หลังจากทำงานเสร็จในแต่ละวัน โรเซ่จะไปที่ห้องสมุดประจำที่เธอโปรดปราน ซึ่งมีชื่อเรียกกันอย่างอบอุ่นว่า "ห้องสมุดแห่งความฝัน" ห้องสมุดนี้มีบรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยหนังสือหลายประเภท ตั้งแต่วรรณกรรมคลาสสิกไปจนถึงนิยายรักและแฟนตาซี ที่นี่เป็นที่ที่โรเซ่ได้ปลดปล่อยจินตนาการ และดื่มด่ำไปกับการเป็นนางเอกในเรื่องราวต่าง ๆ ที่เธออ่าน
ในช่วงเย็นวันหนึ่ง หลังจากใช้เวลาในห้องสมุดนานกว่าปกติ โรเซ่ก็กลับมาถึงบ้านพร้อมกับรอยยิ้มและประกายตาแห่งความตื่นเต้น ขณะที่เธอวางกระเป๋าลง แม่ของเธอก็ยิ้มทักทายจากในครัว
แม่ซูฮี: "กลับมาแล้วเหรอลูก? วันนี้ดูอารมณ์ดีนะ ไปอ่านหนังสืออะไรมาอีกล่ะ?"
โรเซ่ยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบหยิบหนังสือนิยายที่เพิ่งยืมมาและยืนอยู่ตรงหน้าครอบครัวเหมือนนักเล่านิยาย
โรเซ่: "แม่ พ่อ วันนี้ฉันเจอนิยายเรื่องใหม่สุดตื่นเต้นเลยค่ะ เป็นเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่หลงเข้าไปในโลกแฟนตาซี เธอเป็นคนธรรมดาแต่กลับกลายเป็นนางเอกที่ต้องช่วยเหลือผู้คนในอาณาจักรนั้น!"
พ่อมินซู: "โอ้ น่าสนุกจริง ๆ แล้วนางเอกของเราทำยังไงต่อ?"
โรเซ่ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้าง ๆ น้องสาวของเธอ มินจี ที่ฟังอย่างตื่นเต้นตาโต
โรเซ่: "นางเอกคนนี้เก่งมากค่ะพ่อ เธอฉลาด มีความกล้าและยังใจดีด้วย ในเรื่องเธอต้องร่วมมือกับเจ้าชายที่ทั้งฉลาดและใจดี เขาคอยปกป้องเธอเวลาที่มีอันตราย แถมยังมีเหตุการณ์ตลก ๆ ที่ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกันด้วย!"
มินจีที่นั่งฟังอย่างตั้งใจ เธอขยับเข้ามาใกล้พี่สาว พลางจินตนาการตามสิ่งที่โรเซ่เล่า
มินจี: "ว้าวพี่โรเซ่ หนูอยากเป็นเหมือนนางเอกคนนั้นจัง! แล้วสุดท้ายเธอได้กลับบ้านไหม?"
โรเซ่: "ยังไม่รู้เลยค่ะน้องมินจี เรื่องยังไม่จบ พี่ต้องไปอ่านต่อถึงจะรู้"
แม่ซูฮี: "นี่ลูกรักนิยายจริง ๆ เลยนะโรเซ่ เห็นเป็นนางเอกในทุกเรื่องที่อ่านได้ทุกวันแบบนี้ ไม่เบื่อบ้างเหรอ?"
โรเซ่: "เบื่อได้ยังไงล่ะคะแม่ นี่เป็นโลกแห่งความฝันของหนูเลยนะ! ตอนที่หนูกำลังอ่านมันก็เหมือนกับหนูได้ผจญภัยไปในโลกนั้นจริง ๆ ทุกครั้งที่อ่านก็เหมือนหนูได้หลุดเข้าไปในเรื่องราวเหล่านั้น ถ้าพวกเราได้เข้าไปในนิยายสักเรื่อง จะดีแค่ไหนนะคะ?"
พ่อหัวเราะขำกับความคิดของลูกสาว ขณะที่แม่ยิ้มอ่อนโยนและฟังอย่างตั้งใจ เพราะเธอรู้ว่าโรเซ่ชอบใช้เวลากับนิยายเพื่อปลดปล่อยจินตนาการ
พ่อมินซู: "แล้วถ้าลูกต้องเลือกระหว่างอยู่ในโลกนิยายหรืออยู่กับครอบครัวของเราล่ะ ลูกจะเลือกแบบไหน?"
