บรรยากาศในสวนสาธารณะถูกเติมเต็มด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องผ่านกิ่งไม้และเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินไปมา โรเซ่และซูโฮนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ในขณะที่ความสดชื่นของลมเย็นช่วยสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยถึงความฝันของพวกเขา"ซูโฮ ฉันรู้ว่าคุณมีความฝันเกี่ยวกับห้องสมุดแห่งความฝันของปู่จริงไหม มันเป็นอย่างไรบ้าง" โรเซ่ถามด้วยความสนใจซูโฮยิ้มกว้าง เมื่อต้องพูดถึงห้องสมุดที่เขารักมาก"ใช่! ห้องสมุดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พิเศษมากสำหรับผม มันไม่ใช่แค่ที่เก็บหนังสือ แต่เป็นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทุกวัย ผมรับช่วงดูแลมันต่อจากพ่อของผม" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่จ้องมองเขาอย่างตั้งใจ และสามารถเห็นแสงแห่งความหลงใหลในดวงตาของเขา"โอ้! มันฟังดูยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉันจำได้ว่าได้ยินเกี่ยวกับห้องสมุดนี้จากเพื่อน ๆ พวกเขาพูดถึงความอบอุ่นและบรรยากาศที่ดีที่นั่น" โรเซ่กล่าวด้วยความชื่นชม"ใช่! ห้องสมุดนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกของการแบ่งปัน ความรู้สึกที่ทุกคนสามารถเข้ามาอ่านหนังสือและพูดคุยกันได้ ผมอยากให้มันเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถเปิดใจและเชื่อมโยงกัน" ซูโฮตอบด้วยค
โรเซ่และซูโฮนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะ แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านใบไม้ลงมากระทบร่างของพวกเขา สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและอบอุ่น โรเซ่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้อยู่กับซูโฮและแบ่งปันความฝันของเธอกับเขา"ซูโฮ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ขนาดนี้ ผมชอบที่จะฟังคุณพูดถึงความฝันของคุณ" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชมโรเซ่ยิ้มและสัมผัสถึงความอบอุ่นจากคำชมของเขา"ขอบคุณนะ! การได้สร้างสิ่งที่มีความหมายให้กับผู้คนเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวา มันเหมือนการได้ทำอะไรที่สำคัญ" โรเซ่ตอบด้วยความจริงใจซูโฮมองไปที่เธออย่างตั้งใจ"ความฝันของคุณมันใหญ่หลวงมาก ผมมั่นใจว่าคุณสามารถทำให้มันเป็นจริงได้" ซูโฮกล่าวด้วยความเชื่อมั่น"แน่นอน! และฉันก็รู้สึกว่าความฝันของเรามีความคล้ายกันมาก ฉันอยากให้ห้องสมุดแห่งความฝันเป็นที่ที่ทุกคนมีโอกาสค้นหาความรู้และแรงบันดาลใจ" โรเซ่กล่าวด้วยความมุ่งมั่น"นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมรักห้องสมุดแห่งนี้ มันไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นโรเซ่รู้สึกถึงความใกล้ชิดเมื่อทั้งคู่เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับความฝันขอ
บรรยากาศในห้องสมุดแห่งความฝันเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เมื่อซูโฮตัดสินใจพาโรเซ่เข้าไปในโลกนิยายสืบสวน ทั้งคู่ยืนอยู่ที่กลางห้องสมุด ขณะที่ซูโฮยิ้มอย่างมั่นใจและยื่นมือไปจับมือของโรเซ่"ผมมีอะไรสนุก ๆ จะให้คุณลองดู... เราจะเข้าไปในโลกนิยายสืบสวนกัน!" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นโรเซ่ตาโตด้วยความตื่นเต้นและสงสัย เธอมองไปที่หน้าต่างที่เต็มไปด้วยแสงสว่างและเห็นภาพวาดที่ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวา ขณะที่เสียงของซูโฮดึงดูดความสนใจของเธอ"จริงเหรอ แต่...เราจะเข้าไปในนั้นได้ยังไง" โรเซ่ถามด้วยความสงสัย"แค่จินตนาการตามที่เราคิด ยิ่งเราตั้งใจมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งเข้าไปได้ลึกขึ้น" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจโรเซ่รู้สึกเหมือนเธอกำลังจะก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง ความมั่นใจในตัวเองเริ่มผุดขึ้นในใจ ขณะที่เธอยิ้มและยอมรับมือของซูโฮ"ถ้าเป็นแบบนั้น...ฉันก็พร้อมที่จะเข้าไปกับคุณ" โรเซ่กล่าวด้วยความมุ่งมั่นเมื่อทั้งสองเริ่มปิดตาและตั้งใจจินตนาการภาพของโลกนิยายสืบสวน พวกเขารู้สึกถึงแรงดึงดูดและความอบอุ่นที่ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นทันใดนั้น พวกเขาพบว่าตนเองยืนอยู่กลางเมืองที่มีบรรยา
ในขณะที่โรเซ่และซูโฮกำลังอยู่ในช่วงของการสืบสวนคดีที่เต็มไปด้วยความลึกลับ โรเซ่เริ่มรู้สึกสนุกกับการท้าทายซูโฮ ซึ่งทำให้บรรยากาศการทำงานร่วมกันของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น"ซูโฮ ถ้าคุณอยากจะออกจากที่นี่ไปเร็ว ๆ คุณต้องลองทำอะไรที่ท้าทายกว่านี้นะ!" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่น"ท้าทายยังไงครับ" ซูโฮหันไปมองโรเซ่ด้วยความสนใจโรเซ่ยิ้มกว้างและชี้ไปที่ห้องข้าง ๆ ซึ่งมีบรรยากาศที่ไม่ค่อยเป็นมิตร"เราต้องลองไปถามคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นว่าเขารู้เรื่องเกี่ยวกับคดีนี้หรือเปล่า มันอาจจะอันตรายก็ได้นะ" โรเซ่เสนอด้วยท่าทางที่ท้าทาย"ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นไอเดียที่ดีหรือเปล่านะ" ซูโฮเอียงหัวไปข้างหนึ่งด้วยท่าทางที่อ่อนโยน"แค่ลองดูซิ! คุณไม่ต้องกลัวหรอก ผมอยู่ข้าง ๆ คุณ" โรเซ่ท้าทายเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจซูโฮมองไปที่โรเซ่ เขารู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญและความมั่นใจของเธอ"ถ้าคุณแน่ใจ ผมก็จะตามคุณไป" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มพวกเขาเดินไปที่ห้องข้าง ๆ และโรเซ่เคาะประตูอย่างมั่นใจ"สวัสดีค่ะ คุณอยู่ไหม" โรเซ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใสเสียงจากในห้องตอบกลับมา"ใคร ทำไมถึงมาเคาะที่นี่" เสียงจากในห
