หลังจากที่โรเซ่และซูโฮรอดพ้นจากหมาป่าตัวใหญ่มาได้อย่างหวุดหวิด ทั้งคู่ยังคงมุ่งหน้าเดินลึกเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยความลึกลับและท้าทาย โรเซ่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกในโลกนิยายอย่างแท้จริง ทุกย่างก้าวที่เธอเดินเคียงข้างซูโฮ ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจและกล้าหาญมากยิ่งขึ้น ซูโฮเองก็เริ่มสังเกตเห็นความมั่นใจและความเข้มแข็งที่แฝงอยู่ในตัวเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่พวกเขาเดินผ่านเส้นทางแคบ ๆ ที่มีรากไม้เกาะเกี่ยว โรเซ่ก็หยุดเดินกะทันหันเมื่อเห็นลำธารที่กว้างและน้ำไหลเชี่ยวขวางทางอยู่ น้ำในลำธารนั้นไหลแรงและดูเหมือนจะลึกพอสมควร ซูโฮมองซ้ายขวาเพื่อหาทางข้าม ขณะที่โรเซ่ก็มองหาวิธีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
"โอ้โห! งานนี้ท้าทายจริง ๆ คุณว่าเราจะข้ามไปยังไงดีล่ะซูโฮ" โรเซ่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทาย
"นี่คุณดูตื่นเต้นมากกว่ากลัวอีกนะ ผมคิดว่าคุณจะกลัวน้ำเชี่ยวเสียอีก" ซูโฮกล่าวด้วยความประหลาดใจ
"ฉันไม่กลัวหรอกนะ! นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะพิสูจน์ว่าเราจะผ่านอะไรไปได้มากขนาดไหน ฉันมั่นใจว่าเราทำได้" โรเซ่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ซูโฮยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของโรเซ่ เขารู้สึกประทับใจในความมั่นใจและความกล้าหาญของเธอ เขาเริ่มมองหาทางข้ามลำธาร และพบก้อนหินที่เรียงกันอยู่พอให้ใช้เป็นจุดเหยียบ แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ลื่น
"เราลองข้ามไปบนก้อนหินพวกนี้ดีกว่า แต่คุณต้องจับมือฉันไว้แน่น ๆ นะ เผื่อเกิดอะไรขึ้น" ซูโฮเสนอ
"ไม่มีปัญหาเลยซูโฮ นายอย่าห่วงไป ฉันนี่แหละเป็นพวกตั้งมั่นว่าจะข้ามไปให้ได้!" โรเซ่ตอบพร้อมกับยื่นมือไปจับมือซูโฮอย่างมั่นใจ
เมื่อทั้งคู่เริ่มเดินข้ามลำธารไปทีละก้าว โรเซ่ก็พยายามทรงตัวบนก้อนหินและหัวเราะออกมาเป็นระยะ ๆ ทุกครั้งที่เธอรู้สึกเสียหลักเล็กน้อย ซูโฮคอยจับมือของเธอไว้ไม่ให้ล้ม แม้สถานการณ์จะเสี่ยง แต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความตื่นเต้นที่ทั้งสองได้แบ่งปันกัน
"นี่สนุกกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย! คุณดูเหมือนจะเป็นนักผจญภัยตัวจริงเลยนะ" โรเซ่พูดด้วยเสียงหัวเราะที่สดใส
"คุณนี่ล่ะนักผจญภัยตัวจริง ผมแค่พยายามตามเธอให้ทันเท่านั้นเอง!" ซูโฮหัวเราะตอบ
เมื่อข้ามลำธารไปได้สำเร็จ โรเซ่ก็ยกมือขึ้นเชียร์อย่างดีใจ พลางหัวเราะเสียงดัง เธอหันมองซูโฮและยิ้มกว้างเหมือนเด็กน้อยที่พึงพอใจกับความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ ซูโฮหัวเราะตอบและรู้สึกดีที่ได้เห็นโรเซ่ในมุมที่เป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวาขนาดนี้
**สะพานเชือก...และการเดิมพัน:**
ทั้งคู่เดินต่อไปจนถึงจุดที่มีต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านสูงยาว โรเซ่เดินล่วงหน้ามาก่อน แล้วเห็นทางข้างหน้ามีสะพานเชือกเก่า ๆ แขวนอยู่ และท่าทางจะไม่แข็งแรงนัก
