จูบของเขา เบามาก เพียงแค่แตะสัมผัสเบาๆ แล้วก็ผละออกปลายนิ้วซีดขาวลูบไล้ไปตามเส้นผม สัมผัสเบาๆ ที่ประคองใบหน้าของเธออยู่ เย็นเฉียบซูหว่านมองไปที่นิ้วมือที่กำลังลูบสัมผัสไปตามดวงหน้าของเธอ จากนั้นก็เบือนหน้าหนีเพื่อหลบเลี่ยงการสัมผัสจากเขาการกระทำเพียงเล็กน้อยนั้น เป็นเหมือนคลื่นแรงที่ซัดโหมกระหน่ำลงในใจของชายหนุ่ม ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดในทันทีดวงตาสองชั้นเรียวคมคู่นั้น ค่อยๆ ส่อประกายความเจ็บปวดขึ้นมา หยาดน้ำตาค่อยๆ เอ่อคลอ ราวกับเปียกชุ่มไปด้วยรอยเลือด"คุณ...ไม่ยินดีแล้วเหรอ?"เขารู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงถามออกไป"อื้ม..."ซูหว่านพยักหน้า ความสับสนน้อยๆ ในดวงตาค่อยๆ กลับมาสดใสชัดเจนคำตอบของเธอ เป็นเหมือนกับหินก้อนน้อยๆ ที่ทลายปราการความเชื่อมั่นสุดท้ายของเขาลง ราวกับเขาใกล้จะหมดสิ้นลมหายใจ มันรู้สึกไร้เรี่ยวแรงอย่างมาก"ทำไม..."ทำไมทั้งๆ ที่เขาก็อธิบายกับเธอชัดเจนไปหมดแล้ว แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมอยู่กับเขาอีกทำไมทั้งๆ ที่พยายามเต็มที่ อยากจะคว้าตัวเธอเอาไว้ แต่ไม่ว่าทำยังไงก็คว้าเอาไว้ไม่ได้คำขอตลอดทั้งชีวิตของเขา มีแค่เรื่องเธอเรื่องเดียวเท่านั้น ทำไมถึงไม่ได้มาสักท
จี้ซือหานยกนิ้วมือที่สั่นไหวขึ้นมา ค่อยๆ บรรจงเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาบนแก้มของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าภายใต้ดวงตาดอกท้อเต็มไปด้วยความปวดใจ ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะดวงตาแดงเรื่อตามไปด้วยไม่ได้นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเธอพูดความรู้สึกที่มีต่อเขาออกมา ตัดพ้อต่อว่าถึงความสิ้นหวังที่มีต่อเขาและจนถึงตอนนี้เขาถึงเพิ่งรู้ว่าที่แท้ซูหว่านของเขาก็รักเขามาก...แต่เขาเคยทำร้ายเธอ และก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเธอมากเพียงพอ ถึงทำให้เธอกลายเป็นคนที่อ่อนไหวแบบนี้เขาอยากจะได้ตัวเธอ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความรู้สึกของเธอภายในทรมานมากแค่ไหน...นิ้วมือของเขาสอดเกี่ยวไปกับเส้นผมของเธอ จับลำคอด้านหลังของเธอเอาไว้ ให้เธอที่กำลังร้องไห้อย่างหนักซบลงมาที่ไหล่ของเขา"หว่านหว่าน ผมขอสัญญาว่าจากนี้ต่อไป ข้างกายของผม นอกจากคุณ จะไม่มีผู้หญิงคนไหนโพล่ออกมาอีก"ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ก็คล้ายกับเป็นการสาบาน อารมณ์ที่แสดงออกมาทางสายตาเป็นความมั่นคงที่ไม่สั่นคลอน เป็นคำสัญญาที่มีให้กับเธอไปตลอดชีวิตซูหว่านที่กำลังซบหน้าอยู่ที่ไหล่ของเขา กอดเขาเอาไว้แน่น หลังจากที่ร้องไห้ออกมาอย่างหนักแล้ว ก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่
