แชร์

กำกวม

“คุณก็น่าจะเข้าใจ หากเขาลดตัวลงมาร่วมหุ้นกับเรา ผมก็คงไม่ต้องมานั่งจมอยู่อย่างนี้” แววตาหม่นเจือจางเครือน้ำใส ผิดหวังเสียใจ ทนทุกข์ไร้หนทาง พยายามสื่อให้ภรรยาเห็นถึงความเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่กำลังเล่นงานครอบครัวตอนนี้เต็มทน ว่าตนต้องทนแค่ไหนที่ต้องบากหน้าเข้าไปหาหญิงสาวคราวลูกเพื่อขอให้มาพยุงบริษัทที่ใกล้จะล้มเต็มที ที่สำคัญคนที่คิดจะไปพึ่งใบบุญกลับเป็นลูกสาว ของคนที่พวกตนเคยกระทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย!

“ฮะ จริงหรือ...” ร่างอวบพองามผละไปหาสามีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวงาม เหมือนไม่อยากเชื่อสิ่งที่สามีเอ่ยผ่านหูไป “คุณแน่ใจว่าคุยกันรู้เรื่องแล้ว” สีหน้าและแววตาต้องการคำตอบยืนยันอีกครั้ง

“มันเป็นไปแล้ว และเราก็หาแหล่งเงินกู้ที่ไหนไม่ได้ด้วย”

น้ำเสียงบ่งบอกยืนยัน ว่าคนที่เอ่ยกำลังถอดใจกับสิ่งที่เป็นจริง ที่สำคัญ เขาไม่อยากให้ภรรยารู้ถึงข้อเสนอของอีกฝ่าย

“คุณว่าไงนะ!” ลินดาตกใจยิ่งกว่า เพราะสิ่งที่สามีเอ่ยออกมานั้นเท่ากับบริษัทไร้เงินทุนทุกทาง

“ก็อย่างที่เห็น ต่อไปก็เข้าใจไว้ด้วยว่าการเงินเราจะมันติดลบ จะใช้จ่ายอะไร ก็ให้ระวังหน่อย เพราะ...”

‘เรากำลังจะถูกฟ้องล้มละลายอีกไม่ช้า’ เขาหยุดกลืนน้ำลายลงคอที่มีอยู่น้อยนิด แล้วเลือกกระดกแก้วเหล้าสีอำพันลงคอรวดเดียว

ปิยะอยากพูดใส่ภรรยาให้เข้าใจถ่องแท้ ถึงฐานะทางการเงินของครอบครัวตอนนี้ แต่นั้นล่ะ คำพูดมันเหมือนสิ่งที่เขาเองไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นจริง

“ไม่ได้! คุณต้องหาวิธีอื่นสิ มันหน้าที่ของคุณนะ” ลินดาออกอาการทุรนทุรายนั่งไม่ติด

ปิยะหันขวับส่งสายตาเครียดกร้าว ใบหน้าตึงเขม็ง ก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง และเอ่ยขึ้น

“คุณจะหวังอะไรจากครอบครัวคนที่เราเคยหักหลัง” น้ำเสียงเหนื่อยล้า แค่คิดว่าทุกวันนี้ไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ เขาก็เป็นอันกินไม่ได้นอนไม่หลับ ครั้นยิ่งได้รู้ว่าหนทางที่เหลือ คือยอมบากหน้าเข้าไปหาสิ่งสุดท้ายตามคำแนะนำของเพื่อนร่วมธุรกิจ ซึ่งนั่นเหมือนเขากำลังออกศึกทำสงครามกับหัวใจและความรู้สึกของตัวเอง เขาทำไม่ได้!

“หมายความว่าไง… ‘คนที่เราเคยหักหลัง’”

“คุณไม่เคยรู้อะไร...” ปิยะเปรยอย่างคนสิ้นหวัง

“คุณก็พูดมาตรง ๆ สิ ฉันจะได้เข้าใจง่าย ๆ หน่อย” คนที่ไม่เคยต้องมานั่งจับใจความบอกอย่างหงุดหงิด

มุมปากยักเหยียดยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง มองภรรยา “ได้คุณฟังให้ดีนะ คนที่คุณบอกว่าจะช่วยเราได้ คือลูกสาวของธานิน!”