"คุณว่าเราจะข้ามสะพานนี้ได้ไหม? หรือว่าเราจะลองหาทางอื่นแทน" โรเซ่หันกลับมาถามซูโฮด้วยแววตาที่สนุกสนาน
"คุณกล้าข้ามสะพานนี้จริง ๆ เหรอ? ดูท่าทางมันจะอันตรายไม่น้อยนะ" ซูโฮกล่าวด้วยความเป็นห่วง
"แน่นอน! นี่ล่ะเป็นการผจญภัยในนิยายที่ฉันฝันไว้เลย เราจะทำให้ได้และข้ามไปด้วยกัน!" โรเซ่ตอบด้วยความมั่นใจ
โรเซ่เริ่มก้าวเดินบนสะพานเชือกอย่างระมัดระวัง ขณะที่ซูโฮตามหลังเธอมาอย่างใกล้ชิด เธอหันมายิ้มให้เขาเป็นระยะ ๆ อย่างมั่นใจ ซูโฮคอยดูแลเธออยู่ไม่ห่างและคอยเตือนให้เธอระวัง แต่ในขณะเดียวกันก็อดชื่นชมในความกล้าหาญของเธอไม่ได้
เมื่อข้ามสะพานมาได้ครึ่งทาง สะพานเกิดโยกแรงขึ้น โรเซ่สูดหายใจลึก ๆ และก้มมองเชือกที่เริ่มขาด
"โรเซ่! เธอต้องระวังหน่อย เชือกดูเหมือนจะขาดเร็ว ๆ นี้นะ!" ซูโฮตะโกนด้วยความเป็นห่วง
"เอาเถอะ ถ้ามันขาดจริง นายรับฉันไหวไหมล่ะ" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทาย
"แน่นอน ผมจะจับคุณไว้ให้ได้!" ซูโฮตอบด้วยความมั่นใจ
ในที่สุด ทั้งสองก็ข้ามสะพานมาได้สำเร็จ เมื่อเท้าทั้งสองเหยียบพื้นดินอีกฝั่ง โรเซ่ก็หันไปยิ้มให้ซูโฮอย่างภูมิใจ ทั้งคู่รู้สึกได้ว่าการร่วมผจญภัยครั้งนี้ทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้นและเข้าใจกันมากขึ้นเช่นกัน
"ฉันไม่เคยคิดว่าการผจญภัยนี้จะสนุกขนาดนี้ การที่ได้ทำอะไรท้าทายกับคุณ มันทำให้ฉันรู้สึกมีพลังอย่างบอกไม่ถูก" โรเซ่กล่าวด้วยความตื่นเต้น
"ผมเองก็รู้สึกดีที่ได้ร่วมทางกับคุณ ความกล้าของคุณทำให้ผมกล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ ไปพร้อมกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
**สัญญา...แห่งการผจญภัย:**
"ถ้าอย่างนั้นมาทำสัญญากัน เราจะร่วมผจญภัยไปด้วยกันจนกว่าจะถึงจุดหมาย ไม่ว่าอะไรก็ตาม!" โรเซ่กล่าวพร้อมยื่นกำปั้นให้เขา
"ตกลง! ไม่ว่าอุปสรรคข้างหน้าจะเป็นยังไง เราจะเผชิญมันไปด้วยกัน!" ซูโฮตอบพร้อมหัวเราะแล้วแตะกำปั้นตอบ
ทั้งสองมองหน้ากันและหัวเราะให้กัน จากที่เริ่มต้นเดินทางด้วยความระวังและความกังวล ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับแน่นแฟ้นขึ้นทุก ๆ ก้าวที่พวกเขาเดินไปด้วยกัน ความเข้าใจและความไว้วางใจที่พวกเขามีต่อกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าสิ่งที่เผชิญมาด้วยกันทั้งหมดนี้จะทำให้ทั้งสองกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งและไม่มีอะไรสามารถขวางกั้นได้
การผจญภัยนี้ไม่เพียงทำให้พวกเขาได้รู้จักกันมากขึ้น แต่ยังทำให้พวกเขาเริ่มเชื่อมโยงกันในระดับที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ทั้งคู่เริ่มรู้สึกว่าการได้มีเพื่อนร่วมทางที่คอยสนับสนุนและหัวเราะไปด้วยกันในทุกสถานการณ์นั้น เป็นสิ่งที่มีค่าอย่างที่สุด
