ซูหว่านพยายามบังคับตัวเองให้สงบใจลง หยิบมือถือออกมาแล้วโทรหาตำรวจแต่ตำรวจกลับไม่ได้มาถึงเร็วขนาดนั้น อีกอย่างหลังจากที่ดับเครื่อง ภายในรถก็อบอ้าวมากไม่นานความรู้สึกเริ่มขาดอากาศหายใจก็ทำให้เธอเริ่มที่จะหายใจผิดปกติเมื่อเธอเห็นว่าตำรวจยังไม่มา ก็รีบโทรไปหาซานซานทันทีแต่ด้วยความที่ซานซานรีบไปจัดการเรื่องด่วนที่ไนท์คลับ จึงเผลอทำมือถือตกเอาไว้ในรถ ก็เลยไม่ได้รับโทรศัพท์ของเธอเช่นกันซูหว่านโทรไปหลายสาย แต่ก็ไม่มีคนรับ ก็เลยเลิกโทร...เธอใช้ดวงตาแดงก่ำอย่างอัดอั้นใจมองไปยังประตูคฤหาสน์ที่ปิดสนิท ไม่มีใครออกมาช่วยเธอเลยสักคนด้วยการขาดออกซิเจนและอากาศหายใจรุนแรง ทำให้เธอรู้สึกโมโหจัดเธอยกมือถือในมือขึ้นมา แล้วทุบไปที่กระจกรถอย่างแรง ครั้งแล้วครั้งเล่าจนหน้าจอแตก แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้เธอไม่เคยรู้สึกโกรธมากเหมือนตอนนี้มาก่อน ความโกรธนั้นทำให้เธอกัดฟัน ทุ่มเทสุดกำลังที่จะทุบลงไปจิเหยียนโจวที่นอนฟุบดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่ชั้นหนึ่งอยู่ตรงราวระเบียง แต่ก็ไม่คิดที่จะไปเปิดประตู เพียงแค่มองดูอยู่เฉยๆซูหว่านทุบจนหน้าจอมือถือแตก แต่กระจกรถก็ยังอยู่ดีเหมือนเดิม...เธอเหนื่อยจน
เมื่อเขาเห็นเงาร่างที่นั่งกอดตัวเองกลม หัวใจก็กระตุกอย่างแรง"จอดรถ..."อาเจ๋อลดความเร็วลงทันที ก่อนจะเอารถไปจอดไว้ข้างทาง "ท่านครับ มีอะไรหรือเปล่า?"จี้ซือหานผลักประตูรถให้เปิดออกแล้ววิ่งลงไปหาซูหว่านอย่างรวดเร็วซูหว่านที่มองเห็นอะไรไม่ชัด รู้สึกได้แต่ว่ามีคนเข้ามาใกล้ จึงลุกขึ้นทันที แล้วก็ก้าวถอยหลัง"อย่าเข้ามา!"เมื่อจี้ซือหานเห็นเธอระวังตัวแบบนี้ ก็เข้าใจว่าเธอคงไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ ก็เลยหยุดเดินเงาร่างสูงใหญ่ยืนตัวตรงอยู่กับที่ มองเธออยู่เงียบๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำดวงตาที่เย็นชาของเขาค่อยๆ แดงเรื่อขึ้น ขนาดหางตาก็ยังแดง...จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ว่าที่แท้จบกันแล้ว ก็ไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้เลยสักก้าวซูหว่านไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร รู้เพียงแค่ว่าหลังจากที่เธอบอกให้เขาอย่าเข้ามา อีกฝ่ายก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาอีกแต่ว่าตอนนี้เธอมองไม่เห็น หากว่าอีกฝ่ายรู้เข้า เกรงว่าจะเดินเข้ามาอีกเมื่อคิดได้ดังนั้น ความโกรธมากมายในใจก็ถูกความหวาดกลัวเข้ามาแทนที่...เธอรีบหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนว่าดวงตาจะมองเห็นหรือไม่ เธอก้มหน้าวิ่งออกไปเลยอาการต่อต้าน ป้องกันตัวแ
