แชร์

เคี่ยวเข็น

แค่เพียงไม่กี่ประโยคที่ผ่านหู เลือดในกายสูบฉีดเร็วแรงเร่งให้หัวใจทำงานหนัก มือเรียวออกอาการสั่นน้อย ๆ พยายามยื่นมือเรียวผลักประตูที่อ้าอยู่น้อยนิด และพาตัวเองเข้าไป

“คุณหนู...” เสียงเบาหวิวเหมือนเรียกเตือนด้วยความห่วงใยของแม่นมนุ่น หญิงสาวที่ถูกเรียกไว้หันมาสบตา ฉายแววเจ็บปวดกับสิ่งที่ได้ยินมา แต่หากจ้องไปให้ลึกลงไปในแววตานั้น มันแฝงไปด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว

แสงเทียนพยักหน้าเข้าใจและรับรู้ความรู้สึกได้ หากแต่ทุกอย่างมันถึงจุดที่จะได้รับรู้และหาทางแก้ไขร่วมกัน เมื่อเธอเติบโตอยู่อย่างสุขสบายและเรียนจบมาด้วยเงินของบริษัท เธอก็ต้องรับรู้ถึงความสั่นคลอนของบริษัทเช่นกัน...

         ทันทีที่เห็นบุคคลเข้ามาใหม่ผู้สูงวัยทั้งสองก็หยุดการมีปากเสียง

“ยัยเทียน/ลูกเทียน” สองสามีเอ่ยเรียกพร้อมกัน

“ลูกมาเมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่โทรมาบอกพ่อ... แล้วนี่กลับมายังไง ทำไมไม่โทรมาก่อน พ่อจะได้ให้คนไปรับ...” คนเป็นพ่อเอ่ยถามลูกสาวเพียงคนเดียวเป็นชุด พร้อมกับลุกขึ้นเดินมาหา

“ไม่เป็นไรพ่อ หนูกลับมาแล้ว”

“อึม...พ่อดีใจที่ลูกกลับมา”

“คุณพ่อ คุณแม่...”

เสียงเรียกที่เปล่งออกมา มันร้าวในใจของคนที่ได้ยินยิ่งนัก จากนั้นเธอก็โผเข้าหาบุคคลทั้งสอง โอบกอดร่างอวบของคนเป็นแม่อย่างรักใคร่และซบอกอุ่น สูดกลิ่นกายที่เธอเคยคุ้นชินมาหลายปีด้วยความคิดถึง ก่อนจะผละออกไปซบอกหนาของคนเป็นพ่อ น้ำตาเม็ดใสไหลริน มือเรียวรีบปาดทิ้ง

“ทำไมเพิ่งกลับมา พ่อให้แม่ส่งเงินไปให้ตั้งนานแล้ว” คนเป็นพ่อเอ่ยถามเสียงสั่น พร้อมสีหน้าเคร่งขรึมมองลูกสาวคนเดียวด้วยความแปลกใจ และดีใจในคราเดียว แต่สำหรับคนเป็นพ่ออย่างเขา ลูกมาช้าดีกว่าลูกไม่กลับมาเสียเลย แต่อีกด้าน คนเป็นแม่กลับทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก มืออวบอูมดึงกลับฉับพลัน เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้

“....” คำถามของคนเป็นพ่อทำเอาแสงเทียนคิ้วขมวดมุ่นหันมองผู้เป็นแม่ที่หลบสายตาต่ำ แค่นี้เธอก็พอเดาได้ แม่เธอไม่เลิกนิสัยเดิม...

“ลูกกลับมาแล้วก็ดีใจแล้วล่ะ... แล้วลูกกลับมากับใครหรือเปล่า” เสียงแหลมของคนเป็นแม่เอ่ยขัดขึ้นและประโยคหลังหันมาถามลูกสาว และหยุดการซักถามไปได้

ตาคมวาววับมองคนเป็นแม่ตาปริบ ๆ จะให้ตอบตอนนี้ เธอไม่ไว้ใจคนเป็นแม่นัก...!

เรื่องที่ยังค้างคาเอ่ยไม่จบ คุณปิยะจึงเงียบไว้ แม้จะติดใจคำถามของคนเป็นภรรยาที่เอ่ยถามลูกสาวไป แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องจะไปจะมากับใคร เพราะมันเป็นเรื่องของหนุ่มสาว และมั่นใจว่าลูกสาวของตัวเองรักในความเป็นกุลสตรี จะปล่อยเนื้อปล่อยตัวคงเป็นไปไม่ได้

ป้านุ่นที่เดินนำคุณหนูของตนเองไปก่อนหน้านี้ รับกระเป๋าแล้วรีบกระวีกระวาดจัดเตรียมห้องนอน ด้วยใบหน้าปลื้มยินดีกับการกลับมาของคุณหนู ส่วนคนในครอบครัวก็ได้พูดคุยซักถามเรื่องราวกันต่อ โดยพ่อแม่ลูกโอบกอดกันจนหายชื่นใจ และซักถามเรื่องราวต่างๆ ของกันและกัน ไม่ได้วกกลับไปยังเรื่องที่เธอเพิ่งได้ยินผ่านหูให้สะเทือนใจอีก และดูเหมือนผู้ใหญ่ทั้งสองก็ไม่อยากคุยเรื่องนั้นต่อหน้าลูกสาวเช่นกัน

ทุกอย่างเหมือนจะเงียบลง ไม่มีใครเอ่ยอะไรกับเรื่องที่คุยกันจนเป็นประเด็นก่อนหน้า แต่ใครเลยจะรู้ว่าภายในที่เงียบนิ่งยากที่จะหยั่งถึงในจิตใจของแต่ละฝ่าย ต่างคนต่างอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง จุดมุ่งหมายของแต่ละคนยากจะคาดเดา!

“บอกแม่ได้ยังว่าลูกกลับมาได้ยังไง หรือกลับมากับใคร”

คำถามที่นางต้องรู้คำตอบให้ได้ จึงเป็นประเด็นหลัก หลังจากที่กินอาหารกลางวันเสร็จ

สิ้นคำถาม เสียงวางแก้วน้ำของคนเป็นพ่อดังขึ้น ทำให้คนเป็นภรรยาหันไปค้อนใส่

ปิยะไม่อยากรับรู้จึงลุกขึ้นเดินออกไป โดยมีสายตาละห้อยของลูกสาวมองตาม

“ว่าไง บอกแม่มา” เมื่อเห็นว่าสามีเดินหายหลังไปแล้วก็หันมาเร่งเอาคำตอบจากลูกสาวต่อ

คนถูกถามได้แต่นั่งกลืนน้ำลายลงคอ

“ตกลงลูกกลับมากับใคร หากไม่กลับมากับใคร แล้วลูกได้เงินที่ไหนกลับมา” นางถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อคนที่อยู่ขวางลำในการตั้งคำถามของนางเดินออกไปแล้ว

         “คะ...” หญิงสาวมองคนเป็นแม่อย่างแปลกใจ

“เอ่อ...” ลินดาทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะนางเองที่มีชนักติดตัว

“ไหน ๆ ลูกก็เรียนจบแล้ว หากมีฟงมีแฟนมันก็ไม่ผิดและไม่ได้น่าเกลียดอะไร ลูกก็เอามาให้พ่อกับแม่รู้จักบ้างสิ พ่อกับแม่ยินดี”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status