หลังจากที่ทั้งคู่ได้เผชิญหน้ากับอุปสรรคในถ้ำและหลบหนีจากสัตว์ร้ายมาได้อย่างหวุดหวิด โรเซ่และซูโฮก็ต้องพบกับอีกหนึ่งความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า: หน้าผาสูงชันที่ขวางกั้นเส้นทางสู่ส่วนลึกของป่า บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบสงัดและอันตรายที่แฝงอยู่ในทุกย่างก้าว เสียงลมกระโชกแรงที่พัดผ่านทำให้สถานการณ์ดูตึงเครียดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ซูโฮและโรเซ่กลับมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดฝัน
"ดูเหมือนเราจะเจออุปสรรคใหม่แล้วนะ โรเซ่...คิดว่าเราจะผ่านมันไปได้ไหม" ซูโฮเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
"ถ้าเป็นอย่างที่นายบอก เมื่อกี้ก็ยังผ่านอุปสรรคถ้ำไปได้แล้ว นี่มันแค่หน้าผาแค่นั้นเอง ฉันว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอก!" โรเซ่ตอบด้วยท่าทางมั่นใจ ขณะที่มือหนึ่งจับแขนของซูโฮอย่างแน่นหนา พร้อมกับมองไปยังหน้าผาที่ดูเหมือนจะท้าทายทุกย่างก้าว ซูโฮอดที่จะรู้สึกประทับใจในความมั่นใจและความขี้เล่นของเธอไม่ได้
"คุณนี่กล้าได้ใจจริง ๆ โรเซ่ ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าใครเป็นคนกลัวจริง ๆ" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู
"ฉันไม่ได้กลัวนะ ฉันแค่รู้ว่าเราต้องทำยังไง ถ้าเรากลัวมากไปก็ไม่ไปถึงไหนหรอกนะ" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
"เห็นไหมว่าเราทั้งคู่ต่างมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้จากกันและกัน ถ้าไม่ได้เธอคอยเตือนให้ผมรู้จักกล้า ผมก็คงยอมแพ้ไปนานแล้ว" ซูโฮกล่าวด้วยความจริงใจ
"ก็นั่นล่ะสิ! แต่ถ้านายไม่กล้า ฉันอาจจะต้องพาคุณขึ้นไปเองก็ได้นะ!" โรเซ่พูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความท้าทาย
"แสดงว่าผมต้องเป็นนักเดินทางที่ตามคุณไปใช่ไหม" ซูโฮหัวเราะเบา ๆ
"ไม่ต้องห่วงหรอก! ถ้าฉันพูดว่าจะไปถึง เราก็ต้องไปถึง...พยายามกันหน่อยนะ" โรเซ่กล่าวด้วยท่าทางที่มุ่งมั่น ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มวางแผนการข้ามหน้าผาไปด้วยกัน
**ความกล้าหาญ...และการช่วยเหลือ:**
ก่อนที่โรเซ่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ ซูโฮก็เอ่ยขึ้น
"เดี๋ยว ผมไปก่อนดีกว่า ถ้าผมไปถึงแล้วคุณค่อยตามมานะ"
"ไม่ต้องห่วง ฉันไปเองได้!" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้ม แล้วเริ่มก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางความเงียบและความตึงเครียดที่แผ่ซ่านอยู่ ซูโฮก็เดินตามหลังเธอไปอย่างใกล้ชิด คอยให้ความช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยของเธอ
"ฉันจะอยู่ข้างหลังคุณเสมอ ถ้าคุณลื่นหรือเจออะไรแปลก ๆ เรียกผมได้นะ" ซูโฮกล่าวด้วยความเป็นห่วง
"ห่วงน้อยหน่อยสิ! ฉันทำได้!" โรเซ่ตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะ
ในที่สุดทั้งคู่ก็สามารถข้ามหน้าผามาได้อย่างปลอดภัย เมื่อยืนอยู่บนฝั่งใหม่ โรเซ่ยิ้มให้กับตัวเองและรู้สึกถึงความสำเร็จที่ได้เผชิญหน้ากับอีกหนึ่งอุปสรรค
"เห็นไหมล่ะ ซูโฮ! ฉันบอกแล้วว่าฉันทำได้" โรเซ่กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
"ผมยอมรับเลยว่าผมประเมินคุณผิดไปมาก คุณเป็นคนที่ทำให้ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจริง ๆ โรเซ่" ซูโฮกล่าวด้วยความชื่นชม
"อย่าลืมคำที่นายบอกนะ...ถ้าเราไม่กล้า เราก็ไม่มีทางรู้เลยว่าเราจะไปถึงไหน" โรเซ่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