เมื่อซูหว่านได้ยินคำว่ากลับบ้าน เธอก็รู้สึกขบขันขึ้นมาอย่างที่สุด "นั่นเป็นบ้านของคุณ ไม่ใช่บ้านของฉัน"เธอไม่มีบ้าน ไม่มีตั้งแต่เล็กจนโต เดิมคิดว่าหาตัวพี่สาวเจอเธอก็จะมีบ้าน แต่คนตรงหน้าที่บอกว่าจะเป็นพี่เขยของเธอ กลับขังตัวเธอเอาไว้ในรถเนื่องจากเธอกลับบ้านไม่ตรงเวลา คิดจะทำให้เธอขาดอากาศหายใจตาย แล้วเธอจะกลับบ้านกับเขาอีกได้ยังไง...เมื่อจิเหยียนโจวเห็นว่าเธอไม่ยอมกลับ ก็พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจว่า "นั่นเป็นบ้านที่ฉันซื้อให้กับพี่สาวของเธอ เป็นบ้านของเขา และก็เป็นบ้านของเธอด้วย"รอยยิ้มที่มุมปากของซูหว่านยิ่งเย็นชาขึ้นอีก "เพื่อที่จะหนีไปจากคุณ พี่สาวของฉันยอมที่จะจบชีวิตของตัวเอง นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ได้รักคุณเลย ทั้งบ้าน รถพวกนั้นล้วนไม่ใช่ของพี่ เป็นคุณที่คิดเองเออเอง ยัดเยียดทุกอย่างให้กับเขา!"จิเหยียนโจวสีหน้าเคร่งขรึม แววตาปรากฏร่องรอยความดุร้าย "ถ้าหากเขาไม่รักฉัน ทำไมถึงได้พยายามตามจีบฉันมาเป็นสิบปี เป็นเขาที่หักหลังฉันหลังจากที่เราเป็นแฟนกันแล้ว เขาทิ้งฉัน ก็เลยคิดหาวิธีหนีไปจากฉัน แต่พวกเธอกลับโทษทุกอย่างนี้ให้เป็นความผิดของฉัน!"ซูหว่านอึ้งไป คิดไม่ถึงว่าพี่สาวของเธอ
หว่านรู้สึกชาไปทั้งหัว แต่ก็พยายามรวบรวมความกล้าพูดกับเขาว่า "คุณจิ ฉันกลัวคุณมาก ขอไม่ไปกับคุณได้ไหมคะ?"ต่อให้ดวงตาของเธอจะบอดไปชั่วขณะ แต่เธอก็ไม่อยากจะกลับไปกับจิเหยียนโจวเธอกลัวว่าจะถูกเขาขังเอาไว้ในรถ ทำให้เธอต้องสัมผัสกับความรู้สึกใกล้ตายอีกเมื่อจิเหยียนโจวเห็นร่องรอยของความหวาดกลัวในดวงตาที่ไม่อาจโฟกัสได้ของเธอ สายตาของเขาก็ว้าวุ่นขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เขาจ้องมองซูหว่านอยู่สักพัก ก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ "กลับไปก่อน ค่อยว่ากัน"เมื่อซูหว่านได้ยินคำนี้ ก็รู้ว่าคงจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้วเธอไม่ดื้อดึงอีกต่อไป หลังจากที่ยื่นมือออกไปแล้วก็ปล่อยให้เขาพาตัวเองกลับไปบนรถที่เธอเกือบจะขาดอากาศหายใจเมื่อกี้ตามใจจากนี่ไปที่คฤหาสน์ใกล้มาก ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที รถก็หยุดวิ่งลงแล้วจิเหยียนโจวดึงแขนของเธอ พาเธอไปส่งที่ห้องนอน จากนั้นก็ไปหยิบยามาให้เธอกล่องหนึ่ง"นี่เป็นยาที่จอร์จไว้รักษาดวงตาของเธอ ฉันกลัวว่าเธอจะหนีไปก็เลยไม่ได้ให้เธอ"มิน่าจู่ๆ ดวงตาของเธอถึงได้มองไม่เห็นที่แท้ก็เป็นเพราะเขาเอายาไปซ่อน จงใจไม่ให้เธอได้กินยาตามเวลาซูหว่านบีบฝ่ามือของตัวเองอีกครั้ง คว
