หลังจากทั้งคู่ได้เผชิญกับอุปสรรคในถ้ำและหลบหนีจากสัตว์ร้ายมาหมาด ๆ โรเซ่และซูโฮก็พบกับอีกหนึ่งอุปสรรคที่ท้าทายไม่แพ้กัน: หน้าผาสูงชันที่ตัดขาดจากเส้นทางเดิมไปสู่ส่วนลึกของป่า บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบและความอันตรายที่แฝงอยู่ในทุกย่างก้าว ท่ามกลางเสียงลมกระโชกแรงที่พัดผ่าน ซูโฮและโรเซ่ยืนอยู่ข้างหน้าผา รอยยิ้มของทั้งคู่ปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดคิด
ซูโฮ: (หัวเราะเล็ก ๆ) “โรเซ่! คุณมั่นใจในตัวเองแค่ไหนกัน? เมื่อกี้ยังบอกว่าจะผ่านทุกอุปสรรคไปได้อยู่เลย”
โรเซ่: “ก็...ก็ใช่น่ะสิ! แต่ว่าฉันไม่ได้หมายถึงทางแคบที่สูงจนตกลงไปจะไม่รอดแบบนี้!”
เธอพูดพลางกระชับแขนที่กอดจินฮยองแน่นขึ้น ซูโฮอดที่จะหัวเราะกับท่าทางของเธอไม่ได้ เขารู้สึกเอ็นดูในความมั่นใจและขี้เล่นของโรเซ่ ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะหวาดกลัว แต่ก็ไม่เคยหยุดที่จะตอบโต้ในแบบของตัวเอง
ซูโฮ: “โอเค ถ้าอย่างนั้นถ้าฉันสัญญาว่าจะคอยดูแลเธอให้ผ่านไปได้ล่ะ? เธอคิดว่ายังกลัวอยู่ไหม?”
โรเซ่: (หน้าแดงเล็กน้อย) “ก็...อืม…อาจจะไม่กลัวเท่าไหร่ ถ้าคุณอยู่ข้าง ๆ”
เธอยิ้มด้วยความเขินอาย แต่ก็ยังคงกอดแขนจินฮยองแน่น จนเขารู้สึกถึงความอ่อนโยนในท่าทางที่ดูขี้เล่นของเธอ ทั้งสองค่อย ๆ เดินไปข้างหน้า ในขณะที่โรเซ่เริ่มพูดไปเรื่อย ๆ เพื่อกลบความกลัวในใจ
โรเซ่: “นี่! ซูโฮ คุณคิดว่าเราจะเจอเจ้ามังกรยักษ์ในตำนานจริง ๆ ไหม?”
ซูโฮ: “ถ้าเป็นตามที่นิยายบอก เราคงหนีไม่พ้นเจ้ามังกรตัวนั้นแน่ ๆ และถ้าเราเจอมันจริง ๆ คุณจะทำอย่างไร?”
โรเซ่: “ถ้าเจอจริง ๆ นั้นเหรอ? ก็...ฉันจะสั่งให้มันยอมจำนน แล้วเอามันมาเป็นพาหนะของเราซิ!” (ทำท่าทางมั่นใจ)
ซูโฮหัวเราะดังขึ้นมาอีกครั้ง เขาประทับใจในความมั่นใจเกินตัวของเธอ แม้ว่าจะรู้ดีว่าโรเซ่กำลังกลัวก็ตาม แต่เธอก็ไม่ยอมแสดงออกให้เห็นง่าย ๆ
ซูโฮ: “ถ้าอย่างนั้นผมจะคอยดูเธอให้บังคับเจ้ามังกรยักษ์ตัวนั้นยอมจำนนแล้วกัน โรเซ่ผู้กล้าหาญ”
โรเซ่: “ต้องคอยดูให้ดีนะ เพราะฉันอาจทำให้นายต้องทึ่งกับความสามารถของฉัน!”
