คำว่าคุณเจียง จริงๆแล้วก็น่ากลัวไม่น้อย พอซูชิงได้ยินหัวใจก็กระตุกตามไปด้วย แต่..."คุณเจียงรักประธานจี้มากไม่ใช่หรอ? ทำไมอยู่ดีๆถึงได้ลงไม้ลงมือทำร้ายเขา?"คุณเจียงเป็นคนน่ากลัวก็ใช่อยู่ แต่เขาปฏิบัติต่อประธานจี้ แตกต่างกับที่ปฏิบัติต่อคนอื่นไม่เคยลงโทษประธานจี้ ทั้งยังเชื่อมั่นเขายิ่งกว่าใครๆ ที่สำคัญเมื่อประธานจี้บรรลุนิติภาวะ ก็ยกSให้กับเขาทันทีความรักที่ลำเอียงแบบนี้ แม้แต่ลูกบุญธรรมชายหญิงของคุณเจียงก็ยังไม่ได้รับด้วยซ้ำอาเจ๋อเองก็ไม่รู้จะเล่าสถานการณ์ซับซ้อนในตอนนี้ของSยังไง ได้แต่อธิบายสั้นๆไม่กี่ประโยค"คุณเจียงไม่ให้คุณผู้ชายเข้าไปยุ่งเรื่องของตระกูลจิกับราชวงศ์ แต่คุณผู้ชายไม่ฟัง จะเข้าไปยุ่งให้ได้ ก็เลยทะเลาะกับคุณเจียง..."ซูชิงขมวดคิ้ว "พวกเขาสองคนก็ทะเลาะกันเป็นปกติอยู่แล้วไม่ใช่หรอ? ที่สำคัญครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำการโดยใช้สถานะของคุณเย่ คุณเจียงจะกลัวอะไร?"อาเจ๋อโบกมือ "พูดให้ฟังไม่ถูก เอาเป็นว่าคุณเจียงรับปากว่าให้เขาไปเอาตัวเด็กกลับมาได้ ขอแค่ถ้าได้ตัวเด็กแล้ว ต้องไปสถานที่นึงกับคุณเจียง สถานที่นั้นจะบอกยังไงดีล่ะ หลังจากที่คุณผู้ชายไป ก็จะต้องออกจากองค์กร จากน
แม้ว่าจะแค่แง้มประตูออกมาเพียงเล็กน้อย แต่กลิ่นคาวเลือดที่อยู่ข้างในก็ยังโชยออกมาอย่างล้นหลามเมื่อได้กลิ่นคาวเลือด ซูหว่านก็ตกใจจนแข้งขาอ่อนแรง ทว่ายันร่างกายเอาไว้ ผลักหมอออก แล้วสาวขาเดินเข้าไปซูชิงกับอาเจ๋อกับลำทำความสะอาดคราบเลือดบนพื้น เห็นซูหว่านพุ่งเข้ามา ทั้งสองคนก็ตกใจจนหยุดการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกับบรรดาหมอ"คุณ...คุณซู?"เธอยังไม่ได้กลับหรอกหรอ?ดวงที่ตาคละคลุ้งด้วยน้ำตาของซูหว่าน มองผ่านเลือดบนพื้น ไปยังชายหนุ่มที่หลับสนิทอยู่บนเตียงแผ่นหลังที่แข็งแรงบึกบึน ได้รับการฆ่าเชื้อ ทายา แต่ยังไม่ได้พันแผล รอยมีดเหวอะหวะ สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นผ้าปูที่นอนเบื้องล่างตัวเขา อาจเพราะยังไม่ทันได้เปลี่ยน เต็มไปด้วยเลือดที่รินไหลลงมายังพื้นที่ละนิดเห็นชายหนุ่มที่เย็นชาสูงส่งและเหยียดหยามโลกทั้งใบในเวลาปกติ ตอนนี้กลับอ่อนแอไม่ต่างอะไรกับเด็กคนนึง ซูหว่านก็เสียศูนย์อย่างสิ้นเชิงเธอเดินโซเซมาใกล้เตียง ย่อตัวลง ยื่นมือสั่นเทาออกไปหวังจะลูบบาดแผลนั่น แต่ก็กลัวจะทำเขาเจ็บเธอลูบไล้ไปมาบนอากาศนิดหน่อย จากนั้นวางมือลงบนหลังมือที่เห็นเส้นเลือดเรียงสวยงาม แตะเขาเบาๆเมื่อสัมผัสได้ว่าม
