หลังจากที่จี้เหลียงชวนบล็อกและลบทุกอย่างออกจนเสร็จก็โยนโทรศัพท์ทิ้งออกไปจี้ซือหานที่กำลังเดินเข้ามาจากด้านนอกคฤหาสน์พอดี เมื่อเห็นโทรศัพท์อยู่บนพื้นจึงขมวดคิ้วลงเล็กน้อย"พี่รอง พี่กลับมาแล้วเหรอ?"จี้เหลียงชวนลุกขึ้นมาจากโซฟา เมื่อเห็นว่าจี้ซือหานมีเนื้อตัวเปียกปอน ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความกังวล "พี่รอง ทำไมพี่ถึงเปียกแบบนี้?"จี้ซือหานไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเขา แต่ถอดเสื้อสูทตัวนอกออกก่อนจะรับผ้าขนหนูที่คนรับใช้ส่งมาให้เขาเช็ดผมอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปพร้อม ๆ กับถามจี้เหลียงชวน "ทำไมแกถึงมาอยู่บ้านของฉัน?"จี้เหลียงชวนถอนหายใจแล้วตอบออกมาอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย "วันหยุดมันน่าเบื่อเกินไปเลยมาหาพี่ดื่มสักแก้วสองแก้ว"จี้ซือหานเหลือบมองไปที่เขาหนึ่งครั้ง "น่าเบื่อก็ไปรับช่วงงานต่อกับเจ้าห้าที่แอฟริกาซะ"จี้เหลียงชวนได้ยินคำว่าแอฟริกาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา "พี่รอง พี่ห้าเขาผิวหนังหยาบหนาไม่กลัวแดดเผา แต่ผมไม่ได้นะ ใบหน้าของผมเป็นนั้นเป็นต้นทุนใช้สำหรับหาสาว ๆ นะ พี่จะมาตัดทางชีวิตของผมไม่ได้นะ..."เหตุผลหลัก ๆ คือเขาไม่ชอบรสชาติสาวแอฟริกาสักหน่อย ไม่เหมือนพี่ห้าที่ชอบรสจัดอีกอย่างการทำ
เมื่อซูหว่านตื่นขึ้น ก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว ดวงตาที่ร้องไห้ของเธอนั้นบวมและเเดงมากเธอยกมือขึ้นและขยี้ตาของเธอ เมื่อเธอลืมอีกครั้ง ทันใดนั้นภาพก็เบลอเล็กน้อยเธอนั่งเหม่อที่ข้างเตียงและผ่อนคลายเป็นเวลานานก่อนที่สายตาของเธอจะกลับมาโฟกัสอีกครั้ง...หลังจากมองเห็นชัดเจนแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความถึงจอร์จ[คุณหมอจอร์จ ดวงตาของฉันเบลออีกแล้วค่ะ]ทางจอร์จไม่ได้ตอบเร็วขนาดนั้น เธอจึงวางโทรศัพท์ ดึงผ้าห่มออกแล้วลุกลงจากเตียงเมื่อเธอผลักประตูห้องและลงไปชั้นล่าง เธอเห็นจิเหยียนโจวนั่งเเละซานซานนั่งจ้องหน้ากันอยู่ในห้องรับเเขกเธอเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่จิเหยียนโจวยังอยู่ที่นี่เธอถอนหายใจลึก ๆ เดิมทีเธอต้องการพาซานซานไปหาซ่งซือเยว่วันนี้ แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว คงจะไปไม่ได้เเล้วเมื่อซานซาน เห็นว่าเธอตื่นแล้ว ก็รีบลุกขึ้นเดินไปหาเธอแล้วถามเธออย่างอ่อนโยน ๆ ว่า "หว่านหว่าน หิวไหม เดี๋ยวฉันไปอุ่นอาหารให้"ขณะที่ซูหว่านกำลังจะกลับ เสียงที่พูดส่ง ๆ ของจิเหยียนโจวก็ดังมาจากด้านหลังของทั้งสองคน "ถึงเวลากลับบ้านแล้ว"ซานซานห