บทสนทนานี้ทำให้โรเซ่รู้สึกสบายใจขึ้น เธอเดินเคียงข้างซูโฮไปอย่างมั่นใจและขี้เล่น เมื่อทั้งสองมาถึงทางโค้งที่ล้อมรอบด้วยหมอก โรเซ่หันไปสบตาจินฮยอง เธอรู้สึกได้ว่าการผจญภัยนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเดินทางในนิยาย แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่เธอได้รู้จักตัวเองและรู้สึกถึงความผูกพันที่มีต่อซูโฮมากขึ้น
ทั้งสองพูดคุยเล่นไปตลอดทาง ทำให้เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว การผจญภัยนี้เป็นเหมือนบทเรียนที่ทำให้โรเซ่ได้พบกับความกล้าหาญที่แฝงอยู่ในใจและความสัมพันธ์ที่เบ่งบานขึ้นอย่างช้า ๆ
หลังจากการต่อสู้กับกิ้งก่ายักษ์ผ่านพ้นไป โรเซ่และจินฮยองเดินทางต่อเข้าสู่ป่าลึก ที่นี่มีทางเดินเล็ก ๆ แคบ ๆ ทอดยาวเข้าไปในพุ่มไม้หนาทึบ บรรยากาศรอบ ๆ เงียบสงบ แต่ยังคงแฝงความน่ากลัวที่ชวนให้ขนลุก จินฮยองเดินอยู่ข้างหน้า คอยสำรวจเส้นทางเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย ส่วนโรเซ่เดินตามมาด้วยท่าทีมั่นใจ แต่มุมปากของเธอแอบยิ้มขี้เล่นในทุกจังหวะที่จินฮยองหันมามอง
ซูโฮ: “เธอไม่กลัวอะไรบ้างเลยเหรอโรเซ่? ป่าลึกแบบนี้นะ มีอะไรโผล่มาก็ไม่แปลก”
โรเซ่: (ยิ้มและพูดเสียงนุ่ม) “กลัวนะกลัวอยู่หรอก แต่จะให้หนีไปตอนนี้ก็ไม่ใช่โรเซ่ที่นายรู้จักแน่ ๆ ฉันนะ…เกิดมาเพื่อเผชิญหน้าอุปสรรคต่างหาก!”
ซูโฮ: (หัวเราะเบา ๆ) “ก็จริงนะ ตั้งแต่รู้จักคุณมา ผมก็รู้สึกว่าคุณนี่กล้าหาญและมั่นใจมากจริง ๆ บางทีผมเองก็แอบกังวลเล็ก ๆ กลัวคุณจะทำอะไรนอกเหนือคาดเดาไปมากกว่านี้”
โรเซ่: (ทำหน้าตายและแกล้งพูดอย่างล้อเล่น) “อย่าประเมินฉันต่ำเกินไปซิซูโฮ ฉันอาจจะมีความสามารถที่คุณคาดไม่ถึงก็ได้… หรือบางทีอาจจะทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่ายโดยที่คุณไม่ทันสังเกตเลยก็ได้นะ!”
เมื่อทั้งคู่เดินเข้าไปในป่าลึก พวกเขาก็พบอุปสรรคขวางหน้า เป็นสะพานไม้เก่าที่ยื่นไปอีกฝั่งของหุบเหวลึก สะพานนั้นดูเก่าและพร้อมจะพังทลายได้ทุกเมื่อ โรเซ่มองสะพานอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะหันมาพูดกับจินฮยองด้วยท่าทีมั่นใจ
โรเซ่: “ฉันคิดว่าเราสามารถข้ามได้นะ แต่นายจะไว้ใจฉันหรือเปล่า?”
ซูโฮ: (ยิ้มและพยักหน้า) “แน่นอน ผมไว้วางใจในความกล้าหาญของเธอ คุณลองไปก่อนซิ ผมจะตามไป”
โรเซ่ก้าวเท้าไปบนสะพานอย่างมั่นใจ สะพานไม้เก่าแคบและโคลงเคลงเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา เธอเริ่มหันกลับมาพูดคุยกับจินฮยองเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ
โรเซ่: “เห็นไหมล่ะ คุณคิดว่าฉันจะทำไม่ได้จริง ๆ เหรอ? แค่สะพานไม้เก่า ๆ เอง!”