จี้ซือหานจ้องมองไปที่ซูหว่าน หลังจากมองอยู่เงียบๆ ไปสักพัก ก็พูดกับเธอว่า "หว่านหว่าน ผมไม่เคยสนใจเรื่องชาติกำเนิดของคุณเลย ผมรักแค่คุณ แค่ที่ตัวคุณ ไม่ว่าคุณจะมีฐานะยังไง ไม่ว่าความรู้ความสามารถคุณจะมีเท่าไร ขอแค่เป็นคุณก็เพียงพอแล้ว..."เพราะแบบนี้ เขาเลยไม่เคยคิดถึงเรื่องปัญหาพวกนี้มาก่อน ก็เลยคิดไม่ถึงว่า ในใจของซูหว่านจะมีไม้บรรทัดมาวัดเรื่องพวกนี้ตลอดไม้บรรทัดยาวด้ามนั้น มันคอยวัดระยะห่างระหว่างพวกเขาอยู่เสมอ แต่สำหรับเขาแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่ถือเป็นอุปสรรคอะไรเลยเขายกนิ้วเรียวยาวขึ้น ลูบไปที่ใบหน้าของซูหว่าน แล้วพูดกับเธออย่างลึกซึ้งว่า "ทุกอย่างที่ผมมีก็คือของคุณ ขอเพียงคุณยินดี ผมสามารถให้คุณได้หมดทุกอย่างเลยในตอนนี้..."เมื่อซูหว่านได้ยินอย่างนั้น ก็ยิ้มให้เขาแต่ไม่ได้พูดอะไรเขาสามารถให้เธอได้ทุกอย่าง แต่ให้สมบัติทางความรู้สึกกับเธอไม่ได้สมบัติเกี่ยวกับการรู้จักตนเองนั้น มีเพียงแค่ต้องพึ่งตัวเองเท่านั้นถึงจะได้มา จี้ซือหานไม่มีทางเข้าใจหรอกเมื่อชายหนุ่มเห็นรอยยิ้มอย่างจนใจของเธอ ก็กอดเธอไว้ แล้วพลิกตัวกดเธอลงไปบนโซฟา"ซูหว่าน ต่อไปผมจะให้ความรู้สึกปลอดภัยกับคุณ และ
ซูหว่านเบนหน้าหนีไปน้อยๆ ไม่ค่อยเข้าใจจี้ซือหานเท่าไร "เป็นฉันที่พูดไม่ชัดเจนหรือว่าคุณเองที่ฟังไม่เข้าใจ?"เขาใช้นิ้วมือลูบไล้ไปที่แก้มของเธอ พูดขึ้นเรียบๆ ว่า "ผมยังไม่เคยจีบคุณมาก่อนเลย ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมจะจีบคุณ ถ้าหากคุณยังรู้สึกว่าเราไม่เหมาะสมกัน เช่นนั้นผมก็จะยอมปล่อยมือ ไม่วุ่นวายกับคุณอีกต่อไป"เธออ้าปาก อยากจะพูดปฏิเสธ แต่จี้ซือหานกลับใช้นิ้วมือของเขามากดไว้ที่ริมฝีปากเธออีกครั้ง "คุณต้องการเวลาในการก้าวข้ามอุปสรรคในใจ เช่นนั้นในระยะนี้ผมก็จะอยู่เคียงข้างคุณจนกว่าคุณจะข้ามผ่านอุปสรรคได้ด้วยวิธีการจีบคุณนะ"ความหมายของซูหว่านคือ เติบโตขึ้นด้วยตัวเอง ไม่ได้ต้องการให้เขาอยู่เคียงข้างแต่เขากลับสรุปเองเฉย "แบบนี้แล้วกัน คุณออกไปเถอะ"ซูหว่านขมวดคิ้วน้อยๆ "คุณ..."มือที่โอบเอวบางไว้ของจี้ซือหาน ออกแรงดึงมาข้างหน้า ดึงเธอมาอยู่ตรงบริเวณท้องน้อย"ถ้าไม่ออกไป งั้นก็ช่วยผม"เมื่อรู้สึกได้ถึงอวัยวะเบื้องล่างที่กำลังค่อยๆ ขยายตัว สีหน้าของซูหว่านก็เปลี่ยนไป รีบลงมาจากตัวของเขาทันทีขนาดแค่มองเธอยังไม่กล้าจะมองเขาเลย รีบหมุนตัวเดินออกไปเลย ราวกับข้างหลังมีสัตว์ประหลาดอยู่อย่างน
