วันนี้เป็นวันที่เอวารินทร์นั่งฟังอาจารย์ผู้สอนแต่กลับไม่เข้าหูสักอย่าง ในหัวตอนนี้มีแต่ใบหน้าท่าทางของอัครวินท์ที่มันคอยหลอกหลอน แถมในหัวมีแต่ใบหน้าทะเล้นกะล่อนนั่นอีก หึ่ย! เธอสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้หันมาสนใจการเรียนการสอนตรงหน้าแทน แต่ยิ่งทำกลับยิ่งคิด แล้วยังจูบเมื่อเช้านั่นอีก นายนั่นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย เธอคิด!
"แกเป็นอะไรเอวา ทำไมวันนี้ใจลอยแปลกๆ"เกวรีเอ่ยทักเพื่อนรักขึ้นหลังจากที่เลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อย "เปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าอยู่ๆ ชีวิตของฉันต้องไม่เป็นสุขอีกต่อไป ฉันจะทำยังไงดี" "แล้วทำไมต้องไม่เป็นสุข?" "ก็ เอ่อ...ว่าที่สามีในอนาคตของฉันน่ะสิ ฉันว่าเขาต้องแกล้งปั่นหัวฉันแน่ๆ" "แกก็ปั่นหัวคืนไง อย่าไปยอม แกมันเลือดนักสู้อยู่แล้ว ปกติก็ไม่ยอมคนอยู่แล้ว เอาให้หนักเลยแก เชื่อฉัน" "เล่นมาเล่นกลับไปเลยดีม้ะ" "ใช่ จัดหนักๆ ไปเลยเพื่อน"ผ่านไปไม่นานมากนัก เฟอร์รารี่สีแดงก็แล่นตรงเข้ามาจอดอยู่ข้างหน้าร่างบอบบางอย่างเอวารินทร์และเพื่อนที่กำลังอ้าปากค้างกับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ราคาแพงหูฉีก
"ฉันไปนะ"เอวารินทร์หันมาบอกเพื่อนรักที่ยังตะลึงอยู่ไม่หาย "ดะ...เดี๋ยว...เขามารับแกหรอเอวา" "อืม คำสั่งของแม่เขาอ่า"พูดจบเธอก็เปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งทันที "หิว!"อัครวินท์เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ "บอกฉันทำไม?" "ก็ฉันไม่มีตังค์ แม่ยึด เพราะฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบ" "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน"เธอถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจว่าต้องรับผิดชอบทำไม มันไม่ใช่หน้าที่ที่เธอต้องมารับผิดชอบเลย "ก็อีกหน่อยเธอก็ต้องมาเป็นเมียฉัน" "ที่นายโดนยึดเงินก็เพราะทำตัวเอง ใช้เงินเปลืองเอง" "..."นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันยังบ่นขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดสภาพถ้าเป็นเมียจริงๆ ยัยนี่คงบ่นเขาจนหูชาแน่ๆ เขาคิด "จอดร้านข้างหน้าและกัน มารับแล้วเป็นภาระฉันทีหลังไม่ต้องมานะ" "แล้วเธอจะบ่นทำไมเนี้ย แค่เลี้ยงข้าวเอง" "..."ร่างบางไม่สนใจคำพูดของอัครวินท์ เปิดประตูลงไปนั่งร้านไก่ย่างส้มตำทันที ถึงเวลาเอาคืนแล้วเอวา เอวารินทร์กล่าวในใจ "ร้านนี้เนี้ยนะ นั่งเข้าไปได้ไง"ร่างสูงมองไปรอบๆ ร้าน ที่มีโต๊ะนั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ ตั้งแต่เล็กจนโตมา ไม่เคยมานั่งร้านข้างทางแบบนี้เลย กินอาหารภัตตาคารหรู5ดาวตลอด ถ้าร้านข้าวข้างทางก็เคยบ้างบางครั้งแต่ก็ไม่เคยมานั่งกินที่ร้านแบบนี้ "ถ้าหิวก็อย่าบ่น นั่งลง มันกินได้ ไม่ตาย!"เอวารินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "เธอแกล้งฉันป้ะเนี้ย?" "ฉันจะแกล้งนายไปทำไม ฉันอยากกิน" "หนูเอวา วันนี้รับอะไรดีลูก"คุณป้าเจ้าของร้านเอ่ยถามพร้อมกับเตรียมจดเมนูด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต้อนรับเธออย่างดี "ป้าดา วันนี้เอวาเอาน้ำตกหมู ตำไทยไข่เค็ม ไก่ย่าง ตับย่าง...อืม...ต้มแซ่บกระดูกอ่อนค่ะ...แล้วก็ข้าวเหนียว2ค่ะป้า"ป้าดาพยักหน้าพร้อมกับเดินไปทำตามเมนู "สั่งเยอะขนาดนี้กินทั้งหมู่บ้านหรอ?" "พูดมาก ไม่กินก็ไปรอที่รถ"เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก จากนั้นก็ลุกไปหยิบแก้ว เปิดถังแล้วตักน้ำแข็งใส่แก้ว พร้อมกับหันไปหยิบหลอดมาเสียบไว้แล้วก็ไม่ลืมที่จะหยิบเป๊ปซี่ขวดใหญ่มาอีก1ขวด ซ่าส์! เสียงน้ำอัดลมเย็นๆ เมื่อเปิดฝาออก แค่ได้กลิ่นก็สดชื่นแล้ว เอวารินทร์รินน้ำอัดลมสีดำลงแก้วแล้วส่งให้หนุ่มหล่อตรงหน้าที่เอาแต่จับจ้องทุกอิริยาบถของเธออย่างกับถูกสะกด ร่างบางเมื่อส่งแก้วให้เขาแล้วก็หันมาตั้งใจรินให้ตัวเองก่อนจะก้มลงดูดพร้อมกับทำหน้าสดชื่น "อ๊าส์! สดชื่น!" "ขนาดนั้น?"