ซูโฮ: (หัวเราะและก้าวตาม) “โอเค ๆ ยอมรับว่าผมประเมินคุณต่ำไปหน่อย แต่ผมขอพูดไว้นะว่าคุณนี่เป็นคนที่ทำให้ผมประหลาดใจอยู่ตลอดเวลาเลยจริง ๆ”
เมื่อพวกเขาข้ามสะพานไปได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็มุ่งหน้าต่อไปในป่า ระหว่างทางพวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โรเซ่เล่าเรื่องในวัยเด็กของเธอที่มักจะชอบอ่านนิยายแฟนตาซีและจินตนาการว่าเธอเป็นนางเอกที่ได้ผจญภัยอย่างไร
โรเซ่: “ตอนเด็ก ๆ ฉันอ่านนิยายแนวแฟนตาซีมากมาย แล้วก็มักจะคิดเสมอว่าตัวเองอยู่ในโลกนั้น ได้เจอกับมังกร เวทมนตร์ หรือการผจญภัยในป่าลึกแบบนี้ แค่คิดก็สนุกแล้ว”
ซูโฮ: (ฟังด้วยความสนใจ) “ผมว่าเป็นเสน่ห์ของคุณเลยนะ คุณมีความคิดจินตนาการที่สดใสและเปี่ยมไปด้วยความฝัน ไม่แปลกใจเลยที่เธอกล้าหาญได้ขนาดนี้”
โรเซ่: (ยิ้มเขิน) “ขอบคุณนะที่เข้าใจ ความจริงฉันก็มีความกลัวอยู่เหมือนกัน แต่ฉันคิดเสมอว่าถ้าเรากลัวแล้วเราหยุดเดิน เราจะไม่มีทางได้พบเจอสิ่งใหม่ ๆ ที่รอเราอยู่ข้างหน้าเลย”
เมื่อเดินทางมาถึงลานกว้างในป่าที่เต็มไปด้วยดอกไม้และแสงแดดที่ส่องลงมากลางลาน พวกเขาทั้งสองหยุดพักและนั่งลง ซูโฮหยิบขนมปังจากกระเป๋าออกมาแบ่งกับโรเซ่ ทั้งคู่สนุกสนานกับการสนทนาอย่างอบอุ่น โรเซ่มีรอยยิ้มที่สดใสและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง ซึ่งทำให้จินฮยองเริ่มรู้สึกอบอุ่นในใจมากขึ้น
ซูโฮ: “รู้ไหม โรเซ่ คุณเป็นคนที่ทำให้ผมอยากที่จะเปิดรับโลกใบใหม่ ผมเองไม่ค่อยมีโอกาสได้ผจญภัยหรือคิดจินตนาการเหมือนเธอมาก่อน แต่พอได้อยู่กับเธอ ผมก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันน่าตื่นเต้นขึ้นมา”
โรเซ่: (หัวเราะและหยอก) “ถ้าอย่างนั้นก็ขอต้อนรับสู่โลกแห่งจินตนาการของฉันนะ! ในโลกนี้ เราต้องพร้อมที่จะเผชิญอุปสรรคและความท้าทายอย่างไม่ย่อท้อ แต่ไม่ต้องห่วงไปนะ เพราะฉันจะอยู่ข้าง ๆ นายเสมอ”
ซูโฮ: (ยิ้มและมองโรเซ่ด้วยแววตาที่อบอุ่น) “ขอบคุณนะ โรเซ่ ที่ทำให้ผมได้พบโลกใหม่ ผมว่าต่อจากนี้ ไม่ว่าต้องเจอกับอะไร ผมก็พร้อมจะเผชิญไปกับคุณ”
ความสนิทสนมและความเชื่อมโยงระหว่างโรเซ่และซูโฮยิ่งลึกซึ้งขึ้นในทุก ๆ นาทีที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ทุกคำพูดและการกระทำของโรเซ่ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความเป็นตัวของตัวเองช่วยทำให้จินฮยองเปิดใจมากขึ้น และเชื่อมั่นในเส้นทางแห่งการผจญภัยที่พวกเขากำลังเดินไปด้วยกัน