เดิมทีซูหว่านนั้นเศร้ามาก เมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็ถึงกับเหม่อ"คุณบาดเจ็บถึงขนาดนี้ ทำไมยังมีอารมณ์มาคิดเรื่องพรรค์นี้ได้อีก?"ชายหนุ่มที่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดลึก เมื่อเห็นเธอทำหน้าซื่อ พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย ดวงตาแดงก่ำ ก็ถูกปกคลุมด้วยความปรารถนาขึ้นมาไม่น้อยอืม...จู่ๆเขาก็นึกถึงครั้งก่อน ภาพที่กดเธอลงบนพรม ทรมานจนเธอร้องไห้ครางอ้อนวอนออกมา...ลูกกระเดือกเคลื่อนไหวขึ้นลง บริเวณท้องน้อยบีบตัวแน่น แต่ก็ได้แค่จินตนาการ "ถ้าไม่ใช่เพราะบาดเจ็บอยู่ สองสามวันนี้เธอออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้แน่"แค่เห็นหน้าเธอ ก็อยากจะทำเธอทั้งวันทั้งคืน อยากได้ร่างกาย อยากได้หัวใจของเธอ โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล นั่นถึงจะเติมเต็มความปรารถนาของเขาได้ซูหว่านไม่รู้ว่าจะต่อบทสนทนากับเขายังไง เหม่อมองเขาไปหลายอึดใจ จากนั้นเปลี่ยนเรื่อง "กระหายรึเปล่า ดื่มน้ำไหม?"จี้ซือหานกลับสู่อารมณ์ปกติ แล้วส่ายหน้าเบาๆ "หว่านหว่าน ฉันจะให้ซูชิงส่งเธอกลับไปพักผ่อน ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน"เขาไม่อยากให้เธอหักโหมเกินไป ซูหว่านก็เข้าใจดี แต่เขาต้องมีคนคอยดูแล แล้วเธอจะไม่สนใจไยดีได้ยังไง?ซูหว่านยกมือเรียวขึ้นลูบใบหน้าซีดขาวของจ
ซูหว่านไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน พยายามฝืนหนังตาเพื่อเฝ้าเขากระทั่งแสงแรกในยามเช้าสาดเข้ามาทางหน้าต่าง เธอถึงได้เผยความเหนื่อยล้าชายหนุ่มที่ค่อยๆตื่นขึ้น ลืมตาที่สะลึมสะลือคู่นั้น มองหญิงสาวที่เอียงศีรษะเล็กๆพิงอยู่หัวเตียงครึ่งนึงแสงอาทิตย์อ่อนๆอบอุ่น ส่องรอบๆตัว เปล่งออร่าอันแสนอ่อนโยนออกมาแค่ได้มองเธอแบบนี้ อาการเจ็บปวดหลังจากยาสิ้นฤทธิ์ ก็บรรเทาลงไม่น้อยบนใบหน้าขาวชืดของเขา ผุดรอยยิ้มจางๆ คิ้วและดวงตาสวยงามโค้งขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวบางทีอาจเป็นเพราะในใจเป็นห่วงเขามากเกินไป ซูหว่านที่หลับได้ไม่สนิทนัก ก็ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็อยากจะไปลูบหน้าผากของเขาโดยอัตโนมัติทว่าประสานเข้ากับดวงตาระยิบระยับคู่นั้นพอดี แรงปะทะที่เข้าจู่โจมราวกับมีแรงดึงดูด ทำให้ละสายตาออกไม่ได้เขารูปลักษณ์งดงามมากจริงๆ ต่อให้เป็นดวงดาวที่พร่างพราวเต็มท้องฟ้า ก็ไม่อาจเทียบได้ ในใจของเธอนั้น มีแค่เขาคนเดียวที่งดงามจนไม่มีใครเหมือนหลังจากที่เธอมองเขาอย่างอึ้งๆอยู่สักพัก สุดท้ายก็วางมือลงบนหน้าผากของเขา อุณหภูมิปกติ ไม่มีไข้แล้วเธอโล่งใจ แล้วถามเขาด้วยเสียงอ่อนโยน "หิวไหม?"ชายหนุ่มส่ายหน้า
