Share

บทที่5 บุตรีผู้มากด้วยโชควาสนา

Author: PunnyG
last update Last Updated: 2025-01-06 10:28:21

 ขบวนรับเจ้าสาวหยุดหน้าประตูจวนอัครเสนาบดี เสียงดนตรีและเสียงประทัดดังกึกก้อง ไป๋เจินจูยืนอยู่ในห้องโถง นางถูกจับแต่งกายในชุดมงคลสีแดง แขกเหรื่อต่างเข้ามาแสดงความยินดีกับบิดา

"ยินดีด้วยนะท่านอัครเสนาบดี คุณหนูไป๋ช่างมีบุญวาสนาจริง ๆ "

เสียงชื่นชมยินดีดังเข้าหู พร้อมกับเสียงบิดาที่หัวเราะชอบใจ

มีความสุขเสียงจริง!

ไป๋เจินจูที่ใบหน้ามีผ้ามงคลสีแดงคลุมอยู่แอบเบ้ปาก

เฮอะ บุญวาสนาบ้าบออะไร!

หลังจากนางบอกว่าไม่อยากแต่งเข้าตำหนักองค์รัชทายาท บิดาก็สั่งให้คนจับตามองนางทุกฝีก้าว แผนที่จะแอบหนีไปจึงพังไม่เป็นท่า ความคิดต่อมาหลังจากรู้ว่าจะต้องแต่งงานกับองค์รัชทายาทสายหื่นคือนางต้องหนี

หนีไปท่องยุทธภพ หรือไปตามหารักแร้ เอ๊ย รักแท้!

ในเมื่อส่งนางมาอยู่ในนิยายบ้า ๆ นี้ นางก็จะเป็นคนลิขิตชีวิตตัวเอง!

...ลิขิตเองกะผีน่ะสิ สุดท้ายวันนี้ก็ถูกจับเป็นเจ้าสาวจนได้

ไป๋เจินจูอยากจะกรีดร้องนัก!

"ยืนนิ่ง ๆ เจินจู" เสียงบิดาดังขึ้นด้านข้าง เมื่อเห็นนางขย้ำชายกระโปรงจนยับย่น "อย่าทำให้ข้าเสียหน้า"

นางกัดริมฝีปาก กลอกตามองบนอย่างเต็มที่ เมื่อมีผ้าคลุมหน้าอยู่จะทำหน้าตาอย่างไรก็ไม่มีคนเห็น จู่ ๆ เสียงพูดคุยครึกครื้นก็เงียบลง แทนด้วยเสียงฝีเท้ามั่นคงหนักแน่น

ไป๋เจินจูรับรู้ได้ว่าต้นเหตุของความเงียบโดยพร้อมเพรียงกันมาจากว่าที่เจ้าบ่าวของนางแน่ๆ

เสียงฝีเท้าหยุดอยู่ตรงหน้านาง ก่อนที่ฝ่ามืออ่อนนุ่มของนางจะถูกจับจูง นางและเขาเดินออกห้องโถงช้า ๆ จนถึงหน้าประตูจวน

"ขึ้นหลังข้าสิ"

นางชะงัก เมื่อฝ่ามืออุ่นร้อนที่จับไว้ปล่อยออก พร้อมกับเสียงทุ้มที่ดังขึ้น

"เอ่อ..."

"จะขึ้นหลัง หรือจะให้ข้าอุ้ม"

พอได้ยินดังนั้น นางจึงเกาะแผ่นหลังเขาอย่างทุลักทุเล เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังขึ้นอีกครั้ง นางเอียงไปมาตามแรงเหวี่ยง สุดท้ายก็มาถึงเกี้ยว มีบ่าวรับใช้สองคนช่วยพยุงนางเข้าไปนั่ง

เมื่อเข้าไปอยู่ในเกี้ยว จึงแอบเปิดผ้าที่คลุมหน้าออก ยกมือขึ้นพัดวีเป็นพัลวัน

อึดอัดจะตายอยู่แล้ว!

เกี้ยวเริ่มโคลงเคลง เสียงประทัดถูกจุดอีกครั้ง เสียงอาชาร้องฮี้ ตามด้วยเสียงกุบกับ ขบวนเจ้าสาวออกจากจวนอัครเสนาบดีอย่างยิ่งใหญ่

ข่าวลือแพร่สะพัด องค์รัชทายาทแต่งไท่จือเฟยเข้าตำหนัก

รักมากจนถึงขนาดยอมให้ขี่หลัง

สมัยโบราณ การที่บุรุษยอมให้สตรีขี่หลังนั่นแปลว่า บุรุษนั้นชีวิตหลังแต่งงานจะต้องให้ภรรยาเป็นใหญ่!

แต่ใครจะกล้าพูดตรง ๆ ว่า อนาคตองค์รัชทายาทจะต้องกลัวไท่จือเฟยล่ะ ประเดี๋ยวหัวกุดกันเป็นแถว!

ไป๋ฉางชิงมองขบวนเกี้ยวที่หายลับไป รู้สึกใจหายเมื่อบุตรสาวอันเป็นที่รักแต่งเข้าบ้านอื่น แต่เมื่อคิดถึงอนาคต และความรุ่งเรืองของตระกูลไป๋ ก็หมุนตัวกลับเข้าจวน ใบหน้ายิ้มยินดี

เขารู้ว่าบุตรสาวไม่ยินยอมที่จะเป็นพระชายา แต่เขาไม่อาจตามใจนางเหมือนเช่นเคย เรื่องนี้เกี่ยวพันไปถึงตำแหน่งอัครเสนาบดี หากปฏิเสธราชโองการของสวรรค์ ตระกูลไป๋ก็จะถึงคราวล่มจม

เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่วันนี้ไปตระกูลไป๋เป็นคนขององค์รัชทายาท ที่ฮ่องเต้ประทานสมรสให้ก็เพราะต้องการให้อัครเสนาบดีอย่างเขาเป็นฐานและกำลังให้กับองค์รัชทายาท ในภายภาคหน้า...องค์รัชทายาทหลี่รุ่ยจะได้ขึ้นครองราชย์อย่างมั่นคง

ตำหนักองค์รัชทายาท

เกี้ยวที่โคลงเคลงมาตลอดทาง เมื่อถึงหน้าพระตำหนักก็หยุดลง สาวใช้แหวกม่านแล้วเข้าไปประคองไป๋เจินจูให้ลงจากเกี้ยวอย่างระมัดระวัง องค์รัชทายาทหลี่รุ่ยที่อยู่ในชุดมงคลสีแดงเต็มยศ ลงจากหลังม้า หันไปมองสตรีที่ตอนนี้เป็นพระชายาของเขาแล้วยกยิ้ม

หลี่รุ่ยเดินตรงไปหาเจ้าสาว แล้วรวบตัวนางขึ้นอุ้มแนบอก

"ว๊าย! " เสียงอุทานตกใจดังขึ้น ไป๋เจินจูอยากจะเลิกผ้าคลุมหน้าแล้วด่า พระสวามี ที่ไม่ต้องการนัก เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงโอรสฮ่องเต้ จึงได้แต่เก็บงำความขุ่นเคือง ปล่อยให้เขาอุ้มเข้าตำหนัก

หลี่รุ่ยกระชับหญิงสาวในอ้อมกอดแน่น เดินตรงเข้าไปยังเรือนหอที่จัดไว้ หน้าเรือนประดับด้วยพู่มงคลสีแดง ข้าวของเครื่องใช้ล้วนเป็นของชั้นดี เขาเดินไปถึงเตียงแล้ววางหญิงสาวในอ้อมอกลงอย่างเบามือ

ไป๋เจินจูนั่งนิ่ง ตัวแข็งทื่อ นางรู้ว่าตอนนี้ถึงเรือนหอแล้ว...

อยู่เรือนหอแล้วจะทำอะไร ถ้าไม่ใช่เข้าหอ!

ผ้าคลุมหน้าถูกเลิกขึ้น ไป๋เจินจูเงยหน้าขึ้นมองชายที่นางแต่งด้วย ใบหน้าขาวราวหยก คิ้วเข้ม ริมฝีปากแดงหยักได้รูป ดวงตาลุ่มลึก ฉายแววเจ้าเล่ห์ รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา นางคิดขณะใช้สายตาสำรวจเงียบ ๆ

"มองพอใจหรือยัง หืม" หลี่รุ่ยถามพระชายาตัวน้อย ที่กวาดตามองเขาจนจะทะลุ

"อ๊ะ! ขะ ข้าเปล่ามองท่านเสียหน่อย" นางรีบหลบสายตา รู้สึกใบหน้าร้อนวูบวาบ

"หึ" หลี่รุ่ยเห็นท่าทางตื่นกลัวของนางก็หัวเราะหึ ก่อนเอี้ยวตัวไปหยิบสุรามงคลที่ถูกจัดเตรียมไว้ จอกหนึ่งของตน อีกจอกหนึ่งยื่นให้คนตรงหน้า "ของเจ้า"

"ต้องดื่มด้วยหรือ" ไป๋เจินจูมองจอกเหล้าตรงหน้า แล้วทำหน้าย่น "ข้าไม่เคย ไม่ดื่มได้หรือไม่"

"ไม่ได้..." หลี่รุ่ยบอกยิ้ม ๆ "ไม่เคยก็ต้องเคย เจ้าแต่งให้ข้าแล้ว หากไม่ดื่ม พิธีก็ไม่เสร็จสมบูรณ์"

ไป๋เจินจูยื่นมือรับจอกในมือเขา ท่าทางไม่ใคร่เต็มใจ สองหนุ่มสาวมองตากัน แล้วยกจอกเหล้าขึ้นแตะริมฝีปาก...

"อี๋! ไม่เห็นจะอร่อย ขมเป็นบ้า" นางหลับตาปี๋ เมื่อสุรามงคลไหลลงคอ

หลี่รุ่ยมองท่าทางของนางแล้วอมยิ้ม เขายื่นรับจอกเหล้ามาไว้ในมือ ก่อนยื่นให้บ่าวรับใช้ที่เข้ามาเก็บ

"หากข้าไม่เรียก ก็ไม่ต้องเข้ามา..." เขาพูดขึ้นลอย ๆ "พวกเจ้าเฝ้าหน้าประตูให้ดี หากใครล่วงล้ำ รบกวนเวลาของข้า จงจัดการมันซะ! "

"ท่านพูดกับใคร..." นางมองเขาที่พูดลอย ๆ ด้วยท่าทางขึงขังก็อดถามด้วยความสงสัยไม่ได้

"องค์รักษ์เงา..." เขาหันมาตอบ แล้วยิ้มหวาน มองหญิงสาวในชุดมงคลอย่างพึงพอใจ "วันนี้เจ้างดงามมาก..."

"เอ่อ..." นางกระถดถอย เมื่อเขานั่งลงข้างกาย "ทะ ท่านจะทำอะไรองค์รัชทายาท"

"เรียกข้าว่าหลี่รุ่ย..." เขาดึงหญิงสาวเข้ามากอด เชยคางมนขึ้น มองริมฝีปากจิ้มลิ้มเย้ายวนอยู่ตรงหน้า "เวลานี้เป็นเวลาเข้าหอของเราจะเสียเวลาถามข้าทำไม อะไรที่ไม่เคยข้าจะสอนเจ้า ชายารัก..."

Related chapters

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่6 ชายาจอมพยศ

    ไป๋เจินจูดวงตาเบิกกว้าง เมื่อถูกหลี่รุ่ยก้มใบหน้าลงแล้วฉกชิงริมฝีปาก จูบเผ็ดร้อนเจือรสฝาดจากสุรามงคลทำให้สมองนางมึนงง หัวใจเต้นกระหน่ำ ตึกตัก ตึกตัก...คุณพระคุณเจ้าเอ๊ย! เกิดมาจนโตเป็นสาวตายไปแล้วหนึ่งรอบ กลับมาเข้าร่างเด็กสาวอายุสิบห้า เพิ่งจะเคยโดนผู้ชายจูบ!รู้สึก...ฟินอย่างบอกไม่ถูกนางคิดอย่างเหม่อลอย ขณะหลับตาพริ้ม เผยอปากหลี่รุ่ยชะงัก เมื่อหญิงสาวในอ้อมกอดจากดิ้นรนขัดขืนแปรเปลี่ยนเป็นเต็มใจ จึงเริ่มปลดเปลื้องเสื้อตัวนอกและตัวในของนางออก...ตะ แต่เดี๋ยวนะ!ร่างนางตอนนี้อายุสิบห้าไม่ใช่ยี่สิบห้า ขืนโดนอีตาไท่จือนี่แทงได้ฉีกขาดกันพอดี!ไป๋เจินจูได้สติ เบิกตากว้าง ผลักอกหลี่รุ่ยจนริมฝีปากเป็นอิสระ ปากก็ตะโกนร้อง"โอ๊ย! ข้าปวดท้อง โอ๊ย! ""เจินจู! เจ้าเป็นอะไร" หลี่รุ่ยตกใจ เมื่อจู่ ๆ หญิงสาวที่นอนทอดร่างให้ เด้งตัวขึ้นแล้วเริ่มร้องตะโกนโอดโอย มือก็กุมท้อง เสียงร้องลั่นของนางสร้างความแตกตื่นไปทั่ววัง"โอ๊ย ปวดท้อง จะ เจ็บ..." นางกุมท้องตัวงอ เมื่อเห็นเขาจะเข้ามาใกล้ ก็ยกนิ้วชี้ใส่แล้วตวาด "อย่ามาใกล้ข้า! "หลี่รุ่ยชะงัก มองพระชายาหน้าตาเหลอหลา"เจ้าปวดท้องหรือ ข้าก็จะนวดท้องให้เจ้

    Last Updated : 2025-01-06
  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่7 คืนวสันต์ องค์รัชทายาทสุขสม พระชายาระบม (?)

    "อย่าดิ้น...อืม"เสียงหลี่รุ่ยแหบพร่า ปากบอกห้ามนางดิ้น แต่เขากลับขยับสโพกเข้ามา ไป๋เจินจูเผลอยกสโพกตอบรับ รู้สึกเจ็บแปล๊บแปลก ๆ"อ๊ะ" นางหลุดปากครางออกมา"อยู่นิ่งๆ ...ชายาของข้า" เขาพึมพำเสียงแหบ ขณะเริ่มขยับเข้าออก รู้สึกถึงความเปียกชื้นที่เอ่อล้นชโลมตัวตนของเขาเมื่อรู้ว่านางพร้อมถึงที่สุดแล้ว เขาก็ถอนกายออกแล้วดันเข้าไปใหม่จนลึกและสุด"อ๊า! ข้าเจ็บ! " ไป๋เจินจูกรีดร้องน้ำตาไหล เล็บจิกบ่าบุรุษที่กำลังรังแกนางแน่น "ท่านเอาอะไรเข้ามา! ""ชู่ว" เขากระซิบริมหูนาง ช่วงล่างขยับเข้าออกช้า ๆ "อย่าเกร็งชายารัก...ผ่อนคลาย เดี๋ยวก็ดีขึ้น"นางหายใจเข้าออกช้า ๆ พยายามปรับตัวอย่างที่เขาบอก ไม่นาน...ความรู้สึกเจ็บก็เบาบางลง ความรู้สึกแปลก ๆ เข้ามาแทนที่นางรู้สึก...ใจสั่นหวิว ยามสโพกหนาแทรกกายเข้ามา สัมผัสกันเป็นจังหวะทำให้นางหลุดคราง"อื้อ" นางครางรับสัมผัสหนักหน่วงสมองตื้อไปหมด รู้สึกว่าร่างกายนี้เหมือนไม่ใช่ของตน เมื่อถูกบุรุษด้านบนโยกขยับตามใจ นางเงยหน้ามองความมืดที่ปกคลุมดวงตาเหม่อลอย เสียงเตียงดังเอี๊ยดอ๊าดเสียงกระเส่าของบุรุษ...เสียงเนื้อกระทบเนื้อ...ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าใด ไป๋เจินจูตัว

    Last Updated : 2025-01-06
  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่8 สามีภรรยา รักใคร่ปรองดอง...เสียเมื่อไร

    "นิยายบ้า ๆ วัน ๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่อุ่นเตียง""ท่านว่าอะไรนะเจ้าคะ" หลินหลงที่กำลังจัดแต่งทรงผมให้ไป๋เจินจูเอ่ยถาม ด้วยความที่เป็นสาวใช้คนสนิทที่ติดตามมาจากจวน เมื่อเห็นไป๋เจินจูพูดพึมพำ ภาษาที่ได้ยินก็แปร่งหูจึงอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้"ปะ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก" นางรีบกลืนคำพูดที่เหลือลงท้อง ยกมือขึ้นนวดไหล่ตัวเองใบหน้าบูดบึ้ง "ข้าก็แค่...คิดอะไรนิดหน่อย""อย่าดิ้นสิเจ้าคะ..." หลินหลงบอกเจ้านายเสียงนุ่ม มองทรงผมที่นางจัดแต่งอย่างภูมิใจ "เสร็จแล้วเจ้าค่ะ วันนี้คุณหนู ...พระชายางามมากนะเจ้าคะ ไม่สิ ท่านงดงามอยู่แล้ว""ปากหวาน..." นางอมยิ้ม ใครบ้างจะไม่ชอบเวลาถูกชม ไป๋เจินจู เอียงศรีษะ มองผ่านกระจกอย่างพึงพอใจ"วันนี้พระชายาจะเริ่มจัดระเบียบตำหนักเลยหรือเปล่าเจ้าคะ" หลินหลงถามขึ้น ตั้งแต่แต่งเข้าตำหนักองค์รัชทายาท นี่ก็ผ่านมาเจ็ดวัน เจ้านายตนถึงได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันถูกองค์รัชทายาทกักขังไว้แต่ในห้องหอเจ็ดวันเจ็ดคืน ช่างน่าสงสารพระชายา พอได้มาปรนนิบัติวันนี้ นางก็ต้องแอบทอดถอนใจ...พระชายาเนื้อตัวมีแต่ร่องรอยรักประทับทั่ว ใต้ตาดำคล้ำเหมือนคนอดนอน รูปร่างที่บอบบางน่าทะนุถนอมก็ดูผอมลง อง

    Last Updated : 2025-01-06
  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่9 สตรีใจหิน!

    หลี่รุ่ยเห็นนางไม่ปริปากก็ยิ่งทวีความขุ่นเคืองในใจ หากเขาบอกนางว่าเสด็จพ่อให้รับชายารองเข้าตำหนัก อยากจะรู้นักนางจะตอบว่าอย่างไร"ท่านเป็นอะไร หือ" นางเอ่ยถาม เมื่อจู่ ๆ เขาก็ล้มตัวนอนทับนางอีกครั้ง ใบหน้าฝังอยู่บนทรวงอก"เสด็จพ่อมีรับสั่งให้ข้ารับชายารองเข้าตำหนัก..." เขาบอกเสียงอู้อี้กับอกนาง"อ๋อ" ไป๋เจินจูเหม่อมองเพดาน รับคำในลำคอ ชายารองรึ...ก็คือเมียน้อยสินะ ยุคจีนโบราณก็แบบนี้ ยิ่งเป็นองค์รัชทายาท จะมีเมียเดียวคงเป็นไม่ไม่ได้ นางคิด"เจ้า...เห็นด้วยหรือไม่ หากข้ามีชายารอง""ถามข้า? " นางสบตาเขาในความมืด หลี่รุ่ยเงยหน้ามองนาง รอฟังคำตอบ "ข้า...ก็มิได้ว่าอะไรนี่ มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว ข้า จะเป็นพระชายาที่ดี หากท่านจะรับชายารอง ข้าก็มิขัดข้อง ข้าจะดูแลนางให้ดี จะใจกว้าง ท่านสบายใจได้...""เจ้าจะเป็นพระชายาที่ดี? ""ใช่สิ" นางตอบรับอย่างรวดเร็ว ถึงแม้น้ำเสียงของอีกฝ่ายจะดูเยือกเย็นแปลก ๆ "ข้าเห็นด้วยกับท่าน ท่านแต่งชายารองเข้ามาเถอะ""ข้าบอกหรือว่าต้องการแต่งชายารอง..." เขาเลื่อนฝ่ามือขึ้นบีบเคล้นซาลาเปาน้อย ออกแรงจนไป๋เจินจูนิ่วหน้า หลี่รุ่ยรู้สึกต้องการระบายอารมณ์ แต่งเข้ามาเป็นพ

    Last Updated : 2025-01-06
  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่9 ขุ่นเคือง

    "เวลานี้ยังมีหน้ามายิ้ม หึ รัชทายาทหื่นกาม เจ้าช่างหาเรื่องมาให้ข้าเสียจริง! "ไป๋เจินจูยกเท้าขึ้นเตะลม ท่าทางไม่สมกับเป็นบุตรีของอัครเสนาบดี แต่ใครสนกันล่ะ ตอนนี้นางโมโห อารมณ์หงุดหงิด จนอยากใช้กำลังเพื่อระบายอารมณ์!เมื่อเดินจากมาไกลจนถึงหน้าตำหนัก ท่าทางโมโหหงุดหงิดของนางตกอยู่ในสายตาหลินหลง สาวใช้คนสนิทมองผู้เป็นนายด้วยแววตาสงสารเห็นใจ"พระชายาอย่าโกรธเคืององค์รัชทายาทเลยนะเจ้าคะ""ทำไม นี่เจ้าก็เข้าข้างเขารึ" นางหันไปมองอีกฝ่ายตาขวาง "ตกลงใครเป็นนายของเจ้ากันแน่""โธ่ พระชายา ดูท่านพูดสิ" หลินหลงยิ้มเอ็นดูท่าทางแง่งอน ตอนนี้พระชายาดูเหมือนกลับไปเป็นเด็ก ก็ยังเด็กจริง ๆ พระชายาเพิ่งจะสิบห้าปี ก็แต่งให้กับองค์รัชทายาทแล้ว"เฮ้อ"ไป๋เจินจูนั่งลงบนพื้น ไม่สนใจเสียงร้องห้ามของหลินหลง นางยกมือขึ้นกอดเข่า ใบหน้าจมอยู่ตรงกลาง ในหัวปรากฏภาพหลี่รุ่ยรับชายารองเข้าตำหนัก บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุข นางยืนมองสวามีเดินเข้าห้องหอด้วยสีหน้ายินดีนางต้องยินดีสิ จะมีคนช่วยแบ่งเบาภาระอันหนักหน่วงแต่งกับเขาในฐานะพระชายา มีบ่าวรับใช้ปรนนิบัติ ชีวิตที่หญิงสาวทั่วเมืองหลวงต่างอิจฉา แต่นอกจากฐานะสูงศักด

    Last Updated : 2025-01-06
  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่10 ออกนอกวัง

    หลายวันผ่านไป ณ หอสุราหว่าชุน"องค์รัชทายาทมีเรื่องกลุ้มใจอันใด อยู่ดี ๆ ถึงชวนข้ามากินดื่มนอกวัง"องค์ชายห้าหลี่จิ้นยื่นมือรับจอกเหล้าที่ถูกรินไว้รอ เขายกขึ้นจดริมฝีปาก สายตามองบุรุษที่นั่งตรงข้าม บัดนี้หลี่รุ่ยผู้มีฐานะเป็นองค์รัชทายาทนั่งเงียบ ใบหน้าดำคล้ำ เคร่งขรึม ดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก"ทะเลาะกับพระชายามาหรือ" เขาวางจอกเหล้าลงแล้วถามไปตรง ๆหลี่รุ่ยเงยหน้ามอง นิ่งไปนานกว่าจะเอ่ยปาก"ข้ามองออกง่ายขนาดนั้นเลยหรือ..." เขาพูดพลางยกจอกเหล้าขึ้นบ้าง "ก็ไม่เชิงว่าทะเลาะหรอก...""ถ้าไม่ทะเลาะ ทำไมท่านจึงมีสีหน้าอมทุกข์เช่นนี้" หลี่จิ้นยื่นใบหน้าไปใกล้ เอียงคอมองอีกฝ่าย "มีพระชายาอายุน้อย ท่านต้องรู้จักเอาใจ ถนอมนางบ้างสิ""แล้วข้าไม่ถนอมนางหรือ" เขาวางจอกเหล้ากระแทกกับโต๊ะเสียงดัง “เรื่องยุ่งยากภายในข้าไม่เคยคิดให้นางมาร่วมกังวล เสด็จพ่อต้องการให้ข้าแต่งชายารองเข้าตำหนัก วางตัวบุตรสาวราชครูฟางไว้แล้ว แต่เพราะข้าถนอมนาง ไม่อยากให้นางต้องมายุ่งกับวังวนอำนาจ ไม่อยากให้นางต้องมาปวดหัว รบรากับสตรีอื่น มากสตรี ก็มากความ ข้าจึงกำชับให้นางปฏิเสธหากถูกถามความเห็น แต่ทำไมนางจึงทำท่าปั่นปึ่งใส่ข้า

    Last Updated : 2025-01-06
  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่11 หากไม่รัก ข้าจะทำอย่างนี้หรือ

    นางตกตะลึง คิดคำพูดไม่ออกชั่วครู่ เมื่อเห็นเขาจะเดินจากไปจึงได้สติร้องเรียก"เดี๋ยว! ""หืม" บุรุษผู้นั้นหยุดเดิน หันกลับมามองนาง ไป๋เจินจูมองสำรวจ เขาสวมชุดขุนนาง อายุราวยี่สิบปี ใบหน้าคมเข้ม ผิวคล้ำตัดกับฟันขาวสะอาด หน้าตาก็...นับว่าหล่อเหลา เสียแต่ว่าดวงตาดูเจิดจ้าเกินไป นิสัยก็...เหมือนจะมือเติบ เห็นได้จากการควักเงินซื้อสิ่งของให้สตรีตามข้างทาง โดยที่ไม่ได้รู้จัก ดูก็รู้ว่าเป็นคนเจ้าชู้"หลินหลงเอาเงินค่าปิ่นคืนให้เขา" นางสั่งหลินหลง"ข้าไม่รับ ข้าซื้อให้เจ้า" เขาโบกมือ ตั้งท่าจะเดินต่อ ไป๋เจินจูรีบตะโกนบอก"ข้าไม่รู้จักท่าน ทำไมต้องซื้อของให้ข้า หากท่านไม่รับเงินคืน ข้าก็ไม่เอาปิ่นนี้หรอกนะ” นางพูดก่อนวางปิ่นไม้ลงเมื่อนางพูดจบ เขาก็หยุดเดินอีกครั้ง สุดท้ายก็หมุนตัวกลับมา ยื่นมือรับเงินที่หลินหลงเดินไปยื่นให้ เห็นว่าอีกฝ่ายยอมรับเงินค่าปิ่นคืนไป นางจึงหยิบปิ่นไม้ขึ้น แล้วยิ้มรับคำขอบคุณจากคนขาย เมื่อตั้งท่าจะเดินไปที่อื่นต่อ เสียงบุรุษก็ร้องเรียกขึ้นบ้าง“เดี๋ยว!”นางหันไป“เจ้าชื่ออะไร”ไป๋เจินจูยกนิ้วชี้ใส่ตนเอง “ถามข้า?”“ถามเจ้านั่นแหละ” บรุษผิวคล้ำส่งเสียงอึกอัก “เจ้าเป็นบุต

    Last Updated : 2025-01-06
  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่12 ก้อนแป้งน้อย...มีกี่ก้อนกันนะ

    ไป๋เจินจูเดินเข้าตำหนักเงียบ ๆ ด้านหลังมีองค์รัชทายาทหลี่รุ่ยเดินตามมาติด ๆ นางได้ยินเสียงฝีเท้าตามไม่ห่างแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ใบหน้าเล็กแดงระเรื่อ นึกถึงเหตุการณ์ในรถม้าเมื่อครู่หัวใจก็เต้นแรง...เขาสารภาพรักกับนาง...แล้วนางควรทำอย่างไร...“พระชายา...”เสียงองค์รัชทายาทเรียกนาง ไป๋เจินจูหยุดฝีเท้า สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วหมุนตัวมาเผชิญหน้า พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่เมื่อได้สบตาคมเข้มของเขา ถ้อยคำที่ตระเตรียมไว้ก็นึกไม่ออก เสียงที่เปล่งออกมาจึงตะกุกตะกัก“ขะ ข้า...”หลี่รุ่ยมองเห็นอาการเขินอายอย่างเห็นได้ชัดของนาง ก็ยิ้มกว้าง เดินตรงเข้ามาแล้วยกร่างบอบบางขึ้น“อ๊ะ” ไป๋เจินจูร้องอย่างตกใจ จู่ ๆ ก็ถูกยกจนตัวลอย นางถูกเขากอดรัดจนเท้าลอยเหนือพื้น “องค์รัชทายาท ท่านเล่นอะไร ปล่อยข้าลงนะ ข้าเวียนหัว”หลุ่รุ่ยได้ยินดังนั้นจึงปล่อยนางลง“ขอโทษ...ข้าดีใจจนลืมตัวไปหน่อย” เสียงของเขานุ่มทุ้ม แววตาที่มองนางเต็มไปด้วยความรักใคร่ “ดีใจ...ที่ความรู้สึกของเราตรงกัน”“ทะ ท่านมัน...หลงตัวเองนัก ข้าไม่ได้พูดแบบนั้นเสียหน่อย”“แค่เจ้าจูบตอบข้า อิงแอบแนบอกข้า ข้าก็รู้แล้ว...” เขาพูดพลางดึงมือนางไปกุม“หย

    Last Updated : 2025-01-06

Latest chapter

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   ตอนพิเศษ วันวันของพระชายา (ต้องเจอกับอะไรบ้าง)

    "องค์รัชทายาท ข้าง่วง เมื่อไรจะปล่อยให้ข้าได้นอนเสียที! "ไป๋เจินจูพยายามเบี่ยงตัวหนี ร่างกายเปลือยเปล่าชื้นไปด้วยเหงื่อ นางถูกเขารังแกตั้งแต่ยามซวี ตอนนี้จะค่อนคืนแล้ว อีกฝ่ายยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกแทง เอ๊ย ทำ!"ปากเจ้าบอกให้พอ...แต่ร่างกายกลับตอบสนองข้า..."หลี่รุ่ยมองร่างกายขาวเนียนของพระชายา แสงจากตะเกียงทำให้เห็นเงา ภาพความงดงามตรงหน้าทำจิตใจปั่นป่วน ฝ่ามือร้อนลากไล้ไปทั่ว ก่อนหยุดอยู่ที่ซาลาเปาอวบ...ไป๋เจินจูตอนนี้ที่เป็นมารดา เคยผ่านการให้นมบุตร จากรูปร่างผอมบางกลับดูอวบอิ่ม มีน้ำมีนวลขึ้น จับตรงไหนก็ให้ความรู้สึกดี"อะ! ขะ ข้าเปล่าเสียหน่อย! " นางปฎิเสธเสียงแผ่ว แม้สองตาจะแทบลืมไม่ขึ้น แต่ร่างกายกลับขยับไปตามจังหวะของบุรุษที่ทาบทับอยู่ด้านบน ประกอบกับถูกกระตุ้นจากฝ่ามือร้อน แผ่นหลังก็แอ่นขึ้นอัตโนมัตินางกับเขาใช้ชีวิตร่วมกันมาห้าปีแล้ว ไม่รู้ว่านางควรดีใจที่เขายึดมั่นในคำสัญญาว่าจะไม่มีชายารอง หรือนางน้อย ๆ มาให้นางกวนใจ หรือควรสงสารตนเอง ที่แม้เวลาผ่านไปห้าปีแล้ว เขายังขยันอุ่นเตียง รังแกนางทุกค่ำคืนโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย!ต้องโทษที่ตำแหน่งองค์รัชทายาทเป็นตำแหน่งที่ว่าง

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   ตอนพิเศษ ก้อนแป้งน้อยมาแล้ว

    ไป๋เจินจูคลอดลูกในเวลาต่อมา เวลานั้นเป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศอบอุ่น นางคลอดเจ้าแป้งน้อยสามก้อน เป็นชายทั้งหมด ใบหน้าพิมพ์เดียวกัน สร้างความตื่นตะลึง และยินดีไปทั่วตำหนักองค์รัชทายาท ของขวัญแสดงความยินดีหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ฮ่องเต้และฮองเฮาก็เสด็จมาแสดงความยินดีหลังจากไป๋เจินจูคลอดเด็ก ๆ ออกมาอย่างปลอดภัย นางก็ผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ก็ร้องเรียกหาบุตรชายทั้งสาม พร้อมกับบอกความต้องการว่าจะให้นมลูกเอง หลินหลงและแม่นมจึงนำพระโอรสทั้งสามมาส่งที่ห้อง ไป๋เจินจูมองเจ้าก้อนแป้งน้อยทั้งสามก็ยิ้มทั้งน้ำตา นางค่อย ๆ อุ้มลูกน้อยขึ้น ใช้มืออีกข้างแกะเสื้อคลุมออก แล้วจับลูกน้อยหันหน้าตะแคงเข้าหาอกเสียงจ๊วบ ๆ ดังขึ้นแทบจะทันที ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ หลี่รุ่ยไล่แม่นมและหลินหลงออกไปข้างนอกให้หมด เหลือเพียงเขาและพระชายารัก กับบุตรอีกสามคน เขามองไป๋เจินจูให้นมลูกเงียบ ๆ เมื่อคนแรกอิ่ม คนที่สองอิ่มก็ยกคนที่สามขึ้นมาบ้าง สลับวนเวียนไปอย่างนั้น เขาเดินเข้าไปใกล้นาง เห็นนางเหน็ดเหนื่อย ซูบผอมก็ปวดใจ“ให้ข้าเรียกแม่นมเข้ามาดีหรือไม่ เจ้าจะได้พัก”“ไม่ต้องหรอกเพคะ” ไป๋เจินจูเงยหน้า

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่13 ความฝันที่ต้องเลือก

    ไป๋เจินจูฝัน...นางเดินอยู่บนเส้นทางแห่งหนึ่ง รอบด้านขาวโพลน เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ ก็มองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ปลายทาง นางเร่งฝีเท้าไปใกล้ อยากจะถามหญิงสาวผู้นั้นว่าที่นี่คือที่ไหน“ขออภัย คือข้าอยากจะถาม...” นางมองหญิงสาวในชุดกระโปรงสีครีม คนตรงหน้ารูปร่างผอมบาง ใบหน้าเล็กเรียว นัยน์ตาโศก เมื่อเห็นการแต่งกายเหมือนหญิงสาวยุคปัจจุบัน ถ้อยคำต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นทันสมัยอัตโนมัติ “ที่นี่ที่ไหนคะ คุณพอจะทราบไหม”หญิงสาวตรงหน้านิ่งเงียบ ไป๋เจินจูจึงถามย้ำอีกครั้ง“คุณคะ...ได้ยินที่ฉันพูดใช่ไหม”“ค่ะ ได้ยิน”ได้ผล คนตรงหน้าตอบกลับ เมื่อตอบนางเสร็จก็เผยรอยยิ้มลึกลับ ไป๋เจินจูรู้สึกขนลุก จนยกมือขึ้นกอดตัวเองยะ...อย่าบอกนะว่า นางเจอผี!“ใช่ ฉันเป็นผี”เสียงหญิงสาวในชุดสีครีมดังขึ้นก้องหูโดยที่ริมฝีปากไม่ขยับ ไป๋เจินจูเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าว ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่นางคิดในใจ แต่อีกฝ่ายกลับได้ยิน“เอ่อ...”“เป็นยังไงนิยายที่ฉันแต่ง เธอบ่นว่าไม่สนุก ไร้สมอง แต่เมื่อมาอยู่ในนิยายของฉัน สุดท้ายเธอก็หลงรักพระเอกที่เธออ่านไปด่าไป”“ธะ เธอ เป็นคนแต่งนิยายเรื่องนี้?”“ใช่” หญิงสาวตรงหน้าบอ

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่12 ก้อนแป้งน้อย...มีกี่ก้อนกันนะ

    ไป๋เจินจูเดินเข้าตำหนักเงียบ ๆ ด้านหลังมีองค์รัชทายาทหลี่รุ่ยเดินตามมาติด ๆ นางได้ยินเสียงฝีเท้าตามไม่ห่างแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ใบหน้าเล็กแดงระเรื่อ นึกถึงเหตุการณ์ในรถม้าเมื่อครู่หัวใจก็เต้นแรง...เขาสารภาพรักกับนาง...แล้วนางควรทำอย่างไร...“พระชายา...”เสียงองค์รัชทายาทเรียกนาง ไป๋เจินจูหยุดฝีเท้า สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วหมุนตัวมาเผชิญหน้า พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่เมื่อได้สบตาคมเข้มของเขา ถ้อยคำที่ตระเตรียมไว้ก็นึกไม่ออก เสียงที่เปล่งออกมาจึงตะกุกตะกัก“ขะ ข้า...”หลี่รุ่ยมองเห็นอาการเขินอายอย่างเห็นได้ชัดของนาง ก็ยิ้มกว้าง เดินตรงเข้ามาแล้วยกร่างบอบบางขึ้น“อ๊ะ” ไป๋เจินจูร้องอย่างตกใจ จู่ ๆ ก็ถูกยกจนตัวลอย นางถูกเขากอดรัดจนเท้าลอยเหนือพื้น “องค์รัชทายาท ท่านเล่นอะไร ปล่อยข้าลงนะ ข้าเวียนหัว”หลุ่รุ่ยได้ยินดังนั้นจึงปล่อยนางลง“ขอโทษ...ข้าดีใจจนลืมตัวไปหน่อย” เสียงของเขานุ่มทุ้ม แววตาที่มองนางเต็มไปด้วยความรักใคร่ “ดีใจ...ที่ความรู้สึกของเราตรงกัน”“ทะ ท่านมัน...หลงตัวเองนัก ข้าไม่ได้พูดแบบนั้นเสียหน่อย”“แค่เจ้าจูบตอบข้า อิงแอบแนบอกข้า ข้าก็รู้แล้ว...” เขาพูดพลางดึงมือนางไปกุม“หย

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่11 หากไม่รัก ข้าจะทำอย่างนี้หรือ

    นางตกตะลึง คิดคำพูดไม่ออกชั่วครู่ เมื่อเห็นเขาจะเดินจากไปจึงได้สติร้องเรียก"เดี๋ยว! ""หืม" บุรุษผู้นั้นหยุดเดิน หันกลับมามองนาง ไป๋เจินจูมองสำรวจ เขาสวมชุดขุนนาง อายุราวยี่สิบปี ใบหน้าคมเข้ม ผิวคล้ำตัดกับฟันขาวสะอาด หน้าตาก็...นับว่าหล่อเหลา เสียแต่ว่าดวงตาดูเจิดจ้าเกินไป นิสัยก็...เหมือนจะมือเติบ เห็นได้จากการควักเงินซื้อสิ่งของให้สตรีตามข้างทาง โดยที่ไม่ได้รู้จัก ดูก็รู้ว่าเป็นคนเจ้าชู้"หลินหลงเอาเงินค่าปิ่นคืนให้เขา" นางสั่งหลินหลง"ข้าไม่รับ ข้าซื้อให้เจ้า" เขาโบกมือ ตั้งท่าจะเดินต่อ ไป๋เจินจูรีบตะโกนบอก"ข้าไม่รู้จักท่าน ทำไมต้องซื้อของให้ข้า หากท่านไม่รับเงินคืน ข้าก็ไม่เอาปิ่นนี้หรอกนะ” นางพูดก่อนวางปิ่นไม้ลงเมื่อนางพูดจบ เขาก็หยุดเดินอีกครั้ง สุดท้ายก็หมุนตัวกลับมา ยื่นมือรับเงินที่หลินหลงเดินไปยื่นให้ เห็นว่าอีกฝ่ายยอมรับเงินค่าปิ่นคืนไป นางจึงหยิบปิ่นไม้ขึ้น แล้วยิ้มรับคำขอบคุณจากคนขาย เมื่อตั้งท่าจะเดินไปที่อื่นต่อ เสียงบุรุษก็ร้องเรียกขึ้นบ้าง“เดี๋ยว!”นางหันไป“เจ้าชื่ออะไร”ไป๋เจินจูยกนิ้วชี้ใส่ตนเอง “ถามข้า?”“ถามเจ้านั่นแหละ” บรุษผิวคล้ำส่งเสียงอึกอัก “เจ้าเป็นบุต

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่10 ออกนอกวัง

    หลายวันผ่านไป ณ หอสุราหว่าชุน"องค์รัชทายาทมีเรื่องกลุ้มใจอันใด อยู่ดี ๆ ถึงชวนข้ามากินดื่มนอกวัง"องค์ชายห้าหลี่จิ้นยื่นมือรับจอกเหล้าที่ถูกรินไว้รอ เขายกขึ้นจดริมฝีปาก สายตามองบุรุษที่นั่งตรงข้าม บัดนี้หลี่รุ่ยผู้มีฐานะเป็นองค์รัชทายาทนั่งเงียบ ใบหน้าดำคล้ำ เคร่งขรึม ดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก"ทะเลาะกับพระชายามาหรือ" เขาวางจอกเหล้าลงแล้วถามไปตรง ๆหลี่รุ่ยเงยหน้ามอง นิ่งไปนานกว่าจะเอ่ยปาก"ข้ามองออกง่ายขนาดนั้นเลยหรือ..." เขาพูดพลางยกจอกเหล้าขึ้นบ้าง "ก็ไม่เชิงว่าทะเลาะหรอก...""ถ้าไม่ทะเลาะ ทำไมท่านจึงมีสีหน้าอมทุกข์เช่นนี้" หลี่จิ้นยื่นใบหน้าไปใกล้ เอียงคอมองอีกฝ่าย "มีพระชายาอายุน้อย ท่านต้องรู้จักเอาใจ ถนอมนางบ้างสิ""แล้วข้าไม่ถนอมนางหรือ" เขาวางจอกเหล้ากระแทกกับโต๊ะเสียงดัง “เรื่องยุ่งยากภายในข้าไม่เคยคิดให้นางมาร่วมกังวล เสด็จพ่อต้องการให้ข้าแต่งชายารองเข้าตำหนัก วางตัวบุตรสาวราชครูฟางไว้แล้ว แต่เพราะข้าถนอมนาง ไม่อยากให้นางต้องมายุ่งกับวังวนอำนาจ ไม่อยากให้นางต้องมาปวดหัว รบรากับสตรีอื่น มากสตรี ก็มากความ ข้าจึงกำชับให้นางปฏิเสธหากถูกถามความเห็น แต่ทำไมนางจึงทำท่าปั่นปึ่งใส่ข้า

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่9 ขุ่นเคือง

    "เวลานี้ยังมีหน้ามายิ้ม หึ รัชทายาทหื่นกาม เจ้าช่างหาเรื่องมาให้ข้าเสียจริง! "ไป๋เจินจูยกเท้าขึ้นเตะลม ท่าทางไม่สมกับเป็นบุตรีของอัครเสนาบดี แต่ใครสนกันล่ะ ตอนนี้นางโมโห อารมณ์หงุดหงิด จนอยากใช้กำลังเพื่อระบายอารมณ์!เมื่อเดินจากมาไกลจนถึงหน้าตำหนัก ท่าทางโมโหหงุดหงิดของนางตกอยู่ในสายตาหลินหลง สาวใช้คนสนิทมองผู้เป็นนายด้วยแววตาสงสารเห็นใจ"พระชายาอย่าโกรธเคืององค์รัชทายาทเลยนะเจ้าคะ""ทำไม นี่เจ้าก็เข้าข้างเขารึ" นางหันไปมองอีกฝ่ายตาขวาง "ตกลงใครเป็นนายของเจ้ากันแน่""โธ่ พระชายา ดูท่านพูดสิ" หลินหลงยิ้มเอ็นดูท่าทางแง่งอน ตอนนี้พระชายาดูเหมือนกลับไปเป็นเด็ก ก็ยังเด็กจริง ๆ พระชายาเพิ่งจะสิบห้าปี ก็แต่งให้กับองค์รัชทายาทแล้ว"เฮ้อ"ไป๋เจินจูนั่งลงบนพื้น ไม่สนใจเสียงร้องห้ามของหลินหลง นางยกมือขึ้นกอดเข่า ใบหน้าจมอยู่ตรงกลาง ในหัวปรากฏภาพหลี่รุ่ยรับชายารองเข้าตำหนัก บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุข นางยืนมองสวามีเดินเข้าห้องหอด้วยสีหน้ายินดีนางต้องยินดีสิ จะมีคนช่วยแบ่งเบาภาระอันหนักหน่วงแต่งกับเขาในฐานะพระชายา มีบ่าวรับใช้ปรนนิบัติ ชีวิตที่หญิงสาวทั่วเมืองหลวงต่างอิจฉา แต่นอกจากฐานะสูงศักด

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่9 สตรีใจหิน!

    หลี่รุ่ยเห็นนางไม่ปริปากก็ยิ่งทวีความขุ่นเคืองในใจ หากเขาบอกนางว่าเสด็จพ่อให้รับชายารองเข้าตำหนัก อยากจะรู้นักนางจะตอบว่าอย่างไร"ท่านเป็นอะไร หือ" นางเอ่ยถาม เมื่อจู่ ๆ เขาก็ล้มตัวนอนทับนางอีกครั้ง ใบหน้าฝังอยู่บนทรวงอก"เสด็จพ่อมีรับสั่งให้ข้ารับชายารองเข้าตำหนัก..." เขาบอกเสียงอู้อี้กับอกนาง"อ๋อ" ไป๋เจินจูเหม่อมองเพดาน รับคำในลำคอ ชายารองรึ...ก็คือเมียน้อยสินะ ยุคจีนโบราณก็แบบนี้ ยิ่งเป็นองค์รัชทายาท จะมีเมียเดียวคงเป็นไม่ไม่ได้ นางคิด"เจ้า...เห็นด้วยหรือไม่ หากข้ามีชายารอง""ถามข้า? " นางสบตาเขาในความมืด หลี่รุ่ยเงยหน้ามองนาง รอฟังคำตอบ "ข้า...ก็มิได้ว่าอะไรนี่ มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว ข้า จะเป็นพระชายาที่ดี หากท่านจะรับชายารอง ข้าก็มิขัดข้อง ข้าจะดูแลนางให้ดี จะใจกว้าง ท่านสบายใจได้...""เจ้าจะเป็นพระชายาที่ดี? ""ใช่สิ" นางตอบรับอย่างรวดเร็ว ถึงแม้น้ำเสียงของอีกฝ่ายจะดูเยือกเย็นแปลก ๆ "ข้าเห็นด้วยกับท่าน ท่านแต่งชายารองเข้ามาเถอะ""ข้าบอกหรือว่าต้องการแต่งชายารอง..." เขาเลื่อนฝ่ามือขึ้นบีบเคล้นซาลาเปาน้อย ออกแรงจนไป๋เจินจูนิ่วหน้า หลี่รุ่ยรู้สึกต้องการระบายอารมณ์ แต่งเข้ามาเป็นพ

  • บ้าไปแล้ว! ข้าหลงไปในนิยายจีนเซินเจิ้น!   บทที่8 สามีภรรยา รักใคร่ปรองดอง...เสียเมื่อไร

    "นิยายบ้า ๆ วัน ๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่อุ่นเตียง""ท่านว่าอะไรนะเจ้าคะ" หลินหลงที่กำลังจัดแต่งทรงผมให้ไป๋เจินจูเอ่ยถาม ด้วยความที่เป็นสาวใช้คนสนิทที่ติดตามมาจากจวน เมื่อเห็นไป๋เจินจูพูดพึมพำ ภาษาที่ได้ยินก็แปร่งหูจึงอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้"ปะ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก" นางรีบกลืนคำพูดที่เหลือลงท้อง ยกมือขึ้นนวดไหล่ตัวเองใบหน้าบูดบึ้ง "ข้าก็แค่...คิดอะไรนิดหน่อย""อย่าดิ้นสิเจ้าคะ..." หลินหลงบอกเจ้านายเสียงนุ่ม มองทรงผมที่นางจัดแต่งอย่างภูมิใจ "เสร็จแล้วเจ้าค่ะ วันนี้คุณหนู ...พระชายางามมากนะเจ้าคะ ไม่สิ ท่านงดงามอยู่แล้ว""ปากหวาน..." นางอมยิ้ม ใครบ้างจะไม่ชอบเวลาถูกชม ไป๋เจินจู เอียงศรีษะ มองผ่านกระจกอย่างพึงพอใจ"วันนี้พระชายาจะเริ่มจัดระเบียบตำหนักเลยหรือเปล่าเจ้าคะ" หลินหลงถามขึ้น ตั้งแต่แต่งเข้าตำหนักองค์รัชทายาท นี่ก็ผ่านมาเจ็ดวัน เจ้านายตนถึงได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันถูกองค์รัชทายาทกักขังไว้แต่ในห้องหอเจ็ดวันเจ็ดคืน ช่างน่าสงสารพระชายา พอได้มาปรนนิบัติวันนี้ นางก็ต้องแอบทอดถอนใจ...พระชายาเนื้อตัวมีแต่ร่องรอยรักประทับทั่ว ใต้ตาดำคล้ำเหมือนคนอดนอน รูปร่างที่บอบบางน่าทะนุถนอมก็ดูผอมลง อง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status