โรเซ่: "อืม…ถ้าหนูต้องอยู่ในโลกนิยาย หนูจะทำได้ไหมนะ แต่ถ้าให้หนูต้องทิ้งครอบครัวไป หนูก็คงทำไม่ได้ค่ะ เพราะทุกครั้งที่กลับบ้านมาเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้พ่อแม่ฟัง มันทำให้หนูมีความสุขที่สุด"
มินจียิ้มตาหยีและพยักหน้าเห็นด้วย โรเซ่จึงยิ้มกว้างและลูบหัวน้องสาวด้วยความรัก
มินจี: "ถ้าหนูเป็นนางเอกของเรื่อง หนูก็อยากกลับมาหาครอบครัวเหมือนกันค่ะ เพราะไม่มีที่ไหนอุ่นใจเท่าบ้านเราเลย!"
หลังจากพูดคุยกันจบ โรเซ่ก็เริ่มช่วยแม่จัดเตรียมโต๊ะอาหารเย็น แต่ตลอดเวลานั้น เธอยังคงพูดถึงตัวละครต่าง ๆ ในหนังสือที่เธออ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งพ่อและแม่ฟังไปหัวเราะไป กับจินตนาการที่ไม่สิ้นสุดของลูกสาว
โรเซ่: "แม่คะ ถ้าเราเปิดร้านกาแฟในโลกนิยาย จะดีแค่ไหนนะคะ? พอมีเจ้าชายหลงเข้ามาในร้าน แม่ก็จะเป็นคนเสิร์ฟกาแฟและให้คำแนะนำให้เขาดี ๆ ส่วนหนูจะเป็นบาริสต้าที่ออกแบบกาแฟให้ดูน่ารัก ๆ ไว้ต้อนรับคนแปลกหน้า"
แม่ซูฮี: "ฮ่าฮ่า แม่ก็อยากเป็นนางเอกเหมือนกันนะ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!"
หลังจากการพูดคุยเรื่องนิยายและโลกแฟนตาซีที่โรเซ่หลงใหลในแต่ละวัน ครอบครัวก็เริ่มมีการพูดถึงแผนการที่จะเปิดร้านกาแฟในโลกแฟนตาซีที่โรเซ่จินตนาการขึ้นมา เมื่อพ่อมินซูเริ่มถามว่าพวกเขาจะสร้างร้านกาแฟในโลกนิยายของโรเซ่ได้จริงไหม แม่ซูฮีเริ่มสนใจและเสนอความคิดเห็นในทิศทางที่น่าสนใจ
แม่ซูฮี: "ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็เหมือนกับเราจะมีส่วนร่วมในการสร้างโลกใหม่ขึ้นมาด้วยตัวเองเลยนะคะ โรเซ่ลูกคิดว่าส่วนไหนของร้านกาแฟจะทำให้มันพิเศษที่สุด?"
โรเซ่ยิ้มและเริ่มนึกถึงไอเดียใหม่ๆ ที่อาจจะเป็นไปได้ในโลกที่เธอจินตนาการถึง เธอเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าอยากให้ร้านนั้นมีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใคร โรเซ่หยิบกระดาษขึ้นมาและเริ่มจดไอเดียในหัว
โรเซ่: "แม่คะ คิดว่าเจ้าชายที่หลงเข้ามาจะชอบกาแฟรสชาติไหนบ้าง? น่าจะเป็นกาแฟที่มีรสชาติอ่อนโยนหรือไม่ก็รสชาติที่ตื่นเต้น เหมือนเขากำลังออกผจญภัยไปในโลกใหม่..."
พ่อมินซู: "แล้วลูกจะทำกาแฟที่มีรสชาติแปลกๆ เช่น กาแฟรสเผ็ดหรือหวานจัดไหมล่ะ? เพื่อให้มันเข้ากับการผจญภัยของเจ้าชายในโลกแฟนตาซี"
โรเซ่: "อ๋อ! มีไอเดียค่ะพ่อ! จะทำกาแฟที่มีรสชาติหลากหลาย เหมือนกับตัวละครในนิยายเลยค่ะ ทุกครั้งที่เขากลับเข้ามาที่ร้านกาแฟของเรา ก็จะเหมือนเขาได้สัมผัสกับรสชาติของการเดินทางทุกครั้งที่ดื่มกาแฟ!"
มินจี: "แสดงว่าในโลกนี้จะมีร้านกาแฟที่ทุกคนอยากเข้ามาใช่ไหมพี่โรเซ่?"