อัครวินท์เลิกคิ้วมองเธอพร้อมกับเอ่ยถาม "ลอง!"ว่าแล้วเธอก็จับแก้วขึ้นไปจ่อที่ริมฝีปากหยักสีแดงระเรื่อของเขา อัครวินท์ก้มลงดูดตามที่เธอบอก "อ๊าส์ สดชื่นจริงด้วย"เมื่อความซู่ซ่าแล่นลงไปบาดลำคอพร้อมกับรสชาติหวานแถมบวกกับความเย็นทำให้สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งอากาศร้อนๆ แบบนี้ดูดรวดเดียวมันกระปี้กระเป่าอย่าบอกใคร "เป็นไง?"เอวารินทร์ถาม "ก็...ดี" "อร่อยก็บอกอร่อยจะฟอร์มทำไม ชีวิตต้องซับซ้อนขนาดนั้นเลย" "เธอนี่เป็นคุณหนูจอมปลอมป้ะเนี้ย"เขาถามอย่างไม่เข้าใจ ฐานะบ้านเธอก็รวยเกือบเทียบกับเขาแต่ทำตัวติดดิน ไม่ติดหรูเลยสักนิด ต่างจากแฟนของเขาไม่เคยไปนั่งกินอะไรข้างทาง จะกินก็ต้องจองร้านอาหาร ต้องวิวหลักล้าน หรือไม่ก็กินอาหารบนห้าง "รวยจำเป็นต้องกินของแพงด้วยหรอ" "ก็ปกติไหม?" "มาแล้วจ่ะหนูเอวา"ป้าดาเดินมาพร้อมอาหารที่สั่งไปทั้งหมด ก่อนจะยกจานที่อยู่ในถาดจัดวางไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ "ขอบคุณค่ะป้าดา เอวาจะกินให้หมดเลยค่ะ"เธอส่งยิ้มกว้างให้ป้าดา "กินเยอะๆ นะลูก วันนี้ป้าทำรสชาติที่หนูชอบเลยนะ"ป้าดากล่าวบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้สาวร่างบางหน้าหวานเฉี่ยวอย่างเอวาริทร์ ก่อนที่จะเดินไปรับออเดอร์โต๊ะอื่น "น้ำลายไหลแล้ว"เธอกล่าวเมื่อกลิ่นมะนาว กลิ่นหอมจ้าวคั่ว เครื่องเทศปะทะเข้าจมูกทำเอาน้ำลายสอกันเลยทีเดียว "..." "นั่งมองทำไมไม่กินล่ะ ไหนว่าหิว" "ก็...เธอกินน่ากลัวอ่า เหมือนปอปลงฉันเลยไม่กล้าแย่ง"พูดจบเขาก็ใช้ส้อมจิ้มไก่ย่างฉ่ำๆ มากัด พร้อมกับใช้ส้อมจิ้มข้าวเหนียวที่กว่าจะแคะออกมาได้ก็ต้องใช้ความพยายาม "ใช้มือ!" "ไม่เอา เดี๋ยวมือเปื้อน" "เปื้อนก็ล้าง มันยากตรงไหน ใช้มือจกข้าวเหนียว จิ้มๆ ฉีกไก่ เอาเข้าปาก แค่นี้!"เธอบรรยายแต่ก็ไม่วายสาธิตให้เขาดูเป็นตัวอย่าง "อื้ม..." "เป็นไง อร่อยล่ะสิ อร่อยก็กินเยอะๆ แล้วก็อย่าทำตัวให้เป็นภาระฉันอีก" "นี่ แค่เลี้ยงข้าวมื้อเดียว มันเป็นบุญคุณอะไรขนาดนั้น" "งั้นก็ไม่ต้องกิน!"ไม่พูดเปล่าแต่มือเอื้อมจะไปหยิบกระติ๊บข้าวเหนียวคืน แต่ก็ถูกมือหนานั้นยกขึ้นหนีซะก่อน "อื้ม...ก็ได้"จากนั้นทั้งสองคนก็นั่งกินกันจนหมด ราวกับคนที่หิวโหยมาสามวัน อัครวินท์ถูกใจรสชาติอาหารที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง ไม่เคยได้สัมผัส แต่เขาก็ชอบและประทับใจกับรสชาติอาหาร แถมยังได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เธอไม่คิดว่าคนอย่างเอวารินทร์จะมีให้เห็น เธอดูเป็นตัวเอง ไม่ประดิษฐ์ ดูเป็นธรรมชาติหน้ามอง ไม่รู้ว่าทำไมแต่การกระทำของเธอวันนี้มันทำให้เขารู้สึกว่าอยากรู้จักเธอมากกว่านี้ "เท่าไหร่คะป้าดา" "350จ้า" "นี่ค่ะป้า 350พอดีค่ะ"จากนั้นก็เดินนำร่างสูงไปที่รถ "ทำไมถูกจัง ไม่มีติ๊บให้ป้าเขาเลยหรอ?"เขาเอ่ยถามเพราะปกติเขากินอาหารทีหลักหมื่นไม่เคยกินหลักร้อยสักครั้ง แถมนี่ตั้งหลายอย่างราคาแค่นี้เองหรือ "มีเงินมากนักหรอ เขาขายของเขาก็บวกกำไรของเขาแล้ว อย่าให้ติ๊บคนอื่นจนเคยตัว เงินไม่ใช่กระดาษ ใช้ทุกบาทให้มีคุณค่า" "แต่มันเป็นน้ำใจ" "น้ำใจที่เอาไปให้คนอื่นใช้เป็นร้อยล้านแบบนายน่ะหรอ" "ไม่ใช่เรื่องของเธอ" "การใช้เงินของฉันก็ไม่ใช่เรื่องของนายเหมือนกัน" "เมื่อไหร่จะเลิกเรียกนายสักที ฉันเป็นพี่เธอตั้ง5-6ปีนะ" "ไม่น่าเคารพ ไม่อยากเรียก อ้อฉันจะเรียกต่อหน้าแม่นายเท่านั้น และไม่ต้องมาบังคับฉันเพราะฉันไม่ใช่ลูกน้องนาย เข้าใจ๊?"เธอกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถโดยไม่สนใจเขา "เธอนี่มัน...