หลังจากที่จี้ซือหานสั่งงานจบก็วางมือถือลง แล้วฝืนร่างกายตัวเองเดินไปที่ห้องหนังสือเขาหยิบเอามือถืออีกเครื่องที่ไว้สำหรับติดต่อกับคนในองค์กร แล้วส่งข้อความไปให้กับอาเจ๋อหลังจากที่อาเจ๋อผลักหนิงหว่านเข้าไปในห้องใต้ดินแล้วก็ถอดหน้ากากออก หยิบเอามือถือที่กำลังสั่นขึ้นมามองดูแล้วตอบกลับอย่างรวดเร็ว [จับมาแล้ว]จากนั้นก็ส่งตำแหน่งให้กับจี้ซือหาน ชายหนุ่มมองดูอย่างไม่ใส่ใจจากนั้นก็ปิดเครื่อง ยกกาแฟเข้มๆ บนโต๊ะขึ้นมาดื่มเข้าไปจนหมดเขาใส่ถุงมือสีดำ หยิบหน้ากากขึ้นมาแล้วเดินออกประตูไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินไปทางลิฟท์ก็เหมือนจะได้ยินเสียงของเสิ่นหนานอี้ดังเข้ามา"ไอ้พวกโง่ ไม่ทุบตีฉัน ไม่ต่อว่าฉัน ทำเป็นแค่แบกฉันขึ้นลงบันได ทำอยู่อย่างนี้วนไป คิดจะทำอะไรกันแน่?!"ชายร่างใหญ่แข็งแรงสี่คน แบ่งกันจับแขนขาเขา แล้วก็เที่ยวแบกขึ้นลงบันได จนเขาตาลาย ปวดหัวไปหมดแล้ว!เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก มองเห็นชายตัวสูงใหญ่ที่แผ่ซ่านไอเย็นออกมาทั่วร่าง พวกบอดี้การ์ดก็หยุดการกลั่นแกล้งเสิ่นหนานอี้ แล้วทิ้งเขาลงไปกับพื้น"ปึก" เสิ่นหนานอี้ถูกกระแทกลงบนพื้นอย่างแรงจนตาลายไปหมด...ในขณะที่กำลังตาลายหาทิศทางไม่เ
"ซือ...ซือหาน..."ทำไมถึงเป็นเขา?คนที่ทรมานเธอมาตลอดสามปี เป็นจี้ซือหานอย่างนั้นเหรอ?!คนที่เธอหลงรักหัวปักหัวปำมาตั้งแต่เด็ก รักจนกระทั่งไปยั่วยวนพี่ชายใหญ่ของเขาเพียงเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับเขาเพียงเล็กน้อย จี้ซือหานเนี่ยนะ!เธอรักเขามากขนาดนั้น ทำไมเขาถึงได้ลงมือโหดร้ายกับคนที่รักเขาคนหนึ่งได้ขนาดนี้?!เธอไม่อยากจะเชื่อ น้ำตาไหลไปพลางก็พลางพยายามส่ายหน้าแรงๆ "ไม่ใช่ คุณไม่ใช่คนทำใช่ไหม?!"สายตาของจี้ซือหานค่อยๆ เบนไปที่หน้ากากในมือ ราวกับว่าแค่จะมองเธอนานหน่อยก็ยังรู้สึกขยะแขยงหนิงหว่านเงยหน้าขึ้น มองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าที่เย็นชาสูงส่ง ยากที่จะเข้าถึง เธอไม่อยากเชื่อหรือว่ายอมรับความจริงนี้เลย"ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้..."จี้ซือหานไม่รีบร้อน เขาลูบหน้ากากไปพลางก็มองเธออย่างเย็นชาไปพลาง"คุณไม่เข้าใจเหรอ?"หนิงหว่านอยากจะส่ายหน้าปฏิเสธ แต่คนที่ฉลาดแบบเธอจะไม่เข้าใจเหตุผลที่เขากับแบบนี้กับเธอได้ยังไงก็คงเป็นเพราะเรื่องเมื่อสามปีก่อนที่เธอกับเหลียนซิงหรูทำร้ายซูหว่านด้วยกันในห้องน้ำห้างน่ะสิแต่ว่า...หนิงหว่านก็ยังคงตะคอกใส่จี้ซือหานอย่างโมโหรับไม่ได้อยู่ดี"เพื่อแก้แค
ผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังก็ยังคงไม่ได้ตอบคำถามของเธอเหมือนเดิม ราวกับไม่อยากจะสนทนากับเธอมากจริงๆ เพียงแค่มาดูจุดจบของเธอก็เท่านั้นหนิงหว่านมองดูเขาที่เย็นชาแบบนี้ ความโกรธแค้นในดวงตาหายไป แล้วน้ำตาก็อดที่จะไหลรินลงมาไม่ได้"ซือหาน ขอให้เห็นแก่ที่ฉันเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของคุณ อีกทั้งยังรักคุณมาตั้งนานหลายปี ตอบฉันมาสักครั้งเถอะ..."จี้ซือหานเบนหน้าไปเล็กน้อย ใช้สายตาเย็นชามองประเมินหนิงหว่านตั้งแต่หัวจรดเท้า"ผมไม่เคยคิดว่าเธอหน้าตาคล้ายคุณตรงไหน ถ้าหากว่าคุณเข้าใจผิด เช่นนั้นก็ทำลายใบหน้าที่คล้ายเธอไปซะเถอะ"เพื่อพูดประโยคนี้ไป น้ำตาของหนิงหว่านก็หยุดไหลทันที เบิกตาโพลง จ้องมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่ออีกครั้ง"คุณ..."ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรก็ถูกคนใส่หน้ากากสองคนกดไว้กับพื้นแล้วจากนั้นมีดเล็กๆ เล่มหนึ่งก็กรีดเป็นเลขบวกลงไปบนใบหน้าของเธออย่างโหดร้ายความรู้สึกเย็นๆ ของปลายมีดที่กรีดเปิดลงไปบนผิวหนัง ทำให้หนิงหว่านรู้สึกเจ็บปวดจนต้องกรีดร้องออกมา"อ๊าาา หน้าฉัน!"พ่อของเธอเคยบอกว่า เธอมีใบหน้าที่งดงามที่สุดในบรรดาพี่น้องทุกคน และก็เป็นสิ่งที่เธอรู้สึกภาพภูมิใจที
ในแววตาของหนิงหว่านเผยรอยยิ้มความมั่นใจ เย่อหยิ่ง และท้าทายชายหนุ่มที่วางตัวสูงส่ง อยู่เหนือผู้อื่นมาเสมอ กลับชะงักไปเพียงชั่วอึดใจ และกลับมาเลือดเย็นไร้ความปราณีอีกครั้ง"จัดการให้เรียบร้อย"!!!หนิงหว่านยังนึกว่าถ้าตัวเองบอกสาเหตุการตายของพี่ชายใหญ่ของเขา แล้วเขาจะเดินมาตรงหน้า เพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่ใครจะคิดเขาเพียงแค่ประหลาดใจไปเพียงเสี้ยววินาที ก็สั่งให้คนจัดการเธออีกครั้ง นี่เขาไม่สนใจพี่ชายใหญ่ของตัวเองเลยสักนิดหรือไง?หนิงหว่านไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็รับไม่ได้อย่างมาก เธอเบิกตาโตจ้องชายหนุ่มที่ไม่เคยแยแสเธอตั้งแต่เด็กแต่เธอก็ยังหลงใหลเขา"นาย...ไม่อยากรู้ความจริงเรื่องการเสียชีวิตของพี่ชายใหญ่ของนายหรือไง?!"จี้ซือหานค่อยๆถอดถุงมือออกจากปลายนิ้วอย่างไม่รีบร้อน พร้อมกับกวาดสายตาเย็นชามองหนิงหว่านที่คุกเข่าอยู่บนพื้น"ถึงเธอไม่บอก ฉันก็สืบเองได้"หรือในอีกความหมายนึงก็คือ ไม่ว่าเธอจะเป็นคนเดียวที่รู้ความจริง หรือกำลังพูดพล่ามไปเรื่อยก็ตาม สำหรับเขาแล้ว เขาไม่สนใจทั้งนั้นเป้าหมายของเขาในตอนนี้คือกำจัดเธอซะ กำจัดรากเหง้าที่จะสร้างหายนะในภายหลังนี้ซะ ส่วนเรื่องอื