่า วันนี้หลิ่วหรูเยียนจะเป็นฝ่ายติดต่อเขามาเอง สิ่งนี้ทำให้เขามีความสุขมาก“อาจารย์ครับ ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ข้างนอกก่อนนะครับ อีกเดี๋ยวก็กลับมาแล้วครับ”หลี่ก
เหล่าเจ้าใหญ่นายโตวงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่บริเวณข้างๆ ต่างพากันถกเถียงระหว่างที่ฟังคนอื่นถกเถียงกันอยู่นั้น เกาหงเจี้ยนพูดและหัวเราะอย่างผยองว่า “โกหก โกหกทั้งนั้น”“เอ๋? ดูจากที่ประธานเกาพูด อาจจะมีช่องทางแบบนั้นก็ได้?”หลายๆ คนต่างพาสายตาจับจ้องไปที่เกาหงเจี้ยนที่จริงแล้วสาเหตุที่เกาหงเจี้ยนนำยาบำรุงปราณออกมาก็ ก็เพียงแต่ต้องการโอ้อวดต่อหน้าสาธารณชนแค่นั้นเองเมื่อเห็นว่าความสนใจของทุกคนถูกดึงดูดโดยยาบำรุงปราณในมือของเขาจริงๆ เขาก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจและกล่าวว่า “อันที่จริงแล้วยาบำรุงปราณนี่มาจากมือของจงอาหู่”“ที่อยู่ในมือผมไม่กี่เม็ดนี่ ก็เป็นเสี่ยวตงซื้อมาจากจงอาหู่”“หากท่านทั้งหลายสนใจ ผมสามารถพิจารณาแบ่งจากในมือของผมให้ได้ไม่กี่เม็ดนะ แต่ว่าราคานั้น...”เขายังพูดไม่จบ ชายวัยกลางคนที่มีหัวอ้วนและมีหูใหญ่อยู่ข้างๆ เขายื่นมือตบแล้วพูดว่า “ยี่สิบห้าล้าน!”เฮ้ย!จินเจิ้นหลงได้ยินที่ฝ่ายตรงข้ามพูดราคาไป เขารู้สึกกระตุกที่หัวใจ ตะเกียบที่ถูกถืออยู่ในมือก็แทบจะถือไม่แน่น หล่นลงบนพื้นยาบำรุงปราณเม็ดเล็กๆ เม็ดเดียวราคาตั้งยี่สิบห้าล้านเชียวเหรอ?!เช่นนั้นเขาผิดพลาดอะไรไปก
เชี่ย!เรียวขายาวและเนียนขาวของหลิ่วหรูเยียน รวมถึงหน้าอกอวบอิ่มที่ไหวไปตามจังหวะย่างก้าวของเธอ จงอาหู่และลูกน้องอีกคนต่างก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้หลิ่วหรูเยียนเปรียบเสมือนสินค้าพรีเมี่ยมเลยจริงๆ“อะแฮ่ม!”หลี่ก่านที่อยู่ข้างหลังหลิ่วหรูเยียน เห็นสายตาของจงอาหู่ที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหาย จึงกระแอมเสียงดังจงอาหู่จึงได้สติกลับมา ก่อนหันไปพูดกับลูกน้องที่อยู่ข้างๆ ว่า “แกตาบอดรึไง ไม่รู้จักผู้จัดการใหญ่หลิ่วได้ยังไง?”พูดจบ เขาก็หันไปมองฉีกยิ้มให้หลิ่วหรูเยียนกับหลี่ก่าน “ทั้งสองท่านเชิญนั่งก่อนครับ”จากนั้นก็หันไปพูดกับลูกน้องที่อยู่ข้างหลังอีกว่า “ยังไม่รีบไปรินชาให้ผู้จัดการใหญ่กับหัวหน้าหลี่อีก”“ครับๆๆ!”ลูกน้องคนนั้นรีบชงชา และนำไปเสิร์ฟตรงหน้าหลิ่วหรูเยียนกับหลี่ก่าน จากนั้นก็เดินไปยืนอยู่เงียบๆ อยู่ด้านข้างจงอาหู่เดินออกมาจากด้านหลังโต๊ะทำงาน นั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับหลิ่วหรูเยียนและหลี่ก่าน เขาฉีกยิ้มพลางเอ่ยว่า “ทั้งสองท่าน ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรครับ?”“ถ้ามาหาเจ๊ใหญ่ ต้องขออภัยจริงๆ วันนี้เจ๊ใหญ่มีธุระ ค่อยมาวันหลังดีกว่านะครับ”อย่างไรเขาก็เป็นแค่คนขับรถ ในขณะที่หลิ่
เมื่อถึงตอนนั้น เธอจะลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับฉู่เฉิน และใช้ยาบำรุงปราณในมือกำจัดบริษัทเล็กๆ ของไอ้ฉู่เฉินให้สิ้นซาก ทำให้มันไม่มีทางลุกขึ้นมาได้อีก!พอเห็นจงอาหู่เงียบไปนาน หลิ่วหรูเยียนอดหยักยิ้มมุมปากอย่างย่ามใจไม่ได้ ก่อนจะพูดต่อว่า“พี่อาหู่ พี่วางใจได้ ขอแค่พี่เอายาบำรุงปราณมาให้ฉัน ด้วยกำลังของบริษัทเรา ย่อมจัดการปัญหาทั้งหมดนี้ได้อยู่แล้ว”“เพียงแต่ ต้องแบ่งผลประโยชน์กันอย่างยุติธรรม พี่สามฉันเจ็ด”“ถ้าพี่อาหู่ตัดสินใจเองไม่ได้ อย่างนั้นพี่ก็เชิญแพทย์แผนจีนอาวุโสที่พี่พูดถึงออกมา พวกเรามาเจรจากัน ยังไงฉันก็ไม่เอาเปรียบพี่อยู่แล้ว”“ถึงพี่จะได้ส่วนแบ่งน้อยหน่อย แต่ยังไงก็ยังดีกว่าพี่ต้องเข้าคุกเพราะขายสินค้าไม่ได้มาตรฐานใช่ไหมล่ะ?”คำพูดที่เหลือของหลิ่วหรูเยียน เรียกได้ว่าแทบจะเขียนคำว่า ‘ข่มขู่’ ติดไว้บนหน้าผากเลยทีเดียวความหมายก็คือ หากจงอาหู่ไม่ยอมรับเงื่อนไขของเธอ เธอก็จะไปแจ้งเรื่องกับศูนย์การแพทย์เดี๋ยวนี้!ถึงตอนนั้น ด้วยเส้นสายและอำนาจของหลิ่วหรูเยียน เธอจะทำให้จงอาหู่ติดคุกให้ได้อวดดี!อวดดีเกินไปแล้ว!แม้แต่ลูกน้องคนนั้นที่ยืนอยู่ข้างๆ พอได้ยินคำพูดของหลิ่วหรู