หึ่ย"ถึงจะหงุดหงิดที่เธอไม่ฟังเขาเลย แต่ก็เดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วขับออกไปทั้งอย่างนั่น ภายในรถที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำจนร่างบางเริ่มรู้สึกหนาว จึงได้แต่กอดอกตัวเองแม้จะช่วยได้เพียงนิดแต่ก็ยังดีกว่าเดิม พรึ่บ! แต่อยู่อัครวินท์ก็โยนเสื้อสูทมาคลุมร่างเธอไว้ เธอจึงหันไปมองข้างกายที่เอาแต่จับจ้องถนนทำเป็นไม่สนใจเธอ "อะไร?" "ก็เห็นว่าหนาว ใช้ห่มไปก่อน" "ขอบคุณนะ" "หูฝาดหรือเปล่าเนี่ย เธอเนี้ยนะพูดขอบคุณ"เขากล่าวอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเอง ปกติเอาแต่รบกับเขาปากคมอย่างกับกรรไกร อยู่ๆ มีมารยาทกับเขาด้วย "นี่นาย! ฉันมีมารยาทพอ"พูดจบก็กระชับเสื้อขึ้นมาห่มไว้แล้วหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างและแล้วความเงียบก็เข้ามาปกคลุม จนในเวลาต่อมาเธอก็ผล็อยหลับไปเมื่อขับรถมาจนถึงคอนโดแต่ร่างบางข้างๆก็ยังไม่ตื่น เขาจึงสะกิดเพื่อปลุกเธอ แต่เมื่อหันไปมอง ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก สายตาคมๆนั้นจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานเฉี่ยว ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูไร้ที่ติไปจนหมด ตาพริ้มที่หลับตาลงนี้มีขนตาแพงอนอย่างเป็นธรรมชาติ คิ้วเรียวเส้นสวย จมูกโด่งเชิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าของร่างเป็นคนหัวรั้น ปากบางน่าจูบสีแดงระเรื่อ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนมากๆ ขัดกับวันที่เธอไปเที่ยวคลับ แต่เขาดูเหมือนจะชอบเวลาเธอไร้เครื่องสำอางค์มากกว่า เพราะมันดูสวยแบบสดใสดี"เวลาสงบปากสงบคำคงจะน่ารักที่สุดแล้วละมั้ง?"เขากล่าวออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าร่างบางข้างๆเขานั้นจะตื่น"ถ้าไม่ติดที่มีแฟน วันนั้นฉันคงจัดเธอไปแล้ว"ใครมันจะอดใจไหว การหักห้ามใจตัวเองในวันนั้นมันต้องใช้ความพยายามแค่ไหน ต้องเดินเข้าห้องน้ำกี่ครั้งเพื่อปลดปล่อยความทรมานนั้นโดยที่คนร่างบางนั้นไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆเลย กว่าจะข่มตาให้หลับลงไปได้ในวันนั้นก็เกือบสว่างผ่านไปนานเกือบชม.ร่างบางก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่หันมาอีกทีก็เห็นว่าร่างหนาข้างๆนั้นก็หลับเช่นกัน เธอมองออกไปด้านนอกก็พบว่าถึงคอนโดของเธอแล้ว แล้วทำไมเขาไม่ปลุกเธอล่ะเนี่ย บ้าจริง!
น้ำใสๆไหลอาบแก้มไม่ใช่เสียใจที่เขาพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป แต่เขาตั้งใจที่จะย่ำยีสิ่งที่เธอหวงแหนที่สุดต่างหาก เขาไม่ให้เกียรติเธอเลย แถมยังเห็นเป็นเรื่องล้อเล่นและหลอกเธอ เขามันคนหลอกลวง ไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด ได้!!ในเมื่อไม่ให้เกียรติกันต่อไปเธอก็จะไม่ให้เกียรติเขาเช่นกัน เขาพรากสิ่งที่หวงเเหนจากเธอไป ต่อไปถึงตาเธอบ้าง และไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมเป็นผู้หญิงที่มีหลายผัวเด็ดขาด ในเมื่อเขาได้เธอแล้วเขาก็จะต้องเป็นของเธอด้วยเช่นกัน ไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหน เธอจะจัดการไปให้หมด! ถึงตาที่เธอจะต้องพรากของหวงของเขาบ้างหมับ!หลังจากที่ร่างสูงชำระล้างตัวเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นมานอนข้างๆเธอพร้อมกับโอบรั้งเอวร่างบางที่นอนหันหลังให้เขามากอดเอาไว้พร้อมกับซุกหน้าหล่อเหลานั้นไปที่ซอกคอหอมๆของเธอก่อนที่จะหลับไปเช้าวันต่อมา...ร่างหนาตื่นขึ้นมาพร้อมกับคลำหาร่างของเอวารินทร์ที่กอดไว้ตลอดคืน แต่หากมีเพียงความว่างเปล่า เธอหายไปไหนแล้ว? จากนั้นก็รีบลืมตาขึ้นมาแล้วลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง"เอวา...เอวา!..."ไร้ซึ้งเสียงตอบรับใดๆ เขาจึงรีบลุกจากเตียงแล้วกำชับผ้าขนหนูมาพันรอบเอวเอาไว้ ก่อนที่จะเดินหาเธอ แต่ก็ไม่อยู่