โรเซ่: "ใช่ค่ะ! และพอเจ้าชายเข้ามาในร้านแล้ว เราจะทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยการผจญภัยไปพร้อมกัน! น้องมินจีจะเป็นคนคอยต้อนรับลูกค้าค่ะ ช่วยเสิร์ฟกาแฟให้พวกเขา"
มินจี: "เย้! หนูจะทำให้ทุกคนยิ้มได้!"
แม่ซูฮี: "เห็นลูกๆ มีความฝันแบบนี้ แม่ก็ดีใจนะคะ ถ้าเราได้สร้างโลกแบบนี้ขึ้นมา มันคงจะทำให้ทุกคนมีความสุข"
เมื่อพูดถึงนิยาย โลกจินตนาการของโรเซ่ก็ยิ่งเปิดกว้าง ครอบครัวของเธอคอยรับฟังอย่างอบอุ่น และให้ความสำคัญกับสิ่งที่โรเซ่รักเสมอ ทำให้โรเซ่รู้สึกว่าความฝันและจินตนาการของเธอมีคนคอยสนับสนุนอยู่เสมอ ไม่มีเงื่อนไขจากพ่อแม่ของเธอ ซึ่งทำให้เธอสามารถฝันได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
การผจญภัยในโลกแฟนตาซีที่โรเซ่รักนั้นอาจจะไม่ได้จำกัดแค่ในหน้าหนังสือเท่านั้น แต่มันอาจจะเป็นเรื่องราวที่ค่อยๆ ขยายออกไปในโลกแห่งความจริงที่โรเซ่และครอบครัวร่วมกันสร้างสรรค์ไปด้วยกัน
หลังจากวันทำงานที่แสนยาวนาน โรเซ่เดินออกจากบริษัทด้วยความรู้สึกปลดปล่อย เธอยิ้มกว้างขณะก้าวเดินไปตามทางที่คุ้นเคย จนในที่สุดก็มาถึงห้องสมุดแห่งความฝัน ห้องสมุดนี้เป็นสถานที่ที่โรเซ่รักที่สุดในโลก บรรยากาศที่เงียบสงบและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกระดาษทำให้ที่นี่เหมือนเป็นโลกอีกใบหนึ่งของเธอเธอผลักประตูเข้าไป เสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ดังขึ้นเบา ๆ ทันทีที่เธอเปิดประตู ผู้ดูแลห้องสมุด ชายสูงอายุที่มีแว่นตากรอบหนาก็เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือที่อ่านอยู่และยิ้มทักทายโรเซ่: "สวัสดีค่ะ คุณลุงวูฮยอน! วันนี้หนูมาช้าหน่อยเพราะงานเยอะมาก ๆ เลยค่ะ"ลุงวูฮยอน: "สวัสดีจ้ะ โรเซ่ วันนี้อยากอ่านเรื่องอะไรล่ะ? หรือมีเรื่องไหนที่อยากจะเป็นนางเอกอีกไหม?"โรเซ่หัวเราะเบา ๆ กับคำแซวของลุงวูฮยอน เพราะเขารู้ดีว่าเธอมักจะชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็นนางเอกในนิยายทุกเรื่องที่เธออ่านโรเซ่: "แน่นอนค่ะลุง! วันนี้หนูอยากอ่านแนวแฟนตาซีค่ะ อยากได้เรื่องที่มีทั้งการผจญภัยและความรักหน่อย"ลุงวูฮยอน: "งั้นเดี๋ยวลุงจะแนะนำเรื่อง เจ้าหญิงแห่งรัตติกาล ให้แล้วกันนะ เป็นเรื่องของเจ้าหญิงที่ถูกสาปให้มีชีวิตอยู่ในเงามืด ต้องเดินทางไปทั่วอาณาจักร
วันรุ่งขึ้น หลังจากเลิกงาน โรเซ่ก็รีบเก็บของและตรงไปที่ห้องสมุดด้วยความตื่นเต้น เธอเดินไปตามทางคุ้นเคยพร้อมกับจินตนาการว่าตัวเองจะได้พบจินฮยองอีกครั้งเมื่อถึงห้องสมุด เธอผลักประตูเข้าไปและสอดส่ายสายตาหาเขา แต่ทว่าคราวนี้เขาไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิม ลุงวูฮยอนสังเกตเห็นอาการของโรเซ่แล้วก็หัวเราะเบา ๆลุงวูฮยอน: "ดูเหมือนว่าหนูจะมองหาใครบางคนนะวันนี้ หรือต้องการหนังสือที่พิเศษหน่อย?"