เมื่อซูโฮและโรเซ่ก้าวเข้าไปในโลกนิยายโรแมนติกที่เขาแนะนำ บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง บ้านสีขาวหลังเล็ก ๆ เรียงรายอยู่ริมทะเลสาบที่เงียบสงบ เงาของพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนบนผืนน้ำ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและชวนฝัน โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นและประหม่านิด ๆ ในขณะที่ซูโฮเดินเคียงข้างเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนซูโฮมองเธอด้วยสายตาที่อบอุ่นและเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่นุ่มนวล"นี่...เราจะต้องแกล้งเป็นคู่รักเพื่อผ่านด่านนี้ไป คุณคิดว่าอย่างไร"โรเซ่ที่ดูมั่นใจมาตลอด กลับหน้าแดงเล็กน้อย เธอหัวเราะเบา ๆ พลางพยายามซ่อนความเขินอาย"แค่แสดงบทคู่รักเอง...คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม" โรเซ่ตอบพร้อมรอยยิ้มที่พยายามจะกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง"ใช่ แต่คงต้องแสดงให้แนบเนียนหน่อย ไม่อย่างนั้นเราอาจจะไม่ผ่านด่านนี้" ซูโฮตอบพร้อมกับยิ้มขำทั้งคู่เดินไปเรื่อย ๆ จนเจอกับคนชราที่ดูใจดีในชุดผ้าคลุมสีขาว คนชรามองทั้งสองด้วยความเอ็นดู"ยินดีต้อนรับพวกเธอ ทั้งสองช่างเหมาะสมกันจริง ๆ เหมือนคู่รักที่เกิดมาเพื่อกันและกัน" คนชรากล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนซูโฮหันไปสบตาโรเซ่ เขาเห็นรอยยิ้มที่แฝงความขี้เล่น และเอ่ยเสียงนุ่ม"ใช่
ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักและความโรแมนติก โรเซ่และซูโฮเดินกลับมาที่บ้านพักหลังจากได้ชมดอกไม้ไฟในสวนสาธารณะ ความรู้สึกที่ทั้งสองได้แบ่งปันกันเมื่อสักครู่ยังคงติดอยู่ในใจ โรเซ่รู้สึกสดชื่นและมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเมื่อได้อยู่เคียงข้างซูโฮเมื่อถึงบ้าน ซูโฮเปิดประตูให้โรเซ่และยิ้มให้เธออย่างสุภาพ โรเซ่สังเกตเห็นความพยายามของเขาที่จะทำตัวให้ดีที่สุดเพื่อเธอ ความรู้สึกอบอุ่นนี้ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและเชื่อมั่นในตัวเขามากยิ่งขึ้น"ขอบคุณนะที่เป็นสุภาพบุรุษให้ฉันเสมอซูโฮ ฉันชอบความรู้สึกนี้" โรเซ่เอ่ยด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง"ก็เพราะคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด! และผมก็อยากให้คุณรู้สึกพิเศษ" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและจริงใจโรเซ่รู้สึกเขินอายเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ซูโฮยังคงไม่หยุดที่จะสร้างความประทับใจให้เธอ เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาก็รีบหยิบผ้าห่มมาเพื่อให้เธอได้นั่งอย่างสบาย"นี่ เก็บไว้ถ้าหนาวนะ" ซูโฮกล่าวด้วยความเป็นห่วง"คุณนี่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงเลยนะ" โรเซ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข"ก็คงเป็นเพราะคุณมีเสน่ห์แบบนั้น!" ซูโฮตอบด้วยเสีย
