วันนี้เป็นวันที่เอวารินทร์นั่งฟังอาจารย์ผู้สอนแต่กลับไม่เข้าหูสักอย่าง ในหัวตอนนี้มีแต่ใบหน้าท่าทางของอัครวินท์ที่มันคอยหลอกหลอน แถมในหัวมีแต่ใบหน้าทะเล้นกะล่อนนั่นอีก หึ่ย! เธอสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้หันมาสนใจการเรียนการสอนตรงหน้าแทน แต่ยิ่งทำกลับยิ่งคิด แล้วยังจูบเมื่อเช้านั่นอีก นายนั่นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย เธอคิด!
"แกเป็นอะไรเอวา ทำไมวันนี้ใจลอยแปลกๆ"เกวรีเอ่ยทักเพื่อนรักขึ้นหลังจากที่เลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อย "เปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าอยู่ๆ ชีวิตของฉันต้องไม่เป็นสุขอีกต่อไป ฉันจะทำยังไงดี" "แล้วทำไมต้องไม่เป็นสุข?" "ก็ เอ่อ...ว่าที่สามีในอนาคตของฉันน่ะสิ ฉันว่าเขาต้องแกล้งปั่นหัวฉันแน่ๆ" "แกก็ปั่นหัวคืนไง อย่าไปยอม แกมันเลือดนักสู้อยู่แล้ว ปกติก็ไม่ยอมคนอยู่แล้ว เอาให้หนักเลยแก เชื่อฉัน" "เล่นมาเล่นกลับไปเลยดีม้ะ" "ใช่ จัดหนักๆ ไปเลยเพื่อน"ผ่านไปไม่นานมากนัก เฟอร์รารี่สีแดงก็แล่นตรงเข้ามาจอดอยู่ข้างหน้าร่างบอบบางอย่างเอวารินทร์และเพื่อนที่กำลังอ้าปากค้างกับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ราคาแพงหูฉีก
"ฉันไปนะ"เอวารินทร์หันมาบอกเพื่อนรักที่ยังตะลึงอยู่ไม่หาย "ดะ...เดี๋ยว...เขามารับแกหรอเอวา" "อืม คำสั่งของแม่เขาอ่า"พูดจบเธอก็เปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งทันที "หิว!"อัครวินท์เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ "บอกฉันทำไม?" "ก็ฉันไม่มีตังค์ แม่ยึด เพราะฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบ" "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน"เธอถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจว่าต้องรับผิดชอบทำไม มันไม่ใช่หน้าที่ที่เธอต้องมารับผิดชอบเลย "ก็อีกหน่อยเธอก็ต้องมาเป็นเมียฉัน" "ที่นายโดนยึดเงินก็เพราะทำตัวเอง ใช้เงินเปลืองเอง" "..."นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันยังบ่นขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดสภาพถ้าเป็นเมียจริงๆ ยัยนี่คงบ่นเขาจนหูชาแน่ๆ เขาคิด "จอดร้านข้างหน้าและกัน มารับแล้วเป็นภาระฉันทีหลังไม่ต้องมานะ" "แล้วเธอจะบ่นทำไมเนี้ย แค่เลี้ยงข้าวเอง" "..."ร่างบางไม่สนใจคำพูดของอัครวินท์ เปิดประตูลงไปนั่งร้านไก่ย่างส้มตำทันที ถึงเวลาเอาคืนแล้วเอวา เอวารินทร์กล่าวในใจ "ร้านนี้เนี้ยนะ นั่งเข้าไปได้ไง"ร่างสูงมองไปรอบๆ ร้าน ที่มีโต๊ะนั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ ตั้งแต่เล็กจนโตมา ไม่เคยมานั่งร้านข้างทางแบบนี้เลย กินอาหารภัตตาคารหรู5ดาวตลอด ถ้าร้านข้าวข้างทางก็เคยบ้างบางครั้งแต่ก็ไม่เคยมานั่งกินที่ร้านแบบนี้ "ถ้าหิวก็อย่าบ่น นั่งลง มันกินได้ ไม่ตาย!"เอวารินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "เธอแกล้งฉันป้ะเนี้ย?" "ฉันจะแกล้งนายไปทำไม ฉันอยากกิน" "หนูเอวา วันนี้รับอะไรดีลูก"คุณป้าเจ้าของร้านเอ่ยถามพร้อมกับเตรียมจดเมนูด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต้อนรับเธออย่างดี "ป้าดา วันนี้เอวาเอาน้ำตกหมู ตำไทยไข่เค็ม ไก่ย่าง ตับย่าง...อืม...ต้มแซ่บกระดูกอ่อนค่ะ...แล้วก็ข้าวเหนียว2ค่ะป้า"ป้าดาพยักหน้าพร้อมกับเดินไปทำตามเมนู "สั่งเยอะขนาดนี้กินทั้งหมู่บ้านหรอ?" "พูดมาก ไม่กินก็ไปรอที่รถ"เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก จากนั้นก็ลุกไปหยิบแก้ว เปิดถังแล้วตักน้ำแข็งใส่แก้ว พร้อมกับหันไปหยิบหลอดมาเสียบไว้แล้วก็ไม่ลืมที่จะหยิบเป๊ปซี่ขวดใหญ่มาอีก1ขวด ซ่าส์! เสียงน้ำอัดลมเย็นๆ เมื่อเปิดฝาออก แค่ได้กลิ่นก็สดชื่นแล้ว เอวารินทร์รินน้ำอัดลมสีดำลงแก้วแล้วส่งให้หนุ่มหล่อตรงหน้าที่เอาแต่จับจ้องทุกอิริยาบถของเธออย่างกับถูกสะกด ร่างบางเมื่อส่งแก้วให้เขาแล้วก็หันมาตั้งใจรินให้ตัวเองก่อนจะก้มลงดูดพร้อมกับทำหน้าสดชื่น "อ๊าส์! สดชื่น!" "ขนาดนั้น?"อัครวินท์เลิกคิ้วมองเธอพร้อมกับเอ่ยถาม "ลอง!"