“หะ หา! คุ คุณว่าไงนะ” ดวงตานั้นถลนโตอย่างไม่เชื่อหู

“คุณฟังไม่ผิดหรอก เด็กนั่นโตพอ... ไม่สิ เด็กคนนั่นเก่งอย่างหาตัวจับยาก พร้อมที่จะกลับมาเหยียบพวกหัวงอกอย่างเราให้จมดินแล้ว...”

น้ำเสียงหมดอาลัยและสิ้นหวังยามเอ่ยถึงหญิงสาวรุ่นลูก

...สายตาเหยียดและคำพูดเหมือนเหล็กแหลม ยังวนเวียนอยู่ในหน่วยความจำ

“ผู้หญิงที่ทำตัวเก่งอย่างคุณเตรียมรับมือเถอะ” สายตาเย้ยหยันหันไปมองภรรยา ที่แม้จะทำผิดอะไรเขาก็ออกตัวปกป้องและปล่อยผ่านมาโดยตลอด หากผลที่ได้รับจากคู่ชีวิตคือการเหยียบซ้ำ แทนที่จะช่วยกันฉุดเพื่อลุกขึ้นมาสู้ไปด้วยกัน!

ลินดาถึงกับลำคอตีบตันหายใจไม่ทั่วท้อง เหมือนยืนอยู่บนที่สูงแล้วร่วงลงไปในหลุมลึกที่มองไปทางไหนก็มืดมิดไร้อากาศหายใจ...

“ทีนี่คุณเข้าใจผมหรือยัง” เมื่อเห็นว่าภรรยามีสีหน้ากังวลและร้อนทุกข์ขึ้นมาบ้าง คงเข้าใจสามีอย่างเขามากขึ้น แต่เปล่าเลยผ่านไปไม่ถึงห้านาทีสีหน้าของนางก็เชิดรั้นขึ้น

“ไม่รู้ล่ะ ยังไงคุณก็ต้องหาหนทางมาให้ได้ เพราะมันคือหน้าที่ของคุณ!”

นางกระชากเสียงด้วยความเอาแต่ใจจนเคยตัว โดยลืมไปว่า เคยทำอะไรไว้เมื่อหลายปีก่อน

“นี้คุณยังกล้าใช้ผมอีกเหรอ...”

“ก็มันหน้าที่ของคุณนี่” เธอเถียงคอขึ้นเอ็น

“ผมก็ทำหน้าที่ของผมมาตลอด แล้วคุณล่ะ ทำอะไรให้ครอบครัวบ้างหรือเปล่า”

น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยออกมา ทำเอาคนฟังหน้าชาดิก

“คุณ... คุณจะมาถามหาหน้าที่อะไรกับฉันตอนนี้ หน้าที่ของฉัน คุณก็รู้มาแต่ไหนแต่ไร” เสียงแหลมแผดดังด้วยความโมโห

“หึ...ดีแต่ผลาญเงิน” สามีตอกกลับไปอีกครั้ง ทั้งที่อีกคนพร้อมพ่นพิษเข้าใส่ แต่ครั้งนี้ปิยะไม่กลัว

“คุณ กรี๊ดด...” คำตอกกลับของสามีเหมือนการตบหน้านางดี ๆ นี่เอง

คนเป็นสามีได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา

กระเป๋าลากมาจนเกือบสุดทาง แค่ผ่านห้องทำงานของคนเป็นพ่อที่เธอวิ่งเข้าออกตั้งแต่เด็ก ๆ เท้าเรียวต้องหยุดชะงัก  โดยมีแม่บ้านคนเก่าแก่เดินตามมาก็หยุดชะงักตาม

คำพูดที่เล็ดลอดออกมาจากช่องประตู เหมือนไม่ได้จงใจเปิดอ้า แต่คงเป็นเพราะความรีบของคนใดคนหนึ่ง จึงไม่ทันได้สังเกต ทำให้คำพูดทุกอย่างเล็ดลอดออกมาอย่างชัดเจน   

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status