หลังจากที่โรเซ่และซูโฮรอดพ้นจากหมาป่าตัวใหญ่ได้อย่างหวุดหวิด ทั้งคู่ก็ยังคงมุ่งหน้าเดินลึกเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยความลึกลับและท้าทาย โรเซ่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกในโลกนิยายอย่างแท้จริง และทุกย่างก้าวที่เธอเดินข้างซูโฮก็ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ซูโฮเองก็เริ่มสังเกตเห็นความมั่นใจและความเข้มแข็งที่แฝงอยู่ในตัวเธอมากขึ้นเรื่อย ๆขณะที่พวกเขาเดินผ่านเส้นทางแคบ ๆ ที่มีรากไม้เกาะเกี่ยว โรเซ่หยุดเดินกะทันหันเมื่อเห็นลำธารที่กว้างและน้ำไหลเชี่ยวขวางทางอยู่ น้ำในลำธารนั้นไหลแรงและดูเหมือนจะลึกพอสมควร ซูโฮมองซ้ายขวาเพื่อหาทางข้าม ขณะเดียวกัน โรเซ่ก็มองหาวิธีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นโรเซ่: (หัวเราะเบา ๆ พร้อมยิ้มอย่างท้าทาย) "โอ้โห! งานนี้ท้าทายจริง ๆ คุณว่าเราจะข้ามไปยังไงดีล่ะจินฮยอง?"ซูโฮ: (ยิ้มตอบ) "นี่คุณดูตื่นเต้นมากกว่ากลัวอีกนะ ผมคิดว่าคุณจะกลัวน้ำเชี่ยวเสียอีก"โรเซ่: (พยักหน้า) "ฉันไม่กลัวหรอกนะ! นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะพิสูจน์ว่าเราจะผ่านอะไรได้มากขนาดไหน ฉันมั่นใจว่าเราทำได้"จินฮยองยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของโรเซ่ เขารู้สึกประทับใจในความมั่นใจและความกล้าหาญของเ
โรเซ่ หญิงสาววัย 25 ปีที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในฐานะดีไซเนอร์ของแบรนด์แฟชั่น "Aura Seoul" เธอมีความหลงใหลในความงามและสไตล์ของเสื้อผ้าผู้หญิงอย่างลึกซึ้ง ด้วยรูปลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ โรเซ่กลายเป็นคนมีเสน่ห์ที่ไม่ว่าใครได้พบก็ต้องสะดุดตาที่บ้าน โรเซ่อาศัยอยู่กับพ่อ แม่ และน้องสาวตัวน้อยชื่อมินจี อายุ 10 ขวบ มินจีเป็นเด็กที่อ่อนโยน น่ารัก พูดเก่ง และรักการอ่านหนังสือ มักจะมีหนังสือนิทานอยู่ในมือเสมอ เธอชอบจินตนาการและเรียบร้อยตามแบบเด็กดี ทำให้โรเซ่รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายทุกครั้งที่อยู่กับน้องสาว และเป็นแรงบันดาลใจให้โรเซ่ได้พบความสุขในสิ่งเล็ก ๆคุณพ่อของโรเซ่ชื่อมินซู เขาเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงในโซล มีผลงานที่น่าทึ่งและมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบอาคารใหม่ ๆ มินซูมักจะนำแนวคิดจากธรรมชาติมาใช้ในงานออกแบบ และเขาก็มีความรักในการสอนและแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมกับลูก ๆ เสมอทุกเช้า โรเซ่มักจะเห็นพ่อของเธอแต่งตัวในชุดสูทเรียบร้อย พร้อมกับเอกสารและพอร์ตโฟลิโอที่เขาจะต้องนำไปประชุมโรเซ่: “พ่อ วันนี้ทำงานที่ไหนคะ? มีโปรเจกต์ใหม่หรื
