โรเซ่กำลังจมอยู่ในโลกของหนังสือเล่มหนา เมื่อซูโฮเดินเข้ามาพร้อมกับหนังสืออีกเล่มที่มีปกสีสันสดใสสะดุดตา ปกนั้นมีภาพมังกรตัวใหญ่ที่คาบเพชรพลอยไว้ในปาก พร้อมฉากภูเขาหินลึกลับที่รายล้อมไปด้วยหมอกบาง ๆ ราวกับกำลังปกป้องสมบัติล้ำค่า
ซูโฮยิ้มบาง ๆ พร้อมยื่นหนังสือให้โรเซ่ "ผมเห็นคุณชอบอ่านนิยายโรแมนติกหวาน ๆ ตลอด ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูหน่อยไหมครับ หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปอีกโลกเลยนะ เปิดโลกใหม่ให้คุณแน่นอน"
โรเซ่ตาเป็นประกายขึ้นทันที "โอ้โห! มังกรด้วยเหรอคะ ฉันไม่เคยลองอ่านแนวแฟนตาซีผจญภัยแบบนี้มาก่อนเลย แต่พอเห็นปกแล้วก็อยากรู้เลยว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นในเรื่องนี้บ้าง!" เธอเอื้อมมือไปรับหนังสือมา พร้อมพลิกดูหน้าปกด้วยความตื่นเต้น
ซูโฮยิ้มอย่างเอ็นดู "ถ้าคุณชอบนะครับ หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปผจญภัยในดินแดนที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และสิ่งมหัศจรรย์ มีมังกร ยักษ์ และสมบัติที่ซ่อนอยู่ ซึ่งนักผจญภัยต้องตามหา"
โรเซ่หัวเราะเล็กน้อยพลางบอกอย่างมั่นใจ "ฟังดูท้าทายดีค่ะ! ฉันอยากทะลุมิติไปเจอกับมังกรตัวนั้นและออกผจญภัยดูบ้างจังเลย" แต่แล้วเธอก็เผลอพูดเบา ๆ "ถ้ามีจริงก็คงดีนะ... อยากลองไปดูสักครั้งจัง"
ซูโฮยิ้มขี้เล่นเมื่อได้ยิน "คุณอยากไปจริง ๆ เหรอครับ? เพราะผมก็มีวิธีทำให้คุณไปโลกในนิยายเล่มนี้ได้"
โรเซ่ทำหน้าสงสัย "คุณล้อเล่นหรือเปล่าคะ จะไปได้ยังไง"
ซูโฮทำท่าทางจริงจังขึ้น "เชื่อผมเถอะครับ ลองจับหนังสือไว้แน่น ๆ แล้วหลับตาสิครับ"
โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นเล็ก ๆ แม้ยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยอมทำตาม เธอจับหนังสือไว้แน่นแล้วหลับตาลง ครู่หนึ่งเสียงเหมือนสายลมเย็นพัดผ่านห้อง พร้อมแสงสว่างวาบ ๆ สะท้อนออกมาจากหน้าหนังสือ โรเซ่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและต้องอ้าปากค้างเมื่อพบว่าตัวเองยืนอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของภูเขาสูงลิบที่ปกคลุมด้วยหมอกจาง ๆ แผ่นดินที่เธอเหยียบอยู่เป็นดินสีแดงสดใสที่ดูแปลกตา
"นี่มัน...โลกในนิยายเหรอคะ" โรเซ่พูดเสียงแผ่วเบาด้วยความตกใจ
ซูโฮยิ้มกว้าง "ใช่แล้วครับ ผมบอกแล้วว่าผมพาคุณมาได้จริง ๆ ที่นี่คือโลกในหนังสือเล่มนั้น โลกที่เต็มไปด้วยมังกรและสมบัติล้ำค่า เตรียมตัวให้พร้อมนะครับ คุณกำลังจะเจอกับการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร"
โรเซ่มองไปรอบ ๆ รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้น เธอยิ้มอย่างมั่นใจ "ยอดเลยค่ะ! ฉันพร้อมจะเผชิญทุกอย่างแล้ว ไม่ว่ามันจะท้าทายแค่ไหน ฉันก็จะผ่านไปให้ได้"
ซูโฮหัวเราะเบา ๆ กับความมุ่งมั่นของเธอ "งั้นไปกันเลยครับ ดูเหมือนทางข้างหน้าจะมีหน้าผาขวางอยู่ด้วย เราคงต้องหาทางข้ามไปเพื่อไปยังดินแดนของมังกรที่คุณอยากเจอ"
ขณะที่ทั้งสองเดินไปข้างหน้า โรเซ่ก็ไม่หยุดที่จะมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นเต้น แต่ก็เผลอสะดุดเข้ากับก้อนหินเล็ก ๆ ข้างทางจนทำให้เธอเสียหลักหกล้มลงบนพื้น
ซูโฮมองโรเซ่ที่นั่งอยู่บนพื้น เขาหัวเราะเบา ๆ "นี่ใช่ว่าคุณตกใจกลัวจนสะดุดหกล้มเองใช่ไหมเนี่ย"
โรเซ่หน้าแดงด้วยความอาย "ไม่ใช่สักหน่อยนะ! ฉันแค่...สะดุดก้อนหินเฉย ๆ"
ซูโฮยิ้มขี้เล่น "อ้อ ๆ เข้าใจแล้วครับ ตัวเอกของเรื่องที่กล้าหาญขนาดนี้ก็ยังแพ้ก้อนหินของดินแดนแฟนตาซี"
โรเซ่ยิ้มอาย ๆ แต่ก็ยังพยายามรักษาความมั่นใจ "ไม่ต้องมาล้อฉันเลยค่ะคุณซูโฮ เดี๋ยวจะให้คุณเห็นว่าฉันก็มีความกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับมังกรตัวนั้นได้เหมือนกัน!"