โรเซ่ยิ้มขวยเขิน รู้สึกเหมือนถูกจับได้โรเซ่: "เอ่อ… เปล่าค่ะลุง! แค่อยากหาเรื่องอ่านสนุก ๆ ไปนั่งอ่านเหมือนทุกวัน"ลุงวูฮยอนหัวเราะเบา ๆ พร้อมแนะนำหนังสือเล่มใหม่ให้เธอ โรเซ่รับหนังสือมาและเดินไปยังที่นั่งประจำของเธอ คราวนี้เธอรู้สึกเหงาเล็กน้อยที่ไม่เห็นจินฮยองอยู่ตรงนั้น แต่เธอก็พยายามสนุกกับการอ่านตามปกติเวลาผ่านไปได้สักพัก จู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงเงาคนเดินมาใกล้ ๆ เธอเงยหน้าขึ้นแล้วก็เห็นจินฮยองยืนอยู่ตรงนั้นซูโฮ: "ขอโทษที่มาช้านะครับ วันนี้มีธุระที่ต้องทำก่อน พอดีว่าผมจำได้ว่าคุณน่าจะมา ก็เลยรีบมาห้องสมุดทันทีเลย"โรเซ่: (ยิ้มกว้าง) "ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันแค่คิดว่าอาจจะไม่ได้เจอคุณวันนี้แล้ว"เมื่อโรเซ่และซูโฮ
โรเซ่เดินเข้าไปในห้องสมุดแห่งความฝันด้วยความตื่นเต้น ในวันนี้เธอรู้สึกอยากรู้ประวัติของห้องสมุดแห่งนี้มากขึ้นกว่าเดิม ขณะที่เธอกำลังเดินสำรวจชั้นหนังสือ ซูโฮก็เดินเข้ามาทักทายซูโฮ: "อ้าว วันนี้มาถึงเร็วเชียว มีหนังสือเล่มไหนที่น่าสนใจเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?"โรเซ่: (ยิ้ม) "ยังเลยค่ะ จริง ๆ แล้วฉันอยากรู้จักห้องสมุดนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิมนะค่ะ ฉันเข้ามาอ่านหนังสือที่นี่ได้แค่ปีเดียวเอง แต่รู้สึกผูกพันกับที่นี่มาก คุณพอจะเล่าประวัติของห้องสมุดแห่งความฝันให้ฟังได้ไหมคะ?"ซูโฮหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำถาม ก่อนจะผายมือชวนโรเซ่เดินไปที่มุมของห้องสมุดที่มีแสงไฟอ่อน ๆ ส่องลงมา เขาเดินนำเธอไปนั่งที่มุมสงบก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวอย่างอ่อนโยนซูโฮ: "ห้องสมุดแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่าที่คิดไว้เลยครับ ก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นปู่ของผม ห้องสมุดแห่งความฝันสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ที่ทุกคนสามารถมาค้นหาความสุขจากการอ่านได้ และเป็นที่ที่รวมเรื่องราว ความฝัน และจินตนาการของผู้คนจากรุ่นสู่รุ่น"โรเซ่: (ดวงตาเป็นประกาย) "ว้าว ฟังดูน่าทึ่งมากเลยค่ะ แล้วทำไมถึงใช้ชื่อว่าห้องสมุดแห่งความฝันล่ะคะ?"ซูโฮ: "ชื่อนี้มีที
โรเซ่กำลังจมอยู่กับหนังสือเล่มหนาในมือ เมื่อเห็นซูโฮเดินเข้ามาพร้อมกับหนังสืออีกเล่มที่มีปกสีสันสดใสที่โดดเด่นสะดุดตา ปกนั้นมีภาพมังกรตัวใหญ่คาบเพชรพลอยอยู่ในปาก พร้อมฉากภูเขาหินลึกลับที่รายล้อมไปด้วยหมอกบาง ๆ ดูท่าทางเหมือนกำลังปกป้องสมบัติล้ำค่าไว้ซูโฮยิ้มบาง ๆ พร้อมยื่นหนังสือให้โรเซ่ "ผมเห็นคุณชอบอ่านนิยายโรแมนติกหวาน ๆ ตลอด ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูหน่อยไหมครับ หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปอีกโลกเลยนะ เปิดโลกใหม่ให้แน่นอน"โรเซ่ยิ้มตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายขึ้นทันที "โอ้โห! มังกรด้วยเหรอคะ ฉันไม่เคยลองอ่านแนวแฟนตาซีผจญภัยแบบนี้มาก่อนเลย แต่พอเห็นปกแล้วก็อยากรู้เลยว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นในเรื่องนี้บ้าง!" เธอเอื้อมมือไปรับหนังสือมา