หลังจากทานอาหารเช้าและกล่าวลาครอบครัว โรเซ่รีบออกไปยังที่ทำงาน เมื่อถึงบริษัท "Aura Seoul" เธอก็ได้รับการต้อนรับจากเพื่อนร่วมงานที่คุ้นเคยและเป็นมิตร โรเซ่เริ่มต้นวันด้วยการวางแผนงานในห้องประชุมกับทีมดีไซน์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำเสนอคอลเลกชันใหม่ ในการประชุมครั้งนี้ โรเซ่นำเสนอไอเดียเกี่ยวกับการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายและความหรูหรา เธอเน้นให้การออกแบบแสดงถึงความงดงามที่ไม่ซับซ้อน แต่มีสไตล์เฉพาะตัวที่สะท้อนถึงความเป็นผู้หญิงยุคใหม่คุณชเวเป็นหัวหน้าของโรเซ่ที่ Aura Seoul เธอเป็นผู้หญิงที่มีประสบการณ์สูงและเข้มงวดในเรื่องคุณภาพงาน คุณชเวเห็นศักยภาพของโรเซ่ตั้งแต่เข้าทำงานที่นี่ จึงมักส่งเสริมให้โรเซ่พัฒนาฝีมือ แต่เธอก็ไม่ละเว้นในการชี้จุดบกพร่อง ทำให้โรเซ่ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองมากขึ้น หัวหน้าคนนี้ทำให้โรเซ่รู้สึกว่ามีคนที่ทั้งท้าทายและสนับสนุนอยู่ในที่ทำงานเสมอคุณชเว: “โรเซ่ คอลเล็กชันใหม่ของเธอดูดีนะ แต่ฉันอยากให้เธอลองออกจากกรอบเดิมดูบ้าง ลองอะไรที่ท้าทายกว่านี้ได้ไหม?”โรเซ่: “ได้ค่ะ คุณชเว ขอบคุณที่แนะนำ ฉันจะพยายามสร้างสรรค์มากกว่านี้ค่ะ”หัวหน้า: “โรเซ่ ฉันเห็นว่าเธอมีแ
หลังจากทำงานเสร็จในแต่ละวัน โรเซ่จะไปที่ห้องสมุดประจำที่เธอโปรดปราน ซึ่งมีชื่อเรียกกันอย่างอบอุ่นว่า "ห้องสมุดแห่งความฝัน" ห้องสมุดนี้มีบรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยหนังสือหลายประเภท ตั้งแต่วรรณกรรมคลาสสิกไปจนถึงนิยายรักและแฟนตาซี ที่นี่เป็นที่ที่โรเซ่ได้ปลดปล่อยจินตนาการ และดื่มด่ำไปกับการเป็นนางเอกในเรื่องราวต่าง ๆ ที่เธออ่านในช่วงเย็นวันหนึ่ง หลังจากใช้เวลาในห้องสมุดนานกว่าปกติ โรเซ่ก็กลับมาถึงบ้านพร้อมกับรอยยิ้มและประกายตาแห่งความตื่นเต้น ขณะที่เธอวางกระเป๋าลง แม่ของเธอก็ยิ้มทักทายจากในครัวแม่ซูฮี: "กลับมาแล้วเหรอลูก? วันนี้ดูอารมณ์ดีนะ ไปอ่านหนังสืออะไรมาอีกล่ะ?"โรเซ่ยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบหยิบหนังสือนิยายที่เพิ่งยืมมาและยืนอยู่ตรงหน้าครอบครัวเหมือนนักเล่านิยายโรเซ่: "แม่ พ่อ วันนี้ฉันเจอนิยายเรื่องใหม่สุดตื่นเต้นเลยค่ะ เป็นเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่หลงเข้าไปในโลกแฟนตาซี เธอเป็นคนธรรมดาแต่กลับกลายเป็นนางเอกที่ต้องช่วยเหลือผู้คนในอาณาจักรนั้น!"พ่อมินซู: "โอ้ น่าสนุกจริง ๆ แล้วนางเอกของเราทำยังไงต่อ?"โรเซ่ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้าง ๆ น้องสาวของเธอ มินจี ที่ฟังอย่างตื่นเต้นตาโตโรเซ่