พวกเขาหยุดพักบนฝั่งใหม่และนั่งลงที่ริมผาหิน ทั้งคู่เริ่มพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสบายใจ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบที่มีเพียงเสียงลมพัดผ่านต้นไม้และท้องฟ้าที่สดใส
"รู้ไหม ซูโฮ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าทุกสิ่งมันเริ่มดีขึ้นแล้ว ฉันเชื่อว่าไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร เราก็จะผ่านไปได้ถ้าเรามีกันและกัน" โรเซ่กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวัง
"ใช่ครับ เราจะผ่านไปด้วยกันทุกอุปสรรค ขอบคุณที่ทำให้ผมได้เปิดใจและเห็นโลกในมุมที่แตกต่างไปจากเดิม" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
ทั้งคู่ต่างมองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความหวัง แม้ว่าจะมีอุปสรรคที่รออยู่เบื้องหน้า แต่ทั้งสองก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันไปด้วยกัน ทุกก้าวที่พวกเขาก้าวเดินไปข้างหน้า คือการเติบโตและความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในทุก ๆ วัน
**ความกลัว...และเสียงหัวเราะ:**
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินไปข้างหน้า โรเซ่ก็แสดงอาการหวาดกลัวออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
"โอ๊ย...ฉันว่าเรากลับไปกันดีไหม! นี่มันสูงขนาดนี้ ขืนพลาดตกลงไปได้หมดสวยแน่!" โรเซ่กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ
"โรเซ่! คุณมั่นใจในตัวเองแค่ไหนกัน? เมื่อกี้ยังบอกว่าจะผ่านทุกอุปสรรคไปได้อยู่เลย" ซูโฮหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางของโรเซ่
"ก็...ก็ใช่น่ะสิ! แต่ว่าฉันไม่ได้หมายถึงทางแคบที่สูงจนตกลงไปจะไม่รอดแบบนี้!" โรเซ่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล พลางกระชับแขนที่กอดซูโฮแน่นขึ้น ซูโฮอดที่จะหัวเราะกับท่าทางของเธอไม่ได้ เขารู้สึกเอ็นดูในความมั่นใจและขี้เล่นของโรเซ่ ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะหวาดกลัว แต่ก็ไม่เคยหยุดที่จะตอบโต้ในแบบของตัวเอง
"โอเค ถ้าอย่างนั้น ถ้าฉันสัญญาว่าจะคอยดูแลเธอให้ผ่านไปได้ล่ะ? เธอคิดว่ายังกลัวอยู่ไหม" ซูโฮถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
"ก็...อืม...อาจจะไม่กลัวเท่าไหร่ ถ้าคุณอยู่ข้าง ๆ" โรเซ่ตอบด้วยความเขินอาย แต่ก็ยังคงกอดแขนซูโฮแน่น ซูโฮรู้สึกถึงความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ในท่าทางขี้เล่นของเธอ
ทั้งสองค่อย ๆ เดินไปข้างหน้า ในขณะที่โรเซ่เริ่มพูดไปเรื่อย ๆ เพื่อกลบความกลัวในใจ
"นี่! ซูโฮ คุณคิดว่าเราจะเจอเจ้ามังกรยักษ์ในตำนานจริง ๆ ไหม" โรเซ่ถาม
"ถ้าเป็นตามที่นิยายบอก เราคงหนีไม่พ้นเจ้ามังกรตัวนั้นแน่ ๆ และถ้าเราเจอมันจริง ๆ คุณจะทำอย่างไร" ซูโฮตอบ
"ถ้าเจอจริง ๆ นั้นเหรอ? ก็...ฉันจะสั่งให้มันยอมจำนน แล้วเอามันมาเป็นพาหนะของเราซิ!" โรเซ่ตอบด้วยท่าทางที่มั่นใจ
ซูโฮหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง เขาประทับใจในความมั่นใจเกินตัวของเธอ แม้ว่าจะรู้ดีว่าโรเซ่กำลังกลัวก็ตาม แต่เธอก็ไม่ยอมแสดงออกให้เห็นง่าย ๆ
"ถ้าอย่างนั้นผมจะคอยดูเธอให้บังคับเจ้ามังกรยักษ์ตัวนั้นยอมจำนนแล้วกัน โรเซ่ผู้กล้าหาญ" ซูโฮกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ต้องคอยดูให้ดีนะ เพราะฉันอาจทำให้นายต้องทึ่งกับความสามารถของฉัน" โรเซ่ตอบด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยความท้าทาย