"ประธานจี้เป็นยังไงบ้าง?"เดิมทีอลันอยากไปช่วยดูบาดแผลอยู่ แต่ปกติเวลาที่ประธานจี้ได้รับบาดแผลภายนอก มักจะไม่ให้หมอผู้หญิงเป็นคนตรวจ จะให้ก็แต่หมอผู้ชายตรวจเขาบริสุทธิ์ผุดผ่องมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ยอมให้ใครแตะตัวทั้งนั้น คนที่จะแตะต้องเขาได้ มีแค่ซูหว่าน แต่แบบนี้ก็ดี รักเดียวใจเดียว"ได้รับบาดแผลภายนอกที่ฉกรรจ์มาก แต่ยังดีที่ไม่ได้บาดเจ็บถึงภายใน หมอบอกว่าแค่ทายาบ่อยๆก็จะค่อยๆฟื้นตัวได้""แล้วงานแต่งของพวกเธอจะเอายังไง?"ซานซานขมวดคิ้วถามประโยคนึง วันจันทร์หน้าก็จะเป็นวันวาเลนไทน์แล้ว จี้ซือหานมาบาดเจ็บเอาตอนนี้ จะจัดงานแต่งได้ยังไง?"ตอนนี้เขาได้แค่นอนรักษาตัว เกรงว่างานแต่งงานคงจัดตามกำหนดการเดิมไม่ได้แล้ว อีกเดี๋ยวฉันค่อยคุยเรื่องหาวันกับเขาก็แล้วกัน"ถึงแม้เธอเองก็อยากจะจัดงานตามกำหนดเดิม แต่ในสถานการณ์แบบนี้ จะดึงดันจัดงานแต่งโดยไม่สนร่างกายของเขาก็ไม่ได้มั้ง?ซานซานถอนหายใจ "เห็นทีก็คงได้แต่เปลื่อนวันแล้วล่ะ..."อลันที่อยู่ข้างๆ กลับไม่เห็นพ้องแต่ก็ไม่ได้แสดงออก แค่เลิกคิ้วขึ้น "ไม่แน่ว่าประธานจี้จะยอมเปลี่ยนวัน"ประธานจี้อยากแต่งงานกับซูหว่านมาตั้งหลายปี จะยอมเลื่อนงา
อลันพูดว่า "ซีอี้เรียนมาจิตวิทยาเด็กมาสองสาย เขาเก่งด้านนี้มาก ช่วงนี้ก็ให้เขามารักษาพอดีเลย"ซานซานตอบ "ซีอี้เทพขนาดนี้เลยหรอ เธอกับเขานี่เหมาะสมกับโคตรๆ จะไปจดหนังสือสมรสกันเมื่อไหร่จ๊ะ?"อลัน "รอให้งานแต่งของประธานจี้กับหว่านหว่านจบลงก่อน เราค่อยไปจดหนังสือสมรสกัน เรื่องนี้จะข้ามหน้าข้ามตาบอสของเราได้ยังไงล่ะ?"ซานซานโดนเย้าจนหัวเราะชอบใจ แล้วก็พูดอย่างตกใจราวกับเพิ่งเห็นว่าซูหว่านยังยืนอยู่ข้างๆ "เอ๊ะ หว่านหว่าน ทำไมเธอยังไม่กลับไปอีกล่ะ?"ซูหว่าน "..."หลังจากที่เธอกำชับบอดี้การ์ดว่าให้ดูแลพวกเธอให้ดี จากนั้นก็กลับคฤหาสน์ตระกูลจี้ไปพร้อมกับซูชิงจี้ซือหานตื่นขึ้นมาแล้ว ข้างในนั้นมีคนที่ถือหน้ากากยืนเรียงอยู่ คนที่นำหน้านั้นคืออาเจ๋อก่อนที่ซูหว่านจะเปิดประตูเข้าไป น้ำเสียงเย็นยะเยือกของจี้ซือหานดังลอยออกมาจากในห้องที่ว่างเปล่า"อาเจ๋อ หลักฐานที่เคซีย์ขับรถทับอัลเลนตาย แล้วโยนความผิดให้จิเหยียนโจว ส่งไปให้ราชวงศ์ซะ"หลายปีที่ผ่านมาราชวงศ์เสียข้าวสุกเลี้ยงงูเห่า ไม่ต้องให้เขาออกโรง ราชวงศ์ก็จะหั่นเคซีย์เป็นชิ้นๆเองอีกทั้งเสิ่นเจียวหลินแม่ของจิเหยียนโจว หลังจากกลับอังกฤษไป