**การเฉลิมฉลอง...และความสุขที่แบ่งปัน:**เมื่อทั้งสองไขปริศนาได้สำเร็จ โรเซ่และซูโฮรู้สึกถึงความสุขที่ได้ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคในครั้งนี้ พวกเขาตัดสินใจเฉลิมฉลองความสำเร็จด้วยการไปทานอาหารที่ร้านโปรดของซูโฮ"เราทำได้แล้วนะ! ฉันแทบไม่เชื่อเลยว่าพวกเราจะจัดการได้" โรเซ่กล่าวด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ขณะที่ทั้งสองเดินเข้าร้าน"ใช่ครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะคุณ" ซูโฮหันไปยิ้มให้เธออย่างอบอุ่นเมื่อถึงที่นั่ง โรเซ่สั่งอาหารอย่างมั่นใจและเต็มไปด้วยความขี้เล่น"ฉันอยากลองเมนูพิเศษที่นี่ คุณไม่สนใจที่จะลองอะไรแปลกใหม่บ้างเหรอ" โรเซ่ถามด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทาย"แน่นอนครับ ถ้าคุณคิดว่ามันอร่อย ผมก็ยินดีที่จะลอง" ซูโฮตอบกลับด้วยรอยยิ้มหลังจากที่สั่งอาหารแล้ว พวกเขานั่งลงและเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับความสำเร็จที่เพิ่งผ่านมา"รู้ไหม ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ๆ ตอนที่เราทำงานร่วมกัน" โรเซ่กล่าวด้วยความมั่นใจ"ผมก็เช่นกันครับ คุณทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องสนุกที่ได้ทำงานร่วมกับคุณ" ซูโฮมองโรเซ่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมโรเซ่ยิ้มและรู้สึกอบอุ่นในใจเมื่อได้ยินคำพูดของซูโฮ"ฉันรู้
หลังจากวันแห่งความสำเร็จและการเฉลิมฉลองผ่านไป โรเซ่และซูโฮมีโอกาสใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ทั้งสองตัดสินใจไปเดินเที่ยวในสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงในเมือง ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และทุ่งดอกไม้สีสันสดใสเมื่อเดินเข้ามาในสวน โรเซ่รู้สึกตื่นเต้น เธอวิ่งไปข้างหน้าเล็กน้อยและหันกลับมายิ้มให้ซูโฮ"คุณคิดว่าที่นี่จะมีดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลกไหม" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่น"ผมว่าไม่น่าจะมีที่ไหนสวยไปกว่าคุณนะ" ซูโฮตอบอย่างอบอุ่น ทำให้โรเซ่ยิ้มกว้างพวกเขาเดินไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้ โรเซ่ชี้ไปที่ดอกไม้สีม่วงที่เบ่งบานอยู่"ดูสิ! ดอกไม้พวกนี้สวยมาก!" เธอหยุดและเริ่มเดินเข้าไปใกล้ดอกไม้"คุณชอบดอกไม้นี้เหรอ" ซูโฮถามขณะที่มองตามไป"ใช่ค่ะ มันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา" เธอหันมาพูดพลางยิ้มให้เขาเมื่อเดินต่อไป โรเซ่ก็ตัดสินใจเล่นเกมเล็ก ๆ เพื่อทำให้บรรยากาศสนุกสนานมากขึ้น"มาแข่งกันดูไหมว่าคุณจะเก็บดอกไม้ได้มากกว่าฉัน" โรเซ่เสนอด้วยรอยยิ้มที่ท้าทาย"อ้าว! ถ้าอย่างนั้นผมจะต้องทุ่มสุดตัวแล้ว" ซูโฮหัวเราะและตอบกลับอย่างขำขันโรเซ่เริ่มวิ่งไปหาและเก็บดอกไม้ด้วยความกระตือรือร้น
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยแสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่างห้องของโรเซ่ เสียงนกขับขานส่งเสียงดังกังวานไปทั่วบริเวณ เธอตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น หลังจากคืนที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและการเปิดใจที่ลึกซึ้ง เมื่อคิดถึงซูโฮ หัวใจของเธอก็เต้นแรงอีกครั้งเมื่อถึงเวลาสาย โรเซ่แต่งตัวเสร็จและลงไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้า เธอมีอารมณ์ดีและตื่นเต้นที่จะได้พบกับซูโฮอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องพบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดเมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องครัว"เช้าสดใส มาเร็ว ๆ ครับ คุณโรเซ่" ซูโฮโบกมือให้เธอ พร้อมกับยิ้มกว้างโรเซ่ยิ้มตอบด้วยความสดใสที่เปล่งประกายออกมาในดวงตาของเธอ"อรุณสวัสดิ์ค่ะ วันนี้คุณทำอะไรเหรอ" โรเซ่ถามด้วยความสงสัย"เช้าสดใส ผมเตรียมกาแฟรอแล้วนะครับ" ซูโฮพูดพร้อมรอยยิ้มกว้าง"คุณตื่นเช้าจัง! ฉันนึกว่าจะได้เป็นคนเตรียมอาหารให้คุณ" โรเซ่หัวเราะเบา ๆ"วันนี้ผมขอทำหน้าที่บ้าง" ซูโฮตอบ พลางยิ้มหวาน "และไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ผมมีเรื่องตลกจะเล่าให้คุณฟังด้วย""โอ้โห คุณคงอยากให้เช้านี้สนุกใช่ไหม" โรเซ่ยักคิ้ว "ไหน เล่าให้ฟังหน่อยสิ"ซูโฮเริ่มเล่าเรื่องการทำซุปหัวหอมที่มีเพียงหัวหอมและน้ำ ทำให้โรเซ่หัวเราะลั่นจนตัวงอ
เมื่อทั้งคู่เดินเล่นที่สวน พวกเขาเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับความหมายของการทำในสิ่งที่รัก และชีวิตที่พวกเขาใฝ่ฝัน ซูโฮและโรเซ่แวะพักที่ม้านั่งกลางสวน ซึ่งมีดอกไม้บานสะพรั่ง"คุณเคยคิดไหมว่าเราใช้ชีวิตอย่างมีความหมายมากแค่ไหน" โรเซ่เริ่มต้นการสนทนา ขณะนั่งลง"อืม...สำหรับผม ความหมายของการใช้ชีวิตคือการทำสิ่งที่เรารัก และช่วยคนอื่นให้มีชีวิตที่ดีขึ้น" ซูโฮตอบอย่างมั่นใจโรเซ่รู้สึกได้ถึงความจริงใจในคำพูดของซูโฮ"นั่นฟังดูดีมากค่ะ ฉันก็คิดว่าถ้าเราใช้ชีวิตไปตามความฝัน เราจะรู้สึกมีความสุข" โรเซ่กล่าวด้วยรอยยิ้ม"แต่บางครั้งก็ยากที่จะทำตามความฝันใช่ไหมครับ" ซูโฮแสดงความเข้าใจ"ใช่ค่ะ ฉันก็เคยรู้สึกว่าไม่มีใครเชื่อในความฝันของฉัน แต่พอได้คุยกับคุณเมื่อคืนนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถเชื่อมั่นในตัวเองได้" โรเซ่บอกด้วยความมั่นใจซูโฮมองเธอด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม"คุณมีความสามารถมากมายโรเซ่ ผมเชื่อว่าคุณจะประสบความสำเร็จแน่นอน" ซูโฮกล่าวด้วยความเชื่อมั่นโรเซ่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เธอหันไปมองดอกไม้รอบตัวที่กำลังผลิบานอยู่"คุณคิดว่าความสำเร็จคืออะไร" โรเซ่ถามด้วยความอยากรู้"สำหรับผม ความสำเร็จไ
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั
โรเซ่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง ตั้งแต่เธอเริ่มฝันถึงซูโฮบ่อยขึ้น ความฝันแต่ละครั้งชัดเจนราวกับความจริง เสียงของเขานุ่มนวลเหมือนเคย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือซูโฮในความฝันเริ่มมีอารมณ์เหมือนคนที่มีชีวิตจริง เขาหัวเราะ เสียใจ หรือแม้แต่แสดงความห่วงใยเธอในแบบที่ลึกซึ้ง จนโรเซ่เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองคืนหนึ่ง โรเซ่ฝันว่าเธอกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ซูโฮเดินเคียงข้างเธอ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ดวงตาดูลึกซึ้งจนยากจะเข้าใจ"คุณดูเงียบกว่าปกตินะคะ วันนี้มีอะไรในใจหรือเปล่า" โรเซ่ถามพลางหันไปมองเขา"บางครั้งผมก็รู้สึกว่าเวลาของเราในที่นี่มันไม่ยั่งยืน" ซูโฮตอบ น้ำเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่โรเซ่ขมวดคิ้ว"คุณหมายความว่ายังไง คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันถึงฝันถึงคุณบ่อยขนาดนี้" โรเซ่ถามด้วยความสงสัยซูโฮหยุดเดินและมองเธอ ดวงตาของเขาสั่นไหวเหมือนคนที่กำลังเก็บความลับบางอย่าง"ผมคือส่วนหนึ่งของความฝันที่คุณสร้างขึ้น คุณไม่ต้องกลัว ผมไม่ได้มาทำร้ายคุณ" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ"แต่คุณมาจากไหน คุณเป็นคนจริง ๆ หรือเปล่า" โรเซ่ยังคงถามต่อเขาไม่ตอบ แต่เพียงส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
เช้าวันนั้นในกรุงโซล อากาศเย็นสบายลอยผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของโรเซ่ แสงแดดอ่อน ๆ ทอประกายลงบนโต๊ะทำงานของเธอที่ยังคงมีร่องรอยจากโปรเจกต์ก่อนหน้านี้ โรเซ่ลุกขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่น หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จ เธอเดินลงไปที่ห้องครัว พ่อของเธอกำลังตักข้าวใส่ชาม และแม่ของเธอก็กำลังเตรียมเครื่องเคียง"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" แม่ทักพร้อมรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง"แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย" โรเซ่ตอบด้วยความตื่นเต้นมินจี น้องสาวของเธอที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มทุกคนหัวเราะและนั่งล้อมรอบโต๊ะ โรเซ่เริ่มเล่าเรื่องการแสดงแฟชั่นโชว์ ทั้งบรรยากาศของงาน ชุดที่เธอออกแบบ และเสียงปรบมือที่ได้รับ"พ่อคะ แม่คะ ตอนที่ฉันยืนอยู่บนเวทีแล้วมองไปยังฝูงชน ฉันรู้สึกเหมือนความฝันมันเป็นจริงเลยค่
โรเซ่หลับตาลงอย่างช้า ๆ หลังจากวันที่ยาวนานผ่านไป ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ชวนให้เธอนึกถึงโลกใบหนึ่งที่เธอไม่ได้ไปมาหลายวัน โลกที่เต็มไปด้วยแสงสลัวและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหนังสือเก่า ๆ และเมื่อเธอเปิดตาขึ้นอีกครั้งในความฝัน เธอพบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องสมุดแห่งความฝันอีกครั้ง"คุณกลับมาแล้ว" เสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่นดังขึ้นข้างหลัง โรเซ่หันไปและพบกับซูโฮ เขายืนอยู่ในชุดเรียบง่าย สายตาของเขามองเธอด้วยความอ่อนโยนที่โรเซ่คุ้นเคย"ใช่ ฉันกลับมาแล้ว" โรเซ่พูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ขณะที่เดินเข้าไปใกล้เขา "ที่นี่สงบกว่าชีวิตจริงของฉันเยอะเลย"ซูโฮหัวเราะเบา ๆ "ผมเดาว่ามันคงมีเรื่องมากมายที่ทำให้คุณเหนื่อย แต่คุณก็ยังดูสดใสเสมอ"โรเซ่ยิ้มขี้เล่น"ฉันก็ต้องพยายามทำตัวให้สดใสสิ ฉันไม่ชอบให้ใครมองว่าฉันอ่อนแอ" โรเซ่ตอบด้วยความมั่นใจ"แต่คุณก็ไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด" ซูโฮพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณมีพลังในแบบที่คนอื่นไม่มี และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง"โรเซ่หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ซูโฮ"คุณพูดเหมือนรู้จักฉันดีจัง... มากกว่าที่ฉันรู้จักตัวเองเสียอีก" โรเซ่กล่าวด้วยความสงสัยซูโฮยิ้มบ