**ความผูกพัน...และความเข้าใจ:**
บทสนทนานี้ทำให้โรเซ่รู้สึกสบายใจขึ้น เธอเดินเคียงข้างซูโฮไปด้วยความมั่นใจและความขี้เล่น เมื่อทั้งสองมาถึงทางโค้งที่ล้อมรอบด้วยหมอก โรเซ่หันไปสบตาซูโฮ เธอรู้สึกได้ว่าการผจญภัยนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การเดินทางในนิยาย แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่เธอได้รู้จักตัวเองและรู้สึกถึงความผูกพันที่มีต่อซูโฮมากขึ้น
ทั้งสองพูดคุยกันไปตลอดทาง ทำให้เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว การผจญภัยนี้เป็นเหมือนบทเรียนที่ทำให้โรเซ่ได้พบกับความกล้าหาญที่ซ่อนอยู่ในใจและความสัมพันธ์ที่เบ่งบานขึ้นอย่างช้า ๆ
หลังจากการต่อสู้กับกิ้งก่ายักษ์ผ่านพ้นไป โรเซ่และซูโฮก็เดินทางต่อเข้าสู่ป่าลึก ที่นี่มีทางเดินเล็ก ๆ แคบ ๆ ทอดยาวเข้าไปในพุ่มไม้หนาทึบ บรรยากาศรอบ ๆ เงียบสงบ แต่ยังคงแฝงความน่ากลัวที่ชวนให้ขนลุก ซูโฮเดินอยู่ข้างหน้า คอยสำรวจเส้นทางเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย ส่วนโรเซ่เดินตามมาด้วยท่าทีมั่นใจ แต่มุมปากของเธอก็แอบยิ้มขี้เล่นในทุกจังหวะที่ซูโฮหันมามอง
"เธอไม่กลัวอะไรบ้างเลยเหรอโรเซ่? ป่าลึกแบบนี้นะ มีอะไรโผล่มาก็ไม่แปลก" ซูโฮถามด้วยความเป็นห่วง
"กลัวนะ กลัวอยู่หรอก แต่จะให้หนีไปตอนนี้ก็ไม่ใช่โรเซ่ที่นายรู้จักแน่ ๆ ฉันนะ...เกิดมาเพื่อเผชิญหน้าอุปสรรคต่างหาก!" โรเซ่ตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
"ก็จริงนะ ตั้งแต่รู้จักคุณมา ผมก็รู้สึกว่าคุณนี่กล้าหาญและมั่นใจมากจริง ๆ บางทีผมเองก็แอบกังวลเล็ก ๆ กลัวคุณจะทำอะไรนอกเหนือความคาดหมายไปมากกว่านี้" ซูโฮกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู
"อย่าประเมินฉันต่ำเกินไปซิซูโฮ ฉันอาจจะมีความสามารถที่คุณคาดไม่ถึงก็ได้... หรือบางทีอาจจะทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่ายโดยที่คุณไม่ทันสังเกตเลยก็ได้นะ!" โรเซ่ตอบด้วยท่าทีที่ขี้เล่น
เมื่อทั้งคู่เดินเข้าไปในป่าลึก พวกเขาก็พบอุปสรรคขวางหน้า เป็นสะพานไม้เก่าที่ยื่นไปอีกฝั่งของหุบเหวลึก สะพานนั้นดูเก่าและพร้อมจะพังทลายได้ทุกเมื่อ โรเซ่มองสะพานอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะหันมาพูดกับซูโฮด้วยท่าทีมั่นใจ
"ฉันคิดว่าเราสามารถข้ามได้นะ แต่นายจะไว้ใจฉันหรือเปล่า" โรเซ่ถามด้วยรอยยิ้มที่ท้าทาย
"แน่นอน ผมไว้วางใจในความกล้าหาญของคุณ คุณลองไปก่อนซิ ผมจะตามไป" ซูโฮตอบด้วยความมั่นใจ
โรเซ่ก้าวเท้าไปบนสะพานอย่างมั่นใจ สะพานไม้เก่าแคบและโคลงเคลงเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา เธอเริ่มหันกลับมาพูดคุยกับซูโฮเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ
"เห็นไหมล่ะ คุณคิดว่าฉันจะทำไม่ได้จริง ๆ เหรอ? แค่สะพานไม้เก่า ๆ เอง!" โรเซ่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
"โอเค ๆ ยอมรับว่าผมประเมินคุณต่ำไปหน่อย แต่ผมขอพูดไว้นะว่าคุณนี่เป็นคนที่ทำให้ผมประหลาดใจอยู่ตลอดเวลาเลยจริง ๆ" ซูโฮตอบด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ
**โลกใหม่...และความฝัน:**
เมื่อพวกเขาข้ามสะพานไปได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็มุ่งหน้าต่อไปในป่า ระหว่างทางพวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โรเซ่เล่าเรื่องในวัยเด็กของเธอที่มักจะชอบอ่านนิยายแฟนตาซีและจินตนาการว่าเธอเป็นนางเอกที่ได้ผจญภัยอย่างไร
"ตอนเด็ก ๆ ฉันอ่านนิยายแนวแฟนตาซีมากมาย แล้วก็มักจะคิดเสมอว่าตัวเองอยู่ในโลกนั้น ได้เจอกับมังกร เวทมนตร์ หรือการผจญภัยในป่าลึกแบบนี้ แค่คิดก็สนุกแล้ว" โรเซ่เล่าด้วยแววตาที่เป็นประกาย