ขณะเดินกลับจากมื้ออาหารค่ำ โรเซ่และซูโฮใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับชีวิต งานอดิเรก และความฝันในอนาคตของพวกเขา บรรยากาศยามค่ำคืนเต็มไปด้วยดาวที่ระยิบระยับ และเสียงของการจราจรจากถนนทำให้บรรยากาศดูคึกคัก โรเซ่รู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวาเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกับซูโฮ"โรเซ่ เธอเคยคิดไหมว่าถ้าหากเราสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกแฟนตาซีได้ เราจะทำอะไรบ้าง" ซูโฮถามด้วยน้ำเสียงที่ชวนฝัน"อืม... คุณอยากเป็นนักผจญภัยที่ออกตามหาสมบัติ! แล้วคุณล่ะซูโฮ" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น"ผมจะเป็นนักรบที่คอยปกป้องคุณจากอันตราย!" ซูโฮกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนโรเซ่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของซูโฮ เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่ออยู่กับเขา ราวกับว่าเขาเป็นคนที่สามารถทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและการสนับสนุนที่ไม่เหมือนใคร"ถ้าฉันเป็นนางเอก ฉันจะต้องเป็นนางเอกที่ทำอาหารอร่อย ๆ ให้คุณกินนะ" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน่ารัก"นักรบไม่มีเวลากินอาหารหรอก! ผมจะต้องไปรบ!" ซูโฮแกล้งทำเสียงเข้ม"ยังไงก็ต้องหิวอยู่ดี! ถ้าไม่มีอาหาร นักรบก็ไม่มีแรงจะต่อ
ในช่วงบ่ายที่สดใส โรเซ่และซูโฮตัดสินใจที่จะใช้เวลาร่วมกันในสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงในโลกนิยายที่พวกเขาอยู่ มันเป็นสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสี และบรรยากาศที่โรแมนติก ลมเบา ๆ พัดผ่านทำให้โรเซ่รู้สึกมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เมื่อเดินเข้าไปในสวน โรเซ่สวมชุดเดรสสีฟ้าลายดอกไม้ที่พริ้วไหวเมื่อโดนลม ซึ่งทำให้เธอดูสดใสและเต็มไปด้วยพลังงาน"ซูโฮ! ดูซิ! ดอกไม้ตรงนั้นสวยมากเลย" โรเซ่ชี้ไปยังดอกไม้สีสดใสที่บานอยู่กลางสวน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น"ใช่! มันสวยจริง ๆ ทำให้ผมนึกถึงภาพวาดในนิยายที่เราเคยอ่านกันเลย" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มโรเซ่หันมามองซูโฮด้วยรอยยิ้มกว้าง ความมั่นใจในตัวเองของเธอทำให้เธอรู้สึกว่า การแสดงออกถึงความชอบของตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญ"ฉันชอบดอกไม้ เพราะมันทำให้รู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา! เหมือนกับความรักที่เราอ่านในนิยายเลย" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข"ความรักที่ทำให้เราได้เห็นสิ่งสวยงามแบบนี้ก็จริงนะ" ซูโฮกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นขณะที่เดินต่อไป โรเซ่เริ่มเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับการออกแบบเสื้อผ้าของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอหลงใหลมาตั้งแต่เด็ก"เมื่อปีที่แล้ว ฉันพ
บรรยากาศในสวนสาธารณะถูกเติมเต็มด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องผ่านกิ่งไม้และเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินไปมา โรเซ่และซูโฮนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ในขณะที่ความสดชื่นของลมเย็นช่วยสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยถึงความฝันของพวกเขา"ซูโฮ ฉันรู้ว่าคุณมีความฝันเกี่ยวกับห้องสมุดแห่งความฝันของปู่จริงไหม มันเป็นอย่างไรบ้าง" โรเซ่ถามด้วยความสนใจซูโฮยิ้มกว้าง