เมื่อผู้จัดการได้ยินคำพูดประโยคนี้ ใบหน้าสำนึกผิดก็เต็มไปด้วยความลำบากใจ "คุณชายถัง ผมจะโทรไปเร่งให้อีกสักรอบ กรุณารอสักครู่นะครับ..."หลังจากที่ผู้จัดการหมุนตัวเดินออกไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปเป็นความกังวลตั้งแต่สถานที่แห่งนี้มีการเปลี่ยนตัวเจ้าของ ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเรื่องอีก ใครจะไปคิดว่าวันนี้จะมีพวกคุณชายตระกูลร่ำรวยอำนาจล้นฟ้ามากันเขาอุตส่าห์ส่งคนมากกว่าครึ่งร้านมาเพื่อมาดูแลพวกเขา เดิมคิดว่ารายได้วันนี้คงจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าแน่ ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะมาหาเรื่องในขณะที่ผู้จัดการกำลังแอบบ่นว่าวันนี้ซวยจริง ก็เห็นซานซานที่ใส่ชุดเดรสยาวเว้าหลังสีดำ เดินเข้ามาพร้อมกับรองเท้าส้นสูง"บอสครับ ในที่สุดบอสก็มาสักที พวกเขาบอกว่าถ้าหากบอสยังไม่มา จะสั่งปิดที่นี่ซะ!""ไม่ต้องกลัว"ซานซานพูดออกมาเสียงเรียบๆ อย่างไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด จากนั้นก็สาวเท้าเดินไปทางห้องรับรองวีไอพีเมื่อเปิดประตูเข้าไป มองเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ในมุมมืดๆ ข้างในห้อง สีหน้าของซานซานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเดิมทีเธอคิดว่าก็คงจะเป็นพวกคุณชายลูกผู้ดีที่ว่างจัด จงใจมาหาอะไรสนุกๆ ทำแก้เบื่อเท่าน
เขาใส่เสื้อสูทสีขาว ในมือถือแก้วเหล้าไว้พลางนั่งไขว่ห้างไปพลางอย่างเกียจคร้านด้วยท่าทางคุณชายสุดๆถึงจะดูราวกับว่าเขาไม่ใส่ใจ แต่สายตากลับแอบมองมายังผู้หญิงที่กำลังดื่มเหล้าเป็นขวดๆ อยู่เธอสวมเดรสสีดำคอวีลึก ยิ่งทำให้เห็นสัดส่วนผอมเพียวที่ชัดเจน ท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่อง ยิ่งทำให้ดูผุดผ่องมีเสน่ห์ใบหน้างดงามแดงก่ำเนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผิวเดิมที่ขาวผ่องยิ่งส่งผลให้ตัวของเธอดูแดงก่ำเข้าไปอีกออร่าความงามที่แผ่กระจายออกมา ต่อให้เป็นตัวท๊อปที่นั่งอยู่ก็ยังสู้เธอไม่ได้เลยเมื่อพวกคุณชายทั้งหลายได้เห็นซานซานที่ใจเด็ดแบบนี้ก็อดที่จะเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาไม่ได้...จี้เหลียงชวนพบว่าพวกผู้ชายต่างจับจ้องไปที่ร่องอกที่อยู่ภายใต้เสื้อคอวีของเธอ สีหน้าเขาเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที จากนั้นก็โยนแก้วเหล้าในมือออกไป"เพล๊ง" เสียงแก้วแตกดังขึ้นก่อนที่ซานซานจะได้ก้มลงไปหยิบเหล้าขวดที่สามขึ้นมา...เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่แก้วเหล้าของจี้เหลียงชวน ใบหน้าเล็กๆ สีแดงเรื่อส่งยิ้มจอมปลอมทางการค้ามาให้เขา "นายน้อยที่เจ็ดจี้ มีอะไรไม่พอใจหรือเปล่าคะ?"เมื่อจี้เหลียงชวนเห็นรอยยิ้มยั่วยวนบนใบหน้าของเธอก็รู้สึกไ