ว่าแล้วเธอก็จับแก้วขึ้นไปจ่อที่ริมฝีปากหยักสีแดงระเรื่อของเขา อัครวินท์ก้มลงดูดตามที่เธอบอก "อ๊าส์ สดชื่นจริงด้วย"เมื่อความซู่ซ่าแล่นลงไปบาดลำคอพร้อมกับรสชาติหวานแถมบวกกับความเย็นทำให้สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งอากาศร้อนๆ แบบนี้ดูดรวดเดียวมันกระปี้กระเป่าอย่าบอกใคร "เป็นไง?"เอวารินทร์ถาม "ก็...ดี" "อร่อยก็บอกอร่อยจะฟอร์มทำไม ชีวิตต้องซับซ้อนขนาดนั้นเลย" "เธอนี่เป็นคุณหนูจอมปลอมป้ะเนี้ย"เขาถามอย่างไม่เข้าใจ ฐานะบ้านเธอก็รวยเกือบเทียบกับเขาแต่ทำตัวติดดิน ไม่ติดหรูเลยสักนิด ต่างจากแฟนของเขาไม่เคยไปนั่งกินอะไรข้างทาง จะกินก็ต้องจองร้านอาหาร ต้องวิวหลักล้าน หรือไม่ก็กินอาหารบนห้าง "รวยจำเป็นต้องกินของแพงด้วยหรอ" "ก็ปกติไหม?" "มาแล้วจ่ะหนูเอวา"ป้าดาเดินมาพร้อมอาหารที่สั่งไปทั้งหมด ก่อนจะยกจานที่อยู่ในถาดจัดวางไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ "ขอบคุณค่ะป้าดา เอวาจะกินให้หมดเลยค่ะ"เธอส่งยิ้มกว้างให้ป้าดา "กินเยอะๆ นะลูก วันนี้ป้าทำรสชาติที่หนูชอบเลยนะ"ป้าดากล่าวบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้สาวร่างบางหน้าหวานเฉี่ยวอย่างเอวาริทร์ ก่อนที่จะเดินไปรับออเดอร์โต๊ะอื่น "น้ำลายไหลแล้ว"เธอกล่าวเมื่อกลิ่นมะนาว กลิ่นหอมจ้าวคั่ว เครื่องเทศปะทะเข้าจมูกทำเอาน้ำลายสอกันเลยทีเดียว "..." "นั่งมองทำไมไม่กินล่ะ ไหนว่าหิว" "ก็...เธอกินน่ากลัวอ่า เหมือนปอปลงฉันเลยไม่กล้าแย่ง"พูดจบเขาก็ใช้ส้อมจิ้มไก่ย่างฉ่ำๆ มากัด พร้อมกับใช้ส้อมจิ้มข้าวเหนียวที่กว่าจะแคะออกมาได้ก็ต้องใช้ความพยายาม "ใช้มือ!" "ไม่เอา เดี๋ยวมือเปื้อน" "เปื้อนก็ล้าง มันยากตรงไหน ใช้มือจกข้าวเหนียว จิ้มๆ ฉีกไก่ เอาเข้าปาก แค่นี้!"เธอบรรยายแต่ก็ไม่วายสาธิตให้เขาดูเป็นตัวอย่าง "อื้ม..." "เป็นไง อร่อยล่ะสิ อร่อยก็กินเยอะๆ แล้วก็อย่าทำตัวให้เป็นภาระฉันอีก" "นี่ แค่เลี้ยงข้าวมื้อเดียว มันเป็นบุญคุณอะไรขนาดนั้น" "งั้นก็ไม่ต้องกิน!"ไม่พูดเปล่าแต่มือเอื้อมจะไปหยิบกระติ๊บข้าวเหนียวคืน แต่ก็ถูกมือหนานั้นยกขึ้นหนีซะก่อน "อื้ม...ก็ได้"จากนั้นทั้งสองคนก็นั่งกินกันจนหมด ราวกับคนที่หิวโหยมาสามวัน อัครวินท์ถูกใจรสชาติอาหารที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง ไม่เคยได้สัมผัส แต่เขาก็ชอบและประทับใจกับรสชาติอาหาร แถมยังได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เธอไม่คิดว่าคนอย่างเอวารินทร์จะมีให้เห็น เธอดูเป็นตัวเอง ไม่ประดิษฐ์ ดูเป็นธรรมชาติหน้ามอง ไม่รู้ว่าทำไมแต่การกระทำของเธอวันนี้มันทำให้เขารู้สึกว่าอยากรู้จักเธอมากกว่านี้ "เท่าไหร่คะป้าดา" "350จ้า" "นี่ค่ะป้า 350พอดีค่ะ"จากนั้นก็เดินนำร่างสูงไปที่รถ "ทำไมถูกจัง ไม่มีติ๊บให้ป้าเขาเลยหรอ?"เขาเอ่ยถามเพราะปกติเขากินอาหารทีหลักหมื่นไม่เคยกินหลักร้อยสักครั้ง แถมนี่ตั้งหลายอย่างราคาแค่นี้เองหรือ "มีเงินมากนักหรอ เขาขายของเขาก็บวกกำไรของเขาแล้ว อย่าให้ติ๊บคนอื่นจนเคยตัว เงินไม่ใช่กระดาษ ใช้ทุกบาทให้มีคุณค่า" "แต่มันเป็นน้ำใจ" "น้ำใจที่เอาไปให้คนอื่นใช้เป็นร้อยล้านแบบนายน่ะหรอ" "ไม่ใช่เรื่องของเธอ" "การใช้เงินของฉันก็ไม่ใช่เรื่องของนายเหมือนกัน" "เมื่อไหร่จะเลิกเรียกนายสักที ฉันเป็นพี่เธอตั้ง5-6ปีนะ" "ไม่น่าเคารพ ไม่อยากเรียก อ้อฉันจะเรียกต่อหน้าแม่นายเท่านั้น และไม่ต้องมาบังคับฉันเพราะฉันไม่ใช่ลูกน้องนาย เข้าใจ๊?"เธอกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถโดยไม่สนใจเขา "เธอนี่มัน...หึ่ย"ถึงจะหงุดหงิดที่เธอไม่ฟังเขาเลย แต่ก็เดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วขับออกไปทั้งอย่างนั่น ภายในรถที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำจนร่างบางเริ่มรู้สึกหนาว จึงได้แต่กอดอกตัวเองแม้จะช่วยได้เพียงนิดแต่ก็ยังดีกว่าเดิม พรึ่บ! แต่อยู่อัครวินท์ก็โยนเสื้อสูทมาคลุมร่างเธอไว้ เธอจึงหันไปมองข้างกายที่เอาแต่จับจ้องถนนทำเป็นไม่สนใจเธอ "อะไร?" "ก็เห็นว่าหนาว ใช้ห่มไปก่อน" "ขอบคุณนะ" "หูฝาดหรือเปล่าเนี่ย เธอเนี้ยนะพูดขอบคุณ"เขากล่าวอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเอง ปกติเอาแต่รบกับเขาปากคมอย่างกับกรรไกร อยู่ๆ มีมารยาทกับเขาด้วย "นี่นาย! ฉันมีมารยาทพอ"พูดจบก็กระชับเสื้อขึ้นมาห่มไว้แล้วหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างและแล้วความเงียบก็เข้ามาปกคลุม