วันนี้เป็นวันที่เอวารินทร์นั่งฟังอาจารย์ผู้สอนแต่กลับไม่เข้าหูสักอย่าง ในหัวตอนนี้มีแต่ใบหน้าท่าทางของอัครวินท์ที่มันคอยหลอกหลอน แถมในหัวมีแต่ใบหน้าทะเล้นกะล่อนนั่นอีก หึ่ย! เธอสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้หันมาสนใจการเรียนการสอนตรงหน้าแทน แต่ยิ่งทำกลับยิ่งคิด แล้วยังจูบเมื่อเช้านั่นอีก นายนั่นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย เธอคิด!
"แกเป็นอะไรเอวา ทำไมวันนี้ใจลอยแปลกๆ"เกวรีเอ่ยทักเพื่อนรักขึ้นหลังจากที่เลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อย "เปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าอยู่ๆ ชีวิตของฉันต้องไม่เป็นสุขอีกต่อไป ฉันจะทำยังไงดี" "แล้วทำไมต้องไม่เป็นสุข?" "ก็ เอ่อ...ว่าที่สามีในอนาคตของฉันน่ะสิ ฉันว่าเขาต้องแกล้งปั่นหัวฉันแน่ๆ" "แกก็ปั่นหัวคืนไง อย่าไปยอม แกมันเลือดนักสู้อยู่แล้ว ปกติก็ไม่ยอมคนอยู่แล้ว เอาให้หนักเลยแก เชื่อฉัน" "เล่นมาเล่นกลับไปเลยดีม้ะ" "ใช่ จัดหนักๆ ไปเลยเพื่อน"ผ่านไปไม่นานมากนัก เฟอร์รารี่สีแดงก็แล่นตรงเข้ามาจอดอยู่ข้างหน้าร่างบอบบางอย่างเอวารินทร์และเพื่อนที่กำลังอ้าปากค้างกับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ราคาแพงหูฉีก
"ฉันไปนะ"เอวารินทร์หันมาบอกเพื่อนรักที่ยังตะลึงอยู่ไม่หาย "ดะ...เดี๋ยว...เขามารับแกหรอเอวา" "อืม คำสั่งของแม่เขาอ่า"พูดจบเธอก็เปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งทันที "หิว!"อัครวินท์เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ "บอกฉันทำไม?" "ก็ฉันไม่มีตังค์ แม่ยึด เพราะฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบ" "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน"เธอถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจว่าต้องรับผิดชอบทำไม มันไม่ใช่หน้าที่ที่เธอต้องมารับผิดชอบเลย "ก็อีกหน่อยเธอก็ต้องมาเป็นเมียฉัน" "ที่นายโดนยึดเงินก็เพราะทำตัวเอง ใช้เงินเปลืองเอง" "..."นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันยังบ่นขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดสภาพถ้าเป็นเมียจริงๆ ยัยนี่คงบ่นเขาจนหูชาแน่ๆ เขาคิด "จอดร้านข้างหน้าและกัน มารับแล้วเป็นภาระฉันทีหลังไม่ต้องมานะ" "แล้วเธอจะบ่นทำไมเนี้ย แค่เลี้ยงข้าวเอง" "..."ร่างบางไม่สนใจคำพูดของอัครวินท์ เปิดประตูลงไปนั่งร้านไก่ย่างส้มตำทันที ถึงเวลาเอาคืนแล้วเอวา เอวารินทร์กล่าวในใจ "ร้านนี้เนี้ยนะ นั่งเข้าไปได้ไง"ร่างสูงมองไปรอบๆ ร้าน ที่มีโต๊ะนั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ ตั้งแต่เล็กจนโตมา ไม่เคยมานั่งร้านข้างทางแบบนี้เลย กินอาหารภัตตาคารหรู5ดาวตลอด ถ้าร้านข้าวข้างทางก็เคยบ้างบางครั้งแต่ก็ไม่เคยมานั่งกินที่ร้านแบบนี้ "ถ้าหิวก็อย่าบ่น นั่งลง มันกินได้ ไม่ตาย!"เอวารินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "เธอแกล้งฉันป้ะเนี้ย?" "ฉันจะแกล้งนายไปทำไม ฉันอยากกิน" "หนูเอวา วันนี้รับอะไรดีลูก"คุณป้าเจ้าของร้านเอ่ยถามพร้อมกับเตรียมจดเมนูด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต้อนรับเธออย่างดี "ป้าดา วันนี้เอวาเอาน้ำตกหมู ตำไทยไข่เค็ม ไก่ย่าง ตับย่าง...อืม...ต้มแซ่บกระดูกอ่อนค่ะ...แล้วก็ข้าวเหนียว2ค่ะป้า"ป้าดาพยักหน้าพร้อมกับเดินไปทำตามเมนู "สั่งเยอะขนาดนี้กินทั้งหมู่บ้านหรอ?" "พูดมาก ไม่กินก็ไปรอที่รถ"เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก จากนั้นก็ลุกไปหยิบแก้ว เปิดถังแล้วตักน้ำแข็งใส่แก้ว พร้อมกับหันไปหยิบหลอดมาเสียบไว้แล้วก็ไม่ลืมที่จะหยิบเป๊ปซี่ขวดใหญ่มาอีก1ขวด ซ่าส์! เสียงน้ำอัดลมเย็นๆ เมื่อเปิดฝาออก แค่ได้กลิ่นก็สดชื่นแล้ว เอวารินทร์รินน้ำอัดลมสีดำลงแก้วแล้วส่งให้หนุ่มหล่อตรงหน้าที่เอาแต่จับจ้องทุกอิริยาบถของเธออย่างกับถูกสะกด ร่างบางเมื่อส่งแก้วให้เขาแล้วก็หันมาตั้งใจรินให้ตัวเองก่อนจะก้มลงดูดพร้อมกับทำหน้าสดชื่น "อ๊าส์! สดชื่น!" "ขนาดนั้น?"