หน้าหลัก / LGBTQ+ / ปลดรัก บัญชีใจ / เรื่องจริงที่ไม่ต้องรอเวลา

แชร์

เรื่องจริงที่ไม่ต้องรอเวลา

9.00 ในประเทศไทย

“ให้เอลิสไปส่งนะ จะได้รู้จักคุณพ่อคุณแม่ของเทียนด้วย”

เอลิสเริ่มรุก หลังจากที่เดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาออก และหยิบกระเป๋าจากช่องลำเลียงเรียบร้อย โดยไม่ลืมหยิบของแสงเทียนติดมาด้วย

“อย่าเพิ่งดีกว่า...คือเทียนอยากให้เวลากับตัวเองได้อยู่กับพ่อแม่ ไม่ได้เจอพวกท่านนานแล้ว” แสงเทียนบอกปัดอย่างถนอมน้ำใจอีกฝ่ายที่สุดแล้ว ซึ่งเธอรู้ดีว่าเอลิสจริงใจแค่ไหน แต่เป็นเธอที่ยังไม่พร้อมเสียเอง โดยเหตุผลสำคัญอยู่ในใจที่เธอไม่เคยขุดคุ้ยออกมาให้ใครได้รับรู้

         “งั้นเทียนกลับถึงบ้าน โทรมานะคะ” เอลิสบอกด้วยความเป็นห่วง

          “ได้ แต่ยังไงเทียนต้องขอบคุณเอลิสนะ... สำหรับทุกอย่าง”

แสงเทียนตอบรับ พร้อมกับยิ้มหวาน จากนั้นก็รับกระเป๋าจากอีกคนมาถือไว้ “ยังไงเทียนจะโทรหานะคะ” เธอย้ำไม่ลืมที่จะยิ้มหวานส่งให้อีกรอบเพื่อไม่ให้อีกคนรู้สึกใจฝ่อกับการปฏิเสธครั้งนี้

“ค่ะ” เธอรับคำ แต่ใจลึก ๆ ก็รู้สึกหวิวเล็กน้อย ไม่คิดว่าคนที่คบกันมานานจะยังไม่เปิดใจให้เข้าถึงครอบครัว...

         ‘ขอเวลาให้สาอีกนิดนะเอลิส...’

แสงเทียนซาบซึ้งในน้ำใจของเอลิสตลอดที่คบหากัน หากหัวใจของเธอกลับเหมือนมีอะไรบางอย่าง ที่ไม่อาจเปิดรับการเปลี่ยนแปลงสถานะ

เธอมองแผ่นหลังบางภายใต้เสื้อผ้าราคาแพง แต่เป็นเสื้อผ้าสไตล์เรียบง่าย กางเกงยีนเนื้อดีสวมเสื้อเชิ้ตทับเสื้อยืดด้านใน แต่นั่นก็ทำให้เป็นที่สะดุดตาของใครหลายคนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้น เธอชอบที่เอลิสที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่เรื่องมากไม่เจ้าระเบียบ เสื้อผ้าไม่ต้องเนี้ยบอย่างผู้ลากมากดีเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ที่ผ่านเข้าแวะเวียนแจกขนมจีบ...

เอลิสแต่งตัวธรรมดาแต่ดูดี คือสิ่งสะดุดตาที่เธอตัดสินใจเลือกคบหาเป็นเพื่อน โดยไม่รู้มาก่อนว่าเธอมีฐานะอย่างไร

สายตาจับจ้องสิ่งที่ลับตาไปแล้วหันกลับมาหวนคิดเรื่องของตัวเองอีกครั้ง ความจริงเป็นมายังไง เรื่องที่เธอต้องรีบสะสางสืบหาความจริง...!

แสงเทียนสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรง เพื่อฮึดสู้กับความรู้สึกของตัวเอง ตัดใจมองเส้นทางข้างหน้า แต่หัวใจใช่ว่าไม่คิดถึงคนด้านหลัง ไม่ใช่ว่าเธอไม่ต้องการแบบสิ่งที่อีกคนต้องการไม่ แต่สิ่งที่ครอบครัวเธอกำลังประสบ ทำให้เธอไม่มั่นใจเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร...

การจะคบกับใคร มันไม่ใช่ปัญหา แต่เพราะเหตุผลที่กำลังเกิดขึ้นต่างหากทำให้เธอต้องเลือกที่จะหยุดความรู้สึกนั้นไว้...

ใบหน้าที่ตกแต่งไว้คมเฉียบ ดูดีไปตามวัย อย่างคุณนายลินดา วัย 48 ปี มองผู้เป็นสามีที่นั่งดื่มเหล้าติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน

ดวงตาปรือปรอยหันมองภรรยาเพียงนิดแล้วหันไปสนใจแก้วเหล้าในมือต่อ

เมื่อถูกเมินเฉยจากสามีนางก็ส่งสายตาจิกมองอย่างเหยียด ๆ ตอนนี้นางเริ่มขัดสนเงินในมือที่สามีให้จ่ายประจำทุกเดือนและตอนนี้นางต้องการใช้ก่อนกำหนดที่ได้รับรายจ่ายจริง ๆ ของเดือนที่จะถึง

“นี่คุณ งานการไม่คิดทำ มานั่งขลุกกินเหล้าเหม็นคลุ้งไปทั่วห้อง คุณจะบ้าหรือเปล่า” เสียงหวานแหลมเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ และเอือมระอากับสภาพของสามีหลายวันมานี้ขลุกอยู่แต่ในห้องพร้อมขวดเหล้า

“เหม็นก็อย่าโผล่หน้าเข้ามาสิ”  

สามีผู้ไม่เคยมีปากมีเสียงเริ่มทนไม่ไหวย้อนใส่หน้า จนนางตาลุกวาวเพราะคิดไม่ถึง

         “นี่คุณ! คุณกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ” เธอเปล่งเสียงใส่สามีกลับ สีหน้าบูดบึ้ง

         “ผมแค่บอก” เสียงทุ้มแหบเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย

         “เถอะ! ไม่อยากให้โผล่หน้ามา ก็เอาเงินมาสิ ฉันจะได้ไปให้พ้นหน้าคุณ”

         เสียงทุ้มดังขึ้นในลำคอหนึ่งครั้ง “คุณจะเอาไปทำอะไรนักหนา” คนที่พอยังมีสติถามกลับ

         “คนก็ต้องกินต้องจ่าย จะให้อยู่เฉย ๆ นั่งหลังขดหลังแข็งอย่างคุณได้ไง แล้วไอ้นั่นคุณจะกินให้ได้อะไรขึ้นมา... เปลืองก็เปลือง” สายตาชี้ไปที่ขวดบรั่นดีอย่างดี

         “ก็คุณมันเป็นเสียอย่างนี้” น้ำเสียงตัดพ้อคล้ายตำหนิเอ่ยขึ้น

คนฟังหงุดหงิดใจ แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีอะไรทำให้เธอเลิกเสพติดการเที่ยว

“ชิ...!” คนโดนตำหนิไหวไหล่ไม่แคร์ พร้อมสายตาเฉี่ยวคมตวัดมองผู้เป็นสามีและตามมาด้วยคำพูดที่ค้างคาอยู่ในใจ

“แล้วที่คุณไปติดต่อกับทางโน่น เขาว่าไงบ้าง เขายอมมาร่วมหุ้นกับเราหรือเปล่า”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status