จนในเวลาต่อมาเธอก็ผล็อยหลับไปเมื่อขับรถมาจนถึงคอนโดแต่ร่างบางข้างๆก็ยังไม่ตื่น เขาจึงสะกิดเพื่อปลุกเธอ แต่เมื่อหันไปมอง ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก สายตาคมๆนั้นจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานเฉี่ยว ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูไร้ที่ติไปจนหมด ตาพริ้มที่หลับตาลงนี้มีขนตาแพงอนอย่างเป็นธรรมชาติ คิ้วเรียวเส้นสวย จมูกโด่งเชิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าของร่างเป็นคนหัวรั้น ปากบางน่าจูบสีแดงระเรื่อ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนมากๆ ขัดกับวันที่เธอไปเที่ยวคลับ แต่เขาดูเหมือนจะชอบเวลาเธอไร้เครื่องสำอางค์มากกว่า เพราะมันดูสวยแบบสดใสดี"เวลาสงบปากสงบคำคงจะน่ารักที่สุดแล้วละมั้ง?"เขากล่าวออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าร่างบางข้างๆเขานั้นจะตื่น"ถ้าไม่ติดที่มีแฟน วันนั้นฉันคงจัดเธอไปแล้ว"ใครมันจะอดใจไหว การหักห้ามใจตัวเองในวันนั้นมันต้องใช้ความพยายามแค่ไหน ต้องเดินเข้าห้องน้ำกี่ครั้งเพื่อปลดปล่อยความทรมานนั้นโดยที่คนร่างบางนั้นไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆเลย กว่าจะข่มตาให้หลับลงไปได้ในวันนั้นก็เกือบสว่างผ่านไปนานเกือบชม.ร่างบางก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่หันมาอีกทีก็เห็นว่าร่างหนาข้างๆนั้นก็หลับเช่นกัน เธอมองออกไปด้านนอกก็พบว่าถึงคอนโดของเธอแล้ว แล้วทำไมเขาไม่ปลุกเธอล่ะเนี่ย บ้าจริง!
น้ำใสๆไหลอาบแก้มไม่ใช่เสียใจที่เขาพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป แต่เขาตั้งใจที่จะย่ำยีสิ่งที่เธอหวงแหนที่สุดต่างหาก เขาไม่ให้เกียรติเธอเลย แถมยังเห็นเป็นเรื่องล้อเล่นและหลอกเธอ เขามันคนหลอกลวง ไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด ได้!!ในเมื่อไม่ให้เกียรติกันต่อไปเธอก็จะไม่ให้เกียรติเขาเช่นกัน เขาพรากสิ่งที่หวงเเหนจากเธอไป ต่อไปถึงตาเธอบ้าง และไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมเป็นผู้หญิงที่มีหลายผัวเด็ดขาด ในเมื่อเขาได้เธอแล้วเขาก็จะต้องเป็นของเธอด้วยเช่นกัน ไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหน เธอจะจัดการไปให้หมด! ถึงตาที่เธอจะต้องพรากของหวงของเขาบ้างหมับ!หลังจากที่ร่างสูงชำระล้างตัวเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นมานอนข้างๆเธอพร้อมกับโอบรั้งเอวร่างบางที่นอนหันหลังให้เขามากอดเอาไว้พร้อมกับซุกหน้าหล่อเหลานั้นไปที่ซอกคอหอมๆของเธอก่อนที่จะหลับไปเช้าวันต่อมา...ร่างหนาตื่นขึ้นมาพร้อมกับคลำหาร่างของเอวารินทร์ที่กอดไว้ตลอดคืน แต่หากมีเพียงความว่างเปล่า เธอหายไปไหนแล้ว? จากนั้นก็รีบลืมตาขึ้นมาแล้วลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง"เอวา...เอวา!..."ไร้ซึ้งเสียงตอบรับใดๆ เขาจึงรีบลุกจากเตียงแล้วกำชับผ้าขนหนูมาพันรอบเอวเอาไว้ ก่อนที่จะเดินหาเธอ แต่ก็ไม่อยู่
"ออกไปเที่ยวดีกว่า!"พูดจบเธอก็ลุกขึ้นแต่งตัว แล้วทักหาเพื่อนในกลุ่มอีก2คนทันที@ไอริสตาร์คลับหญิงสาวร่างบางในชุดเดรสสั้นสีดำคล้องคอโชว์แผ่นหลังขาวเนียน ผมดัดลอนสยายถึงกลางหลัง ใบหน้าสวยเฉี่ยวปนเซ็กซี่ถูกสายตาหลายคู่จับจ้องอย่างกับจะกลืนกิน สายตาเป็นประกายมองหาเพื่อนๆที่นัดกันมาดื่มในค่ำคืนนี้"นึกยังไงออกมาแฮงค์เอาท์"จีโน่เอ่ยถามเพื่อนสาว"ฉันเหงา คิดถึงพวกแก"เธอแก้ตัวทั้งที่ความจริงแค่เครียดแต่ไม่อยากเอ่ยบอกออกไปตรงๆ"ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเรียน ฉันก็เบื่อเหมือนกัน"เกวรีกล่าว"เออ ใช่...ออกมาดื่มกันบ้าง วันนี้จะเมาอีกไหมเอวา"ครั้งนี้จีโน่เสริม"ขอเมา ได้ไหมเพื่อน"เธอกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆ"เค...เดี๋ยวฉันดูแลเอง"จีโน่ตอบ"สรุปเมากันหมด นอนร้านไม่เอานะแก"เกวรีแซว"ชนดีกว่าไม่พูดเยอะ"ว่าแล้วเอวารินทร์ก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับชนแก้วเพื่อน ก่อนที่จะกระดกจนหมดแก้ว โดยมีสายตาของเพื่อนจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียวอย่างรู้ชะตากรรมอีกด้าน..."ไหนว่าวันนี้แฟนมึงว่าง ปกติอยู่กับยัยนั่นไม่ใช่หรอทำไมถึงออกมา"ปราณเอ่ยถามเพื่อนที่เอาแต่ทำหน้าเซ็งๆ"เออจริงทำไมวันนี้มึงออกมา"คิมหันต์เองก็สงสัยเพราะ