อัครวินท์เลิกคิ้วมองเธอพร้อมกับเอ่ยถาม "ลอง!"ว่าแล้วเธอก็จับแก้วขึ้นไปจ่อที่ริมฝีปากหยักสีแดงระเรื่อของเขา อัครวินท์ก้มลงดูดตามที่เธอบอก "อ๊าส์ สดชื่นจริงด้วย"เมื่อความซู่ซ่าแล่นลงไปบาดลำคอพร้อมกับรสชาติหวานแถมบวกกับความเย็นทำให้สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งอากาศร้อนๆ แบบนี้ดูดรวดเดียวมันกระปี้กระเป่าอย่าบอกใคร "เป็นไง?"เอวารินทร์ถาม "ก็...ดี" "อร่อยก็บอกอร่อยจะฟอร์มทำไม ชีวิตต้องซับซ้อนขนาดนั้นเลย" "เธอนี่เป็นคุณหนูจอมปลอมป้ะเนี้ย"เขาถามอย่างไม่เข้าใจ ฐานะบ้านเธอก็รวยเกือบเทียบกับเขาแต่ทำตัวติดดิน ไม่ติดหรูเลยสักนิด ต่างจากแฟนของเขาไม่เคยไปนั่งกินอะไรข้างทาง จะกินก็ต้องจองร้านอาหาร ต้องวิวหลักล้าน หรือไม่ก็กินอาหารบนห้าง "รวยจำเป็นต้องกินของแพงด้วยหรอ" "ก็ปกติไหม?" "มาแล้วจ่ะหนูเอวา"ป้าดาเดินมาพร้อมอาหารที่สั่งไปทั้งหมด ก่อนจะยกจานที่อยู่ในถาดจัดวางไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ "ขอบคุณค่ะป้าดา เอวาจะกินให้หมดเลยค่ะ"เธอส่งยิ้มกว้างให้ป้าดา "กินเยอะๆ นะลูก วันนี้ป้าทำรสชาติที่หนูชอบเลยนะ"ป้าดากล่าวบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้สาวร่างบางหน้าหวานเฉี่ยวอย่างเอวาริทร์ ก่อนที่จะเดินไปรับออเดอร์โต๊ะอื่น "น้ำลายไหลแล้ว"เธอกล่าวเมื่อกลิ่นมะนาว กลิ่นหอมจ้าวคั่ว เครื่องเทศปะทะเข้าจมูกทำเอาน้ำลายสอกันเลยทีเดียว "..." "นั่งมองทำไมไม่กินล่ะ ไหนว่าหิว" "ก็...เธอกินน่ากลัวอ่า เหมือนปอปลงฉันเลยไม่กล้าแย่ง"พูดจบเขาก็ใช้ส้อมจิ้มไก่ย่างฉ่ำๆ มากัด พร้อมกับใช้ส้อมจิ้มข้าวเหนียวที่กว่าจะแคะออกมาได้ก็ต้องใช้ความพยายาม "ใช้มือ!" "ไม่เอา เดี๋ยวมือเปื้อน" "เปื้อนก็ล้าง มันยากตรงไหน ใช้มือจกข้าวเหนียว จิ้มๆ ฉีกไก่ เอาเข้าปาก แค่นี้!"เธอบรรยายแต่ก็ไม่วายสาธิตให้เขาดูเป็นตัวอย่าง "อื้ม..." "เป็นไง อร่อยล่ะสิ อร่อยก็กินเยอะๆ แล้วก็อย่าทำตัวให้เป็นภาระฉันอีก" "นี่ แค่เลี้ยงข้าวมื้อเดียว มันเป็นบุญคุณอะไรขนาดนั้น" "งั้นก็ไม่ต้องกิน!"ไม่พูดเปล่าแต่มือเอื้อมจะไปหยิบกระติ๊บข้าวเหนียวคืน แต่ก็ถูกมือหนานั้นยกขึ้นหนีซะก่อน "อื้ม...ก็ได้"จากนั้นทั้งสองคนก็นั่งกินกันจนหมด ราวกับคนที่หิวโหยมาสามวัน อัครวินท์ถูกใจรสชาติอาหารที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง ไม่เคยได้สัมผัส แต่เขาก็ชอบและประทับใจกับรสชาติอาหาร แถมยังได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เธอไม่คิดว่าคนอย่างเอวารินทร์จะมีให้เห็น เธอดูเป็นตัวเอง ไม่ประดิษฐ์ ดูเป็นธรรมชาติหน้ามอง ไม่รู้ว่าทำไมแต่การกระทำของเธอวันนี้มันทำให้เขารู้สึกว่าอยากรู้จักเธอมากกว่านี้ "เท่าไหร่คะป้าดา" "350จ้า" "นี่ค่ะป้า 350พอดีค่ะ"จากนั้นก็เดินนำร่างสูงไปที่รถ "ทำไมถูกจัง ไม่มีติ๊บให้ป้าเขาเลยหรอ?"เขาเอ่ยถามเพราะปกติเขากินอาหารทีหลักหมื่นไม่เคยกินหลักร้อยสักครั้ง แถมนี่ตั้งหลายอย่างราคาแค่นี้เองหรือ "มีเงินมากนักหรอ เขาขายของเขาก็บวกกำไรของเขาแล้ว อย่าให้ติ๊บคนอื่นจนเคยตัว เงินไม่ใช่กระดาษ ใช้ทุกบาทให้มีคุณค่า" "แต่มันเป็นน้ำใจ" "น้ำใจที่เอาไปให้คนอื่นใช้เป็นร้อยล้านแบบนายน่ะหรอ" "ไม่ใช่เรื่องของเธอ" "การใช้เงินของฉันก็ไม่ใช่เรื่องของนายเหมือนกัน" "เมื่อไหร่จะเลิกเรียกนายสักที ฉันเป็นพี่เธอตั้ง5-6ปีนะ" "ไม่น่าเคารพ ไม่อยากเรียก อ้อฉันจะเรียกต่อหน้าแม่นายเท่านั้น และไม่ต้องมาบังคับฉันเพราะฉันไม่ใช่ลูกน้องนาย เข้าใจ๊?"เธอกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถโดยไม่สนใจเขา "เธอนี่มัน...