ซูโฮยื่นมือมาช่วยพยุงโรเซ่ขึ้นจากพื้น "โอเค ๆ ผมจะรอดูนะครับ คุณนางเอกของเรา"
โรเซ่หัวเราะและยิ้มรับคำพูดของเขา หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มออกเดินทางไปด้วยกัน ผ่านป่าลึกลับที่มีเงาสัตว์ประหลาดเคลื่อนไหวอยู่ในพุ่มไม้ ระหว่างทางซูโฮเล่าเรื่องเกี่ยวกับอสูรต่าง ๆ ที่อาจจะเจอในโลกนี้ ทำให้โรเซ่ฟังอย่างสนใจ
เมื่อพวกเขามาถึงหน้าผาสูงที่ขวางเส้นทาง โรเซ่ถึงกับตะลึงในความสูงของหน้าผานั้น ลมพัดกระโชกแรงจนเธอต้องเกาะแขนซูโฮไว้แน่น
"คุณกลัวเหรอครับ" ซูโฮถามด้วยน้ำเสียงที่มีรอยยิ้มบาง ๆ
"ฉันไม่ได้กลัวแค่...มันสูงมากจริง ๆ ค่ะ" โรเซ่ยิ้มเขิน ๆ แต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นเพราะการได้อยู่ใกล้ซูโฮ
ซูโฮหัวเราะ "ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมอยู่ตรงนี้ด้วย เราจะข้ามมันไปด้วยกัน ลองจับมือผมไว้แน่น ๆ แล้วก้าวไปพร้อม ๆ กันนะครับ"
ทั้งสองก้าวไปด้วยกัน มือของซูโฮอบอุ่นจนทำให้โรเซ่รู้สึกมั่นใจขึ้น เธอจ้องมองเขาอย่างมั่นใจ ในขณะที่เขายิ้มให้กำลังใจเธอตลอดทาง
หลังจากข้ามหน้าผามาได้ ทั้งคู่ก็เดินทางต่อจนถึงถ้ำที่มีมังกรตัวใหญ่คอยอยู่ โรเซ่จ้องมองมังกรตนนั้นด้วยแววตามุ่งมั่น เธอเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นนางเอกของนิยายจริง ๆ
"คุณพร้อมที่จะเจอกับมังกรแล้วใช่ไหมครับ" ซูโฮถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและอบอุ่น
โรเซ่หันมามองเขาด้วยความมั่นใจ "แน่นอนค่ะ ฉันพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันแล้ว!"
ซูโฮพยักหน้า "งั้นไปกันเลยครับ ผมจะคอยอยู่ข้าง ๆ คุณ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
ทั้งสองเดินไปด้วยกัน ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ และเผชิญหน้ากับมังกรในที่สุด โรเซ่รู้สึกว่าการผจญภัยนี้เป็นมากกว่าการอ่านนิยาย แต่เป็นการได้สัมผัสถึงมิตรภาพและความอ่อนโยนที่ซูโฮมีให้เธอ ท่ามกลางการต่อสู้และการทดสอบความกล้าหาญของเธอ
ขณะที่โรเซ่และซูโฮเดินผ่านหินก้อนใหญ่ ๆ ที่เรียงรายอยู่บริเวณทางเข้าถ้ำ โรเซ่เผลอก้าวพลาดจนเกือบจะสะดุดหินก้อนเล็ก ๆ ซูโฮคว้าแขนเธอไว้ได้ทันที พร้อมหัวเราะออกมาเบา ๆ
"ระวังหน่อยซิครับ เดี๋ยวก็สะดุดตกลงไปก่อนเจอมังกรพอดี" เขาพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
โรเซ่ทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย แต่ดวงตาก็ยังเปล่งประกายขี้เล่นไม่แพ้กัน เธอแสร้งทำเป็นหันหน้าหนีอย่างงอน ๆ "ก็แค่อยากจะทดสอบดูน่ะค่ะ ว่าคุณจะรับฉันทันหรือเปล่า แต่...ก็ถือว่าผ่านนะคะ!"