ซูหว่านพยายามบังคับตัวเองให้สงบใจลง หยิบมือถือออกมาแล้วโทรหาตำรวจแต่ตำรวจกลับไม่ได้มาถึงเร็วขนาดนั้น อีกอย่างหลังจากที่ดับเครื่อง ภายในรถก็อบอ้าวมากไม่นานความรู้สึกเริ่มขาดอากาศหายใจก็ทำให้เธอเริ่มที่จะหายใจผิดปกติเมื่อเธอเห็นว่าตำรวจยังไม่มา ก็รีบโทรไปหาซานซานทันทีแต่ด้วยความที่ซานซานรีบไปจัดการเรื่องด่วนที่ไนท์คลับ จึงเผลอทำมือถือตกเอาไว้ในรถ ก็เลยไม่ได้รับโทรศัพท์ของเธอเช่นกันซูหว่านโทรไปหลายสาย แต่ก็ไม่มีคนรับ ก็เลยเลิกโทร...เธอใช้ดวงตาแดงก่ำอย่างอัดอั้นใจมองไปยังประตูคฤหาสน์ที่ปิดสนิท ไม่มีใครออกมาช่วยเธอเลยสักคนด้วยการขาดออกซิเจนและอากาศหายใจรุนแรง ทำให้เธอรู้สึกโมโหจัดเธอยกมือถือในมือขึ้นมา แล้วทุบไปที่กระจกรถอย่างแรง ครั้งแล้วครั้งเล่าจนหน้าจอแตก แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้เธอไม่เคยรู้สึกโกรธมากเหมือนตอนนี้มาก่อน ความโกรธนั้นทำให้เธอกัดฟัน ทุ่มเทสุดกำลังที่จะทุบลงไปจิเหยียนโจวที่นอนฟุบดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่ชั้นหนึ่งอยู่ตรงราวระเบียง แต่ก็ไม่คิดที่จะไปเปิดประตู เพียงแค่มองดูอยู่เฉยๆซูหว่านทุบจนหน้าจอมือถือแตก แต่กระจกรถก็ยังอยู่ดีเหมือนเดิม...เธอเหนื่อยจน
เมื่อเขาเห็นเงาร่างที่นั่งกอดตัวเองกลม หัวใจก็กระตุกอย่างแรง"จอดรถ..."อาเจ๋อลดความเร็วลงทันที ก่อนจะเอารถไปจอดไว้ข้างทาง "ท่านครับ มีอะไรหรือเปล่า?"จี้ซือหานผลักประตูรถให้เปิดออกแล้ววิ่งลงไปหาซูหว่านอย่างรวดเร็วซูหว่านที่มองเห็นอะไรไม่ชัด รู้สึกได้แต่ว่ามีคนเข้ามาใกล้ จึงลุกขึ้นทันที แล้วก็ก้าวถอยหลัง"อย่าเข้ามา!"เมื่อจี้ซือหานเห็นเธอระวังตัวแบบนี้ ก็เข้าใจว่าเธอคงไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ ก็เลยหยุดเดินเงาร่างสูงใหญ่ยืนตัวตรงอยู่กับที่ มองเธออยู่เงียบๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำดวงตาที่เย็นชาของเขาค่อยๆ แดงเรื่อขึ้น ขนาดหางตาก็ยังแดง...จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ว่าที่แท้จบกันแล้ว ก็ไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้เลยสักก้าวซูหว่านไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร รู้เพียงแค่ว่าหลังจากที่เธอบอกให้เขาอย่าเข้ามา อีกฝ่ายก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาอีกแต่ว่าตอนนี้เธอมองไม่เห็น หากว่าอีกฝ่ายรู้เข้า เกรงว่าจะเดินเข้ามาอีกเมื่อคิดได้ดังนั้น ความโกรธมากมายในใจก็ถูกความหวาดกลัวเข้ามาแทนที่...เธอรีบหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนว่าดวงตาจะมองเห็นหรือไม่ เธอก้มหน้าวิ่งออกไปเลยอาการต่อต้าน ป้องกันตัวแ