หึ่ย"ถึงจะหงุดหงิดที่เธอไม่ฟังเขาเลย แต่ก็เดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วขับออกไปทั้งอย่างนั่น ภายในรถที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำจนร่างบางเริ่มรู้สึกหนาว จึงได้แต่กอดอกตัวเองแม้จะช่วยได้เพียงนิดแต่ก็ยังดีกว่าเดิม พรึ่บ! แต่อยู่อัครวินท์ก็โยนเสื้อสูทมาคลุมร่างเธอไว้ เธอจึงหันไปมองข้างกายที่เอาแต่จับจ้องถนนทำเป็นไม่สนใจเธอ "อะไร?" "ก็เห็นว่าหนาว ใช้ห่มไปก่อน" "ขอบคุณนะ" "หูฝาดหรือเปล่าเนี่ย เธอเนี้ยนะพูดขอบคุณ"เขากล่าวอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเอง ปกติเอาแต่รบกับเขาปากคมอย่างกับกรรไกร อยู่ๆ มีมารยาทกับเขาด้วย "นี่นาย! ฉันมีมารยาทพอ"พูดจบก็กระชับเสื้อขึ้นมาห่มไว้แล้วหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างและแล้วความเงียบก็เข้ามาปกคลุม จนในเวลาต่อมาเธอก็ผล็อยหลับไปเมื่อขับรถมาจนถึงคอนโดแต่ร่างบางข้างๆก็ยังไม่ตื่น เขาจึงสะกิดเพื่อปลุกเธอ แต่เมื่อหันไปมอง ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก สายตาคมๆนั้นจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานเฉี่ยว ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูไร้ที่ติไปจนหมด ตาพริ้มที่หลับตาลงนี้มีขนตาแพงอนอย่างเป็นธรรมชาติ คิ้วเรียวเส้นสวย จมูกโด่งเชิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าของร่างเป็นคนหัวรั้น ปากบางน่าจูบสีแดงระเรื่อ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนมากๆ ขัดกับวันที่เธอไปเที่ยวคลับ แต่เขาดูเหมือนจะชอบเวลาเธอไร้เครื่องสำอางค์มากกว่า เพราะมันดูสวยแบบสดใสดี"เวลาสงบปากสงบคำคงจะน่ารักที่สุดแล้วละมั้ง?"เขากล่าวออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าร่างบางข้างๆเขานั้นจะตื่น"ถ้าไม่ติดที่มีแฟน วันนั้นฉันคงจัดเธอไปแล้ว"ใครมันจะอดใจไหว การหักห้ามใจตัวเองในวันนั้นมันต้องใช้ความพยายามแค่ไหน ต้องเดินเข้าห้องน้ำกี่ครั้งเพื่อปลดปล่อยความทรมานนั้นโดยที่คนร่างบางนั้นไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆเลย กว่าจะข่มตาให้หลับลงไปได้ในวันนั้นก็เกือบสว่างผ่านไปนานเกือบชม.ร่างบางก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่หันมาอีกทีก็เห็นว่าร่างหนาข้างๆนั้นก็หลับเช่นกัน เธอมองออกไปด้านนอกก็พบว่าถึงคอนโดของเธอแล้ว แล้วทำไมเขาไม่ปลุกเธอล่ะเนี่ย บ้าจริง!
น้ำใสๆไหลอาบแก้มไม่ใช่เสียใจที่เขาพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป แต่เขาตั้งใจที่จะย่ำยีสิ่งที่เธอหวงแหนที่สุดต่างหาก เขาไม่ให้เกียรติเธอเลย แถมยังเห็นเป็นเรื่องล้อเล่นและหลอกเธอ เขามันคนหลอกลวง ไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด ได้!!ในเมื่อไม่ให้เกียรติกันต่อไปเธอก็จะไม่ให้เกียรติเขาเช่นกัน เขาพรากสิ่งที่หวงเเหนจากเธอไป ต่อไปถึงตาเธอบ้าง และไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมเป็นผู้หญิงที่มีหลายผัวเด็ดขาด ในเมื่อเขาได้เธอแล้วเขาก็จะต้องเป็นของเธอด้วยเช่นกัน ไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหน เธอจะจัดการไปให้หมด! ถึงตาที่เธอจะต้องพรากของหวงของเขาบ้างหมับ!หลังจากที่ร่างสูงชำระล้างตัวเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นมานอนข้างๆเธอพร้อมกับโอบรั้งเอวร่างบางที่นอนหันหลังให้เขามากอดเอาไว้พร้อมกับซุกหน้าหล่อเหลานั้นไปที่ซอกคอหอมๆของเธอก่อนที่จะหลับไปเช้าวันต่อมา...ร่างหนาตื่นขึ้นมาพร้อมกับคลำหาร่างของเอวารินทร์ที่กอดไว้ตลอดคืน แต่หากมีเพียงความว่างเปล่า เธอหายไปไหนแล้ว? จากนั้นก็รีบลืมตาขึ้นมาแล้วลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง"เอวา...เอวา!..."ไร้ซึ้งเสียงตอบรับใดๆ เขาจึงรีบลุกจากเตียงแล้วกำชับผ้าขนหนูมาพันรอบเอวเอาไว้ ก่อนที่จะเดินหาเธอ แต่ก็ไม่อยู่