"ผมว่าเป็นเสน่ห์ของคุณเลยนะ คุณมีความคิดจินตนาการที่สดใสและเปี่ยมไปด้วยความฝัน ไม่แปลกใจเลยที่เธอกล้าหาญได้ขนาดนี้" ซูโฮตอบด้วยความชื่นชม
"ขอบคุณนะที่เข้าใจ ความจริงฉันก็มีความกลัวอยู่เหมือนกัน แต่ฉันคิดเสมอว่าถ้าเรากลัวแล้วเราหยุดเดิน เราจะไม่มีทางได้พบเจอสิ่งใหม่ ๆ ที่รอเราอยู่ข้างหน้าเลย" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
เมื่อเดินทางมาถึงลานกว้างในป่าที่เต็มไปด้วยดอกไม้และแสงแดดที่ส่องลงมากลางลาน พวกเขาทั้งสองหยุดพักและนั่งลง ซูโฮหยิบขนมปังจากกระเป๋าออกมาแบ่งกับโรเซ่ ทั้งคู่สนุกสนานกับการสนทนาอย่างอบอุ่น โรเซ่มีรอยยิ้มที่สดใสและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง ซึ่งทำให้ซูโฮเริ่มรู้สึกอบอุ่นในใจมากขึ้น
"รู้ไหม โรเซ่ คุณเป็นคนที่ทำให้ผมอยากที่จะเปิดรับโลกใบใหม่ ผมเองไม่ค่อยมีโอกาสได้ผจญภัยหรือคิดจินตนาการเหมือนเธอมาก่อน แต่พอได้อยู่กับเธอ ผมก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันน่าตื่นเต้นขึ้นมา" ซูโฮกล่าวด้วยความจริงใจ
"ถ้าอย่างนั้นก็ขอต้อนรับสู่โลกแห่งจินตนาการของฉันนะ! ในโลกนี้ เราต้องพร้อมที่จะเผชิญอุปสรรคและความท้าทายอย่างไม่ย่อท้อ แต่ไม่ต้องห่วงไปนะ เพราะฉันจะอยู่ข้าง ๆ นายเสมอ" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
"ขอบคุณนะ โรเซ่ ที่ทำให้ผมได้พบโลกใหม่ ผมว่าต่อจากนี้ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร ผมก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าไปกับคุณ" ซูโฮกล่าวพร้อมมองโรเซ่ด้วยแววตาที่อบอุ่น
ความสนิทสนมและความเชื่อมโยงระหว่างโรเซ่และซูโฮยิ่งลึกซึ้งขึ้นในทุก ๆ นาทีที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ทุกคำพูดและการกระทำของโรเซ่ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความเป็นตัวของตัวเอง ช่วยทำให้ซูโฮเปิดใจมากขึ้น และเชื่อมั่นในเส้นทางแห่งการผจญภัยที่พวกเขากำลังเดินไปด้วยกัน
หลังจากที่โรเซ่และซูโฮรอดพ้นจากหมาป่าตัวใหญ่มาได้อย่างหวุดหวิด ทั้งคู่ยังคงมุ่งหน้าเดินลึกเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยความลึกลับและท้าทาย โรเซ่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกในโลกนิยายอย่างแท้จริง ทุกย่างก้าวที่เธอเดินเคียงข้างซูโฮ ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจและกล้าหาญมากยิ่งขึ้น ซูโฮเองก็เริ่มสังเกตเห็นความมั่นใจและความเข้มแข็งที่แฝงอยู่ในตัวเธอมากขึ้นเรื่อย ๆขณะที่พวกเขาเดินผ่านเส้นทางแคบ ๆ ที่มีรากไม้เกาะเกี่ยว โรเซ่ก็หยุดเดินกะทันหันเมื่อเห็นลำธารที่กว้างและน้ำไหลเชี่ยวขวางทางอยู่ น้ำในลำธารนั้นไหลแรงและดูเหมือนจะลึกพอสมควร ซูโฮมองซ้ายขวาเพื่อหาทางข้าม ขณะที่โรเซ่ก็มองหาวิธีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น"โอ้โห! งานนี้ท้าทายจริง ๆ คุณว่าเราจะข้ามไปยังไงดีล่ะซูโฮ" โรเซ่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทาย"นี่คุณดูตื่นเต้นมากกว่ากลัวอีกนะ ผมคิดว่าคุณจะกลัวน้ำเชี่ยวเสียอีก" ซูโฮกล่าวด้วยความประหลาดใจ"ฉันไม่กลัวหรอกนะ! นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะพิสูจน์ว่าเราจะผ่านอะไรไปได้มากขนาดไหน ฉันมั่นใจว่าเราทำได้" โรเซ่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นซูโฮยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของโรเซ่