เมื่อซูหว่านได้ยินคำว่ากลับบ้าน เธอก็รู้สึกขบขันขึ้นมาอย่างที่สุด "นั่นเป็นบ้านของคุณ ไม่ใช่บ้านของฉัน"เธอไม่มีบ้าน ไม่มีตั้งแต่เล็กจนโต เดิมคิดว่าหาตัวพี่สาวเจอเธอก็จะมีบ้าน แต่คนตรงหน้าที่บอกว่าจะเป็นพี่เขยของเธอ กลับขังตัวเธอเอาไว้ในรถเนื่องจากเธอกลับบ้านไม่ตรงเวลา คิดจะทำให้เธอขาดอากาศหายใจตาย แล้วเธอจะกลับบ้านกับเขาอีกได้ยังไง...เมื่อจิเหยียนโจวเห็นว่าเธอไม่ยอมกลับ ก็พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจว่า "นั่นเป็นบ้านที่ฉันซื้อให้กับพี่สาวของเธอ เป็นบ้านของเขา และก็เป็นบ้านของเธอด้วย"รอยยิ้มที่มุมปากของซูหว่านยิ่งเย็นชาขึ้นอีก "เพื่อที่จะหนีไปจากคุณ พี่สาวของฉันยอมที่จะจบชีวิตของตัวเอง นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ได้รักคุณเลย ทั้งบ้าน รถพวกนั้นล้วนไม่ใช่ของพี่ เป็นคุณที่คิดเองเออเอง ยัดเยียดทุกอย่างให้กับเขา!"จิเหยียนโจวสีหน้าเคร่งขรึม แววตาปรากฏร่องรอยความดุร้าย "ถ้าหากเขาไม่รักฉัน ทำไมถึงได้พยายามตามจีบฉันมาเป็นสิบปี เป็นเขาที่หักหลังฉันหลังจากที่เราเป็นแฟนกันแล้ว เขาทิ้งฉัน ก็เลยคิดหาวิธีหนีไปจากฉัน แต่พวกเธอกลับโทษทุกอย่างนี้ให้เป็นความผิดของฉัน!"ซูหว่านอึ้งไป คิดไม่ถึงว่าพี่สาวของเธอ
หว่านรู้สึกชาไปทั้งหัว แต่ก็พยายามรวบรวมความกล้าพูดกับเขาว่า "คุณจิ ฉันกลัวคุณมาก ขอไม่ไปกับคุณได้ไหมคะ?"ต่อให้ดวงตาของเธอจะบอดไปชั่วขณะ แต่เธอก็ไม่อยากจะกลับไปกับจิเหยียนโจวเธอกลัวว่าจะถูกเขาขังเอาไว้ในรถ ทำให้เธอต้องสัมผัสกับความรู้สึกใกล้ตายอีกเมื่อจิเหยียนโจวเห็นร่องรอยของความหวาดกลัวในดวงตาที่ไม่อาจโฟกัสได้ของเธอ สายตาของเขาก็ว้าวุ่นขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เขาจ้องมองซูหว่านอยู่สักพัก ก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ "กลับไปก่อน ค่อยว่ากัน"เมื่อซูหว่านได้ยินคำนี้ ก็รู้ว่าคงจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้วเธอไม่ดื้อดึงอีกต่อไป หลังจากที่ยื่นมือออกไปแล้วก็ปล่อยให้เขาพาตัวเองกลับไปบนรถที่เธอเกือบจะขาดอากาศหายใจเมื่อกี้ตามใจจากนี่ไปที่คฤหาสน์ใกล้มาก ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที รถก็หยุดวิ่งลงแล้วจิเหยียนโจวดึงแขนของเธอ พาเธอไปส่งที่ห้องนอน จากนั้นก็ไปหยิบยามาให้เธอกล่องหนึ่ง"นี่เป็นยาที่จอร์จไว้รักษาดวงตาของเธอ ฉันกลัวว่าเธอจะหนีไปก็เลยไม่ได้ให้เธอ"มิน่าจู่ๆ ดวงตาของเธอถึงได้มองไม่เห็นที่แท้ก็เป็นเพราะเขาเอายาไปซ่อน จงใจไม่ให้เธอได้กินยาตามเวลาซูหว่านบีบฝ่ามือของตัวเองอีกครั้ง คว