หลังจากวันทำงานที่แสนยาวนาน โรเซ่เดินออกจากบริษัทด้วยความรู้สึกปลดปล่อย เธอยิ้มกว้างขณะก้าวเดินไปตามทางที่คุ้นเคย จนในที่สุดก็มาถึงห้องสมุดแห่งความฝัน ห้องสมุดนี้เป็นสถานที่ที่โรเซ่รักที่สุดในโลก บรรยากาศที่เงียบสงบและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกระดาษทำให้ที่นี่เหมือนเป็นโลกอีกใบหนึ่งของเธอเธอผลักประตูเข้าไป เสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ดังขึ้นเบา ๆ ทันทีที่เธอเปิดประตู ผู้ดูแลห้องสมุด ชายสูงอายุที่มีแว่นตากรอบหนาก็เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือที่อ่านอยู่และยิ้มทักทายโรเซ่: "สวัสดีค่ะ คุณลุงวูฮยอน! วันนี้หนูมาช้าหน่อยเพราะงานเยอะมาก ๆ เลยค่ะ"ลุงวูฮยอน: "สวัสดีจ้ะ โรเซ่ วันนี้อยากอ่านเรื่องอะไรล่ะ? หรือมีเรื่องไหนที่อยากจะเป็นนางเอกอีกไหม?"โรเซ่หัวเราะเบา ๆ กับคำแซวของลุงวูฮยอน เพราะเขารู้ดีว่าเธอมักจะชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็นนางเอกในนิยายทุกเรื่องที่เธออ่านโรเซ่: "แน่นอนค่ะลุง! วันนี้หนูอยากอ่านแนวแฟนตาซีค่ะ อยากได้เรื่องที่มีทั้งการผจญภัยและความรักหน่อย"ลุงวูฮยอน: "งั้นเดี๋ยวลุงจะแนะนำเรื่อง เจ้าหญิงแห่งรัตติกาล ให้แล้วกันนะ เป็นเรื่องของเจ้าหญิงที่ถูกสาปให้มีชีวิตอยู่ในเงามืด ต้องเดินทางไปทั่วอาณาจักร
วันรุ่งขึ้น หลังจากเลิกงาน โรเซ่ก็รีบเก็บของและตรงไปที่ห้องสมุดด้วยความตื่นเต้น เธอเดินไปตามทางคุ้นเคยพร้อมกับจินตนาการว่าตัวเองจะได้พบจินฮยองอีกครั้งเมื่อถึงห้องสมุด เธอผลักประตูเข้าไปและสอดส่ายสายตาหาเขา แต่ทว่าคราวนี้เขาไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิม ลุงวูฮยอนสังเกตเห็นอาการของโรเซ่แล้วก็หัวเราะเบา ๆลุงวูฮยอน: "ดูเหมือนว่าหนูจะมองหาใครบางคนนะวันนี้ หรือต้องการหนังสือที่พิเศษหน่อย?"โรเซ่ยิ้มขวยเขิน รู้สึกเหมือนถูกจับได้โรเซ่: "เอ่อ… เปล่าค่ะลุง! แค่อยากหาเรื่องอ่านสนุก ๆ ไปนั่งอ่านเหมือนทุกวัน"ลุงวูฮยอนหัวเราะเบา ๆ พร้อมแนะนำหนังสือเล่มใหม่ให้เธอ โรเซ่รับหนังสือมาและเดินไปยังที่นั่งประจำของเธอ คราวนี้เธอรู้สึกเหงาเล็กน้อยที่ไม่เห็นจินฮยองอยู่ตรงนั้น แต่เธอก็พยายามสนุกกับการอ่านตามปกติเวลาผ่านไปได้สักพัก จู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงเงาคนเดินมาใกล้ ๆ เธอเงยหน้าขึ้นแล้วก็เห็นจินฮยองยืนอยู่ตรงนั้นซูโฮ: "ขอโทษที่มาช้านะครับ วันนี้มีธุระที่ต้องทำก่อน พอดีว่าผมจำได้ว่าคุณน่าจะมา ก็เลยรีบมาห้องสมุดทันทีเลย"โรเซ่: (ยิ้มกว้าง) "ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันแค่คิดว่าอาจจะไม่ได้เจอคุณวันนี้แล้ว"เมื่อโรเซ่และซูโฮ