ซูโฮหัวเราะขำกับท่าทางของเธอ ก่อนจะปล่อยมือจากแขนเธออย่างอ่อนโยน "คุณนี่นะครับ เอาแต่ทดสอบผมอยู่เรื่อย"
โรเซ่หัวเราะเขิน ๆ แล้วจ้องมองเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง "ถ้าคุณเบื่อก็บอกได้นะคะ เดี๋ยวฉันจะปล่อยให้คุณเดินไปคนเดียวเลย...แต่ถ้าคุณตกใจกลัวขึ้นมา ก็ห้ามกลับมาหาฉันแล้วนะ"
"ถ้าต้องเลือกจริง ๆ ผมว่าผมยังสบายใจกว่าเวลาคุณอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้นะ" ซูโฮตอบพลางยิ้มอ่อนโยน โรเซ่รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมานิด ๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องพูด
ขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาในถ้ำมากขึ้น บรรยากาศภายในมืดสลัวและเย็นยะเยือก โรเซ่มองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นเต้นที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น เธอกระซิบถามซูโฮเสียงเบา "คุณคิดว่ามังกรจะเป็นมังกรน่ารัก หรือมังกรหน้าดุคะ"
"ผมไม่แน่ใจว่ามังกรจะน่ารักนะครับ" ซูโฮตอบพร้อมยิ้มมุมปาก "แต่ดูท่าคุณจะอยากเจอเจ้ามังกรน่ารักจริง ๆ สินะ"
"แน่นอนสิคะ! ฉันว่ามันต้องเป็นมังกรที่รักสงบ แล้วก็คงชอบเก็บสะสมเพชรพลอยไว้ด้วย" โรเซ่พูดพร้อมกับก้มลงมองก้อนหินที่เป็นประกายระยิบระยับในมือของเธอ "ถ้ามันไม่ดุนะคะ ฉันจะลองขอหินสวย ๆ จากมันดูด้วยค่ะ"
ซูโฮส่ายหัวขำ ๆ "คุณนี่มีแต่แผนจะท้าทายไปเรื่อย"
โรเซ่ยักไหล่แบบขี้เล่น "ก็แค่ลองดูค่ะ เผื่อมันจะใจดี ฉันว่ามันคงเบื่อที่จะต้องเจอแต่นักรบแข็งกร้าวนะคะ ลองมีคนมาขอเป็นเพื่อนบ้าง อาจจะดีต่อใจมังกรบ้างก็ได้"
ทันใดนั้น เสียงคำรามต่ำ ๆ ก็ดังมาจากลึกเข้าไปในถ้ำ โรเซ่เผลอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็แอบหัวเราะคิกคัก "สงสัยว่าเสียงนี้คงบอกว่ามันไม่ชอบให้ใครมาเก็บของที่มันหวง"
ซูโฮหัวเราะเบา ๆ แล้วหันมากระซิบกับโรเซ่ "งั้นผมจะให้คุณเป็นตัวแทนไปเจรจากับมันนะครับ ในเมื่อคุณอยากเป็นเพื่อนกับมันขนาดนี้"
โรเซ่พยักหน้าอย่างมั่นใจ แต่ก็ยังมีท่าทีขี้เล่น "ได้เลยค่ะ! ฉันจะลองถามดูดี ๆ เผื่อว่าเราจะได้มิตรภาพเป็นของฝากกลับบ้านด้วย"
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงจุดที่มังกรนอนขดตัวอยู่ โรเซ่ทำหน้าขี้เล่น ยิ้มให้ซูโฮ ก่อนจะหันไปพูดกับมังกร "ขอโทษนะคะคุณมังกร ฉันแค่อยากจะขอยืมเพชรเม็ดเล็ก ๆ กลับบ้านสักเม็ดสองเม็ดเองนะคะ"
ซูโฮยืนมองด้วยรอยยิ้มเอ็นดูในความน่ารักขี้เล่นของเธอ "ผมว่าเจ้ามังกรกำลังชั่งใจอยู่นะว่าจะให้คุณยืมดีหรือเปล่า"
"ก็ต้องลองเสี่ยงดูค่ะ" โรเซ่หันมากระพริบตาปริบ ๆ ให้ซูโฮ "ถ้ามันไม่ให้ ฉันก็คงต้องบอกว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าได้ คุณจะได้รู้ว่าการทดสอบความกล้าหาญของฉันสำเร็จแล้วนะคะ"
ซูโฮมองโรเซ่ด้วยความเอ็นดู เขายื่นมือไปจับมือเธอเบา ๆ "ผมรู้แล้วล่ะครับ ว่าคุณมีความกล้าหาญมากแค่ไหน และผมเองก็โชคดีจริง ๆ ที่ได้มาอยู่ข้าง ๆ คุณในโลกแห่งนี้"
โรเซ่หัวเราะเขิน ๆ ก่อนจะบีบมือเขาตอบ "ขอบคุณนะคะคุณซูโฮ ถ้าไม่มีคุณ ฉันคงไม่กล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับมังกรตัวนี้ได้เลย"
**ความสุข...ที่ได้แบ่งปัน:**
หลังจากที่โรเซ่และซูโฮข้ามหน้าผาสูงชันมาได้ พวกเขายังคงเดินทางต่อกันไปบนเส้นทางที่ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจีและดอกไม้สีสันสวยงาม โรเซ่ที่รู้สึกกระตือรือร้นอย่างมาก คอยมองไปรอบ ๆ และหยุดบ่อย ๆ เพื่อชื่นชมธรรมชาติรอบข้าง
โรเซ่ยิ้มกว้างพลางยื่นมือไปแตะดอกไม้ข้างทาง "คุณซูโฮคะ ดูสิคะ ดอกไม้ที่นี่สวยจังเลย! แปลกตากว่าที่เคยเห็นในชีวิตจริงอีกนะคะ" เธอทำท่าตั้งใจมองดอกไม้จนใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขและความประทับใจ
ซูโฮหัวเราะน้อย ๆ ขณะมองดูเธอ "ดูคุณจะมีความสุขกับการผจญภัยครั้งนี้มากกว่าที่ผมคิดไว้อีกนะครับ" เขาพูดด้วยสายตาเอ็นดูที่ฉายชัดออกมา
โรเซ่หันมายิ้มให้เขาแล้วแกล้งทำหน้าเปรี้ยวเล็กน้อย "ก็แน่นอนสิคะ! ได้ออกมาผจญภัยในดินแดนที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์แบบนี้ใครจะไม่ตื่นเต้นกันล่ะคะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นและขยับเข้าไปใกล้เขาเล็กน้อย ทำให้ซูโฮรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้น
"ถ้าอย่างนั้นเราจะไปตามหามังกรกันไหมครับ" ซูโฮยิ้มพร้อมพูดเชิงแซวเมื่อเห็นว่าเธอกำลังมีท่าทีที่น่ารักขี้เล่น
โรเซ่ทำท่าคิดแล้วพยักหน้าหนักแน่น "แน่นอนค่ะ! แต่ก่อนจะเจอมังกร ฉันต้องขอเก็บดอกไม้ไปก่อนนะคะ" เธอหยิบดอกไม้ที่เก็บได้มาจัดเรียงกันอย่างมีความสุข ทำให้ซูโฮอดที่จะมองเธอด้วยความประทับใจไม่ได้
"คุณนี่น่ารักจริง ๆ เลยนะครับ" ซูโฮพูดออกมาจากใจ ทำให้โรเซ่หน้าแดงเล็กน้อย
"คุณพูดแบบนี้อีกแล้วนะคะ" เธอแกล้งทำหน้าเข้มแต่ยังยิ้มไม่หุบ
พวกเขาเดินทางต่อและในระหว่างนั้น โรเซ่ก็เริ่มแกล้งซูโฮด้วยการทำเสียงเบา ๆ เลียนแบบสัตว์ป่าที่อยู่ใกล้ ๆ
"คุณได้ยินไหมคะ? เหมือนมีเสียงอะไรอยู่ในพุ่มไม้เลยค่ะ" เธอแสร้งทำเสียงจริงจัง แต่ดวงตาของเธอกลับมีประกายซุกซน
ซูโฮทำหน้าเลิ่กลั่กเล็กน้อยแล้วตั้งใจฟัง "ที่ไหนครับ ทำไมผมไม่เห็นได้ยินเลย"
โรเซ่กลั้นหัวเราะแล้วทำท่าตกใจ "โอ๊ย! นั่นไงคะ! มันอยู่ตรงนั้นจริง ๆ ด้วย!" แล้วเธอก็หัวเราะออกมาเบา ๆ
ซูโฮหัวเราะตามและส่ายหัวเบา ๆ "คุณนี่ขี้เล่นจริง ๆ เลยนะครับ ทำผมตกใจเสียได้" เขาพูดพลางยื่นมือมาลูบผมเธออย่างเบามือ ราวกับจะสื่อว่าเขาเอ็นดูเธอมากแค่ไหน
โรเซ่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาเบา ๆ "ฉันคิดว่าการได้มาเจอคุณและได้ออกมาผจญภัยในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ"
ซูโฮหันมามองเธอและยิ้มอย่างอบอุ่น "ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ ผมดีใจมากที่ได้อยู่ข้าง ๆ คุณแบบนี้"
หลังจากที่โรเซ่และซูโฮเดินเคียงกันผ่านทุ่งหญ้าต่อมาได้สักพัก โรเซ่ก็สังเกตเห็นว่าซูโฮเงียบไป เธอจึงแกล้งกระโดดเข้ามาเดินข้าง ๆ เขาและกระตุกแขนเสื้อเขาเบา ๆ
"คุณซูโฮ~ ดูเหม่อจังเลยนะคะ คิดถึงบ้านหรือเปล่า" เธอถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่น แต่แฝงไปด้วยความห่วงใย
ซูโฮยิ้มบาง ๆ แล้วหันไปสบตาเธอ "เปล่าครับ ผมกำลังคิดว่าคุณทำให้โลกของผมมีสีสันมากขึ้นกว่าเดิมต่างหาก"
คำพูดของซูโฮทำให้โรเซ่หน้าแดงเล็กน้อย เธอหันไปมองทางอื่นเพื่อปิดบังความเขินอาย "พูดแบบนี้ ทำไมคุณดูโรแมนติกจังเลยคะ" เธอพูดอย่างแกล้ง ๆ แต่ลึก ๆ รู้สึกดีใจที่ได้รับคำชมจากเขา
ซูโฮหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า "บางทีผมอาจจะได้เรียนรู้จากคุณก็ได้นะครับ ตั้งแต่คุณเข้ามาในชีวิตผม ผมรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากเลย"
โรเซ่ฟังแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ทั้งสองค่อย ๆ เดินไปด้วยกันอย่างเงียบ ๆ แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่แสนหวานและโรแมนติก
หลังจากที่ทั้งคู่ได้เผชิญหน้ากับอุปสรรคในถ้ำและหลบหนีจากสัตว์ร้ายมาได้อย่างหวุดหวิด โรเซ่และซูโฮก็ต้องพบกับอีกหนึ่งความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า: หน้าผาสูงชันที่ขวางกั้นเส้นทางสู่ส่วนลึกของป่า บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบสงัดและอันตรายที่แฝงอยู่ในทุกย่างก้าว เสียงลมกระโชกแรงที่พัดผ่านทำให้สถานการณ์ดูตึงเครียดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ซูโฮและโรเซ่กลับมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดฝัน"ดูเหมือนเราจะเจออุปสรรคใหม่แล้วนะ โรเซ่...