"ออกไปเที่ยวดีกว่า!"พูดจบเธอก็ลุกขึ้นแต่งตัว แล้วทักหาเพื่อนในกลุ่มอีก2คนทันที@ไอริสตาร์คลับหญิงสาวร่างบางในชุดเดรสสั้นสีดำคล้องคอโชว์แผ่นหลังขาวเนียน ผมดัดลอนสยายถึงกลางหลัง ใบหน้าสวยเฉี่ยวปนเซ็กซี่ถูกสายตาหลายคู่จับจ้องอย่างกับจะกลืนกิน สายตาเป็นประกายมองหาเพื่อนๆที่นัดกันมาดื่มในค่ำคืนนี้"นึกยังไงออกมาแฮงค์เอาท์"จีโน่เอ่ยถามเพื่อนสาว"ฉันเหงา คิดถึงพวกแก"เธอแก้ตัวทั้งที่ความจริงแค่เครียดแต่ไม่อยากเอ่ยบอกออกไปตรงๆ"ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเรียน ฉันก็เบื่อเหมือนกัน"เกวรีกล่าว"เออ ใช่...ออกมาดื่มกันบ้าง วันนี้จะเมาอีกไหมเอวา"ครั้งนี้จีโน่เสริม"ขอเมา ได้ไหมเพื่อน"เธอกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆ"เค...เดี๋ยวฉันดูแลเอง"จีโน่ตอบ"สรุปเมากันหมด นอนร้านไม่เอานะแก"เกวรีแซว"ชนดีกว่าไม่พูดเยอะ"ว่าแล้วเอวารินทร์ก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับชนแก้วเพื่อน ก่อนที่จะกระดกจนหมดแก้ว โดยมีสายตาของเพื่อนจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียวอย่างรู้ชะตากรรมอีกด้าน..."ไหนว่าวันนี้แฟนมึงว่าง ปกติอยู่กับยัยนั่นไม่ใช่หรอทำไมถึงออกมา"ปราณเอ่ยถามเพื่อนที่เอาแต่ทำหน้าเซ็งๆ"เออจริงทำไมวันนี้มึงออกมา"คิมหันต์เองก็สงสัยเพราะ
เมื่อมาถึงคอนโดของเอวารินทร์เธอก็เข้าไปอาบน้ำทันที กลิ่นกายหอมๆ ยิ่งอาบน้ำใหม่ๆ ยิ่งทำให้เขาคิดเตลิดไปไกล น้ำตาลใกล้มดแบบนี้จะหักห้ามใจอย่างไรกัน นี่เขาเอาตัวเองมาทรมานงั้นหรอ"พรุ่งนี้วันเกิดพ่อฉัน แม่บอกให้ไปก่อนเที่ยง เดี๋ยวจะพาไปซื้อชุดสวยๆ"อยู่ๆ ร่างสูงก็เอ่ยบอกเธอที่กำลังนั่งเช็ดผมอยู่ที่หน้ากระจก และทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินเขา"...""ได้ยินไหมเนี้ยเอวา""อืม...ได้ยินแล้ว"เธอตอบเสียงนิ่ง"จะดื่มต่อไหม?""ไม่ ฉันอาบน้ำแปลงฟันแล้ว""งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ"จากนั้นเขาก็เดินมาคว้าผ้าเช็ดตัวของเธอที่กำลังเช็ดผมอยู่อย่างถือวิสาสะจนเธอถลึงตาใส่เขาด้วยความไม่พอใจ"ไร้มารยาท!"เมื่อร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอก็สบถออกมาอย่างไม่พอใจ เห้อ นี่ต้องทนเขาไปถึงเมื่อไหร่กัน นิสัยเสียจริงๆ เลย ได้! หนามยอกเอาหนามบ่งนายต้องการอะไรฉันจะทำตรงข้ามให้หมดทุกทางเลยคอยดู จากนั้นเธอก็ยกยิ้มน้อยๆ เมื่อความคิดพิเลนๆ แล่นเข้ามาในหัว คิดไปไกลส่าตัวเองกำลังแก้เผ็ดนายนั่นอยู่ หึ!ฟ่อด!"นี่นาย!"เมื่อร่างสูงอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็เหลือบไปเห็นคนตัวเล็กนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนกำลังคิดอะไรสนุกๆ อยู่ก็เ
วันต่อมา...@ห้างสรรพสินค้าxxxหนุ่มหล่อราวเทพบรรดาลปั้นแต่งย่างกายเข้ามาในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านใจกลางเมืองโดยข้างๆ มีสาวสวยน่าตาสวยหวานเฉี่ยวยิ่งมองยิ่งสะกดทุกๆ สายตาให้มองดั่งต้องมนต์ ทั้งคู่ช่างดูเหมาะสมกันมาก ต้องเป็นลูกรักพระเจ้าแน่ๆ ถึงได้หน้าตาดีเกินหน้าเกินตาคนอื่นๆ ในที่แห่งนี้"ขอโทษนะคะ ชุดนี้มีไซส์เอ็มไหมคะ"เสียงหวานใสเอ่ยถามพนักงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส"มีค่ะรอสักครู่นะคะ"จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปหาสินค้า ส่วนเอวารินทร์ก็เดินเลือกชุดอื่นๆ ไปพรางๆ เพื่อรอพนักงานสาว"นี่ นายจะเดินตามฉันไปถึงเมื่อไหร่ ทำไมไม่ไปเลือกของของนาย ต่างคนต่างเลือกแล้วค่อยไปเจอกันที่รถ"คำพูดของเธอทำเอาคนร่างสูงหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจ ผู้หญิงนับร้อยนับพันต้องการที่จะให้เขาอยู่ข้างกายมากมาย จะมีก็แต่เธอที่เอาแต่ไล่เขา"ชุดนี้สวยนะเหมาะกับเธอดี"อัครวินท์ไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูด แต่กลับทำเป็นเฉไฉหยิบชุดเดรสสีหวานๆ รัดรูปยาวไปถึงตาตุ่มมายื่นให้เธอแทน"ฉันไม่ได้ไปบวชชีนะ ยาวขนาดนี้ใครจะใส่"เธอตอบสะบัดปลายเสียงพร้อมกับหยิบชุดนั้นไปแขวนไว้ที่เดิม"ก็หัดใส่ยาวๆ บ้างสิ ชอบนักหรือไงใส่น้อยชิ้นให้พวกโ