"ออกไปเที่ยวดีกว่า!"พูดจบเธอก็ลุกขึ้นแต่งตัว แล้วทักหาเพื่อนในกลุ่มอีก2คนทันที@ไอริสตาร์คลับหญิงสาวร่างบางในชุดเดรสสั้นสีดำคล้องคอโชว์แผ่นหลังขาวเนียน ผมดัดลอนสยายถึงกลางหลัง ใบหน้าสวยเฉี่ยวปนเซ็กซี่ถูกสายตาหลายคู่จับจ้องอย่างกับจะกลืนกิน สายตาเป็นประกายมองหาเพื่อนๆที่นัดกันมาดื่มในค่ำคืนนี้"นึกยังไงออกมาแฮงค์เอาท์"จีโน่เอ่ยถามเพื่อนสาว"ฉันเหงา คิดถึงพวกแก"เธอแก้ตัวทั้งที่ความจริงแค่เครียดแต่ไม่อยากเอ่ยบอกออกไปตรงๆ"ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเรียน ฉันก็เบื่อเหมือนกัน"เกวรีกล่าว"เออ ใช่...ออกมาดื่มกันบ้าง วันนี้จะเมาอีกไหมเอวา"ครั้งนี้จีโน่เสริม"ขอเมา ได้ไหมเพื่อน"เธอกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆ"เค...เดี๋ยวฉันดูแลเอง"จีโน่ตอบ"สรุปเมากันหมด นอนร้านไม่เอานะแก"เกวรีแซว"ชนดีกว่าไม่พูดเยอะ"ว่าแล้วเอวารินทร์ก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับชนแก้วเพื่อน ก่อนที่จะกระดกจนหมดแก้ว โดยมีสายตาของเพื่อนจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียวอย่างรู้ชะตากรรมอีกด้าน..."ไหนว่าวันนี้แฟนมึงว่าง ปกติอยู่กับยัยนั่นไม่ใช่หรอทำไมถึงออกมา"ปราณเอ่ยถามเพื่อนที่เอาแต่ทำหน้าเซ็งๆ"เออจริงทำไมวันนี้มึงออกมา"คิมหันต์เองก็สงสัยเพราะ
เมื่อมาถึงคอนโดของเอวารินทร์เธอก็เข้าไปอาบน้ำทันที กลิ่นกายหอมๆ ยิ่งอาบน้ำใหม่ๆ ยิ่งทำให้เขาคิดเตลิดไปไกล น้ำตาลใกล้มดแบบนี้จะหักห้ามใจอย่างไรกัน นี่เขาเอาตัวเองมาทรมานงั้นหรอ"พรุ่งนี้วันเกิดพ่อฉัน แม่บอกให้ไปก่อนเที่ยง เดี๋ยวจะพาไปซื้อชุดสวยๆ"อยู่ๆ ร่างสูงก็เอ่ยบอกเธอที่กำลังนั่งเช็ดผมอยู่ที่หน้ากระจก และทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินเขา"...""ได้ยินไหมเนี้ยเอวา""อืม...ได้ยินแล้ว"เธอตอบเสียงนิ่ง"จะดื่มต่อไหม?""ไม่ ฉันอาบน้ำแปลงฟันแล้ว""งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ"จากนั้นเขาก็เดินมาคว้าผ้าเช็ดตัวของเธอที่กำลังเช็ดผมอยู่อย่างถือวิสาสะจนเธอถลึงตาใส่เขาด้วยความไม่พอใจ"ไร้มารยาท!"เมื่อร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอก็สบถออกมาอย่างไม่พอใจ เห้อ นี่ต้องทนเขาไปถึงเมื่อไหร่กัน นิสัยเสียจริงๆ เลย ได้! หนามยอกเอาหนามบ่งนายต้องการอะไรฉันจะทำตรงข้ามให้หมดทุกทางเลยคอยดู จากนั้นเธอก็ยกยิ้มน้อยๆ เมื่อความคิดพิเลนๆ แล่นเข้ามาในหัว คิดไปไกลส่าตัวเองกำลังแก้เผ็ดนายนั่นอยู่ หึ!ฟ่อด!"นี่นาย!"เมื่อร่างสูงอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็เหลือบไปเห็นคนตัวเล็กนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนกำลังคิดอะไรสนุกๆ อยู่ก็เ
วันต่อมา...@ห้างสรรพสินค้าxxxหนุ่มหล่อราวเทพบรรดาลปั้นแต่งย่างกายเข้ามาในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านใจกลางเมืองโดยข้างๆ มีสาวสวยน่าตาสวยหวานเฉี่ยวยิ่งมองยิ่งสะกดทุกๆ สายตาให้มองดั่งต้องมนต์ ทั้งคู่ช่างดูเหมาะสมกันมาก ต้องเป็นลูกรักพระเจ้าแน่ๆ ถึงได้หน้าตาดีเกินหน้าเกินตาคนอื่นๆ ในที่แห่งนี้"ขอโทษนะคะ ชุดนี้มีไซส์เอ็มไหมคะ"เสียงหวานใสเอ่ยถามพนักงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส"มีค่ะรอสักครู่นะคะ"จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปหาสินค้า ส่วนเอวารินทร์ก็เดินเลือกชุดอื่นๆ ไปพรางๆ เพื่อรอพนักงานสาว"นี่ นายจะเดินตามฉันไปถึงเมื่อไหร่ ทำไมไม่ไปเลือกของของนาย ต่างคนต่างเลือกแล้วค่อยไปเจอกันที่รถ"คำพูดของเธอทำเอาคนร่างสูงหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจ ผู้หญิงนับร้อยนับพันต้องการที่จะให้เขาอยู่ข้างกายมากมาย จะมีก็แต่เธอที่เอาแต่ไล่เขา"ชุดนี้สวยนะเหมาะกับเธอดี"อัครวินท์ไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูด แต่กลับทำเป็นเฉไฉหยิบชุดเดรสสีหวานๆ รัดรูปยาวไปถึงตาตุ่มมายื่นให้เธอแทน"ฉันไม่ได้ไปบวชชีนะ ยาวขนาดนี้ใครจะใส่"เธอตอบสะบัดปลายเสียงพร้อมกับหยิบชุดนั้นไปแขวนไว้ที่เดิม"ก็หัดใส่ยาวๆ บ้างสิ ชอบนักหรือไงใส่น้อยชิ้นให้พวกโ