เมื่อต้องพูดถึงห้องสมุดที่เขารักมาก"ใช่! ห้องสมุดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พิเศษมากสำหรับผม มันไม่ใช่แค่ที่เก็บหนังสือ แต่เป็นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทุกวัย ผมรับช่วงดูแลมันต่อจากพ่อของผม" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่จ้องมองเขาอย่างตั้งใจ และสามารถเห็นแสงแห่งความหลงใหลในดวงตาของเขา"โอ้! มันฟังดูยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉันจำได้ว่าได้ยินเกี่ยวกับห้องสมุดนี้จากเพื่อน ๆ พวกเขาพูดถึงความอบอุ่นและบรรยากาศที่ดีที่นั่น" โรเซ่กล่าวด้วยความชื่นชม"ใช่! ห้องสมุดนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกของการแบ่งปัน ความรู้สึกที่ทุกคนสามารถเข้ามาอ่านหนังสือและพูดคุยกันได้ ผมอยากให้มันเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถเปิดใจและเชื่อมโยงกัน" ซูโฮตอบด้วยค
โรเซ่และซูโฮนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะ แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านใบไม้ลงมากระทบร่างของพวกเขา สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและอบอุ่น โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้อยู่กับซูโฮและแบ่งปันความฝันของเธอกับเขา"ซูโฮ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ขนาดนี้ ผมชอบที่จะฟังคุณพูดถึงความฝันของคุณ" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชมโรเซ่ยิ้มและสัมผัสถึงความอบอุ่นจากคำชมของเขา"ขอบคุณนะ! การได้สร้างสิ่งที่มีความหมายให้กับผู้คนเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวา มันเหมือนการได้ทำอะไรที่สำคัญ" โรเซ่ตอบด้วยความจริงใจซูโฮมองไปที่เธออย่างตั้งใจ"ความฝันของคุณมันใหญ่หลวงมาก ผมมั่นใจว่าคุณสามารถทำให้มันเป็นจริงได้" ซูโฮกล่าวด้วยความเชื่อมั่น"แน่นอน! และฉันก็รู้สึกว่าความฝันของเรามีความคล้ายกันมาก ฉันอยากให้ห้องสมุดแห่งความฝันเป็นที่ที่ทุกคนมีโอกาสค้นหาความรู้และแรงบันดาลใจ" โรเซ่กล่าวด้วยความมุ่งมั่น"นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมรักห้องสมุดแห่งนี้ มันไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นโรเซ่รู้สึกถึงความใกล้ชิดเมื่อทั้งคู่เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับความฝันขอ
บรรยากาศในห้องสมุดแห่งความฝันเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เมื่อซูโฮตัดสินใจพาโรเซ่เข้าไปในโลกนิยายสืบสวน ทั้งคู่ยืนอยู่ที่กลางห้องสมุด ขณะที่ซูโฮยิ้มอย่างมั่นใจและยื่นมือไปจับมือของโรเซ่"ผมมีอะไรสนุก ๆ จะให้คุณลองดู... เราจะเข้าไปในโลกนิยายสืบสวนกัน!" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นโรเซ่ตาโตด้วยความตื่นเต้นและสงสัย เธอมองไปที่หน้าต่างที่เต็มไปด้วยแสงสว่างและเห็นภาพวาดที่ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวา ขณะที่เสียงของซูโฮดึงดูดความสนใจของเธอ"จริงเหรอ แต่...