จี้ซือหานเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น เขาเป็นคนที่ทำอะไรตามใจตัวเอง เรื่องไหนที่ตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าใครก็มาเปลี่ยนแปลงไม่ได้ซูหว่านยื่นมือออกไปดึงชุดลำลองอยู่บ้านหลวมๆบนร่างกายของเขาออก ทั้งแผ่นหลังเต็มไปด้วยพลาสเตอร์ปลอดเชื้อทว่าเขากลับสวมเสื้อผ้า ลุกขึ้นมาจากเตียง เพื่อจัดการเรื่องของเคซีย์ทั้งๆที่บาดแผลก็ยังไม่หายดี ยังจะดึงดันจัดงานแต่ง แล้วจะให้ซูหว่านไม่รู้สึกผิดได้ยังไง"ไปนอนพักที่เตียงก่อน เรื่องงานแต่งค่อยว่ากัน ได้ไหม?"เธอวางเสื้อผ้าลงเบาๆ ควงแขนของเขา อยากจะประคองเขาขึ้นเตียง แต่ถูกชายหนุ่มจับข้อมือเอาไว้"ซูหว่าน เธอไม่อยากแต่งกับฉันอีกแล้วหรือเปล่า?"ตอนที่เขาทอดสายตาลงมองเธอ ขอบตาก็เริ่มแดง งานแต่งที่รอคอยมาตั้งนานแสนนาน ทำไมเธอถึงใช้คำว่า "ค่อยว่ากัน" กับเขาได้ลงคอ"ฉันกลัวว่าบาดแผลของคุณ...""ต่อให้ต้องตาย ฉันก็ต้องแต่งงานกับเธอก่อนให้ได้"ซูหว่านไม่อยากได้ยินคำว่าตาย ก็ยกมือขึ้นปิดปากเขา จากนั้นพูดอย่างร้อนรน "ซี้ซั้วพูดอะไรเนี่ย!"พูดจบ เธอก็ผ่อนน้ำเสียงลงปลอบเขา "รักษาแผลให้ดีขึ้นก่อน รอให้แผลของคุณหายแล้ว เราค่อยจัดงานแต่งกันดีไหม?"จี้ซือหานจ้องหน้าเธออยู
แม้ว่ารายรับประจำปีจะเกินห้าสิบล้าน ทรัพย์สินก็มากกว่าห้าร้อยล้าน แต่เมื่อต้องเสียเงินห้าแสนไปในพริบตา ซานซานก็รู้สึกแสบเนื้ออยู่ไม่น้อยไม่ใช่ว่าเสียดายเงิน แต่เพราะเงินก้อนนี้ต้องจ่ายไปอย่างไม่คุ้มค่า นั่นก็เพราะเธอไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้พนันอะไรไม่เข้าท่าแบบนี้กับอลัน?ปัญญาอ่อนมาก!เซ็ง!ซานซานนั่งอยู่บนโซฟา จับหมอนเอาไว้ กัดฟันด่าตัวเองว่าโง่สิ้นดี ทำเอากั่วกัวหัวเราะออกมา...เห็นรอยยิ้มไร้เดียงสาบริสุทธิ์ของเด็กน้อย อลันก็อึ้งไปชั่วอึดใจ "ซานซาน เธอดูสิ กั่วกัวหัวเราะออกมาแล้ว"ซานซานเองก็เห็นแล้ว จึงยื่นมืออกไปบีบแก้มเล็กๆของกั่วกัว "ช่วงเถอะ เห็นแก่ที่หลานยิ้ม เงินแค่นี้คุ้ม"อลันงอเข่าลง วางข้อศอกลงบนเข่า มือข้างนึงจับแก้ม แล้วมองดูกั่วกัวพอเห็นกั่วกัวหัวเราะออกมาเสร็จ ก็ก้มหน้าลงทำท่าต่อเลโก้ จู่ๆก็รู้สึกโหยหาขึ้นมาในใจ"ซานซาน ถ้าฉันมีลูกเองได้ก็คงจะดีนะ"ถ้าแบบนั้น เธอจะต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดบนโลกนี้มาให้ลูกของเธอ แต่น่าเสียดาย ที่เธอไม่มีมดลูกอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาจากในแววตาของอลัน คือความอ่อนโยนของคนเป็นแม่ ทั้งยังซ่อนร่องรอยแห่งความโศกเศร้าที่อยู่ในส่วนลึ