หลังจากที่รับประทานอาหารกันจนเสร็จ ทั้งคู่ก็กลับมาที่คอนโดและอาบน้ำแต่งตัว อัครวินท์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก่อน ชุดของเขาคือเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยสูทสีครีมเข้าคู่กับกางเกงสแลกซ์สีเดียวกัน เขานั่งเลื่อนจอสี่เหลี่ยมรอเอวารินทร์อยู่บนโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่นไปพรางๆ จากนั้นไม่นานเธอก็เดินออกมาด้วยชุดปาดไหล่สีครีมวิบวับความยาวแค่หน้าขา ผมสีน้ำตาลอ่อนดัดลอนสวย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ราคาแพงที่แต่งเติมไม่จัดมาก ลำคอระหงสวมสร้อยทองคำขาวที่มีจี้รูปหัวใจสองดวงคล้องกัน ล้อมรอบด้วยเพชรน้ำงามหายาก เมื่อเอวารินทร์เปิดประตูออกมา อัครวินท์ก็ระสายตาจากโทรศัพท์ขึ้นมามองเธอ สายตาคมกริบกวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่เธอสวยราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายก็ไม่ปาน สวยจนเขาระสายตาจากเธอไม่ได้ เหมือนถูกมนต์สะกดเอาไว้ให้มองอยู่อย่างนั้นเป็นนาที จนร่างบางที่ถูกจ้องมอง ต้องกระแอมออกมาแก้เขิน "อะแฮ่ม!"สติของร่างสูงกลับมาแต่เมื่อมองดูอีกทีก็ต้องขมวดคิ้วทันที เพราะนอกจากจะโชว์ไหล่ หน้าอกอวบอิ่มนั้นแล้ว มันยังสั้นจนเวลาก้มมองเห็นถึงไหนต่อไหน ไม่รู้ว่าจะใส่สั้นอะไรนักหนา หน้าหงุดหงิดชะมัด! "นี่เธอจะใส่สั้นไปไหน ไม่เห
เมื่อเข้ามาในภายห้องรับรอง อัครวินท์ก็เดินตรงไปนั่งโซฟาตัวยาวอย่างสบายใจ พร้อมกับหยิบรีโมทมากดเปิดดูสิ่งที่ตนสนใจ ภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นมีโซฟาตัวยาวและโต๊ะญี่ปุ่นวางอยู่กลางห้องครบเซต ตู้เย็น แอร์ เครื่องชงกาแฟ ทีวี และห้องน้ำขนาดพอดีกับห้อง"มานั่งนี่!"อัครวินท์ตบโซฟาเบาๆ"..."ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินไปนั่งแต่โดยดี ระหว่างรอให้อาหารมาเสริฟก็เลื่อนดูจอสี่เหลี่ยมเครื่องหรูไปพรางๆ~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~'ปาริฉัตร'เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงดังขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าของเครื่องจะไม่กดรับเสียที จนร่างบางต้องหันมามอง"รับสักทีสิ จะปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้นหรอ ถ้าไม่รับก็ตัดสายไปรำคาญ!"เธอกล่าวด้วยความหงุดหงิดที่เขาไม่ยอมกดรับเสียที"รับให้หน่อยสิ!""ฉันไม่ได้เสียมายาทเหมือนนายนะ ที่ชอบถือวิสาสะหยิบนู้นหยิบนี่ตามอำเภอใจตัวเองน่ะ""รับให้หน่อย"เขาไม่เถียงเธอที่บ่นใส่เขา แต่กลับบอกอีกรอบเพื่อให้สาวน้อยร่างบางนั้นรับให้"แม่ดาราคนนั้นนี่!"เธอเลิกคิ้วถามเมื่อหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา"อืม..."แต่แล้วเธอก็กดรับสาย และเส
เมื่องานเลี้ยงจบลงแขกผู้มีเกียรติทุกคนในงานก็ต่างแยกย้ายกันกลับ เหลือก็แต่ครอบครัวของเอวารินทร์และอัครวินท์ที่ยังคงอยู่เป็นกลุ่มสุดท้าย"สุขสันต์วันเกิดอีกทีนะคะคุณพ่อ"เอวารินทร์กล่าว"นี่ก็ดึกมากแล้ว พาน้องกลับบ้านเลยก็ได้ซัน""เอ่อ...วันนี้เอวาจะนอนคอนโดครับพ่อ พรุ่งนี้มีเรียนของอยู่คอนโด ถ้ากลับบ้านเดี๋ยวพรุ่งนี้จะวกไปวกมา""อ้อ งั้นหรอ งั้นก็ไปส่งน้องที่คอนโด แล้วอย่ารังแกน้อง ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่"อัครเดชคาดโทษเจ้าลูกชายตัวแสบ"อย่าดื้อกับพี่เขานะเราน่ะ"คุณหญิงพัชรินทร์ปรามลูกสาว"แม่~"ทำไมทุกคนต้องไว้ใจให้นายนี่อยู่กับเธอด้วย เจ้าเล่ห์ กะล่อน แถมยังหื่นกามอีก"ฝากน้องด้วยนะซัน ถ้าน้องดื้อจัดการได้เลยนะ แม่อนุญาต""แม่!"นี่ไง แม่นี่ตัวดีเลย เปิดทางให้คนแบบนี้มารังแกลูกสาวของตัวเองได้ยังไงกันนะ"ครับแม่ ผมจะดูแลน้องเป็นอย่างดีเลยครับ แม่ไม่ต้องห่วง ผมจะไปรับไปส่ง รับรองครับ"อัครวินท์ตอบพัชรินทร์อย่างสุภาพ แหมทำตัวเป็นลูกเขยที่ดี เอาหน้าชัดๆ อยากให้เห็นเบื้องหลังความร้ายกาจของอีตานี่เสียจริงๆ เธอกล่าวในใจจากนั้นทั้งคู่ก็ออกมาจากงานเลี้ยง ภายในรถที่เงียบอีกแล้ว มันชวนอึดอัดทุกครั้