เมื่อมาถึงคอนโดของเอวารินทร์เธอก็เข้าไปอาบน้ำทันที กลิ่นกายหอมๆ ยิ่งอาบน้ำใหม่ๆ ยิ่งทำให้เขาคิดเตลิดไปไกล น้ำตาลใกล้มดแบบนี้จะหักห้ามใจอย่างไรกัน นี่เขาเอาตัวเองมาทรมานงั้นหรอ"พรุ่งนี้วันเกิดพ่อฉัน แม่บอกให้ไปก่อนเที่ยง เดี๋ยวจะพาไปซื้อชุดสวยๆ"อยู่ๆ ร่างสูงก็เอ่ยบอกเธอที่กำลังนั่งเช็ดผมอยู่ที่หน้ากระจก และทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินเขา"...""ได้ยินไหมเนี้ยเอวา""อืม...ได้ยินแล้ว"เธอตอบเสียงนิ่ง"จะดื่มต่อไหม?""ไม่ ฉันอาบน้ำแปลงฟันแล้ว""งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ"จากนั้นเขาก็เดินมาคว้าผ้าเช็ดตัวของเธอที่กำลังเช็ดผมอยู่อย่างถือวิสาสะจนเธอถลึงตาใส่เขาด้วยความไม่พอใจ"ไร้มารยาท!"เมื่อร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอก็สบถออกมาอย่างไม่พอใจ เห้อ นี่ต้องทนเขาไปถึงเมื่อไหร่กัน นิสัยเสียจริงๆ เลย ได้! หนามยอกเอาหนามบ่งนายต้องการอะไรฉันจะทำตรงข้ามให้หมดทุกทางเลยคอยดู จากนั้นเธอก็ยกยิ้มน้อยๆ เมื่อความคิดพิเลนๆ แล่นเข้ามาในหัว คิดไปไกลส่าตัวเองกำลังแก้เผ็ดนายนั่นอยู่ หึ!ฟ่อด!"นี่นาย!"เมื่อร่างสูงอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็เหลือบไปเห็นคนตัวเล็กนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนกำลังคิดอะไรสนุกๆ อยู่ก็เ
@ บ้านอัครเดชาชัย"พ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"ซันหรืออัครวินท์ลูกชายคนเดียวของบ้านอัครเดชาชัย เอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะแต่ละวันใช้ชีวิตชิวๆ สบายๆ ไม่สนใจใคร จนผู้เป็นพ่อเริ่มที่จะหมดความอดทนกับลูกชายที่เอาแต่เที่ยวไปวันๆ อย่างไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว"แกควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้วนะ แล้วฉันก็หาเจ้าสาวไว้ให้แกแล้วด้วย"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำเอาลูกชายถึงกับขมวดคิ้ว"นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับพ่อ ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมมีแฟนแล้ว""มีแฟนแล้วก็ไปเลิก แกจะเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปรายเท้ามาทำเมียไม่ได้"คำพูดของประมุขของบ้านยื่นเด็ดขาด"ไม่ ผมไม่แต่ง ยังไงก็ไม่แต่ง แล้วพ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมด้วย"ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่จะก้าวขาเดินออกไปจากบรรยากาศชวนอึดอันนี่โดยมีผู้เป็นแม่นั่งมองอยู่เงียบๆ ไม่กล้าที่จะเอ่ยคำใดออกมา"หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะไม่ให้สมบัติแกแม้สักแดงเดียว"คำพูดนั้นทำเอาร่างสูงชะงัก แต่ถึงอย่างงั้น เขาเป็นถึงรองประธานบริษัท ยังไงเงินเดือนของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงอย่างไร ไม่ได้สมบัติของบ้านนี้ก็ไม่อดตาย
@ภัตราคารสุดหรูบรรยากาศในภัตตาคารสุดหรูชั้นบนสุด เห็นวิวชัดทุกมุมกลางเมือง ได้ถูกจับจองโดยคุณหญิงวินทร์รวี เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย"ซัน! ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมห๊ะ!!"คุณหญิงวินทร์รวีเอ็ดลูกชายที่เอาแต่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดผูกเป็นปมแบบนี้ "ทำหน้าอย่างกับถูกบังคับ""ก็แม่บังคับจริงๆ หรือเปล่าล่ะ?"เสียงเรียบนิ่งนั้นเถียงแม่ จนผู้เป็นแม่ตาเขม็งใส่อย่างไม่พอใจที่ลูกชายตัวดีเอาแต่ขัด"ถ้าแกทำตัวไม่ดี ฉันปลดแกแน่ไอ้ซัน!"ผู้เป็นพ่อกล่าวท้วงขึ้นอีกคน จนอัครวินท์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ต้องทำเป็นระบายยิ้มออกมาเมื่อประตูห้องหรูเปิดออกพร้อมกับแขกผู้มาใหม่อีก3คนอัครวินท์มองหญิงสาวร่างบอบบางที่เดินก้มหน้าก้มตาตามผู้เป็นพ่อและแม่เข้ามา ใบหน้าหวานเฉี่ยวนั้นทำเอาอัครวินท์สะดุดตา ตากลมโตเป็นประกาย ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้น ปากบางน่าจุ๊ฟนั้นอีก แถมหุ่นก็ดี ผิวขาวใสออร่าเปล่งปลั่งนั่นอีก สวยไร้ที่ติเลย เขาคิดในใจ"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า"เอวารินทร์เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะปรายตาไปมองว่าที่เจ้าบ่าวจอมแสบที่พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง นี่น่ะหรอคนที่จะให้มาปรา
