"เอี๊ยดดดดดดดด โครม! "
เสียงเบรกของรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงปะทะเข้ากับหญิงสาวรูปร่างบอบบางที่ก้มลงผูกเชือกรองเท้าอยู่ริมฟุตบาท
บุษกรได้ยินเสียงเบรกมาแต่ไกล ไหนจะเสียงหวีดร้องของคนรอบข้าง พอเธอเงยหน้าเพื่อที่จะมองว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นแต่ภาพดำมืด แล้วสติก็หลุดลอยไป...
เมืองหลวง ฉางอาน ณ จวนเสนาบดี
"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู"
เสียงสาวใช้หน้าประตูร้องเรียก หญิงสาวในห้องเดินกระสับกระส่ายไปมา ใบหน้างามล่มเมืองบัดนี้ซีดเซียว บุษกร หญิงสาวที่จู่ ๆ ก็ตายโดยไม่ทันตั้งตัว พอรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ในร่างหญิงสาวคนหนึ่ง หญิงสาวหน้าตางดงาม เอวบางร่างน้อย อายุไม่น่าจะเกินสิบห้าปี
ไม่นานความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิมแล่นเข้าหัวตามฉบับนวนิยาย บุษกรเม้มริมฝีปาก เจ้าของร่างนี้คือ ไป๋เจินจู หญิงสาวที่เพิ่งพ้นวัยปักปิ่น บุตรีเพียงคนเดียวของอัครเสนาบดีไป๋ฉางชิง มารดาเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก เป็นแก้วตาดวงใจของท่านเสนาบดี รูปโฉมงดงามล่มเมือง และเมื่อพ้นวัยปักปิ่นก็จะต้องแต่งให้กับองค์รัชทายาท...
เอาล่ะ ไม่ต้องเกริ่นไปไกล
รู้แต่ว่าเธอได้ตายแล้วมาเข้าร่างของหญิงสาวคนนี้ก็แล้วกัน หญิงไทยวัยยี่สิบห้าปี ผัว เอ๊ย แฟนก็ไม่เคยมี ซิงก็ยังไม่เคยโดนเปิด ตายแบบงง ๆ มาเข้าร่างหญิงสาวงามล่มเมือง บิดามีอำนาจ ไหนเจ้าของร่างอายุยังน้อยอีก ชีวิตก็ยังอีกยาวไกล
ความคิดแรกคือกำไรชีวิตจริง ๆ เล้ย!
ทว่า เมื่อนึกขึ้นได้...
ไป๋เจินจู อัครเสนาบดีไป๋...และชายารัชทายาท มันคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นผ่าน ๆ
เวรละสิ!
นี่เธอหลงมาในนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เคยอ่านไปด่าไปเมื่อต้นปี ถึงขนาดอ่านจบแล้วโยนทิ้งไว้ที่ไหนสักที่ใต้เตียง!
เข้ามาอยู่ในร่างนางเอก เดิมทีควรจะดีใจ แต่นิยายเรื่องนี้มันขัดใจขาอ่านนิยายแปลอย่างเธอมาก เคยด่าว่ามันลิเก๊ลิเก นางเอกต้องแต่งงานอายุยังน้อย ในสมัยเธออายุสิบห้ายังโดดหนังยางอยู่เลย แถมนิยายเรื่องนี้บทหื่นก็เยอะ พระเอกเอะอะปล้ำ เอะอะอุ่นเตียง อ่านแล้วเอียนไปสิบวัน แล้วเป็นไง...
ด่าเขาไว้เยอะ ได้มาสัมผัสเองเสียงั้น สาวซิงวัยยี่สิบห้าจะได้มาเสียซิงตอนสิบห้าก็คราวนี้
ม่ายยยยยยยยยยยยยยย
"คุณหนู! คุณหนูเจ้าคะ! "
เสียงร้องหน้าห้องยังคงดังต่อเนื่อง บุษกรได้สติ สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเดินไปเปิดประตู
"เอ่อ..."
ขณะที่กำลังเอ่ยปาก ก็ต้องตาค้างเมื่อเห็นสาวใช้ทั้งหลายพากันเดินต่อแถวเข้ามา นำโดยหญิงสาวอายุประมาณสิบเจ็ด นาม "หลินหลง"
หลินหลงเป็นสาวใช้ประจำตัวของไป๋เจินจู นิสัยเจ้ากี้เจ้าการ แต่ก็มีความดีที่รักเจ้านายจากใจจริง และความเจ้ากี้เจ้าการก็มาจากความห่วงใย
ใช่ ไป๋เจินจู นางเอกเรื่องนี้ นิสัยคุณหนูขนานแท้ เอาแต่ใจ เย่อหยิ่ง นิสัยเสียเพราะถูกบิดาตามใจอย่างหนัก
นี่คือเหตุผลแรกที่เธออ่านไปด่าไป นางเอกอะไร นิสัยเหมือนนางร้ายชะมัด!
ต้องมาอยู่ในร่างนางเอกเรื่องที่เธอไม่ชอบนี่มันเต็มกลืนจริง ๆ บุษกรคิด นึกอยากวิ่งไปชนเสา เผื่อตายแล้วจะได้หลุดพ้น...
แต่ถ้าตายแล้วไปอยู่ในนิยายที่เลวร้ายกว่านี้ล่ะ มีอีกหลายเรื่องที่เธออ่านไปด่าไป เรื่องอะไรนะ...ที่นางเอกกลายเป็นหมา พระเอกโรคจิตที่เกิดความรักกับนางเอกในร่างหมา...
อึ๋ย แค่คิดก็ขนหัวลุกแล้ว
โอเค ฉันจะเป็น เจินจู...ไป๋เจินจู บุษกรสะกดจิตตัวเอง หายใจเข้าออก พึมพำโดยไม่สนว่าสาวใช้ที่ยืนเรียงรายอยู่จะมองด้วยสายตายังไง...
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันไม่ใช่บุษกร ฉันคือไป๋เจินจู นางเอกของเรื่อง!
เมื่อคิดได้ก็ดึงสติกลับมาสู่ความจริง ไป๋เจินจูมองสาวใช้ประจำตัวที่ทำหน้าแปลก ๆ แล้วรีบฉีกยิ้มกลบเกลื่อน ปากก็ถามเสียงหวาน
"หลินหลง เจ้าพาเหล่าสาวใช้มาที่ห้องข้าทำไมตั้งหลายคน"
หลินหลงเผลอทำสีหน้าคลางแคลงใจ ขณะเอ่ยปากตอบคุณหนูของนาง
"คุณหนูลืมหรือเจ้าคะ วันนี้เป็นวันดูตัวของคุณหนู ฝ่าบาทมีรับสั่งให้คุณหนูเข้าวัง"
ได้ยินอย่างนั้นไป๋เจินจูคนใหม่เผลอทำตาเหลือก อุทานด้วยความตกใจ
"อะไรนะ! ปะ ไปวังหลวง! "
"เจ้าค่ะ เราอย่าเสียเวลาเลย" หลินหลงพูดเสร็จก็ปรบมือสองครั้ง "เด็ก ๆ พาคุณหนูไปชำระกาย"
ไป๋เจินจูพยายามขืนตัวเมื่อถูกกลุ่มสาวใช้กรู่เข้ามาจับ นางกำลังอ้าปากหาข้ออ้าง แต่ดูเหมือนเหล่าสาวใช้ตัวดีเหล่านี้จะไม่ฟังอะไร พานางเข้าห้องอาบน้ำ ถอดเสื้อผ้ากันอย่างชำหนิชำนาญ
บุษกรในร่างไป๋เจินจูร่ำไห้ในใจ จู่ ๆ ก็ถูกแก้ผ้า
ในนิยายหญิงสาวยุคโบราณมีสาวใช้ แสนสะดวกสบาย น้ำก็ไม่ต้องอาบเอง เสื้อผ้าก็ไม่ต้องใส่เอง ตอนอ่านนิยายก็น่าอิจฉาตัวละครอยู่หรอก
แต่พอมาสัมผัสจริง ๆ โคตรจะขนลุก ต้องมาโป๊ให้ใครก็ไม่รู้ดู ถูกจับขัดจับถู...
อาย อายว้อยยยยย~
"เงยหน้าขึ้นสิ ข้าขอดูหน่อย"เสียงไพเราะอ่อนหวานสั่งให้ไป๋เจินจูเงยหน้าขึ้น"คิ้วโค้งงามดุจใบหลิว ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า...ดี ดี"พอถูกชมซึ่ง ๆ หน้า ไป๋เจินจูข่มกลั้นความอาย พวงแก้มขึ้นสีดูน่าเอ็นดู สตรีที่กำลังพิจารณาใบหน้านางอยู่ก็คือ ฮองเฮา สตรีที่มีอำนาจสูงสุดในวังหลวงหลังจากนางเข้าวังก็แยกกันกับบิดา บิดาไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ นางไปเข้าเฝ้าฮองเฮา เมื่อไปถึงก็พบกับสตรีคู่บัลลังก์ รูปโฉมงดงาม มีอำนาจ ถึงแม้ท่าทางอ่อนโยนแต่ก็เปี่ยมไปด้วยความเกรงขาม นางไม่กล้ามองนานจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาจนถูกเรียกให้เงยหน้าขึ้น"เจ้า...ชื่อเจินจูสินะ อายุเท่าไรรึ""หม่อมฉันอายุสิบห้าปีเพคะ""อืม เห็นว่าเพิ่งพ้นวัยปักปิ่นได้ไม่นาน" ฮองเฮามองสาวน้อยตรงหน้าอย่างพึงพอใจ "เจ้าคงรู้แล้วว่าเราเรียกเจ้ามาทำไม"ไป๋เจินจูรีบก้มหน้าลงไม่สบตา นางไม่ปริปาก ฝ่ายฮองเฮาขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกได้ราง ๆ ว่าเด็กสาวตรงหน้าเหมือนจะไม่ยินยอมกับเรื่องที่ตนจะเอ่ยต่อจากนี้"เจินจู เจ้ามีอะไรก็พูดออกมา..."ฮองเฮาตัดสินใจถามตรง ๆ ฝ่ายไป๋เจินจูพอได้ยินคำถามนี้ก็เงยหน้าขึ้นอัตโนมัติ ริมฝีปากบางได้รูปเม้มหากันจนเป็นเส้นตรงเพราะกลัวว่าห
"จะ...เจ้า! "ไป๋เจินจูพูดไม่ออก มองบุรุษรูปร่างสูงโปร่งที่กำลังจับแก้มนุ่มของนางอย่างไร้มารยาท นางยกมือขึ้นปัดพลางถอยหลังไปอีกก้าว"เป็นอะไรสาวน้อย เมื่อกี้ยังทำท่าไม่เกรงกลัว เชิดหน้าอยู่เลย หือ? " เขาเดินไปหาอีกหนึ่งก้าว โน้มใบหน้าเข้าหา "เจ้ากลัวที่จะแต่งให้ข้าสินะ""ไม่ใช่! ใครกลัวท่านกัน! "นางปฏิเสธทันควัน แล้วผลักอกอีกฝ่ายให้ถอยห่าง ก่อนวิ่งหนีไปอีกทาง ท่าทางตื่นตกใจเหมือนลูกแมวน้อยทำให้หลี่รุ่ยหัวเราะ เขามองแผ่นหลังบอบบางที่วิ่งห่างไปเรื่อย ๆ แล้วยิ้ม"ไป๋เจินจู...เจินจู เจ้าช่างน่าสนุก"ไป๋เจินจูวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงมาจนถึงที่แห่งหนึ่ง เบื้องหน้าเป็นศาลากลางน้ำ นางเดินข้ามสะพานเข้าไปในศาลา เหลียวมองรอบด้าน เห็นไม่มีผู้ใดก็นั่งลงแล้วถอนหายใจพร้อมกับรำพึงรำพันเสียงดัง"เฮ้อ ดั่งนรกชัง สวรรค์แกล้ง"นางเงยหน้าขึ้นมองฟ้า เอ่อ...เพดานของศาลา ก่อนทำท่าคอตกในใจสับสนวุ่นวาย นางรู้สึกดีใจที่ยังไม่ตาย เพราะการตายตอนอายุยี่สิบห้าช่างใช้ชีวิตไม่คุ้มค่ายิ่งนัก แต่พอไม่ตายก็ดันหลุดมาในนิยายผีบ้า หากตามเนื้อเรื่อง นางต้องแต่งให้กับองค์รัชทายาท พอองค์รัชทายาทขึ้นครองราช นางก็กลายเป็นฮองเฮา ม
"ว๊าย! "เสียงกรีดร้องดังลั่นหน้าประตู ไป๋เจินจูตกใจจนเกือบเหยียบพลาด นางรีบเกาะขอบหน้าต่างไว้แน่น จนเล็บแทบจิกลงไปในเนื้อไม้"คุณหนู! ท่านขึ้นไปทำอะไรตรงนั้นเจ้าคะ! "ไป๋เจินจูหันมามองอีกฝ่ายตาขวาง พร้อมกับตวาด"เจ้าจะเสียงดังทำไม! ข้าก็จะไป...เอ่อ ข้าแค่อยากมองเห็นเจ้านกน้อยบนต้นไม้ให้ชัดอีกหน่อย"นางเหลือบตามองผู้มาใหม่แล้วทำท่ายืนชะเง้อมอง"เจินจู...เจ้าลงมาได้แล้ว""โอ้ ท่านน้า ท่านมาเมื่อไรกัน" นางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ขณะกระโดดลงมาจากขอบหน้าต่าง ด้านหญิงสองนางที่เหลือในห้อง พอเห็นการกระทำของนาง ต่างยกมือขึ้นมาทาบอก"เจินจู จะ...เจ้า ดูแปลกไป" ไป๋อี้หลาน มองหลานสาวของตนด้วยสายตาคลางแคลงใจ ปกติไป๋เจินจูนิสัยกรีดกราย เย่อหยิ่ง ไม่มีทางที่จะขึ้นไปเกาะขอบประตูหน้าต่าง ฉีกแข้งฉีกขาไม่สมเป็นกุลสตรีแบบนี้"ข้าหรือแปลก..." ไป๋เจินจูยกนิ้วขึ้นจิ้มอกตนเอง "ท่านน้าคิดมากไปแล้ว ดูหน้าข้าสิ ข้าคือใคร...""เจินจู...""ใช่ ข้าคือเจินจู ท่านน้า...ถ้าข้าไม่ใช่ข้า แล้วจะเป็นใคร" นางแกล้งพูดวกวนพาคนสับสน "เอาล่ะ ท่านน้าเรียกหาข้าเพราะท่านพ่อกระมัง""ใช่ เจ้ารีบไปหาท่านพ่อเจ้า"เห็นท่าทางร้อนรนของไป๋อ
"ว๊าย! "เสียงกรีดร้องดังลั่นหน้าประตู ไป๋เจินจูตกใจจนเกือบเหยียบพลาด นางรีบเกาะขอบหน้าต่างไว้แน่น จนเล็บแทบจิกลงไปในเนื้อไม้"คุณหนู! ท่านขึ้นไปทำอะไรตรงนั้นเจ้าคะ! "ไป๋เจินจูหันมามองอีกฝ่ายตาขวาง พร้อมกับตวาด"เจ้าจะเสียงดังทำไม! ข้าก็จะไป...เอ่อ ข้าแค่อยากมองเห็นเจ้านกน้อยบนต้นไม้ให้ชัดอีกหน่อย"นางเหลือบตามองผู้มาใหม่แล้วทำท่ายืนชะเง้อมอง"เจินจู...เจ้าลงมาได้แล้ว""โอ้ ท่านน้า ท่านมาเมื่อไรกัน" นางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ขณะกระโดดลงมาจากขอบหน้าต่าง ด้านหญิงสองนางที่เหลือในห้อง พอเห็นการกระทำของนาง ต่างยกมือขึ้นมาทาบอก"เจินจู จะ...เจ้า ดูแปลกไป" ไป๋อี้หลาน มองหลานสาวของตนด้วยสายตาคลางแคลงใจ ปกติไป๋เจินจูนิสัยกรีดกราย เย่อหยิ่ง ไม่มีทางที่จะขึ้นไปเกาะขอบประตูหน้าต่าง ฉีกแข้งฉีกขาไม่สมเป็นกุลสตรีแบบนี้"ข้าหรือแปลก..." ไป๋เจินจูยกนิ้วขึ้นจิ้มอกตนเอง "ท่านน้าคิดมากไปแล้ว ดูหน้าข้าสิ ข้าคือใคร...""เจินจู...""ใช่ ข้าคือเจินจู ท่านน้า...ถ้าข้าไม่ใช่ข้า แล้วจะเป็นใคร" นางแกล้งพูดวกวนพาคนสับสน "เอาล่ะ ท่านน้าเรียกหาข้าเพราะท่านพ่อกระมัง""ใช่ เจ้ารีบไปหาท่านพ่อเจ้า"เห็นท่าทางร้อนรนของไป๋อ
"จะ...เจ้า! "ไป๋เจินจูพูดไม่ออก มองบุรุษรูปร่างสูงโปร่งที่กำลังจับแก้มนุ่มของนางอย่างไร้มารยาท นางยกมือขึ้นปัดพลางถอยหลังไปอีกก้าว"เป็นอะไรสาวน้อย เมื่อกี้ยังทำท่าไม่เกรงกลัว เชิดหน้าอยู่เลย หือ? " เขาเดินไปหาอีกหนึ่งก้าว โน้มใบหน้าเข้าหา "เจ้ากลัวที่จะแต่งให้ข้าสินะ""ไม่ใช่! ใครกลัวท่านกัน! "นางปฏิเสธทันควัน แล้วผลักอกอีกฝ่ายให้ถอยห่าง ก่อนวิ่งหนีไปอีกทาง ท่าทางตื่นตกใจเหมือนลูกแมวน้อยทำให้หลี่รุ่ยหัวเราะ เขามองแผ่นหลังบอบบางที่วิ่งห่างไปเรื่อย ๆ แล้วยิ้ม"ไป๋เจินจู...เจินจู เจ้าช่างน่าสนุก"ไป๋เจินจูวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงมาจนถึงที่แห่งหนึ่ง เบื้องหน้าเป็นศาลากลางน้ำ นางเดินข้ามสะพานเข้าไปในศาลา เหลียวมองรอบด้าน เห็นไม่มีผู้ใดก็นั่งลงแล้วถอนหายใจพร้อมกับรำพึงรำพันเสียงดัง"เฮ้อ ดั่งนรกชัง สวรรค์แกล้ง"นางเงยหน้าขึ้นมองฟ้า เอ่อ...เพดานของศาลา ก่อนทำท่าคอตกในใจสับสนวุ่นวาย นางรู้สึกดีใจที่ยังไม่ตาย เพราะการตายตอนอายุยี่สิบห้าช่างใช้ชีวิตไม่คุ้มค่ายิ่งนัก แต่พอไม่ตายก็ดันหลุดมาในนิยายผีบ้า หากตามเนื้อเรื่อง นางต้องแต่งให้กับองค์รัชทายาท พอองค์รัชทายาทขึ้นครองราช นางก็กลายเป็นฮองเฮา ม
"เงยหน้าขึ้นสิ ข้าขอดูหน่อย"เสียงไพเราะอ่อนหวานสั่งให้ไป๋เจินจูเงยหน้าขึ้น"คิ้วโค้งงามดุจใบหลิว ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า...ดี ดี"พอถูกชมซึ่ง ๆ หน้า ไป๋เจินจูข่มกลั้นความอาย พวงแก้มขึ้นสีดูน่าเอ็นดู สตรีที่กำลังพิจารณาใบหน้านางอยู่ก็คือ ฮองเฮา สตรีที่มีอำนาจสูงสุดในวังหลวงหลังจากนางเข้าวังก็แยกกันกับบิดา บิดาไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ นางไปเข้าเฝ้าฮองเฮา เมื่อไปถึงก็พบกับสตรีคู่บัลลังก์ รูปโฉมงดงาม มีอำนาจ ถึงแม้ท่าทางอ่อนโยนแต่ก็เปี่ยมไปด้วยความเกรงขาม นางไม่กล้ามองนานจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาจนถูกเรียกให้เงยหน้าขึ้น"เจ้า...ชื่อเจินจูสินะ อายุเท่าไรรึ""หม่อมฉันอายุสิบห้าปีเพคะ""อืม เห็นว่าเพิ่งพ้นวัยปักปิ่นได้ไม่นาน" ฮองเฮามองสาวน้อยตรงหน้าอย่างพึงพอใจ "เจ้าคงรู้แล้วว่าเราเรียกเจ้ามาทำไม"ไป๋เจินจูรีบก้มหน้าลงไม่สบตา นางไม่ปริปาก ฝ่ายฮองเฮาขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกได้ราง ๆ ว่าเด็กสาวตรงหน้าเหมือนจะไม่ยินยอมกับเรื่องที่ตนจะเอ่ยต่อจากนี้"เจินจู เจ้ามีอะไรก็พูดออกมา..."ฮองเฮาตัดสินใจถามตรง ๆ ฝ่ายไป๋เจินจูพอได้ยินคำถามนี้ก็เงยหน้าขึ้นอัตโนมัติ ริมฝีปากบางได้รูปเม้มหากันจนเป็นเส้นตรงเพราะกลัวว่าห
"เอี๊ยดดดดดดดด โครม! "เสียงเบรกของรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงปะทะเข้ากับหญิงสาวรูปร่างบอบบางที่ก้มลงผูกเชือกรองเท้าอยู่ริมฟุตบาทบุษกรได้ยินเสียงเบรกมาแต่ไกล ไหนจะเสียงหวีดร้องของคนรอบข้าง พอเธอเงยหน้าเพื่อที่จะมองว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นแต่ภาพดำมืด แล้วสติก็หลุดลอยไป...เมืองหลวง ฉางอาน ณ จวนเสนาบดี"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู"เสียงสาวใช้หน้าประตูร้องเรียก หญิงสาวในห้องเดินกระสับกระส่ายไปมา ใบหน้างามล่มเมืองบัดนี้ซีดเซียว บุษกร หญิงสาวที่จู่ ๆ ก็ตายโดยไม่ทันตั้งตัว พอรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ในร่างหญิงสาวคนหนึ่ง หญิงสาวหน้าตางดงาม เอวบางร่างน้อย อายุไม่น่าจะเกินสิบห้าปีไม่นานความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิมแล่นเข้าหัวตามฉบับนวนิยาย บุษกรเม้มริมฝีปาก เจ้าของร่างนี้คือ ไป๋เจินจู หญิงสาวที่เพิ่งพ้นวัยปักปิ่น บุตรีเพียงคนเดียวของอัครเสนาบดีไป๋ฉางชิง มารดาเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก เป็นแก้วตาดวงใจของท่านเสนาบดี รูปโฉมงดงามล่มเมือง และเมื่อพ้นวัยปักปิ่นก็จะต้องแต่งให้กับองค์รัชทายาท...เอาล่ะ ไม่ต้องเกริ่นไปไกลรู้แต่ว่าเธอได้ตายแล้วมาเข้าร่างของหญิงสาวคนนี้ก็แล้วกัน หญิงไทยวัยยี่สิบห้าปี ผัว เอ๊ย แฟนก็ไม่เ