เราจะเข้าไปในนั้นได้ยังไง" โรเซ่ถามด้วยความสงสัย"แค่จินตนาการตามที่เราคิด ยิ่งเราตั้งใจมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งเข้าไปได้ลึกขึ้น" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจโรเซ่รู้สึกเหมือนเธอกำลังจะก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง ความมั่นใจในตัวเองเริ่มผุดขึ้นในใจ ขณะที่เธอยิ้มและยอมรับมือของซูโฮ"ถ้าเป็นแบบนั้น...ฉันก็พร้อมที่จะเข้าไปกับคุณ" โรเซ่กล่าวด้วยความมุ่งมั่นเมื่อทั้งสองเริ่มปิดตาและตั้งใจจินตนาการภาพของโลกนิยายสืบสวน พวกเขารู้สึกถึงแรงดึงดูดและความอบอุ่นที่ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นทันใดนั้น พวกเขาพบว่าตนเองยืนอยู่กลางเมืองที่มีบรรยา
ในขณะที่โรเซ่และซูโฮกำลังอยู่ในช่วงของการสืบสวนคดีที่เต็มไปด้วยความลึกลับ โรเซ่เริ่มรู้สึกสนุกกับการท้าทายซูโฮ ซึ่งทำให้บรรยากาศการทำงานร่วมกันของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น"ซูโฮ ถ้าคุณอยากจะออกจากที่นี่ไปเร็ว ๆ คุณต้องลองทำอะไรที่ท้าทายกว่านี้นะ!" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่น"ท้าทายยังไงครับ" ซูโฮหันไปมองโรเซ่ด้วยความสนใจโรเซ่ยิ้มกว้างและชี้ไปที่ห้องข้าง ๆ ซึ่งมีบรรยากาศที่ไม่ค่อยเป็นมิตร"เราต้องลองไปถามคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นว่าเขารู้เรื่องเกี่ยวกับคดีนี้หรือเปล่า มันอาจจะอันตรายก็ได้นะ" โรเซ่เสนอด้วยท่าทางที่ท้าทาย"ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นไอเดียที่ดีหรือเปล่านะ" ซูโฮเอียงหัวไปข้างหนึ่งด้วยท่าทางที่อ่อนโยน"แค่ลองดูซิ! คุณไม่ต้องกลัวหรอก ผมอยู่ข้าง ๆ คุณ" โรเซ่ท้าทายเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจซูโฮมองไปที่โรเซ่ เขารู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญและความมั่นใจของเธอ"ถ้าคุณแน่ใจ ผมก็จะตามคุณไป" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มพวกเขาเดินไปที่ห้องข้าง ๆ และโรเซ่เคาะประตูอย่างมั่นใจ"สวัสดีค่ะ คุณอยู่ไหม" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใสเสียงจากในห้องตอบกลับมา"ใคร ทำไมถึงมาเคาะที่นี่" เสียงจากในห
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั
โรเซ่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง ตั้งแต่เธอเริ่มฝันถึงซูโฮบ่อยขึ้น ความฝันแต่ละครั้งชัดเจนราวกับความจริง เสียงของเขานุ่มนวลเหมือนเคย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือซูโฮในความฝันเริ่มมีอารมณ์เหมือนคนที่มีชีวิตจริง เขาหัวเราะ เสียใจ หรือแม้แต่แสดงความห่วงใยเธอในแบบที่ลึกซึ้ง จนโรเซ่เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองคืนหนึ่ง โรเซ่ฝันว่าเธอกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ซูโฮเดินเคียงข้างเธอ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ดวงตาดูลึกซึ้งจนยากจะเข้าใจ"คุณดูเงียบกว่าปกตินะคะ วันนี้มีอะไรในใจหรือเปล่า" โรเซ่ถามพลางหันไปมองเขา"บางครั้งผมก็รู้สึกว่าเวลาของเราในที่นี่มันไม่ยั่งยืน" ซูโฮตอบ น้ำเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่โรเซ่ขมวดคิ้ว"คุณหมายความว่ายังไง คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันถึงฝันถึงคุณบ่อยขนาดนี้" โรเซ่ถามด้วยความสงสัยซูโฮหยุดเดินและมองเธอ ดวงตาของเขาสั่นไหวเหมือนคนที่กำลังเก็บความลับบางอย่าง"ผมคือส่วนหนึ่งของความฝันที่คุณสร้างขึ้น คุณไม่ต้องกลัว ผมไม่ได้มาทำร้ายคุณ" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ"แต่คุณมาจากไหน คุณเป็นคนจริง ๆ หรือเปล่า" โรเซ่ยังคงถามต่อเขาไม่ตอบ แต่เพียงส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
เช้าวันนั้นในกรุงโซล อากาศเย็นสบายลอยผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของโรเซ่ แสงแดดอ่อน ๆ ทอประกายลงบนโต๊ะทำงานของเธอที่ยังคงมีร่องรอยจากโปรเจกต์ก่อนหน้านี้ โรเซ่ลุกขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่น หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จ เธอเดินลงไปที่ห้องครัว พ่อของเธอกำลังตักข้าวใส่ชาม และแม่ของเธอก็กำลังเตรียมเครื่องเคียง"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" แม่ทักพร้อมรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง"แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย" โรเซ่ตอบด้วยความตื่นเต้นมินจี น้องสาวของเธอที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มทุกคนหัวเราะและนั่งล้อมรอบโต๊ะ โรเซ่เริ่มเล่าเรื่องการแสดงแฟชั่นโชว์ ทั้งบรรยากาศของงาน ชุดที่เธอออกแบบ และเสียงปรบมือที่ได้รับ"พ่อคะ แม่คะ ตอนที่ฉันยืนอยู่บนเวทีแล้วมองไปยังฝูงชน ฉันรู้สึกเหมือนความฝันมันเป็นจริงเลยค่
โรเซ่หลับตาลงอย่างช้า ๆ หลังจากวันที่ยาวนานผ่านไป ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ชวนให้เธอนึกถึงโลกใบหนึ่งที่เธอไม่ได้ไปมาหลายวัน โลกที่เต็มไปด้วยแสงสลัวและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหนังสือเก่า ๆ และเมื่อเธอเปิดตาขึ้นอีกครั้งในความฝัน เธอพบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องสมุดแห่งความฝันอีกครั้ง"คุณกลับมาแล้ว" เสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่นดังขึ้นข้างหลัง โรเซ่หันไปและพบกับซูโฮ เขายืนอยู่ในชุดเรียบง่าย สายตาของเขามองเธอด้วยความอ่อนโยนที่โรเซ่คุ้นเคย"ใช่ ฉันกลับมาแล้ว" โรเซ่พูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ขณะที่เดินเข้าไปใกล้เขา "ที่นี่สงบกว่าชีวิตจริงของฉันเยอะเลย"ซูโฮหัวเราะเบา ๆ "ผมเดาว่ามันคงมีเรื่องมากมายที่ทำให้คุณเหนื่อย แต่คุณก็ยังดูสดใสเสมอ"โรเซ่ยิ้มขี้เล่น"ฉันก็ต้องพยายามทำตัวให้สดใสสิ ฉันไม่ชอบให้ใครมองว่าฉันอ่อนแอ" โรเซ่ตอบด้วยความมั่นใจ"แต่คุณก็ไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด" ซูโฮพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณมีพลังในแบบที่คนอื่นไม่มี และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง"โรเซ่หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ซูโฮ"คุณพูดเหมือนรู้จักฉันดีจัง... มากกว่าที่ฉันรู้จักตัวเองเสียอีก" โรเซ่กล่าวด้วยความสงสัยซูโฮยิ้มบ