"พักกลางวันแล้วนะคะ พี่ซันไม่หิวข้าวหรอคะ?"เอวาเอ่ยถามสามีที่เอาแต่จดจ่ออยู่กับหน้าจอโน๊ตบุ๊ค ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"เอวากินก่อนเลยครับ พี่ยังไม่หิว"ซันตอบพร้อมกับหันมายิ้มให้ร่างบางเพียงนิดก่อนจะหันไปทำงานต่อ"เวลาทำงานจริงจังเหมือนกันนะคะเนี้ย...เหนื่อยไหมคะ?"เสียงหวานๆ ถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงบนตักแกร่งของร่างสูงแล้วใช้แขนเรียวเล็กทั้งสองข้างโอบรอบลำคอของเขาร่างสูงละสายตาจากจอคอมแล้วใช้มือแกร่งโอบรอบเอวของเธอเอาไว้หลวมๆ จากนั้นก็ก้มลงไปซุกไซร้อกอวบของเอวาพร้อมกับขบมันเบาๆ"อื้ม...""หอมจัง ขอซุกแบบนี้ทั้งวันเลยได้ไหม?"ร่างสูงกล่าวเขาไม่ได้อยากจะทำเริ่องอย่างว่สกับเธอ แต่ต้องการสูดกลิ่นกายหอมๆ เพื่อที่จะได้มีแรงทำงานก็เท่านั้น ถ้าห่างกันเขาก็มักจะมาอาการคลื่นไส้และอาเจียร"ขนาดนั้นเลยหรอคะ?"คนตัวเล็กเลิกคิ้วมอง ช่วงนี้สามีดูจะติดกลิ่นเธอเอามากๆก๊อก ก๊อก ก๊อก!!"คุณคิมหันต์มาขอพบค่ะ"เลขาคนใหม่ของซันเอ่ยขึ้น"เข้ามา"คิมหันต์มองหน้าเอวาเล็กน้อย...ก่อนจะส่งซิกให้เพื่อนของเขาอย่างรู้กัน"เอวาครับ...เดี๋ยวเอวาช่วยไปซื้อทุเรียนให้พี่หน่อยได้ไหมครับ...พี่อยากกิน"ซันกล่าวด้วยเสียงออดอ้อนภรรย
"ยังไม่อิ่มอีกหรอครับ...พี่เห็นเอวานั่งกินมาตั้งนานแล้วนะ...ไปนอนได้แล้ว"ร่างสูงเอ่ยบอกภรรยาสาวสวยที่หยิบขนมกรุบกรอบเข้าปากไม่หยุด ตาก็มองดูซีรีย์ในโน๊ตบุ๊คตาแทบไม่กระพริบ"ขออีกตอนนึงนะคะ...เดี๋ยวจะไปนอนแล้ว"เสียงหวานเอ่ยต่อรอง"ทำไมวันนี้กินเยอะจังเลยครับ ประจำเดือนจะมาหรอ"ร่างสูงเอ่ยถามด้วยความสงสัย พร้อมกับกระชับกอดให้น่างบางเข้ามาแนบอกแกร่งของเขาให้แน่นขึ้น"น่าจะใช่นะคะ..."เธอตอบแบบไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะกำลังอินกับซีรีย์อยู่ "หืมมันน่าตบนังตัวร้ายนี่จริงๆ เลย...ไปท้องกับคนอื่นมาแล้ววางยาพระเอกของเอวา...พระเอกก็โง่จริงๆ แค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือไงว่ายัยนี่จะจับ...เฮ้อ!!"เอวาออกรสออกชาติ แต่เนื้อเรื่องนั้นกลับทำให้เขาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก็อยากภาวนาให้เป็นเหมือนในหนังที่เธอดูเหมือนกัน แต่เพราะมันยังพิสูจน์ไม่ได้นี่สิ เลยทำให้เขาต้องมานั่งเครียดแบบนี้"เอวาครับ...ถ้าพี่ทำคนอื่นท้องเหมือนในหนังเรื่องนี้...เอวาจะทำยังไงหรอ"ซันตัดสินใจถามร่างบางดเวยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงโดยใช้หนังที่เธอดูเป็นเรื่องสมมุติ"ก็เลิกสิคะถามได้...ใครจะไปทนอยู่กับผู้ชายมักมากได้ล่ะ...คบอีกคนแต่ทำคนอื่นท้องใครจะไปอยู
หลังจากที่ร่างสูงออกมาจากคอนโดของอดีตแฟนสาว เขาก็ขับมุ่งตรงไปยังคลับดังที่นัดกับเพื่อนๆ ของเขาไว้ก่อนหน้านี้ ใบหน้าหล่อเหลาสลัดคราบความขี้เล่นออกไปหลงเหลือไว้แค่ใบหน้าที่เคร่งเครียดปนกังวล จนเพื่อนทั้งสองเห็นได้ชัดจนเพื่อนทั้งสองเห็นได้ชัดเจน"เครียดจริงสินะ"เสียงเรียบนิ่งของคิมหันต์เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบนั้น"อาการมันเป็นยังไงบอกหมอมาสิ...ทะเราะกับเมีย...เมียไม่ให้เย...หรือเมียจับได้ว่ามีเมียน้อย"ปราณคาดเดาสถานการณ์ และพยายามไม่ให้มันตึงเครียดจนเกินไป"ฉัตรท้อง!!...แต่กูไม่มั่นใจว่าท้องกับกูจริงๆ ไหม"หลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน และสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟัง"เชี้ย!!...แค่นี้ดูไม่ออก...เขาจะจับมึง!!"ปราณออกความเห็น "แต่ถ้ามึงไม่แน่ใจตรวจดีเอ็นเอได้ เดี๋ยวกูให้สูตินารีเจาะน้ำคร่ำตรวจให้ แต่ข้อจำกัดเยอะหน่อย เพราะถ้าอายุครรภ์น้อยเกินไปมันอันตรายต่อเด็ก"ปราณเอ่ยในฐานะที่เป็นหมอ"ถ้าลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ก็น่าจะประมาณเดือนนึงแล้ว""4สัปดาห์ ตรวจไม่ได้ แนะนำให้ตรวจตั้งแต่6สัปดาห์ขึ้นไป แต่เอาให้ชัวร์คือ10สัปดาห์จะดีที่สุดเพราะเป็นช่วงที่ค่า cfDNA ของเด็กในค