"ซัน ต่อไปนี้ต้องไปรับไปส่งน้องที่มหาลัยทุกวันที่น้องมีเรียน เข้าใจไหม""เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้...เอ่อคุณแม่"จะไปยอมได้ยังไง วุ่นวายกันพอดี เธอคิด"ได้ครับแม่ ผมจะได้รับไปส่งถึงที่เลย"แต่ยิ่งเธอห้าม เขากลับยิ่งทำตรงกันข้าม นายนี่มันกัดเธอไม่เลิกจริงๆ"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะพี่ซัน รบกวนเปล่าๆ เดี๋ยวเอวาไปกลับเองดีกว่าค่ะ""หึ!"ยัยเด็กนี่ทำไมถึงได้ห้ามเขานัก ชักอยากจะรู้ซะแล้วว่าที่มหาลัยมีอะไรทำไมถึงได้ไม่อยากให้เขาไปรับไปส่งนัก"ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความประสงค์ของคุณแม่ พี่จัดไม่ได้ซะด้วยสิ"เขายกยิ้มให้หนึ่งทีอย่างยั่วอารมณ์คนร่างเล็กตรงหน้า"งั้นแม่ฝากซันหน่อยนะลูก"คุณหญิงพัชรินทร์เอ่ยบอกว่าที่ลูกเคยด้วยใบหน้ายินดี"แม่! ไม่ต้องไปรบกวนพี่เขาหรอกค่ะ แค่ต้องมาแต่งงานกับเอวาพี่เขาก็ลำบากใจจะแย่"เธอแก้ต่าง"ไม่อึดอัดเลยครับ พ่อแม่ว่าดีพี่ก็ว่าดี ใช่ไหมครับคุณพ่อคุณแม่"เขาหันไปหาแนวร่วมเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาช่วย เห็นทีงานนี้คงต้องอยู่ข้างเดียวกันกับพ่อแม่เพื่อกำจัดเด็กนี่สินะ คอยดูจะทำให้พ่อแม่ตาสว่างที่เลือกคนผิดให้เขา"ใช่ลูก โอ๊ะวันนี้พูดเข้าหูพ่อแหะ"ท่านประธานอย่างอัครเดชเอ่ยด้วย
"ห๊ะ! แต่งงาน!"เกวรีและจีโน่อุทานพร้อมกันจนลั่นห้อง"อืม..."ใบหน้าผิดหวังของเธอเจื่อนลงก่อนจะกระดกไวน์ชั้นดีลงคอ"สมัยไหนแล้วแกจะมาจับคลุมถุงชนแบบนี้ไม่ได้ป้ะ"จีโน่เดือดพล่าน ก็แหงละหลังเรียนจบเขากะจะขอเธอเป็นแฟน แต่นี่อะไร อยู่ๆก็ถูกใครไม่รู้ตัดหน้าไปเสียก่อน"หึ่ย แกใจเย็น"แต่ก็ถูกเกวรีปรามไว้ก่อนที่นายนี่จะออกอาการจนมากเกินไป"ฉันก็ไม่ได้อยากแต่ง แต่มันเป็นข้อตกลงของพ่อแม่ฉันและครอบครัวเขา คงอยากให้ฉันมาเป็นไม้กันหมาให้ลูกเขาละมั่งเห็นว่าคบกับดาราคนหนึ่งอยู่ คงมาเกาะลูกเขาอะไรทำนองนั้นมั้ง""แล้วสัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่"คำถามของจีโน่ถามด้วยเสียงที่จริงจัง"คงตอนที่ฉันจัดการยัยนั่นไปจากชีวิตลูกเขาได้""หวังว่าจะจัดการแต่ยัยนั่นนะ ไม่ใช่ให้เขามาจัดการแก"จีโน่ยังคงกล่าวต่อ"แกไม่ต้องห่วง ฉันเป็นใคร จำคำพูดฉันไว้ว่านายนั่นจะไม่ได้แตะต้องฉันแม้แต่ปลายขน"เธอพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ พร้อมกับยกแก้วไวน์กระดกอีกรอบ"งั้นถ้ามั่นใจขนาดนั้น ก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน"ก็รักไปแล้วนี่เนาะ เธอจะทำอะไรก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รังเกียจเธอหากว่าเธอจะต้องเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดให้คนอื
เมื่อมาถึงคอนโดของเอวารินทร์เธอก็เข้าไปอาบน้ำทันที กลิ่นกายหอมๆ ยิ่งอาบน้ำใหม่ๆ ยิ่งทำให้เขาคิดเตลิดไปไกล น้ำตาลใกล้มดแบบนี้จะหักห้ามใจอย่างไรกัน นี่เขาเอาตัวเองมาทรมานงั้นหรอ"พรุ่งนี้วันเกิดพ่อฉัน แม่บอกให้ไปก่อนเที่ยง เดี๋ยวจะพาไปซื้อชุดสวยๆ"อยู่ๆ ร่างสูงก็เอ่ยบอกเธอที่กำลังนั่งเช็ดผมอยู่ที่หน้ากระจก และทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินเขา"...""ได้ยินไหมเนี้ยเอวา""อืม...ได้ยินแล้ว"เธอตอบเสียงนิ่ง"จะดื่มต่อไหม?""ไม่ ฉันอาบน้ำแปลงฟันแล้ว""งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ"จากนั้นเขาก็เดินมาคว้าผ้าเช็ดตัวของเธอที่กำลังเช็ดผมอยู่อย่างถือวิสาสะจนเธอถลึงตาใส่เขาด้วยความไม่พอใจ"ไร้มารยาท!"เมื่อร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอก็สบถออกมาอย่างไม่พอใจ เห้อ นี่ต้องทนเขาไปถึงเมื่อไหร่กัน นิสัยเสียจริงๆ เลย ได้! หนามยอกเอาหนามบ่งนายต้องการอะไรฉันจะทำตรงข้ามให้หมดทุกทางเลยคอยดู จากนั้นเธอก็ยกยิ้มน้อยๆ เมื่อความคิดพิเลนๆ แล่นเข้ามาในหัว คิดไปไกลส่าตัวเองกำลังแก้เผ็ดนายนั่นอยู่ หึ!ฟ่อด!"นี่นาย!"เมื่อร่างสูงอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็เหลือบไปเห็นคนตัวเล็กนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนกำลังคิดอะไรสนุกๆ อยู่ก็เ