หลังจากที่รับประทานอาหารกันจนเสร็จ ทั้งคู่ก็กลับมาที่คอนโดและอาบน้ำแต่งตัว อัครวินท์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก่อน ชุดของเขาคือเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยสูทสีครีมเข้าคู่กับกางเกงสแลกซ์สีเดียวกัน เขานั่งเลื่อนจอสี่เหลี่ยมรอเอวารินทร์อยู่บนโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่นไปพรางๆ จากนั้นไม่นานเธอก็เดินออกมาด้วยชุดปาดไหล่สีครีมวิบวับความยาวแค่หน้าขา ผมสีน้ำตาลอ่อนดัดลอนสวย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ราคาแพงที่แต่งเติมไม่จัดมาก ลำคอระหงสวมสร้อยทองคำขาวที่มีจี้รูปหัวใจสองดวงคล้องกัน ล้อมรอบด้วยเพชรน้ำงามหายาก เมื่อเอวารินทร์เปิดประตูออกมา อัครวินท์ก็ระสายตาจากโทรศัพท์ขึ้นมามองเธอ สายตาคมกริบกวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่เธอสวยราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายก็ไม่ปาน สวยจนเขาระสายตาจากเธอไม่ได้ เหมือนถูกมนต์สะกดเอาไว้ให้มองอยู่อย่างนั้นเป็นนาที จนร่างบางที่ถูกจ้องมอง ต้องกระแอมออกมาแก้เขิน "อะแฮ่ม!"สติของร่างสูงกลับมาแต่เมื่อมองดูอีกทีก็ต้องขมวดคิ้วทันที เพราะนอกจากจะโชว์ไหล่ หน้าอกอวบอิ่มนั้นแล้ว มันยังสั้นจนเวลาก้มมองเห็นถึงไหนต่อไหน ไม่รู้ว่าจะใส่สั้นอะไรนักหนา หน้าหงุดหงิดชะมัด! "นี่เธอจะใส่สั้นไปไหน ไม่เห
เมื่อเข้ามาในภายห้องรับรอง อัครวินท์ก็เดินตรงไปนั่งโซฟาตัวยาวอย่างสบายใจ พร้อมกับหยิบรีโมทมากดเปิดดูสิ่งที่ตนสนใจ ภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นมีโซฟาตัวยาวและโต๊ะญี่ปุ่นวางอยู่กลางห้องครบเซต ตู้เย็น แอร์ เครื่องชงกาแฟ ทีวี และห้องน้ำขนาดพอดีกับห้อง"มานั่งนี่!"อัครวินท์ตบโซฟาเบาๆ"..."ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินไปนั่งแต่โดยดี ระหว่างรอให้อาหารมาเสริฟก็เลื่อนดูจอสี่เหลี่ยมเครื่องหรูไปพรางๆ~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~'ปาริฉัตร'เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงดังขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าของเครื่องจะไม่กดรับเสียที จนร่างบางต้องหันมามอง"รับสักทีสิ จะปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้นหรอ ถ้าไม่รับก็ตัดสายไปรำคาญ!"เธอกล่าวด้วยความหงุดหงิดที่เขาไม่ยอมกดรับเสียที"รับให้หน่อยสิ!""ฉันไม่ได้เสียมายาทเหมือนนายนะ ที่ชอบถือวิสาสะหยิบนู้นหยิบนี่ตามอำเภอใจตัวเองน่ะ""รับให้หน่อย"เขาไม่เถียงเธอที่บ่นใส่เขา แต่กลับบอกอีกรอบเพื่อให้สาวน้อยร่างบางนั้นรับให้"แม่ดาราคนนั้นนี่!"เธอเลิกคิ้วถามเมื่อหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา"อืม..."แต่แล้วเธอก็กดรับสาย และเส
เมื่องานเลี้ยงจบลงแขกผู้มีเกียรติทุกคนในงานก็ต่างแยกย้ายกันกลับ เหลือก็แต่ครอบครัวของเอวารินทร์และอัครวินท์ที่ยังคงอยู่เป็นกลุ่มสุดท้าย"สุขสันต์วันเกิดอีกทีนะคะคุณพ่อ"เอวารินทร์กล่าว"นี่ก็ดึกมากแล้ว พาน้องกลับบ้านเลยก็ได้ซัน""เอ่อ...วันนี้เอวาจะนอนคอนโดครับพ่อ พรุ่งนี้มีเรียนของอยู่คอนโด ถ้ากลับบ้านเดี๋ยวพรุ่งนี้จะวกไปวกมา""อ้อ งั้นหรอ งั้นก็ไปส่งน้องที่คอนโด แล้วอย่ารังแกน้อง ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่"อัครเดชคาดโทษเจ้าลูกชายตัวแสบ"อย่าดื้อกับพี่เขานะเราน่ะ"คุณหญิงพัชรินทร์ปรามลูกสาว"แม่~"ทำไมทุกคนต้องไว้ใจให้นายนี่อยู่กับเธอด้วย เจ้าเล่ห์ กะล่อน แถมยังหื่นกามอีก"ฝากน้องด้วยนะซัน ถ้าน้องดื้อจัดการได้เลยนะ แม่อนุญาต""แม่!"นี่ไง แม่นี่ตัวดีเลย เปิดทางให้คนแบบนี้มารังแกลูกสาวของตัวเองได้ยังไงกันนะ"ครับแม่ ผมจะดูแลน้องเป็นอย่างดีเลยครับ แม่ไม่ต้องห่วง ผมจะไปรับไปส่ง รับรองครับ"อัครวินท์ตอบพัชรินทร์อย่างสุภาพ แหมทำตัวเป็นลูกเขยที่ดี เอาหน้าชัดๆ อยากให้เห็นเบื้องหลังความร้ายกาจของอีตานี่เสียจริงๆ เธอกล่าวในใจจากนั้นทั้งคู่ก็ออกมาจากงานเลี้ยง ภายในรถที่เงียบอีกแล้ว มันชวนอึดอัดทุกครั้