ยังคงเป็นคุณเย่เมื่อซูหว่านเห็นเขายืดมั่นเช่นนี้ก็อดที่จะรู้สึกจนใจไม่ได้เธอก็ยังคงไม่ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของเขา อีกทั้งยังลบคำขอทั้งหมดทิ้งไปอีกด้วยในตอนที่กำลังจะออกจากไลน์ ก็เห็นกลุ่มของลูกค้าที่เคยร่วมงานกันมีคนกดกดเมนชั่นถึงจี้ซือหานกลุ่มนี้ออฟฟิศผู้บริหารกลุ่มบริษัทหนิงสร้างขึ้นเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า คนในกลุ่มมีถึงระดับประธานบริษัทเดิมทีเธอคิดว่าหลังจากที่เธอตายไป คนในบริษัทจะลบเธอออกจากกลุ่มซะอีก คิดไม่ถึงว่าจะไม่ลบ...คนที่กดเมนชั่นจี้ซือหานก็คือเวินเหิงซีอีโอกลุ่มบริษัทเวิน ดูเหมือนว่าเขาจะมีเรื่องด่วนติดต่อจี้ซือหาน แต่ติดต่อไม่ได้ก็เลยมากดเมนชั่นเขาในกลุ่มแต่จี้ซือหานไม่มีทางจะตอบข้อความประเภทนี้หรอก ก่อนหน้านี้ที่เขาเข้ากลุ่ม ก็เพราะกลุ่มบริษัทหนิงให้เธอไปอ้อนวอนลากเขาเข้ามาเมื่อซูหว่านคิดถึงอดีตเหล่านี้ นิ้วมือของเธอก็อดที่จะกดเข้าไปดูรูปโปรไฟล์ของเขาอย่างควบคุมไม่ได้...หลังจากที่พวกเขาเลิกกัน ก็บล๊อกเขาไปแล้ว ตอนนี้ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน แต่ก็ยังสามารถมองเห็นข้อความที่เคยส่งหากันได้หลังจากที่เธอกดเข้าไป ก็เห็นข้อความแชตที่จบไปตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน
เมื่อซูหว่านนึกย้อนไปถึงรายละเอียดพวกนี้ จู่ๆ เธอก็รับรู้ได้ถึงความรักของเขาแต่ว่าสำหรับเธอในตอนนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันสายไปแล้ว...เธอพยายามดึงความคิดของตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบัน ออกจากไลน์ กำลังคิดจะโทรไปหาซานซาน...แต่ยังไม่ทันจะได้โทรออกไป จอร์จก็ดันโทรเข้ามาหาเธอซะก่อน "คุณซู คุณไม่ได้กินยาตามเวลาเหรอครับ?"เมื่อซูหว่านได้ยินเขาถามมาแบบนี้ ก็ถอนหายใจอย่างจนใจ "จอร์จ จิเหยียนโจวกลัวว่าฉันจะหนีก็เลยไม่ให้ให้ยากับฉันน่ะ"ทางจอร์จที่ได้ยินก็เงียบไปหลายวิ จากนั้นก็กัดฟันพูดอย่างแค้นเคือง "ผมจะไปหาเขา"ซูหว่านยังอยากจะถามอยู่เลยว่ายาพวกนี้สามารถหาซื้อจากในประเทศได้ไหม แต่จอร์จก็วางโทรศัพท์ไปซะก่อนเขาเพิ่งจะวางไป ซานซานก็โทรเข้ามาทันที "หว่านหว่าน ทำไมมือถือของเธอถึงปิดตลอดเลย"เมื่อคืนตอนที่เธอออกมาจากไนท์คลับก็เลยเวลาเที่ยงคืนมาแล้ว พอเห็นสายที่ไม่ได้รับจากหว่านหว่าน ก็รีบโทรกลับไปเลย แต่กลับติดต่อไม่ได้เธอกลัวว่าหว่านหว่านจะเกิดเรื่อง ก็เลยขับรถไปที่คฤหาสน์ของจิเหยียนโจว คนใช้บอกว่าหว่านหว่านเข้านอนไปแล้ว เธอถึงได้กลับบ้านไปอย่างวางใจพอวันนี้ตื่นมาตอนเช้าก็โทรหาเธออ