"ออกไปเที่ยวดีกว่า!"พูดจบเธอก็ลุกขึ้นแต่งตัว แล้วทักหาเพื่อนในกลุ่มอีก2คนทันที@ไอริสตาร์คลับหญิงสาวร่างบางในชุดเดรสสั้นสีดำคล้องคอโชว์แผ่นหลังขาวเนียน ผมดัดลอนสยายถึงกลางหลัง ใบหน้าสวยเฉี่ยวปนเซ็กซี่ถูกสายตาหลายคู่จับจ้องอย่างกับจะกลืนกิน สายตาเป็นประกายมองหาเพื่อนๆที่นัดกันมาดื่มในค่ำคืนนี้"นึกยังไงออกมาแฮงค์เอาท์"จีโน่เอ่ยถามเพื่อนสาว"ฉันเหงา คิดถึงพวกแก"เธอแก้ตัวทั้งที่ความจริงแค่เครียดแต่ไม่อยากเอ่ยบอกออกไปตรงๆ"ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเรียน ฉันก็เบื่อเหมือนกัน"เกวรีกล่าว"เออ ใช่...ออกมาดื่มกันบ้าง วันนี้จะเมาอีกไหมเอวา"ครั้งนี้จีโน่เสริม"ขอเมา ได้ไหมเพื่อน"เธอกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆ"เค...เดี๋ยวฉันดูแลเอง"จีโน่ตอบ"สรุปเมากันหมด นอนร้านไม่เอานะแก"เกวรีแซว"ชนดีกว่าไม่พูดเยอะ"ว่าแล้วเอวารินทร์ก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับชนแก้วเพื่อน ก่อนที่จะกระดกจนหมดแก้ว โดยมีสายตาของเพื่อนจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียวอย่างรู้ชะตากรรมอีกด้าน..."ไหนว่าวันนี้แฟนมึงว่าง ปกติอยู่กับยัยนั่นไม่ใช่หรอทำไมถึงออกมา"ปราณเอ่ยถามเพื่อนที่เอาแต่ทำหน้าเซ็งๆ"เออจริงทำไมวันนี้มึงออกมา"คิมหันต์เองก็สงสัยเพราะ
น้ำใสๆไหลอาบแก้มไม่ใช่เสียใจที่เขาพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป แต่เขาตั้งใจที่จะย่ำยีสิ่งที่เธอหวงแหนที่สุดต่างหาก เขาไม่ให้เกียรติเธอเลย แถมยังเห็นเป็นเรื่องล้อเล่นและหลอกเธอ เขามันคนหลอกลวง ไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด ได้!!ในเมื่อไม่ให้เกียรติกันต่อไปเธอก็จะไม่ให้เกียรติเขาเช่นกัน เขาพรากสิ่งที่หวงเเหนจากเธอไป ต่อไปถึงตาเธอบ้าง และไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมเป็นผู้หญิงที่มีหลายผัวเด็ดขาด ในเมื่อเขาได้เธอแล้วเขาก็จะต้องเป็นของเธอด้วยเช่นกัน ไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหน เธอจะจัดการไปให้หมด! ถึงตาที่เธอจะต้องพรากของหวงของเขาบ้างหมับ!หลังจากที่ร่างสูงชำระล้างตัวเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นมานอนข้างๆเธอพร้อมกับโอบรั้งเอวร่างบางที่นอนหันหลังให้เขามากอดเอาไว้พร้อมกับซุกหน้าหล่อเหลานั้นไปที่ซอกคอหอมๆของเธอก่อนที่จะหลับไปเช้าวันต่อมา...ร่างหนาตื่นขึ้นมาพร้อมกับคลำหาร่างของเอวารินทร์ที่กอดไว้ตลอดคืน แต่หากมีเพียงความว่างเปล่า เธอหายไปไหนแล้ว? จากนั้นก็รีบลืมตาขึ้นมาแล้วลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง"เอวา...เอวา!..."ไร้ซึ้งเสียงตอบรับใดๆ เขาจึงรีบลุกจากเตียงแล้วกำชับผ้าขนหนูมาพันรอบเอวเอาไว้ ก่อนที่จะเดินหาเธอ แต่ก็ไม่อยู่
เมื่อขับรถมาจนถึงคอนโดแต่ร่างบางข้างๆก็ยังไม่ตื่น เขาจึงสะกิดเพื่อปลุกเธอ แต่เมื่อหันไปมอง ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก สายตาคมๆนั้นจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานเฉี่ยว ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูไร้ที่ติไปจนหมด ตาพริ้มที่หลับตาลงนี้มีขนตาแพงอนอย่างเป็นธรรมชาติ คิ้วเรียวเส้นสวย จมูกโด่งเชิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าของร่างเป็นคนหัวรั้น ปากบางน่าจูบสีแดงระเรื่อ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนมากๆ ขัดกับวันที่เธอไปเที่ยวคลับ แต่เขาดูเหมือนจะชอบเวลาเธอไร้เครื่องสำอางค์มากกว่า เพราะมันดูสวยแบบสดใสดี"เวลาสงบปากสงบคำคงจะน่ารักที่สุดแล้วละมั้ง?"เขากล่าวออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าร่างบางข้างๆเขานั้นจะตื่น"ถ้าไม่ติดที่มีแฟน วันนั้นฉันคงจัดเธอไปแล้ว"ใครมันจะอดใจไหว การหักห้ามใจตัวเองในวันนั้นมันต้องใช้ความพยายามแค่ไหน ต้องเดินเข้าห้องน้ำกี่ครั้งเพื่อปลดปล่อยความทรมานนั้นโดยที่คนร่างบางนั้นไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆเลย กว่าจะข่มตาให้หลับลงไปได้ในวันนั้นก็เกือบสว่างผ่านไปนานเกือบชม.ร่างบางก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่หันมาอีกทีก็เห็นว่าร่างหนาข้างๆนั้นก็หลับเช่นกัน เธอมองออกไปด้านนอกก็พบว่าถึงคอนโดของเธอแล้ว แล้วทำไมเขาไม่ปลุกเธอล่ะเนี่ย บ้าจริง!