เมื่อซูโฮและโรเซ่ก้าวเข้าไปในโลกนิยายโรแมนติกที่เขาแนะนำ บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง บ้านสีขาวหลังเล็ก ๆ เรียงรายอยู่ริมทะเลสาบที่เงียบสงบ เงาของพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนบนผืนน้ำ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและชวนฝัน โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นและประหม่านิด ๆ ในขณะที่ซูโฮเดินเคียงข้างเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนซูโฮมองเธอด้วยสายตาที่อบอุ่นและเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่นุ่มนวล"นี่...เราจะต้องแกล้งเป็นคู่รักเพื่อผ่านด่านนี้ไป คุณคิดว่าอย่างไร"โรเซ่ที่ดูมั่นใจมาตลอด กลับหน้าแดงเล็กน้อย เธอหัวเราะเบา ๆ พลางพยายามซ่อนความเขินอาย"แค่แสดงบทคู่รักเอง...คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม" โรเซ่ตอบพร้อมรอยยิ้มที่พยายามจะกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง"ใช่ แต่คงต้องแสดงให้แนบเนียนหน่อย ไม่อย่างนั้นเราอาจจะไม่ผ่านด่านนี้" ซูโฮตอบพร้อมกับยิ้มขำทั้งคู่เดินไปเรื่อย ๆ จนเจอกับคนชราที่ดูใจดีในชุดผ้าคลุมสีขาว คนชรามองทั้งสองด้วยความเอ็นดู"ยินดีต้อนรับพวกเธอ ทั้งสองช่างเหมาะสมกันจริง ๆ เหมือนคู่รักที่เกิดมาเพื่อกันและกัน" คนชรากล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนซูโฮหันไปสบตาโรเซ่ เขาเห็นรอยยิ้มที่แฝงความขี้เล่น และเอ่ยเสียงนุ่ม"ใช่
ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักและความโรแมนติก โรเซ่และซูโฮเดินกลับมาที่บ้านพักหลังจากได้ชมดอกไม้ไฟในสวนสาธารณะ ความรู้สึกที่ทั้งสองได้แบ่งปันกันเมื่อสักครู่ยังคงติดอยู่ในใจ โรเซ่รู้สึกสดชื่นและมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเมื่อได้อยู่เคียงข้างซูโฮเมื่อถึงบ้าน ซูโฮเปิดประตูให้โรเซ่และยิ้มให้เธออย่างสุภาพ โรเซ่สังเกตเห็นความพยายามของเขาที่จะทำตัวให้ดีที่สุดเพื่อเธอ ความรู้สึกอบอุ่นนี้ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและเชื่อมั่นในตัวเขามากยิ่งขึ้น"ขอบคุณนะที่เป็นสุภาพบุรุษให้ฉันเสมอซูโฮ ฉันชอบความรู้สึกนี้" โรเซ่เอ่ยด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง"ก็เพราะคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด! และผมก็อยากให้คุณรู้สึกพิเศษ" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและจริงใจโรเซ่รู้สึกเขินอายเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ซูโฮยังคงไม่หยุดที่จะสร้างความประทับใจให้เธอ เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาก็รีบหยิบผ้าห่มมาเพื่อให้เธอได้นั่งอย่างสบาย"นี่ เก็บไว้ถ้าหนาวนะ" ซูโฮกล่าวด้วยความเป็นห่วง"คุณนี่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงเลยนะ" โรเซ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข"ก็คงเป็นเพราะคุณมีเสน่ห์แบบนั้น!" ซูโฮตอบด้วยเสีย
ขณะเดินกลับจากมื้ออาหารค่ำ โรเซ่และซูโฮใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับชีวิต งานอดิเรก และความฝันในอนาคตของพวกเขา บรรยากาศยามค่ำคืนเต็มไปด้วยดาวที่ระยิบระยับ และเสียงของการจราจรจากถนนทำให้บรรยากาศดูคึกคัก โรเซ่รู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวาเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกับซูโฮ"โรเซ่ เธอเคยคิดไหมว่าถ้าหากเราสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกแฟนตาซีได้ เราจะทำอะไรบ้าง" ซูโฮถามด้วยน้ำเสียงที่ชวนฝัน"อืม... คุณอยากเป็นนักผจญภัยที่ออกตามหาสมบัติ! แล้วคุณล่ะซูโฮ" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น"ผมจะเป็นนักรบที่คอยปกป้องคุณจากอันตราย!" ซูโฮกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนโรเซ่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของซูโฮ เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่ออยู่กับเขา ราวกับว่าเขาเป็นคนที่สามารถทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและการสนับสนุนที่ไม่เหมือนใคร"ถ้าฉันเป็นนางเอก ฉันจะต้องเป็นนางเอกที่ทำอาหารอร่อย ๆ ให้คุณกินนะ" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน่ารัก"นักรบไม่มีเวลากินอาหารหรอก! ผมจะต้องไปรบ!" ซูโฮแกล้งทำเสียงเข้ม"ยังไงก็ต้องหิวอยู่ดี! ถ้าไม่มีอาหาร นักรบก็ไม่มีแรงจะต่อ
ในช่วงบ่ายที่สดใส โรเซ่และซูโฮตัดสินใจที่จะใช้เวลาร่วมกันในสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงในโลกนิยายที่พวกเขาอยู่ มันเป็นสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสี และบรรยากาศที่โรแมนติก ลมเบา ๆ พัดผ่านทำให้โรเซ่รู้สึกมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เมื่อเดินเข้าไปในสวน โรเซ่สวมชุดเดรสสีฟ้าลายดอกไม้ที่พริ้วไหวเมื่อโดนลม ซึ่งทำให้เธอดูสดใสและเต็มไปด้วยพลังงาน"ซูโฮ! ดูซิ! ดอกไม้ตรงนั้นสวยมากเลย" โรเซ่ชี้ไปยังดอกไม้สีสดใสที่บานอยู่กลางสวน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น"ใช่! มันสวยจริง ๆ ทำให้ผมนึกถึงภาพวาดในนิยายที่เราเคยอ่านกันเลย" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มโรเซ่หันมามองซูโฮด้วยรอยยิ้มกว้าง ความมั่นใจในตัวเองของเธอทำให้เธอรู้สึกว่า การแสดงออกถึงความชอบของตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญ"ฉันชอบดอกไม้ เพราะมันทำให้รู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา! เหมือนกับความรักที่เราอ่านในนิยายเลย" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข"ความรักที่ทำให้เราได้เห็นสิ่งสวยงามแบบนี้ก็จริงนะ" ซูโฮกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นขณะที่เดินต่อไป โรเซ่เริ่มเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับการออกแบบเสื้อผ้าของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอหลงใหลมาตั้งแต่เด็ก"เมื่อปีที่แล้ว ฉันพ
บรรยากาศในสวนสาธารณะถูกเติมเต็มด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องผ่านกิ่งไม้และเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินไปมา โรเซ่และซูโฮนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ในขณะที่ความสดชื่นของลมเย็นช่วยสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยถึงความฝันของพวกเขา"ซูโฮ ฉันรู้ว่าคุณมีความฝันเกี่ยวกับห้องสมุดแห่งความฝันของปู่จริงไหม มันเป็นอย่างไรบ้าง" โรเซ่ถามด้วยความสนใจซูโฮยิ้มกว้าง เมื่อต้องพูดถึงห้องสมุดที่เขารักมาก"ใช่! ห้องสมุดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พิเศษมากสำหรับผม มันไม่ใช่แค่ที่เก็บหนังสือ แต่เป็นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทุกวัย ผมรับช่วงดูแลมันต่อจากพ่อของผม" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่จ้องมองเขาอย่างตั้งใจ และสามารถเห็นแสงแห่งความหลงใหลในดวงตาของเขา"โอ้! มันฟังดูยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉันจำได้ว่าได้ยินเกี่ยวกับห้องสมุดนี้จากเพื่อน ๆ พวกเขาพูดถึงความอบอุ่นและบรรยากาศที่ดีที่นั่น" โรเซ่กล่าวด้วยความชื่นชม"ใช่! ห้องสมุดนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกของการแบ่งปัน ความรู้สึกที่ทุกคนสามารถเข้ามาอ่านหนังสือและพูดคุยกันได้ ผมอยากให้มันเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถเปิดใจและเชื่อมโยงกัน" ซูโฮตอบด้วยค