จิเหยียนโจวพูดอย่างใจเย็น "คุณไม่เซ็นก็ได้ ถึงอย่างไรผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว..."ซูหว่านมองเขาอย่างประเมิน "ทำไมจู่ๆ คุณถึงจะกลับอังกฤษ?"เขาคงต้องมีธุระสำคัญที่จะต้องจากไปแน่ แต่ก็กลัวว่าหลังจากที่ไปแล้ว จะไม่สามารถควบคุมเธอได้อีก เลยจะให้เธอเซ็นสัญญาเปล่าเอาไว้ก่อนจิเหยียนโจวพูดอย่างเรียบเฉยไร้อารมณ์ "จอร์จบอกว่าลูกของชูยีไม่สบาย ผมจะไปดูเธอสักหน่อย"ลูกของพี่เหรอ?ข่าวที่ได้รับรู้โดยไม่คาดคิดทำให้ซูหว่านตกใจอย่างมาก "ละ ลูกของพี่กับคุณเหรอ?"ฉันพลันจิเหยียนโจวก็ยิ้มออกมาน้อยๆ แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความรังเกียจ "ลูกของเขากับสามีเก่าต่างหาก"ทะ ทำไมถึงมีสามีเก่าด้วย?ซูหว่านตกใจมาก ได้แต่มองจิเหยียนโจวอย่างอึ้งๆ พูดอะไรไม่ออกจิเหยียนโจวเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ แล้วถามออกไปอย่างไม่ใส่ใจ "เธอเองก็รู้สึกว่ามันประหลาดมากใช่ไหม?"สีหน้าตกใจของซูหว่านค่อยๆ จางหายไป เธอไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพี่สาว ล้วนได้รู้จากจิเหยียนโจวทีละนิดทั้งนั้น คงไม่สามารถไปตัดสินอะไรได้จากคำพูดของเขาเพียงฝ่ายเดียว ก็เลยเลือกที่จะเงียบไว้ดีกว่าจิเหยียนโจวยังคงไม่อยากพูดเรื่องที่เกี่ยวข้องอะไรกับชูยี เขาใช
หลังจากที่เขาพูดจบก็เก็บหนังสือสัญญา แล้วลุกเดินขึ้นบันไดไป ไม่มองซูหว่านอีกเลยแม้แต่น้อยแต่ซูหว่านกลับตกใจจนใจสั่นเพราะคำพูดของเขา เธอรีบหยิบมือถือออกมาแล้วเดินออกไปโทรศัพท์หาจอร์จที่นอกคฤหาสน์เมื่อจอร์จได้ยินดังนั้นกลับหัวเราะออกมา "คุณซู คุณวางใจเถอะครับ หากว่าเขาจะฆ่ากั่วกัวก็คงฆ่าไปนานแล้ว ไม่ต้องรอจนถึงตอนนี้หรอก"ซูหว่านถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก็ถามเรื่องเกี่ยวกับเด็กน้อยต่ออีกหน่อยจอร์จเอาก็ไม่รู้อะไรมาก บอกเพียงแค่ว่าเป็นลูกของชูยีกับชนชั้นขุนนางอังกฤษคนหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้บอกอะไรมากอีกเมื่อซูหว่านได้ยินว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชนชั้นขุนนาง ก็เกรงว่าเรื่องนี้คงมีลับลมคมในบางอย่างจึงได้ได้ถามอะไรออกไปอีก ได้แต่พูดอย่างเป็นห่วง "แล้วกั่วกัวป่วยเป็นอะไรเหรอคะ?"จอร์จพูดอย่างสบายๆ ว่า "ไม่ได้ป่วยหรอก ผมจงใจหลอกเขา ก็เขาเก็บยาคุณไว้ไม่ใช่เหรอ ผมก็จะหาเรื่องให้เขาได้เหนื่อยสักหน่อย"ซูหว่านตกใจนิดหน่อยจากนั้นก็ยิ้มออกมา "คุณหมอจอร์จ คุณหลอกเขาแบบนี้ไม่กลัวว่าหลังจากเขากลับไปถึงจะกล่าวโทษคุณเหรอ?"จอร์จพูดอย่างไม่สนใจ "ผมไม่เพียงไม่กลัว ผมยังจะพยายามหาทางรั้งให้เขาอยู