ริมฝีปากหยักกัดขบเม้มตามซอกคอ ตามเนินอกจนเป็นรอยฟัน ไม่ว่าเธอจะร้องห้ามเท่าไหร่เขาก็ไม่คิดที่จะหยุดความป่าเถื่อนลงได้"พี่ซัน...เอวาไม่หนีแล้ว...อึก...ขอร้องปล่อยเอวาก่อนได้ไหม"เสียงขอร้องสั่นเครือ ทำเอาร่างสูงชะงักไปชั่วครู่"ไม่ทันแล้ว...""ไม่ทำได้ไหม...""แต่พี่มีอารมณ์...มันลงไม่ได้""อ่อนโยนกว่านี้ได้ไหม??""..."ร่างสูงเงียบไป"นะคะ...เอวาไม่ชอบให้พี่ซันรุนแรงแบบนั้นเลย"เสียงหวานออดอ้อนด้วยแววตาน่าสงสาร เรียกความเห็นใจจากร่างสูง"ถ้าอยากให้อ่อนโยน...ก็ทำให้พี่พอใจ""ค่ะ...ปล่อยมือเอวาก่อนสิคะ"มือหนาค่อยๆ คลายออกเมื่อเสียงหวานเอ่ยขอ เอาอีกแล้ว สุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองที่ใจอ่อน ขนาดจะดุเธอ ยังใจอ่อนกับอีแค่คำอ้อนหวานหู เขานี่มันกระจอกชะมัด"...""นอนลงมาสิคะเอวาจะทำให้"ร่างสูงนอนราบลงบนที่นอนอย่างว่าง่าย กลับกลายเป็นเกมส์พลิกซะงั้นมือเล็กเอื้อมไปถอดกางเกงชั้นในราคาแพงที่มันบดบังความใหญ่โตเกินขนาดของเขาออก จากนั้นก็คว้าหมับเข้าไปรูดท่อนลำที่มันตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าสองสามครั้งปากเล็กครอบครองท่อนเอ็น เรียวลิ้นเล็กๆ ละเบียดละไมตวัดไปมาที่ปลายหัวหยักนั่นเบาๆ"อ๊าส์~"เสียงครางกดต
"ลองทานนี่ดูสิเอวา"อัครวินท์ตักปลาหมึกผัดไข่เค็มของโปรดเธอให้ร่างบางพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้"นี่กำลังทำคะแนนอยู่ใช่ไหมคะ?"ร่างบางจ้องเขม็งอย่างรู้ทัน"อืม...จะว่างั้นก็ได้""วันนี้ไม่เข้าประชุมหรอคะ??""ไม่ครับ วันนี้พี่จะอยู่กับเอวา...พ่อบอกให้อยู่ง้อเอวาให้สำเร็จ...วันนี้พ่อเลยจะประชุมแทน""นี่บอกพ่อเลยหรอคะ?"เธอทำเสียงไม่พอใจกับความขี้ฟ้องของเขา ไม่คิดเลยว่าจะทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้ หาตัวช่วยซะได้"ก็ใครบอกให้เอวาตีตัวออกห่างจากพี่ล่ะ""แต่นี่มันเป็นเรื่องของคนสองคนนะคะ พี่ซันก็รู้ว่าครอบครัวเราอยากให้แต่งงานกัน สุดท้ายถ้าไม่ยอมอยู่ด้วยกันเขาก็หาทางมาบีบบังคับเราอยู่ดี แล้วแบบนี้เอวาก็ไม่รู้น่ะสิว่าจริงๆ แล้วที่อยู่ด้วยกันเนี้ยเพราะความเคยชิน ไม่ใช่เพราะรัก"ร่างบางพยายามอธิบายให้เขาได้เข้าใจ"อยู่ด้วยกันทุกวันก็รักได้นิ ขนาดพี่ยังรักเอวาเลย""นั่นมันพี่ซันไม่ใช่เอวา เอวาอยากรักพี่ซันเพราะใจเอวาเอง ไม่ใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องรัก...เอวาอิ่มแล้วค่ะ"เมื่อถูกขัดใจจากนั้นเธอก็รวบช้อนส้อมแล้วเดินเข้าห้องไปทันที"เฮ้อ...เอาไงดีล่ะไอ้ซัน...งานหยาบไหมล่ะมึง"คนตัวสูงเอามือมาลูบหน้าเพื
ทันทีที่รถขับเข้ามาในลิฟท์ ขณะที่ลิฟต์ค่อยๆ พุ่งทะยานขึ้นไปสู่ชั้นสูงสุดของตึก ภายในรถก็ยังคงเงียบกริบไม่มีเสียงของใครเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินร่างบางกอดอก แล้วนั่งหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างเพราะไม่อยากที่จะมองหน้าของคนขับข้างกาย ให้ยิ่งรู้สึกมัวหมองใจ"นี่กะจะไม่คุยกันเลยใช่ไหม...ไม่คิดจะให้พี่อธิบายอะไรเลยหรอ""เลิกพูดคำว่าพี่ได้แล้ว ฉันมีพี่ชายคนเดียว""เอวา!!!"ร่างสูงตวาดลั่นรถกับคำพูดของเธอที่เอาแต่พยศ"...""เฮ้อ..."ร่างสูงถอดหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนที่จะพูดประโยคต่อไป "ผู้หญิงพวกนั้นเป็นผู้หญิงเก่าๆ ที่พี่เคยมีอะไรด้วยจริง แต่มันนานแล้ว""บอกฉันทำไม...""เอวา...มีเหตุผลหน่อยดิ...แล้วก็ฟังกันบ้างได้ไหม??""...""ผู้หญิงพวกนั้น...พี่มีอะไรด้วยครั้งเดียวตอนเหงาๆ สมัยที่ยังคบกับฉัตร...""ขนาดมีแฟนยังไปเอากับคนอื่น...แล้วฉันจะเชื่อใจได้ไงว่าคบกับฉันอยู่แล้วคุณจะไม่ไปเอากับคนอื่นเหมือนที่เคยทำกับแฟนเก่าคุณ!!""ก็ตอนนั้นฉัตรเพิ่งเข้าวงการ แล้วก็ไม่ค่อยกลับมา อีกอย่างพี่ก็ไม่เคยออกสื่อเปิดตัวกับฉัตร แล้วฉัตรก็ยอมให้พี่ซื้อกินเป็นครั้งคราวระหว่างที่ฉัตรไม่อยู่""งั้นแปลว่าถ้าคุณไม่อยู่ฉันก็ซื้