วันนี้เป็นวันที่เอวารินทร์นั่งฟังอาจารย์ผู้สอนแต่กลับไม่เข้าหูสักอย่าง ในหัวตอนนี้มีแต่ใบหน้าท่าทางของอัครวินท์ที่มันคอยหลอกหลอน แถมในหัวมีแต่ใบหน้าทะเล้นกะล่อนนั่นอีก หึ่ย! เธอสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้หันมาสนใจการเรียนการสอนตรงหน้าแทน แต่ยิ่งทำกลับยิ่งคิด แล้วยังจูบเมื่อเช้านั่นอีก นายนั่นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย เธอคิด!"แกเป็นอะไรเอวา ทำไมวันนี้ใจลอยแปลกๆ"เกวรีเอ่ยทักเพื่อนรักขึ้นหลังจากที่เลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อย"เปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าอยู่ๆ ชีวิตของฉันต้องไม่เป็นสุขอีกต่อไป ฉันจะทำยังไงดี""แล้วทำไมต้องไม่เป็นสุข?""ก็ เอ่อ...ว่าที่สามีในอนาคตของฉันน่ะสิ ฉันว่าเขาต้องแกล้งปั่นหัวฉันแน่ๆ""แกก็ปั่นหัวคืนไง อย่าไปยอม แกมันเลือดนักสู้อยู่แล้ว ปกติก็ไม่ยอมคนอยู่แล้ว เอาให้หนักเลยแก เชื่อฉัน""เล่นมาเล่นกลับไปเลยดีม้ะ""ใช่ จัดหนักๆ ไปเลยเพื่อน"ผ่านไปไม่นานมากนัก เฟอร์รารี่สีแดงก็แล่นตรงเข้ามาจอดอยู่ข้างหน้าร่างบอบบางอย่างเอวารินทร์และเพื่อนที่กำลังอ้าปากค้างกับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ราคาแพงหูฉีก"ฉันไปนะ"เอวารินทร์หันมาบอกเพื่อนรักที่ยังตะลึงอยู่ไม่หาย"ดะ...เดี๋ยว...เขามารับแกหรอเ
หลังจากที่แฟนสาวสุดเซ็กซี่เดินออกไปจากห้องของอัครวินท์ เขาก็หยิบโทรศัพท์คู่ใจขึ้นมาปัดๆ เลื่อนๆ ดูตารางเรียนของเอวารินทร์ที่ส่งไว้ในไลน์โดยเขาเป็นคนส่งเองนั้น ก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที"มีเรียน9โมง"เขายกมือขึ้นมองนาฬิกาข้อมือราคาแพงตอนนี้ที่บ่งบอกเวลาเกือบจะ8โมงแล้วจึงรีบระเรงนิ้วเรียวนั้นทักหาหญิงสาวที่คอยตามหลอกหลอนและเข้ามาอยู่ในโสตประสาทของเขาจะว่าไปตั้งแต่เจอหน้าใบหน้าสวยหวานปนเฉี่ยวนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวเขาตลอด'เดี๋ยวฉันไปส่ง'จากนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีอีกด้าน...ตึ้ง!Sun:เดี๋ยวฉันไปส่งข้อความในแอพเขียวเด้งแจ้งเตือนเอวารินทร์ที่กำลังนั่งแต่งหน้าทำผมที่หน้ากระจก เธอเหลือบมองข้อความชั่วครู่ก่อนที่จะเร่งมือทำทุกอย่าง เพื่อชิ่งออกไปก่อนเขา"หึ! ไม่มีทาง อย่าได้หวังจะไปส่งฉันเชียว หนุ่มๆ เห็นฉันก็ดับพอดี"พูดจบก็รีบวางแปรงแต่งหน้าลงและหยิบกระเป๋าผ้าขึ้นมาสะพายก่อนจะหยิบรีโมทรถคันหรูคู่ใจมาควงอย่างอารมณ์ดี ร่างบางสาวเท้าเข้ามาในลิฟท์จากนั้นก็รีบวิ่งตรงไปยังลานจอดรถที่มีความปลอดภัยระดับสูงติ๊ด! ปึ่ง!แต่เมื่อรีโมทกดปลดล็อคยังไม่ทันที่จะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับก็ถูกชายร่างสูงผลักประ
"เอาตารางเรียนมา"ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องของเอวารินทร์ไปอยู่ๆ ร่างสูงก็หันกลับมาแล้วขอตารางเรียนของเธอ"เอาไปทำไม?"เธอถามอย่างไม่เข้าใจ"จะได้รู้ว่าต้องมารับกี่โมง อย่าถามมากได้ไหม คิดว่าฉันอยากทำมากหรอ?"เขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์"ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ฉันไปเองได้!"ควับ! หมับ!อัครวินท์เดินไปคว้าโทรศัพท์ของเอวารินทร์มาถือไว้ก่อนที่จะจับมือเธอมาแสกนลายนิ้วมือ"นี่เอามานะ! ของส่วนตัวน่ะเข้าใจไหม?""..."