แชร์

แบกรับ

ผู้เป็นมารดาเลี่ยงจากเรื่องเงินค่าใช่จ่ายเดินทางกลับของลูกที่ตนเองจ่ายไปจนหมด ก็หันไปพูดอีกเรื่อง น้ำเสียงและสีหน้าไม่ปิดบัง ว่าตนเองยินดีแค่ไหนหากลูกสาวจะคบกับใครไม่ว่าเพศไหน ก็แค่อย่าให้ลูกของนางเสียเปรียบ ซึ่งก่อนหน้านั้นนางรู้ข่าวคราวเรื่องของลูกสาวจากเพื่อนที่ในวงสังคมไฮโซ ที่ไปเรียนด้วยกันอยู่บ้าง

แต่ถึงยังไง นางก็ไม่อาจสรุป ตามที่ได้ฟังจากปากคนอื่นได้ นอกเสียจากความจริงออกจากปากลูกสาวนางเอง ที่สำคัญผู้หญิงที่ลูกสาวกำลังคบอยู่ รวยอย่างที่ได้รับข่าวมาจริงหรือไม่...

“... ไม่ว่าคุณแม่จะไปรู้อะไรมา ตอนนี้เทียนไม่อยากคิดอะไรเรื่องอื่น คิดแค่ว่าจะทำยังไงให้บริษัทของคุณพ่ออยู่รอด”

เสียงหวานบอกไปตามความตั้งใจ

“ลูกได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ หนูจะลองหาวิธีดู” เธอเอ่ยน้ำเสียงหนักแน่น

เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงใครบางคน หัวใจก็พลันเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง และดูครั้งนี้จะหนักกว่าเก่า หากเทียบกับความจริงที่เพิ่งรับรู้มา

‘ใคร’ ที่เธอเผลอรับสาย เบอร์ไม่คุ้นชิน เสียงนุ่มหากฟังดูทรงพลังเหมือนมนตร์สะกด ให้นิ่งฟังจนจบประโยค และตอนนี้จะทำยังไงกับเธอคนนั้น ที่ไม่รู้เลยว่า เขาเป็นใครและต้องการอะไรกันแน่

ที่สำคัญ เบอร์ส่วนตัวของเธอไปอยู่ที่ผู้หญิงคนนั้นได้อย่างไร...แสงเทียนครุ่นคิด คิ้วเรียวผูกปมตั้งคำถามให้กับตัวเอง แต่ก็ต้องหลุดจากภวังค์เมื่อคำพูดของมารดาดังขึ้น

“แกจะทำอะไรได้ ขนาดพ่อของแกอยู่ในวงการธุรกิจมาหลายปี ยังไม่มีที่ไหนกล้าปล่อยเงินกู้ซักราย... มีทางเดียว หากแกจะช่วยจริง ๆ ก็หาแฟนรวย ๆ แล้วเอาเงินเค้ามาหมุน แค่นี้บริษัทพ่อแกก็ไม่ล้ม”

คำพูดแนะนำที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ พร้อมกับคำเรียกที่ฟังดูข่มให้คนที่คิดหาทางจนมุม

“คุณแม่...” แสงเทียนเอ่ยเรียกด้วยความตกใจ ก่อนที่ใบหน้างามจะตีหน้านิ่งและเอ่ยบอกออกไปว่า

“หากเค้ารู้ว่าทางครอบครัวเรากำลังมีปัญหา ใครที่ไหนเขาจะมาคบกับเทียน”

พูดไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้คนเป็นแม่เห็นดีเห็นงามกับเรื่องที่กำลังคิดอยู่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่คิดเช่นนั้น

ใบหน้าอวบที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ยิ้มรับกับความคิดของตัวเอง โดยไม่สนใจคำพูดและความคิดเห็นของคนเป็นลูก

“ไม่ลองไม่รู้ แล้วคนที่เทียนคบอยู่น่ะ เธอรวยไม่ใช่เหรอ เอามาให้แม่รู้จักบ้างสิ” นัยน์ตาฉายแววดีใจอย่างเห็นได้ชัด สำเนียงเรียกขานเปลี่ยนไปเพราะความหวังที่จะให้ลูกสาวใจอ่อน

“คุณแม่...”

เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวมองผู้เป็นมารดาด้วยความอ่อนใจ

“เหอะน่า แม่รู้หรอก ว่าแกคบกับลูกคนรวย” สุดท้ายนางก็เลือกพูดสิ่งที่ได้รับรู้มา หากทุกอย่างเป็นจริง หนทางที่จะยื้อบริษัทไว้ก็มีมาก

“มะ แม่...” ตากลมโตเบิกกว้าง ไม่คิดว่าคำพูดแบบนี้จะออกมาจากปากของคนเป็นแม่

“หรือไม่จริงบอกแม่มาหน่อยซิ ซื่อเอลิสอะไรนั่นใช่ไหม หากเธอชอบลูกแม่จริง แม่จัดการให้ลูกได้นะ แค่ลูกพามาให้แม่รู้จักก็พอ” น้ำเสียงตื่นเต้นมากกว่าการเค้นเอาความจริง จ้องมองลูกสาวอย่างมีความหวัง

แสงเทียนน้ำตาเอ่อรื่น ได้แต่ก้มหน้าเงียบ ป้านุ่นที่ยืนรอจัดเก็บโต๊ะเดินเลี่ยงออกไปออกไป เพื่อให้สองแม่ลูกได้คุยกันสะดวกขึ้น

“แม่ต้องเข้าใจผิดแน่ ๆ เลยค่ะ มัน...”

“ไม่ต้องเขิน แม่รู้ คนอื่น ๆ เขาก็รู้” นางพูดแทรก ไม่รอคำอธิบาย

แสงเทียนกลืนน้ำลายลงคอ อึดอัด โดยเธอไม่อยากให้ผู้เป็นแม่คิดไปไหนต่อไหน

“แม่คะ แม่ฟังเทียนนะคะ...” เธอเรียกใส่น้ำหนักเสียง

นางหยุดแล้วมองหน้าลูกสาวคนเดียวคิ้วขมวด “อะไร...”

“แม่ฟังเทียนนะคะ เทียนต้องพึ่งพาตัวเองก่อน คุณแม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ส่วนเรื่องอื่นแม่ต้องได้ยินจากปากเทียนเองเท่านั้นนะคะ”

ทุกประโยคประกาศชัด นางได้แต่อ้าปากค้าง ทั้งผิดหวังทั้งเสียหน้า สายตาที่มองลูกสาวเปลี่ยนไป

“อวดดี!” นางต่อว่าลูกสาว

“จะว่าเทียนอวดดีก็ได้นะคะ หากเรื่องที่เราจะทำไม่ไปเบียดเบียนใคร”

ลินดาแบะปากมองลูกสาวด้วยสายตาเหยียด ๆ ในคำพูดถือดีที่ไม่ฟังความคิดเห็นของตน

“แกมันก็ไม่ต่างอะไรกับพ่อ อวดดี เจอคนรวยแล้วไม่รีบตะครุบไว้ คนอื่นก็เอาไปกินกันพอดี พ่อแกก็เหมือนกัน ลองเด็กเหลือขอนั่นปฏิเสธ ก็ควรทำหน้าหนาไปขอร้องใหม่อีกครั้งก็ยังดี แต่นี่กลับมานั่งจมอยู่กับขวดเหล้า”

สุดท้ายนางก็วกกลับไปค่อนขอดคนอื่น ก่อนจะลุกขึ้นตีหน้ายักษ์เดินออกไป

สายตาเศร้าหมองมองแผ่นหลังของคนเป็นแม่ ก่อนจะคลายสีหน้านิ่งขึง ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ‘เด็กเหลือขอ ที่แม่พูดถึงใช่คุณหรือเปล่า...” แสงเทียนคิดแล้วก็รู้สึกเห็นใจคนที่แม่กล่าวถึงขึ้นมาจับใจ ‘ฉันจะไปพบคุณตามที่บอก...’ สายตามุ่งมั่นอยู่ในทีเอ่ยบอกกับตัวเองในใจ

หากผู้หญิงคนนั้นคือคนคนเดี๋ยวที่จะช่วยให้บริษัทอยู่รอด เธอก็พร้อมจะเดินไปหา ตามข้อเสนอที่ยังค้างคาอยู่...

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status