พร้อมพลิกดูหน้าปกด้วยความตื่นเต้นซูโฮยิ้มอย่างเอ็นดู "ถ้าชอบนะครับ หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปผจญภัยในดินแดนที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลาย มีมังกร ยักษ์ และสมบัติที่ซ่อนอยู่ ซึ่งนักผจญภัยต้องตามหา"โรเซ่หัวเราะเล็กน้อยพลางบอกอย่างมั่นใจ "ฟังดูท้าทายดีค่ะ! ฉันอยากทะลุมิติไปเจอกับมังกรตัวนั้นและออกผจญภัยดูบ้างจังเลย" แต่แล้วเธอก็เผลอพูดเบา ๆ "ถ้ามีจริงก็คง
หลังจากทั้งคู่ได้เผชิญกับอุปสรรคในถ้ำและหลบหนีจากสัตว์ร้ายมาหมาด ๆ โรเซ่และซูโฮก็พบกับอีกหนึ่งอุปสรรคที่ท้าทายไม่แพ้กัน: หน้าผาสูงชันที่ตัดขาดจากเส้นทางเดิมไปสู่ส่วนลึกของป่า บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบและความอันตรายที่แฝงอยู่ในทุกย่างก้าว ท่ามกลางเสียงลมกระโชกแรงที่พัดผ่าน ซูโฮและโรเซ่ยืนอยู่ข้างหน้าผา รอยยิ้มของทั้งคู่ปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดคิดซูโฮ: (ยิ้ม) “ดูเหมือนเราเจออุปสรรคใหม่แล้วนะ โรเซ่...คิดว่าเราจะผ่านมันไปได้ไหม?”โรเซ่: (ยิ้มขี้เล่น) “ถ้าเป็นอย่างที่นายบอก เมื่อกี้ก็ยังผ่านอุปสรรคถ้ำไปได้แล้ว นี่มันแค่หน้าผาแค่นั้นเอง ฉันว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอก!”เธอกล่าวด้วยท่าทางมั่นใจ ขณะที่มือหนึ่งจับแขนของซูโฮและมองไปยังหน้าผาที่ดูเหมือนจะท้าทายทุกก้าวเดิน ซูโฮอดที่จะรู้สึกประทับใจในความมั่นใจและความขี้เล่นของเธอไม่ได้ซูโฮ: “คุณนี่กล้าได้ใจจริง ๆ โรเซ่ ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าใครเป็นคนกลัวจริง ๆ”โรเซ่: (หัวเราะ) “ฉันไม่ได้กลัวนะ ฉันแค่รู้ว่าเราต้องทำยังไง ถ้าเรากลัวมากไปก็ไม่ไปถึงไหนหรอกนะ”ซูโฮ: “เห็นไหมว่าเราทั้งคู่ต่างมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้จากกันและกัน ถ้าไม่ได้เธอคอยเตือนให้
หลังจากที่โรเซ่และซูโฮรอดพ้นจากหมาป่าตัวใหญ่ได้อย่างหวุดหวิด ทั้งคู่ก็ยังคงมุ่งหน้าเดินลึกเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยความลึกลับและท้าทาย โรเซ่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกในโลกนิยายอย่างแท้จริง และทุกย่างก้าวที่เธอเดินข้างซูโฮก็ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ซูโฮเองก็เริ่มสังเกตเห็นความมั่นใจและความเข้มแข็งที่แฝงอยู่ในตัวเธอมากขึ้นเรื่อย ๆขณะที่พวกเขาเดินผ่านเส้นทางแคบ ๆ ที่มีรากไม้เกาะเกี่ยว โรเซ่หยุดเดินกะทันหันเมื่อเห็นลำธารที่กว้างและน้ำไหลเชี่ยวขวางทางอยู่ น้ำในลำธารนั้นไหลแรงและดูเหมือนจะลึกพอสมควร ซูโฮมองซ้ายขวาเพื่อหาทางข้าม ขณะเดียวกัน โรเซ่ก็มองหาวิธีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นโรเซ่: (หัวเราะเบา ๆ พร้อมยิ้มอย่างท้าทาย) "โอ้โห! งานนี้ท้าทายจริง ๆ คุณว่าเราจะข้ามไปยังไงดีล่ะจินฮยอง?"ซูโฮ: (ยิ้มตอบ) "นี่คุณดูตื่นเต้นมากกว่ากลัวอีกนะ ผมคิดว่าคุณจะกลัวน้ำเชี่ยวเสียอีก"โรเซ่: (พยักหน้า) "ฉันไม่กลัวหรอกนะ! นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะพิสูจน์ว่าเราจะผ่านอะไรได้มากขนาดไหน ฉันมั่นใจว่าเราทำได้"จินฮยองยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของโรเซ่ เขารู้สึกประทับใจในความมั่นใจและความกล้าหาญของเ