ร่างสูงเอี้ยวตัวหลบก่อนจะปัดๆ เลื่อนๆ จากนั้นก็ยัดมันกลับไปไว้ในมือเล็กของเธอ และเดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร"อะไรของเขาเนี้ย!"เอวารินทร์กล่าวอย่างหงุดหงิดอีกด้าน...~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~'ปาริฉัตร'เมื่อเดินออกมาจากห้องของเอวารินทร์ได้ไม่นาน อยู่ๆ เบอร์ของคนรักของเขาก็ปรากฏขึ้น เขาระบายยิ้มออกมา ก่อนที่จะกดรับ"ครับ"[ซัน วันนี้ฉัตรถ่ายละครเสร็จค่ำๆ เจอกันนะคะ]"โอเคครับ"[ไว้เจอกันนะคะ ซัน พอดีว่ารถฉัตรเสียน่ะค่ะเอ่อ...คือ...มันก็เก่ามากแล้วตกรุ่นแล้วด้วย ฉัตรอายเพื่อนๆ ที่กอง...ถ้าซันไม่ว่าอะไร...ฉัตรขอยืม...]"เดี๋ยวผมซื้อคันใหม่ให้"[จริงหรอคะ อุ้ย เกรงใจซันจังเลย จะด
"ห๊ะ! แต่งงาน!"เกวรีและจีโน่อุทานพร้อมกันจนลั่นห้อง"อืม..."ใบหน้าผิดหวังของเธอเจื่อนลงก่อนจะกระดกไวน์ชั้นดีลงคอ"สมัยไหนแล้วแกจะมาจับคลุมถุงชนแบบนี้ไม่ได้ป้ะ"จีโน่เดือดพล่าน ก็แหงละหลังเรียนจบเขากะจะขอเธอเป็นแฟน แต่นี่อะไร อยู่ๆก็ถูกใครไม่รู้ตัดหน้าไปเสียก่อน"หึ่ย แกใจเย็น"แต่ก็ถูกเกวรีปรามไว้ก่อนที่นายนี่จะออกอาการจนมากเกินไป"ฉันก็ไม่ได้อยากแต่ง แต่มันเป็นข้อตกลงของพ่อแม่ฉันและครอบครัวเขา คงอยากให้ฉันมาเป็นไม้กันหมาให้ลูกเขาละมั่งเห็นว่าคบกับดาราคนหนึ่งอยู่ คงมาเกาะลูกเขาอะไรทำนองนั้นมั้ง""แล้วสัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่"คำถามของจีโน่ถามด้วยเสียงที่จริงจัง"คงตอนที่ฉันจัดการยัยนั่นไปจากชีวิตลูกเขาได้""หวังว่าจะจัดการแต่ยัยนั่นนะ ไม่ใช่ให้เขามาจัดการแก"จีโน่ยังคงกล่าวต่อ"แกไม่ต้องห่วง ฉันเป็นใคร จำคำพูดฉันไว้ว่านายนั่นจะไม่ได้แตะต้องฉันแม้แต่ปลายขน"เธอพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ พร้อมกับยกแก้วไวน์กระดกอีกรอบ"งั้นถ้ามั่นใจขนาดนั้น ก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน"ก็รักไปแล้วนี่เนาะ เธอจะทำอะไรก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รังเกียจเธอหากว่าเธอจะต้องเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดให้คนอื
"ซัน ต่อไปนี้ต้องไปรับไปส่งน้องที่มหาลัยทุกวันที่น้องมีเรียน เข้าใจไหม""เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้...เอ่อคุณแม่"จะไปยอมได้ยังไง วุ่นวายกันพอดี เธอคิด"ได้ครับแม่ ผมจะได้รับไปส่งถึงที่เลย"แต่ยิ่งเธอห้าม เขากลับยิ่งทำตรงกันข้าม นายนี่มันกัดเธอไม่เลิกจริงๆ"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะพี่ซัน รบกวนเปล่าๆ เดี๋ยวเอวาไปกลับเองดีกว่าค่ะ""หึ!"ยัยเด็กนี่ทำไมถึงได้ห้ามเขานัก ชักอยากจะรู้ซะแล้วว่าที่มหาลัยมีอะไรทำไมถึงได้ไม่อยากให้เขาไปรับไปส่งนัก"ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความประสงค์ของคุณแม่ พี่จัดไม่ได้ซะด้วยสิ"เขายกยิ้มให้หนึ่งทีอย่างยั่วอารมณ์คนร่างเล็กตรงหน้า"งั้นแม่ฝากซันหน่อยนะลูก"คุณหญิงพัชรินทร์เอ่ยบอกว่าที่ลูกเคยด้วยใบหน้ายินดี"แม่! ไม่ต้องไปรบกวนพี่เขาหรอกค่ะ แค่ต้องมาแต่งงานกับเอวาพี่เขาก็ลำบากใจจะแย่"เธอแก้ต่าง"ไม่อึดอัดเลยครับ พ่อแม่ว่าดีพี่ก็ว่าดี ใช่ไหมครับคุณพ่อคุณแม่"เขาหันไปหาแนวร่วมเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาช่วย เห็นทีงานนี้คงต้องอยู่ข้างเดียวกันกับพ่อแม่เพื่อกำจัดเด็กนี่สินะ คอยดูจะทำให้พ่อแม่ตาสว่างที่เลือกคนผิดให้เขา"ใช่ลูก โอ๊ะวันนี้พูดเข้าหูพ่อแหะ"ท่านประธานอย่างอัครเดชเอ่ยด้วย