"พี่ซันคะ...พี่ซัน!!"ร่างเล็กเอ่ยเรียกคนร่างสูงที่เอาแต่เหม่อลอยตั้งแต่เธอตื่นแล้ว จึงอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ แต่เรียกกี่ครั้งก็ไร้ซึ่งคำตอบจากเขา"พี่ซัน!!...พี่ซันคะ!!""ครับๆๆ ...เอ่อ...เอวาว่าไงนะครับ?""มืดแล้วค่ะ...ไม่กลับบ้านหรอคะ?"เอวาถาม "พี่ซันเป็นอะไรคะ...ทำไมเหม่อขนาดนี้?"เธออดที่จะถามไม่ได้ เพราะปกติซันไม่ใช่คนแบบนี้ เขามักจะมีสติกว่านี้ เหมือนในใจของเขาคิดวิตกอะไรอยู่"ปะ...เปล่าครับ...""งั้นกลับกันไหมคะ เอวาเริ่มหิวแล้ว...วันนี้นัดแม่ด้วย...เดี๋ยวแวะซื้อผลไม้ไปฝากแม่ด้วยดีไหมคะ""...""พี่ซัน...""ครับ...ไปครับ...ไป"คำตอบของซันทำเอาร่างบางขมวดคิ้ว เขาเป็นอะไร...ทำไมถึงเหมือนมีอะไรในใจ มันผิดสังเกตจนเธอจับพิรุธได้ แต่ก็คิดว่าเขาคงแค่เครียดกับงาน"พี่ซันเป็นอะไรคะ...ดูสติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเลย...เครียดงานหรอคะ...หรือเป็นอะไรเล่าให้เอวาฟังได้นะ"ว่าแล้วเธอก็เกินไปนั่งลงที่ตักแกร่งแล้วใช้แขนเรียวโอบรอบต้นคอของเขาเอาไว้ แขนแกร่งกอดร่างเล็กเอาไว้พร้อมกับเกยคางลงไปที่ไหล่มน ก่อนจะพ่นหายใจออกมายาวๆ แล้วหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย กลิ่นกายหอมๆ ของเธอมันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาราวกับ
หนึ่งเดือนต่อมา..."รับปริญญาวันไหนครับ"ซันเอ่ยถามภรรยาสาวคนสวยขณะที่กำลังโอบเอวกันเข้ามาในบริษัท"อาทิตย์หน้านี้แล้วค่ะ...ตื่นเต้นเหมือนกันนะคะจะเรียนจบแล้ว แต่ดันได้สามีก่อนเรียนจบนี่สิ""สามีหล่อด้วยนะ...รวยมากด้วย""อะแฮ่ม!!...ที่ทำงานนะลูกชาย...เพลาๆ หน่อย"อัครเดชพ่อของซันเอ่ยแซวลูกชายเพียงคนเดียวของเขา หลังๆ มานี้ลูกชายของเขาจะดูอินเลิฟเป็นพิเศษ ทั้งที่ตอนจับให้แต่งงานหน้าอย่างกับหมาป่วย"สวัสดีค่ะคุณพ่อ"เอวาเอ่ยทักทายพ่อสามีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนร่างสูงวัยก็พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มตอบเธอด้วยใบหน้าที่เอ็นดูลูกสะใภ้เอามากๆ"ก็ผมรักเมีย...หรือพ่อไม่เคยรักเมีย?""ก็รัก...แต่มันหวานเกินไป...พนักงานจะเอาไปเป็นขี้ปากได้...ทำไรก็เกร็งใจสถานที่นิดนึง""ลองนินทาดูสิผมจะไล่ออกให้หมด!""พี่ซัน...เกินไปแล้วค่ะ"เอวาปราม"โทนี่จะไปดูแลสาขาย่อยแทนพ่อ คงต้องรบกวนเอวาให้มาเป็นเลขาแทนโทนี่แล้วนะ"ชายสูงวัยเอ่ยกับเอวา"ค่ะคุณพ่อ""ได้เอวามาช่วยพ่อก็เบาลง งั้นพ่อไปก่อนนะ"จากนั้นพ่อสามีของเธอก็เดินออกไป"พี่ซันคะ...บ่ายนี้มีนัดคุยกับลูกค้านะคะ...อืมคุณศรัสวดีค่ะ...เอวาต้องไปด้วยไหมคะ?"ชื่อของลูกค้าคน
"อื้อ..."เสียงทุ้มต่ำครางขึ้นในลำคอ พร้อมกับยกมือขึ้นมานวดขยับ และค่อยๆ ลืมตาเพื่อมองไปรอบๆ ห้องด้วยท่าทีที่หนักอึ้ง แต่ที่ห้องนี้กลับไม่คุ้นเลยสักนิด ที่นี่ที่ไหนกัน?"...ตะ...ตื่นแล้วหรอคะซัน?"เสียงหวานแหลมเอ่ยขึ้นตะกุกตะกักอยู่ข้างๆ เขา แถมเธอยังเปลือยเปล่าจนเขาตกใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ ก่อนจะหันมามองร่างของตัวเองที่ก็ล่อนจ้อนไม่ต่างกัน"เชี้ย...เกิดไรขึ้นวะเนี้ย...ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"เสียงทุ้มเอ่ยถามเสียงแข็ง"ก็อย่างที่เห็น...ฉัตรคงไม่ต้องอธิบายหรอกนะคะว่าเมื่อคืนซันทำอะไรฉัตร..."ร่างสูงเมื่อได้ยินก็ขมวดคิ้วมุ่น เป็นไปได้ยังไง?"เธอทำอะไรฉัน..."ซันเตรียมที่จะโวยวายแต่ก็ถูกร่างบางดักขึ้นมาก่อน"ซันโดนวางยาค่ะ...จำไม่ได้หรอ? ...แล้วฉัตรก็เข้าไปช่วยไง...แต่พอมาถึง...เอ่อ...ซันก็จู่โจมฉัตรเลย""ทำไมฉันจำไม่ได้!"เขาถามขึ้นเสียงแข็งพร้อมกับจ้องมองไปที่ใบหน้าเธอเพื่อจับพิรุธ"ไม่ต้องห่วงหรอก ฉัตรไม่ได้อยากกลับไป...ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ...ซันสบายใจได้...แต่งตัวแล้วก็กลับไปหาเมียซันเถอะโทรมาเป็นร้อยสายแล้วมั้ง"เธอกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันไว้รอบตัว "อ้อ...ฉัตรจะไม่พูดเร