โรเซ่เดินเข้าไปในห้องสมุดแห่งความฝันด้วยความตื่นเต้น ในวันนี้เธอรู้สึกอยากรู้ประวัติของห้องสมุดแห่งนี้มากขึ้นกว่าเดิม ขณะที่เธอกำลังเดินสำรวจชั้นหนังสือ ซูโฮก็เดินเข้ามาทักทายซูโฮ: "อ้าว วันนี้มาถึงเร็วเชียว มีหนังสือเล่มไหนที่น่าสนใจเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?"โรเซ่: (ยิ้ม) "ยังเลยค่ะ จริง ๆ แล้วฉันอยากรู้จักห้องสมุดนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิมนะค่ะ ฉันเข้ามาอ่านหนังสือที่นี่ได้แค่ปีเดียวเอง แต่รู้สึกผูกพันกับที่นี่มาก คุณพอจะเล่าประวัติของห้องสมุดแห่งความฝันให้ฟังได้ไหมคะ?"ซูโฮหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำถาม ก่อนจะผายมือชวนโรเซ่เดินไปที่มุมของห้องสมุดที่มีแสงไฟอ่อน ๆ ส่องลงมา เขาเดินนำเธอไปนั่งที่มุมสงบก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวอย่างอ่อนโยนซูโฮ: "ห้องสมุดแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่าที่คิดไว้เลยครับ ก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นปู่ของผม ห้องสมุดแห่งความฝันสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ที่ทุกคนสามารถมาค้นหาความสุขจากการอ่านได้ และเป็นที่ที่รวมเรื่องราว ความฝัน และจินตนาการของผู้คนจากรุ่นสู่รุ่น"โรเซ่: (ดวงตาเป็นประกาย) "ว้าว ฟังดูน่าทึ่งมากเลยค่ะ แล้วทำไมถึงใช้ชื่อว่าห้องสมุดแห่งความฝันล่ะคะ?"ซูโฮ: "ชื่อนี้มีที
โรเซ่กำลังจมอยู่กับหนังสือเล่มหนาในมือ เมื่อเห็นซูโฮเดินเข้ามาพร้อมกับหนังสืออีกเล่มที่มีปกสีสันสดใสที่โดดเด่นสะดุดตา ปกนั้นมีภาพมังกรตัวใหญ่คาบเพชรพลอยอยู่ในปาก พร้อมฉากภูเขาหินลึกลับที่รายล้อมไปด้วยหมอกบาง ๆ ดูท่าทางเหมือนกำลังปกป้องสมบัติล้ำค่าไว้ซูโฮยิ้มบาง ๆ พร้อมยื่นหนังสือให้โรเซ่ "ผมเห็นคุณชอบอ่านนิยายโรแมนติกหวาน ๆ ตลอด ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูหน่อยไหมครับ หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปอีกโลกเลยนะ เปิดโลกใหม่ให้แน่นอน"โรเซ่ยิ้มตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายขึ้นทันที "โอ้โห! มังกรด้วยเหรอคะ ฉันไม่เคยลองอ่านแนวแฟนตาซีผจญภัยแบบนี้มาก่อนเลย แต่พอเห็นปกแล้วก็อยากรู้เลยว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นในเรื่องนี้บ้าง!" เธอเอื้อมมือไปรับหนังสือมา พร้อมพลิกดูหน้าปกด้วยความตื่นเต้นซูโฮยิ้มอย่างเอ็นดู "ถ้าชอบนะครับ หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปผจญภัยในดินแดนที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลาย มีมังกร ยักษ์ และสมบัติที่ซ่อนอยู่ ซึ่งนักผจญภัยต้องตามหา"โรเซ่หัวเราะเล็กน้อยพลางบอกอย่างมั่นใจ "ฟังดูท้าทายดีค่ะ! ฉันอยากทะลุมิติไปเจอกับมังกรตัวนั้นและออกผจญภัยดูบ้างจังเลย" แต่แล้วเธอก็เผลอพูดเบา ๆ "ถ้ามีจริงก็คง