โรเซ่และซูโฮนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะ แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านใบไม้ลงมากระทบร่างของพวกเขา สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและอบอุ่น โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้อยู่กับซูโฮและแบ่งปันความฝันของเธอกับเขา"ซูโฮ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ขนาดนี้ ผมชอบที่จะฟังคุณพูดถึงความฝันของคุณ" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชมโรเซ่ยิ้มและสัมผัสถึงความอบอุ่นจากคำชมของเขา"ขอบคุณนะ! การได้สร้างสิ่งที่มีความหมายให้กับผู้คนเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวา มันเหมือนการได้ทำอะไรที่สำคัญ" โรเซ่ตอบด้วยความจริงใจซูโฮมองไปที่เธออย่างตั้งใจ"ความฝันของคุณมันใหญ่หลวงมาก ผมมั่นใจว่าคุณสามารถทำให้มันเป็นจริงได้" ซูโฮกล่าวด้วยความเชื่อมั่น"แน่นอน! และฉันก็รู้สึกว่าความฝันของเรามีความคล้ายกันมาก ฉันอยากให้ห้องสมุดแห่งความฝันเป็นที่ที่ทุกคนมีโอกาสค้นหาความรู้และแรงบันดาลใจ" โรเซ่กล่าวด้วยความมุ่งมั่น"นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมรักห้องสมุดแห่งนี้ มันไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นโรเซ่รู้สึกถึงความใกล้ชิดเมื่อทั้งคู่เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับความฝันขอ
บรรยากาศในห้องสมุดแห่งความฝันเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เมื่อซูโฮตัดสินใจพาโรเซ่เข้าไปในโลกนิยายสืบสวน ทั้งคู่ยืนอยู่ที่กลางห้องสมุด ขณะที่ซูโฮยิ้มอย่างมั่นใจและยื่นมือไปจับมือของโรเซ่"ผมมีอะไรสนุก ๆ จะให้คุณลองดู... เราจะเข้าไปในโลกนิยายสืบสวนกัน!" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นโรเซ่ตาโตด้วยความตื่นเต้นและสงสัย เธอมองไปที่หน้าต่างที่เต็มไปด้วยแสงสว่างและเห็นภาพวาดที่ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวา ขณะที่เสียงของซูโฮดึงดูดความสนใจของเธอ"จริงเหรอ แต่...เราจะเข้าไปในนั้นได้ยังไง" โรเซ่ถามด้วยความสงสัย"แค่จินตนาการตามที่เราคิด ยิ่งเราตั้งใจมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งเข้าไปได้ลึกขึ้น" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจโรเซ่รู้สึกเหมือนเธอกำลังจะก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง ความมั่นใจในตัวเองเริ่มผุดขึ้นในใจ ขณะที่เธอยิ้มและยอมรับมือของซูโฮ"ถ้าเป็นแบบนั้น...ฉันก็พร้อมที่จะเข้าไปกับคุณ" โรเซ่กล่าวด้วยความมุ่งมั่นเมื่อทั้งสองเริ่มปิดตาและตั้งใจจินตนาการภาพของโลกนิยายสืบสวน พวกเขารู้สึกถึงแรงดึงดูดและความอบอุ่นที่ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นทันใดนั้น พวกเขาพบว่าตนเองยืนอยู่กลางเมืองที่มีบรรยา
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั
โรเซ่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง ตั้งแต่เธอเริ่มฝันถึงซูโฮบ่อยขึ้น ความฝันแต่ละครั้งชัดเจนราวกับความจริง เสียงของเขานุ่มนวลเหมือนเคย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือซูโฮในความฝันเริ่มมีอารมณ์เหมือนคนที่มีชีวิตจริง เขาหัวเราะ เสียใจ หรือแม้แต่แสดงความห่วงใยเธอในแบบที่ลึกซึ้ง จนโรเซ่เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองคืนหนึ่ง โรเซ่ฝันว่าเธอกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ซูโฮเดินเคียงข้างเธอ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ดวงตาดูลึกซึ้งจนยากจะเข้าใจ"คุณดูเงียบกว่าปกตินะคะ วันนี้มีอะไรในใจหรือเปล่า" โรเซ่ถามพลางหันไปมองเขา"บางครั้งผมก็รู้สึกว่าเวลาของเราในที่นี่มันไม่ยั่งยืน" ซูโฮตอบ น้ำเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่โรเซ่ขมวดคิ้ว"คุณหมายความว่ายังไง คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันถึงฝันถึงคุณบ่อยขนาดนี้" โรเซ่ถามด้วยความสงสัยซูโฮหยุดเดินและมองเธอ ดวงตาของเขาสั่นไหวเหมือนคนที่กำลังเก็บความลับบางอย่าง"ผมคือส่วนหนึ่งของความฝันที่คุณสร้างขึ้น คุณไม่ต้องกลัว ผมไม่ได้มาทำร้ายคุณ" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ"แต่คุณมาจากไหน คุณเป็นคนจริง ๆ หรือเปล่า" โรเซ่ยังคงถามต่อเขาไม่ตอบ แต่เพียงส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
เช้าวันนั้นในกรุงโซล อากาศเย็นสบายลอยผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของโรเซ่ แสงแดดอ่อน ๆ ทอประกายลงบนโต๊ะทำงานของเธอที่ยังคงมีร่องรอยจากโปรเจกต์ก่อนหน้านี้ โรเซ่ลุกขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่น หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จ เธอเดินลงไปที่ห้องครัว พ่อของเธอกำลังตักข้าวใส่ชาม และแม่ของเธอก็กำลังเตรียมเครื่องเคียง"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" แม่ทักพร้อมรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง"แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย" โรเซ่ตอบด้วยความตื่นเต้นมินจี น้องสาวของเธอที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มทุกคนหัวเราะและนั่งล้อมรอบโต๊ะ โรเซ่เริ่มเล่าเรื่องการแสดงแฟชั่นโชว์ ทั้งบรรยากาศของงาน ชุดที่เธอออกแบบ และเสียงปรบมือที่ได้รับ"พ่อคะ แม่คะ ตอนที่ฉันยืนอยู่บนเวทีแล้วมองไปยังฝูงชน ฉันรู้สึกเหมือนความฝันมันเป็นจริงเลยค่
โรเซ่หลับตาลงอย่างช้า ๆ หลังจากวันที่ยาวนานผ่านไป ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ชวนให้เธอนึกถึงโลกใบหนึ่งที่เธอไม่ได้ไปมาหลายวัน โลกที่เต็มไปด้วยแสงสลัวและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหนังสือเก่า ๆ และเมื่อเธอเปิดตาขึ้นอีกครั้งในความฝัน เธอพบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องสมุดแห่งความฝันอีกครั้ง"คุณกลับมาแล้ว" เสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่นดังขึ้นข้างหลัง โรเซ่หันไปและพบกับซูโฮ เขายืนอยู่ในชุดเรียบง่าย สายตาของเขามองเธอด้วยความอ่อนโยนที่โรเซ่คุ้นเคย"ใช่ ฉันกลับมาแล้ว" โรเซ่พูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ขณะที่เดินเข้าไปใกล้เขา "ที่นี่สงบกว่าชีวิตจริงของฉันเยอะเลย"ซูโฮหัวเราะเบา ๆ "ผมเดาว่ามันคงมีเรื่องมากมายที่ทำให้คุณเหนื่อย แต่คุณก็ยังดูสดใสเสมอ"โรเซ่ยิ้มขี้เล่น"ฉันก็ต้องพยายามทำตัวให้สดใสสิ ฉันไม่ชอบให้ใครมองว่าฉันอ่อนแอ" โรเซ่ตอบด้วยความมั่นใจ"แต่คุณก็ไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด" ซูโฮพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณมีพลังในแบบที่คนอื่นไม่มี และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง"โรเซ่หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ซูโฮ"คุณพูดเหมือนรู้จักฉันดีจัง... มากกว่าที่ฉันรู้จักตัวเองเสียอีก" โรเซ่กล่าวด้วยความสงสัยซูโฮยิ้มบ