เอวา:พี่ซันคะ...วันนี้จะกลับกี่โมงเอวาจะทำอาหารไว้รอร่างบางทักหาซัน แต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ นี่เขางอนเธอหนักขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย กะจะทำอาหารง้อซักหน่อย เฮ้อ...ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้างเลยนะซัน: เอวาทานเลยครับ...วันนี้พี่นัดคุยงานกับลูกค้า...อาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยแล้วถ้าไม่กลับมาเธอจะทำอาหารเพื่ออะไรกันล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงทักไปหาเพื่อนรักของเธอแทนเอวา : มิเกล...ไปดื่มกันไหม...มิเกล : เอาดิแกกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนแล้วเธอจึงทักไปบอกซันอีกครั้ง เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่บอก เดี๋ยวจะพาลงอนเธอไปกันใหญ่เอวา: งั้นเอวาขอไปดื่มกับเพื่อนนะคะซัน:ตามสบายครับ ชีวิตเป็นของเอวานี่ครับ พี่จะไปห้ามอะไรเอวาได้ยิ่งคุยกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง นี่เขาอยากมีลูกกับเธอขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่แค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ อธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธออีกด้าน..."คุณซัน...สั่งอาหารก่อนไหมคะ...มื้อนี้ศรัสขอเป็นเจ้ามือเอง"หญิงสาวใบหน้าสวยราวนางแบบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเบื่อโลกอย่างเขาสนใจได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนถ้าเป็นล
"ทำไมพี่ซันน่ารักกับเอวาจังคะ"เอวาเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ่ว สองมือเล็กเท้าคางมองร่างสูงจัดเตรียมทำอาหารให้เธออย่างใจจดใจจ่อ"เพราะว่า...พี่อยากได้รางวัลไงครับ..."ซันเดินมาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูด้วยน้ำเสียงสุดสยิวจนร่างเล็กถึงกับไรขนอ่อนตั้งชัน"รางวัลอะไรหรอคะ?"เธอถามด้วยแววตาใสซื่อ"รีบกินสิครับ...แล้วเดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล"ใบหน้าหล่อมองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์"แต่มันดึกแล้วนะคะ...พรุ่งนี้พี่ซันมีประชุมด้วยนี่...เดี๋ยวก็ตื่นสายกันพอดี""กระเป๋า1ใบ...""งั้นรอบเดียวพอนะคะ"คำตอบร่างบางทำเอาซันยกยิ้มอย่างพอใจ"ถ้า2ใบก็2รอบหรอครับ...งั้นให้10ใบเลยได้ไหม?"เขาเอ่ยถามด้วยท่าทียียวน แต่ก็แอบหวังเล็กๆ เผื่อร่างบางจะคล้อยตาม"ร่างเอวาพังกันพอดีค่ะ รอบเดียวก็พอ ไว้ไปฮันนีมูนกันค่อยว่ากันอีกทีนะคะ...""2รอบ...นะครับ...วันนี้ดื่มมามันเสร็จยาก...ถ้ารอบเดียวมันค้าง""ต่อรองเก่ง..."ร่างบางพูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเดินตรงไปยังห้องนอน ทั้งที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้น"อื้อ..."หลังจากวางร่างบอบบางลงบนเตียงนอนกว้างๆ อย่างเบามือ"แม่บอกว่า
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวมาบริเวรห้องน้ำในคลับ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างกำกันแน่นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ แต่เมื่อตามมากลับไม่เจอพวกเขาแล้ว"หายไปไหนนะ..."เอวารินทร์กล่าว พร้อมกับมองหารอบๆ ด้วยท่าทางที่ร้อนใจและเป็นกังวล ในหัวจินตนาการไปต่างๆ นาๆ หรือเขาทั้งคู่จะแอบออกมาพลอดรักกัน แต่แค่ทำเป็นร้ายใส่กันเพื่อนตบตาเธอ?อีกด้าน..."เรียกออกมามีอะไร?"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์"แหมซัน...ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับฉัตรด้วยคะ..."ร่างบางเดินเข้ามาคล้องคอคนตัวสูง แต่ก็ถูกมือหนาปัดออกอย่างไม่ใยดี"อย่าเอามือของเธอมาแตะตัวฉัน!"เสียงเข้มตวาดลั่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางสะทกสะท้าน แถมยังยกยิ้มและทำทีท่ายั่วยวนเหมือนครั้งที่เคยรักกัน"คิดว่าฉันจะมีอารมณ์กับร่างเน่าๆ ของเธอหรอ?"เขาเลิกคิ้วมองพร้อมสายตาที่รังเกียจคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกขยะแขยงจนไม่คิดว่าเคยรักกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารักผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน"โถ่...ซัน...แค่จะเอาเงินมาคืนค่ะไม่เห็นต้องพูดจาแรงๆ แบบนั้นเลย...ตามมาสิคะ...เงินอยู่ในรถน่ะ"พูดจบเธอก็เดินนำ