เมื่อซูโฮและโรเซ่เดินเข้าสู่โลกนิยายโรแมนติกที่เขาแนะนำ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความโรแมนติกและสวยงาม บ้านสีขาวเรียงรายอยู่ริมทะเลสาบ เงาของพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนบนผืนน้ำ สร้างบรรยากาศอบอุ่นและชวนฝัน โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นและประหม่านิด ๆ ขณะที่จินฮยอนเดินเคียงข้างเธอซูโฮมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนและเอ่ยขึ้นด้วยเสียงนุ่ม ๆซูโฮ: "นี่... เราจะต้องแกล้งเป็นคู่รักเพื่อผ่านด่านนี้ไป คุณคิดว่าอย่างไร?"โรเซ่ที่ดูมั่นใจมาตลอดกลับหน้าแดงเล็กน้อย เธอหัวเราะเบา ๆ พลางพยายามซ่อนความเขินอายโรเซ่: (ยิ้มกลบเกลื่อน) "แค่แสดงบทคู่รักเอง… คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม?"ซูโฮ: (ยิ้มขำ) "ใช่ แต่คงต้องแสดงให้แนบเนียนหน่อย ไม่อย่างนั้นเราอาจจะไม่ผ่านด่านนี้"ทั้งคู่เดินไปเรื่อย ๆ จนเจอกับคนชราที่ดูใจดีในชุดผ้าคลุมสีขาว คนชรามองทั้งสองด้วยความเอ็นดูคนชรา: "ยินดีต้อนรับพวกเธอ ทั้งสองช่างเหมาะสมกันจริง ๆ เหมือนคู่รักที่เกิดมาเพื่อกันและกัน"ซูโฮหันไปสบตาโรเซ่ เขาเห็นรอยยิ้มที่แฝงความขี้เล่น และเอ่ยเสียงนุ่มซูโฮ: "ใช่ครับ เราสองคนเป็นคู่รักกัน กำลังมาท่องเที่ยวด้วยกัน"โรเซ่: (พยายามกลบเกลื่อนความเขิน) "ค่ะ เราชอบบรรยากา
โรเซ่ หญิงสาววัย 25 ปีที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในฐานะดีไซเนอร์ของแบรนด์แฟชั่น "Aura Seoul" เธอมีความหลงใหลในความงามและสไตล์ของเสื้อผ้าผู้หญิงอย่างลึกซึ้ง ด้วยรูปลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ โรเซ่กลายเป็นคนมีเสน่ห์ที่ไม่ว่าใครได้พบก็ต้องสะดุดตาที่บ้าน โรเซ่อาศัยอยู่กับพ่อ แม่ และน้องสาวตัวน้อยชื่อมินจี อายุ 10 ขวบ มินจีเป็นเด็กที่อ่อนโยน น่ารัก พูดเก่ง และรักการอ่านหนังสือ มักจะมีหนังสือนิทานอยู่ในมือเสมอ เธอชอบจินตนาการและเรียบร้อยตามแบบเด็กดี ทำให้โรเซ่รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายทุกครั้งที่อยู่กับน้องสาว และเป็นแรงบันดาลใจให้โรเซ่ได้พบความสุขในสิ่งเล็ก ๆคุณพ่อของโรเซ่ชื่อมินซู เขาเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงในโซล มีผลงานที่น่าทึ่งและมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบอาคารใหม่ ๆ มินซูมักจะนำแนวคิดจากธรรมชาติมาใช้ในงานออกแบบ และเขาก็มีความรักในการสอนและแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมกับลูก ๆ เสมอทุกเช้า โรเซ่มักจะเห็นพ่อของเธอแต่งตัวในชุดสูทเรียบร้อย พร้อมกับเอกสารและพอร์ตโฟลิโอที่เขาจะต้องนำไปประชุมโรเซ่: “พ่อ วันนี้ทำงานที่ไหนคะ? มีโปรเจกต์ใหม่หรื