คิดว่าเราจะผ่านมันไปได้ไหม" ซูโฮเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม"ถ้าเป็นอย่างที่นายบอก เมื่อกี้ก็ยังผ่านอุปสรรคถ้ำไปได้แล้ว นี่มันแค่หน้าผาแค่นั้นเอง ฉันว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอก!" โรเซ่ตอบด้วยท่าทางมั่นใจ ขณะที่มือหนึ่งจับแขนของซูโฮอย่างแน่นหนา พร้อมกับมองไปยังหน้าผาที่ดูเหมือนจะท้าทายทุกย่างก้าว ซูโฮอดที่จะรู้สึกประทับใจในความมั่นใจและความขี้เล่นของเธอไม่ได้"คุณนี่กล้าได้ใจจริง ๆ โรเซ่ ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าใครเป็นคนกลัวจริง ๆ" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู"ฉันไม่ได้กลัวนะ ฉันแค่รู้ว่าเราต้องทำยังไง ถ้าเรากลัวมากไปก็ไม่ไปถึงไหนหรอกนะ" โรเซ่ตอบด้
หลังจากที่โรเซ่และซูโฮรอดพ้นจากหมาป่าตัวใหญ่มาได้อย่างหวุดหวิด ทั้งคู่ยังคงมุ่งหน้าเดินลึกเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยความลึกลับและท้าทาย โรเซ่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกในโลกนิยายอย่างแท้จริง ทุกย่างก้าวที่เธอเดินเคียงข้างซูโฮ ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจและกล้าหาญมากยิ่งขึ้น ซูโฮเองก็เริ่มสังเกตเห็นความมั่นใจและความเข้มแข็งที่แฝงอยู่ในตัวเธอมากขึ้นเรื่อย ๆขณะที่พวกเขาเดินผ่านเส้นทางแคบ ๆ ที่มีรากไม้เกาะเกี่ยว โรเซ่ก็หยุดเดินกะทันหันเมื่อเห็นลำธารที่กว้างและน้ำไหลเชี่ยวขวางทางอยู่ น้ำในลำธารนั้นไหลแรงและดูเหมือนจะลึกพอสมควร ซูโฮมองซ้ายขวาเพื่อหาทางข้าม ขณะที่โรเซ่ก็มองหาวิธีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น"โอ้โห! งานนี้ท้าทายจริง ๆ คุณว่าเราจะข้ามไปยังไงดีล่ะซูโฮ" โรเซ่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทาย"นี่คุณดูตื่นเต้นมากกว่ากลัวอีกนะ ผมคิดว่าคุณจะกลัวน้ำเชี่ยวเสียอีก" ซูโฮกล่าวด้วยความประหลาดใจ"ฉันไม่กลัวหรอกนะ! นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะพิสูจน์ว่าเราจะผ่านอะไรไปได้มากขนาดไหน ฉันมั่นใจว่าเราทำได้" โรเซ่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นซูโฮยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของโรเซ่
เมื่อซูโฮและโรเซ่ก้าวเข้าไปในโลกนิยายโรแมนติกที่เขาแนะนำ บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง บ้านสีขาวหลังเล็ก ๆ เรียงรายอยู่ริมทะเลสาบที่เงียบสงบ เงาของพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนบนผืนน้ำ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและชวนฝัน โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นและประหม่านิด ๆ ในขณะที่ซูโฮเดินเคียงข้างเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนซูโฮมองเธอด้วยสายตาที่อบอุ่นและเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่นุ่มนวล"นี่...เราจะต้องแกล้งเป็นคู่รักเพื่อผ่านด่านนี้ไป คุณคิดว่าอย่างไร"โรเซ่ที่ดูมั่นใจมาตลอด กลับหน้าแดงเล็กน้อย เธอหัวเราะเบา ๆ พลางพยายามซ่อนความเขินอาย"แค่แสดงบทคู่รักเอง...คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม" โรเซ่ตอบพร้อมรอยยิ้มที่พยายามจะกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง"ใช่ แต่คงต้องแสดงให้แนบเนียนหน่อย ไม่อย่างนั้นเราอาจจะไม่ผ่านด่านนี้" ซูโฮตอบพร้อมกับยิ้มขำทั้งคู่เดินไปเรื่อย ๆ จนเจอกับคนชราที่ดูใจดีในชุดผ้าคลุมสีขาว คนชรามองทั้งสองด้วยความเอ็นดู"ยินดีต้อนรับพวกเธอ ทั้งสองช่างเหมาะสมกันจริง ๆ เหมือนคู่รักที่เกิดมาเพื่อกันและกัน" คนชรากล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนซูโฮหันไปสบตาโรเซ่ เขาเห็นรอยยิ้มที่แฝงความขี้เล่น และเอ่ยเสียงนุ่ม"ใช่
ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักและความโรแมนติก โรเซ่และซูโฮเดินกลับมาที่บ้านพักหลังจากได้ชมดอกไม้ไฟในสวนสาธารณะ ความรู้สึกที่ทั้งสองได้แบ่งปันกันเมื่อสักครู่ยังคงติดอยู่ในใจ โรเซ่รู้สึกสดชื่นและมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเมื่อได้อยู่เคียงข้างซูโฮเมื่อถึงบ้าน ซูโฮเปิดประตูให้โรเซ่และยิ้มให้เธออย่างสุภาพ โรเซ่สังเกตเห็นความพยายามของเขาที่จะทำตัวให้ดีที่สุดเพื่อเธอ ความรู้สึกอบอุ่นนี้ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและเชื่อมั่นในตัวเขามากยิ่งขึ้น"ขอบคุณนะที่เป็นสุภาพบุรุษให้ฉันเสมอซูโฮ ฉันชอบความรู้สึกนี้" โรเซ่เอ่ยด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง"ก็เพราะคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด! และผมก็อยากให้คุณรู้สึกพิเศษ" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและจริงใจโรเซ่รู้สึกเขินอายเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ซูโฮยังคงไม่หยุดที่จะสร้างความประทับใจให้เธอ เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาก็รีบหยิบผ้าห่มมาเพื่อให้เธอได้นั่งอย่างสบาย"นี่ เก็บไว้ถ้าหนาวนะ" ซูโฮกล่าวด้วยความเป็นห่วง"คุณนี่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงเลยนะ" โรเซ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข"ก็คงเป็นเพราะคุณมีเสน่ห์แบบนั้น!" ซูโฮตอบด้วยเสีย
ขณะเดินกลับจากมื้ออาหารค่ำ โรเซ่และซูโฮใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับชีวิต งานอดิเรก และความฝันในอนาคตของพวกเขา บรรยากาศยามค่ำคืนเต็มไปด้วยดาวที่ระยิบระยับ และเสียงของการจราจรจากถนนทำให้บรรยากาศดูคึกคัก โรเซ่รู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวาเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกับซูโฮ"โรเซ่ เธอเคยคิดไหมว่าถ้าหากเราสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกแฟนตาซีได้ เราจะทำอะไรบ้าง" ซูโฮถามด้วยน้ำเสียงที่ชวนฝัน"อืม... คุณอยากเป็นนักผจญภัยที่ออกตามหาสมบัติ! แล้วคุณล่ะซูโฮ" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น"ผมจะเป็นนักรบที่คอยปกป้องคุณจากอันตราย!" ซูโฮกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนโรเซ่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของซูโฮ เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่ออยู่กับเขา ราวกับว่าเขาเป็นคนที่สามารถทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและการสนับสนุนที่ไม่เหมือนใคร"ถ้าฉันเป็นนางเอก ฉันจะต้องเป็นนางเอกที่ทำอาหารอร่อย ๆ ให้คุณกินนะ" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน่ารัก"นักรบไม่มีเวลากินอาหารหรอก! ผมจะต้องไปรบ!" ซูโฮแกล้งทำเสียงเข้ม"ยังไงก็ต้องหิวอยู่ดี! ถ้าไม่มีอาหาร นักรบก็ไม่มีแรงจะต่อ
ในช่วงบ่ายที่สดใส โรเซ่และซูโฮตัดสินใจที่จะใช้เวลาร่วมกันในสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงในโลกนิยายที่พวกเขาอยู่ มันเป็นสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสี และบรรยากาศที่โรแมนติก ลมเบา ๆ พัดผ่านทำให้โรเซ่รู้สึกมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เมื่อเดินเข้าไปในสวน โรเซ่สวมชุดเดรสสีฟ้าลายดอกไม้ที่พริ้วไหวเมื่อโดนลม ซึ่งทำให้เธอดูสดใสและเต็มไปด้วยพลังงาน"ซูโฮ! ดูซิ! ดอกไม้ตรงนั้นสวยมากเลย" โรเซ่ชี้ไปยังดอกไม้สีสดใสที่บานอยู่กลางสวน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น"ใช่! มันสวยจริง ๆ ทำให้ผมนึกถึงภาพวาดในนิยายที่เราเคยอ่านกันเลย" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มโรเซ่หันมามองซูโฮด้วยรอยยิ้มกว้าง ความมั่นใจในตัวเองของเธอทำให้เธอรู้สึกว่า การแสดงออกถึงความชอบของตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญ"ฉันชอบดอกไม้ เพราะมันทำให้รู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา! เหมือนกับความรักที่เราอ่านในนิยายเลย" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข"ความรักที่ทำให้เราได้เห็นสิ่งสวยงามแบบนี้ก็จริงนะ" ซูโฮกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นขณะที่เดินต่อไป โรเซ่เริ่มเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับการออกแบบเสื้อผ้าของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอหลงใหลมาตั้งแต่เด็ก"เมื่อปีที่แล้ว ฉันพ
บรรยากาศในสวนสาธารณะถูกเติมเต็มด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องผ่านกิ่งไม้และเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินไปมา โรเซ่และซูโฮนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ในขณะที่ความสดชื่นของลมเย็นช่วยสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยถึงความฝันของพวกเขา"ซูโฮ ฉันรู้ว่าคุณมีความฝันเกี่ยวกับห้องสมุดแห่งความฝันของปู่จริงไหม มันเป็นอย่างไรบ้าง" โรเซ่ถามด้วยความสนใจซูโฮยิ้มกว้าง เมื่อต้องพูดถึงห้องสมุดที่เขารักมาก"ใช่! ห้องสมุดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พิเศษมากสำหรับผม มันไม่ใช่แค่ที่เก็บหนังสือ แต่เป็นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทุกวัย ผมรับช่วงดูแลมันต่อจากพ่อของผม" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่จ้องมองเขาอย่างตั้งใจ และสามารถเห็นแสงแห่งความหลงใหลในดวงตาของเขา"โอ้! มันฟังดูยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉันจำได้ว่าได้ยินเกี่ยวกับห้องสมุดนี้จากเพื่อน ๆ พวกเขาพูดถึงความอบอุ่นและบรรยากาศที่ดีที่นั่น" โรเซ่กล่าวด้วยความชื่นชม"ใช่! ห้องสมุดนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกของการแบ่งปัน ความรู้สึกที่ทุกคนสามารถเข้ามาอ่านหนังสือและพูดคุยกันได้ ผมอยากให้มันเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถเปิดใจและเชื่อมโยงกัน" ซูโฮตอบด้วยค
โรเซ่และซูโฮนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะ แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านใบไม้ลงมากระทบร่างของพวกเขา สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและอบอุ่น โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้อยู่กับซูโฮและแบ่งปันความฝันของเธอกับเขา"ซูโฮ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ขนาดนี้ ผมชอบที่จะฟังคุณพูดถึงความฝันของคุณ" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชมโรเซ่ยิ้มและสัมผัสถึงความอบอุ่นจากคำชมของเขา"ขอบคุณนะ! การได้สร้างสิ่งที่มีความหมายให้กับผู้คนเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวา มันเหมือนการได้ทำอะไรที่สำคัญ" โรเซ่ตอบด้วยความจริงใจซูโฮมองไปที่เธออย่างตั้งใจ"ความฝันของคุณมันใหญ่หลวงมาก ผมมั่นใจว่าคุณสามารถทำให้มันเป็นจริงได้" ซูโฮกล่าวด้วยความเชื่อมั่น"แน่นอน! และฉันก็รู้สึกว่าความฝันของเรามีความคล้ายกันมาก ฉันอยากให้ห้องสมุดแห่งความฝันเป็นที่ที่ทุกคนมีโอกาสค้นหาความรู้และแรงบันดาลใจ" โรเซ่กล่าวด้วยความมุ่งมั่น"นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมรักห้องสมุดแห่งนี้ มันไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นโรเซ่รู้สึกถึงความใกล้ชิดเมื่อทั้งคู่เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับความฝันขอ
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั
โรเซ่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง ตั้งแต่เธอเริ่มฝันถึงซูโฮบ่อยขึ้น ความฝันแต่ละครั้งชัดเจนราวกับความจริง เสียงของเขานุ่มนวลเหมือนเคย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือซูโฮในความฝันเริ่มมีอารมณ์เหมือนคนที่มีชีวิตจริง เขาหัวเราะ เสียใจ หรือแม้แต่แสดงความห่วงใยเธอในแบบที่ลึกซึ้ง จนโรเซ่เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองคืนหนึ่ง โรเซ่ฝันว่าเธอกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ซูโฮเดินเคียงข้างเธอ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ดวงตาดูลึกซึ้งจนยากจะเข้าใจ"คุณดูเงียบกว่าปกตินะคะ วันนี้มีอะไรในใจหรือเปล่า" โรเซ่ถามพลางหันไปมองเขา"บางครั้งผมก็รู้สึกว่าเวลาของเราในที่นี่มันไม่ยั่งยืน" ซูโฮตอบ น้ำเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่โรเซ่ขมวดคิ้ว"คุณหมายความว่ายังไง คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันถึงฝันถึงคุณบ่อยขนาดนี้" โรเซ่ถามด้วยความสงสัยซูโฮหยุดเดินและมองเธอ ดวงตาของเขาสั่นไหวเหมือนคนที่กำลังเก็บความลับบางอย่าง"ผมคือส่วนหนึ่งของความฝันที่คุณสร้างขึ้น คุณไม่ต้องกลัว ผมไม่ได้มาทำร้ายคุณ" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ"แต่คุณมาจากไหน คุณเป็นคนจริง ๆ หรือเปล่า" โรเซ่ยังคงถามต่อเขาไม่ตอบ แต่เพียงส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
เช้าวันนั้นในกรุงโซล อากาศเย็นสบายลอยผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของโรเซ่ แสงแดดอ่อน ๆ ทอประกายลงบนโต๊ะทำงานของเธอที่ยังคงมีร่องรอยจากโปรเจกต์ก่อนหน้านี้ โรเซ่ลุกขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่น หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จ เธอเดินลงไปที่ห้องครัว พ่อของเธอกำลังตักข้าวใส่ชาม และแม่ของเธอก็กำลังเตรียมเครื่องเคียง"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" แม่ทักพร้อมรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง"แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย" โรเซ่ตอบด้วยความตื่นเต้นมินจี น้องสาวของเธอที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มทุกคนหัวเราะและนั่งล้อมรอบโต๊ะ โรเซ่เริ่มเล่าเรื่องการแสดงแฟชั่นโชว์ ทั้งบรรยากาศของงาน ชุดที่เธอออกแบบ และเสียงปรบมือที่ได้รับ"พ่อคะ แม่คะ ตอนที่ฉันยืนอยู่บนเวทีแล้วมองไปยังฝูงชน ฉันรู้สึกเหมือนความฝันมันเป็นจริงเลยค่
โรเซ่หลับตาลงอย่างช้า ๆ หลังจากวันที่ยาวนานผ่านไป ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ชวนให้เธอนึกถึงโลกใบหนึ่งที่เธอไม่ได้ไปมาหลายวัน โลกที่เต็มไปด้วยแสงสลัวและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหนังสือเก่า ๆ และเมื่อเธอเปิดตาขึ้นอีกครั้งในความฝัน เธอพบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องสมุดแห่งความฝันอีกครั้ง"คุณกลับมาแล้ว" เสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่นดังขึ้นข้างหลัง โรเซ่หันไปและพบกับซูโฮ เขายืนอยู่ในชุดเรียบง่าย สายตาของเขามองเธอด้วยความอ่อนโยนที่โรเซ่คุ้นเคย"ใช่ ฉันกลับมาแล้ว" โรเซ่พูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ขณะที่เดินเข้าไปใกล้เขา "ที่นี่สงบกว่าชีวิตจริงของฉันเยอะเลย"ซูโฮหัวเราะเบา ๆ "ผมเดาว่ามันคงมีเรื่องมากมายที่ทำให้คุณเหนื่อย แต่คุณก็ยังดูสดใสเสมอ"โรเซ่ยิ้มขี้เล่น"ฉันก็ต้องพยายามทำตัวให้สดใสสิ ฉันไม่ชอบให้ใครมองว่าฉันอ่อนแอ" โรเซ่ตอบด้วยความมั่นใจ"แต่คุณก็ไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด" ซูโฮพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณมีพลังในแบบที่คนอื่นไม่มี และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง"โรเซ่หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ซูโฮ"คุณพูดเหมือนรู้จักฉันดีจัง... มากกว่าที่ฉันรู้จักตัวเองเสียอีก" โรเซ่กล่าวด้วยความสงสัยซูโฮยิ้มบ