ตื้อดึ่งๆ ตื้อดึ่งๆ!!เสียงกดออดหน้าประตูรัวๆ จนเจ้าของห้องต้องรีบลุกไปส่องตาแมวดูว่าใครกันที่ เล่นซนกดรัวๆ แบบนี้"เชี้ย!! พี่ซันมา"เกวรีอุทานบอกเพื่อนเสียงดัง ส่วนเอวารินทร์กำลังหน้าแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ จากตอนแรกกะจะไปที่คลับ แต่เพราะความไม่ชอบคนเยอะแล้วคิดว่าต้องเมาคอพับกันแน่ๆ จึงตัดสินใจซื้อมาดื่มที่ห้องมันซะเลย"อย่าเปิดนะ!!"ร่างบางบอกเพื่อนสาวเสียงแข็ง เนื่องจากเกวรียังไม่เมา"แต่เขากดนานแล้วนะเอวา""ก็ปล่อยเขากดไปสิ เดี๋ยวเมื่อยก็กลับไปเองแหละ"อึก ปึ่ง!เอวารินทร์ยกแก้วแอลกอฮอล์ดื่มรวดเดียวหมด แล้วจัดการเติมใหม่พร้อมกับกระดกเข้าไปอีกแก้ว"โมโหชะมัด...พวกบ้ากาม...เหอะ!!..."เอวารินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด"เอวาใจเย็นๆ แกเมาแล้วนะ"เกวรีแย่งแก้วมาจากมือเพื่อน แล้วกระดกเข้าปากแทน"อยากกินก็เทเองดิเกล...""อ่ะได้..."เกวรีหยิบแก้วอีกใบมาเติมจากนั้นก็ชนกับแก้วอีกใบของเอวารินทร์เพล้ง!!"ชน!!!"อึก!!ทั้งคู่นั่งดื่มกันโดยที่ไม่สนใจ เสียงออดที่ดังสนั่นหวั่นไหวอยู่หน้าห้อง บวกกับเสียงเคาะประตูจนประตูมันจะทะลุเข้ามาอยู่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังคงดื้อนั่งหัวเราะชนแก้วกันอยู่ในห้องอย่างสบ
"ทำไมแฟนพี่สวยจังครับ พี่ชอบเอวาลุคนี้นะ น่ารักดียิ่งมองยิ่งละมุน"ร่างสูงกล่าวด้วยคำพูดหวานๆ เมื่อกลับมาจากบริษัท แล้วเห็นสาวสวยในลุคที่เปลี่ยนไป"ขอบคุณค่ะ"เอวารินทร์ตอบแค่นั้น ก่อนที่จะหันไปสนใจรายการทีวีตรงหน้า แต่แทนที่จะสนใจกลับเหม่อเหมือนคิดอะไรบางอย่างในหัว"ทำไมหน้าเครียดๆ ครับ ไปช็อปปิ้งไม่สนุกหรอ?"ร่างสูงถอดสูทตัวนอกออก แล้วพาดไว้บนเก้าอี้โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เดินมานั่งลงข้างๆ เธอที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง"เอ่อ...เปล่าค่ะ..."ฟึ่บ!!"คิดอะไรอยู่ครับ?"มือหนาคว้าใบหน้าสวยหวานให้หันมามองหน้าเขา"พี่ซันคะ...เอ่อ...คือพี่คิมหันต์เป็นคนดีไหมคะ?""ทำไมถามแบบนั้น!!"ร่างสูงขมวดคิ้มเมื่อเธอถามถึงผู้ชายคนอื่น"คือไม่ใช่แบบที่พี่ซันคิดหรอกค่ะ...ถ้าเอวาบอก...พี่ซันห้ามบอกใครได้ไหมคะ""อื้ม...""คือวันนี้เอวาไปหามิเกลที่คอนโด...แล้วเจอพี่คิมหันต์""พูดจริง??"อัครวินท์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พอเดาสถานการณ์ได้จากเมื่อคืน แค่ไม่คิดว่าจะไวไฟขนาดนี้"ค่ะ...แล้ว...พอไปที่ห้าง...ตอนทานอาหารกับมิเกล...ก็เจอควงสาวใหม่เข้ามากินข้าว...คือเอวาสงสารเพื่อน...กลัวเพื่อนจะคิดมาก""เฮ้อ...มันก็เสือนี่เนาะ...จะเข
ฟึ่บบ!!เสียงม่านสีครีมรูดออก ทำให้แสงที่สาดส่งเข้ามาภายในห้องนอน"อื้อ..."เสียงหนุ่มหล่อครางออกมาเมื่อเอวารินทร์รูดม่านเสียงดังจนมันทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมา"มอนิ่งค่ะพี่ซัน"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ดีแค่ไหน"อารมณ์ดีจังครับ...ตื่นนานแล้วหรอ..."ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับขยี้ตาเบาๆ ปัดความงัวเงียที่ถูกรบกวนในเช้านี้ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้หงุดหงิดร่างบางเลย"สักพักแล้วค่ะ...เบรคฟาสต์ไหมคะ??""ไข่ลวกครับ2ฟอง"คำพูดของร่างสูงทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความเขินทันที"พี่ซันลุกไปล้างหน้าล้างตาเร็ว เดี๋ยวเอวาทำอาหารเช้ารอ""ทำไมวันนี้ อารมณ์ดีจัง...""ไม่ดีหรอคะ??""ดีครับ...ดีแล้ว...พี่ชอบเวลาเอวาอารมณ์ดี""ค่ะ...ไปอาบน้ำนะคะ...เดี๋ยวเอวาทำอาหารรอ...พี่ซันจะได้เข้าบริษัท"จากนั้นร่างสูงก็ลุกออกจากเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำตามคำสั่งของคนตัวเล็ก"เข้าบริษัทกับพี่ไหม??"อัครวินท์เอ่ยถามระหว่างทานอาหารเช้า"ไม่ดีกว่าค่ะ...วันนี้เอวาจะไปช้อปปิ้ง...นัดกับมิเกลไว้..."คิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส
"คุณปล่อยฉันนะ แล้วออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!"เกวรีโวยวาย พร้อมกับสะบัดข้อมือให้พ้นจากพันธนาการของคนตัวโตกว่า แถมแรงยังเยอะกว่าเธออีกหลายเท่าจนไม่สามารถสลัดเขาออกได้เลย"เรียกพี่คิม...ทำไมเรียกฉันพี่ไม่ได้...ทีไอ้ปราณยังเรียกพี่ได้เลย"เขาหงุดหงิดเมื่อได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกเขาแคว่ก!!"กรี๊ดดดดดด!"ร่างบางกรีดร้องทันทีที่คนตัวโตฉีกเสื้อผ้าน้อยชิ้นของเธอแล้วโยนลงพื้นไปอย่างไม่ใยดี"มานี่...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าตัวเธอมีแค่ฉันที่ได้""ไม่...ไม่นะ...ปล่อย""แล้วต่อไปนี้ ถ้าใครแตะต้องตัวเธอได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มแบบไอ้จืดนั่นแน่...ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!"เขาข่มเสียงต่ำ"คุณจะทำอะไรเพื่อนฉัน""เพื่อน?? ยังกล้าเรียกว่าเพื่อนอีกหรอ มันจะเคลมเธอยังจะเรียกมันว่าเพื่อนอีกหรอ?""นี่ ออกไปนะ...อย่ามาทำอะไรบ้าๆ กับฉันนะ...""วันนั้นเมา...วันนี้มีสติ...เธอรู้ไหมวันนั้นเธอทำฉันค้างแค่ไหน??""ค้างอะไรของคุณ?"ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของเขา"ก็เธอเสร็จ แต่ฉันยังไม่เสร็จ!! เพราะฉะนั้นวันนี้เธอต้องรับผิดชอบฉัน!!"พูดจบเขาก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอของร่างเล็ก แม้เธอจะย่นคอหลบหลีกใบหน้าหล่อเหลาของคิมหันต์แค่ไหนก็ไม่พ
"มิเกลกลับยังไงครับ ให้พี่ไปส่งไหม"ปราณเอ่ยถามร่างบางระหว่างที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันขึ้นรถ"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปส่งเพื่อนผม...ผมดูแลเองได้"จีโน่กล่าวเพราะถึงยังไงถ้าปล่อยให้ไปกับสองคนนี้เขาไม่ไว้ใจ แถมลึกๆ แล้วก็เป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้ด้วย"ค่ะ เกลกลับกับโน่ก็ได้ค่ะ"แม้จะตอบแบบนั้นแต่ก็ปรายตาไปมองคิมหันต์ที่กำลังมองอย่างคาดโทษ"งั้น...เอวากับพี่ซันไปส่งมิเกลก็ได้ค่ะ..."เอวารินทร์เสนอ เพราะดูเหมือนว่าถ้าเกวรีไปกับใครสักคนจะต้องลำบากใจแน่ๆ เธอเลยอาสาที่จะไปส่งเอง"ไม่ต้องหรอกเอวา เราไปส่งเอง...ปกติมิเกลก็กลับกับเราอยู่แล้ว"จีโน่ยืนกรานที่จะไปส่งเพื่อนสาวเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนจีโน่ก็ไปส่งเกวรีตามระเบียบหมับ!!"ขอโทษนะครับ วันนี้กะจะเป็นป๋าซะหน่อย โดนเด็กนั่นตัดหน้าเฉยเลย"อัครวินท์กอดเอวเอวารินทร์จากทางด้านหลังแน่นพร้อมกับซุกๆ ใบหน้าหล่อๆ เข้าที่ซอกคอหอมๆ ที่คุ้นเคย"ไม่เป็นไรค่ะ ทีหลังก็พกเงินสดบ้างนะคะ เพราะเอวาไม่ได้ชอบนั่งทานร้านหรูๆ แบบพี่ซัน""เอวา...พรุ่งนี้ไปดูหนังกันไหม...ไปเที่ยวก็ได้""มาแปลก...พรุ่งนี้พี่ซันต้องทำงาน""ไม่อยากไปทำเลย...อยากอยู่ก
และแล้วสุดท้ายทั้ง6ชีวิตก็มานั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง ร้านโปรดร้านประจำของเอวารินทร์และเพื่อน บรรยากาศที่ร้านตอนนี้มีแค่โต๊ะเขาและโต๊ะของวัยรุ่นข้างๆ แค่นั้น อาจจะเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตี2แล้ว คนเลยไม่ค่อยมี"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่อัครวินท์เท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกันตื้อดึ่ง!!คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหายคิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่มซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อนคิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยกูใส่มันแล้วปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน"พี่ซันคะ""ครับ?"อัครวินท์ตอบเอวารินทร์เสียงหวาน"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงไหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิ