แชร์

บทที่ 71

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เขามีท่าทีราวเพิ่งตื่นขึ้นมา ดูเหมือนยังมึนงงอยู่เล็กน้อย

เยียนซุ่ยซุ่ยกลับเอ่ยด้วยความดีใจว่า “พี่สาม ท่านตื่นแล้วก็ดี วันนี้ทำให้พวกเราตกใจแทบแย่!”

กล่าวจบนางก็เผยสีหน้าเศร้าเล็กน้อยกล่าวว่า “หากท่านเป็นอะไรขึ้นมาอีก เกรงว่าจวนอ๋องคงถึงคราวสูญสิ้นแล้ว”

เยียนเซียวหรานถามนางว่า “ข้างนอกเกิดเรื่องอันใดหรือ?”

ที่นี่ไม่มีคนนอก เยียนซุ่ยซุ่ยจึงกล่าวตรง ๆ ว่า “ครอบครัวทางบ้านของพี่สะใภ้สี่มาแล้ว แม้จะรู้ว่าพี่สะใภ้สี่กำลังตั้งครรภ์ พวกเขาก็ยังยืนกรานให้สะใภ้สี่กลับบ้านเกิด”

เมื่อคืนนี้เยียนเซียวหรานไม่ได้อยู่ที่จวน จึงไม่ทราบเรื่องที่ลู่จิ่นเหนียงตั้งครรภ์ พอได้ฟังคำของเยียนซุ่ยซุ่ย เขาก็แปลกใจเล็กน้อย “น้องสะใภ้สี่ตั้งครรภ์แล้วหรือ?”

เยียนซุ่ยซุ่ยพยักหน้า “ใช่แล้ว แต่พวกเขาไม่ยอมให้พี่สะใภ้สี่คลอดเด็กออกมา บอกว่าตอนนี้จวนเยียนอ๋องเปรียบเสมือนบ่อเพลิง”

“หากพี่สะใภ้สี่คลอดบุตรของพี่สี่ออกมา นางก็จะไม่สามารถตัดขาดจากจวนเยียนอ๋องได้ พวกเขาอาจจะต้องถูกดึงเข้ามาพัวพันกับจวนเยียนอ๋องอีก”

เมื่อครู่นางไปฟังมาอยู่ครู่หนึ่ง แต่ทนฟังต่อไปไม่ไหว จึงกลับมาดูว่าเยียนเซียวหรานตื่นแล้วหรือยัง

สิ่ง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 72

    วันนี้พระชายาเยียนอ๋องกล่าววาจาโน้มน้าวด้วยคำอ่อนหวานไปจนหมดสิ้น ทุกสิ่งที่นางสามารถกระทำได้ก็ได้กระทำไปจนสุดกำลัง คำมั่นสัญญาทั้งหลายที่มอบให้ก็ได้ให้ไปทั้งหมดแล้วในตอนนี้นางไม่รู้แล้วว่าจะเกลี้ยกล่อมต่อไปเช่นไรนางได้แต่หันไปถามลู่จิ่นเหนียงว่า “จิ่นเหนียง เจ้าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?”ลู่จิ่นเหนียงเม้มริมฝีปากเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ข้าฟังคำของบิดามารดาเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ สีหน้าของพระชายาเยียนอ๋องพลันซีดลง มองลู่จิ่นเหนียงด้วยความไม่คาดคิดลู่จิ่นเหนียงเบือนสายตาหลบเลี่ยง ไม่ยอมสบตากับนางเดิมทีพระชายาเยียนอ๋องคิดว่าลู่จิ่นเหนียงมีสายสัมพันธ์อันดีต่อเยียนซื่อ อีกทั้งนางเพิ่งตั้งครรภ์ คงยินดีที่จะอยู่ต่อ แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่า...นางยังคงไม่ละความพยายาม กล่าวขึ้นว่า “จิ่นเหนียง เจ้าลองไตร่ตรองดูให้ดีอีกครั้งเถิด…”“พระชายา ท่านเองก็เป็นสตรี” มารดาของลู่จิ่นเหนียงมองไปที่พระชายาเยียนอ๋องแล้วกล่าวว่า “ท่านย่อมทราบดีว่าสตรีดำรงชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ช่างยากเย็นเพียงใด”“ขอท่านได้โปรดเห็นใจพวกหม่อมฉันที่เป็นบิดามารดาด้วยเถิด ท่านย่อมคำนึงถึงบุตรชายของท่าน ฉันใดก็ฉันนั้น พวกหม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 73

    เขาไม่ได้พูดอะไรอีก สั่งให้คนไปเอาปากกาและกระดาษมาเขาเขียนสาส์นปล่อยภรรยาอย่างรวดเร็วและยื่นให้ลู่จิ่นเหนียง “นับแต่นี้ ไม่ว่าอนาคตของจวนเยียนอ๋องจะรุ่งเรืองหรือเสื่อมถอย ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับจวนตระกูลลู่อีกต่อไป”“นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ลู่จิ่นเหนียงจะไม่ถือเป็นคนของจวนเยียนอ๋องอีก ไม่ว่านางจะกระทำสิ่งใด ก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับจวนเยียนอ๋องอีกแล้ว”บิดาของลู่ยิ้มอย่างพอใจ ขณะรับสาส์นปล่อยภรรยาจากมือของเยียนเซียวหราน กล่าวว่า “ท่านอ๋องสามโปรดวางใจได้ ไม่ว่าในภายหน้าจวนอ๋องจะรุ่งเรืองเพียงใด พวกเราก็จะไม่อิจฉาริษยาแต่อย่างใด”“เหล่าไท่จวิน พระชายา ถือว่าเคยนับญาติกันมาก่อน เช่นนี้ก็ถือว่าแยกย้ายกันไปด้วยดี”เมื่อกล่าวจบ เขาก็ดึงลู่จิ่นเหนียงออกไปทันทีขณะเดินจากไป ลู่จิ่นเหนียงมิได้แม้แต่จะเหลียวมองเหล่าไท่จวินและพระชายาเยียนอ๋องแม้แต่น้อยพระชายาเยียนอ๋องไม่คิดเลยว่า ลู่จิ่นเหนียงจะตัดขาดเยื่อใยจนสิ้นเช่นนี้!ร่างกายของจู้อี๋เหนียงไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้ที่เศร้าโศกเพราะการตายของเยียนหวังจ้าน ยิ่งทำให้โศกเศร้าจนใจแทบแหลกสลาย วันนี้เริ่มมีความหวังเล็ก ๆ แต่ความหวังนั้นกลั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 74

    ในช่วงที่ผ่านมา เยียนอ๋องพร้อมเหล่าองค์ชายได้สิ้นชีพในสนามรบ บรรดาสตรีในจวนอ๋องต่างเศร้าโศกอย่างยิ่ง อีกทั้งหนทางข้างหน้ายังไม่แน่นอน จิตใจยิ่งเต็มไปด้วยความกังวลและความทุกข์ทรมานในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมเจ็บป่วยได้โดยง่ายทว่าในยามนี้ จวนเยียนอ๋องมิอาจรับมือกับความวุ่นวายใด ๆ ได้อีกต่อไป ควรรีบแก้ไขเมื่อยังเป็นเพียงความเจ็บป่วยเล็กน้อย เพื่อป้องกันมิให้กลายเป็นความเจ็บปวดใหญ่หลวงท่านหมอซ่งเพิ่งเขียนใบสั่งยาให้เฉียนอี๋เหนียงเสร็จสิ้น เมื่อได้ยินดังนั้นจึงช่วยจับชีพจรให้เฟิ่งจือเซี่ยเมื่อเขาจับชีพจรของเฟิ่งจือเซี่ยเสร็จ คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย ทำให้เหล่าไท่จวินรีบถามขึ้นว่า “ท่านหมอซ่ง จือเซี่ยไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ท่านหมอซ่งมิได้ตอบอันใด แต่ยื่นมือออกไปจับชีพจรอีกข้างของเฟิ่งจือเซี่ยเขาจับชีพจรเสร็จก็ยิ้มเล็ก ๆ “ขอแสดงความยินดีกับท่านเหล่าไท่จวินและพระชายา คุณนายรองมิได้เป็นอะไร เพียงแค่ตั้งครรภ์เท่านั้นเองขอรับ”คำพูดนี้กล่าวจบลง ห้องทั้งห้องก็เงียบสงัดในทันใด ทุกคนต่างหันไปมองเฟิ่งจือเซี่ย แววตาเต็มไปด้วยความยินดีและประหลาดใจเฟิ่งจือเซี่ยเองก็ตกใจที่สุด นางหันศีรษะไปมองซือเจ๋

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 75

    ในเวลานี้ ทุกคนรู้ว่าเฟิ่งจือเซี่ยตั้งครรภ์แล้ว แต่ไม่รู้ว่าซือเจ๋อเยว่ได้มองออกตั้งนานแล้ว ความรู้สึกจึงแตกต่างออกไปเยียนเหนียนเหนียนนึกถึงเมื่อวานที่ซือเจ๋อเยว่เตะหญิงที่แสร้งทำเป็นตั้งครรภ์ให้กระเด็นออกไป นางยังกล่าวว่าที่ทำเช่นนั้นเพราะได้ดูดวงล่วงหน้า ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนักนางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ซือเจ๋อเยว่แล้วถามว่า “องค์หญิงพี่สะใภ้ ท่านสามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้จากใบหน้าของคนได้จริง ๆ หรือ?”หลินซิ่วเอ๋อร์ขยับเข้ามาหาซือเจ๋อเยว่แล้วกล่าวว่า “องค์หญิง ท่านช่วยดูให้ข้าสักครั้งหรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางกล่าวว่า “ใบหน้าของคนสะท้อนมาจากจิตใจ โชคชะตาของคนเรามิใช่ถูกลิขิตโดยสวรรค์ แต่เป็นเป็นนิสัยใจคอที่ก่อให้เกิดลักษณะบนใบหน้า”“เจ้าอย่ามาให้ข้าดูดวงให้เลย ข้าดูดวงให้เจ้าแล้ว อาจส่งผลข้างเคียงร้ายแรง ลองดูตัวอย่างจากกวนหมัวมัวและหนิวกงกงเถอะ”ทุกคน “…”พวกเขาแทบลืมไป นางเคยดูดวงให้ผู้คนมาแล้ว ใครก็ตามที่ถูกนางดูดวงให้ ก็มักจะไม่รอดชีวิต หากไม่ตายก็ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสซือเจ๋อเยว่เห็นสีหน้าของพวกนางก็ยิ้มก่อนกล่าวต่อว่า “โดยหลักแล้ว หากมิใช่เรื่องที่ถูกกำหนดไว้ ข้าก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 76

    เหล่าไท่จวินเรียกซือเจ๋อเยว่เข้ามาในห้องของนางแล้วเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ความสามารถนี้ขององค์หญิงช่างล้ำเลิศจริง ๆ ต่อไปอาจจะนำปัญหามาให้องค์หญิงก็เป็นได้” “หากองค์หญิงไม่อยากเกิดปัญหาเช่นนี้ ข้าจะสั่งการอย่างเคร่งครัดไม่ให้คนในจวนแพร่งพรายออกไป” ซือเจ๋อเยว่เอ่ยอย่างใจกว้างมากว่า “ข้ามาจากสำนักเต๋า เรื่องการดูโหงวเฮ้งเป็นถือว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก”“อีกทั้งข้าเคยดูโหงวเฮ้งให้กวนมามา หนิวกงกงและบรรดาองครักษ์ที่คุ้มกันจวนอ๋องต่อหน้าผู้คนมาก่อน จึงไม่อาจปิดบังเรื่องนี้ได้”“ข้าคิดว่าในจวนอ๋องมีบุคคลพิเศษเช่นข้า และมีความสามารถพิเศษนี้อยู่ บางทีอาจจะเกิดผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้” เหล่าไท่จวินมองนางพลางเอ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชื่นชมว่า “เพียงแต่แบบนี้ ต่อไปเกรงว่าจะมีเรื่องมาหาองค์หญิงเอง”ซือเจ๋อเยว่ยยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ท่านย่าก็ทราบว่าข้าเหลืออายุขัยเพียงปีเดียวเท่านั้น”“ปัญหาของคนทั่วไป สำหรับข้าแล้วล้วนเป็นเรื่องสนุก”หลังจากที่หมอหลวงจางตรวจอาการให้นางครั้งก่อน บอกว่านางอยู่ไม่เกินอายุสิบแปดปี ตอนนั้นนางปฏิเสธไปแล้ว แต่นางรู้ว่าไม่อาจปิดบังเหล่าไท่จวินได้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 77

    ในความคิดของบิดาลู่และมารดาลู่ นี่เป็นโอกาสดียิ่งที่จะได้เข้าหาจวนหนิงกั๋วกงจริง ๆ ก่อนหน้านี้พวกเขาเสียแรงไปมากมายถึงทำให้ลู่จิ่นเหนียงแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องได้ เดิมทีหวังว่าจะได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ผลปรากฏว่าเยียนอ๋องเป็นคนยุติธรรมมาก ไม่เล่นพรรคเล่นพวก ไม่ให้จวนลู่อาศัยอำนาจบารมีใด ๆ ด้วยเหตุนี้ บิดาลู่กับมารดาลู่จึงค่อนข้างรู้สึกไม่พอใจหลังจากที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง ทั้งคู่ก็อกสั่นขวัญแขวน กลัวว่าจะถูกลู่จิ่นเหนียงดึงเข้าไปพัวพันด้วย อีกทั้งยังเคยคิดจะตัดขาดความสัมพันธ์กับลู่จิ่นเหนียง ดังนั้นในช่วงเวลานี้พวกเขาจึงไม่เคยไปจวนเยียนอ๋อง ยิ่งไม่เคยไปเยี่ยมลู่จิ่นเหนียงเลยเมื่อวานนี้เอง คนของจวนหนิงกั๋วกงมาหา บอกว่าคุณชายรองของพวกเขาชอบลู่จิ่นเหนียง ขอเพียงลู่จิ่นเหนียงออกจากจวนเยียนอ๋องก็ยินดีแต่งงานกับนางเรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากราวกับหล่นลงมาจากสวรรค์สำหรับบิดาลู่กับมารดาลู่จริง ๆ หลังจากนั้นเหล่าไท่จวินส่งคนมามอบจดหมายเชิญให้พวกเขา ให้พวกเขาไปจวนเยียนอ๋องเพื่อหารือเรื่องการอยู่หรือไปของลู่จิ่นเหนียง พวกเขาก็รู้สึกยินดีปรีดาจริง ๆแม้ว่าเรื่องลู่จิ่นเห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 78

    เดิมทีผู้อาวุโสในจวนเยียนอ๋องล้วนไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ เยียนซื่อต้องอ้อนวอนอย่างหนักถึงทำให้พวกเขาใจอ่อน ลู่จิ่นเหนียงถึงได้แต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องสมปรารถนา เนื่องจากวิธีการที่นางแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องไม่ค่อยเหมาะสมนัก นางจึงรู้สึกใจไม่เป็นสุขเล็กน้อย ดังนั้นเลยใส่ใจเรื่องฐานะเป็นพิเศษหลังจากที่ลู่จิ่นเหนียงแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแล้ว บรรดาผู้อาวุโสในจวนปฏิบัติต่อนางดีมากเสมอมาจริง ๆ แต่ตัวนางกลับคิดเปรียบเทียบเรื่องต่าง ๆ นานา กลัวว่าจะถูกปฏิบัติแตกต่างออกไป นางคิดเล็กคิดน้อยมากเกินไป เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมานั่งเปรียบเทียบหมด จนทำให้นางคิดเสมอว่าบรรดาผู้อาวุโสในจวนเยียนอ๋องไม่เมตตานางนางถามมารดาลู่ว่า “ท่านแม่ ท่านบอกว่าคุณชายรองรู้จักข้า? เหตุใดข้าถึงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาเลยสักนิดเดียวเล่า?”มารดาลู่พยักหน้า “ใช่แล้ว พ่อบ้านของจวนกั๋วกงบอกไว้เช่นนี้ คิดว่าเป็นเรื่องจริง”“เจ้าจำไม่ได้อาจเป็นเพราะเคยเจอกันในงานเลี้ยงที่มีคนมากมาย เขาเห็นเจ้า แต่เจ้าไม่สังเกตเห็นเขา”นางมองลู่จิ่นเหนียงแล้วเอ่ยว่า “อาเหนียงของข้างดงามเพียงนี้ จะถูกคนเฝ้าคิดถึงก็เป็นเรื่องปก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 79

    นางดูเหมือนทั้งรักทั้งชังอาจารย์ทั้งเก้าของนาง ปากนางเอ่ยคำพูดที่รุนแรง แต่ในใจเหมือนใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกเขามาก เขาจึงเอ่ยว่า “ได้ เช่นนั้นก็บอกตามความจริง” ระหว่างที่เอ่ย รถม้าก็มาถึงศาลต้าหลี่แล้ว ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานลงจากรถม้าด้วยกัน หลังจากที่เดินไปถึงหน้าประตูแล้วเอ่ยกับข้าราชการชั้นผู้น้อยที่เฝ้าประตู ข้าราชการชั้นผู้น้อยก็เข้าไปรายงานไม่นาน ข้าราชการชั้นผู้น้อยก็ออกมาอีกครั้งแล้วพาพวกเขาไปที่ห้องทำงานของเหวยอิ้งหวนเหวยอิ้งหวนดูเหมือนเพิ่งกลับมาถึงศาลต้าหลี่ มีดินเปรอะเปื้อนตัวของเขาไม่น้อย ศีรษะก็ถูกลมพัดจนกระเซอะกระเซิงเล็กน้อย ดูยุ่งเหยิงอยู่บ้างเพียงแต่สีหน้าของเขายังคงเยือกเย็นสงบนิ่งพันปีไม่เปลี่ยนแปลง “คุณชายสามมาพอดี ข้ากำลังจะไปหาท่านที่จวนอ๋องอยู่เลย”เยียนเซียวหรานประสานมือคารวะเขาแล้วก็ถามว่า “ใต้เท้าเหวยหาข้าเพราะเรื่องสุสานหลวงใช่หรือไม่?”“ดูท่าทางของใต้เท้าเหวย เพิ่งจะกลับมาจากสุสานหลวงสินะ?”เหวยอิ้งหวนพยักหน้า “ถูกต้อง ข้าเพิ่งกลับมาจากสุสานหลวง ในใจมีข้อสงสัยบางอย่าง อยากสอบถามคุณชายสาม”เยียนเซียวหรานถามเขาว่า “ใต้เท้าได้เห็นศพคนชุดดำพว

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 350

    คำพูดประโยคนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไรเพียงแต่เขายังจับใจความสำคัญได้อย่างหนึ่ง “วันแต่งงานวันนั้นท่านก็อยากจะลูบคลำข้าแล้ว?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวแก้ไข “ไม่ใช่ว่าอยากลูบคลำเจ้า เพียงแค่คิดว่าขาของเจ้าทั้งยาวทั้งตรง น่าดูจริง ๆ จึงอยากจะลูบสักครั้ง”เยียนเซียวหราน “...เขาคิดว่านางเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอีกครั้ง “ตอนหลังจำเจ้าได้ กลัวว่าเจ้าจะเอามีดฟันข้า ต่อให้ในใจมีความคิดมากกว่านี้ ก็ทำได้เพียงข่มเอาไว้เท่านั้น”เยียนเซียวหรานกล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านทำเรื่องแบบนั้นออกมาแล้ว ไม่คิดเลยว่ายังจะกลัวข้าลงมืออีก”“ต่อให้ข้าลงมือ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกกระมัง? เรื่องแบบนั้นอย่างไรเสียก็น่าอาย ข้าไม่สามารถบอกใครได้ ก็เหลือแค่อดทนไว้เท่านั้น”ซือเจ๋อเยว่เม้มริมฝีปากยิ้มบาง ๆ ทีหนึ่ง “พูดถูกต้อง แต่หลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นเจ้าก็ดุจริง ๆ นี่นา!”เยียนเซียวหรานค้อนนางทีหนึ่ง “หากมีคนฉวยโอกาสตอนท่านไม่ระวังตัว ทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน ท่านจะไม่โมโหหรือ?”ซือเจ๋อเยว่หดคอ “โมโหนั่นเป็นเรื่องแน่อยู่แล้ว ข้า...

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 349

    “สิ่งชั่วร้ายนั่นไม่มายังพอไหว ทันทีที่มาก็จะเอาชีวิตของพวกมันเสีย”นางมีความมั่นใจต่อค่ายกลที่ตนเองวาดมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ พวกเขายิ่งต้องเก็บสะสมพลังงานเอาไว้เยียนเซียวหรานพยักหน้าเบา ๆ ทีหนึ่ง นอนลงไปแล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆนางเงยหน้าขึ้นหันหน้ามองเขา เขากล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านนอนให้สบายเถอะ รักษาสุขภาพให้ดีขึ้น เรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างก็ต้องพึ่งพาท่าน”นับตั้งแต่เขาสารภาพรักกับนางครั้งก่อน ตอนที่ซือเจ๋อเยว่อยู่ตามลำพังกับเขาก็มักจะมีความไม่สบายใจเกิดขึ้นบัดนี้นางคิดว่าเขาได้ช่วยชีวิตนางมาหลายครั้งแล้ว ทั้งสองคนเคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามาก่อนเช่นกัน หากนางเขินอายจนเกินไปก็จะยากที่จะพูดนางคิดว่าไม่สู้ถือโอกาสในคืนนี้คุยเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยนางจึงกล่าว “คือว่า...ชีวิตของข้าในตอนนี้ผูกไว้กับเจ้า หากพูดว่าชอบเจ้าในเวลานี้ เหมือนว่ากำลังพยายามประจบเอาใจเจ้า”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบใครมาก่อน ไม่รู้ว่าการชอบเป็นความรู้สึกแบบใด”“แต่ว่ามีข้อหนึ่งที่ข้าสามารถแน่ใจได้ ข้าไม่ได้รังเกียจที่ใกล้ชิดกับเจ้า บางทีนี่อาจจะเป็นความชอบก็ได้”“สุขภาพของข้าเป็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status